รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ กุ้ง  (อ่าน 448 ครั้ง)

bilbill2255

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 112
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ กุ้ง
« เมื่อ: ธันวาคม 27, 2017, 05:39:18 AM »


กุ้ง
กุ้งเป็นชื่อเรียกสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังในชั้นครัสเตเชีย ชั้นเคดาโพดา (order Decapoda) มีหลายวงศ์ สัตว์เหล่านี้หายใจด้วยเหงือก ลำตัวยาว แบน หรือ กลม แบ่งเป็นข้อๆเปลือกที่หุ้มห่อท่อนหัวรวมทั้งอกคลุมลงมาถึงอกข้อที่ ๘ ส่วนใหญ่กรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามที่ขาอยู่ที่ท่อนหัวรวมทั้งอก มี ๑๐ ขา เจอได้ในน้ำจืด อาทิเช่น กุ้งก้ามกราม กุ้งก้ามเกลี้ยง แล้วก็ในน้ำเค็ม เช่น กุ้งกุลาดำ
กุ้งในประเทศไทย
กุ้งที่เจอในประเทศไทยมีมากประเภท แต่ว่าที่มีขนาดใหญ่และบริโภคกันทั่วๆไป ดังเช่นว่า
๑.กุ้งก้ามกราม
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macrobrachium rosenbergii (de Man)
จัดอยู่ในวงศ์Palaemonidae
มีชื่อสามัญว่า giant freshwater prawn หรือ giant prawn กุ้งใหญ่ กุ้งหลวง กุ้งก้ามคราม ก็เรียก เพศผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียซึ่งเรียกกันว่า กุ้งนาง
กุ้งประเภทนี้เป็นกุ้งน้ำจืดขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากโคนก้านตาถึงปลายหางยาว ๑๕-๒๕ ซม. ลำตัวสีครามทั้งเข้มและก็จางสลับกันเป็นลายพิงขวางลำตัว ขาคู่ที่ ๒ เป็นขาก้ามขนาดใหญ่ สีน้ำเงินหรือสีฟ้าอมเหลือง ใช้ป้องกันตัว รวมทั้งกอดรัดตัวเมียในขณะสืบพันธุ์ ส่วนปลายของกรีเรียวงอน ฟันกรีด้านด้านล่างมี ๘-๑๕  ซี่ มีกระเพาะอยู่กึ่งกลางทางด้านบนใต้เปลือกหัว  ลำไส้ทอดตามสันหลังไปถึงหาง หัวใจอยู่ถัดจากส่วนท้ายของกระเพาะอาหารไปถึงตอนท้ายของเปลือกหัว มีตับทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย  เรียก มันกุ้ง อยู่ทางด้านหน้าบริเวณข้างๆของส่วนหัว  ตับมีไขมันประกอบอยู่มากลเป็นส่วนที่นิยมกินกันในหมู่คนไทย ตัวเมียที่พร้อมจะผสมพันธุ์ได้จะมีรังไข่สุกในบริเวณตอนกลางของเปลือกหัว มีสีส้มหรือสีเหลือง พินิจได้ง่ายราษฎรเรียก แก้วกุ้ง กุ้งก้ามกรามรับประทานทั้งยังสัตว์แล้วก็พืชเป็นอาหาร ส่วนมากเป็นหนอนน้ำต่างๆ รากพืช  ซากพืช  หาอาหารโดยการสูดดมและสัมผัส  หากไม่ได้รับอาหารจะกินกันเอง  กุ้งชนิดนี้หาเลี้ยงชีพตลอดทั้งวัน  แต่ว่าจะคล่องแคล่วมากมายช่วงเวลากลางคืน  เป็นประจำอาศัยอยู่ในแม่น้ำ  คลอง  หนอง  สระ ที่มีทา น้ำติดต่อกับทะเล  สืบพันธุ์และก็ตกไข่บริเวณน้ำกร่อยปากแม่น้ำเมื่อตัวอ่อนโตพอก็จะว่ายกลับไปยังรอบๆแหล่งน้ำจืดชืด
๒. กุ้งก้ามเกลี้ยง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macrobrachium sintangensis ( de Man )
จัดอยุ่ในสกุล Palaemonidae
มีชื่อสามัญว่า  Sunda  river prawn
กุ้งแม่น้ำขาแดง ก็เรียก กุ้งประเภทนี้เป็นกุ้งน้ำจืด ขนาดวัดจากโคนก้านตาถึงปลายหางยาวราว ๙ เซนติเมตร ลำตัวสีน้ำตาลหรือสีฟ้าปนเขียว เปลือกหัวเรียบ กรีเรียวงอน  ฟันกรีด้านบนมี ๙-๑๓ ซี่ ด้านล่างมี ๒-๖ ซี่ ขาคู่ที่ ๒ มีขนาดใหญ่กว่า  โดยมีความยาวใกล้เคียงกับลำตัว รวมทั้งมีปื้นสีน้ำตาลกระจายอยู่เป็นหย่อมๆขอบข้างในของโคนข้อที่ ๗ ของขาคู่นี้คราวตุ่ม ๒-๓ ตุ่ม ส่วนตัวคนที่โตเต็มวัยมีขนนุ่มคล้ายผ้ากำมะหยี่สีส้มแกมแดง ปกคลุมรอบๆรอยต่อระหว่างปล้องต่างๆของขาคู่ที่ ๓, ๔ แล้วก็ ๕ เหมือนปกติอาศัยอยู่ตามแม่น้ำ ลำคลอง และก็แหล่งน้ำจืดที่มีทางน้ำติดต่อกับทะเล  ผสมพันธุ์แล้วก็ตกไข่รอบๆน้ำกร่อยปากแม่น้ำ
๓.  กุ้งว่าวกุลาดำ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Penaeus monodon Fabricius
จัดอยู่ในวงศ์ Penaeidae
มีชื่อสามัญว่า tiger prawn  jumbo หรือ grass prawn
กุ้งกุลาหรือ กุ้งแขกดำก็เรียก กุ้งชนิดนี้เป็นกุ้งสมุทรขนาดใหญ่  ขนาดวัดจากโคนก้านตาถึงปลายห่งยาวราว ๓๐ เซนติเมตร ลำตัวสีน้ำตาลปนเขียวและก็มีแถบสีเข้มกับสีจางพาดขวางตลอดลำตัว เปลือกหัวเกลี้ยง ไม่มีขน  ฟันกรีด้านบนมี๗-๘  ซี่ ด้านล่างมี ๓ ซี่  ช่องข้างกรีทั้งคู่ด้านแคบและยาวไม่ถึงฟันกรีซี่ในที่สุด  เป็นกุ้งที่ตัวโต มักอยู่ในเขตพื้นที่ที่กระเป๋านทรายปนโคลน  กินพืชแล้วก็สัตว์เล็กๆในน้ำเป็นของกิน  เมื่อโตเต็มที่จะย้ายถิ่นจากชายฝั่งไปยังทะเลลึก  ๒๐-๓๐ เมตร เพื่อสืบพันธุ์รวมทั้งวางไข่  ตัวอ่อนที่โตพอก็จะอพยพมาหากินยังชายฝั่ง
ประโยชน์ทางยา
สมุนไพร หมอแผนไทยใช้ “มันกุ้ง” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในตำรับยาแผนโบราณหลายขนาน อาทิเช่น ยาขนานหนึ่งในตำราเรียนยาแผ่นจารึกวัดราชโอรสาราม ให้ยาแก้ไข้ทรพิษอันเกิดในเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ และก็เดือน ๑ เข้า “น้ำมันหัวกุ้ง” เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ ขนานหนึ่งเอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำมันรากถั่วภูเขา เอาเท่าเทียม พ่นฝีเพื่อเสมหะ  ให้ยอดขึ้นหนองงามดีนัก

Tags : สมุนไพร
บันทึกการเข้า