รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ นกยุง  (อ่าน 485 ครั้ง)

หนุ่มน้อยคอยรัก007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ นกยุง
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2017, 06:38:10 AM »


นกยุง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pavo muticus Linnaeus
จัดอยู่ในสกุล Prasianidae
มีชื่อสามัญว่า Burmese peafowl หรือ green peafowl
ในประเทศไทยพบ ๒ จำพวกย่อยเป็นนกยูงใต้ (Pavo muticus muticus Linnaeus) พบทางภาคใต้ตั้งแต่คอคอดกระลงไป แล้วก็นกยูงเหนือ (Pavo muticus imperator Delacour) ซึ่งพบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก นกยูงใต้มีขนาดเล็กกว่านกยูงเหนือ หนังบริเวณหูและแก้มของนกยูงใต้มีสีเหลืองสดกว่า
ชีววิทยาของนกยูง
นกยุงเป็นนกจำพวกไก่ฟ้าขนาดใหญ่ ความยาวของตัววัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๑๒๐ – ๒๑๐ เซนติเมตร เพศผู้มีหงอนเป็นพู่สูง และมีแผ่นหนังที่หน้าสีฟ้าสลับกับสีเหลืองเห็นได้ชัด ขนตามตัวมีสีเขียวเป็นประกายแววชำเลืองสีน้ำเงินบนปีกรวมทั้งสีทองแดงทางข้างๆลำตัว ดูเป็นลายเกล็ดแพรวพราวไปทั้งตัว ขนปีกบินสีน้ำตาลปนแดง ขนหุ้มโคนหางมีสีเขียวยื่นยาวออกมา มีดวงกลมที่แต้มด้วยสีฟ้าและสีน้ำเงิน(ดวงกลมนี้ทางยาเรียกว่า แววนกยูง)  ส่วนตัวภรรยามีลักษณะคล้ายตัวผู้ แต่ว่าขนมีสีเหลือบเขียวน้อยกว่า แล้วก็มีประสีน้ำตาลเหลืองอยู่ทั่วๆไป ขนหุ้มโคนหางไม่ยื่นยาวเหมือนตัวผู้ นกประเภทนี้ออกหากินตามหาดทรายรวมทั้งสันทรายขอบสายธารในตอนเวลาเช้าตรู่ถึงบ่าย รับประทานเมล็ดพืชและก็สัตว์เล็กๆเป็นของกิน แล้วบินกลับไปเกาะบนยอดไม้สูงๆเหมือนเคยอยู่เป็นฝูงเล็กๆ๒ – ๑๐ ตัว และก็สืบพันธุ์ในช่วงพฤศจิกายนถึงม.ย. ขนหุ้มโคนหางของเพศผู้จะก้าวหน้าเต็มที่ในตุลาคม และก็จะผลัดขนนั้นในราวกุมภาพันธ์ ทำรังที่กอต้นกกหรือกอต้นอ๋อริมสายธาร ออกไข่สีขาว ๒ – ๕ ฟอง
สมุนไพร นกยูงถูกใจอาศัยตามริมสายธารในป่าดงดิบแล้งและก็ป่าผลัดใบผสม มีเขตการแพร่กระจายจากภาคเหนือจากภาคเหนืออินเดียไปทางตะวันออก ผ่านพม่า ตอนใต้ของจีน ไทย ลาว เวียดนาม เขมร มาเลเซีย และชวา เคยเจอมาทั้งประเทศที่ระดับความสูงน้อยกว่า ๙๐๐ เมตร  นอกจากบริเวณที่ราบสูงภาคกึ่งกลาง  แต่ว่าปัจุบันจำนวนประชาชนนกยูงลดลงกระทั่งอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ไปธรรมชาติ  รัฐบาลประกาศให้นกยูงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองป้องกันจำพวกที่ ๑ นกยูงอีกชนิดหนึ่งคือนอกยูงประเทศอินเดีย  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Pavocristatus  Linnaeus  เป็นนกยูงอินเดียเป็นสีน้ำเงิน รวมทั้งขนที่หงอนบนหัวแผ่เป็นรูปพัด

ผลดีทางยา
แพทย์แผนไทยรู้จัก ใช้แววนกยูงรวมทั้งดีชูยูงเป็นยา ดังที่มีบันทึกเอาไว้ใน พระตำราปฐมจินดาร์ ๓ ขนาน ดังต่อไปนี้
๑.แววนกยูง เอามาปิ้งไฟให้เหลืองกรอบก่อน แล้วจึงใช้เป็นเครื่องยา เช่น ที่ใช้ใน “ยากวาดเจีนรไนเพชร์”ขนานหนึ่ง รวมทั้ง “ยากวาดทรางสกอทรางกระตัง” อีกขนานหนึ่ง ดังนี้ ยากวาดชื่อเจีรไนเพ็ชร์ ขนานนี้ ท่านให้เอา มูลแมลงสาบคั่ว ๑ รากดินคั่ว ๑ หนังกระเบนเผา ๑ น้ำประสานทองสตุ ๑ แววนกยูงเผา ๑ ศีร์ษะงูเห่า ๑ กระดองปูทเล ๑ กระดองปูนา ๑ กระตังมูตร ๑ เปลือกไข่ฟัก ๑ ลิ้นทะเล ๑  ผลเบ็ญกานี ๑ กำมะถันแดง ๑ เบี้ยผู้เผา ๑ หมึกหอม ๑ ชาดก้อน ๑ ชะมดเชียงอำพัน ๑ ทองคำเปลว ๑๐ แผ่น ๑ รวมยา ๑๙ สิ่งนี้เอาเท่าเทียมกัน ทำเป็นจุณ บดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำมะนาวกวาดทรางกะแหนะ หายยอดเยี่ยมนักรวมทั้ง ยากวาดทรางสกอทรางกระตัง  ขนานนี้  ท่านให้เอา  แววนยูงเผา ๑ หางปลาช่อนเผา ๑ มูลแมลงสาบเผา ๑ หัวตะใคร้ ๑ เปลือกแมงดา ๑ ตรีกฏุก ๑ หญ้ายองไฟ ๑ โปตัสเซี่ยมไนเตรดขาว ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ดอกผักคราดกระเทียม บดปั้นแท่งไว้กวาดทรางสกอทรางกระตังหายดีนัก ยาลางขนานบางทีอาจใช้ “หางนกยูงเผา” แม้หนังสือเรียนระบุแบบนั้น  ให้เป็น “ขนหางนกยูงเพศผู้” ที่มี “ แวว” อยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น  “ยากวาดแก้ทรางขโมยทรางเพลิง|”  ขนานหนึ่งในพระคัมภีร์ปฐมจินดาร์ เช่นเดียวกัน  ดังนี้ ขนานหนึ่งเอา  มูลแมลงสาบเขากวาง ๑ หางนกยูงเผา ๑ หวายตะค้า ๑ พริกไทย ๑ หัวกระเทียม ๑ เข้าไหม้ ๑ รวมยา ๗ สิ่งนี้เอาเสมอภาค  ทำผงก็ได้  ทำแท่งก็ได้แก้ลิ้นกุมาร
๒.ดีนกยูง  เป็นพิษมาก  แล้วก็มีที่ใช้ร่วมกับดีสัตว์อื่นๆ สำหรับแทรกเป็นกระยาตัวอย่างเช่นใน “ยาแสนผสานทองคำ”  ดังต่อไปนี้ ยาชื่อแสนประสานทอง  ขนานนี้ท่านก็เอา  ชะมด ๑ ชะมดเช็ด ๑ เอาสิ่งละเฟื้อง พิมเสน ๑ สลึง ๒ สลึง กรุงเฉมา ๑ อำพันดอกบุนนาค ๑ น้ำประสารทองคำ ๑ ลิ้นทเลปิ้งไฟ ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง ตรีกฏุก ๑ โกฐ ๙ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวานกานพลู ๑ จันทน์ทั้งสอง ๑ กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ชะลูด ขอนดอก ๑ เปราะหอม ๑ ผลราชดัด ๑ ผลสารพันพิษ ๑ พระยารากขาว ๑ ปลาไหลเผือก ๑ เหม็นตุมกาทั้งยัง ๒ คุคะ ๑ มหาสดำ ๑ มหาละลาย ๑ รายย่อม ๑ รากไคร้เครือ ๑ หวานว่านกีบม้า ๑ อบเชยเทศ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ทองคำเปลว ๒๐ แผน  รวมยา ๖๑ สิ่งนี้  ทำให้เป็นจุน  แล้วเอางูเหลือมดีจรเข้ตะพาบน้ำดีหมูเถื่อนดีปลาซ่อนดีนกยูง ดีทั้ง ๖ นี้แซก  เอาน้ำเป็นกระสาย  บดปั้นแท่งไว้แก้พิษทรางแลแก้ไข้สันนิบาต  ละลายน้ำดอกไม้รับประทาน  หากจะแก้พิษฝีดาษ  พิษฝีดวงเดียว  พิษงูร้าย  ละลายเหล้ารับประทานหาย  ทุกอย่างประสิทธิ์ดีนัก
บันทึกการเข้า