รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ นกอีเเอ่น  (อ่าน 471 ครั้ง)

ณเดช2499

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
    • ดูรายละเอียด
สัตววัตถุ นกอีเเอ่น
« เมื่อ: ธันวาคม 09, 2017, 09:35:12 AM »


อีแอ่น
อีแอ่น เป็นชื่อไทยแท้ของนก ๒ วงศ์ (ตอนนี้คนประเทศไทยมีความคิดเห็นว่าชื่อ “อีแอ่น” ไม่สุภาพไหมเพราะ ก็เลยกลายเป็นชื่อ“นางแอ่น” หรือ“นกแอ่น” เหมือนกันกับ“อีกา” เป็น  “นกกา” หรือ “อีแร้ง” เป็น “นกแร้ง”)หมายถึงตระกูล Apodidae (อันดับ  Apodiformes) กับวงศ์ Hirundinidae (อันดับ Passeriformes)
อีแอ่นกินรังเป็นนกในวงศ์ Apodidae ส่วนนกในสกุล Hirundinidae หลายแบบเรียก “อีแอ่น” ด้วยเหมือนกัน แต่นกที่จัดอยู่ในตระกูลหลังนี้สร้างรังด้วยดิน ไม่มีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมอยู่ประการใด รวมทั้งนกตาพอง (Pseudochelidon  sirintarae  Thonglongya) ที่มีผู้ตั้งชื่อให้ใหม่เป็นนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร อันเป็นนกถิ่นเดียวของไทย เจอที่บึงบอระเพ็ด   จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันเป็นนกหายากรวมทั้งมีจำนวนน้อยหรือบางทีก็อาจจะสิ้นซากไปแล้งก็ได้
๕.อีแอ่นหิมาลัย   มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Colocalia  brevirostris  (Horsfield) มีชื่อสามัญว่า Himalayan  swiftlet ชนิดนี้ทำรังด้วยหญ้ารวมทั้งพืชจำพวกต่างๆมีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมเพียงเล็กน้อย อีแอ่น ๒ ชนิดแรกเป็นอีแอ่นรับประทานรังกับอีแอ่นกินรังบั้นท้ายขาว ทำรังด้วยน้ำลายล้วนๆจึงเป็นรังนกที่มีคุณภาพดียอด เป็นที่รู้จักกันมานานและเป็นที่ต้องการของตลาด มีราคาแพงมากมาย ส่วนรังของอีแอ่นจำพวกอื่นในสกุลเดียวกันนี้ไม่เป็นที่นิยมของตลาด โดยยิ่งไปกว่านั้น ๒ จำพวกข้างหลัง เป็น อีแอ่นท้องขาวและก็อีแอ่นหิมาลัย
อีแอ่นกินรังเป็นนกที่อาศัยอยู่ในถ้ำหินปูนหรือถ้ำหินทรายตามเกาะต่างๆตามทะเลหรือตามริมฝั่งต่างๆหรืออาจพักอยู่ตามอาคารบ้านเรือนต่างๆได้แก่ ตึก โบสถ์ และบินออกมาจากถิ่นในตอนเวลาเช้ามืด ไปหากินตามแหล่งน้ำในหุบเขาหรือตามป่า โดยบินไม่หยุดทั้งวัน ห่อนกลับมายังถิ่นที่อยู่ในช่วงเย็นหรือค่ำ นกเหล่านี้สามารถบินโดยใช้เสียงสะท้อนกลับ (echolocation) ก็เลยไม่ชนกับเครื่องกีดขวางใดๆก็ตามทั้งที่ถิ่นที่อยู่มืดตึดตื๋อ ราวร้อยละ ๘0 ของอาหารเป็นแมลง โดยเฉพาะมดมีปีก ในช่วงฤดูฝนนั้น อาหารของนกพวกนี้เป็นนกแทบทั้งหมด อีแอ่นกินรังที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชข้อมูลต่อไปนี้ได้ผลงานของการศึกษาเรียนรู้ของรศ.โอภาส  ขอบเขตต์   ราชบัณฑิต ผู้ที่มีความชำนาญเรื่องนก ซึ่งได้รายงานต่อที่ประชุมราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ แห่งราชบัณฑิตยสถาน เมื่อวันที่ ๗ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๔ ในหัวข้อเรื่อง “อีแอ่นกินรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช” ก่อนที่ท่านกำลังจะถึงแก่บาปเพียง  ๕  เดือนเศษ
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร [/url]อีแอ่นกินรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นชนิด Colocalia  fuciphaga  (Gmelin) หรือ eible – nest swiftlet ในราว ๕0 ปีให้หลัง อีแอ่นรับประทานรังได้เข้ามาอาศัยแล้วก็สร้างรังในบ้านข้างหลังหนึ่ง ซึ่งราษฎรเรียก “บ้านร้อยปี” โดยเริ่มเข้ามาอยู่ที่ชั้น  ๓  อันเป็นข้างบนสุด เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๒ ต่อมาจำนวนนกมีจำนวนไม่น้อยจนถึงรุกพื้นที่ชั้น ๒ เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๑ ซึ่งเป็นร้านค้า แม้กระนั้นเดี๋ยวนี้บ้านหลังนี้มีนกอยู่เต็มอีกทั้ง  ๓  ชั้น โดยเจ้าของบ้านเลิกกิจการรวมทั้งย้ายไปอยู่ที่อื่นๆ แต่กลับมาเก็บรังนกทุกเดือน  โดยเฉลี่ยได้รังนกราวเดือนละ  ๖  โล (ค่ากิโลละ  ๕0000-๗0000 บาท) ในช่วงนั้นอีแอ่นกินรังไปอาศัยอยู่รอบๆโบสถ์ของสงฆ์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ โดยที่เดิมที่ทางวัดมิได้เก็บรัง แต่ว่าปัจจุบันนี้คณะกรรมการวัดก็เก็บรังนกขายเช่นเดียวกับบ้านร้อยปี  โดยได้รังนกเฉลี่ยราวเดือนละ  ๒  กิโล

ในช่วง ๕ ปีให้หลัง อีแอ่นรับประทานรังบริเวณตลาดอำเภอปากพนังได้เพิ่มจำนวนขึ้น  จนถึงเข้าไปอยู่ในตึกสูงๆหลายตึกทางฝั่งด้านตะวันออก(ฝั่งบ้านร้อยปี) ส่วนฝั่งทางตะวันตก(ฝั่งวัด) ก็มีบ้าง แต่น้อยกว่ามากมาย ปัจจุบันมีการก่อสร้างตึกสูง๑๐ชั้น  มากกว่า ๑๐ตึก  แต่ละตึกใช้เงินทุนไม่น้อยกว่า  ๕  ล้านบาท  โดยหวังให้อีแอ่นเข้าไปอาศัยสร้างรัง   รวมแล้วมีตึกที่ผลิตขึ้น  โดยหวังว่าอีแอ่นรับประทานรังจะเข้าไปทำรังไม่น้อยกว่า  ๕0   อาคาร แต่อีแอ่นก็ไม่ได้เข้าไปอาศัยทำรังทุกตึก
เพราะเหตุไรอีแอ่นจึงเลือกอาคารใดตึกหนึ่งเพื่อทำรัง  คำตอบนี้ยังไม่หาคำตอบได้แต่จากการเล่าเรียนพบว่า อีแอ่นจะเข้าไปทำรังในตึกสูงตั้งแต่  ๑-๗  ชั้น ตึกส่วนมากมักมีสีเหลืองไข่ไก่  แม้กระนั้นลางตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จแล้ว  ยังเป็นสีก้อนอิฐ  ก็มีนกเข้าไปอาศัยรวมทั้งสร้างรัง ส่วนทิศทางการเข้าออกของอีแอ่นนั้น พบว่ามีเกือบทุกทิศทาง ไม่แน่นอน แม้กระนั้นทางเข้าออกของนกโดยส่วนมากเป็นทิศใต้ค่อนไปทางทิศตะวันตก
แต่  อุณหภูมิแล้วก็ความชื้นภายใต้อาคารน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่สุดที่นกเลือกอาศัยและสร้างรัง พบว่าตึกที่นกอาศัยจะอยู่ระหว่าง  ๒๖-  ๒๙  องศาเซลเซียส   และก็ความชื้นสัมพัทธ์ไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ  ๗๕   (อยู่ปริมาณร้อยละ  ๗๙-๘0  ) ผนังอาคารต้องไม่น้อยกว่า  ๓0  ซม. ข้างในมีอ่างน้ำโดยรอบหรือแทบรอบ ไม่มีหน้าต่าง   แต่ว่ามีช่องลมให้นกเข้าออกอย่างน้อย  ๒  ช่อง ซึ่งอุณหภูมิรวมทั้งความชื้นสัมพัทธ์ในอาคารเหล่านี้ใกล้เคียงกับถ้ำธรรมชาติที่นกชนิดนี้ใช้เป็นที่อาศัยและก็ทำรัง ในการเก็บรังนกนั้น เจ้าของบ้านเก็บก่อนที่จะนกจะออกไข่   คือราว  ๓0  วัน   ภายหลังจากนกเริ่มทำรัง  และก็เก็บทุกๆเดือน
แต่|แต่ว่า|แม้กระนั้น}หากเป็นรังที่นกวางไข่แล้ว  ก็จะปล่อยให้นกตกไข่ถัดไปกระทั่งครบ  ๒  ฟอง แล้วปลดปล่อยให้ไข่ฟัก  แล้วก็เลี้ยงลูกอ่อนกระทั่งลูกบินได้ก็เลยจะเก็บรัง

Tags : สมุนไพร
บันทึกการเข้า