สมุนไพรชะมดต้นชะมดต้นเป็นพืชอันมีชื่อวิชาพฤกษศาสตร์ว่า Abelmoschus moschatus Medik subsp moschatusจัดอยู่ในตระกูล Malvacaeaชาวบ้านบางถิ่นเรียก ฝ้ายผีก็มี มีชื่อสามัญว่า musk mallow หรือ Abel muskพืชชนิดนี้เป็นพืชล้มลุก อายุปีเดียว ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งน้อยบางทีอาจสูงได้ถึง ๒ เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน รูปหัวใจปนรูปไข่ โคนใบเว้า ขอบของใบเว้าเป็น ๓-๕ แฉก ใบที่ปลายยอดจะเล็ก แฉกลึกแล้วก็แคบกว่าใบที่อยู่ใกล้โคนต้น ผิวใบมีขนรูปดาว ๒ ด้าน ก้านใบยาว ดอกมักออกเดี่ยวๆตามซอกใบ
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/u][/b][/url] ดอกใหญ่มีกลีบเลี้ยง ๕ กลีบ เชื่อมติดกันบนหลอด ปลายแยกเป็น ๕ แฉก กลีบเป็น ๕ กลีบ เชื่อมชิดกันที่โคน สีเหลืองสด โคนกลีบสีแดงเข้ม เกสรเพศผู้มีจำนวนไม่น้อย เชื่อมชิดกันเป็นท่อยาว รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ มี ๕ ช่อง ก้านเกสรเพศเมียยาวแทงพ่นท่อเกสรเพศผู้ ปลายแยกเป็น ๕ แฉก ผลเป็นฝัก แตกได้ รูปรีปนรูปไข่ เป็นเฟืองตามแนวยาว ปลายเรียวแหลม ยาว ๖.๓-๗.๕ ซม. ภายในฝักมี ๕ ช่อง แต่ละช่องมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดรูปไต มีกลิ่นฉุน แพทย์แผนไทยเรียกพืชชนิดนี้ว่า “เทียนฉมต” หรือ“เทียนชะมด” มีชื่อสามัญทางการค้าว่า Ambrette seed หรือ Grains d’Ambrette ใช้เป็นยาแก้เสลดและก็ดีทุพพลภาพ แก้ลมให้คลื่นเหียน (ขับลม) เป็ยยาเย็น บำรุงธาตุ ยาบำรุง แก้อาการเกร็ง เมื่อเอามาบดกับนมใช้ทาแก้หิดหรือแก้คันได้ ถ้าเกิดเอาเมล็ดมาบดจะได้กลิ่นเสมือนเหมือนกลิ่นชะมดเช็ด ผงเทียนชะมดใช้โรยในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า เพื่อกันไม่ให้แมงมากินเสิ้อผ้าและก็ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมหวน ทั้งใช้ผสมทำบุหงา น้ำมันที่ระเหยง่ายที่ได้จากการกลั่นเทียนชะมดที่ใช้ปรุงน้ำหอมให้กลิ่นคงทน
ผลดีทางยาชะมดเช็ด (civet) เป็นเครื่องยาที่มีกลิ่นหอม ได้จากมูกของไขของตัวชะมดเช็ดหมดทั้งตัวผู้และก็ตัวเมีย ที่เช็ดถูไว้ตามไม้ที่ปักให้หรือที่ซี่กรงที่ขังสัตว์ไว้
แบบเรียนสรรพคุณยาโบราณ
ชะมดเช็ด มีกลิ่นหอมสดชื่นฉุน ใช้เป็นยาบำรุงจิตใจให้ชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย เป็นยาชูกำลัง ใช้เป็นเครื่องหอมนอกนั้นยังใช้เป็นตัวทำให้น้ำหอมอยู่ทนทาน (fixative) ด้วย ก่อนนำชะมดเช็ดมาใช้ หมอแผนไทยมักฆ่าฤทธิ์ก่อน โดยผสมกับหัวหอมเล็กหรือผิวมะกรูดที่หั่นให้เป็นฝอยละเอียด ใส่ลงไปในช้าพลูหรือช้อนเงิน นำไป ลนลานไฟเทียนกระทั่งชะมดนั้นละลาย และมีกลิ่นหอมก็ดีแล้วจึงกรองเอาน้ำมันชะมดไปใช้เป็นยาถัดไป ชะมดชนิดอื่นๆที่ให้ “ชะมดเช็ด”ชะมดเช็ดที่ใช้ในยาไทยนั้น ยังอาจได้จากชะมดชนิดอื่นๆในวงศ์ Viverridae ที่พบในประเทศไทยอีก ๒ ประเภท เป็น
๑.ชะมดประเภทแผงหางปล้องมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Viverra zibetha Linnaeusมีชื่อสามัญว่า large Indian civetเป็นชะมดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ขนาดวัดจากจมูกถึงปลายหางราว ๗๕-๘๕ ซม. หางยาว ๓๕-๔๕ เซนติเมตร น้ำหนักตัว ๘-๙ กิโล พื้นลำตัวมีสีเทาหรือสีน้ำตาล เหลือง มีจุดดำกระจัดกระจายอยู่ทั่วๆไป ข้างคอมีแถบดำ ๓ แถบ และก็แถบขาว ๒ แถบ พิงผ่านจากไหล่อีกทั้ง ๒ ข้าง มีลายดำเป็นเส้นยาวไปถึงโคนหาง กึ่งกลางหลังจากหัวถึงโคนหางมีขนสีดำตั้ง หางมีลายเป็นข้อ มีขาวสลับดำ ๕-๗ ปล้อง ปลายหางสีดำ ปลายเท้าสีน้ำตาลไหม้ เล็บหดกลับได้ครึ่งหนึ่งชะมดแผงหางปล้องเป็นสัตว์ที่หาเลี้ยงชีพในยามค่ำคืน รวมทั้งถูกใจอยู่ตามลำพังคนเดียวในป่าทึบ ขึ้นต้นไม้เก่ง แต่พบได้บ่อยอยู่บนพื้นดินมากกว่าบนต้นไม้ ตอนกลางวันหลบนอนในที่ป่าทึบหรือในโพรงดิน ต่อมกลิ่นอยู่ที่บริเวณก้น ใกล้โคนหาง จะขัดถูของเหลวจากต่อมนี้กับต้นไม้ เพื่อแสดงอาณาเขตและก็สื่อสารระหว่างกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูสืบพันธุ์กลิ่นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะแรงมากมาย เป็นสัตว์ค่อนข้างจะเขินอาย มักวิ่งหลบซ่อนมากยิ่งกว่าจะต่อสู้กับศัตรูชะมดแผงหางข้อโตเต็มที่เมื่อแก่ราว ๒ ปี ผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ท้องนาน ๖๐-๗๒ วัน คลอดลูกทีละ ๒-๔ ตัว แก่ถึงราว ๑๐ ปี กินสัตว์เล็กๆตัวอย่างเช่น
หนู งู นก แมลงรวมทั้งไข่แมลง ผลไม้และหน่อไม้ลางชนิดเป็นอาหารพบในประเทศประเทศอินเดีย ประเทศพม่า จีนตอนใต้ ลาว เวียดนาม กัมพูชา และก็ทุกภาคของไทย โดยยิ่งไปกว่านั้นภาคใต้
๒.ชะมดแผงสันหางดำมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Viverra magaspila Blyth (ชื่อพ้อง Viverra civettina Blyth)มีชื่อสามัญว่า large – spotted civetเป็นชะมดขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาว ๗๒-๘๕ ซม. หางยาว ๓๐-๓๗ ซม. น้ำหนักตัว ๘-๙ กก. พื้นตัวสีเนื้อคละเคล้าเทา มีจุดดำขนาดใหญ่ที่ข้างลำตัว สีข้าง และก็โคนขา ขาทั้งยังสี่ดำ มีขนเป็นสันสีดำจากคอถึงหาง ปลายหางสีดำ จากกึ่งกลางหางถึงโคนหางมีข้อสีดำ ๔-๕ ข้อ หน้าค่อนข้างยาว ตีนสีน้ำตาลแก่ หางสั้น ขายาว ต่อมกลิ่นอยู่ที่รอบๆตูด ใกล้โคนหาง จะขัดของเหลวจากต่อมนี้ถึงต้นไม้ เพื่อแสดงขอบเขตและติดต่อระหว่างกัน โดยยิ่งไปกว่านั้นในฤดูผสมพันธุ์ กลิ่นดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะแรงมาก ชะมดแผงสันหางดำถูกใจอาศัยอยู่รอบๆป่าทึบเกลื่อนกลาดๆออกหากินตัวเดียว ถูกใจออกหากินช่วงค่ำคืน ช่วงเวลากลางวันนอนซ่อนรอบๆตามป่าทึบหรือตามทุ่งที่มีต้นไม้ขึ้นรกๆการสืบเผ่าพันธุ์และของกินหากินที่ราวกับชะมดแผงหางข้อ พบในประเทศไทย พม่า ลาว เวียดนาม เขมรรวมทั้งในทุกภาคของไทย
Tags : สมุนไพร