หมูป่าหมูป่าเป็นสัตว์กินนม กีบคู่
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sus scrofa Linnaeus
จัดอยู่ในตระกูล Suidae
มีชื่อสามัญว่า common wild pig หมูไม่มีอารยธรรมก็เรียก
ชีววิทยาของหมูป่าหมูป่ามีรูปร่างเพรียวลม ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาวราว ๑.๕๐ เมตร หางยาวราว ๒๐ ซม. น้ำหนักตัว ๗๕-๑๐๐ กิโล ความสูงช่วงไหล่ ๖๐-๗๕ ซม. รอบๆไหล่และอกใหญ่ เรียวไปทางด้านหลังของลำตัว ขาเล็กเรียว ใช้สำหรับขุดค้นหาอาหารใต้ดิน ขนยาว หยาบคาย แข็ง สีน้ำตาลเข้มหรือสีดำปนเทา หรือสีดำแซมขาว มีขนยาวเป็นแผงบนสันคอและก็ข้างหลัง ขนบริเวณดังที่กล่าวถึงมาแล้วนี้จะตั้งชันขึ้นเมื่อสะดุ้งหรือเมื่อต่อสู้กับศัตรู เขี้ยวมีลักษณะยาว คมมากมาย โค้งงอนขึ้นไปนอกปาก ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว บางตัวอาจมีเขี้ยวยาวถึง ๖ นิ้ว จมูกไว หูไว ถูกใจอาศัยตามป่าเปียกชื้น ที่ราบตามไหล่เขา หรือรอบๆหนองน้ำ อยู่เป็นฝูง ออกหากินเช้าตรู่หรือเย็น และก็ช่วงกลางคืน ช่วงกลางวันมักหลบอยู่ตามพุ่งไม้ ตามปลักโคลน หรือลำน้ำ ถูกใจเกลือกปลักโคลนตม เพศผู้ที่อายุมากกๆจะแยกออกไปพบกินตามลำพัง เรียก หมูป่าโทน หรือ หมูโทน ตัวเมียอายุมากๆเป็นผู้นำฝูง ในช่วงฤดูสืบพันธุ์เพศผู้ต่อสู้กัน แล้วก็จะดุร้ายเมื่อบาดเจ็บ หมูป่าแม่ลูกอ่อนจะดุร้ายกว่าปรกติรวมทั้งจะหวงลูกมากมาย ถูกใจขุดคุ้ยดินหาอาหาร กินได้ทั้งยังพืชแล้วก็สัตว์ เป็นต้นว่า ผลไม้ ข้าวโพด เผือก มัน งู หนู ไส้เดือน กบ เขียด ปลา หมูป่าสืบพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี แต่ผสมพันธุ์กันถี่ที่สุดในช่วงธันวาคมถึงมกราคม เริ่มโตสืบพันธุ์ได้เมื่ออายุ ๘-๑๐ เดือน ตั้งครรภ์นาน ๑๑๕ วัน ตามปกติตกลูกครั้งละ ๔-๘ ตัว ลูกเลิกกินนมเมื่ออายุ ๓-๔ เดือน หมูป่าอายุยืนราว ๑๕ ปี
ผลดีทางยาหมอแผนไทยรู้จักใช้หนังหมูป่า ดีหมูป่า และก็เขี้ยวหมูป่าเป็นเครื่องยา ดังนี้๑.
หนังหมูป่า ดังเช่นว่า ยาต้มแก้สันนิบาตโลหิตขนานหนึ่งใน พระคู่มือชวดาร เข้า “หนังหมุหยาบคาย” เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้ ยานั้นคุลีการเปนยาดับพิษลมพิษเสมหะอันร้อนนอนมิหลับบริโภคอาหารมิได้ ให้แต่งยาต้มกินช่วงเวลาเช้า เอาหีบลม ๑ หนังหมูดุร้าย ๑ รากเจ็ตมูลเพลิงแดง ๑ รากช้าพลู ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ข่า ๕ บาท ดอกคำ ๑๐ สลึง เทียนดำ ๒ บาท ผลจู๋ม ๑ ก้านสะเดา ๑ ผลสมอเทศ ๑
ผลสมอไทย ๑
ผลสมอพิเภก ๑ ยาเช้าเย็นเหนือ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ดอกบัวแดง ๑ ดอกบัวขาว ๑ ดอกบัวขม ๑ ดอกบัวเผื่อน ๑ ดอกพิกุล ๑
ดอกบุนนาค ๑
ดอกสารภี ๑ เอาสิ่งละ ๖ สลึง ต้มด้วยน้ำเถาวัลเปรียงแซกดีเกลือตามกำลังวัน กินจ่ายเม็ดยอดตกลิ้น แล้วจึงประกอบยามหาสมไม่ใหญ่ แก้ไข้แก้ลม ให้รับประทานเปนคู่กับยาต้ม
๒.
ดีหมูป่า ดังเช่นว่า ยาขนานหนึ่งชื่อ “ยาประสานทองคำ” ใน พระหนังสือปฐมจินดาร์ เข้า “ดีหมูดุร้าย” เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้
ยาชื่อผสานทองคำ ขนานนี้ท่านให้เอา ชะมดสด ๑ ชะมดเช็ด ๑ เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง พิมเสน ๑ สลึง กรุงเฉมา ๑
อำพัน ๑ ดอกบุนนาค ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลิ้นสมุทรปิ้งไฟ ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง ตรีกฏุก ๑ หีบศพอีกทั้ง ๙ เทียนอีกทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑
ดอกจันทน์ ๑
กระวาน ๑
กานพลู ๑ จันทน์ ๒
กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ชะลูด ๑ ขอนดอก ๑ เปราะหอม ๑ ผลราชดัด ๑ ผลสารพัดสารพันพิษ ๑ พญารากขาว ๑
ปลาไหลเผือก ๑ ตุๆมกาอีกทั้ง ๒ ลุก ๑ มหาสดำ ๑ มหาละลาย ๑ รากท้อม ๑ รากไคร้เครือ ๑
หว้านกีบแรด ๑ หว้านร่อนทอง ๑
หว้านน้ำ ๑ แสนประสระต้น ๑ แสนประสระเครือ ๑ สุรามฤตย์ ๑ อบเชยเทศ ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ทองคำเปลว ๒๐ แผ่น รวมยา ๖๑ สิ่งนี้กระทำเปนจุณ แล้วเอาดีงูเหลือม ๑ ดีจระเข้ ๑
ดีตะพาบ ๑
ดีหมูป่าไม่มีอารยธรรม ๑
ดีปลาช่อน ๑ ดีนกยูง ๑ ดีอีกทั้ง ๖ นี้แซก เอาน้ำเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ แก้พิษทราง แลแก้ไข้สันนิบาต ละลายน้ำดอกไม้กิน ถ้าแก้พิษไข้ทรพิษ พิษฝีดวงเดียว พิษงูร้ายละลายสุรากิน ทุกสิ่งทุกอย่างประสิทธิ์ดีนัก
๓.
เขี้ยวหมูป่า เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในพิกัดไทยที่เรียก “นวเขี้ยว” หรือ “
เนาวเขี้ยว” ได้แก่ เขี้ยวหมูป่า เขี้ยวหมี เขี้ยวเสือ เขี้ยวแรด เขี้ยวสุนัขป่า เขี้ยวปลาพะยูน เขี้ยวตะไข้ เขี้ยวแกงเลียงเขาหิน และก็งา (ดู คู่มือการปรุงยาแผนไทย เล่ม๑ น้ำกระสายยา)