ในองค์กรต่างๆ ตั้งแต่ห้างหุ้นส่วนขนาดย่อมเยาไปจนถึงบริษัทมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ จำเป็นต้องมีการจ้างวานเจ้าหน้าที่เสมอ เพื่อกระจายการทำงานในส่วนต่างๆของหน่วยงานมากหรือน้อยต่างกันไปตามแต่ละที่ ซึ่งในองค์กรต่างๆมักจะมีการจัดการสัมมนานอกสถานที่หรือมีเหตุให้บุคลากรต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ ซึ่งถ้าหากพนักงานในหน่วยงานจำต้องเดินทางไกลด้วยตัวเองตลอด อาจจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ผู้บริหารองค์กรที่ดีจึงจำต้องจัดให้มีสวัสดิการในส่วนของการรับส่งพนักงาน เพื่อเป็นการซื้อใจพนักงานและเป็นประโยชน์ของหน่วยงานในระยะยาว
สำหรับผู้บริหารหน่วยงานที่กำลังมองหารถรับส่งสำหรับบุคลากร การเลือกคัดรูปแบบของรถรับส่งเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสำหรับองค์กรของท่าน จะเป็นการใช้งบประมาณอย่างมีคุ้มค่าและได้การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น มาเริ่มด้วยการรู้จักกับลักษณะรถรับส่งบุคลากรชนิดต่างๆกันก่อน ว่ามีกี่ประเภทและมีจุดแข็งข้อเสียแตกต่างกันออกไปอย่างไรโดยรถรับส่งบุคลากรที่เป็นที่นิยมให้บริการในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3รูปแบบหลักๆคือ
รถรับส่งผู้ปฏิบัติงาน2 ชั้น มีลักษณะเป็นรถทัวร์ขนาดใหญ่ 2 ชั้น มีข้อโดดเด่นที่สุดเลยคือสามารถจุคนโดยสารได้จำนวนมากถึงประมาณ 50 – 60 คนขึ้นไป และมีประตูทางขึ้นลงสองประตูอยู่ด้านซ้ายของรถกระตุ้นให้การขึ้นลงไม่มีการแออัดเบียดเสียด ด้านพื้นที่ใช้สอยภายในก็มากกว่าชนิดอื่นๆเป็นเหตุให้สามารถจัดให้มีโซฟาสำหรับการประชุมหรือห้องน้ำอยู่ภายในรถได้โดยไม่ช่วยให้ผู้โดยสารจำเป็นต้องอึดอัดแต่อย่างใหญ่ เบาะโดยสารสามารถจัดให้ระยะห่างมากกว่าปกติ ไม่เบียดเสียด จึงเหมาะสมกับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก และจำเป็นจะต้องเดินทางไกลเป็นระยะเวลานาน เพื่อให้ความสบายสูงสุดกับผู้ปฏิบัติงานของท่าน มีข้อเสียอยู่ที่ความคล่องตัวในการเข้าออกซอกซอยเพราะด้วยมีความสูงถึงสองชั้น
รถรับส่งพนักงานลักษณะชั้นครึ่ง หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือ รถโค้ช สามารถรองรับคนโดยสารได้ประมาณ 35 – 55 คน เป็นรูปแบบผสมผสานระหว่างรถสองชั้นกับชั้นเดียว เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากว่ามีความสมดุลในความคล่องตัวและความจุ รวมไปถึงพื้นที่ใช้สอยใต้ท้องรถยนต์ก็สามารถบรรจุของได้มากและติดห้องน้ำเคลื่อนที่ได้อย่างไม่มีปัญหา มีทางขึ้นทางลงสองทาง ให้ความสะดวกกับคนโดยสารและให้ความคล่องตัวกับคนขับไปพร้อมกัน
รถรับส่งพนักงานชั้นเดียว เนื่องด้วยมีความสูงน้อยกว่าแบบอื่นๆเป็นเหตุให้สามารถจุผู้โดยสารได้น้อยกว่าประมาณ 36-44 คนเท่านั้น แต่ก็แลกมาด้วยความพ้นภัยสูงสุด บริเวณห้องโดยสารมักจะมีลักษณะคล้ายกับห้องโดยสารของเครื่องบิน แม้ว่ามีทางขึ้นทางลงเพียงทางเดียวแต่ด้วยความสูงที่น้อยกว่าเป็นเหตุให้การขึ้นลงทำได้ง่ายกว่า ไม่มีปัญหาแม้ว่าเป็นผู้สูงอายุ จุดเด่นอีกอย่างคือเนื่องมาจากขนาดเล็กจึงเป็นเหตุให้มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ เหมาะกับองค์กรขนาดเล็กก็เพราะว่าประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่เทอะทะเกินไป ช่วยให้ลัดเลาะในการจราจรต่างๆได้ดีกว่ารุ่นอื่น
ที่มา :
http://www.vantourrist.comTags : รถรับส่งพนักงาน,รถตู้รับส่งพนักงาน,รถบัสรับส่งพนักงาน
ผู้เขียน
หัวข้อ: การคัดเลือกรถรับส่งเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสำหรับหน่วยงาน (อ่าน 339 ครั้ง)