สำหรับเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 1 – 7 ขวบ มักมีความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก, มือ เท้า ปาก ฯลฯ หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องรับการรักษาพยาบาลอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5-6 หลักได้ทันที ดังนั้น พ่อแม่หลายคนเลือกที่จะซื้อ
ประกันสุขภาพให้ลูก เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเวลาลูกเจ็บป่วยฉุกเฉิน สำหรับพ่อแม่ที่กำลังมองหาประกันให้ลูกน้อย แต่ยังไม่ทราบว่าจะเลือกประกันแบบไหนดี วันนี้เรามาแนะนำวิธีเลือกซื้อประกันสุขภาพที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว
สิ่งที่พ่อแม่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อประกันให้กับลูก
แม้จะเป็นประกันสุขภาพเหมือนกัน แต่ประกันแต่จะเจ้าก็มีรายละเอียด เงื่อนไข และข้อยกเว้นที่แตกต่างกัน ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อประกัน
1. ประเภทของประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ “แบบเหมาจ่าย” และแบบ “แยกค่าใช้จ่าย” โดยแบบเหมาจ่ายจะจ่ายค่ารักษาตามจริง ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายในวงเงินที่ตกลงไว้ แต่ค่าเบี้ยประกันจะค่อนข้างแพง ส่วนแบบแยกค่าใช้จ่าย จะกำหนดวงเงินการรักษาต่อครั้ง ซึ่งค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่า
2. ค่าเบี้ยประกัน
พ่อแม่หลายคนที่เลือกประกันที่มอบคุ้มครองสูงสุด คุ้มครองแบบครอบจักรวาล ซึ่งก็ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงตามไปด้วย แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ กลับแทบไม่ได้ใช้ประกันเต็มความคุ้มครอง ดังนั้นเมื่อต้อง ซื้อประกันให้ลูก ควรเลือกประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น มีค่าเบี้ยประกันไม่เกินกำลังทรัพย์ ทางที่ดีมีค่าเบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10 – 15% ของรายได้ต่อปีของพ่อและแม่รวมกัน
3. ประกันที่ครอบคลุมวัคซีนเด็ก
ปัจจุบันเด็กอายุตั้งแต่ 1 – 5 ขวบ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายแรงต่าง ๆ อย่างครอบคลุม แม้วัคซีนพื้นฐานจะสามารถรับวัคซีนได้ฟรีที่โรงเรียนหรือโรงพยาบาลอยู่แล้ว แต่ก็มีวัคซีนทางเลือกที่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองด้วย เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น พ่อแม่จึงควรเลือก
ประกันสุขภาพเด็กที่ครอบคลุมวัคซีนเหล่านี้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
4.ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ละเอียด
บริษัทประกันอาจจะพิจารณาไม่คุ้มครองในกรณีที่เด็กมีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือร่างกายไม่แข็งแรงแต่กำเนิด และถึงแม้จะทำประกันไปแล้วก็ยังต้องรอบริษัทประกันตรวจสอบสุขภาพร่างกายของเด็ก 1 – 6 เดือน ซึ่งระหว่างนี้ประกันจะยังไม่คุ้มครอง ดังนั้น พ่อแม่ควรตรวจสอบเงื่อนไขและข้อยกเว้นต่าง ๆ ของประกันให้ดีก่อนซื้อ
แนะนำประกันสุขภาพเด็กที่ให้ผลประโยชน์คุ้มค่า สำหรับพ่อแม่ที่มีแผนจะซื้อประกันสุขภาพให้ลูก แต่ยังไม่เจอตัวเลือกที่น่าสนใจ เราแนะนำประกันสุขภาพสุขใจของธนาคารกรุงไทย เนื่องจากจ่ายเบี้ยประกันคุ้มค่า มีความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก มีจำนวนเงินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ถึง 300,000 บาท หรือจำนวนเงินผลประโยชน์ต่อการรักษา 1 ครั้งสูงสุดถึง 75,000 บาท ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อนและสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
นี่คืิวิธีการเลือก ซื้อประกันให้ลูก ประกันสุขภาพที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เพราะเด็กเป็นช่วงวัยที่ยังมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้ง่าย พ่อแม่คนไหนไม่อยากต้องแบกรับภาระค่ารักษาพยาบาลหลักหมื่นหรือหลักแสนในทุก ๆ ปี ก็ควรที่จะทำประกันสุขภาพให้ลูกไว้ช่วยแบ่งเบาภาระการเงิน แถมยังช่วยให้ลูกน้อยสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย