ได้ไปทำงานประกันผู้ต้องหา
คดีพรากผู้เยาว์(อายุน้อยกว่า 18 ปี) ผู้ชาย(สมมติชื่อนายดี) ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ไปมีอะไรกับเด็กอายุ 17 ปี โดยทั้งสองคนนี้คบหากันมาตามปกติ แต่เมื่อมีอะไรกับเด็ก แม่ของเด็กจะเอาเรื่องให้ได้ ยังไงๆก็ไม่ยอมจนต้องรับประกันตัว แต่เท่าที่ทราบมา เด็กคนนี้เคยมีแฟนมาแล้วอยู่ในวงการประกันและมีอะไรมากันแล้วด้วย (ก่อนนายดี) นายดีไม่ใช่คนแรก ของเด็กคนนี้ แต่ในแง่มุมทางกฎหมาย เค้าจะมองที่อายุของเด็กเป็นหลัก แต่คดีแบบนี้มักพูดยาก บางคู่รักกันจริงๆ ยับยั้งใจกันไม่ไหว วัยรุ่นเลือดมันร้อน อยู่ใกล้กันเป็นไม่ได้ จะเผลอเจาะกันอยู่เรื่อย แต่บางคู่ เป็นแค่ผู้ใหญ่หลอกฟันเด็กเท่านั้น อย่างงี้สมควรเอาเรื่องตัว ให้ได้ ตามปกติกฎหมายจะคุ้มครองเด็กมากกว่า เพราะถือว่ายังอ่อนต่อโลก ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพวกผู้ใหญ่ แต่สำหรับคดีนี้พ่อแม่เด็กไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ได้ มีการแจ้งข้อหาแก่นายดี ผู้ต้องหา เราจึงรับประกันตัวนายดี ดังข้างต้น งานนี้ผู้ใหญ่เสียเงิน คราวหลังอย่าให้ความอยากบังตา รู้ว่ามันทำยาก แต่ใครระงับจิตใจได้ รับรองจะมองเห็นอะไรอีกเยอะเลย และประหยัดเงินทองค่าประกันตัว อีกด้วย โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับผู้เยาว์ อัตราวงเงินที่ใช้นั้นไม่ใช่เป็นเงินน้อยๆ นายประกันเองทราบดี หลายคนเสียเงินทั้งให้ญาติผู้เสียหายฝ่ายหญิง แต่คดียังไม่สิ้นสุด
ยิ่งในตอนนี้ ได้มีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้มีความรุนแรงและมีบทลงโทษรุนแรงมากยิ่งขึ้น หวังว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมหรือช่วยลดคดี เกี่ยวกับพรากผู้เยาว์ หรือเกี่ยวกับเด็กลงได้ เด็กน้อยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันมากขึ้น
การกระทำความผิด กับเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี น้อยกว่า 13 ปี จำเลยหรือผู้ต้องหา จำเลยหรือผู้ต้องหา จะอ้างว่าไม่รู้ข้อเท็จจริง ไม่มีเจตนา ในการกระทำความผิด ต่อเด็กนั้นไม่ได้ (มีเจตนาหรือไม่มีเจตนา ในการกระทำความผิด ท่านก็ต้องได้รับบทลงโทษตามที่กฎหมาย บัญญัติไว้ ) กฎหมายนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองเด็กโดยเฉพาะ ทำให้เฒ่าหัวงูทั้งหลายที่จะคิดกระทำการใดใดต่อเด็กเยาวชนต้องมีการคิดให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเพราะบทลงโทษค่อนข้างรุนแรงและแทบจะไม่มีสิทธิ์แก้ตัวอีกด้วย
เครดิต :
http://ประกันตัวผู้ต้องหา.blogspot.com/2013/07/blog-post.htmlTags : การประกันตัว
