รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เสาวรส สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 649 ครั้ง)

ำพ

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • ดูรายละเอียด
เสาวรส สรรพคุณเเละประโยชน์
« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2018, 08:31:04 AM »



เสาวรส
ชื่อสมุนไพร  เสาวรส
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น  สุคนธรส (ภาคกลาง) , กะทกรกฝรั่ง กะทกรกสีดา , กะทกรกยักษ์ (ทั่วไป)
ชื่อวิทยาศาสตร์            Passiflora edulis Sims. (พันธุ์สีม่วง)
Passiflora edulis f. flavicarpa O. Deg. (พันธุ์สีเหลือง)
ชื่อสามัญ  Passion fruit  , Yellow granadilla , Jamaica honey-suckle
วงศ์      Passifloraceae
ถิ่นกำเนิด 

เสาวรส มีบ้านเกิดเมืองนอนในทวีปอเมริกาใต้ในประเทศบราซิลขว้างรากวัย และก็อาร์เจนตินา แล้วมีการกระจัดกระจายจำพวกโดยการนำเสาวรสไปปลูกเพื่อคุณประโยชน์เชิงพาณิชย์ในหลายประเทศทั่วทั้งโลก ตัวอย่างเช่น อินเดีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซียเปอร์โตริโก สาธารณรัฐโดมินิกัน ประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศออสเตรเลีย อิสราเอล คอสตาริกา แอฟริกาใต้โปรตุเกสรวมทั้งประเทศแถบสมุทรแคริบเบียนรวมทั้งแอฟริกาตะวันออก
สำหรับในประเทศไทย เสาวรสถูกนำเข้ามาทดลองปลูกคราวแรกในภาคเหนือ โดยประมาณปี พ.ศ. 2498 ปัจจุบัน พบปลูกมากมายในภาคเหนือ รวมทั้งภาคตะวันออก ในแถบจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี
 
ลักษณะทั่วไป
 
เสาวรสจัดเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ ส่วนโคนเป็นไม้เนื้อแข็ง อายุยาวนานหลายปี สามารถเลื้อยได้ไกลถึง 12 เมตร มีมือเกาะ ใบเดี่ยว รูปคล้ายโล่ หรือรูปไข่ ออกเรียงสลับกัน ขอบของใบมักเว้าลึกเป็น 3 พูปลายใบแหลม หรือเรียวแหลม โคนใบกลม หรือรูปหัวใจเว้าตื้น เนื้อใบค่อนข้างเหนียว ขอบของใบจะฟันเลื่อย มีเส้นใบ 3 เส้น ออกมาจากโคนใบก้านใบยาว 4-4.5 เซนติเมตร ที่ปลายก้านมีต่อม หูใบรูปหอก ขอบเรียบ หรือจักฟันเลื่อย
ดอกเสาวรสจัดเป็นดอกบริบูรณ์เพศ สามารถผสมเกสรด้วยตนเองเจริญ ตัวดอกแทงออกเป็นดอกผู้เดียว ดอกแทงออกบริเวณซอกใบตามเถา ประกอบด้วยกลีบเลี้ยง ข้างนอกกลีบเลี้ยงมีสีเขียว ด้านในมีสีขาว แล้วก็กลีบดอกสีครีมอมม่วง 5 กลีบ กลีบดอกเรียงสลับเป็น 2 ชั้นต่อมาภายในมีฝอยเป็นเส้นล้อมเป็นวงกลมมากไม่น้อยเลยทีเดียว โคนฝอยมีสีม่วง ปลายฝอยมีสีขาวตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ส่วนเกสรตัวเมียมีปลายแยกเป็น 3 แฉก เมื่อบานจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
ผลเสาวรสออกสำเร็จโดดเดี่ยวผลมีทรงกลมหรือรูปไข่ และอวบน้ำ ขนาดผลโดยประมาณ 5-7 เซนติเมตร มีน้ำหนักผลราวๆ 35-115 กรัม ขึ้นอยู่กับขนาดผล ส่วนสีเปลือกต่างกันตามสายพันธุ์ อาทิ ประเภทสีม่วงจะมีเปลือกสีม่วงเข้ม ส่วนพันธุ์สีเหลืองจะมีเปลือกสีเหลืองสด เปลือกผลทุกพันธุ์ค่อนข้างจะครึ้ม และก็ เป็นเงา ภายในผลมีเมล็ดมากมาย
ส่วนพันธุ์ที่เจอในประเทศไทยแล้วก็นิยมนำมาปลูกกันมากมาย มี 3 พันธุ์
1. ประเภทผลสีม่วง ( Passiflora edulis) ชนิดผลสีม่วงในธรรมชาติพบมากในที่สูงประมาณ 1,000-2,000 เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นตลอดเวลา ทำให้ผลมีขนาดเล็ก เมื่อผลสุกจะมีสีม่วงเข้มผิวเป็นมัน น้ำจาก ชนิดผลสีม่วง มีรสชาติดียิ่งกว่าจำพวกผลสีเหลือง มีกรดต่ำสีงามแล้วก็หวาน จึงเหมาะกับกิน ผลสดข้อเสียของจำพวกนี้เป็น ค่อนข้างจะอ่อนแอต่อโรค
2. จำพวกผลสีเหลือง (Passiflora edulis, var flaicarpa) ประเภทผลสีเหลือง ตามธรรมชาติเจอขึ้นตามพื้นที่สูงในแถบประเทศชายฝั่งทะเลที่มีความสูงตั้งแต่ 800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ผลมีลักษณะเด่น คือ ผลมีขนาดใหญ่เมื่อผลสุกจะมีสีเหลืองขมิ้น ผิวเป็นมัน น้ำคั้นของจำพวกนี้ มีกรดมาก ซึ่งมีpH ต่ำยิ่งกว่า 3 เหมาะสำหรับส่งเข้าโรงงานเพื่อแปรรูปมากยิ่งกว่าการ กินผลสด จุดเด่นของชนิดนี้คือ ให้ผลดกรวมทั้งมีแรงต้านทานโรคและแมลงสูงกว่าพันธุ์ผลสีม่วง
3. พันธุ์ลูกผสม เป็นจำพวกที่เกิดจากการผสมระหว่างประเภทผลสีม่วงกับชนิดสีเหลือง เพื่อเลือกต้นพันธุ์ใหม่ ศูนย์รวมลักษณะผลที่เด่นของแต่ละประเภทไว้ ทำให้มีลักษณะผลใหญ่ ให้ผลดก มีเกลื่อนกลาดห่อหุ้ม เม็ดมากเปลือกบาง ขัดขวางโรค และก็มีขณะสำหรับในการได้ผลที่ช้านาน ประเภทนี้จะให้ทั้งยังผลที่มีสีม่วงแล้วก็ผลสีเหลือง สามารถเก็บผลิตผลได้ตลอดทั้งปี
 
การขยายพันธุ์
 
เสาวรส สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในสภาพอากาศของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นเขตอากาศเย็นทางภาคเหนือ หรือเขตอากาศร้อนเปียกชื้นทางภาคกึ่งกลางแล้วก็ ภาคทิศตะวันออก ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย การรักษาไม่ยุ่งยาก แต่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง
ส่วนการขยายพันธุ์เสาวรสสามารถขยายพันธุ์ได้จากต้นกล้าที่เพาะเม็ด รวมทั้งต้นกล้าที่ได้จากการปักชำหรือการทำหมันเถา แต่ส่วนมากนิยมนำมาปลูกจากเมล็ดเยอะที่สุด โดยมีวิธีการดังนี้
การเตรียมเม็ด เม็ดที่ใช้เพาะกล้า ควรที่จะเลือกจากผลเสาวรสที่ส่งผลขนาดใหญ่ ผลมีความสมบูรณ์ เปลือกผลเป็นมันวาว ไม่มีรอยกัดแทะเล็มของแมลง โดยนำเม็ดมาใส่ผ้าขาวบางแล้วก็ค่อยนำไปขยี้ให้น้ำ และเยื่อห่อเม็ดหลุดออกจากเม็ด แล้วต่อจากนั้นนำเม็ดมาล้างทำความสะอาด ก่อนจะนำเมล็ดมาตากตากแดดให้แห้ง นาน 5-7 วัน เก็บพักไว้ในที่ร่มนาน 1-2 เดือน ค่อยนำมาเพาะ ภายหลังพักเม็ดไว้ 1-2 เดือนแล้ว ก่อนเพาะให้นำเมล็ดมาแช่น้ำไว้ 1 คืน การเพาะเมล็ดอาจเพาะในถุงเพาะชำได้โดยตรง หรือหยอดเพาะในกระบะเพาะก่อน และหลังจากนั้นก็ค่อยแยกลงเพาะต่อในถุงเพาะชำได้
การเตรียมแปลงปลูก การปลูกเสาวรสในแปลงใหญ่จำนวนหลายต้นควรต้องเตรียมแปลงก่อน โดยการไถลูกพรวนดิน 1-2 รอบ พร้อมกำจัดวัชพืชออกให้หมด แล้วต่อจากนั้น ขุดหลุมปลูกขนาดโดยประมาณ 30 เซนติเมตร โดยให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างแถว รวมทั้งระยะห่างระหว่างต้นหรือหลุม ราว 2-3 เมตร จากนั้น ปลดปล่อยหลุมผึ่งแดดไว้ 3-5 วัน
กรรมวิธีการปลูก ก่อนปลูก ให้โรยตูดหลุมด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ 3-5 กำมือ แล้วก็ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ราวๆ 1 หยิบมือ ก่อนคลุกหน้าดินลงผสม ก่อนฉีกถุงดำออก แล้วนำต้นกล้าเสาวรสลงปลูกในหลุม พร้อมกลบดินให้แน่นพอประมาณ แล้วหลังจากนั้น นำไผ่มาปักข้างหลุม เพื่อลำต้นอิงเติบโตสักระยะ
กระบวนการทำค้าง เป็นเรื่องจำเป็น เพราะเสาวรสเป็นไม้เถาเลื้อย ต้องเกาะเลื้อยตามสิ่งของต่างๆการเตรียมค้าง ควรเตรียมข้างหลังการขุดหลุมปลูกเสร็จหรือทำร่วมกับการขุดหลุมปลูก หรืออาจทำหลังการปลูก แต่ควรระวังไม่ให้ต้นพันธุ์เกิดอันตรายระหว่างทำค้าง
การเตรียมค้างทำเป็นโดยการใช้เสาคอนกรีตหรือเสาไม้มาฝังใกล้กับต้นเสาวรสตามแนวยาวของแถว แล้ว ใช้ลวดกางโยงแต่ละเสาตามแนวยาว แล้วค่อยขึงโยงตัดตามแนวขวางให้เป็นตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 50×50 ซม.
 
ส่วนประกอบทางเคมี
 
ในน้ำเสาวรสเจอสาระสำคัญ ตัวอย่างเช่น Carotenoid (ติดอยู่โรทีนอยด์) Pectin methyhesterase (เอนไซม์ เพคทนเมทิลเอสเตอเรส) Catalase (คาทาเลส) Leucine (ลิวซีน) Valine (วาลีน) Tyrosine (โทโรซีน) Prline (โพรลีน) Threonine (ทรีโอนีน) Glycine (ไกลซีน) Aspertic acid (กรดแอสพาร์ทิก) Arginine (อาร์จินีน) Lysine (ไลซีน) Alkalod (อัลคาลอยด์) ส่วนค่าทางโภชนาการของเสาวร
ประโยชน์/สรรพคุณ
เม็ดพร้อมเยื่อหุ้มเมล็ดเอามาคั้นหรือปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่ม ให้รสเปรี้ยวจัด หรือปั่นผสมกับผลไม้อื่นที่มีรสหวาน เพื่อเพิ่มความหวาน อาทิเช่น ประเทศทางแถบอเมริกาใต้นิยมนำเยื่อห่อเมล็ด รวมทั้งเปลือกมาปั่นผสมกับน้ำตาล ได้เครื่องดื่มที่เรียกว่า refresco หรือใช้ผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่น ตัวอย่างเช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำส้ม น้ำสัปปะรด น้ำพีช ฯลฯ โดยอัตราการผสมน้ำเสาวรสราว 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสที่ดี ซึ่งเป็นที่นำยมกันอย่างแพร่หลายในต่างชาติ เพราะนอกจากทำให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอมสดชื่นแล้วก็รสที่ดีขึ้นแล้ว ยังมีคุณค่าทางอาหารสูง และก็น้ำเสาวรสยังสามารถเอาไปใช้แต่งกลิ่นรวมทั้งรสของไอติม ขนมเค้ก เยลลี่ เชอร์เบท พาย ลูกอมไวน์ ฯลฯ
แล้วก็เยื่อหุ้มห่อเมล็ดยังดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆอาทิเช่น เสาวรสผง แยมเสาวรส รวมทั้งเยลลี่เสาวรส ส่วนเปลือกเสาวรสมีคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนสามารถนำมาตากแห้งหรือใช้สดเป็นของกินเลี้ยงโค กระบือ แกะแพะ และหมู ได้
นอกเหนือจากนั้นยังมีการนำเสาวรสนำมาสกัดสารสำหรับเป็นส่วนผสมของเครื่องแต่งตัว โดยเฉพาะครีมที่เอาไว้ดูแลผิว เพราะเหตุว่ามีสารที่สามารถสะท้อนรังสียูวีได้ และก็ในงานศึกษาเรียนรู้วิจัยได้กำหนดไว้ว่า เสาวรสอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามินและเส้นใย ในช่วงเวลาที่เสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 51-60แคลอรีเท่านั้น แล้วก็เสาวรส100 กรัม ให้วิตามินซีถึง 30 มิลลิกรัม การกินเสาวรสบ่อยๆแล้วจะห่างไกลจากไข้หวัด รวมทั้งยังช่วยทำให้มีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรง
เสาวรสดีต่อการขับถ่าย เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในไส้ คุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งลำไส้อีกด้วย
เสาวรสบำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม เพราะว่าอุดมไปด้วยวิตามินเอ และยังมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีนและก็คยึดโทแซนทินเบต้า(cryptoxanthin-ß) ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมกันไปกับวิตามินเอที่ช่วยทำนุบำรุงสายตาได้อย่างดีเยี่ยม
ส่วนสรรพคุณตามตำรายาไทยระบุไว้ว่า ยอด สามารถรับประทานเป็นผักสด แต่ว่าจะมีรสขมบางส่วนอาจนำมาจิ้มน้ำพริกหรือนำไปแกงยอดเสาวรสก็ได้ แก่นไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ทำลายพิษ และใช้รักษาบาดแผล ราก แก้ไข้ รักษาผื่นคัน และรักษาโรคกามโรค โดยนำรากไปต้มน้ำใบ นำมาตำแล้วคั้นมัวแต่น้ำ กินเป็นยาถ่ายพยาธิได้ ดอกขับเสลด แก้ไอ ผลแก่ ใช้คั้นเอาน้ำกินเป็นน้ำผลไม้ช่วยลดไขมันในเลือดเป็นยาระบาย และยังมีคุณประโยชน์ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ลดความดับเลือด และก็โรคกระเพาะเยี่ยวอักเสบ
ต้นแบบ / ขนาดวิธีการใช้
โดยธรรมดาแล้ว ชอบนำเสาวรสสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้หรือใช้กินสดๆก็สามารถได้ประโยชน์จากสารออกฤทธิ์ต่างๆของเสาวรสแล้วส่วนในคัดค้านการนำมาใช้เป็นสมุนไพรก็มีการมาใช้ เช่น นำรากเสาวรสไปต้มแล้วใช้ดื่มช่วยแก้ไข้ รักษาตามโรค แก้ผื่นคัน หรือนำใบมาต้มกับน้ำใช้รับประทานสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิได้ หรือจะใช้เนื้อในของผลสุกมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม จะช่วยลดไขมันในเลือด ลดระดับความดันเลือดและช่วยทำให้ระบายได้ เป็นต้น
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา
 
สำหรับการทดลองฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระในหลอดทดลอง (in vitro) พบว่า สารสกัดเอทานอล 80% จากเนื้อห่อหุ้มเม็ดของเสาวรสทั้งจำพวกผลสีม่วงแล้วก็ผลสีเหลืองมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระเมื่อทดลองด้วยวิธี 2,2-azino-bis (3-ethylbenzthiazoline-6-sulphonic acid) decolorization assay (ABTS assay), H2O2 scavenging assay และ 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl radical scavenging capacity assay (DPPH assay) จากผลการค้นคว้าดังที่ได้กล่าวมาแล้วแสดงให้เห็นว่า น้ำเสาวรสมีคุณค่าทางโภชนาการรวมทั้งมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระ เหมาะกับใช้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ใยอาหารส่วนที่ไม่ละลายน้ำ (insoluble fiber-rich fraction) จากเมล็ดเสาวรสมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด เมื่อทดลองผสมลงในอาหารที่มีไขมันสูง (hypercholesterolemic diet) ปริมาณ 5% แล้วใช้เลี้ยงหนู แฮมสเตอร์นาน 30 วันพบว่า ไตรกลีเซอไรด์แล้วก็คอเลสเตอรอลในเลือดรวมทั้งในตับหนูต่ำลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง และพบว่ามีไขมันในน้ำดีแล้วก็ในอุจจาระที่ขับถ่ายออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แล้วก็สำหรับการป้อน น้ำคั้นเสาวรสจำพวกเปลือกสีเหลืองให้แก่หนูแรทขนาด 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง นานติดต่อกัน 28 วัน มีผลลดค่าไขมันและ LDL (low-density lipoprotein) ใน เลือดและก็เพิ่มค่า HDL (high-density lipoprotein) นอกเหนือจากนี้ยังส่งผลลดค่า thiobarbituric acid reactive substance (TBARS) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึง การเกิดปฏิกิริยาขบวนการออกซิเดชันของไขมัน (lipid peroxidation) แสดงให้เห็นว่าเมล็ดเสาวรสรวมถึงน้ำจากส่วนเยื่อหุ้มเมล็ดมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด รวมทั้งต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันได้ นอกจากนี้การป้อนส่วนเนื้อห่อหุ้มเม็ดของเสาวรสประเภทเปลือกสีเหลืองให้แก่หนูแรทที่มีความดันโลหิตสูง ขนาดวันละ 5 – 8 กรัม/กิโลกรัม นานติดต่อกัน 5 วัน มีผลทำให้ค่าความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัวต่ำลง รวมทั้งพบว่าระดับglutathione ในเยื่อไตสูงขึ้น และสามารถยับยั้งการเกิดสาร TBARS ได้ผลการทดสอบดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วทำให้เห็นว่าส่วนเนื้อหุ้มห่อเมล็ดของเสาวรสมีฤทธิ์ลดความดันเลือดและฤทธิ์ต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
 
การศึกษาทางคลินิก
การศึกษาฤทธิ์

 
ต้านอนุมูลอิสระของน้ำคั้นเสาวรสในกรุ๊ปอาสาสมัครคนแก่ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีภาวการณ์ของโรคร้ายแรงปริมาณ 60 คน ทั้งเพศชายและก็หญิง โดยให้อาสาสมัครดื่ม น้ำคั้นเสาวรสทั้งยังจากประเภทผลสีม่วงแล้วก็ผลสีเหลืองวันละ 1 แก้ว (โดยประมาณ 125 มิลลิลิตร) หลังจากรับประทาน อาหารมื้อกลางวัน นานติดต่อกัน 4 สัปดาห์เก็บตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครอีกทั้งช่วงก่อนและหลังดื่มน้ำคั้น เสาวรส เพื่อตรวจวัดค่าทางชีวเคมีในเลือดและก็เปรียบผลของการเปลี่ยนแปลง ผลจากการเรียนพบว่า การกินน้ำคั้นเสาวรสทั้งจำพวกผลสีม่วงรวมทั้งสีเหลืองส่งผลทำให้จำนวนวิตามินเอและก็วิตามินอีในร่างกาย เพิ่มสูงมากขึ้น และก็มีผลเพิ่มลักษณะการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวพันกับวิธีการต้านการเกิดอนุมูลอิสระ อย่างเช่น superoxide dismutase (SOD) และ catalase นอกเหนือจากนั้นยังส่งผลยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวโยง ในวิธีการอักเสบคือ interleukin-6 (IL-6) และก็ tumor necrosing factor-α (TNF-α) อีกด้วย
ส่วนการเล่าเรียนทางสถานพยาบาลอีกชิ้นหนึ่งระบุว่าการทดสอบโดยให้อาสาสมัคร 9 คน(ทั้งยังชายแล้วก็หญิง) ที่มีอายุระหว่าง 20-35 ปี กินแคปซูลสารสกัดน้ำหรือชา (เข้มข้น 10%) จากส่วนใบเสาวรส วันละ 4 แคปซูลก่อนอน ติดต่อกันเป็นเวลานาน 1 อาทิตย์ พบว่าไม่แตกต่างอย่างเป็นจริงเป็นจังระหว่างอาสาสมัครกรุ๊ปที่ระบบประทานแคปซูลเสาวรสแล้วก็กลุ่มที่ได้รับยาหลอกในเรื่องผลการนอน กลับพบว่าอาสาสมัครกรุ๊ปที่ระบบประทานแคปซูลเสาวรสบางรายมีค่าโปรตีนรวมทั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ไตแล้วก็ตับเพิ่มสูงมากขึ้นได้แก่ bilirubin, uric acid, creatinine phosphokinase และก็ glutamic-oxaloacetic transaminase
 
คำแนะนำ / ข้อควรคำนึง
 
1. การกินเสาวรสอาจจะก่อให้เกิดผลใกล้กัน ดังเช่นว่า หน้ามืดศีรษะ รู้สึกงงงวย กล้ามเนื้อดำเนินงานเปลี่ยนไปจากปกติ ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไป หลอดเลือดอักเสบ บางรายพบแถลงการณ์ว่ามีลักษณะคลื่นไส้ อ้วก ง่วงซึม หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่ปกติ
2. จากการทดลองในหลอดทดสอบ (in vitro) น้ำคั้นเสาวรสมีฤทธิ์ยั้ง โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีCYP450 ชนิดCYP3A4 เมื่อทดสอบบนเซลล์human liver microsomes ฉะนั้นจะต้องระแวดระวัง การดื่มน้ำคั้นเสาวรสร่วมกับกรุ๊ปแผนปัจจุบันที่ต้องอาศัยเอนไซม์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วในกรรมวิธีเผาผลาญยา
3. หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานเสาวรสเนื่องจากว่าสารเคมีบางตัวในเสาวรสอาจทำให้มดลูกหดตัว
4. ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดควรหยุดกินเสาวรสขั้นต่ำ 2 อาทิตย์ เพราะว่าเสาวรสอาจมีผลต่อระบบประสาทศูนย์กลางซึ่งอาจไประงับฤทธิ์ยาสลบหรือยาตัวอื่นต่อสมองในตอนผ่าตัดรวมทั้งภายหลังผ่าตัดได้
 

เอกสารอ้างอิง

  • ศุภวัชร สิงห์ทอง, เสนีย์ เครือเนตร, ศุภพงษ์ อาวรณ์. ผลของน้ำเสาวรสต่อการต้านอนุมูลอิสระและต้าน การอักเสบในผู้สูงอายุและในหลอดทดลอง. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย; 2557. Report No. RDG5420047.
  • การใช้สมุนไพร.กระดานถาม-ตอบ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล.ธิดารัตน์ จันทร์ดอน.ผลไม้โครงการหลวงกับงานวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • "Passion Fruit: Background, Nutrition, Preparation". Exotic Fruit for Health. 25 August สืบค้นเมื่อ 18 September 2011.
  • เสาวรส/กะทกรกฝรั่ง สรรพคุณและการปลูกเสาวรส.พืชเกษตรดอทคอมพิชานันท์ ลีแก้ว . เสาวรส ผลไม้สำหรับผู้รักสุขภาพ. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.https://www.disthai.com/
  • เสาวรส.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.Mallhi TH, Sarriff A, Adnan AS, Khan YH, Qadir MI, Hamzah AA, et al. Effect of fruit/vegetable-drug interactions on CYP450, OATP and p-glycoprotein: A systematic review. Trop J Pharm Res. 2015;14(10):1927-35.
  • de Souza Mda S, Barbalho SM, Damasceno DC, Rudge MV, de Campos KE, Madi AC, et al. Effects of Passiflora edulis (yellow passion) on serum lipids and oxidative stress status of Wistar rats. J Med Food. 2012;15(1):78-82.
  • Patel SS. Morphology and pharmacology of Passiflora edulis: a review. J Herb Med Toxicol. 2009;3(1):1-6
  • Konta EM, Almeida MR, do Amaral CL, Darin JD, de Rosso VV, Mercadante AZ. Evaluation of the antihypertensive properties of yellow passion fruit pulp (Passiflora edulis Sims f. flavicarpa Deg.) in spontaneously hypertensive rats. Phytother Res. 2014;28(1):28-32.
  • Chau CF, Huang YL. Effects of the insoluble fiber derived from Passiflora edulis seed on plasma and hepatic lipids and fecal output. Mol Nutr Food Res. 2005;49(8):786-90
  • Tala Y, Anavia S, Reismana M, Samachb A, Tirosha O, Aron M, et al. The neuroprotective properties of a novel variety of passion fruit. Journal of Functional Foods 2016;23:359- 69.
  • Hidaka M, Fujita K, Ogikubo T, Yamasaki K, Iwakiri T, Okumura M, et al. Potent inhibition by star fruit of human cytochrome P450 3A (CYP3A) activity. Drug Metab Dispos. 2004;32(6):581-3




Tags : เสาวรส
บันทึกการเข้า