วันนี้
ทนายความเชียงใหม่จะได้นำเกร็ดความรู้กฎหมายนิดๆหน่อยๆมาฝาก
โดยเรื่องในวันนี้จะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างหรือการซื้อขายหมู่บ้านจัดสรรซึ่งจะมีการโปรโมทเป็นแผ่นพับออกมาโฆษณาในทราบดีว่า จะมีโปรโมชั่นเช่นไร เชิญในเข้ามาดูโครงการบ้านจัดสรร แม้มีความชอบใจก็จะได้ทำการวางจองบ้านหลังนั้น
แผ่นพับส่งผลทางกฎหมายยังไง
“แผ่นพับ” ที่โครงการได้ทำขึ้นมีความจำเป็นและก็ผูกพันโครงการสำหรับเพื่อการทำความตกลงซื้อขายที่ดินพร้อมปลุกสร้างด้วย เพราะว่าเช่นไรนั้น จะได้อธิบายเป็นข้อกฎหมายถัดไป คือ
แผ่นพับนับว่าเป็นเหมือนกับว่าเป็นการเสนอขายที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างในแก่ท่าน โดยต้องพิเคราะห์จากข้อความในแผ่นพับว่ามีความเกี่ยวโยงกับสัญญาซื้อขายยังไง ดังเช่นว่า การก่อสร้างจำต้องทำให้แล้วเสร็จ ภายในเพียงแค่นั้นเท่านี้ ทางโครงการก็ต้องปฏิบัติการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในแผ่นพับนั้นด้วย แม้ไม่สามารถที่จะทำตามได้แล้ว ตามกฎหมายจัดว่าโครงการหรือคนขายเป็นฝ่ายผิดสัญญาจำหน่ายที่ดินพร้องสิ่งปลูกสร้าง
“สิทธิของผู้บริโภค”ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจะคืออะไร มีแค่ไหนนั้น
สิทธิของคนซื้อนั้น ทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ได้เก็บรวบรวมมาจากคำวินิจฉัยของศาลได้ว่า เมื่อฝ่ายผู้ขายเป็นฝ่ายไม่ทำตามสัญญาจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อมีสิ่งที่จะไม่จ่ายเงินค่าบ้านส่วนที่เหลือจนกระทั่งโครงการผู้ขายจะได้ก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ ซึ่งสิทธิของผู้บริโภคที่ดินนี้ คนขายจะกล่าวถึงว่าผู้บริโภคไม่จ่ายเงินให้แก่คนขาย ผู้ซื้อก็ไม่สามารถที่จะสร้างบ้านได้ทำให้คนซื้อที่ดินเป็นฝ่ายผิดสัญญา คำกล่าวอ้างของผู้ขายตรงนี้ ผู้ขายจะอ้างเหตุดังที่กล่าวมาข้างต้นมิได้ เนื่องจากผู้ขายที่ดินได้ประกาศในแผ่นพับแล้วว่า สามารถบ้านให้แก่ผู้ขายภายในเท่านั้นเท่านี้แล้ว โดยเหตุนั้น ผู้ซื้อที่ดินสามารถไม่ชำระเงินให้แก่คนขายได้
นอกเหนือจากนั้น สิทธิอีกประการที่ฝ่ายผู้ซื้อที่ดินสามารถที่จะใช้สิทธิตามกฎหมายได้เป็น สิทธิสำหรับเพื่อการเลิกสัญญาซื้อที่ดินกับคนขาย ซึ่งสิทธินี้
ทนายความเชียงใหม่ ขอให้ข้อแนะนำต่อไปว่า เมื่อท่านได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว ท่านสามารถเรียกเงินที่ชำระไปแล้วคืนจากผู้ขายที่ดินได้ แถมยังสามารถเรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากคนขายที่ดินได้รับเงินจากท่านด้วย แล้วก็ท่านต้องคืนสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ขายที่ดินไป ฉะนั้น สิทธิอีกประการหนึ่งของท่านคือ สิทธิสำหรับการเลิกข้อตกลงกับฝ่ายคนขายที่ดินพร้อมเรียกดอกเบี้ยได้นั้นเอง
ใจความนี้อ้างอิงมาจาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2544 แผ่นพับโฆษณาของจำเลยระบุว่าเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนกันยายน2537 จะแล้วเสร็จปลายปี 2539 โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้พบแผ่นพับโฆษณาดังกล่าว ได้พิจารณารูปแบบบ้าน ทำเลที่ดินและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุไว้และใช้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจที่จะซื้อจำเลยจึงมีหน้าที่ต้องก่อสร้างบ้านให้เสร็จภายในวันดังกล่าว เมื่อมิได้ก่อสร้างให้เสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2539 และได้ทำหนังสือถึงโจทก์ยืนยันว่าจะก่อสร้างให้เสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2539 แต่จำเลยก็ไม่เสร็จตามที่ขอขยายเวลาออกไป โจทก์ย่อมมีสิทธิไม่ชำระหนี้จนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ตอบแทนโจทก์จึงไม่ผิดสัญญา การที่จำเลยแจ้งให้โจทก์ทราบว่าได้ก่อสร้างบ้านเสร็จเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2540 ซึ่งพ้นกำหนดเวลาที่จำเลยขอขยายการก่อสร้างออกไป จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้
Tags : ที่ปรึกษาทางกฎหมาย
ผู้เขียน
หัวข้อ: แผ่นพับมีผลต่อสัญญาซื้อขายที่ดินกับโครงการบ้านจัดสรรเช่นไร (อ่าน 973 ครั้ง)