รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เช่าเพื่อสร้างบ้าน เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าใครมีสิทธิในบ้านที่สร้าง  (อ่าน 482 ครั้ง)

saibennn9

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 274
    • ดูรายละเอียด
    • ทนายความเชียงใหม่

                การเช่าที่ดินเพื่อทำธุรกิจในระยะยาว เมื่อมีการก่อสร้างตึก ที่ทำการ หรือแม้ว่าจะปลูกบ้านลงไปในที่ดินแล้ว ถัดมาเมื่อการเช่าสิ้นสุดลง จึงมีคำถามที่เกิดขึ้นตามมาว่า ผู้ใดกันจะเป็นเจ้าของตึก ตึก สำนักงาน หรือ บ้านที่ผู้เช่าได้ก่อสร้าง ในมุมของผู้ให้เช่ายอมจำเป็นต้องรู้สึกว่า ในเมื่อมีการก่อสร้างในที่ดินของผู้ให้เช่าแล้ว อาคาร ตึก ที่ทำการ หรือบ้าน ย่อมตกเป็นของผู้ให้เช่าโดยเป็นส่วนควบของที่ดินที่เช่า ในมุมของผู้เช่าก็มองว่า ผู้เช่าได้ใช้สิทธิเช่าเพื่อมาสร้าง ตึก ตึก สำนักงานหรือบ้าน ในขณะที่เช่า จึงการปลูกสร้างอาคาร อาคาร สำนักงานหรือ บ้านโดยมีสิทธิ สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจึงเป็นของผู้เช่า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหัวข้อตามว่า ผู้เช่าจะต้องออกมาจากที่ดินที่เช่าหรือเปล่า จึงมีการฟ้องศาลกันระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า โดย ศาลได้ตัดสินแล้วว่า สิ่งก่อสร้างของผู้เช่า เป็นของผู้เช่าไม่ตกเป็นของผู้ให้เช่า แม้กระนั้นผู้เช่าต้องรื้อถอนออกไปจากที่ดินที่เช่า และก็หลักสำคัญถัดมา ผู้เช่าจำเป็นต้องออกมาจากที่ดินที่เช่า รวมทั้งการที่ผู้เช่าอยู่ในที่ดินที่เช่านับจากเวลาจบช่วงเวลาเช่าแล้ว ย่อมเป็นการอยู่โดยฝ่าฝืนสิทธิของผู้ให้เช่า โดยเหตุนั้น ผู้เช่าต้องชดเชยค่าชดเชยให้แก่ผู้ให้เช่า แล้วก็ออกมาจากที่ดินของผู้ให้เช่า ข้อพิสูจน์มี
                คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4260/2550 เดิมที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของ ท. ต่อมาผู้จัดการมรดกของ ท. ได้ทำสัญญาให้ ธ. เช่าที่ดินมีกำหนด 20 ปี การที่ ธ. ปลูกสร้างตึกแถวลงบนที่ดิน จึงไม่ถือว่าเป็นส่วนควบกับที่ดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 146 โจทก์ซื้อที่ดินมาจากผู้จัดการมรดกของ ท. ระหว่างอายุสัญญาเช่า โจทก์จึงไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถว แต่เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าที่ดิน ธ. ย่อมหมดสิทธิในที่ดินต้องรื้อถอนตึกแถวออกไป เว้นแต่ ธ. ยินยอมให้ตึกแถวตกเป็นของโจทก์ ตึกแถวย่อมกลายเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 144 วรรคสอง เมื่อโจทก์ได้รับมอบสิทธิในตึกแถวแล้ว ตึกแถวย่อมกลายเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 144 วรรคสอง แต่ ธ. ซึ่งเป็นเจ้าของตึกแถวไม่มีอำนาจให้เช่าห้องพิพาทเกินกำหนดระยะเวลาการเช่าที่ดิน เมื่อสัญญาเช่าที่ดินครบกำหนดแล้ว ระยะเวลาการเช่าห้องพิพาทส่วนที่เกินกว่านั้นย่อมไม่ตกมายังโจทก์ตามมาตรา 569 เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้จำเลยอยู่ในห้องพิพาทอีกต่อไป แต่จำเลยไม่ยอมออกไป จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
                ดังนั้น จะมองเห็นได้ว่า ไม่ว่ายังไงผู้ให้เช่าผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิเหนือที่ดินตามหลักเจ้าของ บุคคลภายนอกย่อมไม่มีสิทธิ์ดีมากยิ่งกว่าเจ้าของที่ดิน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทนายความเชียงใหม่

เครดิตบทความจาก : https://www.นพนภัสทนายความเชียงใหม่.com/

Tags : ทนายความเชียงใหม่,ทนายความเชียงใหม่,ทนายเชียงใหม่
บันทึกการเข้า