วันนี้เรามี
คดีปกครองที่น่าสนใจ มานำเสนอค่ะคดีหมายเลขแดงที่ อ.65/2559 มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ได้นิยามความหมายของคำว่า “
ที่สาธารณะ” ว่าหมายรวมถึงถนน และให้ความหมายของคำว่า “ถนน” ว่าหมายรวมถึง
ถนนส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของยินยอมให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจรได้ และห้ามมิให้ผู้ใดตั้ง วาง หรือกองวัสดุใดๆ บนถนน เว้นแต่กระทำในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนดด้วยความเห็นชอบของเจ้าพนักงานจราจรหรือได้รับอนุญาตเป็นหนังสือ คดีนี้มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณซอยและประชาชนที่ไม่ได้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวได้ใช้ประโยชน์ถนนซอยที่พิพาทในการสัญจรไปมาไม่น้อยกว่า 20 ปี จนกระทั่งผู้ฟ้องคดีได้กั้นรั้วสังกะสีทำให้ซอยแคบลง จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าประชาชนโดยทั่วไปได้ใช้ถนนซอยที่พิพาทเป็นทางสัญจรไปมาเหมือนดังเช่นถนนสายอื่นซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และมีการใช้ประโยชน์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 10 ปี โดยเจ้าของที่ดินมิได้ขัดขวางหรือห้ามปราม อันแสดงให้เห็นว่าเจ้าของที่ดินได้ยินยอมให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจรได้โดยปริยายแล้วและแม้เจ้าของที่ดินจะมีการแสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งโดย
จัดทำป้ายสงวนสิทธิ์ว่าเป็นถนนส่วนบุคคลติดไว้ ก็ถือเป็นแต่เพียงเพื่อแสดงว่าตนมิได้ทอดทิ้งที่ดินอันจะยังผลเป็นการป้องกันมิให้ถนนดังกล่าวตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน กรณีไม่ถือเป็นการขัดขวางหรือห้ามปรามมิให้ประชาชนโดยทั่วไปใช้ถนนซอยดังกล่าวเป็นทางสัญจรไปมาแต่อย่างใด
ถนนซอยที่พิพาทจึงเป็นถนนส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของยินยอมให้ประชาชนใช้เป็นทางสัญจรได้ อันถือเป็น “ถนน” และเป็น “ที่สาธารณะ” ตามนิยามมาตรา 4 นายกเทศมนตรีจึงมีอำนาจสั่งการให้ผู้ฟ้องคดีรื้อถอนรั้วที่รุกล้ำถนนที่พิพาทได้
โดย ทนายความเชียงใหม่