รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: กระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์ดีนักหนาอย่างไร  (อ่าน 662 ครั้ง)

a123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
    • ดูรายละเอียด


กระเทียม
ลักษณะทางด้านกายภาพและก็เคมีที่ดี:
           ปริมาณน้ำไม่เกิน 68% w/w  จำนวนเถ้ารวมไม่เกิน 2.5% w/w  จำนวนขี้เถ้าที่ไม่ละลายในกรดไม่เกิน 1% แล้วก็ปริมาณสารสกัดเฮกเซน แอลกอฮอล์ แล้วก็น้ำ ประมาณ 0.52, 0.50 และ 15% w/w  ตามลำดับ เภสัชตำรับอังกฤษระบุจำนวนสาร alliin ไม่น้อยกว่า 0.45 % w/w
คุณประโยชน์:
           หนังสือเรียนยาไทยใช้หัวกระเทียมเป็นยาขับลม แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ธาตุพิการ  อาหารไม่ย่อย ขับเสลด ขับเหงื่อ ลดไขมัน รักษาปอด แก้ปอดทุพพลภาพ  แก้อุจจาระเป็นมูกเลือด  บำรุงธาตุ  กระจายโลหิต  ขับเยี่ยว แก้บวมพุพอง  ขับพยาธิ  แก้ตาปลา  แก้ตาแดง ร้องไห้  ตามัว รักษาโรคลักปิดลักเปิด  รักษาโรคมะเร็งคุด   รักษาริดสีดวง แก้ไอ  คุมกำเนิด แก้สะอึก  บรรเทาโรคในอก แก้พรรดึก รักษาฟันเป็นรำมะนาด  แก้หูอื้อ แก้อัมพาต  ลมเข้าข้อ  แก้อาการชักของเด็ก พอกหัวเหน่าแก้ขัดค่อย รักษาวัณโรค  แก้โรคประสาท แก้หืด แก้ปวดมวนในท้อง บำรุงสุขภาพทางกามคุณ  ขับเลือดประจำเดือน  บำรุงเส้นประสาท   แก้ไข้   แก้ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดกระบอกตา แก้โรคในปาก แก้หวัดคัดจมูก   แก้ไข้เพื่อเสมหะ ทำให้ผมเงาสวย  บำรุงเส้นผมให้ดกดำ ใช้ข้างนอก รักษาแผลเรื้อรัง รักษากลากโรคเกลื้อน แก้โรคผิวหนัง  ทาข้างนอกทุเลาอาการปวดบวมตามข้อเพราะว่าเป็นยาพอกให้ร้อน ใช้พอกตรงที่ถูกแมลง ตะขาบ แมงป่องต่อยเป็นส่วนประกอบในตำรับยาเหลืองปิดสมุทร (แก้ท้องเสีย), ยาประสะไพล (ขับน้ำคาวปลา ในสตรีหลังคลอด), ยาธาตุบรรจบ (แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ  ท้องร่วง ใช้กระเทียม 3 กลีบ ตีชงน้ำร้อน ใช้เป็นน้ำกระสายยา สำหรับยาผง)
         บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์วิชาความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการปรับปรุงระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ เจาะจงการใช้กระเทียมในตำรับ “ยาแก้ลมอัมพฤกษ์” มีส่วนประกอบของหัวกระเทียมร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์บรรเทาอาการปวดตามเอ็น กล้ามเนื้อ มือ เท้า ตึงหรือชา ตำรับ "ยาประสะไพล" มีส่วนประกอบของหัวกระเทียมร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์รักษารอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือมาน้อยกว่าธรรมดา ทุเลาลักษณะของการปวดประจำเดือน  และก็ขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอดบุตร
รูปแบบแล้วก็ขนาดวิธีใช้ยา:
กระเทียมสด 2-5 กรัมต่อวัน กระเทียมแห้ง 0.4-1.2 กรัมต่อวัน น้ำมันกระเทียม 2-5 มิลลิกรัมต่อวัน สารสกัด 300-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือแบบอย่างยาอื่นๆที่มีสาร alliin 4-12 มิลลิกรัมหรือสาร allicin 2-5 มิลลิกรัม
ขนาดและก็วิธีใช้สำหรับอาการท้องอืดท้องอืดแน่นจุกเสียด:
ใช้กระเทียม  5-10  กลีบ ซอยละเอียด  กินหลังอาหาร หรือพร้อมของกิน
ขนาดรวมทั้งการใช้สำหรับรักษาขี้กลากโรคเกลื้อน:
                   ฝานกระเทียมเช็ดเป็นประจำบริเวณที่เป็น  หรือตำแล้วขยี้ทาบริเวณที่เป็น  วันละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะป้ายยาใช้ไม้บางๆเล็กๆที่ได้ฆ่าเชื้อโรคแล้ว (โดยการแช่ในแอลกอฮอล์ 70%  หรือต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที) ขูดบริเวณที่เป็น ให้ผิวหนังแดงๆก่อนทา เพื่อตัวยาซึมลงไปได้ดิบได้ดีขึ้น เมื่อหายแล้วให้ทายาต่ออีก 7-10 วัน
ขนาดและก็วิธีใช้สำหรับแก้ไอ:
                   แบบเรียนยาไทยให้ใช้กระเทียม และขิงสดอย่างละเท่ากันตำละเอียด ละลายน้ำอ้อยสด คั้นเอาน้ำจิบแก้ไอ กัดเสมหะ ทำให้เสมหะแห้ง แบบเรียนยาไทยบางตำรับให้คั้นกระเทียมกับน้ำมะนาวเติมเกลือใช้จิดหรือกวาดคอ
ส่วนประกอบทางเคมี:
           น้ำมันหอมระเหย โดยประมาณ 0.1-0.4% มีส่วนประกอบหลักเป็น allicin  ajoene  alliin  allyldisulfide diallyldisulfide ซึ่งเป็นสารประกอบกลุ่มกรุ๊ป organosulfur  สารในกลุ่มนี้ที่เจอในกระเทียมเป็นต้นว่า  สารกลุ่ม S-(+)-alkyl-L-cysteine sulfoxides , alliin 1% , methiin 0.2% , isoalliin 0.06% และก็ cycloalliin 0.1% และสารที่ไม่ระเหยคือ สารกรุ๊ป gamma-L-glutamyl-S-alkyl-L-cysteines , gamma-glutamyl-S-trans-1-propenylcysteine 0.6% และ gamma-glutamyl-S-allylcysteine รวมราว 82% ของสารกลุ่ม organosulpur ทั้งสิ้น ส่วนสารกรุ๊ป thiosulfinates (allicin) สารกรุ๊ป ajoenes (E-ajoene และก็ Z-ajoene) สารกรุ๊ป vinyldithiins (2-vinyl-(4H)-1,3-dithiin , 3-vinyl-(4H)-1,2-dithiin) และก็สารกรุ๊ป sulfides (diallyl disulfide , diallyl trisulfide) ซึ่งเป็นสารที่ไม่ได้เจอในธรรมชาติแม้กระนั้นเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพของสาร allin ซึ่งถูกสลายตัวด้วยเอนไซม์ alliinase ต่อจากนั้นก็เลยมีการรวมตัวกันใหม่ได้สาร allicin ซึ่งเป็นสารที่ไม่เสถียร สลายตัวได้สารกรุ๊ป sulfides อื่นๆด้วยเหตุดังกล่าวกระเทียมที่ผ่านขั้นตอนการสกัด การกลั่นน้ำมัน หรือความร้อน สารประกอบจำนวนมากที่พบเป็นสารกรุ๊ป diallyl sulfide , diallyl disulfide , diallyl trisulfide และ diallyl tetrasulfide ส่วนกระเทียมที่ผ่านวิธีการหมักในน้ำมัน สารประกอบที่เจอโดยมากเป็น 2-vinyl-(4H)-1,3-dithiin , 3-vinyl-(4H)1,2-dithiin , E-ajoene รวมทั้ง Z-ajoene ปริมาณของ alliin ที่เจอในกระเทียมสด ราว 0.25-1.15% สารกลุ่มอื่นๆที่เจอ ตัวอย่างเช่น สารเมือก และ albumin, scordinins, saponins 0.07% , beta-sitosterol 0.0015%, steroids, triterpenoids รวมทั้ง flavonoids
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา: 
ฤทธิ์คุ้มครองปกป้องตับจากสารพิษ
      การทดลองป้อนสาร diallyl disulfide (DADS) จากกระเทียมให้แก่หนูขาว ขนาดวันละ 50 แล้วก็ 100 มก./กก. น้ำหนักตัว ในหนูแต่ละกลุ่ม นานติดต่อกัน 5 วัน ก่อนรั้งนำให้ตับเกิดการเสียหายด้วยสาร carbon tetrachloride (CCl4) พบว่า DADS ทั้งคู่ขนาดสามารถคุ้มครองปกป้องตับเป็นพิษได้ การสำรวจลักษณะทางจุลกายวิภาคศาสตร์พบว่าสามารถยับยั้งความเสียหายของเซลล์ตับ โดยลดการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี aspartate transaminase (AST) และก็ alanine transaminase (ALT) ในตับลงได้ ลดการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวในกรรมวิธีอักเสบ และการเสียชีวิตของเซลล์ตับ ตัวอย่างเช่น Bax, cytochrome C, caspase-3, nuclear factor-kappa B, I kappa B alpha นอกเหนือจากนั้นยังมีผลเพิ่มการแสดงออกของโปรตีน และโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวในกรรมวิธีการต่อต้านอนุมูลอิสระ ตัวอย่างเช่น catalase, superoxide dismutase, glutathione peroxidase, glutathione reductase, glutathione S-transferase ผลจากการเล่าเรียนทำให้เห็นว่า สาร DADS จากกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระรวมทั้งปกป้องรักษาตับจากพิษ โดยกลไกกระตุ้นลักษณะการทำงานของ nuclear factor E2-related factor 2 (Nrf2) ซึ่งเป็น transcription factor หรือโปรตีนที่ควบคุมการแสดงออกของยีนที่ทำหน้าที่ปกป้องรักษาเซลล์ แล้วก็เนื้อเยื่อจากอนุมูลออกสิเจนที่คล่องแคล่วต่อปฏิกิริยา การกระตุ้น Nrf2 ส่งผลรั้งนำการสร้างเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งสร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีในระบบการกำจัดพิษออกมาจากร่างกายในขั้นตอนที่ 2 (detoxifying Phase II  enzyme) และก็ยั้ง nuclear factor-kappa B ส่งผลให้ลดการสร้างสารที่เกี่ยวกับการอักเสบลง และก็คุ้มครองป้องกันตับจากพิษได้ (Lee, et al, 2014)
ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
      เล่าเรียนฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบของสารสกัดน้ำโดยไม่ผ่านความร้อน (raw garlic) แล้วก็สารสกัดกระเทียมที่ผ่านการต้มแล้ว เอามาทดลองในหลอดทดสอบ โดยใช้เนื้อเยื่อของกระต่าย พบว่า raw garlic สามารถยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase (ที่นำไปสู่การสร้างสารอักเสบ) แบบ non-competitive รวมทั้ง irreversible จากการศึกษาเล่าเรียนพบว่า raw garlic สามารถยับยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase ได้ โดยมีค่า IC50 ต่อเกล็ดเลือด,ปอด รวมทั้งหลอดเลือดแดงในกระต่ายเท่ากับ 0.35, 1.10 รวมทั้ง 0.90 mg ในช่วงเวลาที่กระเทียมที่ต้มแล้วมีฤทธิ์ยับยั้ง cyclooxygenase ได้เล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับกระเทียมที่ไม่ผ่านความร้อน เพราะองค์ประกอบสำคัญในกระเทียมนั้นถูกทำลายขณะที่ให้ความร้อน จากผลการศึกษาทำให้เห็นว่ากระเทียมน่าจะมีสาระสำหรับในการคุ้มครองป้องกันโรคหลอดเลือดตันได้ (Ali, 1995)
      จากการรวบรวมงานค้นคว้า ที่เล่าเรียนฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบของกระเทียม โดยสรุปพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบผ่านหลายกลไก ดังนี้เป็น ต่อต้านการอักเสบผ่าน T-cell lymphocytes โดยไปยับยั้ง SDF1a-chemokine-induced chemotaxis ส่งผลให้การมารวมกลุ่มกันของสารที่ทำให้มีการเกิดการอักเสบลดลง, ยับยั้ง transendothelial migration of neutrophils ส่งผลให้ลดการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวจำพวก neutrophil ในกรรมวิธีการอักเสบลง, ยั้งการหลั่งสาร TNFα ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นในวิธีการอักเสบ, กดการสร้างอนุมูลไนโตรเจนที่รวดเร็วต่อการเกิดปฏิกิริยาการอักเสบ รวมทั้งการทำงานผ่าน ERK1/2 ทั้งยัง 2 กลไก อย่างเช่น การยับยั้ง phosphatase-activity (directly related with ERK1/2 phosphorylation) แล้วก็การเพิ่ม phosphorylation of ERK1/2 kinase (ผ่านทาง p21ras protein thioallylation) มีผลทำให้การอักเสบต่ำลง (Martins, et al, 2016)

ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
      การทดสอบความสามารถสำหรับการต่อต้านเชื้อ Escherichia coli ซึ่งป็นเชื้อก่อโรคทางเดินอาหาร ของสารสกัดหัวกระเทียมด้วย เอทานอล เมทานอล  อะซิโตน  และการสกัดสดโดยแนวทางกดดันแบบเย็น โดยใช้วิธี microdilution broth susceptibility test พบว่าการสกัดสดมีค่า MIC และค่า MBC น้อยที่สุด (3.125กรัมต่อลิตร) แล้วก็รองลงมาคือ สารสกัดจากตัวทำละลาย เอทานอล เมทานอล รวมทั้งอะซิโตน ให้ค่า MIC แล้วก็ MBC เท่ากัน (6.25กรัมต่อลิตร) แปลว่าสารสกัดสดมีทรัพย์สินสำหรับในการยั้ง แล้วก็ฆ่าเชื้อแบคทีเรียดีที่สุด เนื่องมาจากในกระเทียมสดมี allin เป็นสารประกอบกำมะถันที่สำคัญ เมื่อกระเทียมสดถูกบด หรือผ่านวิธีการแปรรูป allinase จะถูกปลดปล่อยออกมาจากด้านใน vacuole ของเซลล์ และก็อาศัยน้ำเป็นกลไกสำหรับในการทำปฏิกิริยาได้เป็น allicin ซึ่งเป็นสารที่มีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งขั้นตอนการสกัดสดช่วยทำให้กระบวนการทำปฏิกิริยาระหว่างสาร allin และก็ allinase ดีขึ้น เนื่องด้วยจะต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการบีบเค้นน้ำกระเทียมซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมาแล้วข้างต้นช่วยทำให้กระบวนการทำปฏิกิริยาระหว่างสารมากเพิ่มขึ้น อาจจะเป็นผลให้ได้ allicin เพิ่มขึ้น (ภรงาม แล้วก็รังสินี, 2554)
ฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ
         เมื่อนำสารสกัดกระเทียมที่ได้จากการบ่มสกัด (aged garlic extract (AGE) ด้วย 20 % เอทานอล ตรงเวลา 20 เดือน ที่อุณหภูมิปกติ นำมาทดลองการต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ หรือต้านการเกิด oxidized LDL (ซึ่งเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะเส้นเลือดแดงแข็งตัว) โดยนำ LDL ที่แยกได้จากคนมาทดสอบในภาวการณ์ที่มีหรือเปล่ามี AGE โดยใช้ CuSO4 และก็ 5-lipoxygenase รั้งนำให้เกิด oxidized LDL และก็ทดสอบสารสกัดของ AGE ผลของการทดสอบพบว่า AGE มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยลดการสร้าง superoxide ion (อนุมูลอิสระของออกซิเจน) และลดการเกิด lipid peroxide (ออกซิเดชันของไขมัน)  โดย AGE 10%v/v เมื่อใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย สามารถยับยั้งการเกิด superoxide ได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนสารสกัด 10% v/v จาก diethyl ether ของ AGE ให้ผล 34%  ฤทธิ์ลดการเกิด lipid peroxidation ของ LDL พบว่าสารสกัด 10% v/v จาก diethyl ether ลดการเกิด lipid peroxidation ที่เกิดขึ้นจากการเหนี่ยวนำของ Cu2+ แล้วก็ 5-lipoxygenase ได้ 81% แล้วก็ 37% ตามลำดับ สรุปได้ว่า AGE มีผลยั้งการเกิด oxidation ของ LDL โดยลดการผลิต superoxide รวมทั้งยั้งการเกิด lipid peroxide  ด้วยเหตุดังกล่าว AGE ก็เลยอาจมีหน้าที่สำหรับในการป้องกันการเกิดสภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว (atherosclerotic disease) ได้ (Dillon, et al, 2003)
      การศึกษาฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระของสารสกัดหัวกระเทียมด้วย เอทานอล เมทานอล  อะซิโตน  และก็การสกัดสดโดยวิธีกดดันแบบเย็น ทดสอบโดยกระบวนการยับยั้งอนุมูลอิสระ DPPH, การต้านออกสิไดส์จากสาร hydrogen peroxide (hydrogen peroxide (H2O2) scavenging activity ผลการทดลองฤทธิ์ยั้งอนุมูลอิสระ DPPH พบว่าการสกัดกระเทียมด้วยตัวทำละลายอะซิโตน ให้ค่า IC50 ต่ำที่สุด เท่ากับ 3.58±0.02 mg/ml รองลงมา ตัวอย่างเช่น สารสกัดเมทานอล เอทานอล และการสกัดสด เป็นลำดับ โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 3.72±0.03, 4.47±0.20 รวมทั้ง 55.36±3.96 mg/ml ตามลำดับ  ผลของการต้านสารออกสิไดซ์ที่ร้ายแรง ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) พบว่าสารสกัดด้วยตัวทำละลายเมทานอล มีทรัพย์สมบัติการต้านออกซิไดส์ของสาร H http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม
บันทึกการเข้า

หนุ่มน้อยคอยรัก007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด

ขายยาสมุนไพร
บันทึกการเข้า