บัวบกใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบอินเดีย แอฟริกา รวมทั้งเอเซียอาคเนย์ ใบแล้วก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของอินเดียและจีนมาอย่างช้านาน ใช้รักษาหลายโรค เช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาทำครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบกใบ
บัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอยู่หลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือตรีเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียว่ากล่าววัวไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียติเตียนก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และก็กรดมาดีคาสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีคุณประโยชน์หลายแบบ เช่น บรรเทาอาการอักเสบ ถ้าเกิดใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันโลหิตในเส้นเลือดดำ และก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีสาเหตุมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเป็นต้นว่า หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบฟุตบาทปัสสาวะ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกเหนือจากนั้น ยังมีความเห็นว่าหากใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับในการสมานบาดแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีต้นเหตุมาจากการมีครรภ์ แต่สิ่งที่ใช้พิสูจน์หรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันความเชื่อถือ สรรพคุณ และความปลอดภัยของใบบัวบกในการรักษาโรคกลุ่มนี้
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่อาจได้ผลเส้นเลือดขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงรักษาและก็สร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเจริญเติบโตของเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิต ยิ่งกว่านั้น ยังมีการเล่าเรียนโดยการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวโยง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้สารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยบรรเทาอาการผู้ป่วยเส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากงานค้นคว้าระบุว่าบทสรุปข้างต้นจำต้องแปลความหมายด้วยความระแวดระวังเพราะข้อจำกัดต่างๆของงานวิจัย รวมทั้งยังจำเป็นจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนแล้วก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แต่ยังมีหลักฐานเกื้อหนุนน้อยเกินไปโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับในการลดปริมาณไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกลุ่มหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน แล้วก็อีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของหลอดเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครทั้งยัง 2 กลุ่มไม่ได้ต่างอะไรกัน แต่ว่าในกรุ๊ปที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมทั้งลักษณะของพลัคทั้งยังความครึ้มรวมทั้งความยาวก็น้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน ทั้งยังยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้ และมีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เนื่องมาจากหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็งยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ป้องกันลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจช่วยปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุมาจากการโดยสารเรือบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาเสนอแนะว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวรวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในผู้ที่โดยสารเครื่องบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการเรียนชิ้นนี้จะหมายความว่าการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เหตุเพราะหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการปกป้องลิ่มเลือดยังไม่เพียงพอ จึงต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในคนไข้เบาหวาน การค้นคว้าหนึ่งให้คนเจ็บโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยจำนวน 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารไตรเทอร์พีนอยด์เป็นหัวใจสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกเป็นประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของคนไข้โรคเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนเลือดยังไม่พอ จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการวิจัยเกี่ยวกับสมรรถนะและก็ผลข้างเคียงของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งคนเจ็บเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารเอเชียตำหนิโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. แล้วก็อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลข้างหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และมีการประเมินผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนไข้ที่รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดียิ่งกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบ
บัวบกอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลใกล้กัน แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการรักษาแผลเบาหวานยังไม่พอ ก็เลยควรต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก เป็นต้นว่า ทวีปเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ กรดเอเชียติเตียนก มาเดแคสโซไซด์ และก็กรดมาดีค้างสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายและอาจมีสมรรถนะสำหรับเพื่อการรักษาแผลต่างๆแผลขนาดเล็ก แผลไฟลุก แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลแบบนูน ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องนาน 6-8 สัปดาห์ อาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่ด้วยเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแผลยังไม่พอ จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีการค้นคว้าวิจัยชี้แนะให้ผู้ที่กำลังมีท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน บ่อยๆทุกวี่วันในตอน 6 เดือนในที่สุดก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ ยิ่งกว่านั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงมีท้องปริมาณ 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกลุ่มที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ลดความไม่สาบายใจ การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเหงาหงอยแล้วก็ความรู้สึกกังวลใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสามารถของใบบัวบกในการลดความไม่ค่อยสบายใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือรับประทานยาหลอก จากผลของการทดลองแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านความรู้สึกกังวล ช่วยลดความตึงเครียด แต่ยังคงต้องศึกษาเพิ่มอีกต่อไปถึงคุณภาพของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคกังวล
โรคและก็อาการอื่นๆอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การตำหนิดเชื้อทางเดินฉี่ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย ซึ่งยังจึงควรศึกษาค้นคว้าหาประสิทธิภาพแล้วก็ความปลอดภัยสำหรับในการรักษาถัดไป
ความปลอดภัยสำหรับการกินใบบัวบก การใช้สารสกัดจากใบ
บัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังมีท้อง หรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมบุตร เพราะเหตุว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะสนับสนุนถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งต่อเด็ก แม่ หรือทารกในท้อง
การกินใบบัวบกบางทีอาจเป็นต้นเหตุให้กำเนิดความย่ำแย่ต่อตับ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรรับประทานใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจจะส่งผลให้อาการต่างๆแย่ลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกรุ๊ปเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีปีน ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตติน เป็นต้น
การกินใบบัวบกในจำนวนมากอาจก่อให้รู้สึกง่วงงุนได้มากกว่าปกติ หรือถ้ารับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกลุ้มใจลดลง ได้แก่ โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรจะหยุดรับประทานใบ
บัวบกขั้นต่ำ 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เพราะบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับในการผ่าตัดและอาจก่อให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรขอคำแนะนำแพทย์ก่อนรับประทานใบบัวบก แม้อยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ปรารถนาแม้กินใบบัวบกในระหว่างการดูแลรักษาของคนเจ็บโรคกังวล ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนไข้อัลไซเมอร์ รวมถึงผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยากังวลใจน้อยลง รวมทั้งคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่าอาจก่อให้กดประสาทเยอะขึ้นเรื่อยๆ
http://www.disthai.com/Tags : สมุนไพรบัวบก