รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: บัวบกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณ  (อ่าน 495 ครั้ง)

uujuyjk01010205

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด


บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญเติบโตในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบแล้วก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของอินเดียแล้วก็จีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค ตัวอย่างเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาเตรียมอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายอย่าง อาทิเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือตรีเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียว่ากล่าวโคไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียว่ากล่าวก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) แล้วก็กรดมาดีติดอยู่สสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีคุณประโยชน์หลายสิ่งหลายอย่าง อย่างเช่น ทุเลาอาการอักเสบ แม้ใช้กินอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันโลหิตในหลอดโลหิตดำ รวมทั้งประยุกต์ใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีสาเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆยกตัวอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกนั้น ยังมีความคิดกันว่าแม้ใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นสาระสำคัญสำหรับในการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการมีท้อง แต่ว่าข้อรับรองหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากน้อยมีมากมายน้อยแค่ไหนที่จะช่วยยืนยันความเชื่อ สรรพคุณ และก็ความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
การรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงและสร้างสมดุลสำหรับในการเจริญวัยของเนื้อเยื่อเกี่ยวข้อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยแก้ไขการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเล่าเรียนโดยการทบทวนการค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวเนื่อง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนเจ็บที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก และอาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้สารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยทุเลาอาการผู้เจ็บป่วยเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยบอกว่าบทสรุปข้างต้นต้องตีความหมายด้วยความระมัดระวังเพราะว่าข้อกำหนดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้วิจัย และยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องแน่ใจและมีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นได้ แต่ยังมีหลักฐานช่วยเหลือไม่เพียงพอ
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับในการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นโลหิตแดงแข็งที่ไม่ออกอาการกลุ่มหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกเป็นเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นโลหิต พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครอีกทั้ง 2 กรุ๊ปไม่มีความต่างกัน แม้กระนั้นในกลุ่มที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดต่ำลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอรวมทั้งขาลดลง รวมทั้งรูปแบบของพลัคทั้งความครึ้มรวมทั้งความยาวก็น้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการใกล้กันได้ แล้วก็มีการบันทึกผลของการตรวจเลือดเสมอๆ เนื่องด้วยหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่เพียงพอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
คุ้มครองป้องกันลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุจากการโดยสารเครื่องบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาชี้แนะว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวแล้วก็เพิ่มการไหลเวียนเลือดในคนที่ขึ้นรถเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่แจ่มกระจ่างว่าการศึกษาชิ้นนี้จะหมายความว่าการลดการสะสมของลิ่มเลือด ด้วยเหตุว่าหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่พอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในคนเจ็บโรคเบาหวาน การค้นคว้าวิจัยหนึ่งให้คนเจ็บโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยปริมาณ 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นหัวใจสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกเป็นประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของคนเจ็บเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการวิจัยเกี่ยวกับสมรรถนะและก็ผลข้างเคียงของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งผู้เจ็บป่วยเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารทวีปเอเชียติเตียนโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม และอีกกลุ่มกินยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง รวมทั้งมีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนเจ็บที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากยิ่งกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือเรียกได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดผลข้างๆ แม้กระนั้นเนื่องจากว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลเบาหวานยังไม่พอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก เป็นต้นว่า เอเชียว่ากล่าววัวไซด์ กรดเอเชียว่ากล่าวก มาเดแคสโซไซด์ และก็กรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายรวมทั้งอาจมีประสิทธิภาพสำหรับในการรักษาแผลต่างๆทั้งแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ รอยแผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน สม่ำเสมอนาน 6-8 อาทิตย์ อาจช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแผลยังไม่เพียงพอ จึงจะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการมีครรภ์ ได้มีงานศึกษาวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน เป็นประจำทุกวี่วันในช่วง 6 เดือนในที่สุดก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงตั้งครรภ์ปริมาณ 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แต่ว่าเนื่องจากว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกกังวล การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการกลัดกลุ้มรวมทั้งความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสามารถของใบบัวบกสำหรับในการลดความวิตกกังวล โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลการทดลองทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านทานความรู้สึกหนักใจ ช่วยลดความเครียด แต่ว่ายังคงจำเป็นต้องเล่าเรียนเพิ่มเติมต่อไปถึงประสิทธิภาพของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคตื่นตระหนก
โรคและอาการอื่นๆเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การต่อว่าดเชื้อทางเท้าเยี่ยว โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจึงควรทำการศึกษาหาประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยในการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังมีครรภ์ หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมบุตร เพราะยังไม่มีหลักฐานทางด้านการแพทย์เพียงพอที่จะเกื้อหนุนถึงเรื่องความปลอดภัยอีกทั้งต่อเด็ก มารดา หรือทารกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นต้นเหตุให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อตับ ด้วยเหตุดังกล่าวผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรกินใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจทำให้อาการต่างๆห่วยลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มกลุ่มนี้ ดังเช่นว่า พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีป่ายปีน ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตว่ากล่าวน ฯลฯ
การรับประทานใบบัวบกในจำนวนมากอาจจะก่อให้รู้สึกง่วงงุนได้มากกว่าธรรมดา หรือถ้าหากกินร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกังวลใจน้อยลง อย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างน้อย 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุว่าอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับการผ่าตัดรวมทั้งอาจจะทำให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรจะขอคำแนะนำหมอก่อนรับประทานใบบัวบก ถ้าอยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ประสงค์หากรับประทานใบบัวบกในระหว่างการรักษาของผู้ป่วยโรควิตกกังวล คนเจ็บโรคเบาหวาน คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกังวลใจน้อยลง และก็ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้กดประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า