รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 590 ครั้ง)

a123

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 12
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2018, 11:13:20 AM »


ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในตระกูลถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และก็อยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง), ลมแล้ง (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกแล้วก็ชอบเขียนผิดหรือสะกดไม่ถูกเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) เป็นต้น
คำว่า “ราชพฤกษ์” หมายความว่า “ต้นไม้ของพระเจ้าแผ่นดิน” ซึ่งเป็นเครื่องหมายของงานนิทรรศการพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อสังสรรค์ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระเจ้าอยู่หัวของพวกเราทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อเสนอและก็สรุปให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ รวมทั้งสถาปัตยกรรม ซึ่งจากการไตร่ตรองได้บทสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติคือ “ศาลาไทย” และก็ในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุมีผลสำหรับในการคัดดังต่อไปนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ ฯลฯไม้ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างล้นหลาม ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเจอได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียมคนประเทศไทยมาอย่างช้านาน เพราะเป็นไม้มงคลนามแล้วก็ใช้สำหรับในการประกอบพิธีสำคัญๆต่างๆหลายพิธีการ เช่น พิธีลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างนานาประการ ดังเช่นว่า การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานรวมทั้งแข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีรูปทรงแล้วก็พุ่มไม้ที่สวยสดงดงาม มีดอกเหลืองสวยงามเต็มต้น แลดูงามยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เป็นเครื่องหมายแห่งศาสนาพุทธ แล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกจากนี้ตามตำราพืชที่มีความมงคล 9 ประเภทยังระบุไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นใหญ่ ความมีอิทธิพลบุญบารมี มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรครวมทั้งอาการต่างๆโดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นสรรพคุณทางยานั้น ดังเช่น ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก รวมทั้งเมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ได้ทั้งกับเด็ก สตรี รวมไปถึงคนสูงอายุ โดยปลอดภัยใดๆก็ตาม
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชพื้นบ้านในแถบเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของประเทศปากีสถานไปจนกระทั่งอินเดีย ประเทศพม่า แล้วก็ประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาสะอาด มักขึ้นทั่วไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการระบายน้ำดี แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเม็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกลงในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกภายในพื้นที่ แต่ว่าในปัจจุบันบางครั้งอาจจะใช้แนวทางการทาบกิ่งแล้วก็แทงยอดก็ได้ แต่ว่าช่องทางสำเร็จจะน้อยกว่าวิธีการเพาะเม็ด
ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) ลักษณะของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียววาว ช่อหนึ่งยาวราว 2.5 เซนติเมตร และก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆราว 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างโดยประมาณ 5-7 ซม. แล้วก็ยาวราว 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนแล้วก็สอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางสะอาด มีเส้นกิ่งก้านสาขาใบถี่แล้วก็โค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์
ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) ออกดอกเป็นช่อ ยาวราว 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวโดยประมาณ 1 ซม. กลีบมี 5 กลีบ หลุดหล่นได้ง่าย แล้วก็กลีบดอกไม้ยาวกว่ากลีบรองดอกประมาณ 2-3 เท่า และก็มีกลีบรูปไข่จำนวน 5 กลีบ บริเวณพื้นกลีบจะเห็นเส้นกลีบเด่นชัด ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดไม่เหมือนกันจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกมักจะบานในตอนมีนาคมถึงพ.ค. แต่ก็มีบางครั้งที่มีดอกนอกฤดูเหมือนกัน เป็นต้นว่า ในตอนธันวาคมถึงเดือนมกราคม
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน
ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกหมดจดๆฝักยาวราว 20-60 เซนติเมตร แล้วก็วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 ซม. ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆชิดกันอยู่เป็นช่องๆตามแนวขวางของฝัก และก็ในช่องจะมีเม็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดประมาณ 0.8-0.9 ซม.
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์
สรรพคุณของราชพฤกษ์
ช่วยบำรุงเลือดในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นรวมทั้งใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเม็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เม็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการกางใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำกิน (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวน้อย มีกลิ่นเหม็นเหม็นเบื่อ เย็นจัด สรรพคุณสามารถใช้ขับเสลดได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการอยากกินน้ำ (ฝัก)
เปลือกเม็ดรวมทั้งเปลือกฝักมีคุณประโยชน์ช่วยทำลายพิษ ทำให้อ้วก หรือจะใช้เม็ดโดยประมาณ 5-6 เม็ด เอามาบดเป็นผุยผงแล้วกินก็ได้ (เมล็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก และก็ใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และก็หัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แก้อาการกลัดกลุ้ม หนักหัว หนักตัว ทำให้กระชุ่มกระชวยหน้าอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
คุณประโยชน์ราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำดื่ม (ฝัก)
ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยสำหรับในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวก ไม่มวนท้อง แก้ท้องผูก เหมาะกับคนที่มีลักษณะท้องผูกบ่อยๆรวมทั้งสตรีมีครรภ์ เนื่องจากว่ามีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่านิ้วโป้ง (หนักประมาณ 4 กรัม) แล้วก็น้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือเล็กน้อย ใช้ดื่มก่อนกินอาหารรุ่งเช้าหรือช่วงก่อนนอนเพียงแต่ครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เม็ด)
เมล็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องร่วง (เมล็ด)
ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและก็แผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เม็ด)
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยทำให้กำเนิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เมล็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ รวมทั้งน้ำตาล แล้วนำมารับประทาน (เมล็ด)
ฝักรวมทั้งใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งราวๆ 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำกิน (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีคุณประโยชน์ช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสขื่นเมา ช่วยขับเกลื่อนกลาดที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
คุณประโยชน์ของคูน รากใช้แก้โรคโรคกุฏฐัง (ราก)
ใบสามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากเอามาฝนใช้ทารักษาขี้กลากโรคเกลื้อน แล้วก็ใบอ่อนก็ใช้แก้ขี้กลากได้เช่นเดียวกัน (ราก, ใบ)
เปลือกและใบเอามาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผื่นผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกรวมทั้งใบเอามาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน สรรพคุณของดอกช่วยแก้รอยแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ คุณประโยชน์ช่วยสมานรอยแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
คนอินเดียใช้ใบเอามาโขลก เอามาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและอัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนรวมทั้งแมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำทิ้งไว้ราวๆ 2-3 วัน แล้วใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะสามารถช่วยในการกำจัดแมลงและหนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
นอกเหนือจากนั้นยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเยอะมาก เช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่เคี่ยวมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต แล้วก็จัดการกับปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน แล้วก็อบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะมองตามโรคแล้วก็สิ่งที่ต้องการเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้แตกต่างกัน
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่นำมาบดเป็นผง ช่วยแก้ลักษณะของการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกรอบๆที่เป็นจะช่วยทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต ทุเลาลักษณะของการปวดข้อ รักษาโรคเกาต์ และยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับคนป่วยที่เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าครึ่งซีก ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาคา ทำจากใบคูน สรรพคุณช่วยในด้านสมอง แก้ไขปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดียิ่งขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาแบบอื่นๆ

ข้อควรคำนึง !
:กระบวนการทำเป็นยาต้ม ควรจะต้มให้พอควรก็เลยจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ถ้าเกิดต้มนานเหลือเกินหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่ว่าจะก่อให้ท้องผูกแทน และควรจะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากเกินความจำเป็น และยาต้มที่ได้ถ้าเกิดกินมากเกินความจำเป็นอาจจะเป็นผลให้อาเจียนได้
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากราชพฤกษ์
นิยมปลูกไว้ฯลฯไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆดังเช่นว่า สถานที่ราชการ รอบๆข้างถนนข้างทาง และก็สถานที่อื่นๆ
ต้นราชพฤกษ์กับความเลื่อมใส ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามที่คนประเทศไทยโบราณมั่นใจว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยทำให้ทรงเกียรติและก็เกียรติยศ ปัจจัยเนื่องจากว่าคนให้การยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงและก็ยังเป็นเครื่องหมายของประเทศไทยอีกด้วย แล้วก็ยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้อาศัยนั้นเจริญรุ่งเรือง โดยจะนิยมนำมาปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์รวมทั้งปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน (อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะด้านดังที่กล่าวถึงแล้วได้รับแดดจัดในช่วงช่วงเวลาบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนด้านในภายและก็ช่วยใชัพลังงานน้อยลง)
ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความมงคลรวมทั้งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา ดังเช่นว่า พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาฤกษ์สำหรับในการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีนัก เป็นต้น
แก่นไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆดังเช่นว่า ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ เป็นต้น
เนื้อของฝักแก่สามารถนำมาใช้แทนกากน้ำตาลในการทำเป็นหัวเชื้อจุลชีพและจุลชีวันขยายได้
ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอเหมาะพอควร โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บที่ทำการแผนการรักษากรรมพันธุ์พืชอันเนื่องมาจากความคิด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า แล้วก็พันธุ์พืช, เว็บไทยโพส, สำนักงานปรับปรุงเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (หน่วยงานมหาชน), งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, สำนักงานกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า