รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 607 ครั้ง)

ำพ

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2018, 09:38:44 AM »


ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในสกุลถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) แล้วก็อยู่ในสกุลย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกลาง), ราชพฤกษ์ (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วไปเรียกและชอบเขียนไม่ถูกหรือสะกดไม่ถูกเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) เป็นต้น
คำว่า “ราชพฤกษ์” มีความหมายว่า “ต้นไม้ของพระเจ้าแผ่นดิน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานมหกรรมแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อสังสรรค์ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระเจ้าอยู่หัวของเราทรงครอบครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อเสนอและก็สรุปให้มีการระบุเครื่องหมายประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ และก็สถาปัตยกรรม ซึ่งจากการพิเคราะห์ได้ผลสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น “ศาลาไทย” และก็ในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุผลสำหรับเพื่อการเลือกสรรดังนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดฯลฯไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่คนประเทศไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเห็นได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับจารีตชาวไทยมาอย่างนาน เพราะว่าเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามแล้วก็ใช้ในการประกอบพิธีสำคัญๆต่างๆหลายพิธี ดังเช่นว่า พิธีลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้คุณประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย อาทิเช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ อื่นๆอีกมากมาย
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานแล้วก็แข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีรูปทรงและพุ่มไม้ที่สวยสดงดงาม มีดอกเหลืองอร่ามเต็มต้น แลดูสวยงามยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ที่พุทธศาสนา แล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชการเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกนั้นตามตำราพืชที่มีความเป็นสิริมงคล 9 จำพวกยังระบุไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ความมีอำนาจวาสนา มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรคและก็อาการต่างๆโดยส่วนที่นำมาใช้เป็นคุณประโยชน์ทางยานั้น ดังเช่นว่า ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก แล้วก็เมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับเด็ก สตรี รวมถึงคนชรา โดยไม่มีอันตรายใดๆก็ตาม
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชพื้นเมืองในแถบทวีปเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนกระทั่งอินเดีย พม่า แล้วก็ประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาสะอาด มักขึ้นทั่วไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการถ่ายเทน้ำดี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกลงในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกในพื้นที่ แต่ว่าในปัจจุบันอาจจะใช้กรรมวิธีการทาบกิ่งรวมทั้งทิ่มยอดก็ได้ แต่ว่าโอกาสสำเร็จจะน้อยกว่ากรรมวิธีการเพาะเมล็ด
ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) รูปแบบของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นเงา ช่อหนึ่งยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร แล้วก็มีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆประมาณ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างราวๆ 5-7 เซนติเมตร และก็ยาวราว 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนรวมทั้งสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางหมดจด มีเส้นกิ้งก้านใบถี่และโค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์
ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) ออกดอกเป็นช่อ ยาวโดยประมาณ 20-45 เซนติเมตร มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวราว 1 ซม. กลีบมี 5 กลีบ หลุดตกได้ง่าย และกลีบดอกไม้ยาวกว่ากลีบรองดอกประมาณ 2-3 เท่า แล้วก็มีกลีบรูปไข่ปริมาณ 5 กลีบ บริเวณพื้นกลีบจะเห็นเส้นกลีบกระจ่าง ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างกันจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกมักจะบานในตอนเดือนมีนาคมถึงพ.ค. แต่ว่าก็มีบางครั้งที่มีดอกนอกฤดูแบบเดียวกัน เป็นต้นว่า ในตอนธันวาคมถึงม.ค.
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน
ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักทรงกระบอกสะอาดๆฝักยาวราวๆ 20-60 ซม. และวัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆติดกันอยู่เป็นช่องๆตามขวางของฝัก รวมทั้งในช่องจะมีเม็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดโดยประมาณ 0.8-0.9 เซนติเมตร
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์
ช่วยบำรุงรักษาโลหิตในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นและใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเมล็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เม็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการใช้ใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวบางส่วน มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด คุณประโยชน์สามารถใช้ขับเสมหะได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการหิวน้ำ (ฝัก)
เปลือกเมล็ดแล้วก็เปลือกฝักมีสรรพคุณช่วยทำลายพิษ ทำให้อาเจียน หรือจะใช้เมล็ดประมาณ 5-6 เมล็ด เอามาบดเป็นผุยผงแล้วกินก็ได้ (เม็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ สรรพคุณของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก แล้วก็ใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และหัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย แก้อาการซึมเซา หนักหัว หนักตัว ทำให้ชุ่มชื่นอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
คุณประโยชน์ราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
ช่วยรักษาเด็กเป็นต้นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งราว 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำ (ฝัก)
ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยสำหรับการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวก ไม่มวนท้อง แก้ท้องผูก เหมาะสำหรับคนที่มีลักษณะอาการท้องผูกบ่อยๆและสตรีมีครรภ์ เนื่องจากว่ามีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่านิ้วโป้ง (หนักประมาณ 4 กรัม) แล้วก็น้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือเล็กน้อย ใช้ดื่มก่อนกินอาหารตอนเช้าหรือตอนก่อนนอนเพียงครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เม็ด)
เม็ดมีรสฝาดเมา คุณประโยชน์ช่วยแก้ท้องร่วง (เม็ด)
ช่วยหล่อลื่นไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและแผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เมล็ด)
สรรพคุณของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยทำให้เกิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เม็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ แล้วก็น้ำตาล แล้วนำมารับประทาน (เมล็ด)
ฝักแล้วก็ใบมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งราวๆ 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำ (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสเฝื่อนเมา ช่วยขับรกที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
สรรพคุณของคูน รากใช้แก้โรคโรคกุฏฐัง (ราก)
ใบสามารถประยุกต์ใช้สำหรับในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากนำมาฝนใช้ทารักษากลากโรคเกลื้อน และใบอ่อนก็ใช้แก้ขี้กลากได้เหมือนกัน (ราก, ใบ)
เปลือกและใบนำมาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผดผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกรวมทั้งใบนำมาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน คุณประโยชน์ของดอกช่วยแก้บาดแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ สรรพคุณช่วยสมานบาดแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
คนแขกใช้ใบนำมาโขลก เอามาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและก็อัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนแล้วก็แมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำทิ้งไว้ราวๆ 2-3 วัน แล้วก็ใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยในการกำจัดรอยคราบแมลงแล้วก็หนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาดัดแปลงทำเป็นสินค้าต่างๆมาก ดังเช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่ต้มมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต แล้วก็จัดการกับปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน รวมทั้งอบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะดูตามโรคแล้วก็สิ่งที่จำเป็นเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ต่างกัน
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่นำมาบดเป็นผง ช่วยแก้อาการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเอามาพอกรอบๆที่เป็นจะช่วยทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต ทุเลาลักษณะของการปวดข้อ รักษาโรคโรคเกาต์ และก็ยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับผู้เจ็บป่วยที่เป็นอัมพาตใบหน้าครึ่งด้าน ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาคา ทำจากใบคูน คุณประโยชน์ช่วยในด้านสมอง จัดการกับปัญหาเส้นโลหิตตีบในสมอง ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนภายในร่างกายดียิ่งขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มควบคู่ไปกับการรักษาแบบอื่นๆ

ข้อควรปฏิบัติตาม !
:วิธีการทำเป็นยาต้ม ควรต้มให้พอสมควรก็เลยจะได้ประสิทธิภาพที่ดี ถ้าเกิดต้มนานเกินความจำเป็นหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แม้กระนั้นจะทำให้ท้องผูกแทน และควรจะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินไป รวมทั้งยาต้มที่ได้ถ้าเกิดรับประทานมากเกินความจำเป็นอาจก่อให้อาเจียนได้
ประโยชน์ซึ่งมาจากราชพฤกษ์
นิยมนำมาปลูกไว้เป็นต้นไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆเช่น สถานที่ราชการ บริเวณข้างถนนข้างทาง แล้วก็สถานที่อื่นๆ
ต้นราชพฤกษ์กับความเลื่อมใส ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนามที่คนไทยโบราณมั่นใจว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้ทรงเกียรติแล้วก็เกียรติ ปัจจัยเนื่องจากคนให้การสารภาพว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงแล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย และก็ยังเชื่อว่าจะก่อให้ผู้อยู่อาศัยนั้นรุ่งเรือง โดยจะนิยมนำมาปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์แล้วก็ปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉใต้ของบ้าน (อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะทิศดังกล่าวข้างต้นได้รับแสงอาทิตย์จัดในตอนช่วงเวลาบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนภายในบ้านแล้วก็ช่วยใชัพลังงานน้อยลง)
ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลแล้วก็ศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีบูชาต่างๆทางศาสนา เช่น พิธีการวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาฤกษ์สำหรับในการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีนัก เป็นต้น
เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆอย่างเช่น ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ ฯลฯ
เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลในการทำเป็นหัวเชื้อจุลชีพและก็จุลชีพขยายได้
ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอเหมาะพอควร โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บที่ทำการแผนการรักษาพันธุกรรมพืชสาเหตุจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า รวมทั้งพันธุ์พืช, เว็บไซต์ไทยโพส, ที่ทำการพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (หน่วยงานมหาชน), งานแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, ที่ทำการกองทุนเกื้อหนุนการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า