รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 448 ครั้ง)

กาลครั้งหนึ่ง2560

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 120
    • ดูรายละเอียด


เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานค้นคว้าที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในผู้เจ็บป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวมาแล้วมีส่วนสำหรับในการยัยยั้งลักษณะการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้วิจัยล้นหลามถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจส่งผลต่อการต้านการอักเสบในคนไข้โรคมะเร็งปอดบางราย แต่ยังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่เกื้อหนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อพินิจพิจารณาเปรียบจากการรวบงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่ศึกษาประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าผู้เจ็บป่วยสนองตอบต่อการดูแลรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบรรเทาได้ดิบได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นเมื่อทดสอบการใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับเพื่อการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
ยิ่งกว่านั้น จาการทบทวนงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่ามีงานค้นคว้าวิจัย 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์สนับสนุนว่าเห็ดหลินจืออาจชมรมต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนป่วยให้ดีขึ้น และก็ในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
ดังนั้น ก็เลยอาจกล่าวได้ว่า ข้อพิสูจน์ทางคุณสมบัติรวมทั้งคุณประโยช์จากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาค้นคว้าวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงการทดลองในผู้ป่วยบางกรุ๊ปแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจัดการทดลองถัดไปเพื่อได้สำเร็จลัพ์ที่ชัดเจนแล้วก็เป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อการรักษาคนป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต แล้วก็การเจ็บป่วยในระบบทางเท้าฉี่
มีแนวทางการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในผู้เจ็บป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะฉี่ขัดข้อง หลังการทดลองกว่า 12 สัปดาห์ คำตอบที่ได้คือ ผู้เจ็บป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับการวัดปัญหาในระบบฟุตบาทปัสวะของคนป่วยจากการตอบคำถาม แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ดังนั้น การทดลองดังที่กล่าวถึงแล้วก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างเพียงพอ ควรต้องมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่ชัดแจ้งสำหรับเพื่อการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยว
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดลองทางด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับเพื่อการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพวกนั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเสีย หรือท้องผูก
ดังนั้นจำเป็นต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองปกป้องรวมทั้งการรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจต่อไป และให้ได้การแจ่มแจ้งชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวถึงมาแล้วเยอะขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นประโยชน์ต่อกรรมวิธีรักษาคุ้มครองโรคเส้นเลือดหัวใจรวมทั้งอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องถัดไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเพื่อการบริโรคเห็ดหลินจืออย่างแจ่มแจ้ง เนื่องประสิทธิผลแล้วก็ผลข้างคียงจากการบริโภค โดยเหตุนั้น ผู้บริโภค ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนการบริโรค เนื่องจากว่าถึงแม้เห็ดหลินจือในแต่ละรูปแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แม้กระนั้นสารเคมีแล้วก็ส่วนประต่างอาจส่งผลใกล้กันที่เป็นอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้เหมือนกัน

โดยทั่วไป จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันเป็นต้นว่า
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นผู้ซื้อก็ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ รวมทั้งขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรอบคอบในด้านปริมาณและแบบอย่างเห็ดหลินจือที่บริโภค เนื่องจากว่าบางทีอาจเป็นผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ในตอนหลัง
โดยข้อควรคำนึงในการบริโภคเห็ดหลินจือได้แก่
ลูกค้าทั่วๆไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจทำให้เกิดผลกระทบได้ อย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การสูดหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่ควรจะระวังสำหรับการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมลูก แม้ยังไม่มีการยืนยันผลข้างเคียงที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้บริโภคนี้แต่ว่าคนที่ท้องรวมทั้งคนที่กำลังให้นมบุตรควรจะเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อร่างกายของตนเองรวมทั้งลูกน้อย
คนที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุนี้ เพื่อลดความเสี่ยง คนเจ็บควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ด้วยเหตุนี้ คนป่วยภาวการณ์ความดันโลหิตต่ำควรต้องเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากบางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ เพราะฉะนั้นผู้เจ็บป่วยสภาวะเกล็ดเลือดต่ำก็เลยไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนไข้บางราย โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะเลือกออกไม่ปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/
บันทึกการเข้า