รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝรั่งนั้นมีข้อดียังไง เเละสามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง  (อ่าน 646 ครั้ง)

แสงจันทร์5555

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
    • ดูรายละเอียด


ฝรั่ง
ชื่อสมุนไพร  ฝรั่ง
ชื่ออื่นๆ/ ชื่อแคว้น มะก้วย  มะก้วยกา มะกา (เชียงใหม่) , มะปั่น (จังหวัดลำปาง) , บักสีดา (อีสาน) , สีดา (จังหวัดนครพนม) จุ่มโป่ (สุราษฎร์) , ชมพู่ (ปัตตานี) , ยามู ,คุณย่าหมู (ภาคใต้) ยะมูบุเตบันยา (ท้องนาราธิวาส , มลายู) , ยะริง (ละว้า) , ฮวงเจี๊ยะหลิ่วกังซิวก้วยแปะจีฉิ่ว (จีน)
ชื่อสามัญ  Guava
ชื่อวิทยาศาสตร์  Psidium guajava Linn
ตระกูล  MYRTACEAE
ถิ่นกำเนิด ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีบ้านเกิดหรือเป็นพืชพื้นเมืองของเมริกาเขตร้อน De Candolle เชื่อว่าอยู่ระหว่างประเทศเม็กซิโก และเปรู รวมทั้งหมู่เกาะอินดีสตะวันตกด้วยชาวประเทศสเปนนำจากฝั่งแปซิฟิคไปยังฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศโปรตุเกสนำจากฝั่งตะวันตกไปยังประเทศอินเดีย สำหรับในประเทศไทยนั้น คาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงยุคของสมเด็จพระที่นารายณ์มหาราช ปัจจุบันนี้เป็นพืชมีขึ้นทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งร้อน ปลูกเป็นไม้ผลตามบ้าน ตามสวนทั่วไป
ลักษณะทั่วไป ฝรั่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูง 5-10 เมตร ลำต้นกิ่งไม้มีเนื้อไม้เหนียวแข็งดี เปลือกต้นเรียบมีเหลืองอ่อนออกเทา และมีรอยลอกออกเป็นแผ่นๆก้านอ่อนมีลักษณะสี่เหลี่ยม มีขนสีขาวๆสั้น ก้านแก่ ขนหล่นไปหมด ยอดอ่อนมีขนสีขาวสั้นๆปกคลุม ใบเป็นใบโดดเดี่ยวออกตรงข้ามกันมีน้อยที่ออกเป็นวง (ที่ข้อเดียวกันออกเกินกว่า 2 ใบ) ใบรูปไข่ยาว 5-12 เซลเซียสมัธยม หรือกว้าง 3-5 ซ.มัธยม ขยี้ใบสูดดมดูจะมีกลิ่นหอมสดชื่น ใบบางเหมือนแผ่นหนัง ปลายใบมนหรือแหลมสั้น ฐานใบค่อยๆขยายแหลมออกมายังกลางใบ ขอบใบเรียบหลังใบมีสีเขียวแก่ มีรอยเส้นใบ (บุบลงไปน้อย) ท้องใบมีขนสั้นๆสีขาวนุ่ม แล้วก็มีเส้นใบเป็นรอยนูนออกมา มีเส้นใบ 7-11 คู่ ก้านใบยาว 4 ซม. ดอกบางทีอาจออกเป็นช่อ 1-4 ดอก มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวกลมมน กลีบดอกไม้สาวบางๆหลุดร่วงง่าย ยาว 2-2.5 ซ.มัธยม มีเกสรตัวผู้มากมาย มีก้านเกสรตัวผู้สีขาวยาวเท่าๆกับกลีบดอก มีอับเรณูสีเหลืองอ่อน มีก้านเกสรตัวเมีย 1 อันยาวพุ่งขึ้นมาสูงยิ่งกว่าก้านเกสรตัวผู้ รังไข่อยู่ข้างล่างมี 5 ห้องรวมทั้งลักษณะทรงกลม รวมทั้งมีกลีบเลี้ยงเหลือติดอยู่ที่ปลายผล ผลทรงกลม  มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวโดยประมาณ 3-15 ซ.มัธยม เนื้อผลส่วนใหญ่มีสีเหลือง ขาว หรือชมพู มีกลิ่นหอมหวน เมล็ดแข็ง เป็นรูปไตมีเยอะๆ ขนาดเม็ด 0.3-0.5 ซม. สีขาวอ่อน พบได้ทั่วไปปลูกตามบ้านหรือสวนทั่วไปเอาผลไว้กินหรือขาย
การขยายพันธุ์    สามารถเจริญวัยได้ดีในทุกสภาพดิน และทนต่อความแล้ง แล้วก็น้ำนองได้น้อย แต่ว่าโดยปกติมักถูกใจเติบโตเจริญในดินร่วนซุยคละเคล้าทราย ที่มีสภาพพื้นที่มีการระบายน้ำดี สามารถได้ผลผลิตได้ประมาณ 1 ปีหลังปลูก ผลสามารถเก็บได้ในตอน 4-5 เดือน ข้างหลังติดดอก  โดยธรรมดาจะให้ผลได้ในช่วงปลายฤดูแล้งถึงต้นฤดูฝนหมายถึงช่วงเดือนมีนาคม-เดือนมิถุนายน
                สำหรับในการแพร่พันธุ์ฝรั่งสามารถทำได้หลายแนวทาง ยกตัวอย่างเช่น การปลูกด้วยเม็ด การทาบกิ่ง การติดตา การปักชำ แต่วิธีที่นิยมมากที่สุด คือ การตอนกิ่ง
การเตรียมดิน และการเตรียมแปลง สำหรับในการปลูกฝรั่งนั้น สามารถทำได้ 2 แบบอย่างตามภาวะพื้นที่ เป็น

  • พื้นที่ดินเหนียว อุทกภัยขังง่าย แล้วก็มีระบบน้ำมากเกินพอเพียง ให้ทำขุดร่องลุกราวๆ 1 เมตร กว้าง 1-2 เมตร เพื่อเป็นแถวร่องสำหรับเพื่อการให้น้ำ การเตรียมแปลง รวมทั้งการปลูกเอาไว้ในรูปแบบนี้พบบ่อยในพื้นที่ลุ่มภาคกลางเป็นส่วนใหญ่
  • พื้นที่ทั่วๆไปที่มีระบบระเบียบน้ำไม่เพียงพอ สามารถปลูกในแปลงโดยไม่ยกร่องหรือการยกร่องสูงราวๆ 30 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่องราวๆ 3-4 เมตร ดังนี้ ให้ทำไถดะ 1 ครั้ง เพื่อตากดิน และก็กำจัดวัชพืช และไถแปร 1 ครั้ง โดยเว้นตอนห่างประมาณ 1-2 อาทิตย์ จากนั้นทำไถชูร่อง
ส่วนวิธีการปลูกฝรั่ง มีดังนี้

  • ใช้กิ่งชนิดจากการตอนหรือการปักชำ
  • ขุดหลุมปลูก กว้าง ลึก ขนาด 50×50 ซม. แต่ละหลุมห่างกันโดยประมาณ 3 เมตร ระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 3-4 เมตร หรือตามขนาดระยะห่างของร่อง
  • รองพื้นด้วยปุ๋ยมูลสัตว์หรือมูลสัตว์ราว 0.5 กิโลกรัม/หลุม หรือขนาด 1 พลั่วตัก พร้อมคลุกดินผสมตูดหลุมให้สูงราว 1 ฝ่ามือ ทั้งนี้อาจผสมปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 ในอัตรา 1 กำมือ/หลุมก็ได้
  • นำกิ่งจำพวก จากการทำหมันหรือการปักชำลงหลุมปลูก โดยกลบดินสูงเหนือปากหลุมเล็กน้อย ดังนี้ควรให้ดินกลบเหนือเขตรากสูงประมาณ 10-15 ซม.
  • ใช้หลักไม้ปักหลุม รวมทั้งผูกเชือกยึดลำต้น
  • เมื่อปลูกเสร็จควรจะให้น้ำให้เปียกโดยทันที


การให้น้ำ เริ่มให้น้ำครั้งแรกข้างหลังการปลูกเสร็จให้เปียกชุ่ม หลังจากนั้น ให้น้ำทุก 2 ครั้ง/วัน เช้าตรู่-เย็น จนถึงต้นฝรั่งตั้งตัวได้ โดยอาจเลือกใช้ระบบการให้น้ำที่มีคุณภาพ ต่อไปอาจกระทำให้น้ำลดลง ขึ้นอยู่กับภาวะอากาศ และก็ความชื้นของดิน ซึ่งไม่ควรปลดปล่อยให้ดินแห้ง ขาดน้ำ โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนติดผล แต่ในช่วงติดดอกไม่ควรให้น้ำมากซึ่งในระยะนี้เพียงระวังไม่หน้าดินแห้งก็ เพียงพอ
                โดยสายพันธุ์ของฝรั่งที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ เช่น จำพวก แป้นสีทอง , จำพวกกิมจู , พันธุ์กลมสาลี่ , ประเภทไม่มีเมล็ด , ประเภทเวียดนาม เป็นต้น
องค์ประกอบทางเคมี
quercetin, quercetin-3-arabinoside , quercetin 3-O-b-L-arabinoside (guajavarin),                                    quercetin 3-O-b-D-glucoside (isoquercetin), quercetin 3-O-b-D-galactoside (hyperin),                             quercetin 3-O-b-L-rhamnoside (quercitrin) แล้วก็ quercetin 3-O gentiobioside , Tannin ในผิวฝรั่งเมื่อนำมาสกัดน้ำมันระเหย พบสารต่างๆอาทิเช่น 1,8-cineole  ,   a-copaene,  trans-caryophyllene  , humulene  ,  a-amorphene ,    nerolidol   , caryophyllene oxide ,  epigiobulol, longitorenedehyde , aromaden dendrene , helifdenolC อื่นๆอีกมากมาย  และสำหรับคุณค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ (165 กรัม) เป็น

  • พลังงาน 112 กิโลแคลอรี
  • ใยอาหาร 8.9 กรัม
  • โปรตีน 4.2 กรัม
  • ไขมัน 1.6 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม
  • วิตามินเอ 1030 IU
  • วิตามินซี 377 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 0.1 มก.
  • วิตามินบี 2 0.1 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 1.8 มก.
  • กรดโฟลิก 81 ไมโครกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 30 มก.
  • ธาตุฟอสฟอรัส 66 มก.
  • ธาตุเหล็ก 0.4 มก.
  • ธาตุโพแทสเซียม 688 มิลลิกรัม
  • ธาตุทองแดง 0.4 มก. ที่มา : Wikipedia


คุณประโยชน์/คุณประโยชน์ ฝรั่งเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะกับผู้ที่อยากได้ลดความอ้วน ลดหุ่น หรือคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องมาจากฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะมีผลให้อิ่มนาน ช่วยกำจัดท้องร้อง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงเดิม ช่วยปรับให้ระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้เหมาะสม และยังช่วยล้างพิษโดยรวมได้อีกด้วย ก็เลยมีผลทำให้ผิวพรรณมองผ่องใสสดใส โดยฝรั่งจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด และก็ยังมีวิตามินซีสูขี้ตระหนี่ว่าส้มถึง 5 เท่า และก็ยังนิยมนำฝรั่งไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆตัวอย่างเช่น ฝรั่งดอง ฝรั่งแช่บ๊วย พายฝรั่ง แล้วก็ของหวานอีกหลายประเภท รวมถึงนำมาใช้ทำเป็นยาแคปซูลแก้ท้องเสียจากใบฝรั่ง ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ซึ่งบรรจุแคปซูลละ 250 มก.
                นอกนั้นน้ำมันหอมระเหยในใบฝรั่งยังมีการเอาไปใช้ในอุตสาหกรรมของกิน ยกตัวอย่างเช่น หมากฝรั่ง ลูกกวาด รวมถึงนำมาผสมหรือแต่งกลิ่นในน้ำยาบ้วนปากได้อีกด้วย ส่วนสรรพคุณทางยาของฝรั่งนั้นมีดังนี้ ตำรายาไทยบอกว่า เปลือกต้น, ราก รสฝาด สุขุม ใช้แก้แผลเป็นพิษ แก้ปวดฟัน โรคลักปิดลักเปิด แก้อาการเลือดกำเดา แก้น้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง ใบรสฝาดเปียกแฉะ สุขุมไม่มีพิษ ใช้เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องร่วง บิดเรื้อรัง ผื่นคัน ผื่นคัน รอยแผลที่มีเลือดออก ผลที่ยังไม่สุก รสเปรี้ยว ฝาดสุขุม ใช้แก้ท้องร่วง บิด ขจัดกลิ่นปาก แก้ปวดฟัน ผลสุกรสหวานหอมใช้เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ใช้ห้ามเลือดต้านการอักเสบ ลดน้ำตาลในเลือด โดยใช้เปลือกแห้งหนัก 10 กรัม ต้มน้ำกิน ใบแห้งหนัก 3-5 กรัม ถ้าเป็นใบสดใช้หนัก 15-30กรัม ต้มน้ำกิน หากใช้ภายนอกต้มเอาน้ำชะล้างหรือตำพอก ผลที่ยังไม่สุก แห้งหนัก 6-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม
รูปแบบ/ขนาดวิธีใช้

  • แก้ลำไส้อักเสบ บิด ใช้ใบสด 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม
  • แก้กระเพาะลำไส้อักเสบเฉียบพลันและก็ท้องเสีย ที่เกิดจากการย่อยไม่ดี ใช้ใบแห้งหนัก 10-15 กรัม ต้มน้ำดื่ม
  • แก้บาดแผลมีสาเหตุจากการหกล้มหรือกระทบกระแทกหรือรอยแผลมีเลือดออก ใช้ใบสดตำพอกแผลข้างนอก
  • แก้ปวดฟัน ใช้เปลือกรากผสมน้ำส้มสายชูต้มเอามาอมแก้ปวดฟัน
  • แก้เด็กเป็นแผลเล็กแผลน้อยเรื้อรัง ใช้เปลือก ราก ต้มร่วมกับขนไก่ เอามาล้างบาดแผล
  • แก้ผิวหนังเป็นผื่นผื่นคัน ใช้เปลือกต้นสดและก็ใบต้นเอาน้ำชะล้างรอบๆที่เป็น
  • แก้ท้องเสีย ใช้ใบหรือผลดิบ ต้มรับประทานต่างชา (ใบแห้ง 5 กรัม ใส่น้ำ 100 มล.)
  • ใช้สวนล้างช่องคลอดข้างหลังคลอด ใช้น้ำต้มจากใบสดอุ่นๆสวนล้าง
  • ใช้เพื่อการกำจัดกลิ่นปาก ด้วยการนำใบสด 3-5 ใบมาเคี้ยวแล้วคายกากทิ้ง
  • ช่วยรักษาอาการเสียงแห้ง แก้คออักเสบโดยการใช้ผลที่ตากแห้งต้มน้ำกิน
  • ยอดอ่อนๆปิ้งไฟให้เหลืองกรอบ ชงน้ำกินแก้ท้องร่วง บิด ใบสดเคี้ยวอมดับกลิ่นบุหรี่ สุรา และกลิ่นปากได้ดิบได้ดี
การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ลดการบีบตัวของไส้ แก้ท้องเสีย             จากการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยฤทธิ์ทางยาของฝรั่งพบว่าการให้ยาเม็ดแคปซูลใบฝรั่งทีละ 500 มก. ทุก 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน กับคนป่วยที่เป็นโรคอุจจาระตก 122 คน สามารถลดจำนวนครั้งของการถ่ายอุจจาระ ระยะเวลาที่อุจจาระ และปริมาณน้ำเกลือที่ให้ตอบแทนได้  การให้ยาเม็ดแคปซูลฝรั่งขนาด 500 มก. (ที่มีสารฟลาโวนอยด์ 1 มก./แคปซูล 500 มก.)  ทุก 8 ชั่วโมง ตรงเวลา 3 วันในคนป่วยที่มีลักษณะท้องเดิน ปวดท้อง ปริมาณ 50 คน จะสามารถลดการบีบตัวของลำไส้รวมทั้งลดระยะเวลาเจ็บท้องได้   การให้ยาต้มของฝรั่งในคนป่วยเด็กที่เป็นโรคไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส (Rota virus) 62 คน ทำให้อาการดีขึ้นด้านใน 3 วัน ช่วงเวลาท้องร่วงสั้นลง และไม่เจอเชื้อ Rota virus ในอุจจาระมากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุม
                 สารสกัดใบฝรั่งด้วยคลอโรฟอร์ม เฮกเซน เมทานอล รวมทั้งน้ำ สามารถลดการเคลื่อนไหว รวมทั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กของหนูตะเภาและก็หนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้มีการเคลื่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยอะเซทิลโคลีน  สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลปริมาณร้อยละ 50 สามารถยั้งการหดตัวของลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูเม้าส์ที่ถูกรั้งนำให้หดตัวด้วยกระแสไฟฟ้า อะเซทิลโคลีน และธาตุแบเรียมคลอไรด์ได้อย่างสมบูรณ์ และก็สามารถยับยั้งอาการท้องเสียในหนูเม้าส์ที่ถูกโน้มน้าวให้เกิดอาการท้องเสียด้วยน้ำมันละหุ่ง โดยฝรั่งจะไปเพิ่มการดูดซึมน้ำในไส้รวมทั้งลดการบีบตัวของลำไส้   สารสกัดด้วยน้ำของใบฝรั่งสดสามารถยั้งอาการท้องเดินได้ โดยลดปริมาณครั้งของการอุจจาระในหนูซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้เกิดอาการท้องเดินด้วยยา microlax ได้
                 ส่วนสกัดของสารกรุ๊ป polyphenolic, saponin แล้วก็ alkaloid จากใบฝรั่ง สามารถยั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กของหนูตะเภาที่เหนี่ยวนำให้หดเกร็งด้วยอะเซทิลโคลีนและก็โปแตสเซียมคลอไรด์ได้   สาร quercetin แล้วก็ quercetin-3-arabinoside จากใบฝรั่ง สามารถต้านการหดตัวของลำไส้เล็กที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยอะเซทิลโคลีน ทำให้ลำไส้มีการขยับเขยื้อนน้อยลง  นอกจากนี้สาร quercetin ในใบฝรั่งยังสามารถยับยั้งการยุบเกร็งของลำไส้เล็กในหนูแรทรวมทั้งหนูตะเภาซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิดอาการหดเกร็งด้วยสารละลายโปแตสเซียม  อะเซทิลโคลีน แบเรียมคลอไรด์ ฮีสตามีน และซีโรโทนินได้ แล้วก็สามารถลดความรู้ความเข้าใจในการซึมผ่านของๆเหลวของหลอดเลือดฝอยบริเวณท้องซึ่งส่งผลช่วยรักษาอาการท้องร่วง  สาร quercetin 3-O-b-L-arabinoside (guajavarin), quercetin 3-O-b-D-glucoside (isoquercetin), quercetin 3-O-b-D-galactoside (hyperin), quercetin 3-O-b-L-rhamnoside (quercitrin) และ quercetin 3-O-gentiobioside จากใบฝรั่ง สามารถลดการยุบเกร็งของลำไส้เล็กหนูเม้าส์ได้   สาร asiatic acid จากใบฝรั่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อของลำไส้เล็กส่วนปลายของกระต่ายคลายตัว  สารสกัดผลฝรั่งดิบด้วยเมทานอลมีฤทธิ์ต้านการหลั่งอะเซทิลโคลีนในลำไส้เล็กของหนูแรทและหนูตะเภาได้ แม้กระนั้นมีฤทธิ์น้อยกว่าอะโทรป่ายปีน โดยฝรั่งส่งผลทำให้ไส้มีการเคลื่อนลดน้อยลง ทำให้รักษาอาการท้องเสียได้    สารสกัดฝรั่ง (ไม่เจาะจงส่วน) สามารถลดการบีบตัวของลำไส้เล็กของหนูแรทได้
ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียมีการเรียนรู้การต้านเชื้อแบคทีเรียหลายรายงาน ดังเช่นว่า สารสกัดเอทานอลของฝรั่ง สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli, Salmonella enteritidis, Shigella flexneri ได้  สารสกัดน้ำ ความเข้มข้น 10-5 มคล./มล. ทดลองในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ  พบว่าสามารถยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Shigella dysenteriae ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคบิดได้ สารสกัดเปลือกต้น
ด้วย 70% เอทานอล  ความเข้มข้น 250 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ทดลองในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีการเกิดโรคอุจจาระร่วงหมายถึงStaphylococcus aureus, Vibrio cholerae และก็ V. parahaemolyticus แต่ไม่เป็นผลต่อเชื้อ E. coli, Shigella  flexneri, Salmonella typhimurium สารสกัดราก กิ่ง และใบฝรั่งด้วย 50% เอทิลอัลกอฮอล์  ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ  พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย E. coli, Sh. dysenteriae, Sh. flexneri, S. typhimurium ที่เป็นสาเหตุส่งผลให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร แต่ว่าไม่เป็นผลต่อเชื้อ Salmonella enteritidis สารสกัดกิ่งฝรั่งด้วยเอทานอล:น้ำ อัตราส่วน 1:1 ความเข้มข้น 50 มคล. สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Sh. dysenteriae, Sh. flexneri (ซึ่งกระตุ้นให้เกิดโรคบิด) E. coli (แบคทีเรียในลำไส้) S. typhimurium (กระตุ้นให้เกิดโรคไข้รากสาดน้อย) แต่ไม่เป็นผลต่อเชื้อ S. enteritidis สารสกัดทิงเจอร์ของฝรั่ง สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย V. chlorea ที่เป็นต้นเหตุของอหิวาตกโรค ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้แต่เห็นผลปานกลาง  น้ำมันหอมระเหยของใบฝรั่ง สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus แม้กระนั้นไม่เป็นผลต่อเชื้อ Bacillus subtilis, E. coli, S. typhimurium ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้  สารสกัดใบฝรั่งด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์ ความเข้มข้น 1,000 มคก./มิลลิลิตร สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Enterococcus faecalis ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ E. coli, S. typhimurium, S. aureus สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำ ความเข้มข้น 20 มิลลิกรัม/มล. พบว่าสามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย S. dysenteriae 1 (นำมาซึ่งโรคบิด) และก็ V. chlorea (ส่งผลให้เกิดอหิวาต์) ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งขนาดความเข้มข้นต่ำสุดที่ยั้งได้ (MIC) มีค่าพอๆกับ 1.25, 5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เป็นลำดับ
สารสกัดผลดิบของฝรั่งด้วยเมทานอล  ในขนาด 50,100, 300 มก./กิโลกรัม สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. dysenteriae 1, Sh. dysenteriae 2, Sh. dysenteriae 4, Sh. dysenteriae 8 และก็ V. chlorea 1350 ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยั้งได้ (MIC) มีค่าเท่ากับ 100-200 มคก./มล. สารสกัดหยาบของใบฝรั่ง สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Vibrio ที่แยกได้จากกุ้งว่าวกุลาดำที่เป็นโรค 23 สายพันธุ์ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าพอๆกับ 1.25-5.00 มก./มิลลิลิตร สารสกัดใบฝรั่งด้วยอะซีโตน และก็ 95% เอทานอล สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Salmonella B, S. newport, S. typhimurium, Sh.  flexneri นอกนั้นสารสกัดใบ ลำต้นฝรั่งด้วย 95% เอทานอล ยังสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้อีกด้วย  สารสกัดใบ ลำต้นฝรั่งด้วยน้ำ สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย E. coli, Sh. flexneri, S. aureus แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. newport รวมทั้ง S. typhimurium ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ
สารสกัดใบฝรั่งด้วยเมทานอล  สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. flexneri ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าเท่ากับ 10 มก./วัน แม้กระนั้นได้ผลไม่แน่นอนต่อเชื้อ E. coli, S. typhimurium สารสกัดใบฝรั่งด้วย 95% เอทานอล ความเข้มข้น 1,000 มคกรัม/มิลลิลิตร พบว่าสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลให้เกิดโรคอุจจาระหล่น ดังเช่น Salmonella D, Sh. dysenteriae 1, Sh. flexneri 2A, Sh. flexneri 4A  ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้  แต่ไม่เป็นผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. typhimurium type 2, Shigella bodyii, Sh. bodyii 5, Sh. dysenteriae 2, Sh. flexneri 3A, Sh. sonnei  ส่วนสกัดแทนนินจากใบฝรั่ง ความเข้มข้น 85, 95, 95, 100, 110 มคกรัม/มล. สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Sh. flexneri, S. enteritidis, S. aureus , Escherichia piracoli, E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ เป็นลำดับ    สารสกัดใบฝรั่งด้วยเมทานอล  สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Salmonella spp. ได้ 2 สายพันธุ์  แล้วก็ต้านเชื้อ Sh.  flexneri, Sh. virchow, Sh. dysenteriae และก็เชื้อ E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอล:น้ำ(1:1)รวมทั้งอะซีโตน สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย E. coli ที่เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระตกได้ สารสกัดลำต้นฝรั่งด้วย 95% เอทานอล สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย S. newport รวมทั้ง S. typhimurium, Sh. flexneri ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แม้กระนั้นไม่เป็นผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. aureus   น้ำคั้นจากผลฝรั่ง ไม่อาจจะต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Bacillus typhosus ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไข้รากสาดน้อยได้ สารสกัดส่วนที่อยู่เหนือดินด้วยอัลกอฮอล์ รวมทั้งน้ำ (1:1) ความเข้มข้นมากกว่า 25 มคกรัม/มล. ไม่อาจจะต้านเชื้อแบคทีเรีย B. subtilis, E. coli, S. typhosa
มีการทำการศึกษาโดย ปัญจางค์ ธนังข้าล และก็แผนก ในคนไข้ 122 คน ที่เป็นโรคอุจจาระหล่น เป็นชาย 64 คน และก็หญิง 58 คน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 16-55 ปี ศึกษาค้นคว้าเทียบโดยกระบวนการสุ่ม โดยนำใบฝรั่งอบแห้งแล้วบดเป็นผุยผง บรรจุแคปซูล ขนาด 250 มก. ลักษณะเดียวและก็ขนาดเดียวกับ tetracyclin และก็บริหารการรับประทานยาสิ่งเดียวกัน คือ 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน ทั้งสองกรุ๊ป พบว่าใบฝรั่งสามารถลดจำนวนอุจจาระ ระยะเวลาที่ขี้ แล้วก็จำนวนน้ำเกลือที่ให้ชดเชยได้
มีการศึกษาในผู้เจ็บป่วยเด็ก 62 คน ที่เป็นโรคไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส (Rota virus) โดยให้รับประทานยาต้มของฝรั่ง พบว่าอาการดีขึ้นข้างใน 3 วัน รวมทั้งระยะเวลาท้องเสียสั้นลงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ปริมาณโซเดียมรวมทั้งกลูโคสในอุจจาระน้อยลง แล้วก็ผลของการตรวจอุจจาระไม่พบเชื้อ Rota virus สูงถึง 87.1% เวลาที่กรุ๊ปควบคุมไม่พบเชื้อ Rota virus 58.1% มีความหมายว่ายาต้มของฝรั่งมีคุณภาพในการรักษาอาการท้องเสียในคนไข้ไส้อักเสบจากเชื้อ Rota virus ได้
ฤทธิ์ต้านการอักเสบ   จากการเรียนทางสถานพยาบาลในคนเจ็บ 70 คน ที่มีเหงือกอักเสบ พบว่าน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบฝรั่งสามารถลดการอักเสบได้จำนวนร้อยละ 19.8 และก็ลดรอยโรคที่ความรุนแรง ได้จำนวนร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากใบฝรั่ง หลังจากที่ใช้เป็นเวลา 3 สัปดาห์
            สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำขนาด 50-800 มก./กก. เมื่อฉีดเข้าช่องท้องพบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบแบบกะทันหัน  เมื่อทดลองกับอุ้งเท้าหนูที่ถูกรั้งนำให้เกิดการอักเสบด้วยไข่ขาวสด ยิ่งกว่านั้นเมื่อฉีดน้ำมันหอมระเหยจากใบฝรั่งเข้าทางช่องท้องของหนูแรทในขนาด 0.8 มล./กิโล พบว่าสามารถยั้งการอักเสบที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยสาร carrageenan ได้
สารสกัดจากผลฝรั่งด้วยเมทานอลเมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูแรท พบว่าสามารถยับยั้งการอักเสบของอุ้งเท้าหนูที่ถูกรั้งนำให้เกิดการอักเสบด้วยสาร carrageenan, kaolin และ formaldehyde ได้ ยิ่งกว่านั้นสารสกัดผลฝรั่งด้วยเมทานอลเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูเม้าส์จะสามารถยั้งการอักเสบและก็ลดลักษณะการเจ็บปวดที่ถูกเหนี่ยวนำด้วย acetic acid  ได้ดีมากว่าแอสไพรินที่ให้ในขนาดเท่ากันเล็กน้อย
เมื่อนำใบฝรั่งมาหมักกับราแล้วก็แบคทีเรียดังเช่นว่า Phellinus linteus (ส่วนเส้นใย) Lactobacillus plantarum รวมทั้ง Saccharomyces cerevisiae แล้วเอามาสกัดด้วยเอทานอล พบว่าสารสกัดที่ได้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งการสร้างสารที่นำมาซึ่งการอักเสบเป็น ไนตริกออกไซด์แล้วก็ พรอสต้ามึงรนดิน อี 2 ในหลอดทดลอง ยิ่งกว่านั้นสารสกัดฝรั่งด้วยเอทานอลและก็น้ำยังออกฤทธิ์ยั้งการสร้างไนตริกออกไซด์
             สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทิลอะซีเตตมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ แล้วก็แก้แพ้โดยยับยั้งการตอบสนองต่อแอนติเจนที่โน้มน้าวให้มีการแพ้และก็การอักเสบ
ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด                 สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูแรทที่ถูกชักพาให้เป็นเบาหวานด้วยการฉีด alloxan เข้าหลอดโลหิตดำโดยสารสกัดใบฝรั่งออกฤทธิ์ใน 2 ชั่วโมง มีฤทธิ์สูงสุดในชั่วโมงที่ 6 และก็สิ้นฤทธิ์ใน 1 วัน
ฤทธิ์ต้านเซลล์ของโรคมะเร็ง      สารสกัดใบฝรั่งมีความเป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง murine fibrosarcoma และก็เซลล์ของโรคมะเร็งเต้านม

การศึกษาทางพิษวิทยา
การทดลองความเป็นพิษ  พิษกระทันหัน  สารสกัดด้วยน้ำจากใบ LD50 มีค่ามากกว่าหรือพอๆกับ 20 ก./กก.  เมื่อให้ทางปากในหนูถีบจักรทั้ง 2 เพศ และก็มีค่ามากกว่า 5 ก./กิโลกรัม  เมื่อฉีดเข้าทางช่องท้อง สารสกัดเอทานอล (50%) จากส่วนเหนือดิน LD50 มีค่าพอๆกับ 0.188 เมื่อฉีดเข้าท้องในหนูถีบจักร พิษเรื้อรัง  การให้สารสกัดน้ำจากใบทางปาก ขนาด 0.2, 2 และก็ 20 ก./กิโลกรัม วันแล้ววันเล่าติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน  พบว่าอัตราการเพิ่มของน้ำหนักตัวลดน้อยลง ในกรุ๊ปที่ได้รับสารสกัด เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุมที่ได้รับน้ำ ขณะที่ไม่พบไม่เหมือนกันของปริมาณของกินที่รับประทานในทุกกลุ่ม การกระทำทั่วไปปกติในทุกกรุ๊ป หนูเพศผู้หรูหรา ALP, SGPT (หลักการทำงานของตับ), BUN (แนวทางการทำงานของไต) และก็ WBC สูงมากขึ้น ขณะที่ระดับของโซเดียมรวมทั้งคลอเลสเตอรอลในเลือดน้อยลง น้ำหนักของตับรวมทั้งไตเพิ่มขึ้น การตรวจทางจุลทัศนกายส่วน พบการเปลี่ยนแปลงของไขมันและก็ลักษณะ hydronephrosis หนูเพศ
บันทึกการเข้า