รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: มะนาว มีสรรพคุณเเละประโยชน์ดีๆ อีกมากมายที่เรายังไม่รู้  (อ่าน 603 ครั้ง)

billcudror1122

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 100
    • ดูรายละเอียด


มะนาว
ชื่อสมุนไพร มะนาว
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ส้มมะนาว (ภาคกลาง),ส้มนาว (ภาคใต้) ,สีมานีปีห์ (มลายู) ,หมากฟ้า (ไทยใหญ่) , โกรยชะม้า (เขมร) , มะเน้าเลย์ , มะนอเกละ , ปะนอเกล (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) , ปะโหน่ละโมบลยาน (กะเหรี่ยง จังหวัดกาญจนบุรี)
ชื่อสามัญ  Common lime, Lime , Sour lime
ชื่อวิทยาศาสตร์  Citrus aurantifolia (Christm. et Panz.) Swing.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Limonia aurantifolia Christm. & Panzer.
วงศ์  Rutaceae
บ้านเกิดเมืองนอน เช้าใจกันว่ามะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ด้วยเหตุว่าผู้ที่อยู่ในภูมิภาคนี้ รู้จักการใช้คุณประโยชน์จากมะนาวกันเป็นอย่างดีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ซึ่งหนึ่งในซึ่งก็คือเมืองไทย แต่ว่ามีการศึกษาและทำการค้นพบอีกชิ้นหนึ่งที่เชื่อว่ามะนาวมีแหล่งเกิดในอินเดียภาคเหนือ แล้วก็เขตเชื่อมต่อกับเมียนมาร์ รวมทั้งทางภาคเหนือของมาเลเซีย (แม้กระนั้นน่าแปลกที่ไม่พบมะนาวในป่าของไทย) เดี๋ยวนี้มีการปลูกมะนาวทั่วไปในเขตร้อน แล้วก็เขตอบอุ่นครึ่งร้อนทั้งโลกด้วยเหตุว่ามะนาวสามารถขึ้นได้ในที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ และทนต่อดินเนื้อละเอียดได้ดีมากว่าส้ม
ลักษณะทั่วไป มะนาวเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็กมีลักษณะเป็นพุ่มมีความสูงเฉลี่ย 2-5 เมตร ลำต้นมีลักษณะโค้งงอไม่ค่อยแข็งแรง เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทา กิ่งอ่อนของมะนาวมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่ สีจะเข้มขึ้นกระทั่งเป็นสีน้ำตาลส่วนกิ่งที่แก่มากจะเป็นสีเทา การออกของกิ่งก้านไม่ค่อยเป็นระเบียบ บนลำต้นและกิ่งไม้จะมีหนาม หนามมีลักษณะแหลมมีหนามสั้นและก็หนามยาวมีสีเขียวเข้มแล้วก็สีเขียวอมเหลือง ส่วนบริเวณปลายหนามีสีน้ำตาล เมื่อแก่ขึ้นหนามจะแห้งตามไป
                ใบของมะนาวมีลักษณะเป็นใบโดดเดี่ยว เป็นมีแผ่นใบอันเดียว ใบมีขนาดเล็กกว้างประมาณ 3-6 ซม. ยาวโดยประมาณ 6-12 ซม.รูปร่างเป็นแบบรีหรือทรงไข่ ฐานใบมีลักษณะกลม ปลายใบมีรูปแหลม ป้าน ขอบของใบเป็นคลื่น หรือเป็นหยักละเอียด ก้านใบสั้นรวมทั้งมีปีกใบแคบหรือบางทีอาจไม่มีปีกใบก็ได้ ดังนี้ขึ้นกับจำพวกมะนาว ใบอ่อนมีสีเขียวจางเกือบเป็นสีขาว ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ผิวใบด้านบนละเอียดเป็นเงาส่วนผิวใบด้านล่างค่อนข้างจะหยาบคายและก็มีสีจางกว่า เมื่อกระทำขยี้ใบจะมีกลิ่นฉุน
                ดอกมะนาวอาจกำเนิดเป็นดอกผู้เดียวหรือช่อก็ได้ มีทั้งๆที่เป็นดอกสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ ดอกจะออกบริเวณซอกใบและก็ปลายกิ่ง ดอกมะนาวมีขนาดเล็ก ดอกที่ตูมจะมีขนาดความยาว 1-2 ซม. กลีบเลี้ยงมีสีเขียวเป็นรูปถ้วยมี 4-6 หยัก ส่วนกลีบดอกไม้มีสีขาว และก็ด้านท้องกลีบดอกไม้อาจมีสีม่วงอมแดงเจืออยู่ด้วย กลีบดอกไม้มีลักษณะเป็นรูปถ้วย มีปริมาณ 4-5 อัน ปริมาณกลีบในและกลีบนอกมีจำนวนเท่าๆกัน แต่ละกลีบมีขนาด 0.8-1.2 ซม. ดอกมะนาวมีเกสรตัวผู้มากมายถึง 20-40 อัน เชื่อมชิดกันเป็นกรุ๊ป กลุ่มละ 4-8 อัน เกสรตัวเมียมีรังไข่รูปร่างเป็นทรงกระบอก ใน 1 ดอก จะมีรังไข่ราวๆ 9-12 อัน
                ผลมะนาวมีรูปร่างนานับประการตามประเภทของชนิด มีอีกทั้งรูปร่างยาวรี รูปไข่ และก็รูปร่างกลม ที่ก้นผลมีลักษณะเป็นจุกหรือปุ่มเล็กๆผลโดยทั่วไปมีขนาดความยาว 3-12 เซนติเมตร เปลือกมักษณะตะปุ่มตะป่ำ และมีต่อมน้ำมันเปลือกผิว ผิวเปลือกเมื่อแหลม บรรจุอยู่เป็นจำนวนมาก เนื้อมะนาวมีสีเหลืองอ่อน มีรสเปรี้ยวและก็มีกลิ่นหอมเมล็ด ขนาดเล็กคล้ายรูปไข่ ด้านปลายหัวจะแหลม ภายในเม็ดมีเยื่อสีขาว
การขยายพันธุ์  มะนาวเป็นพืชซึ่งสามารถปลูกเจริญในดินดูเหมือนจะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว ดินปนทราย แต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาว ให้เติบโตดี มี ผลดก แล้วก็คุณภาพดี ก็น่าจะปลูกเอาไว้ในพื้นที่ที่เป็นดินที่ร่วนซุย มีการระบาย น้ำดี มีอินทรียวัตถุผสม อยู่มากมาย รวมทั้งควรเลือกพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ
ส่วนการขยายพันธุ์มะนาวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ดังเช่นว่า การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง แล้วก็การติดตา แต่ว่าแนวทางที่เป็นที่นิยมสำหรับการขยายพันธุ์มะนาวมากที่สุดคือ การตอนกิ่ง โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้

  • เลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไปและไม่เป็นโรคหรือมีแมลงกัดรับประทาน ยาวราว 30-50 เซนติเมตร แล้วก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 0.5 ซม.ขึ้นไป
  • ตัดหนามและใบในรอบๆที่จะควั่นกิ่งออกประมาณ 5 เซนติเมตร
  • ควั่นกิ่งออกเป็น 2 รอยให้ลึกถึงแก่นไม้ห่างกัน 1-2 ซม.
  • ขูดเนื้อเยื่อรุ่งโรจน์ออกให้หมด
  • หุ้มด้วยขุยมะพร้าวที่มีความชื้นหรือใช้ตุ้มตอนสำเร็จ ผูกเปาะหัวด้านหลังให้แน่น แล้วทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 30-45 วัน เมื่อรากออกมาแล้วก็ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดเพื่อนำไปแช่น้ำจนถึงอิ่มตัว
  • นำไปชำต่อในถุงดำขนาด 5x8 นิ้ว ที่ผสมดิน 1 ส่วน แกลบ 1 ส่วน และเมื่อกิ่งที่ชำเดินรากได้ดิบได้ดีในถุงสีดำรวมทั้งแข็งแรงแล้วจากนั้นจึงค่อยนำไปปลูกถัดไป
การเตรียมพื้นที่ปลูก

  • พื้นที่ลุ่ม จัดแจงพื้นที่โดยทำคันนาให้มีความกว้างประมาณ 6-8 เมตร ความสูงให้พิจารณาจากจำนวนน้ำที่เคยท่วมสูงโดยให้อยู่สูงกว่า แนวระดับน้ำหลาก 50 ซม. แทงร่องหรือซอกซอยร่องทำแต้มน้ำเพื่อ ระบายน้ำเข้าออก ขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร พื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตร ใช้ระยะปลูก 5X5 เมตร
  • พื้นที่ดอน ควรจะไถกระพรวนเพื่อกำจัดวัชพืช รวมทั้งทำให้ดินร่วนซุย ใช้ระยะปลูก 4 x 4 – 6 x 6 เมตร ทั้งนี้ขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
กรรมวิธีการปลูก
ควรปลูกเอาไว้ภายในช่วงต้นฤดูฝน ควรขุดหลุมปลูก ให้มีขนาดกว้างรวมทั้งลึกราวๆ 50 ซม. ผสมดิน ปุ๋ยคอก และก็ปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกัน ในหลุมให้ สูงโดยประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม ยกถุงกล้า ต้นไม้วางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่า ระดับดินปากหลุมบางส่วน ใช้มีดที่คม กรีดถุง จากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุง 2 ด้าน (ช้ายรวมทั้งขวา) ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังไม่ให้ดินแตก กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินรอบๆโคนต้นให้แน่น ปักไม้หลักแล้วก็ผูกเชือกยึด เพื่อปกป้องลมพัดโยก หาวัสดุคลุมดินรอบๆโคนต้น เช่น ฟางข้าว ต้นหญ้าแห้ง รดน้ำให้โชก ทำร่มเงา เพื่อช่วยอำพรางแสงแดด
การปฏิบัติดูแล การให้น้ำ ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอน ที่ปลูกใหม่ๆควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) ภายหลังปลูกราว 15 วัน มะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้ว ให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง แล้วก็ควรหา สิ่งของมาหุ้มดินบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น                ควรจะเริ่มงดให้น้ำ ตั้งแต่ตอนมี.ค. เป็นต้นไป จนกระทั่งช่วงออกดอก เพื่อมะนาวสะสม ของกินให้มากถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ ปกติมะนาวจะออกดอก เมษายน-พฤษภาคม หลังจากมะนาวออกดอก และก็กำลังติดผลอ่อน เป็นตอนๆที่มะนาวอยากน้ำมาก เพื่อใช้สำหรับในการเจริญวัย ของผล

     ส่วนชนิดมะนาวที่มีการปลูกกันมากมายในไทย เช่น

  • มะนาวไข่ ผลกลม หัวท้ายยาวคล้ายมะนาวหนัง เมื่อโตเต็มที่ผลมีลักษณะกลมมน เปลือกบางผลโต กว่ามะนาวหนัง
  • มะนาวแป้น ผลใหญ่ ค่อนข้างจะกลมแป้น เปลือกบาง มีน้ำมาก นิยมใช้บริโภคมากกว่าประเภทอื่นๆเชิงการค้าจะปลูกมะนาวพันธุ์แป้นดกพิเศษ สามารถบังคับให้ออกฤดูแล้งได้ง่าย
  • มะนาวหนัง ผลอ่อนกลมยาวหัวด้านหลังแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีเปลือกหนา ทำให้เก็บรักษาผลประโยชน์นาน


ส่วนประกอบทางเคมี น้ำจากผลมีกรด citric acid, malic acid, ascorbic acid,  ผิวมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยที่มาจากการกลั่นผิวผล ร้อยละ 0.3-0.4 มีสารต่างๆอาทิเช่น  d-limonene (42-64%), alpha-berpineol (6.81%), bergamotene ผสมกับ terpinen-4-ol (3%),  alpha-pinene          citric acid       
(1.69%), geraniol (0.31%), linalool,  terpineol, camphene, bergapten (furanocoumarin)    ใบมะนาวเมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการ    camphene
ต้มกลั่น (hydrodistillation) ได้น้ำมันหอมระเหยปริมาณร้อยละ 0.27  ส่วนประกอบทางเคมีของน้ำมันประกอบด้วยสารต่างๆยกตัวอย่างเช่น  6-methyl-5-hepten-2-one (3.19), limonene (44.82), neral (4.95), geranial (7.66) , geranyl acetate (8.98), caryophyllene oxide (2.31) ส่วนข้อมูลทางโภชนาการของมะนาวมีดังนี้

  • พลังงาน 30 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 10.5 กรัม
  • น้ำตาล 1.7 กรัม
  • เส้นใย 2.8 กรัม terpineol
  • ไขมัน 0.2 กรัม
  • โปรตีน 0.7 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.03 มก.
  • วิตามินบี 2 0.02 มก.
  • วิตามินบี 3 0.2 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 0.217 มก.
  • วิตามินบี 6 0.046 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 9 8 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 29.1 มก.
  • แคลเซียม 33 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.6 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 102 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 2 มิลลิกรัม ที่มา : Wikipedia
คุณประโยชน์/สรรพคุณ
น้ำมะนาวมีคุณค่าสำหรับการเป็นสารให้ความเปรี้ยว ผิวมะนาวมีกลิ่นหอมหวนจากน้ำมันหอมระเหย มะนาวเป็นเครื่องปรุงรสของกินไทยที่ขาดเสียมิได้ เป็นส่วนประกอบรสเปรี้ยวหลักของน้ำพริก ส้มตำ ยำทุกชนิด ลาบรวมทั้งอาหารไทยอีกอีกเยอะมาก ต่างประเทศใช้มะนาวทั้งในอาหารคาวหวาน ดังเช่น ในพายมะนาวของรัฐฟลอริด้า อเมริกา
น้ำมะนาวนอกเหนือจากใช้แต่งรสเปรี้ยวในอาหารหลาย จำพวกแล้ว ยังนำมาใช้เป็นเครื่องดื่ม ผสมเกลือ แล้วก็น้ำตาล เป็นน้ำมะนาว ซึ่งมีชื่อเสียงกันดีในประเทศไทย และต่างประเทศทั้งโลก นอกเหนือจากนั้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บางจำพวกยังนิยมฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆแทงไว้กับขอบแก้ว เพื่อใช้แต่งรส
โดยภายในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึงปริมาณร้อยละ 7 น้ำมะนาวจึงมีคุณประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม การบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาสำหรับล้างจาน
นอกนั้นยังมีการใช้ประโยชน์จากมะนาวด้านอื่นๆอีกอาทิเช่น หุงข้าวให้ขาวและก็อร่อยขึ้น ด้วยการใช้น้ำมะนาวราวๆ 2-3 ช้อนนำไปซาวข้าว  ทอดไข่ให้ฟูและก็นุ่ม มะนาว 4-5 หยดจะช่วยได้  มะนาวช่วยลดเหม็นคาวจากปลาเมื่อประกอบอาหารแล้วก็ทำให้ปลาอาจรูปไม่เละ เมื่อใช้มีดผ่าปลี มีดจะมีสีม่วงหมู่ ล้างออกทุกข์ยากลำบาก นำมาท้องนาวที่ผ่าแล้วมาเช็ดตามใบมีด จะช่วยให้มีดสะอาดเหมือนเดิม  การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ากิน เมื่อน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูมแล้ว ให้บีบมะนาวครึ่งซีกลงไป จะช่วยให้กล้วยใส น่ารับประทานมากขึ้นเรื่อยๆ  มะนาว 2-3 ลูกใส่ในถังข้าวสารช่วยคุ้มครองป้องกันมอดได้  ส่วนการเปลี่ยนแปลงรูปมะนาว มะนาวดัดแปลงได้ ดังเช่น น้ำมะนาวประกอบอาหาร มะนาวแช่อิ่มตากแห้ง น้ำมะนาวเข้มข้น มะนาว ผง เครื่องดื่มผสมน้ำมะนาว แยมมะนาว เยลลีมะนาว แยมเปลือกของมะนาว แยมนะท้องนาวดอง มะนาวดองเค็ม มะนาวหวาน กิมจ้อมะนาว เปลือกของมะนาวสามรส เปลือกของมะนาวเส้นปรุงรส เปลือกของมะนาวเชื่อม เปลือกของมะนาวแช่อิ่ม มาร์มาเลดมะนาว เป็นต้น
ส่วนคุณประโยชน์ทางยานั้นระบุว่า แบบเรียนยาไทยผิวมะนาวจัดอยู่ใน “เปลือกส้ม 8 ประการ” ประกอบด้วย ผิวส้มเขียวหวาน ผิวส้มจีน ผิวส้มซ่า ผิวส้มโอ ผิวส้มจังหวัดตรังกานู ผิวมะงั่ว ผิวมะกรูด และก็ผิวมะนาว (หรือผิวส้มโอมือ) มีคุณประโยชน์แก้ลมกองละเอียด กองหยาบคาย แก้เสลดโลหะ ใช้ปรุงยาหอม แก้ทางลม
           นอกเหนือจากนั้นบัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้เริ่มแรก ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้ผิวมะนาว ในยารักษาอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” มีส่วนประกอบของผิวมะนาว อยู่ใน ”เปลือกส้ม 8 ประการ” ร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์ในการแก้ลมตาลาย แก้อาการหน้ามืด ลายตา ใจสั่น คลื่นเหียนอาเจียน คลื่นไส้ แก้ลมจุกแน่นในท้อง
                ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันเจาะจงถึงสรรพคุณของมะนาวว่า สารดี-ลิโมนิน (d-limonin) เป็นสารที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความขมในน้ำมะนาว น้ำมันผิวมะนาว (lime oil) พบได้ทั่วไปบริเวณผิวเปลือกของมะนาวมีสารดี-ลิโมนิน เป็นองค์ประกอบหลักเกินกว่าปริมาณร้อยละ 90 พบว่าน้ำมันผิวมะนาว มีคุณลักษณะปกป้องรวมทั้งรักษามะเร็งหลายอย่าง
คนตะวันตกทั่วไปมักกินน้ำส้ม หรือน้ำจากผลพืชตระกูลส้ม ดังเช่น ส้มโอ หรือมะนาว ประกอบกับอาหารเช้า น้ำผลไม้กลุ่มนี้มีวิตามินซี และมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) มีสารเฮสเพอริดิน (hesperidin) รูทิน (rutin) และก็ท้องนาริงจิน (naringin) และก็ลิโมนิน เป็นฟลาโวนอยด์หลักของพืชเครือญาติส้ม จากนี้จะเรียกสารกลุ่มนี้ว่าฟลาโวนอยด์ส้ม (citrus bioflavonoid)
สารกลุ่มฟลาโวนอย์ส้มนี้มีรายงานทางการแพทย์ตะวันตกว่าใช้เพื่อการรักษามาลาเรีย โรครูมาติเตียนสม์เรื้อรังรวมทั้งโรคเกาต์ ใช้เพื่อการคุ้มครองปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน คุ้มครองปกป้องการตกเลือดหลังคลอด แล้วก็ช่วยทุเลาอาการระคายคอจากการตำหนิดเชื้อรวมถึงโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งโรคที่มีต้นเหตุมากจากการได้รับวิตามินซีในของกินไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีลักษณะของโรคเกิดขึ้นด้านใน 8-12 อาทิตย์ ผู้ป่วยมักมีลักษณะคล้ายเจ็บป่วย เหน็ดเหนื่อย ง่วงซึม โลหิตจาง ปวดกล้าม เจ็บกระดูก มีแผลฟกช้ำดำเขียวหรือบวมง่าย มีจุดเลือดออกแดงๆตามผิวหนัง กำเนิดโรคทางปริฟัน เป็นแผลแล้วหายยาก อารมณ์แปรปรวน หรือมีสภาวะหม่นหมอง สำหรับประโยชน์ที่ได้รับมาจากน้ำมะนาวต่อโรคนี้ มีการวิจัยเมื่อก่อนที่ให้ผู้ป่วยโรคนี้กินส้มกับมะนาวเหลือง พบว่าคนเจ็บสามารถฟื้นได้อย่างสมบูรณ์และก็รวดเร็วทันใจ เมื่อเทียบกับผู้ป่วยอีกกลุ่มที่รับประทานอาหารจำพวกอื่น นอกเหนือจากนั้นในน้ำมะนาวยังมีกรด citric ซึ่งมีรสเปรี้ยว จะเป็นตัวกระตุ้นให้มีการขับน้ำลายออกมาทำให้ชุ่มคอ ก็เลยช่วยทุเลาลักษณะการเจ็บคอได้
แบบอย่าง/ขนาดการใช้
อาการไอ  ระคายคอจากเสลดใช้น้ำจากผลที่โตเต็มที่  เพิ่มเติมเกลือนิดหน่อย  จิบบ่อยๆหรือ จะทำน้ำมะนาวเพิ่มเติมเกลือและก็น้ำตาลนิดหน่อย           อาการท้องอืดท้องอืด แน่นจุกเสียด   ใช้เปลือกผลสด 1/2-1 ผล ฝานเป็นชิ้นเล็กๆบางๆชงด้วยน้ำเดือด ปิดฝาทิ้งเอาไว้ 5-10 นาที ดื่มแต่ว่าน้ำขณะมีอาการ หรือหลังรับประทานอาหาร 3 เวลาใช้มะนาว 1 ผล บีบเอาน้ำมะนาวมาชงกับน้ำร้อนดื่มหรือใช้มะนาวฝานบางๆจิ้มเกลือกินจะช่วยขับเสลดได้รุ่งเช้าหลังตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว บีบมะนาว 1/4 ผล (หรือใส่เกลือนิดหน่อย) จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูก และช่วยกำจัดสารพิษออกมาจากร่างกายน้ำมะนาวผสมผงกำมะถันใช้ทาก่อนนอน แก้อาการขี้กลาก โรคเกลื้อน หิดใช้น้ำมะนาวทาที่ตุ่มคัน ทิ้งไว้ให้แห้ง ล้างน้ำสบู่แล้วขัดถูให้แห้ง แล้วใช้แป้งทาตุ่มคัน แก้น้ำกัดเท้าในด้านความสวยงาม ผลัดเซลล์ผิว ลดรอยด่างดำ ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนจนเข้ากัน ทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้สักประเดี๋ยว ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วซึมซับให้แห้ง ทำอาทิตย์ละครั้ง ผิวหน้าจะมองสดใส หรือใช้น้ำมะนาวผสมน้ำแช่อาบใช้สำหรับการแก้ไข้ทับประจำเดือน ด้วยการเอาใบมะนาวราวๆ 100 ใบมาต้มรับประทานช่วยแก้ลิ้นเป็นฝ้า ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำมะนาวขัดถูที่ลิ้นวันละ 2-3 ครั้ง
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา การศึกษาสัตว์ทดสอบในหนู พบว่าเมื่อให้สารเฮสเพอริดินซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์หลักจากเปลือกในพืชเครือญาติส้มกับหนูไขมันสูง มีผลเพิ่มไขมันที่ดี (เอชดีแอล-คอเลสเตอรอล) ลดไขมันไม่ดี (แอลดีแอล-คอเลสเตอรอล) ลดปริมาณไขมันรวมรวมทั้งไตรกลีเซอไรด์ ในหนูดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วก็ส่งผลลดระดับความดันเลือดแล้วก็ขับปัสสาวะในหนูความดันสูง การทดลองในห้องปฏิบัติในแคนทุ่งนาดาการพบว่า ฤทธิ์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วของฟลาโวนอยด์ส้มมีสาเหตุมาจากผลการกระตุ้นการทำงานของยีนรีเซปเตอร์ไขมันไม่ดี (แอลดีแอล) ในตับในตำแหน่งที่ควบคุมโดยสเตอรอล (sterol regulatory element, SRE)
ในสหรัฐฯ งานค้นคว้าในสัตว์ทดลองพบว่า ฟลาโวนอยด์ส้มสองกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มเฮสเพอริดิน แล้วก็กลุ่มโพลีเมททอกซิเลตฟลาโวน (PMFs) มีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในพลาสม่าของสัตว์ทดสอบ ซึ่งสนับสนุนผลงานวิจัยในหนูถีบจักรของแคนาดา
ประเทศจีน งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า ทุ่งนาริงจิน และเฮสเพอริดินซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ส้มมีฤทธิ์กระตุ้นแนวทางการทำงานของยีนอะดีโพเนกทิน (adiponectin) ซึ่งเป็นยีนสำคัญในเมตาบอลิซึมของกลูโคสและก็ไขมันที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลัคตันของเส้นเลือดและก็ขั้นตอนการอักเสบ ผลการศึกษาเรียนรู้พูดว่าฟลาโวนอยด์ส้มอีกทั้ง 2 ชนิดแสดงผลต้านการเกิดพลัคโดยกระตุ้น perovisome proliferator-activated receptor (PPAR) และก็ยีนอะดีโพเนกทินในเซลล์ไขมันอะดีโพไซต์
นอกเหนือจากนี้ สารทั้งสองยังมีฤทธิ์เอสโทรเจนอย่างอ่อน ส่งผลต่อการสร้างไนตริกออกไซด์ในเซลล์ฝาผนังเส้นโลหิตผ่านการกระตุ้นรีเซปเตอร์ของเอสโทรเจน ก็เลยมีฤทธิ์คุ้มครองป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ ส่งผลให้เกื้อหนุนการกินมะนาว และก็ฟลาโวนอยด์ส้มเพื่อลดจำนวนคอเลสเตอรอลในเลือด ปกป้องโรคเส้นเลือดหัวใจ โดยเฉพาะในหญิงวัยทอง
งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งพบว่า น้ำมะนาวเข้มข้น (concentrated lime juice, CLJ) มีฤทธิ์กระตุ้นเซลล์โมโนนิวเคลียร์ในระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งโปรตีนในน้ำมะนาวเข้มข้นมีฤทธิ์ต่อต้านการแบ่งตัวของเซลล์ของโรคมะเร็ง การศึกษาในห้องแลปในมลรัฐเท็กซัสรวมทั้งแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ส้มมีฤทธิ์ต้านทานออกซิเดชั่นพอสมควร แม้กระนั้นน้อยกว่าฟลาโวนอยด์ในพืชเครือญาติขิง มีบทความทางการแพทย์กล่าวว่า ฟลาโวนอยด์ส้มยั้งการเจริญของเซลล์ของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปอด ช่องปาก กระเพาะอาหาร แล้วก็โรคมะเร็งเต้านมจากการทดลองในห้องทดลองรวมทั้งในสัตว์ทดลองหลายแบบ แต่ว่ายังไม่พบผลการศึกษาเรียนรู้ทางสถานพยาบาล
ส่วนฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะนาวที่เกี่ยวกับแก้เจ็บคอมีดังนี้  ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีการศึกษาวิจัยผลของอีกทั้งน้ำมันหอมระเหยและก็สารสกัด พบว่า น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Bacillus cereus รวมทั้ง E. coli สารสกัด 80% เอทานอลจากเปลือกผิว มีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus และก็ Bacillus cereus สารสกัดจากเมล็ดมีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Bacillus subtilis, E. coli. Pseudomanas cichorii และ Salmonella typhimurium สารสกัดเอทานอลจากส่วนกิ่ง (branches) ความเข้มข้น 20 มิลลิกรัม/มล. ไม่มีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus, Bacillus subtilis และ Streptococcus faecalis
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ  เมื่อให้น้ำสกัดจากใบมะนาวทางปาก หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูเม้าส์ ด้วยขนาด 10 กรัม/กก.น้ำหนักตัว (เท่ากันกับ 1,852 เท่าของขนาดที่ใช้ในคน) ไม่เจอความไม่ดีเหมือนปกติอะไรก็ตามเมื่อป้อนสารสกัดรากมะนาวด้วยน้ำครั้งเดียวทางปาก ในขนาด 5 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ให้หนูแรทไม่พบว่าเป็นพิษทั้งแบบกระทันหันแล้วก็กึ่งเรื้อรัง แม้กระนั้นพบว่าในหนูที่ได้รับสารสกัด 1.2 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว/วัน  มีเอ็นไซม์ในตับเพิ่มขึ้นแม้กระนั้นยังอยู่ในตอนธรรมดา และไม่เจอความแปลกของอวัยวะภายใน  ส่วนสารสกัดจากเปลือกผิวมะนาวส่งผลยับยั้งฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์  รวมทั้งการทดลองฤทธิ์ระคายเคืองโดยกรรมวิธี Patch test พบว่าสารสกัดจากมะนาวให้ผล positive
คำแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง

  • การทาน้ำมันมะนาวลงบนผิวหนังโดยตรงบางทีอาจไม่ปลอดภัยในมีผิวหนังแพ้ง่าย ที่สามารถส่งผลให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวค่อนข้างขาว หลังจากการใช้น้ำมันมะนาวทาลงผิวหนังจำเป็นจะต้องทาโลชั่นที่เอาไว้สำหรับกันแสงแดดและก็สวมเสื้อผ้ามิดชิดเพื่อคุ้มครองปกป้องก่อนออกไปพบเจอกับแดด
  • รสเปรี้ยวของมะนาวอาจจะทำให้เกิดท้องเดินหรือท้องเสียได้ถ้าเกิดรับประทานมากเกินความจำเป็น
  • ภายหลังจากดื่มน้ำมะนาวแล้วไม่สมควรแปรงฟันในทันทีเนื่องจากว่าอาจจะเป็นผลให้สารเคลือบฟันตามธรรมชาติหลุดได้
  • แม้ดื่มหรือรับประทานมะนาวบ่อยๆรวมทั้งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานต่อเนื่องกันอาจก่อให้ฟันผุร่อนได้
  • คนที่มีภาวะโลหิตจางไม่สมควรกินมะนาว เนื่องจากรสเปรี้ยวจะไปกัดฟอกโลหิตก่อให้เกิดอันตรายได้
  • ยาบางจำพวกที่จะถูกเปลี่ยนแปลงด้านในตับ โดยมะนาวอาจส่งให้ช่วงเวลาสำหรับในการเปลี่ยนรูปของยากลุ่มนี้น้อยลง การดื่มน้ำมะนาวขณะกินยาบางชนิดที่เปลี่ยนรูปในตับก็เลยอาจทำให้ส่งผลข้างเคียงมากขึ้น อย่างเช่น ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ไอทราโคนาโซล (Itraconazole) เฟกโซเฟนาดีน (Fexofenadine) ตรีอาโซแลม (Triazolam) เพราะฉะนั้น ก่อนรับประทานมะนาวควรขอความเห็นแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ด้วย
เอกสารอ้างอิง

  • วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. 2536. พจนานุกรมสมุนไพรไทย. กรุงเทพ ฯ : พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์สุริยบรรณ.
  • รวี เสรฐภักดี.2553.คู่มือประกอบการฝึกอบรมโครงการปลูกมะนาวและการผลิตมะนาวนอกฤดู:การสร้างสวนไม้ผลยุคใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.นครปฐม
  • Sethpakdee, R. 1992. Citrus aurantifolia (Christm. & Panzer) Swingle . In: L.P.A. Oyen and Nguyen Xuan Dung (Editors): Plant Resourses of South-East Asia No 2. Edible fruits and nuts. Prosea Foundation, Bogor, Indonesia. pp. 126-128.
  • รศ.สุธาทิพ ภมรประวัติ.มะนาว ลดคลอเรสเตอรอลป้องกันโรคหลอดเลือด.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่354.คอลัมน์บทความพิเศษ.ตุลาคม.2551.
  • มะนาว.ฐานข้อมูลเครื่องยาคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีธิราภา แสนเสนา นพดล กิตติวราฤทธิ์ มาลิน จุลศิริ รุ่งระวี เติมศิริฤกษ์กุล. ฤทธิ์ต้านเชื้อและฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์ของสารสกัดจากผิวผลพืชตระกูลส้ม. โครงการพิเศษ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2536.
  • มะนาว.สมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.disthai.com/
  • อรรถศิษฐ์  วงศ์มณีโรจน์.2553.คู่มือประกอบการฝึกอบรมโครงการปลูกมะนาวและการผลิตมะนาวนอกฤดู ดินและปุ๋ยสำหรับการปลูกมะนาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.นครปฐม.ไม้ผลเศรษฐกิจ.ฉบับที่102(251)/2552.วารสารเมืองไม้ผล.เทคนิคการปลูกมะนาวพันธุ์แป้นเกษตรดกพิเศษให้ออกในช่วงฤดูแล้ง.88-93 น.
  • Prabuseenivasan, S. et al. 2006. Invitro antibacterial activity of some plant essential oils. BMC Complement Altern Med 30(6):39
  • ประโยชน์ของมะนาวต่อการรักษาโรคได้ผลชัวร์หรือไม่.พบแพทย์ดอทคอม
  • อาจินต์ ปัญจพรรค์.
บันทึกการเข้า