รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ทองพันชั่ง มีทั้งสรรพคุณ เเละ ประโยชน์อันมากมาย  (อ่าน 459 ครั้ง)

กาลครั้งหนึ่ง2560

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 120
    • ดูรายละเอียด

ทองพันชั่ง
ชื่อสมุนไพร ทองพันชั่ง
ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น หญ้าไก่ (ไทย) ,ติดเฮาะเล่งจือ (จีน-จีนแต้จิ๋ว) , หญ้ามันไก่ , ทองคำพันดุลย์ , ทองคันชั่ง (ภาคกลาง) , ดอกไม้ฮ้อมบก (สุรินทร์)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Rhinacanthus nasutus (Linn.) Kurz.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Rhinacanthus communis Nees
ชื่อสามัญ   White crane flower
ตระกูล   Acanthaceae
ถิ่นกำเนิด ทองพันชั่งน้ำหนักเป็นไม้ล้มลุกครึ่งไม้พุ่ม มีถิ่นเกิดในประเทศแถบทวีปเอเชียใต้แล้วก็เอเซียอาคเนย์รอบๆแถบเส้นอีเควเตอร์ เจอทั่วไปในประเทศเขตร้อนของภูมิภาคดังกล่าว เป็นต้นว่า ประเทศ อินเดีย เกาะแม่กัสการ์ , มาเลเซีย ฯลฯ แล้วมีการกระจายจำพวกไปในประเทศเขตร้อนใกล้เคียง เป็นต้นว่า บังคลาเทศ , เมียนมาร์ ,ไทย , อินโดนีเซีย ฯลฯ ส่วนในประเทศไทย มีการประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรและก็เอามาปลูกเป็นไม้ประดับ,พืชที่มีความเป็นสิริมงคลมาตั้งแต่อดีตแล้ว
ลักษณะทั่วไป

  • ต้น ทองพันชั่งมีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็ก มีความสูงต้นโดยประมาณ 1 - 1.5 เมตร มักแตกหน่อและแผ่กิ่งออกเป็นกอ ลำต้นและก็กิ่งไม้มีขนห่างๆทั่วไป กิ่งอ่อนมักเป็นสันสี่เหลี่ยมตามทางยาว ส่วนโคนของลำต้นแก่นไม้แกนแข็ง
  • ใบ เป็นใบโดดเดี่ยวลักษณะรูปไข่ ปลายใบแล้วก็โคนใบแหลม ขอบของใบเรียบ หรือเป็นคลื่นน้อย ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆและก็แต่ละคู่ออกสลับทิศทางกัน เนื้อใบบางและก็หมดจด ใบยาว 4 – 6 ซม. กว้าง 2 – 3 ซม. ใบมีสีเขียวอ่อน
  • ดอก เป็นดอกช่อขนาดเล็ก มีสีขาวออกเป็นช่อสั้นๆตรงซอกมุมใบ มองดูดอกมีลักษณะราวกับ นกกระยางกำลังบิน (แต่ชาวจังหวัดสุรินทร์มีความคิดเห็นว่าดอกทองพันชั่งน้ำหนักคล้ายข้าวเม่า คือ มีกลีบดอกสี่กลีบตกออกคล้ายข้าวเม่า จึงเรียกต้นทองพันชั่งน้ำหนักว่า “บุปผาอ็อมบก” แปลว่า ต้นดอกข้าวเม่า) กลีบรองดอกมี 5 กลีบ และก็มีขน กลีบสีขาวชิดกันตรงโคนเป็นหลอด ยาวราว 2 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 2 กลีบ กลีบขนยาวประมาณ 0.8 เซนติเมตร กว้าง 0.1 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 2 แฉกแหลมสั้นๆกลีบข้างล่างแผ่กว้าง 1.5 เซนติเมตร แยกเป็น 3 แฉก โคนกลีบมีจุดประสีม่วงแดง เกสรตัวผู้สีน้ำตาลอ่อน มีสองอันยื่นพ้นปากหลอดออกมาบางส่วน รังไข่มี 1 อัน รูปยาวรี มีหลอดท่อรังไข่เหมือนด้าย ยาวเสมอปากหลอดดอก ก้านเกสรสั้นติดอยู่ที่ปากท่อดอก
  • ผล มีลักษณะเป็นฝัก กลมยาว และก็มีขนด้านใน มี 4 เม็ดเมื่อแห้งสามารถแตกได้
การขยายพันธุ์ ทองคำพันชั่งสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วย การเพาะเม็ดรวมทั้งนำกิ่งมาปักชำ แต่ว่าในตอนนี้วิธียอดนิยมและก็มีอัตราการปลูกที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีหมายถึงวิธีการเป็นตัดกิ่งแก่ที่มีตาติดอยู่ 2-3 ตา แล้วปลิดใบทิ้งให้หมดแล้วต่อจากนั้นตัดรอบๆกิ่งให้เฉทำมุม 45 องศา แล้วปักลงไปในดินที่เปียกแฉะน้ำโดยให้กิ่งเอียงบางส่วน ทองคำพันชั่งเป็นพืชที่เกลียดชังร่มเงามากมาย (ต้องการที่ที่มีแดดลอดผ่านมารำไร) มักชอบที่ดินผสมทรายที่มีการระบายน้ำดี ไม่ขังแฉะ แล้วก็จำต้องคอยดูแลการให้น้ำให้ดินเปียกชื้น รวมถึงจะต้องรอกำจัดวัชพืชอยู่เสมอ เนื่องจากถ้าขาดน้ำหรือถูกแดดมากเกินความจำเป็นใบจะเป็นจุดเหลืองและหลังจากนั้นก็ค่อยๆแห้งตาย โดยเหตุนี้การปลูกควรต้องปลูกเอาไว้ภายในฤดูฝน
ส่วนประกอบทางเคมี ใบเจอสารสำคัญเป็น rhinacanthin แล้วก็ oxymethylanthraquinone รากมี Resin Rhinacanthin (1.9 เปอร์เซ็นต์) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ มีเกลือโปตัสเซียส และมี Oxymethylanthraquinone ยิ่งกว่านั้นยังพบสาร  Quinone, Rutin (quercetin - 3 - rutinoside)
คุณประโยชน์ หนังสือเรียนยาไทยใช้ ใบ รวมทั้งราก  รักษากลาก โรคเกลื้อน ผื่นคัน ใบ รสเบื่อเย็น ดับพิษไข้ แก้ไข้ตัวร้อน แก้พยาธิผิวหนัง รักษาอาการผมตก , ปวดฝี , แก้พิษ , แก้อักเสบ , บำรุงร่างกาย เป็นยาขับฉี่ ยาระบาย  ราก รสเบื่อเมา แก้ขี้กลากเกลื้อน ผื่นคัน แล้วก็โรคผิวหนังที่เป็นน้ำเหลืองบางจำพวก   รักษาโรคมะเร็ง ดับพิษไข้ แก้พิษงู พยาธิวงแหวนตามผิวหนัง ทั้งยังต้น รักษาโรคผิวหนัง กลากโรคเกลื้อน แก้น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน รักษามะเร็ง ขับพยาธิตามผิวหนังหรือรอยแผล รักษาอาการโรคไส้เลื่อน ฉี่ไม่ปกติ ต้น บำรุงร่างกาย รักษาอาการผมหล่นยิ่งกว่านั้นยังใช้ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆรักษาโรคต่อแต่นี้ไปเป็น

  • ราก - รักษาโรคมะเร็งเนื้องอก รักษาโรคมะเร็งปอด กระเพาะไส้ โรคมะเร็งตามร่างกาย ทำให้ผมดกดำ แก้ไอเป็นเลือด คลื่นไส้เป็นเลือด แก้ริดสีดวงทวาร ดับพิษไข้ รักษาโรคผิวหนัง แก้กษัย แก้ผมหงอก ผมร่วง รักษาโรคตับพิการ รักษาโรครูมาติเตียนซึม รักษาโรคไขข้อทุพพลภาพ แก้ลมเข้าข้อทำให้ปวดบวมต่างๆขับปัสสาวะ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค
  • ทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง โรคกุฏฐัง แก้เม็ดผื่นคัน
  • ต้น - รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะ โรคมะเร็งตามร่างกาย โรคมะเร็งไส้ แก้แมงเคียนรับประทานรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง
  • ใบ - แก้แมงเคียนรับประทานรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง แก้ไข้ แก้ปวดศรีษะตัวร้อน แก้มะเร็งไช แก้หิดมะตอย รักษาโรคมะเร็ง รักษาวัณโรค แก้หัวใจอลหม่าน แก้บ้าคลั่ง แก้สารพัดสารพันพิษ


ยิ่งกว่านั้นในตำราบางเล่ม ยังได้เอ๋ยถึงสรรพคุณทองพันชั่งน้ำหนัก โดยมิได้ระบุว่าใช้ส่วนใดของพืช หรือส่วนใดในตำราเรียนยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆในการบำบัดรักษาโรคต่างๆดังต่อไปนี้คือ
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาโรคโรคมะเร็ง แก้มุตกิตระมองขาว เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ผมตก รักษาโรคนิ่ว
- แก้เคล็ดขัดยอกชายโครง มือกลยุทธ์ คอเคล็ดลับ แก้มะเร็งในกระเพาะ แก้ฝีประคำร้อย แก้มะเร็งในคอ แก้มะเร็งในปาก แก้ไข้เหนือ แก้จุกเสียด เป็นยาหยอดตา แก้ไอเป็นเลือด แก้บอบช้ำใน แก้นิ่ว แก้โรคผิวหนัง แก้ลมสาร แก้มะเร็งในปอด แก้มะเร็งด้านในแล้วก็ข้างนอก
ทองคำพันชั่งน้ำหนักรักษาโรคมะเร็ง ช่วยยั้งโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งในกระเพาะ มะเร็งในคอ มะเร็งในปาก โรคมะเร็งในปอด เพราะต้นทองพันชั่งน้ำหนักมีสารสำคัญคือ “สารแนพโทควิโนนเอสเทอร์” (Naphthoquinone Ester) ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีการออกฤทธิ์สำหรับเพื่อการตอนยั้งโรคมะเร็งเยื่อบุช่องปาก โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก  มีแถลงการณ์ว่าในประเทศไต้หวันใช้ทองคำพันชั่งเป็นยาพื้นบ้านสำหรับในการเยียวยารักษาโรคเบาหวาน โรคผิวหนัง ความดันเลือดสูง และก็ตับอักเสบ
รูปแบบ/ขนาดวิธีใช้

  • ทาแก้กลากเกลื้อนหรือโรคผิวหนังผื่นคันอื่นๆใช้ใบสดผสมน้ำมันถ่านหินหรือแอลกอฮอล์ 75 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจใช้รากบดเป็นผงแช่แอลกอฮอลล์ 1 อาทิตย์ เอามาทาแก้โรคผิวหนัง ขี้กลากเกลื้อน และผื่นคันอื่นๆใช้ใบหรือรากสด ตำกับน้ำปูนใสผสมพริกไทย พอกแก้โรคผิวหนังเรื้อรัง ขี้กลาก และโรคผิวหนังอักเสบ หรือใช้ใบ (สดหรือแห้ง) หรือราก (สดหรือแห้ง) ตำให้รอบคอบ แช่สุราพอท่วมตั้งไว้ 7 วัน นำน้ำยาที่ได้มาทาบริเวณที่เป็นบ่อยๆหรือทาวันละ 3-4 ครั้ง จวบจนกระทั่งจะหาย เมื่อหายแล้วให้ทาต่ออีก 7 วัน เหตุที่จำต้องแช่ไว้นาน 7 วัน เป็นเพราะว่าน้ำยาที่ยังแช่ไม่ถึงกำหนดจะมีฤทธิ์กัดผิวหนัง ถ้าเกิดนำไปทาจะมีผลให้ผิวหนังแสบและคันมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำยาจากรากแห้งกัดผิวมากยิ่งกว่าใบแห้ง
  • ส่วนน้ำยาจากใบสดไม่กัดผิว ใช้กินเป็นยาด้านใน รักษาโรคโรคมะเร็ง แล้วก็วัณโรคระยะเริ่มแรก


o ใช้ทั้งยังต้น สด จำนวน 30 กรัม ต้มกับน้ำ ปริมาณท่วมใบยา ต้มดื่มต่างน้ำ
o ใช้ก้านรวมทั้งใบสด 30 กรัม (แห้ง 10-15 กรัม) ผสมน้ำตาลกรวดต้มน้ำกิน รักษาโรคปอดระยะเริ่มแรก

  • ช่วยขับฉี่ ให้ใช้ใบสด คั่วให้แห้งนำมาชงเป็นชาใช้ดื่มจะช่วยขับฉี่ได้


การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ทำลายเชื้อราและยีสต์     ผลการศึกษาวิจัยการฆ่าเชื้อรา Trichophyton rubrum ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคกลาก โดยวิธี paper disc เทียบกับยาต้านทานเชื้อรา griseofulvin แล้วก็ nystatin โดยใช้สารสกัดจากใบและก็กิ่ง ด้วยน้ำ แอลกอฮอล์ และคลอโรฟอร์ม พบว่าสารสกัดด้วยน้ำมีฤทธิ์น้อยมาก ส่วนสารสกัดด้วยแอลกอฮอล์แล้วก็คลอโรฟอร์มมีฤทธิ์ต้านเชื้อราเจริญพอควร  สารสกัดทองคำพันชั่งด้วยเมทานอล ไดคลอโรมีเทนรวมทั้งเฮก เซน ส่งผลยับยั้งเชื้อรา Epidermophyton floccousm, Microsporum gypseum, Trichophyton mentagrophytes แล้วก็ T. rubrum ที่นำมาซึ่งโรคผิวหนัง เมื่อทดสอบบนจานเลี้ยงเชื้อ   สาร rhinacanthin C, D แล้วก็ N ซึ่งแยกจากใบเมื่อเอามาทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อรา บนจานเลี้ยงเชื้อ  พบว่าสารดังที่กล่าวถึงมาแล้วอีกทั้ง 3 ประเภท สามารถต้านทานเชื้อราที่นำมาซึ่งโรคทางผิวหนัง เป็นต้นว่า  Trichophyton rubrum, T. mentagrophytes และก็ Microsporum gypseum  ได้ โดยที่สาร rhinacanthin C มีฤทธิ์แรงที่สุด  สารสกัด RN-A รวมทั้ง RN-B ซึ่งเป็นกรุ๊ป sesquiterpenoid จากใบทองพันชั่ง มีลักษณะส่วนประกอบคล้ายกับสาร pyrano-1,2-naphthoquinones  สามารถฆ่าสปอร์ของเชื้อรา  Pyricularia oryzae ซึ่งเป็นราที่เป็นสาเหตุของโรคในข้าวเจ้าได้  สาร 3,4-dihydro-3,3-dimethyl-2H-naphtho(2,3-o)pyran-5,10-dione จากทองพันชั่งมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อรา              สาร rhinacanthin C, D รวมทั้ง N จากใบทองพันชั่ง สามารถยั้งยีสต์ Candida albicans ซึ่งเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อราในโพรงปากแล้วก็ช่องคลอด
ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส  สารสกัดใบทองพันชั่งด้วยน้ำแล้วก็เอทานอล เมื่อเอามาทดลองฤทธิ์ต้านทานไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยง  พบว่าสามารถยั้งเชื้อไวรัส Herpes simplex type1 (HSV-1) ซึ่งเป็นต้นเหตุของเริม  สาร rhinacanthin C รวมทั้ง D จากต้นทองคำพันชั่ง เมื่อเอามาทดสอบฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส ในเซลล์เพาะเลี้ยง  พบว่าสามารถยั้งเชื้อ cytomegalovirus ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนี่งของการต่อว่าดเชื้อไวรัสในผู้ป่วยภูมิต้านทานบกพร่อง  สาร rhinacanthin E และก็ F จากส่วนเหนือดินของต้นทองคำพันชั่งน้ำหนัก เมื่อเอามาทดสอบฤทธิ์ต้านไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยง พบว่าสามารถยั้งเชื้อไวรัสที่นำมาซึ่งไข้หวัดใหญ่ได้
การเรียนรู้ทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษ    สารสกัดต้นทองพันชั่งด้วยแอลกอฮอล์จำนวนร้อยละ 50  เมื่อป้อนหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังในขนาด 10 กรัม/กก. ไม่เจออาการเป็นพิษในหนูเม้าส์ ซึ่งขนาดที่ใช้ทดลองนี้เป็น 3,333 เท่าของขนาดที่ใช้ในตำราเรียนยา
คำแนะนำ/ข้อควรพิจารณา   การเก็บมาใช้ ควรจะเก็บใบและก็รากจากต้นที่สมบูรณ์แข็งแรงได้รับปุ๋ย, แสงอาทิตย์ แล้วก็น้ำเพียงพอ กล่าวอีกนัยหนึ่งใบไม่มีจุดเหลือง มีสีเขียวสดวาว และควรที่จะเลือกเก็บจากต้นที่แก่เกิน 1 ปี หรือออกดอกแล้ว รวมทั้งสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ โรคหืด โรคโลหิตจาง โรคมะเร็งในเลือด โรคความดันเลือดต่ำ ไม่สมควรรับประทานสมุนไพรทองคำพันชั่งน้ำหนัก
เอกสารอ้างอิง

  • นันทวัน บุณยะประภัศร, บรรณาธิการ. 2530. ก้าวไปกับสุมนไพร เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพมหานคร:ธรรกมลการพิมพ์.
  • ทองพันชั่ง.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ทองพันชั่ง.ฐานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
  • Wu, T.S., Tien, J.J., Yeh, M.Y., and Lee, K.H. 1988. Isolation and cytotoxicity of rhinacanthin-A and - B, Two napthoquinones from Rhinacanthus nasutus. Phytochemistry 27 (12) : 3787-3788.
  • มาโนช วามานนท์ และเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, บรรณาธิการ. 2530. ยาสมุนไพร สำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก. http://www.disthai.com/
  • ทองพันชั่ง.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่6.คอลัมน์สมุนไพรน่ารู้.ตุลาคม 2522
  • ภโวทัย พาสนาดสภณ.สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร (Active Ingradients in Herbs). คอลัมน์ บทความวิชาการ.วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี.ปีที่ 27 .ฉบับที่1.กันยายน 2558 – กุมภาพันธ์ .2559. หน้า 120-131
  • ทองพันชั่ง.กลุ่มสมุนไพรแก้มะเร็ง.สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด.โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพฯรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี.
  • โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง. 2531. ทองพันชั่ง : แก้กลาก เกลื้อน สังคัง. ข่าวสารสมุนไพร 32 : 32-35.
  • Wongwanakul, R., Vardhanabhuti, N.,Siripong, P., &Jianmongkol, S. (2013). Effects of rhinacanthin-C on function andexpression ofdrugeffluxtransporters in Caco-2cells. Fitoterapia,89, 80-85.

บันทึกการเข้า