รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: สมุนไพรลูกใต้ใบพร้อมทั้งวิธิรักษาสรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 535 ครั้ง)

bilbill2255

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 112
    • ดูรายละเอียด


ลูกใต้ใบ
ชื่อสมุนไพร  ลูกใต้ใบ
ชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน  ต้นหญ้าใต้ใบ,มะขามป้อมดิน,หน่วยใต้ใบ (ภาคเหนือ) ,หญ้าใต้ใบขาว (สุราษฎร์),จูเกี๋ยเช่า (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn.
ชื่อสามัญ Egg woman, Tamalaki, Stonebreaker.
วงศ์  EUPHORBIACEAE
ถิ่นเกิด ลูกใต้ใบมีบ้านเกิดในแถบเขตร้อนต่างๆของโลกทั้งยังในทวีป อเมริกาใต้ แอฟริกา แล้วก็เอเชีย แล้วก็มีการกระจายประเภทไปอยู่ในหลายๆประเทศเขตร้อนของภูมิภาคดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ดังเช่น ประเทศเปรู บราซิล ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย ไทย พม่า ลาว อื่นๆอีกมากมาย ส่วนในประเทศไทยนั้น ต้นลูกใต้ใบสามารถพบได้ทั่วทุกจังหวัด ตั้งแต่ในสมัยก่อนจนกระทั่งตอนนี้ โดยมักพบในที่โล่งหรือตามบริเวณเงาไม้ต้นในที่แจ้งทั่วๆไป หรือขึ้นแซมกับพืชที่เกษตรกรปลูก กระทั่งจะต้องถูกกำจัดเสมือนวัชพืชอื่นๆอย่างยิ่งจริงๆ
ลักษณะทั่วไป ลูกใต้ใบ เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กจัดอยู่ในตระกูล Euphorbiaceae จีนัส Phyllanthus เหตุที่มีชื่อเรียกว่า ลูกใต้ใบ, ต้นหญ้าลูกใต้ใบ หรือ หญ้าใต้ใบ เนื่องจากว่าส่งผลขนาด เล็กออกตามซอกก้านใบย่อยแล้วก็ห้อยลงให้เห็นว่าลูกอยู่ใต้ใบ ในประเทศไทยมีไม้ล้มลุกที่ มีลักษณะดังที่กล่าวมาแล้วคล้ายคลึงกันและก็ถูกเรียกว่าลูกใต้ใบอยู่อย่างน้อย 5 ประเภทหรือสปีชีส์ (species) เช่น Phyllanthus amarus Schumach. & Thonn., P. debilis, P. niruri, P. urinary Linn (ต้นหญ้าใต้ใบ) และก็ P. virgatus G. Forst. แต่มีรายงานการศึกษาเรียนรู้วิจัยพบว่าลูกใต้ใบจำพวก P.amarus Schumach. & Thonn. นั้นเป็นชนิดที่ให้สารที่มีสรรพคุณทางยามากที่สุด ซึ่งลูกใต้ใบฃนิดนี้มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้

  • ต้นลูกใต้ใบ จัดเป็นพืชล้มลุก มีอายุเพียงแต่ปีเดียว มีความสูงราว 10-50 ซม. แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ลำต้นไม่มีขน และทุกส่วนของต้นมีรสขม
  • ใบลูกใต้ใบ ใบเป็นใบคนเดียวประกอบแบบขนนกเรียงสลับกันชั้นเดี่ยวปลายคี่ มีใบย่อยโดยประมาณ 23-25 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปขอบขนานปนรูปไข่กลับ โคนใบมนแคบ ส่วนปลายใบมนกว้างของใบเรียบไม่มีขน ใบข้างล่างสีอ่อนกว่าด้านบน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-4 มม.และยาวราวๆ


5-10 มิลลิเมตร มีก้านใบสั้นมากมาย มีหูใบสีขาวนวล ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายแหลมเกาะติดอยู่ 2 อัน

  • ดอกลูกใต้ใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศ มีขนาดเล็กสีขาว เส้นผ่านศูนย์กลางราว 0.08 เซติเมตร ดอกเพศเมียมักจะอยู่บริเวณโคนก้านใบ ส่วนดอกเพศผู้มักจะอยู่บริเวณส่วนปลายของก้านใบ มักออกเป็นกระจุกๆละ 2-3 ดอก โดยดอกตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าดอกตัวผู้โดยประมาณ 2 เท่า รวมทั้งดอกโดดเดี่ยวๆเกสรตัวผู้มี 3 ก้าน โคนก้านเกสรเชื่อมกันบางส่วน มีอับเรณูแตกอยู่ตามแนวยาว ส่วนกลีบรองและก็กลีบดอกเป็นรูปไข่ ขอบกลีบมีสีอ่อน
  • ผลลูกใต้ใบ รูปแบบของผลเป็นรูปทรงกลมแป้น ผิวเรียบมีสีเขียวอ่อนนวล ผลมีขนาดประมาณ 0.15 เซนติเมตร โดยผลชอบเกาะติดอยู่บริเวณใต้โคนของใบย่อย และก็อยู่ในรอบๆกึ่งกลางก้านใบ ผลเมื่อแก่จะแตกเป็นพู 6 พู ในแต่ละพูจะมีเม็ด 1 เมล็ด สีน้ำตาล มีลักษณะเป็นรูปเสี้ยว 1 ส่วน 6 ของทรงกลม มีสันตามทางยาวทางด้านหลัง และก็มีขนาดเล็กมากมายราวๆ 0.1 ซม.


การขยายพันธุ์  ลูกใต้ใบเป็นพันธุ์พืชที่สามารถมักพบในที่โล่งแจ้งและตามขอบไม้ในที่โล่งแจ้งทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะฤดูฝนจึงไม่มีการนิยมนำมาปลูกในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด  ส่วนการขยายพันธุ์ของลูกใต้ใบนั้นสามารถแพร่พันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด  ในตอนนี้นั้นเมื่อเริ่มมีการตื่นตัวถึงคุณประโยชน์ของลูกใต้ใบที่มีรายงานการค้นคว้ามารับรองแล้วนั้น  ก็เลยเริ่มมองเห็นมีการเพาะกล้าของลูกใต้ใบมาแล้วก็เกษตรกรก็เริ่มเพาะปลูกลูกใต้ใบเพื่อขายมากเพิ่มขึ้นกว่าสมัยก่อน
ส่วนประกอบทางเคมี ส่วนประกอบทางเคมีของลูกใต้ใบจะประกอบไปด้วยสารแทนนิน (Tannins), ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids), ลิกแนนส์ (Lignans), ไกลโคไซด์ (Glycosides), ซาโปนิน (Saponin) อื่นๆอีกมากมาย  รวมทั้งสมุนไพรลูกใต้ใบยังประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญอีกเป็นต้นว่า  ธาตุโซเดียม 0.86 %, ธาตุโพแทสเซียม 12.84 %,  ธาตุเหล็ก 10.68 %, ธาตุแคลเซียม 6.57 %, ธาตุแมกนีเซียม 0.34 %, ธาตุอะลูมิเนียม 3.92 %, ธาตุฟอสฟอรัส 0.34 %
 
 
 
 
 
 
                                                       ที่มา  :  Wikipedia
คุณประโยชน์  ด้านคุณประโยชน์ของลุกใต้ใบนั้นชาวไทยมีความเชื่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่าลูกใต้ใบสามารถคุ้มครองปกป้องตับจากพิษของสารเคมี และถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อช่วยรักษาคนป่วยที่เป็นมะเร็งตับให้มีอายุยาวขึ้น และก็ยังมีคุณประโยชน์ตามตำรายาไทยอีกหลายสิ่งหลายอย่างดังเช่นว่า ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย  บำรุงธาตุภายในร่างกาย เจริญอาหาร รักษาโรคตา ควบคุมแล้วก็ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความดันเลือด แก้ไข้ ลดความร้อน ช่วยลดไข้ทุกประเภท ช่วยรักษามาลาเรีย ช่วยแก้อาการไอ ช่วยแก้หืด ช่วยแก้อาการร้อนในอยากดื่มน้ำ ช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ช่วยขับเสมหะ แก้ท้องเสีย  แก้ปวดท้อง  โรคท้องมาน แก้บิด ข้อตกขาวไข้รอบเดือนของสตรี รักษาไข้ทับรอบเดือน  ช่วยทำนุบำรุงสายตา ทำให้สายตาดี แก้ไข้ ลดความร้อน ช่วยลดไข้ทุกชนิด ช่วยแก้พิษตานซาง แก้น้ำเหลืองเสีย  บำรุงตับ รักษาโรคตับเหลือง ยอดอ่อนใช้รักษาลักษณะของการปวดข้อ  ปวดกระดูก ลดอาการอักเสบ แก้เริม ฯลฯ
แบบอย่าง/ขนาดวิธีการใช้

  • แก้ไข้ ให้นำต้นสด 1 กำมือ ต้มกับน้ำปริมาณ 2 ถ้วยแก้ว แล้วเคี่ยวกระทั่งเหลือน้ำ 1 1/2 ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละครึ่งถ้วยแก้ว
  • รักษาโรคเริม ให้ใช้ลูกใต้ใบราว 5 ใบ ตำผสมกับเหล้าแล้วคั้นมัวแต่นำมา แล้วใช้สำลีชุบน้ำยามาติดตรงที่เป็น
  • รักษาลักษณะของการปวดข้อ ใช้ยอดอ่อนมาต้มกับน้ำแล้วดื่มรักษาลักษณะของการปวดกระดูก ปวดข้อ
  • แก้เมื่อย นำลูกใต้ใบมาล้างน้ำ และก็สับเป็นชิ้นเล็กๆผึ่งแดดให้แห้ง ต้มใส่หม้อดิน นำมาดื่มแทนชา
  • แก้ไอ นำใบอ่อนของต้นใต้ใบ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 2 แก้ว ต้มจนถึงเหลือน้ำ 1 1/2 แก้วใช้จิบแก้ไอ
  • ขับเมนส์ นำต้นลูกใต้ใบมาต้มรับประทาน ก็จะช่วยปรับสมดุลเลือดลมในร่างกาย ทำให้รอบเดือนมาปกติได้
  • ไข้ทับประจำเดือน ให้นำลูกใต้ใบ 5 มาล้างน้ำสะอาด เอามาตำผสมเหล้าขาว คั้นเฉพาะน้ำยามาดื่มทีละ 1 ถ้วยชา
  • บำรุงสายตาให้ใช้ผลต้มดื่มและยังช่วยรักษาโรคตา
  • กำจัดพิษออกมาจากตับ ใช้ต้มดื่มติดต่อกันประมาณ 1 อาทิตย์ คุ้มครองป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากพิษต่างๆและช่วยทำนุบำรุงตับ


การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา  จากการศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยในหลอดทดลองหลายรายงานพบว่าลูกใต้ใบสามารถยั้ง DNA poly-merase ของ HBV ซึ่งเป็นเอนไซม์สำหรับสังเคราะห์ DNA ของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ดังเช่นว่า สารสกัดเมทานอลจากลูกใต้ใบ (ไม่ระบุความเข้มข้น) สารสกัดเมทานอลจากอีกทั้งต้น (ไม่ระบุความเข้มข้น) สารสกัดน้ำจากอีกทั้งต้น มีค่า IC50 พอๆกับ 500 มค.กรัม/มิลลิลิตร สารสกัดน้ำจากทั้งยังต้น ความเข้มข้น 75 มค.ก./มิลลิลิตร สารสกัดน้ำจากทั้งต้นมีฤทธิ์อ่ออนในการยับยั้ง DNA polymerase ของ HBV มีค่า IC50 เท่ากับ 59 มค.กรัม/มล. และก็ขนาด 43 มค.ก./มล. มีฤทธิ์อ่อนสำหรับการยังยั้ง HBV สารสกัดเมทานอลยังมีฤทธิ์ยั้ง HBV antigen
สารสกัดน้ำจากต้น ความเข้มข้น 100 มค.กรัม/มิลลิลิตร สามารถยับยั้งการแบ่งตัวด้านในเซลล์ HBV สารสกัดเอทานอล สารสักดเฮกเซน สารสกัดคลอโรฟอร์ม สารสกัดบิวทานอล และสารสกัดน้ำจากทั้งต้น ขนาด 4 มก./มล. มีฤทธิ์ต่อต้าน HBV  antigen โดยสารสัดบิวทานอลมีฤทธิ์สูงสุด รวมทั้งยั้งปฏิกิริยาระหว่า HBs Ag/Hbe Ag ยับยั้งการสังเคราะห์ DNA ของ HBV และยั้งการ expression ของ HBV antigen สารสกัดน้ำจากต้น ความเข้มข้น 0.5 มก./มิลลิลิตร ทดลองในเซลล์เพาะเลี้ยง hepatoma cell line HepA2 ที่ถูกทำให้ติดโรค HBV พบว่าสารสกัดจะยั้งการแบ่งตัวของเซลล์รวมทั้งกดการสร้าง Hbs Ag แต่ว่าไม่ลดการผลิต HBsAg gene promotor ซึ่งจะไปกระตุ้น CAT activity สารสกัดน้ำจากใบมีฤทธิ์ยับยั้งการ expression ของ HBV antigen โดยมี IC50 พอๆกับ 5 มค.กรัม/มล.
ส่วนการทดสอบในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดลูกใต้ใบให้ผลสำหรับเพื่อการยั้งเชื้อ HBV ในสัตว์ทดลองโดยเมื่อฉีดสารสกัดน้ำจากต้นขนาด 80 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เข้าช่องท้องหนู G26 transgenic mice จะยับยั้งการเกิด transcription ในตับหนูโดยลด HBV mRNA และขนาด 100 มค.กรัม/มิลลิลิตร (ไม่กำหนดกระบวนการบริหารยา) จะลดการเกิด  transgenic ด้วยเหมือนกัน โดยระดับของ HBs Ag mRNA ในเซลล์ตับน้อยลง รวมทั้งยั้ง expression ของ HBV mRNA
ยิ่งกว่านั้นยังมีนักวิจัยแยกสารประกอบกรุ๊ป lignan ได้จากสารสกัด ethyl acetate จากลูกใต้ใบซึ่งมี ฤทธิ์ต้านทานโรคมะเร็งโดยพบว่าไปยับยั้งการแสดงออกของ ยีน Bcl-2 รวมทั้งการขัดขวางแนวทางการทำงานของ เอนไซม์ telomerase ร่วมกับการกระตุ้นการทำงานแสดงออกของ ยีน c-myc รวมทั้งลักษณะการทำงานของ เอนไซม์ caspases นำมาซึ่งการก่อให้เกิดขั้นตอนตายของเซลล์แบบ apoptosis รวมทั้งยังมีการวิจัยทางเภสัชวิทยาต่างๆอีกอาทิเช่น

  • สารสกัดด้วยเอทานอลของรากลูกใต้ใบชนิด P. amarus มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งยังสามารถช่วยลด Oxidative stress ได้เมื่อศึกษาในหลอดทดสอบ ส่วนในสารสกัดแบบน้ำชาของลูกใต้ใบก็พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยเหมือนกัน
  • สารสกัดด้วยเมทานอลของลูกใต้ใบประเภท P. amarus มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นโรคโรคเบาหวานจากการฉีดสาร Alloxan แล้วก็สารสกัดด้วยน้ำจากใบและเม็ดของ P. amarus ก็มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน โดยมีการทดลองใช้ดื่มน้ำตาลซูโครส 10% เป็นเวลา 30 วันเพื่อทำให้สภาวะน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น แต่ผลของการทดสอบก็พบว่าสามารถช่วยลดสภาวะโรคเบาหวานได้
  • มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง สารสกัดด้วยน้ำและก็แอลกอฮอล์ของลูกใต้ใบจำพวก P. amarus มีฤทธิ์แรงสำหรับการช่วยยับยั้ง HIV-1 โดยเป็นสารออกฤทธิ์ในกรุ๊ป Gallotannin ซึ่งสาร Corilagin, Ellagitannins และ Geraniin นั้นจะมีฤทธิ์แรงที่สุด นอกนั้นยังช่วยยั้งเชื้อ HIVE ได้ถึง 30% แล้วก็มีผลยับยั้งเชื้อ HIVE ทั้งยังใน in vitro และใน in vivo
  • ช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดพิษต่อตับของหนูขาวจากการได้รับยาพาราเซตามอล โดยพบว่าการให้ต้มหรือผงของลูกใต้ใบจำนวน 1 ครั้งในขนาด 3.2 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมในตัวทดลอง ก่อนให้พาราเซตามอลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง มีผลช่วยลดความเป็นพิษได้ดิบได้ดีที่สุด
  • สารสกัดด้วยเมทานอลของลูกใต้ใบ P. amarus มีฤทธิ์สำหรับในการต้านทานการก่อกลายพันธุ์ของสาร 2-acetaminofluorene (2-AFF), 4-nitro-O-phenylenediamine, Aflatoxin B1, Sodium azide รวมทั้ง N-methyl-N-nitro-N- nitrosoguanidine เมื่อทำการค้นคว้าด้วย Ames test ในตัวทดลอง โดยผลของการต่อต้านการก่อกลายพันธุ์ของสารสกัดใน in vitro จะดีกว่าใน in vivo


ฤทธิ์คุ้มครองปกป้องตับของลูกใต้ใบในหนูขาว  การศึกษาเล่าเรียนในหนูขาวโดยแบ่งหนูขาวออกเป็น 5 กรุ๊ป กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มควบคุมให้รับประทานสารละลายกลูโคส (Isocaloric glucose solution) กลุ่มที่ 2 เป็นกรุ๊ปที่ได้รับสารละลายเอทานอล (20% น้ำหนัก/ปริมาตร) ขนาด 5 กรัม/กิโลกรัม/วัน กลุ่มที่ 3 ได้รับสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลขนาด 250 มก./กิโลกรัม/วัน ร่วมกับสารละลายเดกซ์โทรส กรุ๊ปที่ 4 และก็ 5 เป็นกลุ่มที่ได้รับสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลขนาด 250 รวมทั้ง 500 มก./กก./วัน ร่วมกับสารละลายเอทานอลขนาด 5 ก./กิโลกรัม/วัน ตามลำดับ นาน 4 อาทิตย์ (เอทานอลให้นาน 3 สัปดาห์) พบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับเอทานอลเพียงอย่างเดียว สารสกัดลูกใต้ใบขนาด 250 รวมทั้ง 500 มก./กก./วัน ในหนูกลุ่มที่ 4 แล้วก็ 5 ที่รั้งนำให้เกิดความเป็นพิษที่ตับด้วย เอทานอลสามารถลดระดับการเกิด lipid peroxidation ได้ 29.10 รวมทั้ง 45.67% เป็นลำดับ รวมทั้งยังสามารถเพิ่มระดับการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี reduced glutathione (GSH), superoxide dimutase (SOD), catalase (CAT) ในตับ โดยกลุ่มที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบขนาด 250 มิลลิกรัม/กก./วัน สามารถเพิ่มระดับการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี GSH, SOD และก็ CAT ได้ 27.60, 36.36 และก็ 28.61% เป็นลำดับ ในช่วงเวลาที่กรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบขนาด 500 มิลลิกรัม/กก./วัน สามารถเพิ่มรูปแบบการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีดังที่กล่าวผ่านมาแล้วได้ 81.60, 51.03 และ 37.41% ตามลำดับ และก็หนูในกรุ๊ปที่ 4 รวมทั้ง 5 ยังสามารถลดแนวทางการทำงานของเอนไซม์ glutathione-S transferase ได้ 28.19 และ 47.99% นอกเหนือจากนั้นยังพบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบ 250 มก./กก./วัน ร่วมกับ เอทานอล (กลุ่มที่ 4) ลักษณะการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี alanine transaminase (ALT) aspartate transaminase (AST) แล้วก็ alkaline phosphatase (ALP) ในตับมากขึ้น 12.68, 42.35 และ 40.01% เป็นลำดับ ในช่วงเวลาที่ ALT และก็ AST ในพลาสมาลดลง 41.38 แล้วก็ 51.90% เหมือนกันกับหนูในกรุ๊ปที่ 5 ที่ได้รับสารสกัดลูกใต้ใบ 500 มิลลิกรัม/กก./วัน ร่วมกับเอทานอล ระดับของ ALT, AST แล้วก็ ALP ในตับมากขึ้น 42.35, 21.63 และ 116.9% เวลาที่ค่า ALT และก็ AST ในพลาสมาลดน้อยลง 51.90 และ 51.20% จากการเรียนรู้สรุปได้ว่าสารสกัดใบของลูกใต้ใบด้วยเมทานอลสามารถปกป้องการเช็ดกทำลายของตับในหนูขาวที่รั้งนำให้กำเนิดพิษที่ตับได้

การเรียนรู้ทางคลินิก การศึกษาคนเจ็บที่เป็นพาหนะของโรคตับอักเสบบีจำนวน 78 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คน กลุ่มควบคุม 38 คน) สามารถติดตามผลหลังการทดลอง 1 เดือน ได้เพียง 60 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 37 คน กรุ๊ปควบคุม 23 คน) กลุ่มทดลองจะกินยาผงลูกใต้ใบอีกทั้งต้นบรรจุแคปซูลขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง นาน 30 วัน กรุ๊ปควบคุมจะรับประทานยาหลอกคือ lactose แทน ใช้การตรวจค้น HBs Ag และก็ HBe Ag ในซีรัมของผู้ป่วยด้วยวิธี ELISA
ภายหลังทดลอง 1 เดือน พบว่าผู้ป่วยในกลุ่มทดลอง 22 คน ใน 37 คน (59%) ตรวจพบ HBs Ag ในซีรัมได้ผลลบ ตอนที่มีผู้ป่วยในกลุ่มที่ได้รับยาหลอกเพียง 1 คนแค่นั้น (4%) ที่ตรวจพบ HBs Ag ในซีรัมได้ผลลบ ในคนเจ็บที่ตรวจเจอ HBs Ag ในซีรัมได้ผลสำเร็จลบใน 1 เดือนแรก ปริมาณ 22 คน ในกลุ่มทดลอง และก็ 1คนในกลุ่มควบคุม และก็เมื่อติดตามการดูแลรักษาจนถึง 9 เดือน เหลือผู้ป่วยในกลุ่มทดลองเพียงแค่ 1 คน ยังตรวจเจอ HBs Ag ได้ผลสำเร็จลบเป็นต้นว่าเดิมคนเจ็บที่เป็นพาหะที่มี HBs Ag และก็ HBe Ag จะมีผลตอบสนองต่อการรักษาน้อยกว่ากลุ่มพาหะที่ไม่มี HBe Ag กรุ๊ปที่มี HBs Ag และ HBe Ag จะปลอดการเป็นพาหะข้างหลังการทดสอบเพียง 29% (5 ใน 17 คน) รวมทั้งกรุ๊ปที่ไม่มี HBe Ag จะปลอดการเป็นยานพาหนะข้างหลังการทดลองถึง 85% (17 ใน 20 คน) ส่วนผู้เจ็บป่วยที่เป็นพาหะที่ได้รับยาหลอก 1 คน ที่ตรวจเจอ HBs Ag สำเร็จลบนั้นเป็นพาหะที่เดิมมีเพียง HBs Ag เท่านั้น และเป็นพาหะที่ไม่มีอาการ ไม่เจออาการข้างเคียงในคนเจ็บทุกคนที่ทำการศึกษาเล่าเรียนในคราวนี้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามหลังจากติดตามผลได้ 3 เดือน พบว่าปริมาณผู้ป่วยในกลุ่มทดลองแล้วก็กลุ่มควบคุมมีความต่างกันอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติโดยกรุ๊ปควบคุมเหลือเพียง 19 คน ในช่วงเวลาที่กลุ่มทดลองมีถึง 36 คน
นอกเหนือจากนี้ลูกใต้ใบยังสามารถลดการอักเสบของตับได้ ดังในการทดสอบให้ผู้ป่วยชายและก็หญิงที่เป็นตับอักเสบเรื้อรัง กินผลจากลูกใต้ใบทั้งยังต้นขนาด 1.5 ก./วัน ให้คนเจ็บตับอักเสบเรื้อรังทั้งคู่เพศกินต้นลูกใต้ใบ (ไม่เจาะจงขนาด) พบว่าสาร catechin จะลดระดับบิลิรูบินในพลาสมา แล้วก็ลด Bromsulfthalein clearance (BSP clearance) การศึกษาเล่าเรียนในผู้เจ็บป่วยตับอักเสบจากเชื้อไวรัส 120 ราย กินยาตำรับของอายุรเวท 4 ชนิด ประกอบด้วยสมุนไพรพลายชนิดรวมถึงลูกใต้ใบด้วย (ไม่ระบุขนาดที่กิน) คนเจ็บทุกคนมิได้รับยาแผนปัจจุบัน พบว่าผู้เจ็บป่วยส่วนมากจะมีค่า serum glutamic oxaloacetic transaminase (SGOT). Serum glutamic pyruvic transaminase (SGPT) แล้วก็บิลิรูบินลดน้อยลง และก็มีคนเจ็บ 1 รายที่ตรวจเจอ HBs Ag สำเร็จลบ
การเรียนทางพิษวิทยา

  • การทดสอบความเป็นพิษ สารสกัดเซลล์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงด้วยเอทานอล (50%) เมื่อให้หนูถีบจักรกิน พบว่าขนาดสูงสุดก่อนกำเนิดอาการพิษหมายถึง1 ก./กก. สารสกัด 50% อัลกฮออส์จากอีกทั้งต้น เมื่อให้หนูกินหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 10 ก./กก. ไม่พบพิษ สารสกัดน้ำจากพืชอีกทั้งต้น เมื่อฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักร ขนาด .01 มิลลิกรัม หรือ 1.8 มก. ไม่เจอพิษ สารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน เอทานอล และสารสกัดด้วยน้ำ เมื่อให้เข้าทางกระเพาะหนูถีบจักรในขนาด 500 มก./กก. ไม่พบพิษ สารสกัดน้ำจากอีกทั้งต้นฉีดเข้าท้องลูกเป็ดขนาด 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ไม่เจอพิษ สารสกัดเอทานอล 95% จากทั้งยังต้น เมื่อให้เข้าทางกระเพาะหนูถีบจักร ขนาด 100 มิลลิกรัม/กก. นาน 30 วัน ไม่เจอพิษ หนูที่กินสารสกัดจากพืชที่อยู่เหนือดิน (ไม่กำหนดชนิดของสารสกัด) ขนาด 0.2 มิลลิกรัมวัน ตรงเวลา 90 วัน ไม่เจอพิษ เมื่อให้ผู้ใหญ่ทั้งสิ้นศชาย แล้วก็หญิงรับประทานลูกใต้ใบขนาด 2.7 กรัม/วัน ไม่เจอพิษ คนแก่กินพืชส่วนที่อยู่เหนือดินขนาด 1.5 ก.ไม่เจอพิษ แล้วก็เมื่อให้เด็กกินพืชอีกทั้งต้น (ไม่ระบุขนาดที่กิน) ไม่พบพิษ


ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่ระบุประเภทและขนาดของสารสกัด) เมื่อให้เข้าทางท้องหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังของหนูถีบจักรและก็หนูขาว ส่งผลให้เกิดแนวทางในการซัก ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่ระบุชนิดแล้วก็ขนาด) มีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นแล้วก็บีบตัวของหัวใจกบ หนูขาว แล้วก็หนูถีบจักร ส่วนสกัดของสารสกัด (ไม่เจาะจงชนิดและก็ขนาด) มีฤทธิ์ลดความดันในหมา

  • ผลต่อระบบขยายพันธุ์ เมื่อให้หนูถีบจักรเพศผู้ รับประทานสารสกัดอัลกอออล์จากต้น ขนาด 100,250,400 รวมทั้ง 500 มก./กก. จะลดอัตราการมีลูกลง 10,32,52 รวมทั้ง 72% เป็นลำดับ แล้วก็เมื่อให้หนูกินสารสกัดดังที่กล่าวผ่านมาแล้วในขนาดสูงพอๆกับ 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม จะลด cauda epididymal sperm counts ลดการเคลื่องที่ของสเปิร์ม ยังยั้ง succinate dehydrogenase ใน epididymis แล้วก็ testis เปอร์เซ็นต์ของสเปิร์มที่มีชีวิตต่ำลง


เมื่อให้สารสกัดเอทานอล 95% จากทั้งยังต้น ทางสายยางให้อาหารแก่หนูถีบจักรเพศภรรยา ขนาด 100 มก./กิโลกรัม นาน 30 วัน จะก่อให้หนูมีลูกยาก

  • เป็นพิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากทั้งยังต้น ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร,200 มค.กรัม/มิลลิลิตร และก็ 500 มค.ก./มล. เป็นพิษต่อเซลล์ sarcoma (Rous virus) (11), Ca-Hepatocarinoma-G2(7) แล้วก็ cell  line HuH-7 (13) เป็นลำดับ
ข้อแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง

  • สตรีมีท้องห้ามกินลูกใต้ใบด้วยเหตุว่าลูกใต้ใบมีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการขับระดูซึ่งอาจจะทำให้ทำให้เป็นอันตรายได้
  • ลูกใต้ใบมีฤทธิ์ทางเภสัชที่ดังยาแอสไพริน เพราะฉะนั้นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข่งตัวของเลือดไม่ควรกิน
  • การใช้สมุนไพรลูกใต้ใบนั้น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเหลือเกิน และไม่ควรที่จะใช้เกิดขนาดที่กำหนดในฉลากผลิตภัณฑ์
  • คนที่เป็นโรคตับ โรคไตควรปรึกษาหมอก่อนใช้เสมอ
หนังสืออ้างอิง

  • ศิริพร เหลียงกอบธุระ.ลูกใต้ใบ&ตับอักเสบบี.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.
  • รองศาสตราจารย์ภกญ.นวลน้อย จูฑะพงษ์.รายงานการวิจัยฤทธิ์ของลูกใต้ใบต่อหน้าที่ไมโตคอนเดรียในตับหนูขาว.สาขาวิชาเภสัชวิทยา สำนักวิชาวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
  • ฤทธิ์คุ้มครองป้องกันตับของลูกใต้ใบในหนูขาว.ข่าวสารการเคลื่อนไหวสมุนไพร.ที่ทำการข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ลีที่นา ผู้พัฒนพงศ์พันธุ์, 2530. สมุนไพรไทยตอนที่ 5 . ข้างวิชาพฤกษศาสตร์ป่าดง กองบำรุง กรมป่าไม้, กรุงเทพมหานคร http://www.disthai.com/
  • Faremi TY, Suru SM, Fafunso MA, Obioha UE.Hepatoprotective potentials of Phyllanthus amarus againt etanol-induced oxidative stress in rats. Food Chem Toxicol.2008;46:2658-64
  • Van Welzen, P., Chayamarit, K. (2007) Euphorbiaceae, in: Santisuk, T., Larsen, K. (Eds.),


Flora of Thailand. Prachachon Co. LTD., Bangkok, pp. 473-507.

  • เต็ม สมิติเตียนนันทน์,2544. ชื่อพรรณไม้ที่ประเทศไทย. ส่วนวิชาพฤกษศาสตร์ป่าดง สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้, กรุงเทพฯ.
  • Giridharan, P., Somasundaram, S.T., Perumal, K., Vishwakarma, R.A., Karthikeyan, N.P., Velmurugan, R., Balakrishnan, A. (2002) Novel substituted methylenedioxy lignan suppresses proliferation of cancer cells by inhibiting telomerase and activation of c-myc and caspases leading to apoptosis. British Journal of Cancer 87: 98-105.

บันทึกการเข้า