รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคหูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง/หูน้ำหนวก.( Chronic Otitis media)- อาการ, สาเหตุ, การ  (อ่าน 425 ครั้ง)

หนุ่มน้อยคอยรัก007

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • ดูรายละเอียด


โรคหูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง/หูน้ำหนวก.( Chronic Otitis media)
โรคหูชั้นกลางอักเสบคืออะไร ขั้นแรกจำต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ (Otitis media) นั้น เรียกเป็นภาษาชาวบ้านว่า โรคหูน้ำหนวก มีต้นเหตุที่เกิดจากการติดเชื้อในหูชั้นกลาง
ซึ่งหูชั้นกลาง (middle ear) เป็นส่วนของช่องหูที่อยู่ถัดจากเยื่อแก้วหูเข้าไป มีกระดูกค้อน กระดูกทั่ง แล้วก็กระดูกโกลนใส่อยู่ ปฏิบัติภารกิจรับคลื่นเสียงที่ผ่านมาทางหูชั้นนอก และส่งต่อไปยังหูชั้นในซึ่งมีเส้นประสาทหูรับทราบเสียง (การได้ยิน)
            ด้านล่างของหูชั้นกลางมีท่อเล็กๆเชื่อมต่อกับคอหอย เรียกว่า ท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) เมื่อมีการติดเชื้อของคอหอย เชื้อโรคสามารถเดินทางผ่านท่อยูสเตเชียนเข้าไปในหูชั้นในได้ ถ้าหากว่าท่อยูสเตเชียนเกิดการอักเสบบวม ก็จะเกิดการตัน ทำให้เชื้อโรคถูกกักไว้ภายในหูชั้นกึ่งกลางจนกระทั่งมีการติดโรคของหูชั้นกลาง รวมทั้งบางทีอาจอักเสบเป็นหนองขังอยู่ในหูชั้นกลาง มีลักษณะไข้สูง ปวดหู หูอื้อได้ในระยะแรก
โรคนี้ก็เลยพบบ่อยร่วมกับโรคติดเชื้อของทางเท้าหายใจส่วนต้น เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฝึกหัด คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ ฯลฯ โดยเชื้อก่อโรคบางทีอาจเป็นเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียก็ได้
โดยโรคหูชั้นกลางอักเสบ เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก เนื่องจากในเด็กนั้น ท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลางหรือท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกึ่งกลางแล้วก็หลังโพรงจมูก ยังไม่พัฒนาบริบูรณ์เต็มกำลัง ประกอบกับเด็กเกิดภาวะติดโรค อย่างเช่น โรคหวัดได้บ่อย ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการอักเสบต่อเนื่องไปยังรูเปิดของท่อปรับความดันหูชั้นกึ่งกลาง ซึ่งอยู่หลังโพรงจมูก ส่งผลกระตุ้นให้เกิดภาวการณ์หูชั้นกึ่งกลางอักเสบรุนแรง (Acute otitis media) ขึ้น ซึ่งถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษา จะมีอาการไข้ หูอื้อ และก็ปวดหูมาก กระทั่งเมื่อแก้วหูทะลุ อาการปวดหูและไข้จะเริ่มดีขึ้นกว่าเดิม แม้กระนั้นจะมีน้ำหนอง ซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู และก็ถ้ายังมิได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมอีก บางทีอาจเปลี่ยนเป็น “โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง หรือหูน้ำหนวก (Chronic otitis media)” ถัดไป ซึ่งได้โอกาสเป็นผลใกล้กัน สอดแทรกต่างๆตามมาได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หูชั้นในอักเสบ ฝีในสมอง ฝีข้างหลังหู ฝีที่คอ บริเวณใบหน้าเป็นอัมพาต ฯลฯ
โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบ มักจะเกิดอาการอักเสบด้านในของรอบๆหูชั้นกลาง จำนวนมากแล้วมักเกิดจากการต่อว่าดเชื้อที่เยื่อหู จนกระทั่งส่งผลให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ รวมทั้งกำเนิดของเหลวที่รอบๆหลังแก้วหู
โดยระดับของการอักเสบแบ่งได้เป็น 3 ระดับดังต่อไปนี้

  • หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน (Acute otitis media – AOM) โดยปกติแล้วถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการหูชั้นกลางอักเสบมาก่อน จะนับว่าเป็นหูชั้นกลางอักเสบฉับพลัน ด้วยเหตุว่าอาการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะเกิดขึ้นอย่างเร็ว โดยมีภาวะ ดังต่อไปนี้ จำนวนมากมักกำเนิดร่วมกับการต่อว่าดเชื้อในรอบๆทางเดินหายใจส่วนต้น (คอและก็จมูก) เช่น หวัด ต่อมทอนซิลอักเสบ แล้วก็บางรายหูชั้นกึ่งกลางอักเสบทันควันบางทีอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ ไอกรน ฝึกฝน ทำให้เชื้อโรคบริเวณคอผ่านท่อยูสเตเชียน หรือท่อปรับความดันหูชั้นกลาง (Eustachain tube) เข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางได้ และก็มีการอักเสบขึ้นมา ทำให้เยื่อบุผิวภายในหูชั้นกึ่งกลางและท่อยูสเตเชียนบวม และก็มีหนองขังอยู่ในหูชั้นกลาง ด้วยเหตุว่าไม่สามารถที่จะระบายผ่านท่อยูสเตเชียนที่บวมและตันได้ ในที่สุดเยื่อแก้วหูซึ่งเป็นเยื่อบางๆที่กั้นอยู่ระหว่างหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกับหูชั้นนอกก็จะมีการทะลุเป็นรู หนองที่ขังอยู่ด้านในก็จะไหลออกมาเปลี่ยนเป็นหูน้ำหนวกในเวลาถัดมา
  • สภาวะน้ำคั่งในหูชั้นกึ่งกลาง (Otitis media with effusion-OME) เมื่อเกิดการอักเสบที่หูชั้นกึ่งกลางจะทำให้เกิดของเหลวด้านในหู ซึ่งอาจส่งผลต่อการได้ยินในระยะสั้น กล่าวคือ เป็นภาวการณ์ที่มีนํ้าขังอยู่ในหูชั้นกลางโดยที่ไม่มีอาการแสดงของการอักเสบหรือติดเชื้อ คนไข้ชอบมีอาการหูอื้อ การได้ยินลดน้อยลง แม้กระนั้นไม่มีอาการปวดหูและไม่เป็นไข้ เมื่อตรวจตราในหูจะไม่พบการบวมแดงของแก้วหู แต่จะมีการขยับของเยื่อแก้วหูลดน้อยลง (เนื่องจากว่ามีน้ำขังอยู่ข้างหลัง) สภาวะนี้พบบ่อยในผู้ที่มีองค์ประกอบใบหน้าที่ไม่ปกติ
  • หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ถ้าหากหมอพบว่ามีการฉีกจนขาดของแก้วหูบ่อยๆแล้วก็มีร่องรอยของการอักเสบ ก็อาจจะทำให้หมอวิเคราะห์ได้ว่ามีการอักเสบอย่างเรื้อรังที่หูชั้นกลางได้โดยมีภาวะดังต่อไปนี้ เป็นภาวะที่มีการทะลุของเยื่อแก้วหูและมีหูน้ำหนวกไหลแบบเรื้อรัง (โดยมากจะเริ่มเป็นมาตั้งแต่เด็ก) โดยบางทีอาจมีสาเหตุจากหูชั้นกึ่งกลางอักเสบฉับพลันหรือมาจากการได้รับบาดเจ็บจนแก้วหูทะลุก็ได้ และก็บางทีอาจเจอร่วมกับคนที่เป็นภูมิแพ้เรื้อรัง ต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง ผนังกันช่องจมูกคด และริดสีดวงจมูก


ซึ่งโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบนี้พบได้บ่อยในเด็กมากกว่าในคนแก่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี เนื่องด้วยท่อยูสเตเชียนของเด็กสั้นกว่าและก็อยู่ในแนวราบมากกว่าในคนแก่ โดยในโรคหูชั้นกลางอักเสบนี้ ระยะของการอักเสบที่ทำให้มีน้ำหนองไหลออกมาจากรูหู (ภาษาชาวบ้านเรียกน้ำหนวก) นี้ ชอบเจอในระยะหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรั้ง เป็นส่วนมาก ส่วนระยะอื่นพบได้มากได้นานๆครั้งมาก และความร้ายแรงของโรคก็ไม่มากเท่าระยะเรื้อรัง โดยเหตุนี้ในประเด็นต่อไปคนเขียนจึงจะขออธิบายเฉพาะในระยะหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรังหรือโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังเพียงเท่านั้น เพื่อไม่ให้กำเนิดความสับสนของนักอ่าน
ที่มาของโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง สาเหตุของโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้องรังของ (COM) มักมีสาเหตุมาจาก

  • หูชั้นกลางอักเสบกระทันหัน (acute otitis media) ที่มิได้รับการรักษาทันเวลา ทำให้โรคหนองในหูชั้นกึ่งกลางดันเยื่อแก้วหูทะลุออกมาก และจากนั้นมิได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุนั้นไม่อาจจะปิดได้เอง
  • เยื่อแก้วหูทะลุจากการบาดเจ็บ (traumatic tympanic membrane perforation) ดังเช่น ใช้ไม่พันสำลีปั่นช่องหู แล้วมีอุบัติเหตุกระแทกทำให้ไม้พันสำลีนั้น กระแทกเยื่อแก้หูกระทั่งทะลุเป็นรูรวมทั้งรูนั้นไม่สามารถปิดได้เอง หรือเป็นผลมาจากการผ่าตัดกรีดเยื่อแก้วหู (myringotomy) เพื่อระบายหนองออกจากหูชั้นกลาง ในคนเจ็บที่มีหูชั้นกึ่งกลางอักเสบกระทันหันที่มีภาวะแทรกซ้อน หรือผ่าตัดเพื่อใส่ท่อระบายของเหลวหรือโรคหนองในหูชั้นกึ่งกลาง (ventilation tubes) รวมทั้งค้างไว้ที่เยื่อแก้วหู แล้วหลุดออกไป แต่รูที่เกิดจากการผ่าตัดนั้นไม่อาจจะปิดได้เอง ซึ่งต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เยื่อแก้วหูที่ทะลุนั้นไม่สามารถปิดได้เองดังเช่นว่า
  • มีการไหลของของเหลว ยกตัวอย่างเช่น มูกหรือหนองผ่านรูทะลุตลอดระยะเวลา เพราะยังมีการติดเชื้อในหูชั้นกลางอยู่
  • เยื่อบุผิวหนังของหูชั้นนอก (squamous epithelium) เข้ามาปกคลุมที่ขอบของรูทะลุ เมื่อเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้กลไกในการ

Proteus species
ที่มา : Google
คุ้มครองป้องกันการติดเชื้อของหูชั้น
กึ่งกลางเสียไป เมื่อเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้กลไกสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องการต่อว่าดเชื้อของหูชั้นกึ่งกลางเสียไปเชื้อโรงที่เป็นสาเหตุของการต่อว่าดเชื้อแล้วก็ทำให้หูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง ดังเช่น เชื้อแบคทีเรียและ     
        พบได้บ่อย คือเชื้อประเภทเอ็งรมลบ
 
Pseudomonas aeruginosa
        ที่มา : Googie                                                                                                                
 

Staphylococcus aureus
ที่มา Wikipedia
 และก็Pseudomonas aeruginosa, Proteus species, Klebsiella pneumoniae แล้วก็เชื้อจำพวกแกรมบวก อาทิเช่น Staphylococcus aureus และบางทีอาจเจอเชื้อ anaerobes อย่างเช่น Bacteroides, Peptostrep-tococcus, Peptococcus ได้ ที่สามารถไปสู่ร่างกายได้โดย

  • มีต้นเหตุจากการที่เชื้อโรคจากคอ หรือ จมูก ผ่านเข้าทาง Eustachian tube ไปสู่หูชั้นกลาง
  • มีต้นเหตุมาจากเชื้อโรคเข้าทางรูหู ผ่านแก้วหูที่ทะลุอยู่ก่อนแล้ว เข้าไปสู่หูชั้นกึ่งกลาง แล้วก็ mastoid air cell
  • ผ่านทางกระแสเลือด


นอกนั้นยังอาจมีต้นเหตุมาจาก  มีการตันของรูเปิดของท่อยุสเตเชียนจากพยาธิสภาพในโพรงหลังจมูก ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งโพรงข้างหลังจมูก ต่อมอดีนอยด์โต, การอักเสบของโพรงจมูก ไม่ว่าจากการติดเชื้อ หรือไม่ใช่การต่อว่าดเชื้อการอักเสบของโพรงข้างหลังจมูก ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากกรดไหลย้อนที่ขึ้นมาที่โพรงข้างหลังจมูก หรือเกิดจากกรดไหลย้อนที่ขึ้นมาที่โพรงหลังจมูก หรือเกิดขึ้นจากความไม่ดีเหมือนปกติโดยกำเนิดของท่อยูสเตเชียนทางร่างกายส่วนแล้วก็สรีรวิทยา ตัวอย่างเช่น เพดานโหว่ (cleft palate) Down syndrome พยาธิสภาพดังกล่าว ทำให้มีการคั่งของของเหลวที่ผลิตมาจากหูชั้นกึ่งกลาง และก็มีการอักเสบของเยื่อบุหูชั้นกลาง แล้วก็ทำให้ของเหลวดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วไหลออกจากหูชั้นกึ่งกลางได้
อาการโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง หูชั้นกึ่งกลางอักเสบประเภทเรื้อรัง  แบ่งเป็น 2 จำพวก เป็น

  • ประเภทไม่อันตราย (safe or uncomplicated ear) รูทะลุของเยื่อแก้วหู มักจะอยู่กึ่งกลาง (central perforation) โอกาสที่เยื่อบุหูชั้นนอก (stratified squamous epithelium) หรือไคล (cholesteatoma) จะเข้าไปในหูชั้นกลางและก็โพรงอากาศมาสตอยด์ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อย หูน้ำหนวกประเภทนี้หมายถึงประเภทที่ไม่มีขี้ไคลนั่นเอง ประเภทนี้คนไข้จะมีหนอง (mucopurulent discharge) ไหลจากหูเป็นๆหายๆอาจตรวจพบ granulation หรือ polyp ได้ มักไม่พบว่ามีลักษณะปวดหูร่วมด้วย ถ้าเกิดมีลักษณะอาการปวดหูแปลว่าอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น นอกนั้นคนป่วยมักเสียการได้ยินแบบการนำเสียงเสีย บางรายอาจมีเส้นประสาทหูเสื่อมร่วมด้วยจาก Bacterial Toxin
  • จำพวกอันตราย (unsafe or complicated ear) ชอบมีรูทะลุของเยื่อแก้วหู อยู่ที่ขอบแก้วหู (marginal perforation) ทำให้ช่องทางที่เยื่อบุหูชั้นนอก หรือคราบไคลจะเข้าไปในหูชั้นกึ่งกลางแล้วก็โพรงกระดูกมาสตอยด์ ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูง หูน้ำหนวกประเภทนี้เป็นประเภทที่มีขี้ไคลนั่นเอง จำพวกนี้ผู้ป่วยจะมีอาการคือ ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะอาการหนองไหลออกจากหูเป็นๆหายๆหากว่ารักษาด้วยการใช้ยาเต็มที่แล้วอาการไม่ดีขึ้น  รวมทั้งมีอาการหูตึงจากการนำเสียงเปลี่ยนไปจากปกติ (conductive hearing loss) หรือทำลายอวัยวะที่เกี่ยวกับการได้ยินในหูชั้นใน ทำให้หูตึงจากเส้นประสาทหูทำงานผิดปกติ (sensorineural hearing loss) มีลักษณะเวียนศีรษะ อ้วก อ้วก  นำไปสู่อัมพาตของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7  เกิดภาวะสอดแทรกทางสมอง ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis), ฝีในสมอง (brain abscess),

การตำหนิดเชื้อของเส้นเลือดในกะโหลกศีรษะ (sigmoid sinus thrombophlebitis) มีการอักเสบของกระดูกมาสตอยด์ (mastoiditis) เหตุเพราะมีหนองขังอยู่ในส่วนของกระดูก มาสตอยด์ แล้วไม่สามารถระบายออกไปได้ ทำให้มีการทำลายของกระดูกส่วนที่เป็นโพรงอากาศมาสตอยด์คนป่วยมีลักษณะปวดหูเพิ่มมากขึ้น มีหนองไหลออกจากหูมากเพิ่มขึ้น
และมีกลิ่นเหม็น  กำเนิดฝีหนองข้างหลังหู (subperiosteal abscess)
กรรมวิธีรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้จากแนวทางในการซักความเป็นมาลักษณะของคนเจ็บ การตรวจร่างกาย และการใช้งานเครื่องส่องหู (Otoscope) ส่องดู ซึ่งจะพบเยื่อแก้วหูมีลักษณะไม่ปกติ ถ้าแก้วหูยังไม่ทะลุสามารถรับรองการมีน้ำในหูชั้นกลางได้ด้วยการตรวจ pneumatic otoscope และการประมาณ tympanometry ถ้าทะลุแล้วจะมองเห็นรูทะลุแล้วก็มีน้ำอยู่ในรูหูชั้นนอก สามารถนำน้ำในหูไปย้อมสีและเพาะหาชนิดของเชื้อได้แล้วก็การตรวจนับเม็ดเลือดจะช่วยยืนยันภาวะติดเชื้อถ้าเกิดยังไม่มีหนองไหล นอกนั้นยังมีการตรวจพิเศษอื่นๆเพิ่มเติมได้แก่

  • การถ่ายรังสีกระดูกมาสตอยด์ (plan film of mastoid) พบได้บ่อยว่าโพรงกระดูกมาสตอยด์ทึบ และนิดหน่อยของกระดูกมาสตอยด์บางทีอาจถูกทำลายไป
  • การตรวจการได้ยิน เพื่อตรวจระดับของการได้ยินทีเสียไป หากการอักเสบของหูชั้นกึ่งกลางหรือ cholesteatoma ทำลายกระดูกหู (ossicular destruction) จะก่อให้มีการสูญเสียการได้ยินมากมาย (conductive hearing loss) หรืออาจมีการสูญเสียของประสาทหู (sensorineural hearing loss) ได้ถ้าเกิดมี inner ear involvement
  • การเป่าลมเข้าไปในช่องหู เพื่อมองว่าคนป่วยมีอาการเวียนหัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ หรือมีลูกตากระตุๆก (nystagmus) หรือ (fistula test) หาก cholesteatoma ได้ทำลายกระดูกที่ห่ออวัยวะควบคุมการทรงตัว จนกระทั่งเกิดทางเชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลาง รวมทั้งอวัยวะควบคุมการทรงตัว การเป่าลมดังกล่าวข้างต้นจะกระตุ้นอวัยวะควบคุมการทรงตัว ทำให้คนเจ็บมีอาการเวียนศีรษะหรือดวงตากระตุกได้ ควรกระทำทดสอบดังกล่าวมาแล้วข้างต้นในคนป่วยทุกรายที่มี cholesteatoma โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการเวียนหัว
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ของกระดูกเทมโพรอคอยล (temporal bone) พิเคราะห์ทำในรายที่ใช้ยารักษาเต็มที่แล้วไม่ดีขึ้น (สงสัย cholesteatoma เนื้องอก,สิ่งปลอมปน) หรือสงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน (ossicular or fallopian canal erosion จาก cholesteoma, subperiostea abscess)
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ของกระดูกเทมโพรอล พิจารรณาทำในรายที่สงสัยว่าจะมีภาวะแทรกซ้อน (dural inflammation, sigmoid sinus thrombosis, labyrinthitis, extra-craniai and intracranial abscess)


สำหรับวิธีการรักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรังจำพวกไม่อันตรายเป็น ทำความสะอาด ดูดหนองในรูหู  ให้ยาหนอดหู fluoroquinolone ear drop 14-28 วัน
หากอาการยังไม่ดีขึ้นให้ รับประทานยาปฏิชีวนะ ร่วมด้วย หลังจากให้การรักษาโดยใช้ ยาปฏิชีวนะอย่างเต็มที่แล้วยังไม่ดีขึ้นควรต้องประเมินหา cholesteatoma และ mastoiditis
ในคนไข้บางรายหลังการดูแลและรักษาด้วย ยาปฏิชีวนะไปแล้ว ยังพบว่าแก้วหูทะลุอยู่ไม่สามารถปิดเองได้ซึ่งอาจพิจารณารับการผ่าตัดแก้วหู (tympanoplasty) วัตถุประสงค์หลักสำหรับเพื่อการปะเยื่อแก้วหูคือ

  • เพื่อกำจัดการต่อว่าดเชื้อในหูชั้นกึ่งกลาง
  • เพื่อคุ้มครองการต่อว่าดเชื้อผ่านเยื่อแก้วหูที่ทะลุไปสู่หูชั้นกลาง
  • เพื่อช่วยให้การได้ยินดีขึ้น


และวิธีการรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังชนิดอันตรายเป็น กำจัดการต่อว่าดเชื้อข้างในหูชั้นกึ่งกลางคุ้มครองป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อด้านในหูชั้นกลางอีก รักษาการได้ยินให้อยู่ในสภาพดี
เว้นแต่จุดมุ่งหมายในการรักษาดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว 3 ข้อแล้ว ควรทำให้ cholesteatoma มีทางออก เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ cholesteatoma มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนกระทั่งไปทำลายอวัยวะที่สำคัญต่างๆ

  • การรักษาทางยา โดยบางทีอาจให้ยาต้านทานจุลินทรีย์ประเภทกินแล้วก็ประเภทหยอดหู และให้ยาต้านจุลชีวินประเภทฉีดเข้าเส้นโลหิต ในคนไข้ ที่มีภาวะแทรกซ้อน และก็ชำระล้างหู โดยนำหนองของเหลว รวมทั้งเนื้อตายในหูชั้นกลางออกให้หมด
  • กระทำผ่าตัด mastoidectomy สำหรับผู้เจ็บป่วยที่มี cholesteatoma เก็กกักเอาไว้ในส่วนของแก้วหูที่เป็นแอ่ง แล้วก็หมอไม่อาจจะเห็นและทำความสะอาดเอา cholesteatoma โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนในสุดของแอ่งได้ ควรจะกระทำผ่าตัด หลักการคือเอา cholesteatoma ออกมาให้หมด โดยทำ tympanomastoid surgery และก็เปิดทางให้ choleseatoma ที่อยู่ภายใน มีทางออกสู่ภายนอก เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้ cholesteatoma มีการขยายขนาดกระทั่งไปทำลายอวัยวะที่สำคัญต่างๆและเกิดภาวะเข้าแทรกได้

ปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ปัจจัยต่างๆที่ทำให้คนป่วยมีความเสี่ยงต่อการต่อว่าดเชื้อข้างในหูชั้นกลางจนกลายเป็นการอักเสบเรื้อรังได้ ซึ่งอาทิเช่น

  • อายุ หูชั้นกลางอักเสบมักเกิดขึ้นในเด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี เป็นส่วนมาก เพราะท่อยูสเตเชียนของเด็กอยู่ในลักษณะแนวระดับทำให้เกิดการระบายของเหลวไม่ดีพอเพียงเหมือนผู้ใหญ่
  • ปัญหาสุขภาพ เด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่มีการเสี่ยงที่จะกำเนิดติดเชื้อในหูชั้นกึ่งกลาง เพราะความผิดปกติดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะนำมาซึ่งการทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ท่อยูสเตเชียนและก็เข้าสู่หูชั้นกึ่งกลางได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าคนปกติทั่วไป นอกเหนือจากนี้ ผู้เจ็บป่วยกรุ๊ปดาวน์ซินโดรม (Down's Syndrome) ที่มีลักษณะทางกายภาพที่ต่างจากเด็กคนทั่วไปจะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดหูชั้นกึ่งกลางอักเสบได้มากขึ้น
  • การดื่มนมแม่ เด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่เกิดจะทำให้มีภูมิคุ้มกันในระยะแรกเกิดน้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ เนื่องจากว่าในน้ำนมแม่มีภูมิต้านทานที่ดีและก็ช่วยคุ้มครองปกป้องการติดเชื้อต่างๆได้
  • การเปลี่ยนแปลงของฤดู หวัดมักเป็นกันมากมายในช่วงฤดูฝน รวมทั้งฤดูหนาว ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้เจ็บป่วยติดโรคที่หูได้ง่ายขึ้นเมื่อป่วยหวัด นอกนั้น คนป่วยโรคภูมิแพ้อากาศก็ยังมีการเสี่ยงสูงที่จะติดโรคได้อีกด้วย
  • การดูแลเด็ก เด็กที่จำต้องได้รับการดูแลในสถานที่รับเลี้ยงมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยหวัดและมีการติดโรคที่หูได้ง่าย ด้วยเหตุว่าภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่ปรับปรุง และสถานที่รับเลี้ยงเด็กมักเป็นแหล่งแพร่ระบาดโรคที่ทำให้เด็กเจ็บป่วยได้มากที่สุด
  • มลพิษทางอากาศ ฝุ่นควันกลางอากาศรวมถึงควันบุหรี่ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และก็หูได้ง่ายขึ้น
  • การสั่งขี้มูกแรงๆการมุดน้ำ การว่ายน้ำ ในเวลาที่มีการอักเสบในโพรงข้างหลังจมูกจะทำให้มีการอักเสบติดเชื้อโรคในหูชั้นกึ่งกลางได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


การติดต่อของโรงหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง โรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้องรังหรือหูน้ำหนวกนี้ เป็นโรคที่เกิดจากาการตำหนิดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ในบริเวณหูชั้นกลางซึ่งมิได้เป็นโรคติดต่อและไม่ได้มีการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด
การปฏิบัติตนเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • ไม่แคะ ปั่น เขี่ย หรือถูขี้หูออก หรือชำระล้างหูโดยใช้ไม้พันสำลี นิ้วมือ หรือวัตถุใดๆก็ตามใส่เข้าไปในรูหู โดยมิได้รับคำชี้แนะจากแพทย์รวมทั้งพยาบาล
  • คุ้มครองป้องกันไม่ให้น้ำน่าฟัง โดยใช้สำลีหรืออุปกรณ์อุดรูหู (Ear plug) ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านกีฬา (เป็นที่อุดหูสำหรับเพื่อการว่ายน้ำหรือมุดน้ำ) แล้วก็ทุกคราวขณะอาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไพเราะ
  • ในเวลาที่มีหูน้ำหนวกไหลหรือเป็นโรคหูน้ำหนวกเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกและก็ตลอด หลีกเลี่ยงการมุดน้ำหรือเล่นน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง
  • ไม่สมควรล้างหูด้วยสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเสมอๆหรือซื้อยาหยอดหูมาใช้เอง
  • ไม่ไอแบบปิดปากแน่น หรือสั่งขี้มูก จามรุนแรงแบบปิดจมูกแน่น
  • ปกป้องตนเองไม่ให้เป็นหวัด หรือโรคฟุตบาทหายใจอักเสบ
  • ทำตามข้อเสนอของหมอ รับประทานยาตามที่หมอสั่งให้ถูกต้อง ครบ ไม่หยุดยาเอง แม้ว่าอาการจะดีขึ้นกว่าเดิมและตาม เพราะเหตุว่าอาจก่อให้การดูแลและรักษาสำเร็จไม่สุดกำลัง หรือเกิดภาวะเข้าแทรกได้
  • เมื่อมีลักษณะน่าสงสัย หรือเป็นหวัดช้านาน หรือ เป็นหูชั้นกึ่งกลางอักเสบทันควัน (มีอาการไข้ หูอื้อ ปวดหู มีน้ำหนองซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากหู) ควรจะรีบไปพบแพทย์/หมอหู คอ จมูก
การปกป้องตัวเองจากโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • การปกป้องคุ้มครองในเด็กอาจทำได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยง ตัวอย่างเช่น สนับสนุนให้เด็กแรกเกิดกินนมแม่ เลี่ยงการส่งเด็กไปเลี้ยงที่ศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีการเขตสุขาภิบาลไม่ดี
  • เลี่ยงการสัมผัสสนิทสนมผู้จับไข้หวัด และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจอื่นๆ
  • ฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องเชื้อนิวโมค็อกคัส (pneumococcal vaccine) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคหูชั้นกลางอักเสบและปอดอักเสบ
  • เลี่ยงการอยู่ในที่ๆมีควันบุหรี่
  • ระแวดระวังอย่าให้มีอันตรายหรืออุบัติเหตุกับหู เลี่ยงการกระทบสะเทือนบริเวณหูแล้วก็รอบๆใกล้เคียง เพราะเหตุว่าอาจทำให้แก้วหูทะลุรวมทั้งฉีกขาดได้
  • ถ้าเกิดมีอาการป่วยด้วยโรคหูชั้นกลางอักเสบฉับพลันควรรีบกระทำรักษาก่อนที่จะกลายเป็น ระยะหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง
  • ทำให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อลดการเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆด้วยการกินอาหารที่มีสาระให้ครบถ้วนบริบูรณ์ทั้งยัง 5 หมู่ และหมั่นบริหารร่างกาย
  • เมื่อมีอาการน่าสงสัย หรือเป็นหวัดช้านาน หรือ เป็นหูชั้นกลางอักเสบรุนแรง ควรรีบไปพบหมอ
สมุนไพรที่ใช้คุ้มครองป้องกัน / รักษาโรคหูชั้นกึ่งกลางอักเสบเรื้อรัง (หูน้ำหนวก)

  • หูเสือหรือเนียมหูเสือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plectranthus amboinicus สรรพคุณทางยาไทยพบว่า น้ำคั้นจากใบสามารถแก้ปวดหู พิษฝีในหู หูน้ำหนวก ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่าสามารถยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งยีสต์ ยับยั้งเชื้อรา ฆ่าแมลง ยับยั้งการงอกของพืชอื่น ยั้งเอนไซม์ protease จากเชื้อ HIV และมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระ    สารสำคัญที่เจอในใบ ดังเช่นว่า น้ำมันหอมระเหย thymol, carvacrol, γ-terpinene, cyperene เป็นต้น
  • กระชาย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Boesenbergia rotunda (L.) Mans
บันทึกการเข้า