รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคปอดอักเสบ/ปอดบวม-อาการ-สาเหตุ-วิธีรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 505 ครั้ง)

Tawatchai1212

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • ดูรายละเอียด


โรคปอดอักเสบ / ปอดบวม (Pneumonia)

  • โรคปอดอักเสบ / ปอดอักเสบ เป็นยังไง ปอด (Lung) เป็นอวัยวะในระบบการหายใจที่อยู่ด้านในหน้าอกทั้ง 2 ข้าง มีลักษณะเป็นเนื้อหยุ่นๆมีสีออกชมพูมีบทบาทเปลี่ยนก๊าสจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป คือ ในตอนที่เราหายใจเข้าปอดจะปฏิบัติภารกิจนำแก๊สออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายและก็ในขณะเดียวกันปอดก็จะขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมากับลมหายใจ ธรรมดาเนื้อปอดนี้จะเป็นอวัยวะที่ปราศจากเชื้อโรค เมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆเข้าไปถึงเนื้อปอด จะนำมาซึ่งการทำให้การอักเสบแล้วก็มีการบวมเกิดขึ้น ซึ่งโรคปอดอักเสบ (Pneumonitis – นิวโมนิว่ากล่าวส) เป็นคำทั่วไปจุดหมายถึงการอักเสบของเนื้อเยื่อปอด ในระหว่างที่ปอดอักเสบ (Pneumonia – นิวโมเนีย) เป็นจำพวกของการต่อว่าดเชื้อที่ทำให้มีการเกิดการอักเสบของปอด โรคปอดอักเสบรวมทั้งปอดอักเสบก็เลยสื่อความหมายคล้ายกันมากกระทั่งใช้เรียกแทนกันได้ แต่ในตอนนี้นิยมเรียกโรคปอดอักเสบมากกว่าเนื่องจากว่ามีความหมายตรงกว่า โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) เป็นโรคติดเชื้อโรคในระบบทางเท้าหายใจ ซึ่งระยะฟักตัวขึ้นกับเชื้อที่ก่อโรคโดยบางทีอาจใช้เวลาฟักตัว 1-3 วัน หรือบางครั้งอาจจะนาน 1-4 อาทิตย์ เลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้กำเนิด การอักเสบของเนื้อปอด*ซึ่งประกอบไปด้วยถุงลมปอดรวมทั้งเยื่อรอบๆทำให้ปอดปฏิบัติหน้าที่ได้น้อยลง และก็เกิดอาการหายใจหอบเมื่อยล้า หายใจลำบาก ซึ่งจัดเป็นภาวะรุนแรงทำให้ผู้ป่วยอาจมีอาการร้ายแรงจนกระทั่งขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กตัวเล็กๆ คนชรา ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่อต้านโรคต่ำ เป็นต้น
  • ที่มาของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ปอดอักเสบมีต้นเหตุมาจากหลายสาเหตุ แต่ที่มักพบหมายถึงการตำหนิดเชื้อ ยกตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปโตซัว หรือ เชื้อวัณโรค อย่างเช่น การต่อว่าดเชื้อแบคทีเรีย ชนิดหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของปอดอักเสบที่พบมากที่สุดในคนทุกวัย ดังเช่นว่า เชื้อปอดอักเสบ ที่มีชื่อว่า “สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pheumoniae) หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “นิวโมค็อกคัส” (Pneumococcus) ซึ่งเป็นเชื้อที่นำมาซึ่งอาการปอดอักเสบรุนแรงและก็ร้ายแรง โดยแต่ละคนมีการ ติดเชื้อโรคยากง่ายต่างกัน ถ้าหาก เป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง ติดเชื้อโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ได้ยากดภูมิคุ้มกันก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการต่อว่าดเชื้อได้ง่ายยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป เช่นเดียวกับผู้สูงวัยสุขภาพไม่ดีเสมือนวัยรุ่น ถ้าติดเชื้อตัวเดียวกัน คนชราอาจมีอาการร้ายแรงกว่า นอกจากนั้นคนวัยชราอาจเป็นโรคอันอื่นร่วมด้วย ได้แก่ เบาหวาน ความดันเลือดสูง โรคหัวใจ หากมีภาวการณ์เหล่านี้ เพียงพอมีปอดอักเสบร่างกายก็จะทรุดเร็วภาวะแทรกซ้อนก็เกิดได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ขาดออกซิเจนได้ง่ายขึ้น
  • อาการของโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ ลักษณะโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ ผู้ป่วยจะมีลักษณะอาการไอ มักมีเสมหะ มีไข้ เจ็บอก อ่อนล้าง่าย อาการไข้ มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หรือมีไข้ตัวร้อนตลอดเวลา อาการไอ ในระยะแรกอาจมีอาการไอแห้งๆไม่มีเสมหะ แล้วถัดมาจะมีเสมหะขาวหรือขุ่นข้นออกเป็นสีเหลือง สีเขียว หรือบางรายอาจะเป็นสีสนิมเหล็กหรือมีเลือดคละเคล้า ลักษณะของการเจ็บทรวงอก บางรายอาจมีลักษณะการเจ็บอก แบบเจ็บแปลบเวลาหายใจเข้าหรือตอนที่ไอแรงๆตรงจุดที่มีการอักเสบของปอด ซึ่งบางโอกาสอาจเจ็บปวดรวดร้าวไปที่ศีรษะไหล่ สีข้าง หรือท้อง แล้วต่อมาจะมีอาการหายใจหอบเร็ว อาการหอบเมื่อยล้าคนไข้มักมีลักษณะหอบเหน็ดเหนื่อย หายใจเร็ว หากเป็นมากอาจมีอาการปากเขียว ตัวเขียว ส่วนในรายที่เป็นไม่มากอาจไม่มีอาการหอบอ่อนเพลียชัดเจน อาการพวกนี้อาจมีไม่ครบทุกๆอย่าง โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กตัวเล็กๆๆผู้สูงอายุ คนเจ็บพิกลพิการทุพพลภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองแล้วก็ติดต่อสื่อสารได้จำกัด ควรสนใจและสงสัยมากยิ่งกว่าธรรมดา เพราะว่าอาการบางทีอาจคลุมเครือ อาทิเช่น ในคนวัยแก่ อาจจะมีเพียงแค่จับไข้ หรือตัวอุ่นๆและก็ซึมลงเท่า นั้น บางทีก็อาจจะไอเพียงนิดหน่อย หรือบางทีก็อาจจะไม่ไอให้มองเห็นก็ได้ เนื่องมาจากมีความจำกัดสำหรับการเขยื้อน ไหว รวมทั้ง/หรือกล้ามไม่มีแรงพอที่จะไอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอาการแทรกฝึกที่อาจเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น กำเนิดฝีในปอด หรือเกิดโรคหนองในเยื่อหุ้มห่อปอด โดยแม้เป็นไม่มากมายก็ใช้วิธีใส่ท่อระบายหนองออก หากเป็นมากอาจถึงขั้นต้องผ่าตัดเพื่อเอาหนองออก เจาะเยื่อหุ้มปอดออก เวลาที่ผู้เจ็บป่วยบางรายอาจมีอาการไอเป็นเลือด ถุงลมรั่ว แต่ว่าพบได้น้อย
  • ปัจจัยเสี่ยงที่จะกำเนิดโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม อาทิเช่น
  • อายุ ในเด็กตัวเล็กๆๆและก็ในผู้สูงอายุ เพราะร่างกายมีความบกพร่องในการคุ้มครองป้องกันและกำจัดเชื้อโรค
  • การดื่มสุรา ดูดบุหรี่ รวมทั้ง/หรือรับประทานยาบางจำพวก ยกตัวอย่างเช่น ยากดภูมิต้านทาน ยารักษาโรคมะ เร็ง (ยาเคมีบำบัดรักษา) ซึ่งจะมีผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันต่อต้านโรค แล้วก็การกำจัดเชื้อโรค
  • การมีโรคประจำตัวบางสิ่งยกตัวอย่างเช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ  โรคไตเรื้อรัง ฯลฯ
  • การไม่รักษาสุขภาพรวมทั้งอนามัย ตัวอย่างเช่น การได้รับอาหารน้อย สุขภาพเสื่อมโทรม พักอาศัยในสถานที่ที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีพอเพียง ในที่ที่มีมลภาวะที่ต้องหายใจแล้วก็สูดมลพิษเข้าไปในปอด
  • กรรมวิธีการรักษาโรคปอดอักเสบ/ปวดบวม การตรวจหาเชื้อสิ่งที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบจำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้วก็จำต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการตรวจทางห้องทดลอง ซึ่งประกอบด้วย
  • การตรวจ เพื่อวินิจฉัยโรคปอดบวม
  • การตรวจเพื่อประเมิน site of care,
  • การตรวจเพื่อหาเชื้อมูลเหตุ,
  • การตรวจเพื่อ ประเมินโรคประจำตัวของคนไข้, รวมทั้ง
  • การตรวจเพื่อหา ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนในด้านการลดอัตราการเสียชีวิต ของผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ สิ่งที่จำเป็นที่สุดหมายถึงการให้ยา ยาปฏิชีวนะที่สมควรรวมทั้งให้อย่างรวดเร็วข้างใน 4 ถึง 6 ชั่วโมง ภายหลังจากให้การวินิจฉัยแล้วก็ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งขั้นตอนการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะ จะตรึกตรองตาม site of care เพราะว่ามีข้อมูลทางระบาดวิทยาว่า เจอเชื้อสาเหตุอะไรได้บ่อยในคนป่วยแต่ละกลุ่ม ซึ่งข้อมูลเชื้อก่อโรคในประเทศไทย จะดังทางประเทศอเมริกา ซึ่งกรรมวิธีรักษาปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ประกอบด้วย การให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน อย่างเช่น เพนิซิลลินวี (Penicillin V.) อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) หรืออิริโทรมัยซิน (Erythromycin) เป็นต้น (สำหรับกลุ่มวัยรุ่นแล้วก็วัยเอ๊าะๆ ควรที่จะใช้ยาอิริดทรมัยซิน เพื่อครอบคลุมเชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนียอี และก็เชื้อคลามัยเดีย นิวโมเนียอี) หรืออาจให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดแบบผู้ป่วยใน การดูแลรักษาทะนุถนอมตามอาการปกติยกตัวอย่างเช่น การให้ยาลดไข้ การให้สารน้ำทางหลอดเลือด การให้ออกสิเจน การให้อาการเหลวทางสายให้อาหารลงกระเพาะอาหารในรายที่รับประทานอาหารเองน้อยเกินไป อื่นๆอีกมากมาย

  • การติดต่อของโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม ระยะติดต่อ สามารถกระจายเชื้อได้ตลอดระยะเวลาที่เป็นโรคตราบจนกระทั่งเสลดจากปากและก็จมูกจะมีเชื้อไม่รุนแรงแล้วก็มีจำนวนไม่มากพอ ส่วนเด็กที่เป็นพาหะของเชื้อโดยไม่ออกอาการซึ่งพบได้ในสถานที่เลี้ยงเด็กก่อนวัยศึกษาก็สามารถแพร่ระบาดได้เหมือนกัน  โดยเชื้อโรคและก็สารก่อโรคสามารถไปสู่ปอดได้โดยทางใดทางหนึ่ง ดังต่อไปนี้  การหายใจนำเชื้อไปสู่ปอดโดยตรง โดยการดมเอาเชื้อโรคที่แพร่ขยายอยู่ในอากาศในรูปละออกฝอยขนาดเล็ก (จาการไอหรือจามใส่) หรือเชื้อที่อยู่ปกติวิสัย (Normal flora) ในโพรงปากและก็คอหอยลงไปในปอด ดังเช่นว่า สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pneumonia)  ฮีสูดดมฟิลัส อินฟลูเอนเซ (Haemophilus influenzae) กลุ่มแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกสิเจน – แอนแอโรบส์ (Anaerobes) การสำลัก เป็นกรณีครั้งมีเหตุมาจากการสำลักเอาน้ำรวมทั้งสิ่งปนเปื้อน (ในผู้ป่วยจมน้ำ) น้ำย่อยในผู้เจ็บป่วยโรคกรดไหลย้อน สารเคมี (ตัวอย่างเช่น น้ำมันก๊าด เบนซิน) หรือเศษอาหารเข้าไปในปอด ซึ่งพบบ่อยได้ในเด็กเล็ก คนชรา คนป่วยอัมพาต ลมชัก หมดสติ หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด ก็เลยทำให้ปอดอักเสบจากการระคายเคืองของสารเคมีหรือการติดเชื้อ เรียกว่า “ปอดอักเสบจากการสำลัก” (Aspiration Pneumonia) ซึ่งการอักเสบนอกจากจะเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากสารระคายเคืองแล้ว ยงอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคที่มีอยู่ในโพรงปากรวมทั้งคอหอยที่ถูกสำลักลงไปในปอดด้วย (ปอดอักเสบที่เกิดขึ้นจากการสำลักมักเป็นที่ปอดข้างขวามากยิ่งกว่าข้างซ้ายเพราะว่าหลอดลมข้างขวาหักมุมน้อยกว่าข้างซ้าย)


ในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015) สำนักระบาดวิทยา ได้รับรายงานคนเจ็บโรคปอดอักเสบ 215,951ราย อัตราเจ็บไข้ 330.06 ต่อมวลชนแสนคน เสียชีวิต 486 ราย อัตราตาย 0.74 ต่อพลเมืองแสนคน และก็อัตราป่วยตายร้อยละ 0.23 จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 – 2558 (คริสต์ศักราช2006 – 2015) อัตราเจ็บไข้ มีลัษณะทิศทางสูงขึ้นโดยตลอด แต่อัตราเจ็บไข้ตายมีทิศทางลดน้อยลง โดยคนป่วยเป็นเพศชาย 117,531 ราย ผู้หญิง 98,420 ราย อัตราส่วนเพศหญิงต่อเพศชาย เท่ากับ 1 : 1.2 และก็กลุ่มอายุ 0 – 4 ปี มีอัตราเจ็บป่วยสูงสุด รองลงมา คือ กลุ่มวัย 65 ปีขึ้นไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออัตราป่วยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกึ่งกลาง

  • การกระทำตนเมื่อเป็นโรคปอดอักเสบ/ปอดบวม วิธีดูกล้วยๆว่าตนเองเป็นโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบหรือเปล่าเป็นเมื่อใดที่เกิดอาการอ่อนล้า รู้สึกเริ่มหายใจขัด ไม่ทั่วท้อง จะต้องฉุกคิดแล้ว หรือถ้ามีลักษณะอาการไข้ ไอ มีเสมหะ เหมือนเป็นหวัด เกิน 3 วันไปแล้วไข้ยังสูงอยู่ เพราะเหตุว่าโดยปกติคนเป็นหวัดธรรมดาไม่เกิน 3 วันไข้ก็ลดแล้ว แต่ว่าถ้าหากเกิน 3 วันไข้ยังสูง คิดว่าไม่ดีขึ้น แล้วก็มีลักษณะอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย อยู่ในข่ายต้องสงสัยเป็นปอดอักเสบ ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจวิเคราะห์ อีกอาการหนึ่งที่ทำให้สงสัยว่ามีลักษณะอาการปอดอักเสบ คือ มีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย ซึ่งเรียกว่าเจ็บแบบเยื่อห่อหุ้มปอดอักเสบ คือ เจ็บตอนหายใจเข้าลึกๆแล้วก็เมื่อไปพบแพทย์แล้ว ปรากฏว่าแพทย์วิเคราะห์ว่ามีลักษณะอาการ ปอดบวมนิดหน่อย ที่แพทย์ตรึกตรองให้รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ หรือกรณีที่เป็นปอดอักเสบเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และแพทย์ใคร่ครวญให้กลับบ้านเพื่อรักษา และก็พักฟื้นต่อที่บ้าน ควรปฏิบัติตนดังนี้ ควรกินยาต่อตามแพทย์สั่งอย่างถูกต้อง ครบถ้วน โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ซึ่งไม่สมควรหยุดยาเอง กินอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ด้วยเหตุว่าเป็นช่วงที่ร่างกายอยากพลังงานสำหรับเพื่อการต่อสู้กับโรค รวมทั้งซ่อมร่างกายให้ฟื้น ควรที่จะเอาใจใส่สังเกตอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเกิดขึ้น
  • การป้องดันตนเองจากโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบ รักษาสุขภาพและก็อนามัยให้แข็งแรงบริบูรณ์อยู่เสมอยกตัวอย่างเช่น การทานอาหาร พักผ่อน ออกกำลังกาย ให้เหมาะสมกับภาวะรวมทั้งวัยของท่าน หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆอย่างเช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การใช้ยาเสพติด สภาวะทุพโภชนา ควันไฟ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรืออากาศที่หนาวเย็นการงดแล้วก็เลิก บุหรี่ เหล้า แล้วก็สารเสพติด การคุ้มครองการรับเชื้อโดยการปิดปากรวมทั้งจมูกเมื่อจำต้องสัมผัสคนไข้ที่ไอหรือจาม  และคนป่วยที่มีอาการไอหรือจาม ควรจะปกป้องการแพร่ขยายฝอยละอองไปยังคนอื่นๆ ด้วยการปิดปากและจมูกด้วยกระดาษหรือผ้าที่เอาไว้เช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัย คนที่มีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ได้แก่ คนชรา ผู้มีโรคประจำตัว ตัวอย่างเช่น โรคถุงลมโป่งพอง เบาหวาน โรคหัวใจ  ผู้ได้ยากดภูมิต้านทานต้านทานโรค ยกตัวอย่างเช่น ยารักษาโรคโรคมะเร็ง/ยาเคมีบำบัด


ฯลฯ ควรจะพินิจฉีดยาคุ้มครองโรคไข้หวัดใหญ่ หากมีโรคประจำตัว หรือเมื่อเป็นโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ฝึกฝน อีสุกอีใส เป็นต้น ควรรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

  • สมุนไพรประเภทไหนซึ่งสามารถช่วยทุเลา/รักษาโรคปอดอักเสบ/ปอดอักเสบได้ ฟ้าทะลายโจร  รสขม เป็นยาครอบจักรวาล คุณประโยชน์รับประทานแก้อาการอักเสบต่างๆแก้ไข้ แก้หวัด แก้ปอดอักเสบ แก้ไอ แก้เจ็บคอ ไม่สมควรกินติดต่อนานเกินเจ็ดวัน ทำให้ตับเย็น  กระเทียม  เป็นยาบำรุงร่างกาย กินเป็นยาแก้อักเสบในอก ในปอด แก้เสมหะ กระเทียมเจ็ดกลีบตำอย่างรอบคอบ ลายน้ำผึ้งกินติดต่อกันเจ็ดวัน เพื่อขับเสมหะในระบบทางเท้าหายใจ แก้หืดหอบ แก้ไอให้เสลดแห้ง บำรุงปอด แก้ปอดพิการ แก้ปอดบวม แก้วัณโรคปอด แก้เสลด แก้น้ำลาบเหนียว แก้ริดสีดวงแตกหน่อ เหง้าขิง  รสเผ็ดมีนำมันหอมระเหยที่มีคุณประโยชน์ต่อหัวหัวใจ ปอด ไล่เสมหะ ไล่ลม ให้ความอบอุ่นยามที่หนาวชื้น กลิ่นหอมสดชื่นทำให้หายใจสบาย ดื่มน้ำขิงอุ่นๆผสมนมร้อนบำรุงร่างกายบำรุงปอด  ขมิ้น  เป็นสมุนไพรเบื้องต้นที่ใช้รักษาอาการอักเสบกับอวัยวะต่างๆมาหลายร้อยพันปี เป็นยาบำรุงปอด รักษาแผลอักเสบในปอด
เอกสารอ้างอิง

  • นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ “ปอดอักเสบ/ปอดบวม (Pneumonia)” หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป หน้า 441-445
  • “ปอดอักเสบ”เป็นไข้ ไอ มีเสมหะ เหนื่อยเจ็บหน้าอก.สถานีรามาแชนแนล ขับเคลื่อนสังคมไทยให้สุขภาพดี (ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://wed.mahidol.ac.th/ramanel/old/index.php/kniwforhealth-20140910-31
  • นพ.สุรเกียรติ อาชานุภาพ “โรคปอดอักเสบ ในโรคระบบการหายใจ” http://www.disthai.com/
  • การรักษาโรคปอดบวม.บทความฟื้นฟูวิชาการ.วารสารอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.ปีที่ 1.ฉบับที่ 4.ตุลาคม-ธันวาคม 2558.หน้า 17-29
  • Mandell LA, Wunderink RG, Anzueto A, et al. Infectious Diseases Society of America/American Thoracic Society consensus guidelines on the management of community-acquired pneumonia in adults. Clin Infect Dis 2007; 44 Suppl 2: S27-72.
  • Watkins RR, Lemonovich TL. Diagnosis and management of community-acquired pneumonia in adults. Am Fam Physician 2011; 83: 1299-306.
  • Liapikou A, Torres A. Current treatment of community-acquired pneumonia. Expert Opin Pharmacother 2013; 14: 1319-32.
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ) “ปอดอักเสบ” นิตยสารหมอชาวบ้าน คอลัมน์:สารานุกรมทันโรค เล่มที่306
  • Lim WS, Baudouin SV, George RC, et al. British Thoracic Society guidelines for the management of community acquired pneumonia in adults: update 2009. Thorax 2009; 64 (Suppl 3): iii1-55.
  • Managing CAP: An evidence – based algorithm. The Journal of Family Practice. 2007;56:722-726.
  • Reechaipichitkul W, Lulitanond V, Tantiwong P, Saelee R, Pisprasert V. Etiologies and treatment outcomes in patients hospitalized with community-acquired pneumonia (CAP) at Srinagarind Hospital, Khon Kaen, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 2005; 36: 156-61.
  • Reechaipichitkul W, Lulitanond V, Sawanyawisuth, Lulitanond A, Limpawattana P. Etiologies and treatment outcomes for out-patients with community-acquired pneumonia (CAP) at Srinagarind Hospital, Khon Kaen, Thailand. Southeast Asian J Trop Med Public Health 2005; 36: 1261-7.
  • . Wattanathum A, Chaoprasong C, Nunthapisud P, et al. Community-acquired pneumonia in Southeast-Asia: the microbial different between ambulatory and hospitalized patients. Chest 2003; 123: 1512-9.
  • โรคปอดอักเสบ.สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคประจำปี 2558.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวจสาธารณสุข.หน้า 101-103
  • สมุนไพรบำรุงปอด.สยามรัฐ.



Tags : โรคปอดอักเสบ
บันทึกการเข้า