รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 403 ครั้ง)

ณเดช2499

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 82
    • ดูรายละเอียด


โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.โรคไข้หวัดใหญ่ คืออะไร  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบทางเท้าหายใจเหมือนกันกับหวัด แต่ว่าเกิดจากเชื้อไวรัสคนละประเภทและมีความรุนแรงสูงกว่าโรคหวัดธรรมดามาก และเป็นอีกโรคหนึ่งพบมากในทุกกลุ่มอายุอีกทั้งในเด็กจนถึง ถึงคนแก่ และได้โอกาสเกิดโรคใกล้เคียงกันอีกทั้งในหญิงรวมทั้งในเพศชาย  โดยมีลักษณะทางสถานพยาบาลที่สำคัญคือ เป็นไข้สูงแบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกรุ๊ปโรคติดเชื้ออุบัติใหม่รวมทั้งโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ เนื่องจากมีการระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) มาแล้วหลายที แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางดูเหมือนจะทุกทวีป ทำให้มีผู้ป่วยแล้วก็เสียชีวิตนับล้านคน

  • ต้นเหตุของไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่มีต้นเหตุที่เกิดจากการติดเชื้อ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA เชื้อไวรัส อยู่ในเชื้อสาย Orthomyxoviridae ที่พบอยู่ในสารคัดหลั่งของคนไข้ ตัวอย่างเช่น น้ำมูก น้ำลาย และเสลด ฯลฯ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งปวง 3 จำพวก คือ เชื้อ influenza A, B และ C และ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ประเภท A เป็นประเภทที่ท้าทายให้มีการระบาดอย่าง กว้างขวางทั้งโลก ชนิด B ท้าให้เกิดการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนจำพวก C มักเป็นการติดโรคที่แสดงอาการ น้อยหรือเปล่าแสดงอาการ และไม่ท้าให้เกิดการระบาด เชื้อไวรัสประเภท A แบ่งเป็นชนิดย่อย (subtype) ตามความไม่เหมือนของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) แล้วก็ neuraminidase (N) ชนิดย่อยของไวรัส A ที่พบว่าเป็นสาเหตุของการตำหนิดเชื้อในผู้ที่เจอในปัจจุบันอาทิเช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) แล้วก็ A(H9N2) ส่วนไวรัสชนิด B แล้วก็ C ไม่มีแบ่งเป็นชนิดย่อย
  • ลักษณะโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน คนป่วยจะจับไข้สูงแบบทันทีทันใด ( 38 ซ ในคนแก่ ส่วนในเด็กชอบสูงกว่านี้) ปวดหัว หนาวสั่น เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้าม อ่อนล้ามาก ปวดกระบอกตาเวลาตาเคลื่อน มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง และอาจเจออาการคัดจมูก เจ็บคอ ถ้าหากป่วยด้วยช่วงเวลานานอาจจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะรุนแรงรวมทั้งป่วยยาวนานกว่าหวัดปกติ (common cold) คนป่วยส่วนใหญ่จะหายปกติภายใน 1-2 อาทิตย์ แม้กระนั้นมีบางรายที่มีลักษณะอาการรุนแรง เนื่องมาจากมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ปอดบวม ซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตได้


  • กรุ๊ปบุคคลแผนการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่


           พนักงานด้านการแพทย์ และข้าราชการที่เกี่ยวโยงกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่
           ผู้ที่มีโรคเรื้อรังเป็นปอดอุดกันเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ เส้นโลหิตสมอง ไตวาย โรคมะเร็งที่กำลังให้เคมี บำบัด เบาหวาน ธาลัสซีภรรยา ภูมิต้านทานขาดตกบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีลักษณะอาการ)
           บุคคลที่แก่ 65 ปีขึ้นไป
           หญิงมีท้อง อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
           คนที่มีน้ำหนักมากยิ่งกว่า 100 กก.ขึ้นไป
           ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
           เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • แนวทางอาการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ การวินิจฉัยโรคโดยอาการทางคลินิกยังมีข้อจำกัด เพราะอาการเหมือนโรคติดเชื้อทางเท้า หายใจจากไวรัสประเภทอื่น การวิเคราะห์ควรที่จะใช้ การตรวจทางห้องทดลองเพื่อรับรองการวินิจฉัยโรค ยกตัวอย่างเช่นตรวจเจอเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสลดที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือลำคอ หรือ ตรวจเจอแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยวิธี fluorescent antibody หรือ ตรวจเจอว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในซีรั่มอย่างน้อย 4 เท่าในระยะฉับพลันรวมทั้งระยะพักฟื้น โดยวิธี haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)รวมทั้งการใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย เช่น ตอนที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ คนป่วยที่มีลักษณะน้อย ให้การรักษาตามอาการ อย่างเช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสลด เป็นต้น การให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยทันทีภายหลังที่มีลักษณะอาการช่วยลดความร้ายแรงรวมทั้งอัตราตายในผู้ป่วย ยาต้านทานไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ดังเช่น ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) แล้วก็ซานาไม่เวียร์ (Zanamivir) การพินิจพิเคราะห์เลือกใช้ตัวไหน ขึ้นอยู่กับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต้านทานเชื้อไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ภายใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการรวมทั้งจำนวนเชื้อไวรัสจำพวก A ในสารคัดเลือกหลั่งที่เดินหายใจได้ ปริมาณยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับคนเจ็บอายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มก. วันละ 2 ครั้ง (แต่ว่าถ้าคนเจ็บน้ำหนักน้อยกว่า 45 กิโลกรัม ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับคนป่วยอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่การทำงานของตับและไตเปลี่ยนไปจากปกติ ต้องลดปริมาณยาลง ในระยะหลังๆของการดูแลรักษาด้วยยาต้านทานเชื้อไวรัส อาจพบการดื้อยาและก็ตามด้วยการแพร่โรคไปยังบุคคลอื่นได้ กรณีนี้บางทีอาจจำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกรุ๊ป ถ้าเกิดมีลักษณะสอดแทรกจากเชื้อแบคทีเรียจำต้องให้ยายาปฏิชีวนะด้วย และควรหลีกเลี่ยงยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome

6.การติดต่อของไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคชอบสั้น 1 - 4 วัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นกับจำนวนของไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสลด น้ำมูก น้ำลายของผู้เจ็บป่วยแพร่ติดต่อไปยังผู้อื่นโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปหากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่แปดเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  และก็คนไข้สามารถแพร่ระบาดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการแล้วก็จะแพร่ระบาดต่อไปอีก 3-5 วันหลังมีลักษณะอาการในคนแก่ ส่วนในเด็กอาจกระจายเชื้อได้ยาวนานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ว่าไม่มีอาการก็สามารถกระจายเชื้อในเวลานั้นได้ด้วยเหมือนกัน ในตอนศตวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วทั้งโลก 4 ครั้งเป็น

  • พุทธศักราช 2461 - 2462 Spanish flu จากเชื้อไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด สามัญชนทั่วทั้งโลกเจ็บไข้ปริมาณร้อยละ 50 แล้วก็ตายสูงถึง 20 ล้านคน
  • พ.ศ. 2500 - 2501 Asian flu จากเชื้อไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจเจอในประเทศจีน
  • พุทธศักราช 2511 - 2512 Hong Kong flu จากไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจพบในประเทศฮ่องกง
  • พุทธศักราช 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกรอบ แยกได้จากผู้ป่วยในรัสเซีย จึงเรียก Russian flu แต่ว่ามีถิ่นกำเนิดจากเมืองจีน


7.การกระทำตนเมื่อป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเอง เมื่อป่วยหวัดใหญ่หมายถึงเมื่อมีไข้ ควรหยุดสถานที่เรียนหรือหยุดงาน แยกตัวรวมทั้งสิ่งของจากคนอื่น เพื่อพักผ่อนและก็คุ้มครองป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนอื่น พักผ่อนให้มากๆรักษาสุขลักษณะพื้นฐาน  เพื่อให้สุขภาพดี ลดโอกาสเกิดโรคข้างเคียงหรือแทรกซ้อน พากเพียรกินอาหารมีคุณประโยชน์ห้ากลุ่มในแต่ละวันดื่มน้ำสะอาดให้มากมายๆอย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำกิน กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามหมอเสนอแนะ ไม่สมควรกินยาแอสไพรินเพราะว่าบางทีอาจมีการแพ้ ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ล้างมือให้สะอาดเสมอๆแล้วก็ทุกคราวก่อนรับประทานอาหารรวมทั้งหลังเข้าห้องสุขา  ใช้ทิชชู่สำหรับในการสั่งน้ำมูกหรือถูปาก ไม่สมควรใช้ผ้าสำหรับเช็ดหน้า ต่อไปทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขอนามัย  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันของบุหรี่ ด้วยเหตุว่าเป็นต้นเหตุให้อาการร้ายแรงขึ้น ควรจะรีบเจอแพทย์เมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส และก็ไข้ไม่น้อยลงหลังได้ยาลดไข้ข้างใน 1 - 2 วัน  กินน้ำได้น้อยหรือกินอาหารได้น้อย ไอมาก มีเสลด รวมทั้ง/หรือ เสมหะมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งมีความหมายว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียสอดแทรก เป็นโรคโรคหืด เนื่องจากโรคหืดมักกำเริบแล้วก็ควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆเลวทรามลง หอบเหนื่อยร่วมกับไอมาก อาจร่วมกับนอนราบมิได้ เพราะเหตุว่าเป็นอาการสอดแทรกจากปอดบวม เจ็บหน้าอกมากร่วมกับหายใจขัด อิดโรย เนื่องจากเป็นอาการจากอาการเข้าแทรกจากเยื่อห่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม งงมาก แขน/ขาอ่อนแรง บางทีอาจร่วมกับปวดศีรษะรุนแรง และก็คอแข็ง ด้วยเหตุว่าเป็นอาการสอดแทรกจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การป้องกันเองจากไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคเจริญ โดยการบริหารร่างกาย บ่อยแล้วก็พักให้พอเพียง อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงความเคร่งเครียด ยาสูบ สุราแล้วก็สารเสพติด แล้วก็ระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง ทานอาหารที่มีสาระ ผัก แล้วก็ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและวิตามินเพียงพอ ในช่วงที่มีการระบาดของโรค ควรจะหลบหลีกการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัด ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง งานมหรสพ รวมถึงการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู เป็นต้น แม้กระนั้นถ้าเลี่ยงไม่ได้ ควรใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่บางทีอาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสลดของคนป่วย รวมทั้งอย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกแม้ยังมิได้ล้างมือให้สะอาด คนป่วยควรจะแยกตัวออกห่างจากคนอื่น อย่านอนปะปนหรือคลุกคลีสนิทสนมกับผู้อื่น เวลาไอหรือจามควรใช้ผ้าปิดปากและก็จมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากมายๆควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยทุกคราว ส่วนการฉีดยาคุ้มครองป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่นั้น โดยธรรมดาถ้าไม่มีการระบาดโรค แพทย์จะไม่เสนอแนะให้ฉีดยาแก่สามัญชนทั่วไป ยกเว้นในผู้ที่อยู่ในกรุ๊ปมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว คนสูงอายุ (แก่กว่า 65 ปี) คนที่มีอายุต่ำลงมากยิ่งกว่า 19 ปีที่จำต้องกินยาแอสไพรินบ่อยๆ สตรีมีครรภ์ที่คาดว่าอายุท้องปิ้งเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในตอนที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ คนที่จะต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่มีกิจกรรมจำเป็นจะต้องที่ไม่สามารถที่จะหยุดงานได้ (อย่างเช่น ดารา นักกีฬา นักเที่ยว ตำรวจ ข้าราชการบริการสังคม เด็กนักเรียนหรือนิสิตที่อยู่รวมกัน รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานพักฟื้น สถานสงเคราะห์คนวัยแก่) ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (ดังเช่น คนเจ็บโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คนป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยรังสีรักษาหรือเคมีบรรเทา) คนป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง (เป็นต้นว่า โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้เป็นกรุ๊ปที่ควรได้รับการฉีดยาป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรประเภทไหนซึ่งสามารถช่วยบรรเทา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) ประกอบด้วยสมุนไพร        
                พลูคาว / ผักคาวตอง (Houttuynia cordata) จากการเรียนรู้ในหลอดทดสอบ น้ำมันระเหยผู้กระทำลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV-1) ขึ้นรถสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต้านไวรัสดังที่กล่าวถึงแล้ว ดังเช่น methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสูงที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดลองมีฤทธิ์ ยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A รวมทั้ง B เข้าเซลล์& ลดการต่อว่าดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตหมาได้อย่างมีนัยสำคัญ
                ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารชนิดเลกตำหนิน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ประเภท A (H1N1) อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM
                สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่เจอได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลองนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ยิ่งกว่านั้น สาร aloe emodin ยังยั้งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคเริม แล้วก็งูสวัดได้อีกด้วย
สมุนไพรกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมตระเตรียมโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งเอาไว้เป็นเวลายาวนานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิห้องแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลสำหรับการคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่ได้ดีเท่าการให้วัคซีน
                ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระเทียมที่มีสาร allicin มีการศึกษาค้นคว้าในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กรุ๊ปควบคุมได้รับยาหลอก รวมทั้งกลุ่มทดลองได้รับกระเทียมรับประทานวันละ 1 แคปซูล นาน 12 อาทิตย์ ระหว่างหน้าหนาว (พฤศจิกายน - ก.พ.) และให้แต้มสุขภาพ รวมทั้งอาการหวัดทุกวี่ทุกวัน พบว่า กรุ๊ปที่ได้รับกระเทียมมีโอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากลุ่มยาหลอก และก็เมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดสอบให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่คนแก่ที่อาศัยอยู่รวมกันคนจำนวนไม่น้อย (institutional setting) จำนวนรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (หน้าหนาวปี 2543 -44) เพื่อศึกษาประสิทธิผลสำหรับการคุ้มครองป้องกันการป่วยด้วยโรคทางเท้าหายใจอย่างฉับพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจรับรองทางห้องปฏิบัติการของกรุ๊ป ยาหลอกสูงยิ่งกว่ากรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างเป็นจริงเป็นจัง (7/101 และก็ 1/97) และการต่ำลงของการเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกลุ่มที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%
เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
บันทึกการเข้า