รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ตับพัง!!! เพราะกินยารักษาสิว  (อ่าน 511 ครั้ง)

virusza113

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
    • ดูรายละเอียด
ตับพัง!!! เพราะกินยารักษาสิว
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2018, 06:57:24 PM »


Highlight

  • การรักษาจะเริ่มต้นจาก ยาทาก่อนควบคู่ไปกับยากิน และทำเลเซอร์ทรีตเม้นต์ ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องกินยารักษาสิว[/*]
  • การกินยารักษาสิวเสี่ยงต่อการเป็นอันตรายสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว ห้ามให้ในคนเป็นไวรัสตับอักเสบ A B[/*]
  • การได้รับยาเกินขนาด อาจทำให้มีผลข้างเคียงตามมา เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ ปากแห้งคอแห้งผิวแห้ง[/*]
เชื่อว่าใครที่เคยไปรักษาสิวตามคลินิคหรือโรงพยาบาลผิวหนัง คงต้องเคยได้รับยากินรักษาสิวและเห็นผลลัพท์ที่ดีแต่การจะไปพบแพทย์บ่อยๆนั้นราคาก็ค่อนข้างสูง เลยมีหลายๆคนเลือกที่จะซื้อยากินรักษาสิวด้วยตัวเองโดยไม่รู้ว่ามันมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาพูดถึงยากินรักษาสิวกัน

จากคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านผิวหนัง แนะนำว่า ในการรักษาจะเริ่มต้นจาก ยาทาก่อนควบคู่ไปกับยากิน และทำเลเซอร์ทรีตเม้นต์  ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องกินยารักษาสิว เพราะปัญหาสิวของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แพทย์ยังแนะนำให้เริ่มต้นจากการแก้ไขจากภายใน โดยแนะนำให้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันและควบคู่กับการรักษาความสะอาด และยาทาเพราะปัญหาที่เกิดจากผิวสามารถแก้ไขได้ด้วยยาทาโดยตรง ส่วนยากินรักษาสิวนี้จะไปช่วยเรื่องของการปรับสมดุลในร่างกายซึ่งช่วยลดปัญหาสิวจากฮอร์โมน ถ้าใช้ผิดวัตถุประสงค์ผลร้ายที่ตามมาคือ ตับกับไต แต่ว่ายาทางกลุ่มผิวหนังที่รักษาสิว ส่วนมากกำจัดทางตับ ที่ใช้เยอะๆ เลย คือ พวกอนุพันธ์ของวิตามิน A ซึ่งหากซื้อกินเอง โดยไม่คำนวณ ก็แน่นอน มันย่อมมีผลต่อการทำงานของตับ ยามันทำให้เอนไซม์ของตับสูงขึ้น

ผลเสียจากการซื้อยากินรักษาสิวด้วยตนเอง
  • เสี่ยงต่อการเป็นอันตรายสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เพราะมันเป็นยาที่อยู่ในการควบคุม ไม่สามารถไปซื้อเองตามร้านขายยาได้ เนื่องจากต้องมีแพทย์ผิวหนังจริงๆ ตรวจก่อนว่าคนไข้มีโรคประจำตัวอะไรไหม ซักประวัติก่อน หากคนไข้ไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรที่เป็นข้อห้ามชัดเจน[/*]
  • ข้อห้ามก็ได้แก่ ห้ามให้ในคนเป็นโรคซึมเศร้า ห้ามให้ในคนเป็นไวรัสตับอักเสบ A B เพราะมีภาวะของการทำงานที่ผิดปกติของตับอยู่แล้ว[/*]
  • วิธีการกินที่ผิดวิธีและ การได้รับยาเกินขนาด อาจทำให้มีผลข้างเคียงตามมา เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ ปากแห้งคอแห้งผิวแห้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละบุคคล[/*]
  • ดังนั้นการกินยารักษาสิวต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ คำนวณปริมาณยาที่ควรกินกับน้ำหนักคนไข้ รวมทั้งกินแล้วนอกจากติดตามผลเรื่องสิว ยังต้องคอยตรวจเลือดเช็คค่าตับ แพทย์จะเป็นผู้คอยปรับ/เปลี่ยนขนาดยาตามความเหมาะสมของแต่ละคน เช่น การกินยาเหล่านี้อยู่ที่การคำนวณ อยู่ที่การกินต่อเนื่อง ถ้ามีการคำนวณ จะไม่มีการกินติดต่อกันเป็นปี อย่างเช่น คนไข้หนัก 45 กก. อาจกินยาประมาณ 15-16 อาทิตย์ ก็อยู่ที่ 3-4 เดือน และก็จะลดยา และก็หยุด[/*]

ทุกวันนี้ไม่ว่าใครๆก็อยากสวย อยากมั่นใจ แต่การ รักษาสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย ควรเริ่มต้นจาก ศึกษาหาสาเหตุและเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ทำความสะอาดผิวที่เหมาะกับผิวของแต่ละคน  เช่น Luxica volcanic สบู่แร่ภูเขาไฟ ลูซิก้า โวลคานิค จากแหล่งแร่ธาตุธรรมชาติใต้พื้นโลก ที่รวมเอาคุณค่าจากแร่ธรรมชาติมากกว่า 57ชนิด ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกควบคุมความมันที่เป็นต้นเหตุของสิวและยังมีสารสกัดจากน้ำมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยในเรื่อง การลดอาการแพ้ อาการผิวอักเสบ
บันทึกการเข้า