กุ้งกุ้งเป็นชื่อเรียกสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังในชั้นครัสเตเชีย อันดับเคดาโพดา (order Decapoda) มีหลายตระกูล สัตว์พวกนี้หายใจด้วยเหงือก ลำตัวยาว แบน หรือ กลม แบ่งเป็นบ้องๆเปลือกที่ห่อหุ้มท่อนหัวและอกหุ้มลงมาถึงอกบ้องที่ ๘ จำนวนมากกรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามที่ขาอยู่ที่ส่วนหัวแล้วก็อก มี ๑๐ ขา พบได้ทั้งในน้ำจืด ยกตัวอย่างเช่น กุ้งหลวง กุ้งก้ามเกลี้ยง แล้วก็ในน้ำเค็ม อาทิเช่น กุ้งว่าวจุฬาดำ
กุ้งในประเทศไทยกุ้งที่เจอในประเทศไทยมีมากจำพวก แต่ว่าที่มีขนาดใหญ่และบริโภคกันทั่วๆไป ตัวอย่างเช่น
๑.กุ้งก้ามกราม
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macrobrachium rosenbergii (de Man)จัดอยู่ในวงศ์Palaemonidaeมีชื่อสามัญว่า giant freshwater prawn หรือ giant prawn กุ้งใหญ่ กุ้งหลวง กุ้งก้ามคราม ก็เรียก ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียซึ่งเรียกกันว่า กุ้งนางกุ้งประเภทนี้เป็นกุ้งน้ำจืดขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากโคนก้านตาถึงปลายหางยาว ๑๕-๒๕ เซนติเมตร ลำตัวสีครามทั้งเข้มรวมทั้งจางสลับกันเป็นลายพาดขวางลำตัว ขาคู่ที่ ๒ เป็นขาก้ามขนาดใหญ่ สีน้ำเงินหรือสีฟ้าอมเหลือง ใช้ป้องกันภัย และกอดรัดตัวเมียในขณะสืบพันธุ์ ส่วนปลายของกรีเรียวงอน ฟันกรีด้านด้านล่างมี ๘-๑๕ ซี่ มีกระเพาะอยู่ตรงกลางทางด้านบนใต้เปลือกหัว ไส้ทอดตามสันหลังไปถึงหาง หัวใจอยู่ต่อจากส่วนท้ายของกระเพาะอาหารไปถึงตอนท้ายของเปลือกหัว มีตับทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย เรียก มันกุ้ง อยู่ทางด้านหน้าบริเวณข้างๆของท่อนหัว ตับมีไขมันประกอบอยู่มากลเป็นส่วนที่นิยมกินกันในหมู่คนไทย ตัวเมียที่พร้อมจะผสมพันธุ์ได้จะมีรังไข่สุกในบริเวณตรงกลางของเปลือกหัว มีสีส้มหรือสีเหลือง พิจารณาได้ง่ายประชาชนเรียก แก้วกุ้ง กุ้งหลวงรับประทานทั้งยังสัตว์รวมทั้งพืชเป็นของกิน ส่วนมากเป็นหนอนน้ำต่างๆ รากพืช ซากพืช หาอาหารโดยการสูดกลิ่นและก็สัมผัส ถ้าเกิดไม่ได้กินอาหารจะกินกันเอง กุ้งจำพวกนี้หากินทั้งวัน แม้กระนั้นจะรวดเร็วมากมายช่วงกลางคืน เป็นประจำอาศัยอยู่ในแม่น้ำ ลำคลอง หนอง สระ ที่มีทา น้ำติดต่อกับสมุทร ผสมพันธุ์และก็วางไข่บริเวณน้ำกร่อยปากแม่น้ำเมื่อตัวอ่อนโตพอก็จะว่ายน้ำกลับไปยังบริเวณแหล่งน้ำจืดชืด
๒. กุ้งก้ามเกลี้ยง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Macrobrachium sintangensis ( de Man )จัดอยุ่ในวงศ์ Palaemonidaeมีชื่อสามัญว่า Sunda river prawnกุ้งแม่น้ำขาแดง ก็เรียก กุ้งจำพวกนี้เป็นกุ้งน้ำจืด ขนาดวัดจากโคนก้านตาถึงปลายหางยาวราว ๙ เซนติเมตร ลำตัวสีน้ำตาลหรือสีฟ้าแกมเขียว เปลือกหัวเรียบ กรีเรียวงอน ฟันกรีด้านบนมี ๙-๑๓ ซี่ ข้างล่างมี ๒-๖ ซี่ ขาคู่ที่ ๒ มีขนาดใหญ่กว่า โดยมีความยาวใกล้เคียงกับลำตัว และมีปื้นสีน้ำตาลกระจายอยู่เป็นหย่อมๆขอบด้านในของโคนบ้องที่ ๗ ของขาคู่นี้หนตุ่ม ๒-๓ ตุ่ม ส่วนตัวผู้ที่โตเต็มวัยมีขนนุ่มเหมือนกำมะหยี่สีส้มแกมแดง ปกคลุมรอบๆรอยต่อระหว่างบ้องต่างๆของขาคู่ที่ ๓, ๔ และก็ ๕ เป็นปกติอาศัยอยู่ตามแม่น้ำ ลำคลอง รวมทั้งแหล่งน้ำจืดที่มีทางน้ำติดต่อกับทะเล ผสมพันธุ์และก็ตกไข่บริเวณน้ำกร่อยปากแม่น้ำ
๓. กุ้งจุฬาดำ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Penaeus monodon Fabriciusจัดอยู่ในสกุล Penaeidaeมีชื่อสามัญว่า tiger prawn jumbo หรือ grass prawnกุ้งว่าวจุฬาหรือ กุ้งแขกดำก็เรียก กุ้งชนิดนี้เป็นกุ้งสมุทรขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากโคนก้านตาถึงปลายห่งยาวราว ๓๐ เซนติเมตร ลำตัวสีน้ำตาลปนเขียวและมีแถบสีแก่กับสีจางพิงขวางตลอดลำตัว เปลือกหัวสะอาด ไม่มีขน ฟันกรีด้านบนมี๗-๘ ซี่ ด้านล่างมี ๓ ซี่ ช่องข้างกรีทั้งสองด้านแคบและก็ยาวไม่ถึงฟันกรีซี่ท้ายที่สุด เป็นกุ้งที่ตัวโต มักอยู่ภายในเขตพื้นที่ที่กระเป๋านทรายปนโคลน รับประทานพืชแล้วก็สัตว์เล็กๆในน้ำเป็นของกิน เมื่อโตเต็มกำลังจะอพยพจากริมฝั่งไปยังทะเลลึก ๒๐-๓๐ เมตร เพื่อผสมพันธุ์แล้วก็วางไข่ ตัวอ่อนที่โตพอก็จะอพยพมาหารับประทานยังริมฝั่ง
ผลดีทางยาสมุนไพร แพทย์แผนไทยใช้ “มันกุ้ง” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในตำรับยาแผนโบราณหลายขนาน ยกตัวอย่างเช่น ยาขนานหนึ่งในหนังสือเรียนยาศิลาจารึกวัดราชโอรสาราม ให้ยาแก้โรคฝีดาษอันเกิดในเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ แล้วก็เดือน ๑ เข้า “น้ำมันหัวกุ้ง” เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้ ขนานหนึ่งเอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำมันรากถั่วภูเขา เอาเท่าเทียมกัน พ่นฝีเพื่อเสลด ให้ยอดขึ้นหนองงามดีนัก