ปลาดุกปลาดุกเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันสันหลัง ปลาที่ชาวไทยเรียก ปลาดุก หรือ walking catfish นั้น บางทีอาจหมายคือปลาน้ำปลาน้ำจืดอย่างต่ำ ๒ ประเภทในสกุล Clariidae คือ
๑. ปลาดุกด้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clarias batrachus (Linnaeus)มีชื่อสามัญว่า walking catfishลางตัวที่มีสีขาวตลอด ราษฎรเรียก ดุกเผือก หรือถ้ามีสีค่อนข้างแดง ก็เรียก ดุกแดง แต่ว่าถ้าเกิดมีจุดขาวบริเวณทั่วลำตัว ก็เรียก ดุกเอ็น ปลาดุกด้านมีรูปร่างยาวเรียว ยาว ๑๖-๔๐ ซม. (ในธรรมชาติอาจยาวได้ถึง ๖๑ เซนติเมตร) รอบๆข้างๆของลำตัวมีสีเทาคละเคล้าดำหรือสีน้ำตาลคละเคล้าดำ บริเวณท้องมีสีค่อนข้างจะขาว ไม่มีเกล็ด ความยาวของลำตัวราว ๖-๗.๕ เท่าของความลึกของลำตัว และราว๓.๕ เท่าของความยาวท่อนหัว หัวค่อนข้างแหลมหากมองดูทางด้านข้าง กระดูกหัวมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ กระดูกกำดันยื่นเป็นมุมค่อนข้างแหลม ส่วนฐานของครีบขี้เกียจมากแทบตลอดส่วนหลัง ครีบข้างหลังมีก้านครีบอ่อน ๖๕-๗๗ ก้าน ไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบก้นมีก้านครีบอ่อน ๔๑-๕๘ ก้าน ครีบท้องกลม ครีบอกกลม มีก้านครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าน ปลายแหลม เป็นหยักอีกทั้ง ๒ ข้าง ครีบหางแบน ปลายมน ไม่ต่อกับครีบหลังและครีบตูด ตามีขนาดเล็กอยู่ข้างบนของหัว มีหนวด ๔ คู่ หนวดที่ขากรรไกรล่างยาวถึงส่วนปลายก้านครีบแข็งของครีบอก หนวดขากรรไกรบนยาวถึงก้านครีบข้างหลังก้านที่ ๗-๘ หนวดที่บริเวณจมูกยาวเป็น ๑ ใน ๓ ของก้านครีบแข็งของครีบอก และหนวดคางยาวถึงส่วนปลายของครีบอก ภายในท่อนหัวเหนือช่องเหงือกอีกทั้ง ๒ ข้าง มีอวัยวะพิเศษที่ช่วยในการหายใจ ฟันบนเพดานปากและก็ฟันบนขากรรไกรบนเป็นฟันซี่เล็กๆกระดูกซี่กรองเหงือกมี ๑๖-๑๙ อัน ปลาดุกด้านมีนิสัยดุ คล่องแคล่ว ไม่ชอบอยู่นิ่ง เร่งรีบ ชอบดำว่ายดำผุดรวมทั้งถูกใจลอดไปตามพื้นโคลนตม ถูกใจว่ายทวนน้ำออกไปจากแหล่งอาศัยในขณะฝนตกแล้วก็น้ำไหลท่วมลงสู่แหล่งน้ำแห่งใหม่ มีความทรหดอดทนต่อสภาพแวดล้อมที่เรวร้ายได้
๒. ปลาดุกอุย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clarias microcephalus Guntherมีชื่อสามัญว่า broadhead walking catfishปลาดุกอุยเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ลำตัวยาวเรียว ยาว ๑๕-๓๕ ซม. สีค่อนข้างจะเหลือง มีจุดประตามข้างๆลำตัวราว ๙-๑๐ แถบ แต่ว่าเมื่อโตจะเลือนหายไป ฝาผนังท้องมีสีขาวถึงเหลืองเฉพาะรอบๆอกถึงครีบท้อง ท่อนหัวค่อนข้างทื่อ ปลายกระดูกกำดันป้านรวมทั้งโค้งมนมากมาย ส่วนหัวจะลื่น มีรอยบุ๋มตรงกลางนิดหน่อย มีหนวด ๔ คู่ โคลนหนวดเล็ก ปากไม่ป้าน ออกจะมนครีบอกมีครีบแข็งข้างละ ๑ ก้าง มีลักษณะคม ยื่นยาวหรือเท่ากับครีบอ่อน ครีบหลังมีก้านครีบอ่อน ๖๘-๗๒ ก้าน ปลายครีบสีเทาปนดำและยาวตลอดถึงคอดหาง ครีบตูดมีก้านครีบอ่อน ๔๗-๕๒ ก้าน ครีบหางกลม ไม่ใหญ่มากนัก สีเทาปนดำ ครีบหางไม่ใกล้กับฐานครีบหลังและครีบก้น ปริมาณกระดูกซี่กรองเหงือกราว ๓๒ ซี่งเมื่อดูผิวเผินปลาดุกด้านรวมทั้งปลาดุกอุยมีลำตัวสั้นป้อมกว่า ลำตัวสีดำคละเคล้าเหลือง มีจุดเล็กๆสีขาวเรียงเป็นแถวตามทางขวางลำตัวหลายแถว หรืออาจมองมองเห็นเป็นจุดประสีขาวตามลำตัว ปลายกระดูกท้ายทอยโค้งมน ปลาดุกเป็นปลาที่พบได้ตามคู ลำคลอง หนอง บ่อน้ำทั่วไป จัดเป็นปลาที่มีคุณค่าทางด้านเศรษฐกิจของไทยประเภทหนึ่ง
ผลดีทางยาสมุนไพร หมอแผนไทยรู้จักใช้ปลาดุกผสมเป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน โดยเฉพาะใน พระคู่มือไกษย ให้ยาที่เข้า “ปลาดุกย่าง” อยู่ ๒ ขนาน ๒ ขนานเป็นยาแกง กินเป็นยาถ่ายอย่างแรง สำหรับแก้กษัย ดังนี้ ยาแก้ไกษยปลาดุก เอา
เปลือกราชพฤกษ์ ๑ กลีบตาเสือ ๑ รากตอแตง ๑ พิงไฉนนุ่น ๑
พริกไทย ๑
ขิงแห้ง ๑
กระเทียม ๑
ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑
กระวาน ๑
กานพลู ๑
ข่า ๑
กระชาย ๑ กะทือ ๑
ไพล ๑ หอม ๑
ขมิ้นอ้อย ๑ กะปิ ๑ ปลาดุกย่าง ๑ ตัว ปลาแดกปลาส้อย ๕ ตัว ยา ๒๐ สิ่งนืทำเปนแกง แล้วเอาใบมะกาที่เพสลาดนั้นมาหั่นใส่ลงเปนผัก รับประทานให้ได้ถ้วยแกงหนึ่ง ลงกระทั่งสิ้นโทษร้าย หายยอดเยี่ยมนัก แล้วก็ยางแกงเปนยารุ ท่านให้เอาเปลือกทองหลางใบมนที่ ๒ เปลือก
มะรุม ๑ ลูกคัดเลือกเค้า ๑ เครื่องยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๗ ตัว ปลาดุกย่าง ๑ ตัว เอาใบสลอดที่กินลงที่อ่อนๆนั้น ๗ ใบ หั่นเป็นผักใส่ลง ทำเปนยาเถิด ลงเสมหะเขียวเหลืองออกมา หายแล
Tags : สมุนไพร