สมุนไพรเทียนดอกชื่อท้องถิ่นอื่น เทียนดอก , เทียนไทย , เทียนบ้าน , เทียนสวน (ภาคกึ่งกลาง)ชื่อวิทยาศาสตร์ Impatiens balsamina L.ชื่อตระกูล BALSAMINACEAEชื่อสามัญ Garden balsam.ลักษณะทั่วไปทางวิชาพฤกษศาสตร์ไม้ล้มลุก (ExH) ลำต้นจะอวบน้ำและก็มีขนบางส่วน สูงโดยประมาณ 30-50 ซม. ลำต้นเอียงไม่ตั้งตรง เปราะง่าย
ใบ เป็นใบลำพัง แตกออกตามก้านของลำต้น ลักษณะใบมนรีหรือรูปเรียวรี ปลายใบแหลมเรียว ขอบใบเป็นจักละเอียด โคนใบจะมนสอบเข้าหาก้านใบ ผิวเนื้อใบสาก หยาบ เห็นเส้นแขนงใบได้ชัด สีของใบ จะเริ่มจากสีเขียวอ่อนไปจนถึงสีเขียวรวมทั้งสีเขียวเข้ม
ดอก เป็นดอกลำพัง จะออกติดกันช่อหนึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมี 2-3 ดอก ดอกมีหลายสี ดังเช่นว่า สีชมพู สีแดง สีส้มแล้วก็สีขาว มีดอกตรงส่วนยอดของลำต้น กลีบจะอยู่ซ้อนๆกันเป็นวงกลมผล ผลรูปรี ปลายแหลมยาว มีสีเขียว ผลเมื่อแก่สุดกำลังก็จะแตกหรือดีดตัวออกเป็นเมล็ดเม็ด ลักษณะกลมเล็ก คล้ายเม็ดดอกบานเย็น
นิเวศวิทยาเป็นไม้ที่ถูกใจอยู่ในที่ร่มรำไร เกลียดแดดจ้าแม้กระนั้นต้องอยู่ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือนหรือตามสวนยาจีนทั่วๆไป
การปลูกและแพร่พันธุ์เป็นไม้ที่ปลูกง่าย เจริญวัยก้าวหน้าในดินที่ร่วนซุย ขยายาพันธ์ุด้วยการเพาะเม็ด หรือตัดปักชำหรือตัดไปแช่น้ำให้รากออกและจากนั้นจึงนำไปปลูกลงดิน
ส่วนที่ใช้รสรวมทั้งสรรพคคุณราก รสเฝื่อนฝาดเมา ฟอกเลือด ลดบวม แก้ปวดกระดูก แก้ช้ำบวม แก้ตกขาว แก้แท้งลูก
ลำต้น รสฝาด ขับลม ทำให้เส้นเอ็นคลายตัว ทำให้เลือดเดินสะดวก แก้ปวด แก้เหน็บชา แก้แผลเน่าเปื่อย
ใบ รสเฝื่อน สลายลม ฟอกเลือด แก้บวม แก้ปวดตามข้อ แก้แผลมีหนองเรื้อรัง
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/i][/b][/url] ดอก รสเฝื่อน สลายลม ฟอกเลือด ลดบวม แก้ปวดข้อปวดเอว เป็นยาเย็นบำรุงร่างกาย ทาแผลน้ำร้อนลวก แผลผุพอง
ดอกแล้วก็ใบ รสฝาดเย็น พอกกันเล็บถอด
เม็ด รสขม กระจัดกระจายเลือด ขับเสมหะข้นๆขับประจำเดือน แก้พิษงู แก้แผลติดโรคอักเสบเรื้อรัง แก้แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้บวม แก้โรคตับแข็ง
วิธีการใช้และจำนวนที่ใช้- รักษาโรคผิวหนัง แก้อาการปวดตามนิ้วมือ นิ้วเท้า เล็บขบ โดยใช้ใบสดแล้วก็ดอกสีขาว 10-20 กรัม เอามาตำให้ละเอีียดทาบริเวณที่เป็นวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลทา 5-7 วัน
ข้อควรจะทราบสีจากน้ำคั้นจะติดอยู่นาน จึงควรระวังการเลอะเทอะเสื้อผ้าและร่างกายส่วนอื่นๆ
ผู้เขียน
หัวข้อ: สมุนไพรเทียนดอกที่มีประโยชน์เเละสรรพคุณสำคัญที่สุด (อ่าน 538 ครั้ง)