รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: ประโยชน์ทางยา ควาย พร้อมทั้งข้อมูลมากมาย  (อ่าน 482 ครั้ง)

bilbill2255

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 112
    • ดูรายละเอียด


ควาย
ควายบ้าน หรือ water buffalo (ที่เรียกเช่นนี้เพราะว่าควายไม่มีต่อมเหงือกสำหรับระบายความร้อนจากร่างกาย จึงชอบอยู่กับน้ำ)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bubalus bubalis (Linnaeus)
จัดอยู่ในสกุล Bovidae พัฒนามาจากควายป่า
ชีววิทยาของควายป่า
ควายป่า หรือ wild water buffalo  มีลักษณะเด่นเป็นเขายาว (มีความยาวเฉลี่ยราว ๑๕๐ เซนติเมตร) เมื่อตัดตามแนวขวางจะเห็นเขาเป็นสามเหลี่ยม มีรูปร่างทั่วๆไปคล้ายควายบ้าน แม้กระนั้นขนาดทุกส่วนใหญ่กว่ามากมาย ถ้าหากยืนเทียบกับควายบ้านจะดูเหมือนบิดากับลูก ความสูงที่ไหล่ของตัวผู้ราว  ๑.๘๐  เมตร น้ำหนัก  ๘๐๐-๑๒๐๐ กิโลกรัม โคนเขาหนา วงเขากว้าง ปลายเขาแหลม ตอนล่างของเท้าอีกทั้งสี่มีสีขาว เหมือนใส่ถุงเท้าขาว ใต้คอมีลายขาวเป็นรูปลิ่มสามเหลี่ยมสันกว้าง ควายป่าเป็นสัตว์ที่ถูกใจอยู่เป็นฝูงใหญ่ๆควายในฝูงส่วนใหญ่เป็นตัวเมียและเพศผู้ที่ยังแก่น้อย เมื่อเพศผู้มีอายุเพิ่มมากขึ้น มักปลีกตัวออกจากฝูงไปอยู่และก็ทำมาหากินโดดเดี่ยวเป็นควายโทน ในฝูงหนึ่งมีผู้นำฝูงสำหรับผสมพันธ์เพียงตัวเดียว ควายป่าถูกใจหาเลี้ยงชีพตามป่ารวมทั้งทุ่งหญ้าไม่ไกลจากแหล่งน้ำ เมื่อกินอิ่มรวมทั้งชอบนอนปลักโคนหรือนอนแช่น้ำในลำห้วย โคลนตมช่วยทำให้คุ้มครองปกป้องควายไม่ให้ยุ่งชำเลืองกัดเท่าไรนัก ควายป่ามีถิ่นฐานตั้งแต่ภาคกึ่งกลางของประเทศอินเดีย จนกระทั่งรัฐอัสสัม เมียนมาร์ แล้วก็ ประเทศในแหลมอินโดจีนทั้งสิ้น และก็ ไทย ลาว เวียดนาม รวมทั้งกัมพูชา รวมทั้งประเทศไทยเคยมีควายป่ามากมายตามลำธารที่ราบต่ำปกติ (เว้นเสียแต่ภาคใต้) ตอนนี้มีคงเหลือเฉพาะที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ห้วยแข้งขา   จังหวัดอุทัยธานีเพียงแค่แห่งเดียว มนุษย์จับควายป่ามาเลี้ยงเพื่อใช้งานแม้กระนั้นโบราณ ขนาดตัวของมันก็เลยเล็กลงเพราะว่าอดอาหารและก็บริหารร่างกายราวกับควายป่า ควายที่มีสีผิวอ่อนหรือสีออกชมพูๆเรียก ควายเผือก (pink  buffalo)
                             
ประโยชน์ทางยา
หมอแผนไทยรู้จักใช้นมควาย เขาควายเผือก และก็กระดูกควายเผือก เป็นเครื่องยา ดังต่อไปนี้
๑.น้ำนมควาย ได้จากเต้านมของควายบ้านเพศเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ แบบเรียนยาสรรพคุณโบราณว่า น้ำนมควายมีรสหวาน ร้อน มีสรรพคุณแก้พรรณดึก ทำให้เจริญอาหาร โบราณใช้นมควายเป็นทั้งยากระสายยาและเครื่องยา ยาขนานที่  ๖๖ ใน ตำราพระโอสถพระนารายณ์ เข้า “นมกระบือ” (นมควาย) เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ร่วมกับ  “นมแกะ” รวมทั้งเครื่องยาอย่างอื่นอีกหลายสิ่งหลายอย่าง  (ดูเรื่อง”แกะ”  หน้า  ๒๓๗-๒๓๘)
๒.เขาควาย หนังสือเรียนยาสรรพคุณโบราณว่า เขาควายมีรสเย็น ควาย แก้สรรพพิษ แก้ร้อนใน ทำลายพิษ แก้พิษไข้ เป็นต้น พระตำราปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่ง เข้า “เขากระบือเผือก” (เขาควายเผือก) เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ อันว่าลักษณะกุมารกุมารีใคร เกิดมาในวันจันทร์ วันพุฒ คลอดตอนเช้าเวลาเที่ยงดีแล้ว พอมารดาออกมาจากเรือนไฟแล้วราว ๓ เดือน จึงตั้งเกิดทรางน้ำทรางสะกอเจ้าเรือน เมื่อจะบังเกิดนั้น คือตั้งแต่คอถึงเพดานลุปากชนิดหนึ่ง ชนิดหนึ่งรับประทานนอกไส้ขึ้นมาจนถึงลิ้น จึงกระทำให้ลงแดง ให้หิวน้ำ ให้เชื่อม หากหมอวางยาชอบกุมารผู้นั้น จึงจะได้ชีวิตคืน ถ้าจะแก้ท่านให้เอา เขากระบือ ๑ เขาเบ็ญกานี ๑  สีเสียดทั้งยัง ๒  ดอกบุนนาค ๑ เกสรบัวหลวง น้ำประสานทอง ๑  กระเทียม ๑  รวมยา  ๘  สิ่งนี้เอาเท่าเทียมกัน ทำเป็นจุณบดทำแท่ง ละลายน้ำจันทร์กิน แก้ลงท้องเพื่อทรางน้ำ พระตำราไกษยให้  “ยะประจำธาตุไกษยปลวก” ขนานหนึ่ง เข้า  “เขาควาย” เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ ยาประจำธาตุไกษยปลวก เอาเขาควายเผา ๑  ผลสบ้าเผา ๑ ปูนแห้งข้างเตาเผา ๑  สิ่งละ  ๑ ส่วน  พริกไทย  ๓  ส่วน ตำเป็นผุยผงบดทำแท่งไว้ละลายน้ำปูนใสกิน แก้ไกษยปลวก แล้วก็รุ่งเรืองธาตุให้เป็นประจำวิเศษนัก ยาจีนใช้เขาควายแก้อาการสลบ รวมทั้งในโรคติดเชื้อแบบเฉียบพลันที่ทำให้มีไข้สูง แล้วก็อาการเลือดออกด้วยเหตุว่าความร้อนข้างใน
๓.กระดูกควาย ยาไทยนิยมใช้  “กระดูกควายเผือก” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น  ยาแก้โรคเรื้อนรับประทานกระดูก ใน พระหนังสือชวดาร ดังต่อไปนี้ ยาต้มแก้โรคเรื้อนกินกระดูกให้ขัดในข้อ   เอากระดูกช้าง  ๑   กระดูกแพะ  ๑   กระดูกควายเผือก  ๑   กระดูกสุนักข์ดำ  ๑  เถาวัวคลาน  ๑  ป่าช้าหมอง  ๑  ต้นหญ้าหนวดแมว  ๑  ยาเข้าเย็นเหนือ  ๑  ยาเข้าเย็นใต้  ๑  ยาทั้งนี้เอาเท่าเทียม   ดองสุราก็ได้   ต้มก็ได้รับประทานแก้พยาธิแลโรคเรื้อน

Tags : กวาวเครือขาว,ถั่งเช่า,ว่านชักมดลูก
บันทึกการเข้า