กุยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Saiga tatarica Linnaeusในสกุล Bovidaeมีชื่อสามัญว่า saiga antelopeมีชื่อยาในภาษาละตินว่า Cornu saigae Tataricaeเจอในที่ราบท้องทุ่งและก็ในที่สูงที่มีลมเย็นจัด แล้วก็มักมีฝุ่นผงทรายกระจุยกระจายอยู่ ตั้งแต่ประเทศโปรแลนด์ไปถึงที่ราบสูงตอนใต้ของรัสเซียถึงทุ่งหญ้าที่ราบสูงในประเทศมองโกเลีย
ชีววิทยาของกุยกุย เป็นสัตว์กินนม กีบคู่ ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงตูดยาว ๑.๑0-๑.๔0 เมตร หางยาว 0.๘0-๑.๓0 เมตร สูง ๖0-๘0 ซม. น้ำหนักตัว ๒๓-๔0 กิโล หัวใหญ่แล้วก็อ้วน ตัวเมียไม่มีเขา ตัวผู้มีเขารูปคล้ายพิณฝรั่ง ยาว ๒0-๒๖ ซม. มีวงเป็นข้อนูนต่อเนื่องกันขึ้นไปจากโคนเขา ถึงเกือบจะปลายเขา ๑0-๑๖ วง ระยะระหว่างวงนูนราว ๒ เซนติเมตร ปลายแหลม ดั้งจมูกดกและโค้งโค้ง จมูกเหมือนกระเปาะพอง มีสันตามแนวยาว รูจมูกเปิดออกทางข้างล่างภายในรูจมูกมีองค์ประกอบพิเศษหลายสิ่งหลายอย่าง กระดูกรุ่งโรจน์ดีเลิศและเรียงช้อนเหลื่อมล้ำกัน ภายในมีขนหนา ต่อมรวมทั้งร่องมูก สำหรับกรองฝุ่นผงรวมทั้งทำให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นแล้วก็เปียกชื้นขึ้น มีประสาทดมกลิ่นดีเยี่ยม นอกเหนือจากนี้ในรูจมูกยังมีถุงที่พองได้ ภายในบุด้วยเยื่อเมือก มีขนที่ใต้คอครึ้มเพื่อกันความหนาว ในฤดูขนบนตัวจะสั้นสีน้ำตาลออกแดง จมูกและหน้าผากสีน้ำตาลคล้ำกว่า บนกระหม่อมมีลายสีออกเทา รอบก้น ใต้ท้อง และก็หางสีขาว ในช่วงฤดูหนาวขนจะยาวรวมทั้งดกกว่า มีขนรองครึ้ม มีสีขาวเทาตลอดลำตัว กุยมีขาเรียวยาว ด้นข้างหลังกีบกางออกน้อย หางสั้นมากมาย ใต้หางไม่มีขน สัตว์ประเภทนี้ถูกใจอยู่เป็นฝูงเล็ก ในฤดูใบไม้ร่วง มักรวมฝูงแล้วก็ย้ายถิ่นที่อยู่ลงไป ทางทิศใต้ที่อบอุ่นกว่า ในฤดูใบไม้ผลิ (ราวเดือนเมษายน) ตัวผู้ย้ายถิ่นขึ้นไปทางเหนือก่อน แล้วฝูงตัวเมียก็ย้ายถิ่นขึ้นไปสมทบ เวลาวิ่งมักก้มหน้าต่ำ แม้กระนั้นวิ่งได้เร็วถึงชั่วโมงละ ๖0 กม. ถูกใจกินใบไม้ตามพุ่มไม้และก็ใบต้นหญ้า อดน้ำได้นาน
ประโยชน์ทางยาเขากุยมีที่ใช้ทั้งยังในยาไทยแล้วก็ยาจีน จำนวนมากที่มีขายในร้านค้ายาจีนมาจากทางภาคเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศสหรัฐพสกนิกรจีน มีสีขาวๆถึงสีขาวอมเหลือง ราว ๑ ใน ๓ ถึงกึ่งหนึ่งจากโคนเขามีเนื้อกระดูกที่แข็งและก็แน่นเมื่อเอาออกจะมีผลให้เขากลวง โปร่งใส เมื่อส่องกับแสงจะเห็นด้านในช่วงหลังเขากุยมีช่องเล็กๆ ทอดเป็นเส้นตรงยาวไปจนกระทั่งปลายเขา เรียก รูทะลุปลายเขา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขากุย
การเตรียมเขากุยสำหรับใช้เป็นยาทำได้ ๒ วิธี เป็น๑.ทำเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งทำโดยการเอาเขาที่เอาเนื้อกระดูกออกแล้ว แช่น้ำอุ่นไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอควร เอาออกจากน้ำแล้วตัดตามแนวขวางเป็นชิ้นบางๆแล้วทำให้แห้ง
๒.ทำเป็นผงละเอียด โดยใช้เขาที่เอาเนื้อกระดูกออกแล้ว นำไปบดเป็นผุยผงละเอียด
หนังสือเรียนยาสรรพคุณโบราณว่า
เขากุยเป็นยาเย็น มีรสเค็ม ใช้แก้ไข้สูง และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการไข้สูง ดังเช่นว่า สลบ ชัก เพ้อ คลุ้มคลั่ง เป็นต้น แก้โรคลมชัก
จีนว่ายานี้เป็นยาแก้ตับทำงานมากเกินความจำเป็น มีสรรพคุณกำจัดความร้อนรวมทั้งพิษต่างๆในร่างกาย เมื่อรับประทานเขากุยแล้วจะทำให้ตัวเย็น รวมทั้งคุณประโยชน์นี้แรงกว่า เขาควายราว ๑๕ เท่า (อาจใช้เขากระบือแทนได้)