โรคงูสวัด โรคผิวหนังที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โรคงูสวัดหรือโรคเริมที่รู้จักกันมากมาย เป็นโรคผิวหนังที่ปรากฏจากการติดเชื้อไวรัส ที่เป็นเชื้อชนิดเดียวกันกับอาการโรคอีสุกอีใส ที่ทำให้ผิวหนังของเราเกิดขึ้นสภาพขึ้นผื่นแพ้ เป็นตุ้มน้ำใสๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเป็นขึ้นเป็นแนวยาวๆ บริเวณบั้นเอวและชายโครง เริ่มเป็นตั้งแต่สะดือถึงกลางหลัง แต่ในบางคนก็ปรากฏได้ที่ หน้า แขนซ้าย แขนขวา ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นขึ้นเองแล้วก็จะหายได้เองเมื่อเวลาผ่านพ้นไป ในคนที่มีภูมิคุ้มกันสูงร่างกายแข็งแรง มักจะไม่เกิดขึ้นภาวะโรคแทรกซ้อนแต่บางคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำนักมักเป็นโรคแทรกซ้อน หลายคนที่เชื่อว่าหากโรคงูสวัดนั้นพันครบรอบเมื่อไหร่จะตาย ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด ที่มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพราะร่างกายเป็นโดนโรคแทรกซ้อน จนร่างกายอ่อนแอและเสียชีวิตในที่สุด
ต้นเหตุของโรคงูสวัด- เกิดขึ้นจากเชื้อไวรัส Varicella zoster virus ที่เข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปแอบซ่อนอยู่ในปมเส้นปราสาททำให้เกิดขึ้นโรคอีสุกอีใสในตอนแรกหลังจากที่หายแล้วก็จะเกิดขึ้นเป็นโรคงูสวัด เพราะเชื้อไวรัสนั้นจะเข้าไปแอบในปมประสาทแล้วปล่อยเชื้อไวรัสออกมาทางผิวหนัง ทำให้ผิวหนังปรากฏอาการบวมและสภาพอักเสบ
- ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ และอายุเยอะมากมาย
- ถูกกระทบกระเทือนทางด้านร่างกาย และด้านจิตใจ
- ทำงานหนักมากมาย พักผ่อนไม่เพียงพอ และมีโรคประจำตัว
- ติดเชื้อ HIV
อาการของโรคงูสวัดก่อนจะมีการขึ้นผื่น มักจะมีอาการปวดแปลบๆบริเวณต้นกำเนิดของโรค อาจจะมีเกิดขึ้นอาการคันและสภาพแสบร้อนแสบไหม้เยอะแยะร่วมด้วย คล้ายกับอาการน้ำร้อนลวกและไฟไหม้ เป็นครั้งคราวแต่ในบางรายที่แพ้หนักมากจะมีสภาพแสบร้อนอยู่ตลอดเวลาในบริเวณที่เกิดโรคงูสวัด ร่างกายจะเกิดขึ้นมีภูมิคุ้มกันลดต่ำลง เมื่อผ่านไป 2-3 วันจะเป็นผื่นตุ่มใสๆขึ้นเต็ม เรียงกันเป็นกลุ่มๆหรือเป็นแนวยาว หลังจากนั้นตุ่มก็จะแตก แล้วตกสะเก็ดแห้งหายไปเอง ในบางรายหลังแผลแห้งไปแล้วมักเกิดขึ้นอาการแสบร้อนแสบไหม้ก็ต้องดูแลต่อไป ระวังอย่าให้อาการภูมิคุ้มกันลดต่ำลงจนเกินไป
การรักษาโรคงูสวัดส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันสภาพโรคอีสุกอีใส ตั้งแต่เด็กซึ่งฉีดตอนอายุ 1 ขวบ จะสามารถป้องกันได้ตลอดชีวิต หากฉีดตอนที่อายุ 13 ขวบนั้นต้องฉีด 2 เข็มเพื่อป้องกันตลอดอายุขัยนั้นเอง
การปกป้องโรคงูสวัดไปพบแพทย์เพื่อฟื้นฟูโรคงูสวัดได้ตามสภาพซึ่งเราสามารถทานยา เพื่อรักษาสภาพปวด ส่วนใหญ่จะมียาทาโดยตรงเพื่อลดสภาพบวมและอักเสบของผิวหนัง แต่หากมีสภาพรุนแรงนั้นต้องทานยาปฎิชีวนะร่วมด้วย แต่หากในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะต้องทานยาต้านไวรัสร่วมด้วย เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดสภาพแทรกซ้อนต่อไป โรคนี้สามารถฟื้นฟูได้ง่าย และยังสามารถดูแลได้อีกด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
สมุนไพรรักษางูสวัดเครดิตบทความจาก :
https://www.google.co.thTags : สมุนไพรรักษางูสวัด,สมุนไพรรักษางูสวัด,สมุนไพรรักษางูสวัด