รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

ผู้เขียน หัวข้อ: โปรแกรมทัวร์พม่า 4 วัน 3 คืน บินตรงเชียงใหม่  (อ่าน 585 ครั้ง)

akapatneo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 543
    • ดูรายละเอียด

โปรแกรมทัวร์พม่า 4 วัน 3 คืน บินตรงเชียงใหม่ 
วันที่ 1      เชียงใหม่  -  ย่างกุ้ง  -  พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตยี - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
วันที่ 2      หงสาฯ – พระธาตุมุเตา– พระราชวังบุเรงนอง – พระธาตุอินทร์แขวน
วันที่ 3     วัดไจ้คะวาย – พระนอนชเวตาเลียว - เจดีย์สุเหร่ – ตลาดสก๊อต – เจดีย์โบตาทาวน์ (เทพทันใจ และ เทพกระซิบ)
วันที่ 4        ย่างกุ้ง – เชียงใหม่
*** จุดเด่น ***   
กราบไหว้เทพ ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์-
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (เทพทันใจ)-
พระเจดีย์โบตาทาวน์ ((เทพทันใจ นัตโบโบจี,
 เทพกระซิบ อะมาดอว์เมี๊ยะ))-
พระธาตุอินทร์แขวน-
พระธาตุมุเตา-
พระนอนชเวตาเลียว-
เจดีย์สุเหร่ (เทพทันใจ)
*************************************************************************************
วันแรก   เชียงใหม่  -  ย่างกุ้ง12.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินนานาชาติชียงใหม่ สายการบิน AIR KBZ (K7) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความ สะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทาง14.45 น.  ออกเดินทางเหินฟ้าสู่ เมืองย่างกุ้ง โดยเที่ยวบินที่ K7 843 สายการบิน AIR KBZ (K7)  15.35 น.  ถึง สนามบินมิงกลาดง เมืองย่างกุ้ง (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง)  ผ่านพิธีการทางศุลกากร และด่านตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระก่อนออกเดินทางเดินทางออกจากสนามบิน 20 นาทีโดยประมาณ นำทุกท่านชมพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือพระตาหวาน เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า ทั้งพระพักตร์และขนตาที่งดงาม ดวงตาของท่านเป็นแก้ว สั่งผลิตมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะรวมไปถึงพระจีวรที่มีความพลิ้วไหวสมจริงและเมื่อเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ตรงที่พระบาทมีภาพวาดเป็นมิ่งมงคลสูงสุด เพราะประกอบด้วยลายลักษณธรรมจักร ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาทและล้อมด้วย รูปมงคล 108 ประการ ด้านหน้าวัด จะมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ และเลือกชมจากนั้น
เดินทางต่อไปอีก 15 นาที นำทุกท่านนมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง  (Shwedagon Pagoda)   เจดีย์ทองแห่ง เมืองดากอง หรือ ตะเกิง (ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง) แห่งลุ่มน้ำอิระวดี  เจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี มหาเจดีย์ที่ใหญ่ ที่สุดของประเทศพม่า มีความสูงถึง 326 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่เป็นน้ำหนักถึง 1100 กิโลกรัม ยอดฉัตรประดับ ประดาด้วยเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่า กว่า 5,448 เม็ด รวมถึงทับทิม 2,317 เม็ด และเพชรเม็ดใหญ่ 76 กะรัตขนาดเท่าไข่ไก่บนยอดองค์พระเจดีย์ชวดากอง (สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิษฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้รูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศ รวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต) บริเวณทางขึ้นทั้งสี่ทิศจะมีวิหารโถงสร้างด้วยเครื่องไม้ หลังคาทรงปราสาทปิดทองล่องช่างประดับกระจกทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา เพราะชาวมอญและชาวพม่าถือการกราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากองนั้นเป็นนิตย์ จะนำมาซึ่งบุญกุศล อันเป็นหนทางสู่การหลุดพ้นทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล บ้างนั่งทำสมาธิเจริญสติภาวนา นับลูกประคำ และบ้างเดิน ประทักษิณรอบองค์เจดีย์ ** ไฮด์ไลท์สำคัญ ** นำทุกท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุด ท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง , สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น ซึ่งยอดฉัตรนั้น เป็นยอดที่ประดับด้วยเพชรพลอย และทับทิม ที่ทำหน้าที่คอยรับแสงอาทิตย์ของวันใหม่ เปรียบเสมือนการส่องแสงให้สว่างไสวราวกับเริ่มต้นชีวิตใหม่*** พิเศษสุด นำทุกท่านสักการะ ขอพรเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ซึ่งเป็นเทพเจ้า หรือนัต ที่คอยพิทักษ์ปกป้องมหาเจดีย์ชเวดากอง ประดับไว้อยู่ที่ตู้กระจก ซึ่งชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นเทพทันใจ เมื่อท่านขอพร หรืออธิษฐานขอสิ่งใด ๆ ท่านย่อมได้สิ่งนั้นสมปรารถนาดังสิ่งที่หวังไว้
*** วันเกิด   อาทิตย์   จันทร์   อังคาร   พุธ   พุธกลางคืน   พฤหัสบดี   ศุกร์   เสาร์สัญลักษณ์   ครุฑ   เสือ   สิงห์   ช้างมีงา   ช้างไม่มีงา   หนูหางยาว   หนูหางสั้น   พญานาคสรงน้ำ ทำบุญประจำวันเกิดของแต่ละท่านค่ำ รับประทานอาหารเย็น เมนูพิเศษ!! ชาบูบุฟเฟ่ต์นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 ****************************************
วันที่สอง   ย่างกุ้ง – หงสาฯ  -  พระธาตุมุเตา  -  พระราชวังบุเรงนอง  -  พระธาตุอินทร์แขวนเช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม  เดินทางออกจากเมืองย่างกุ้ง มุ่งหน้าสู่เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (ใช้เวลาเดินทางจากย่างกุ้ง 2 ชั่วโมง หรือ 80 กิโลเมตร) เมืองหงสา ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของชาวมอญมาก่อน ตั้งอยู่ใกล้เมืองเมาะตะมะ ทางตอนใต้ของประเทศพม่า ต่อมาพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ยึดครองได้ และสถาปนาเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู หงสาวดีเจริญรุ่งเรืองสุดขีดในรัชสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง เนื่องจากพระองค์ให้ทรงสร้างพระราชวังของพระองค์ที่ชื่อ กัมโพชธานี ซึ่งนับเป็นพระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยเกณฑ์ข้าทาสจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย จนถึงสมัยพระเจ้านันทบุเรงที่เสด็จหนีพระนเรศวรไปเมืองตองอู และเผาทำลายหงสาวดี หลังจากนั้นไม่นาน เมืองอังวะก็กลายมาเป็นเมืองหลวงของประเทศพม่าโดยสมบูรณ์เดิมทีหงสาวดีถือเป็นศูนย์กลางทางด้านต่าง ๆ อันสำคัญของชาวมอญ ปัจจุบัน หงสาวดีเป็นเมืองที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศพม่าด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และศิลปะ วัฒนธรรมนำทุกท่านชม เจดีย์ชเวมอดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา (Shwe Mordore) ที่ตั้ง ตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี พระเจดีย์องค์นี้ถือว่ามีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน เก่าแก่กว่า 2 ,600 ปี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของชาวพม่า นำ  ท่านนมัสการยอดเจดีย์หัก ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก (ณ จุดอธิฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และท่านสามารถนำธูปไปค้ำกับ ยอดของเจดีย์องค์หลักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุน ชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป) ซึ่งเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทยเคยมาสักการะเจดีย์องค์เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่า และศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์นี้มีความสูง 114 เมตร สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากองถึง 14 เมตร และมีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตรที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่าง แต่ยอดฉัตรกลับยังคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณ เพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลีกยอดฉัตรที่พังลงมา ก็ได้ตั้งไว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน เดินทางต่อไปอีก 5 นาที นำท่านเข้าชม พระราชวังบุเรงนอง สถานที่ที่ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของไทย คือ บริเวณที่เคยเป็นพระราชาวังของพระเจ้าบุเรงนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 แต่ได้ถูกทำลายด้วยฝีมือของพวกยะไข่กับตองอูในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ในปี พ.ศ. 2142 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า โบราณสถานแห่งนี้ เป็นที่ประทับของพระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่า เป็นผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของพระนางสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกเมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่ โดยอ้างอิงจากพงศาวดารเที่ยง      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ !!! เมนู กุ้งเผา หงสาฯ  เดินทางจากเมืองหงสาวดี สู่เมืองไจ้โท แห่งรัฐมอญ (ระยะเวลาการเดินทาง 1 ชั่วโมง 40 นาที) ระหว่างทางท่านจะข้ามผ่านชม แม่น้ำสะโตง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในอดีต ขณะที่สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตามซึ่งนำทัพโดย สุรกรรมา เป็นกองหน้าพระมหาอุราชาเป็นกองหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนต้นคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมา แม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นขวัญเสียจึงถอยทัพกลับกรุงหงสาวดี นำท่านเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ก็จะถึงคิ้มปูนแค้มป์ เพื่อทำการเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่น เป็นรถบรรทุกหกล้อขนาดเล็ก (เป็นรถประจำเส้นทางชนิดเดียวที่เราจะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้) เพื่อเดินทางสู่ยอดเขา เมื่อถึงที่หมายแล้วให้ท่านอิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน Kyaikhtiyo Pagoda (Golden Rock) หรือก้อนหินทอง ซึ่งถือเป็นพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่สักการะสูงสุดของชาวพม่า เป็นเจดีย์ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทอง ที่วางหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผา แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักด์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไป ตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนา พระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็นพระธาตุปีเกิดของปีจอ แทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมสัการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน สำหรับท่านที่ต้องการนมัสการกลางแจ้งเป็นเวลานานที่บริเวณระเบียง ที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้ทีโย ควรเตรียมเสื้อกันหนาว หรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ เบาะรองนั่งเนื่องจากบริเวณพื้นที่นั้นมีความเย็นมาก  (พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืน แต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับสุภาพบุรุษที่เข้าไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00น. ส่วนสุภาพสตรี สามรถอธิฐานได้ โดยฝากสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้ ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปได้ เพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวน)**หมายเหตุ**  (ให้แยกกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่หิ้ว ขนย้ายง่าย ใส่เสื้อผ้า, ชุดนอน อย่างละ 1 ชุด และของใช้ส่วนตัว สำหรับใช้ 1 วัน สำหรับขึ้นพระธาตุอินแขวน ซึ่งเราจะต้องนั่งรถบรรทุกขึ้นไปพักที่โรงแรมบนพระธาตุ 1 คืน โดยผู้เดินทางต้องนำกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กนี้วางบนตักหรือวางหลังรถบรรทุกไปด้วย ส่วนกระเป๋าใบใหญ่จะฝากไว้ที่โรงแรมที่จะพักในย่างกุ้ง  หากกระเป๋าเดินทางท่านเป็นใบเล็ก ๆ อยู่แล้ว หิ้วสะดวกก็ใช้กระเป๋าเพียงใบเดียวก็ได้ ถ้าท่านต้องการเอากระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไป ต้องเสียค่าจ้างแบกเองใบละประมาณ 100 บาท)เดินทางเข้าสู่พักที่  และรับประทานอาหารค่ำ  ณ .................หรือเทียบเท่า จากนั้นท่านสามารถขึ้นไปนมัสการหรือนั่งสมาธิที่พระเจดีย์ได้ตลอดทั้งคืน
****************************************
วันที่สาม   วัดไจ้คะวาย – พระนอนชเวตาเลียว – เจดีย์สุเหร่ – ตลาดสก๊อต – เจดีย์โบตาทาวน์ (เทพทันใจ และ เทพกระซิบ)เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม  นำทุกท่านลงจากพระธาตุอินทร์แขวน เพื่อเดินทางกลับเข้าสู่เมืองหงสาวดี จากนั้น ให้ท่านร่วมทำบุญตักบาตร ณ วัดไจ้คะวาย วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหงสาวดี เพราะเป็นโรงเรียนที่สอนพระพุทธศาสนาเปรียญธรรมชั้นตรี โท และเอก อันโด่งดังของพม่า จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนธรรมะที่นี่กันเป็นจำนวนมากนับพันรูป โดยพระที่มาศึกษาจะต้องอยู่ประจำที่นี่ไม่ต่างกับเป็นโรงเรียนกิน-นอนในสมัยก่อน จึงเป็นวัดเดียวที่ได้พบพระสงฆ์จำนวนมาก และมีคนนิยมทำบุญใส่บาตรพระหมู่เลี้ยงอาหารเพลกันเป็นประจำ และมีพระสงฆ์จำพรรษากว่า 1,000 รูป อีกทั้งวัดนี้ยังเป็นสถานที่ศึกษาพระไตรปิฎกของพระภิกษุและสามเณรอีกด้วย (หมายเหตุ: ท่าน  สามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้ หากท่านใดไม่สะดวก สามารถถวายเป็นปัจจัยได้เช่นกัน)เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ …………………………………........จากนั้น นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว พระพุทธรูปนอนที่ มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ และเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า นอกจากนี้ ยังเป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันดับสองของเมืองหงสาวดี รองจากพระมหาธาตุมุเตา และเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีความยาว 181 ฟุต สูง 50 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ พ.ศ.1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน เล่าขานว่าเป็นพระรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ด้านหลังพระองค์มีภาพวาดเล่าขานตำนานว่า มีพระราชาองค์หนึ่งไม่ศรัทธาพุทธศาสนา ทรงลุ่มหลงบูชายักษ์ตนหนึ่งขนาดปั้นรูปไว้กราบไหว้ วันหนึ่งขณะที่พระราชาเสด็จประพาสป่าพร้อมพระโอรส และพระโอรสไปพบสาวบ้านกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธารก็เกิดความหลงรัก ถึงกับพากลับเข้าวัง แต่สาวเจ้าอันเชิญพระพุทธรูปไปบูชาในวังด้วย ทำให้พระราชากริ้วมาก ถึงขั้นสั่งให้ทหารจับพระโอรสและคนรักมัดรวมกันเพื่อจะประหาร แต่ชาวบ้านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าพระพุทธเจ้ามีจริงก็ขอให้นางแคล้วคลาด ปรากฏว่าเชือกขาดโดยพลัน ขณะที่รูปปั้นยักษ์แตกกระจาย พระราชาถึงกับทรงหันกลับมานับถือพุทธศาสนา และขอไถ่บาปด้วยการสร้างพะพุทธไสยาสน์เป็นเครื่องเตือนสติ สองข้างทางนั้น ท่านสามารถที่จะเลือกหาเครื่องไม้แกะสลักที่มีให้เลือกมากมายตลอดสองข้างทาง และยังสามารถเลือกซื้อของฝาก อาทิเช่น ผ้าพม่า ของที่ระลึกต่าง ๆ ได้ในราคาถูก นำท่านเดินทางกลับเข้าเมืองย่างกุ้ง (ใช้เวลาโดยประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านสู่ พระเจดีย์สุเหร่ (Sule Pagoda) เป็นเจดีย์ที่มีความสูงประมาณ 46 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางกรุงย่างกุ้ง และสร้างขึ้นมากว่า 2,000 ปีที่แล้ว เพื่ออุทิศให้กับซูเลนัต ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผีนัต จำนวน 37 ตน ที่เกี่ยวข้องกับตำนานของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ที่ประชาชนชาวพม่านับถือและให้ความเคารพบูชา ภายในองค์เจดีย์บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าเอาไว้ สุเหล่เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมตั้งแต่องค์ระฆังขึ้นไปจนถึงชั้นบาตรคว่ำ สร้างในสมัยที่อังกฤษยังปกครองพม่าอยู่ ถ้าเปรียบแล้ว เจดีย์สุเหร่นี้ ก็เหมือนกับหัวใจของเมืองย่างกุ้ง เป็นศูนย์กลางศาสนสถานหลักใจกลางกรุงย่างกุ้งมานานหลายร้อยปี  ฝั่งตรงข้ามของเจดีย์สุเหร่ มีสวนสาธารณะมหาบัณฑุละ ภายในสวนมีอนุสาวรีย์อิสรภาพ รูปเสาแหลมสูง 40 เมตร ล้อมรอบด้วยเสาหินสูง 9 เมตร 5 ต้น แทนรัฐที่ปกครองตนเองกึ่งอิสระ 5 รัฐ คือ ฉาน กะฉิ่น กะยิน (กะเหรี่ยง) กะยา และชิน บริเวณใกล้เคียงก็จะมีสถานที่ราชการที่สำคัญในอดีต ก่อนที่พม่าจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองอื่น นอกจากนี้ ยังมีพระเจ้าทันใดให้ท่านได้กราบไหว้ สักการะ และตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่ มั่นคงกับชีวิตเมื่อได้เวลาอันสมควรแล้ว นำทุกท่านช๊อปปิ้ง ณ ตลาดอองซาน (Bogyoke AungSan) หรือ ตลาดสก๊อต(Scot Market) เป็นตลาด เก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของ อังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่ง นี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่า ภาพวาดงานแกะสลักจากไม้อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วยทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ หมายเหตุ: ตลาดสก๊อต (Scot Market) ปิดทุกวันจันทร์ จากนั้น นำท่านสู่ เจดีย์โบตาทาวน์ เป็นสถานที่ศักดิ์อีกแห่งหนึ่งที่ชาวพม่าให้ความเคารพและบูชา มาเที่ยวทั้งที ที่นี่นักเที่ยวอย่างเราๆไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดเลยค่ะ เจดีย์โบดาทาวน์  แปลว่า เจดีย์นายทหาร ในยุดสมัยของพระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญ ได้ทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพนั้นตั้งแถวถวายสักการะ แด่พระเกศาธาตุ ที่นายวานิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือ และมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์โบดาทาวน์ ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ ก่อนนำไปบรรจุในมหาเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์ที่สำคัญอื่น ๆ เจดีย์โบดาทาวน์ จึงเป็นหนึ่งในมหาบูชาสถานของชาวมอญ และชาวพม่าเรื่อยมา จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่2 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดถล่มย่างกุ้ง ทำให้เจดีย์โบดาทาวน์องค์เดิมถูกทำลายพินาศลง แต่ในระหว่างการบูรณะได้ค้นพบผอบทรงสถูปบรรจุพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ ครั้นเมื่อเจดีย์โบดาทาวน์องค์ใหม่ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2496 จึงนำพระเกศธาตุมาบรรจุในมณฑปครอบแก้วใสประดิษฐาน ณ ใจกลางเจดีย์ และทำช่องทางให้พุทธศาสนิกชนเดินเข้าไปดูและสักการบูชาได้อย่างใกล้ชิดจากนั้นนำท่านกราบขอ พระนัตโบโบยี หรือ พระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสกัการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปรารถนา ก็ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย จากนั้นก็ให้เอาเงินที่เป็นดอลล่า เงินบาท หรือจ๊าดก็ได้ แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้ว ดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมพรตามความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ นำท่านข้ามฝั่งถนน สักการะเทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอวเมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธ ศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต  ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรเทพกระซิบต้องเข้าไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้  ค่ำ  รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ !! สลัดกุ้งมังกร+เป็ดปักกิ่ง  นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม 
วันที่สี่ ย่างกุ้ง – เชียงใหม่เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินย่างกุ้ง เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย 11.50 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินเชียงใหม่ โดยเที่ยวบินที่ K7 842 สายการบิน AIR KBZ (K7)13.40 น.  ถึง สนามบินเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจในบริการ
****************************************
อัตราค่าบริการรวม-
   ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป - กลับพร้อมกรุ๊ป อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว-
   ที่พักโรงแรมตามรายการ 3 คืน  (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)-
   อาหารตามรายการระบุ  (สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) -
   ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ -
   ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ-
   ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ-
   ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์) -
   ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)-
   ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ
อัตราค่าบริการไม่รวม -   ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% -   ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ-   ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ-   ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
Buddy Journey Tour & Visa & Air Ticket
"เพื่อนร่วมเดินทางในช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณ"
บริการ โปรแกรมทัวร์ จัดนำเที่ยว วีซ่า ประกันการเดินทาง จองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท จำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ทุกสายการบิน ทุกเส้นทางทั่วโลก และบริการรถเช่า ยินดีรับชำระด้วยบัตรเครดิตทุกธนาคารติดต่อเราได้ที่
�Tel : 053 204 899 คุณพิม
�Tel : 053 204 898 คุณเจ
�Tel : 053 281 145 คุณแกม 
� สอบถามข้อมูลทั่วไป
�Tel : 093 136 4646
�Tel : 092 731 4433
Line ID : @bdj2015 
ADD LINE อัตโนมัติ https://line.me/R/ti/p/%40mqw0616eEmail : crw.tourtravel@gmail.comhttps://www.facebook.com/BuddyTourChiangmai/posts/1954847294797853
https://goo.gl/18XGHM



บันทึกการเข้า