รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

"ร้านค้าออนไลน์" ก็คือส่วนหนึ่งของการขายของออนไลน์ ที่ผู้ขายนำเอาสินค้าหรือบริการของตัวมานำเสนอขายผ่านทางออนไลน์ที่เป็นการ เปิดเว็บไซต์ และทำระบบร้านค้าให้สามารถแสดงรูปภาพ รายละเอียด ราคา ให้ลูกค้าสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บ ร้านค้าออนไลน์ ในปัจจุบันอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์ มีหลายที่ให้บริการแบบสำเร็จรูป สมัครสมาชิกแล้วเปิดใช้งานได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น ร้านค้าออนไลน์ iGetWeb, LnwShop, ReadyPlanet, ShopUp, etc. เว็บไซต์เหล่านี้คือผู้ให้บริการเว็บสำเร็จรูปร้านค้าออนไลน์ชั้นนำของไทย ซึ่งแต่ละเว็บก็มีฟังก์ชันการทำงานหรือลูกเล่นที่แตกต่างกันออกไป ลูกค้าต้องพิจารณาแล้วตัดสินใจด้วยตัวเองว่าควรสมัครใช้บริการกับที่ไหน

"ขายของออนไลน์" เป็นมากกว่า "ร้านค้าออนไลน์" นั่นก็คือรวมไปถึงการขายบน Facebook, Instagram, LINE และ social network อื่นๆที่สามารถสร้างยอดขายให้กับผู้ขายได้เช่นกัน ในระยะยาวเราควรมีหน้าร้านที่เป็นเว็บไซต์ของตนเอง มีชื่อเว็บเป็นของตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ไม่เพียงเท่านั้นยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ควรสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ลูกค้า เช่น รูปภาพสินค้า, ราคาสินค้า, ขนาดหรือไซส์สินค้า, เลขทะเบียนพาณิชย์ รวมถึงการออกแบบเว็บไซต์เช่นกัน

---

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง: ทำเว็บ, สร้างเว็บ, ร้านค้าออนไลน์, ขายของออนไลน์, เว็บขายของ, เว็บสำเร็จรูป, ออกแบบเว็บไซต์

 
 สวัสดีครับ ผมชื่อกัสครับ อายุ 17 ปี
 ผมได้ลองเปิดร้านขายของออนไลน์ดูครับช่วงปิดเทอม เริ่มจากการเปิดแฟนเพจ แรกๆไลค์ 300 กว่าๆ ครับ ผมขายแบบไม่ได้สต๊อกเองครับ ขายนาฬิกา Gshock ครับ ที่เลือกขายสิ่งนี้เพราะความชอบส่วนตัวครับ ผมสะสมมาแล้วก็รู้เรื่องพวกนี้ (ถึงจะสะสมผมก็มีแค่ 3 เรือนเองนะครับ 55 ) ด้วยราคาที่ค้อนข้างแพงเลยสะสมได้ไม่เยอะ
 
 เข้าเรื่องดีกว่า.. ผมก็หารูปในเน็ตแล้วมาโพส ตั่งราคาหลัก โดยถ้าลูกค้าสั่งของมา ผมก็จะไปเอาของที่ ห้างแห่งหนึ่งใกล้บ้าน แล้วก็ส่งที่ไปรษณีในห้างเลย ดูง่ายๆใช่ไหมครับ ไม่เสียงเพราะไม่สต๊อกของเอง  ครับผมขายไป ประมาณ 3 เดือนระหว่างนั้นผมก็โปรโมทเพจของผม วันละ 100-300 บาทแล้วแต่ว่าได้กำไลประมาณไหน แล้วยอดไลค์เพจผมก็ขยับไป 9,000 ครับ แล้วมีวันหนึงครับ ขายดีหน่อย ผมลองเลี่ยงโปรโมทไปวันละ 1,000 บาท ผลของมันคือ  ขายดีมากครับ แต่คนถามประมาณ 50-60 คน แต่ลูกค้าที่สั่งสินค้าจริงๆ 20-30 คนครับ ก็ถือว่าขายดีมากครับ กำไลอย่างต่ำก็เรือนละ 150 บางเรือนกำไลเยอะหน่อย ถึง 400 ก็มี  แล้วผมก็โปรโมทวันละ 1000 ละเลื่อยๆ ก็ขายดีทุกวัน ส่งของทุกเย็น พอมีเงินเก็บซักนิดหนึง ผมก็มองหาอุปกรณ์ช่วยในการขาย
 ที่ผมดูไว้คือ  1. สร้างเว็บเป็นของตัวเอง   2.ซื้อ Ipad  อันนี้ไม่รู้เกี่ยวไหมแต่อยากได้เฉยๆครับ (เพราะมี iphoneอยู่แล้ว)
 
 ต่อมาผมก็สร้างเว็บครับ เสียค่าโมเมเนมไป 450 บาท ได้ .com  เป็นชื่อร้านผม ก็เริ่มลงสินค้า แล้วก็โปรโมท อีก
 ขายไปได้ซัก 7 เดือน รายได้ก็ต่อเนื่องครับ  แต่ดูเหมือนร้ายขาย แบบผมจะเริ่มมีมาก ถึงมากๆ แล้วแต่ละร้านก็จัดโปรลดตัดต้ากันเต็มที่ ยอดขายผมก็ลดลง  แต่ก็รับได้ครับ เพราะผมไม่มีรายจ่ายอะไรมาก   
 
 ข้อดีตั่งแต่ผมขายของออนไลน์มา มันทำให้ผมมีอะไรที่ผมเคยอยากได้เมื่อก่อน ได้ใช้เงินที่ตัวเองหามากับมือ ไปเที่ยวหรือซื้ออะไรแพง ก็ไม่เดือดร้อนพ่อแม่ เงินมา ร.ร ก็ไม่ต้องขอพ่อแม่  รู้สึกดีครับ แต่ก็ทำให้ผมเสียนิสัยอีก มารู้ตัวที่หลัง เพื่อนๆบอกว่า ผมใช้เงินฟุ้มเฟือยมากเลย     
 เช่นซื้อของ  อย่างหูฟัง Beats ราคาหลักหมื่นไม่รุ้ผมซื้อมาได้ไง (แต่ผมชอบมากก่อนหน้านี้)
 และก็ใช้ชีวิตเปลียนไป (เพื่อนบอก) หันมาเล่นเปียโน (ซื้อเปียโนอีก)  กินแต่ร้านอาหารหรู่ 555 ผมก็งง ก็ไปด้วยกันนิ 555
 
 เข้าเรื่องครับ ตอนนี้ผมขายมาได้ 1 ปีกว่าครับ ยอดไลค์เพจ 5 หมื่นกว่า  ยอดเข้าชมเว็บ 4 แสนคนครับ 
 แต่เหมือนยอดตกมากครับ เพราะคนตกงานเยอะรึป่าว ทำให้ร้านผมขายไม่ดีเลยครับ แต่พอขายได้ แต่เพราะร้านผม มีผมคนเดียวจัดการเองทุกอย่างเลยไม่มีรายจ่ายอะไรมากครับ มีแค่ค่าโปรโมท อย่างเดียว
 
 ทุกวันนี้ผมก็เริ่มรู้ค่าของเงินแล้วครับ เพราะเหมือนเงินที่เคยหาได้ง่ายๆ ทุกวันนี้มันไม่ได้ง่ายแล้ว ใช้อะไรก็มีคิดบ้างครับ
 เก็บๆๆเงิน ยิ่งช่วงนี้ผมจะเข้า ปี 1 แล้ว รายจ่ายคงเยอะมาก ยิ่งเรียนเอกชนอีก

ตอนนี้ผมก็ปิดเทอม 6 เดือนผมก็ขายปกติ แต่ผมเอารุ้นอื่นๆมาขายด้วยครับ ตอนนี้ในเว็บมีสินค้า 300 กว่าแบบครับ แต่ก็สินค้ายิ่งเยอะการจัดการก็ไม่ง่ายเลยครับ  ผมเลยศึกษาเรื่องการขาบของ ออนไลน์ จากหนังสือบ้างเน็ตบ้างครับ
 
 ร้านผมรับชำระเงินผ่านบัตร เครดิค เดบิต และบัตรทรู และรับโอนครับ  เคยมีเก็บเงิรปลายทางครับ แต่ผมว่ามันไม่ค่อยสะดวกสำหรับผมเลย เลยยกเลิกไป
 
ลูกค้า 80%  จะเค็บรูปแล้วส่งมาทาง Line ครับ เพราะจะสะง่ายสะดวกมากๆ เลยสั่งกันทางนี้ซะส่วนใหญ่ ก็ง่ายสำหรับผมด้วยครับ
 กิจวัตรของผมทุกวันนี้ ก็  รับออร์เดอร์ทั้งวันครับ ส่งของ 5 โมงเย็น ครับ โอนก่อน 4 โมงเย็นส่งวันที่โอนครับ แล้วก็มาร้านที่เซ็นทรันครับ มารับของแล้วก็แพ็ก ไปส่งที่ไปรษณีครับ ค่าส่ง 40-50 บาทครับ เป็น EMS แล้วก็กลับบ้าน
 
 แต่ปัญหาก็มีเยอะนะครับ อย่างเช่นส่งของผิด ของชำรุด หรือส่งของไม่ถึง ก็แก้กันไปตามสาเหตุครับ มีปวดหัวบ้างกับ มหนุษย์ป้า
 แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ดีครับ  ลืมบอกไปผมเรียนต่อบริหารครับ 
 
เคล็ดลับขายดี
 หลักการที่ร้านขายดี ส่วนตัวผมว่ามันได้ผล  คือ สมมุดว่าวันนี้ผมขายได้ 1,000 บาท วันต่อไปเราก็เอาเงิน 50% ของกำไลไปโปรโมทซะ ก็เท่ากับวันต่อไป โปรโมท 500 บาท ซึ้งไม่ต้องเสียดายครับ เพราะผลตอบแทนเกิน 500 แน่นอน เผลอได้กำไล 5,000 ก็เป็นได้ ลองทำดูนะครับ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวสินค้าด้วยครับ
 
และอีกข้อ คือจัดโปรโมชั่นบ่อยๆครับ จัดโปรที่ลูกค้าเห็นแล้วสะดุดตา  แต่ไม่ต้องลดอะไรมากมายครับ ใช้กลยุทธ หัวการค้ามากๆ เช่น
1. ซื้อ 2 แถม 1 อาจจะมี (สำหรับลูกค้าที่ชำระเงินใน 1 วันเท่านั้น)
2. ลดทันที 100 บาท (ทำตัวเล็กๆ ว่า เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท )
3. ซื้อตอนนี้ลดทันที 100 บาท (เมื่อโอนเงินใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น)
 
 อะไรประมาณนี้ครับถามว่าได้ผลไหม ก็ได้ครับ ทำให้ผู้เห็นได้สะดุดตา แล้วคลิกมาดูสินค้าเรา และทำให้อาจได้ลูกค้าเยอะขึ้นเพราะคนโพสลดราคาส่วนมากจะลองคลิกเข้ามาดู แต่ก็อย่าไปหลอกหรือโกงครับ ให้เขียนเงื่อนไขให้ชัดเจนครับ
 
 ทำไงสำหรับลูกค้าที่มาสั่ง แล้วไม่โอน..?
 สำหรับผม ผมก็จะไปเตือนคับประมาณว่า  ชำระเงินแล้วแจ้งทางร้านด้วยนะครับ หรือถ้าลูกค้าที่สั่งในเว็บผมตั่งค่า ให้ส่ง วันละครั้งครับ
 ถ้าลูกค้างานแล้วยังเงียบ แล้วถาม ประมาณว่า คุณลูกค้ายังรับสินค้าอยู่ไหมครับ หรือ สินค้ามีจำกัดครับ
 
 แค่ก็ ถ้าคนไม่อยากได้จริงๆก็ไม่เอาครับ  แต่ถ้าคนที่อยากได้แบบจิงจัง ไม่เกินวัน เค้าก็โอนแล้วครับ
 หรือรอเงินออก ลูกค้ากลุ่มนี้ให้เรา จดบันทึกไว้ครับ ว่าสินเดือนเราต้องไปตามลูกค้าอีกที เพื่อให้ชำระเงินครับ วิธีนี้ได้ผล เพราะส่วนใหญ่ จะลืมว่าสั่งของไว้

เริ่มที่ตกต่ำสุดๆเลยละกัน (ก็เรื่องมันเศร้า)
 ครับ มีอยู่ช่วงหนึงครับ ประมาณ 1-2 อาทิตย์ คือร้านผมขายไม่ออกเลย ซักเรือน มีแต่ลูกค้ามาถามแล้วไม่ซื้อไม่โอน
 ขนาดผมจัดโปรลด แทบไม่เอากำไลครับ ลองดูว่ายอดจะเพิ่มไหม ก็แต่เหมือนเดิมครับ อาจเป็นเพราะเศฐกิจตอนนั้นรึป่าว
 แต่ที่ผมเศร้าคือ ระหว่างที่ขายไม่ได้ ผมก็โปรโมททุกวันครับ วันละ 300-1,000
 บาท  พอขายไม่ได้ ผมก็เพิ่มค่าโปรโมทขึ้นเรื่อยๆครับ หมดไปเกือบหมื่นครับช่วงนั้น ผลกำไล ไม่ถึง 2-3 พัน เศร้ามากครับ
 แต่อยู่วันหนึงก็ผ่านมาได้ เพราะผมเอาสินค้ารุ้นอื่นๆมาเสริมครับ ให้ลูกค้ามีอะไรเลือกมากขึ้น ยอดก็เพิ่มทีละนิดคับ  คงที่อยู่ที่ประมาณ 10-40 เรือนต่อวันครับ 555 ผ่านวิกิตมาได้ ทำให้ผมแข็งแกรงขึ้น
 
 มาช่วงสูงสุดกันครับ (ช่วงนี้ฟีนจ้า)
 มีอยู่ช่วงปิดเทอมครับ คือผมก็โปรโมทปกติ วันละ 500-1,000 บาท
 แต่ไม่รู้ เพราะฟ้าแระทานหรืออะไรก็แล้วแต่ คือผมขายได้วันละ 30-60 เรือนเลยครับ คือแบบผมตอบคนเดียว บอกเลยครับ วุ่นวายที่สุด คือคุยคนเดียวครับ คุยกับคนนี้แล้วมาคุยกับคนนู้น งงมากครับ
 ยอดเข้า บช วันละ หลายหมื่นเลยครับ ด้วยสินค้าราคาข้อนข้างสูง 2-7 พัน
 เลยดูยอดเยอะหน่อย
 แต่กำไลหักลบทุกอย่าง ประมาณวันละ 5,000-12,000 เลยครับ
 ผมตื่นเต้นมากเลยได้เห็นเงินเยอะ 
 แต่ลูกค้าเยอะ ปัญหาที่ตามมาเยอะกว่าครับ ส่งของนานก็มาว่าร้านผม  ทั้งๆที่ไปรษณีเป็นคนส่ง
 แล้วก็เรื่องตั่งเวลาครับ รุ้นนี้การตั่งเวลาจะซับซ้อนมาก  ผมเลยทำคลิปสอนไว้ที่เพจ  แต่ก็มีหลายท่าน ครับทีาไม่เข้าใจ ถึงกับส่งมาให้ผมตั่งให้เลยมีเยอัครับ   แต่ก็โอเคครับ ยินดีบริการ 
 
 แต่ตอนนี้คู่แข่งเยอะมากครับ จัดโปรกันโหดๆ ผมก็ยอมครับ เอาเท่าที่เราไหว ไม่ต้องลดอะไรมาก
 บริการดีๆ มีรีวิวเยอะๆ อีกอย่างผมแจกของบ่อยๆครับ อย่างเช่น
 1.ใครซื้อสินค้าวันนี้ แจกฟรีสติ๊กเกอร์ไลน์ แบบนี้ครับ ราคาก็ 60 บาท ก็แจกได้ครับ
 2.ทำของลิมิเตลแจกครับ  เช่น เคสมือถือ มีโลโก้ร้าน   ริสแบรน ครับ
 3.และที่คนอยากได้ที่สุดคือ แจกสินค้าที่เราขายครับ อย่างของผม Gshock ก็สุ่มแจก สำหรับลูกค้าที่สั่งสืนค้าครับ ราคา  3 พันกว่าบาทครับ ก็นานๆทีแจกครับ กระตุ้นยอดขาย

ที่มา: pantip.com/topic/33530612

PR หรือ Page Rank ถูกกำหนดขึ้นโดย Google หลายๆท่านที่คุ้นเคยกับ SEO คงตื่นเต้นกับเว็บที่มี PR สูงๆ ใครที่มีโดเมน PR 4 ขึ้นไปไว้ครอบครองเหมือนมีแหวนทองสวมนิ้วอยู่ แต่มาตอนนี้ Google เองไม่ได้ปรับ PR ให้กับเว็บไซต์มาเกิน 1 ปีแล้ว ซึ่งปกติอย่างน้อยล่ะต้องปรับปีละ 2 ครั้ง นั่นก็หมายความว่าในยุคนี้ค่า PR เป็นค่าที่ Google เองไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญแล้ว

อะไรล่ะที่ Google ให้ความสำคัญ?

หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึง DA และ PA เรามารู้จักกันว่ามันคืออะไร

DA หรือ Domain Authority ถ้าแปลตรงๆเลยก็จะแปลได้ว่า “อำนาจโดเมน” ฟังแล้วก็โหดๆไปนะ หรือจะแปลว่า “ค่าความน่าเชื่อถือของโดเมน” จะฟังดูแล้วเข้าใจง่ายกว่า เจ้าค่า DA นี้ถูกกำหนดขึ้นโดย SEOMoz ซึ่งตัว DA นี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าโดเมนนั้นจะทำอันดับได้ดีบน Google ได้มากน้อยขนาดไหน ค่า DA จะมีตั้งแต่ 0-100 การมี DA สูงๆหมายความว่าการทำอันดับจะได้ผลดีกว่าเว็บไซต์ที่มีค่า DA ต่ำกว่า ซึ่งค่า DA นี้จะปรับเรื่อยๆ จะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับคุณภาพเว็บ

PA หรือ Page Authority คือ ค่าความน่าเชื่อถือของหน้าเพจแต่ละหน้าโดยเฉลี่ย ทุกอย่างเหมือนกับ DA เพียงแต่ PA จะเป็นการบอกแบบเฉพาะเจาะจงเท่านั้น

---

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง: ร้านค้าออนไลน์, ขายของ, ขายของออนไลน์, เว็บขายของ

เว็บไซต์สําเร็จรูป ที่ทุกคนมั่นใจ ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจากกว่า 170,000 เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน รวมถึงบริษัทมหาชน

ขายของ

ปัจจุบันเจ้าของธุรกิจจำนวนไม่น้อยเลือกที่เปิดร้านค้าออนไลน์ เพื่อขายของ

ขยายธุรกิจที่ตัวเองทำหรือเป็นเจ้าของอยู่ การซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าถึงง่าย

เพียงแค่เงินหลักพันต้นๆก็สามารถมีโทรศัพท์มือถือ smart phone มาท่องเว็บกันแล้ว

การใช้งานเว็บในยุคปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ก็กล้าที่จะซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น

แต่ทว่าเจ้าของร้านหรือเจ้าของร้านค้าออนไลน์ก็จำเป็นต้องมีกลยุทธรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา

นั่นก็คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ยกตัวอย่าง ร้านค้าออนไลน์ ขายเสื้อผ้า ขายกางเกง

ถึงสินค้าจะน่าซื้อมาก แต่ลูกค้าก็ต้องมีความกังวลมา ซื้อมาจะใส่ได้ไหม ซื้อมาจะดูดีเหมือนในรูปไหม

ความเชื่อมั่นแรกของการขายของออนไลน์ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆน้อยๆที่บางทีเรามองข้าม

อย่างเช่น การใช้ระบบเว็บที่น่าเชื่อถือ การถ่ายรูปสินค้า ระบุราคาชัดเจน การรับประกัน

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม

---

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง: ร้านค้าออนไลน์, เปิดร้านค้าออนไลน์, เว็บขายของ, อยากขายของ