รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - ioxoop0x58x8

หน้า: [1]
1

บัวบก
ใบบัวบกสมุนไพรจีนโบราณที่ได้ยินชื่อกันมานาน นี่เป็น คุณประโยชน์ของใบบัวบกที่เข้าใจแล้วต้องรักเจ้าสมุนไพรนี้มากกว่าเดิม
          เชื่อว่าผู้คนจำนวนมากก็น่าจะเคยรับรู้กันมานักต่อนักว่าเวลาบอบช้ำในให้กินน้ำใบบัวบก ด้วยเหตุว่าจะช่วยทำให้หายจากอาการช้ำในเร็วขึ้น แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วเจ้าสมุนไพรที่มีนามว่าใบบัวบก ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่นำมาใช้กันตั้งแต่โบราณนั้นก็ยังมีคุณประโยชน์ฯลฯ อีกทั้งช่วยทำนุบำรุงสุขภาพ รักษาโรค หรือแม้แต่ช่วยบำรุงรักษาความสวยงาม ต้องการทราบกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าใบบัวบก สมุนไพรที่เชิญให้รู้สึกเหม็นเขียวจะมีคุณประโยชน์อะไรดีๆอีกบ้าง ถ้าเช่นนั้นลองไปดูที่พวกเราจับมานำเสนอในวันนี้กันเลยดีกว่า บอกได้คำเดียวเลยว่า ทราบดีแล้วจะต้องลืมกลิ่นเขียวๆเหล่านั้นไปเลยแน่ๆ

  • แก้ปัญหาเส้นโลหิตขอด


          เมื่อเส้นโลหิตสูญเสียความยืดหยุ่นก็ทำให้เส้นเลือดดำมีการฉีกขาดและทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่บริเวณขา เป็นต้นเหตุที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการบวมที่เรียกว่าอาการเส้นเลือดขอดนั่นเอง โดยมีการศึกษาพบว่าการกินใบบัวบก สามารถลดอาการบวมและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ โดยในการค้นคว้านั้นได้กระทำทดลองกับอาสาสมัครกว่า 90 คน ที่มีลักษณะของเส้นเลือดขอด แล้วก็เมื่อรับประทานใบบัวบกเข้าไปและจากนั้นก็พบว่าอาการเส้นโลหิตขอดนั้นดีขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานยาหลอก และเมื่อกระทำการอัลตราซาวด์ก็พบว่าคนที่กินใบบัวบกมีการรั่วไหลของหลอดโลหิตดำลดลงค่ะ

  • รักษาแผลรวมทั้งรักษาโรคผิวหนังบางจำพวก


          หนึ่งในสารสำคัญที่ส่งผลให้ใบบัวบกกลายเป็นสมุนไพรที่มากสรรพคุณก็คือสารไตรเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ที่มีการเรียนกับสัตว์แล้วพบว่าสามารถช่วยสมานบาดแผลได้ โน่นก็เป็นเนื่องจากว่าสารดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะทำหน้าที่สำหรับเพื่อการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับรอยแผล แล้วก็ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังรอบๆบาดแผลเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รอยแผลเบาๆหายในระยะเวลาที่น้อยลง ทั้งยังสารจากใบบัวบกก็ยังช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดแผลเป็นได้อีกด้วย วิธีการใช้ก็ไม่จำเป็นที่ต้องนำใบบัวบกมาตำแล้วพอกให้ยาก เพราะเหตุว่าในช่วงเวลานี้มีแบบที่เป็นครีมผสมสารสกัดไว้ทาโดยเฉพาะ แค่เพียงเลือกให้เหมาะสมกับประเภทรอยแผลก็ช่วยได้มากเลยล่ะ

  • ระบายความร้อน


          ความร้อนในร่างกายถ้าหากสูงมากจนเกินไปอาจจะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการไข้ ตัวร้อน อยากดื่มน้ำ ตลอดจนการอักเสบ ด้วยเหตุนี้การรับประทานใบบัวบกที่มีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับพิษร้อนออกจากร่างกายได้อีกด้วย

  • ขับพิษร้อน และก็ความชื้น


          โรคต่างๆที่เกิดจากความร้อนแล้วก็ความชื้น อาทิเช่น โรคตับเหลือง นิ่วในทางเดินฉี่ หรือโรคบิด สามารถทุเลาได้ด้วยการรับประทานใบบัวบก เพราะว่าใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์ขมเย็น สามารถช่วยสลายความชุ่มชื้นในร่างกายและขับความร้อนออกมาได้ แต่ก็ควรรับประทานในจำนวนที่เหมาะสม เพราะว่าหากกินมากๆอาจก่อให้ร่างกายเย็นจนเหลือเกินและก็ทำให้เป็นอันตรายได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก ผลดีเลอค่า

  • ลดความกระวนกระวายใจ ช่วยให้จิตใจสงบ


          สารตรีเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในใบบัวบกนั้น นอกจากจะช่วยในการรักษาแผลและรักษาโรคผิวหนังบางจำพวกได้และก็ยังมีฤทธิ์สำหรับในการลดความกระวนกระวายแล้วก็ช่วยกระตุ้นกลไกหลักการทำงานของสมอง โดยมีการเล่าเรียนหนึ่งพบว่าผู้ที่กินใบบัวบกมีลัษณะทิศทางที่จะสะดุ้งกับเสียงดังรบกวนน้อยกว่าผู้ที่กินยาหลอก แต่ว่าก็จะต้องใช้ในจำนวนที่สูงมาก จึงยังไม่มีการรับรองชัดเจนว่าควรจะใช้ปริมาณใดก็เลยจะสำเร็จและไม่ส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพตามมาค่ะ

  • รักษาโรคหนังแข็ง


          เนื่องมาจากใบบัวบก มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการลดการอักเสบต่างๆภายในร่างกาย ก็เลยสามารถใช้บรรเทาอาการของคนเจ็บโรคหนังแข็งได้ โดยมีการเล่าเรียนกับผู้หญิง 13 มีลักษณะของโรคหนังแข็งพบว่า การกางใบบัวบกสามารถลดลักษณะของการปวดตามข้อ รวมทั้งลดการเกิดหนังแข็ง และก็ทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แต่ว่าดังนี้ก็จำเป็นต้องอยู่ในปริมาณที่หมอควบคุมเพียงแค่นั้น

  • ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ


          คนใดที่มักจะนอนไม่หลับบ่อยๆทดลองหาใบบัวบกมารับประทานก็ดีแล้วเช่นกันนะ เพราะว่าใบบัวบกไม่เพียงแต่ช่วยลดความกระวายกระวนเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นก็ยังช่วยให้จิตใจสงบและก็ผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยแค่เพียงกินเป็นประจำก่อนนอน ก็จะสามารถช่วยให้การนอนดีขึ้นได้อย่างน่าแปลกเลย
สรรพคุณใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • ลดความดันเลือด


        กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยรวมทั้งการแพทย์ช่องทาง ได้ออกมาแนะนำว่าใบบัวบกเป็นเลิศในสมุนไพรที่ช่วยลดระดับความดันเลือดได้ เพราะเจ้าใบบัวบกนั้นจะไปทำให้เส้นเลือดดำรวมทั้งเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น ทั้งยังยังช่วยลดสภาวะความเครียดอันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ดังนี้กระบวนการกินก็ไม่ยาก เพียงนำใบบัวบกไปคั้นน้ำแล้วเอามาดื่ม จะนำไปผสมกับน้ำผึ้งสักบางส่วน หรือผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆเพื่อลดความเหม็นเขียวก็ทำได้ค่ะ

  • ลดอาการบวม


          อาการบวมช้ำเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ระบบไหลเวียนเลือดรอบๆดังที่กล่าวมาแล้วทำงานผิดปกติก่อให้เกิดอาการคั่งของเลือด การกินใบบัวบกไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำคั้นดื่ม หรือแบบที่เป็นสารสกัดแคปซูล สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำบริเวณบาดแผลได้ แล้วก็ยังลดอาการอักเสบที่นำมาซึ่งอาการบวมได้อีกด้วย

  • บำรุงสมอง


          ใบบัวบกเป็นพืชอีกประเภทที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องสารอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์สมอง และก็ช่วยคลายความอ่อนเพลียของสมอง เพิ่มรูปแบบการทำงานของสมองและก็ความจำ แถมยังสามารถลดภาวะซึมเศร้า แล้วก็สามารถช่วยยับยั้งอาการของโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นในสมองได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

  • รักษาอาการติดเชื้อ


          ใบบัวบกเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งจำพวกที่ช่วยรักษาโรคไข้หวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมช่วยรักษาอาการติดโรคในทางเดินฉี่ แล้วก็อาการติดโรคแบคทีเรียแล้วก็เชื้อไวรัสต่างๆได้อีกมากมาย กล่าวได้ว่าไม่ว่าจะติดเชื้อใดๆ ใบบัวบกสามารถช่วยรักษาได้หมด แต่ว่าดังนี้ก็จำต้องใช้ในปริมาณที่สมควร และภายใต้การดูแลของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญนะ

  • ทุเลาอาการเมื่อยล้า


          นอกเหนือจากรักษาลักษณะการป่วยต่างๆแล้ว ใบบัวบกยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนแรงได้ แล้วก็หากว่ากินในตอนอากาศร้อนๆด้วยละก็ น้ำใบบัวบกก็สามารถช่วยลดความร้อนภายในร่างกายและก็ดับกระหายได้อย่างดีเยี่ยมเลยเชียวล่ะ

คุณประโยชน์ใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • บำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์


          ใบบัวบก เป็นอีกหนึ่งในสมุนไพรเพื่อความงามที่อยู่ใกล้ตัวมากๆที่เป็นแบบนี้ก็เพราะใบบัวบกมีสารที่ช่วยสนับสนุนการผลิตคอลลาเจนแล้วก็อิลาสตินในร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มเปียกชื้น มองอ่อนเยาว์ นอกจากนั้นสารต้านอนุมูลอิสระในใบบัวบกก็ยังช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ก็เลยไม่น่าแปลกเลยล่ะหากคุณจะได้เห็นชื่อของเจ้าใบบัวบกยอดเยี่ยมในส่วนประกอบของเครื่องทำให้หมดจดผิว ดังนี้ยังสามารถนำใบบัวบกสดๆมาใช้พอกหน้าได้อีกด้วย โดยมีวิธีดังต่อไปนี้จ้ะ
           - ใบบัวพอกหน้า บำรุงผิวสวยใส ลบรอยตีนกา
วิธีทำ

  • นำใบบัวบกสดมาล้างทำความสะอาด และจากนั้นจึงนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • นำมาปั่นหรือบดกับน้ำที่สะอาด 1 แก้ว
  • นำมาพอกหน้า หรือนำสำลีชุบน้ำใบบัวบกขึ้นมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ราว 15 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำบ่อยเป็นประจำทุกวี่วันก่อนนอนจะช่วยให้บริเวณใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • กำจัดเซลลูไลท์


          ผู้หญิงที่กังวลใจกับเซลลูไลท์ที่เป็นศัตรูความสวยของคุณสาวๆอยู่ ขอบอกใบบัวบกช่วยคุณได้จ้ะ แค่เพียงกินใบบัวบกเสมอๆก็จะช่วยให้เซลล์ไขมันเซลลูไลท์ถูกขับออกมาจากร่างกายได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น และก็ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น แล้วก็ลดการอักเสบอันมีต้นเหตุมาจากเซลลูไลท์ได้อีกด้วยล่ะ

  • บำรุงเส้นผมแล้วก็หนังศีรษะ


          ผู้คนจำนวนมากที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วงก็คงค้นหาทุกวิธีเพื่อบำรุงให้เส้นผมรวมทั้งหนังหัวแข็งแรงเพื่อจะได้มีผมดกดำ ใบบัวบกก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มีคุณประโยชน์โดดเด่นในด้านนี้ โดยปัญหาผมร่วงส่วนมากก็เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากรากผมที่อ่อนแอรวมทั้งการไหลเวียนของโลหิตบนหนังศีรษะไม่ดี ซึ่งใบบัวบกนี้มีฤทธิ์สำหรับในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังหัว รวมทั้งยังช่วยทำนุบำรุงให้รากผมแข็งแรง ปกป้องผมหล่นทำให้ผมที่ขึ้นใหม่มีความแข็งแรงแล้วก็ดกดำเงาสวยได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีอะไร
          ได้มองเห็นคุณประโยชน์ดีๆของใบบัวบกกันไปแล้วอย่างงี้ คนใดกันแน่ที่ยังส่ายหน้าให้กับกลิ่นเขียวๆของใบบัวบก ก็น่าจะทดลองหันกลับมามองเสียใหม่ ถึงแม้ว่าอาจจะมีกลิ่นฉุนไปเสียหน่อย แม้กระนั้นคุณประโยชน์ที่ได้รับก็ดีไม่น้อยเลย ถ้าไม่ลองเสียดายห่วยแตกเลยนะ http://www.disthai.com/

2

บัวบก
บัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จัดอยู่ในตระกูลผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
สมุนไพรบัวบก มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ ฯลฯ จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นแรง มีรสขมหวาน
เมื่อพูดถึงบัวบก สมุนไพรชนิดนี้ขึ้นมาทีไร คนไม่ใช่น้อยคงคิดไปว่ามันแค่ช่วยแก้อาการบอบช้ำในเฉยๆ(ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แม้กระนั้นในความเป็นจริงแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีคุณประโยชน์มากไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะได้รับการกล่าวขวัญเกี่ยวการดูแลและรักษาโรคได้หลากหลายประเภท อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเดิน ท้องขึ้น แผลในกระเพาะ มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความอ่อนเพลียของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายอย่าง เป็นต้นว่า บราโมซัยด์ บราไม่โนซัยด์ สามเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านทานการอักเสบ และก็ยังมีกรดมาดิแคสสิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม แล้วก็กรดอะมิโน ได้แก่ แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสหนดิน เป็นต้น
ใบบัวบกเหมาะสำหรับผู้ที่ขี้ร้อน มีภาวการณ์เข้มแข็ง หรือมีความร้อนเปียกชื้น เพราะว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
บัวบกคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบกคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากใบบัวบก
ประโยช์จากใบบัวบก
บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แต่ว่าหรูหราสารออกซาเลตที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายในปริมาณต่ำ
ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุรวมทั้งวัย
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยสร้างเสริมและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนรวมทั้งอีลาสติน
มีสารต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบก ช่วยบำรุงรักษาและรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา ด้วยเหตุว่าบัวบกมีวิตามินเอสูง
ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการใช้ใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นมัวแต่น้ำนำมาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ช่วยบำรุงประสาทและสมองเหมือนใบแปะก๊วย
ช่วยทำให้ความจำดียิ่งขึ้นแล้วก็ทำให้มีปฏิภาณความฉลาดเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงวัย
มั่นใจว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มความฉลาดทางสติปัญญา ความฉลาด และก็ความสามารถสำหรับการทำความเข้าใจ
ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยชะลอลักษณะโรคสมองเสื่อมในผู้สูงวัย สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงลืมระยะสั้นได้
ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
ช่วยเพิ่มความสามารถสำหรับในการตัดสินใจเฉพาะหน้า
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดศีรษะ ปวดศีรษะด้านเดียว
ช่วยแก้อาการหน้ามืดหัว
ช่วยความเครียดลดลง
ช่วยเสริมลักษณะการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยบรรเทาและก็ทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆก้าวหน้าเพิ่มขึ้น
ช่วยกระตุ้นการสร้างเยื่อใหม่
ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
ช่วยบำรุงรักษาโลหิตภายในร่างกาย
ช่วยบำรุงรักษาหัวใจ
ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ช่วยทำให้จิตใจสดชื่น อารมณ์แจ่มใส
ช่วยทำให้เค้าหน้าแจ่มใสเหมือนเป็นวัยรุ่น
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยบำรุงรักษาเสียง
ช่วยรักษาอาการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดประมาณ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเพิ่มน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบรับประทานเสมอๆ
ช่วยแก้หิวน้ำสรรพคุณใบบัวบก
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
ใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์ของโรคมะเร็ง ช่วยต้านทานโรคมะเร็ง
ช่วยรักษาโรคโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนเจ็บเบาหวานได้ดี
ช่วยรักษาโรคโรคตับเหลืองจากภาวะร้อนชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลทรายกรวด 30 กรัม ต้มน้ำกิน
ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยรักษาอาหารหืด
ช่วยรักษาโรคความดันเลือดสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือจะใช้บัวบกใหม่ๆทั้งต้นประมาณ 30 กรัมเอามาค้นเอาน้ำ เพิ่มน้ำตาลน้อยแล้วดื่มรับประทานราวๆ 5-7 วัน
ช่วยรักษาโรคลมชัก
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในระยะเริ่มต้น ด้วยการใช้บัวบกและเปลือกของลูกหมาก 1 ผล เอามาต้มกับสุราดื่ม
ช่วยแก้คนเป็นบ้า
ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
ช่วยลดระดับความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือด และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสมหะ
ช่วยแก้อาการเหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า
ช่วยแก้ไข้
ช่วยห้ามเลือดกำเดา เพราะทำให้เลือดเดิน แต่เลือดจะไม่ออกจากเส้นเลือดแล้วก็ยังส่งผลให้เลือดเย็นอีกด้วย
ช่วยแก้อาการบอบช้ำใน บาดเจ็บจากการกระทบชน
เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
ช่วยให้เจริญอาหาร ทานอาหารได้มากขึ้น
ช่วยแก้อาการท้องเดิน
สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์ปกป้องและยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดผสมเมื่อถ่าย
ช่วยรักษากระเพาะเป็นแผล
ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
ใช้เป็นยาขับเยี่ยว
แก้อาการเยี่ยวขัดข้อง ด้วยการใช้ใบบัวบกโดยประมาณ 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อถ่ายปัสสาวะชำนาญก็ดีค่อยคัดแยกออก
ช่วยขับความร้อนชื้นทางเดินเยี่ยว คุ้มครองการเกิดนิ่ว
ช่วยรักษาโรคนิ่วฟุตบาทเยี่ยวด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 แล้วเอามาดื่ม
ช่วยรักษาอาการมีหนองออกมาจากเยี่ยว
ช่วยแก้อาการน้ำดีภายในร่างกายมากจนเกินไป
ช่วยรักษาโรคม้ามโต
ช่วยรักษาอาการติดเชื้อของเชื้อไวรัสตับอักเสบ
แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการกางใบสดราวๆ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วเพิ่มขึ้น ช่วยเร่งการสร้างเยื่อ
ช่วยแก้อาการบวมช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วเอามาโปะรอบๆที่บวมช้ำ หรือจะใช้ใบบัวบกประมาณ 40 กรัม ต้มกับเหล้าแดงโดยประมาณ 250 cc. ราว 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
ใช้บัวบกตำเอามาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกนำมาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกบริเวณที่เป็น
ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆได้แก่ โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด ฝึกฝน ฯลฯ
ช่วยระงับการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุทำให้มีการเกิดหนอง
ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้อย่างดีเยี่ยมแล้วก็ใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
ใช้เป็นยาทำลายพิษ ช่วยลดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งต้นสดของบัวบกราว 3 ต้นเอามาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟเผา
บัวบกมีการนำมาผลิตเป็นแคปซูลวางขาย มีสรรพคุณสำหรับในการช่วยบำรุงรักษาสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
ปัจจุบันมีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในชนิดผงใช้โรยแผล และในชนิดเม็ดรับประทานเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ รวมทั้งยังช่วยปกป้องการเกิดแผลเป็นอีกด้วย
ช่วยแก้อาการก้างปลาติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
ใบและก็เถาบัวบกใช้กินเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ ฯลฯ
น้ำคั้นจากใบบัวบกเอามาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ชโลมหัว มีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงหนังหัวและก็เส้นผม ช่วยให้เส้นผมดกดำ แก้ไขปัญหาผมตก ผมหงอกก่อนวัย
น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนอย่างมากมาย เนื่องจากว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัดสารพัน
สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิวแล้วก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
สารสกัดจากใบบัวบกมีการนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนประกอบสำหรับในการผลิตเครื่องแต่งตัว
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นอุปกรณ์ปิดแผล
ลบรอยตีนกาตื้นๆด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนถึงละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วบริเวณหางตาหรือทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ราวๆ 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรจะทาทุกวี่วันก่อนนอน
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้สร้างอ้างถึงว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวสวยใส ผิวหน้าเต่งตึงได้

ขั้นตอนการทำน้ำบัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำบัวบกวิธีทำน้ำบัวบก ควรที่จะทำการเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า รับประทานเป็นผักสด โดยใช้ทั้งยังรากนำมาล้างน้ำทำความสะอาด
ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนเอามาบด
คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำที่สองเพื่อจับตัวได้ยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรที่จะใช้น้ำที่สะอาด และก็ห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่างๆ(แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองไม่ได้)
หลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใสๆมาดื่ม
น้ำบัวบกต้องคั้นใหม่ๆจากใบสดๆและไม่ควรเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรแช่เย็นเก็บไว้
น้ำเชื่อมถ้าทำจากน้ำสุกใบเตย จะมีผลให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
สรรพคุณของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน ช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
ใบบัวบกวัตถุดิบที่จำต้องเตรียมเช่น บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลานิดหน่อย / น้ำมันพืชสำหรับใช้ทอด
นำบัวบกมาล้างจนกระทั่งสะอาดแล้วหั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เพิ่มเครื่องปรุงต่างๆ
นำใบบัวบกที่ซอยแล้วผสมลงไปในไข่ คนจนเข้ากัน
นำมาทอดในไฟอ่อนจนไข่สุก
คุณประโยชน์ช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดศีรษะ และหน้ามืดศีรษะ
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
จัดเตรียมวัตถุดิบดังนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบ / หอมแดงหั่นหยาบคาย / เกลือ / พริกไทยป่น
นำบัวบกสดที่ได้มาล้างชำระล้าง แล้วหั่นหยาบๆให้พอดีคำ
นำแป้งที่ใช้สำหรับทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย รวมทั้งเกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
นำบัวบกที่หั่นจัดแจงไว้ นำมาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
หลักแล้วตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว นำมาทอดให้เพียงพอเหลืองกรอบแล้วชูลงให้สะเด็ดน้ำมัน
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เอามาจิ้มกินกับน้ำจิ้มไก่ได้เลย
คุกกี้บัวบก
ให้ตระเตรียมวัตถุดิบดังนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งสารพัดประโยชน์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาล 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
นำใบบัวบกมาล้างชำระล้างแล้วหั่นอย่างระมัดระวัง โดยตัดก้านและใบออกมาจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆส่วนใบเอามาเรียงซ้อนกันแล้วหั่นตามทางขวางแล้วก็กลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
นำแป้งและก็ผงฟูมาร่อนผ่านที่กรอง 2 รอบ แล้วพักไว้
นำเนยสดมาตีให้เข้ากับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนกระทั่งขึ้นฟู ราว 1 นาที
ใส่ไข่ไก่และกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้ถูกกัน
เบาๆใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละเล็กทีละน้อย (ครั้งละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งปวง) แล้วตีแป้งให้เข้ากับส่วนผสมทั้งสิ้น
นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนไฟ ซึ่งต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่อยาก
ใช้เวลาอบราวๆ 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิโดยประมาณ 250 องศา หรือมองว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำมันบัวบก
ตระเตรียมส่วนผสมดังนี้ บัวบก 4 กิโล / น้ำมันที่สกัดจากมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำสะอาด 1 ลิตร
นำบัวบกมาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เพิ่มเติมน้ำลงไปในบัวบก แล้วนำไปปั่นจนกระทั่งละเอียด
เสร็จแล้วให้กรองมัวแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนๆโดยประมาณ 80 องศาเซลเซียส
เคี่ยวไปเรื่อยๆจนเหลือแค่น้ำมันที่ทำจากมะพร้าว โดยให้พินิจลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบทราย นับได้ว่าเป็นอันใช้ได้ ยกลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เท่านี้ก็เรียบร้อย
การใช้น้ำมันบัวบก
ใช้น้ำมันที่ได้นำมาทาเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังหัว
นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งไว้โดยประมาณ 30 นาที
ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมยาสระผมตามเดิม เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
น้ำมันบัวบก สรรพคุณช่วยบำรุงหนังศีรษะรวมทั้งเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ ไขปัญหาผมหล่น ผมหงอกก่อนวัย
คำเตือนและคำเสนอแนะ
คุณประโยชน์ของใบบัวบกการรับประทานใบบัวบกคุณควรจะพิเคราะห์พื้นฐานของร่างกาย อย่าดูแต่คุณประโยชน์เพียงอย่างเดียว
บัวบกไม่เหมาะสมกับมีภาวการณ์เย็นพร่อง หรือขี้หนาว อาการท้องอืดเป็นประจำ
การรับประทานบัวบกในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น จะมีผลให้ธาตุในร่างกา
http://www.disthai.com/

Tags : ประโยชน์บัวบก

3

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เติบโตในแถบอินเดีย แอฟริกา และก็เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบแล้วก็ลำต้นประยุกต์ใช้เป็นยารักษาโรคตามหมอแผนโบราณของประเทศอินเดียและจีนมาอย่างช้านาน ใช้รักษาหลายโรค อาทิเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และยังเอามาประกอบอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพร่างกายอยู่หลายประเภท เช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) ทวีปเอเชียติเตียนโคไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีสรรพคุณหลายชนิด เป็นต้นว่า ทุเลาอาการอักเสบ แม้ใช้กินอาจมีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตในเส้นเลือดดำ รวมทั้งนำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเท้าเยี่ยว โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีความเห็นว่าถ้าหากใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเพื่อการสมานบาดแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีสาเหตุจากการมีท้อง แม้กระนั้นข้อรับรองหรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากน้อยมีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองความศรัทธา สรรพคุณ แล้วก็ความปลอดภัยของใบบัวบกในการรักษาโรคกลุ่มนี้
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นโลหิตขอด มีการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งแถลงการณ์ว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงรักษาและสร้างสมดุลในการเจริญวัยของเยื่อเกี่ยวเนื่อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของโลหิต ยิ่งกว่านั้น ยังมีการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวโยง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง ถึงสารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยทุเลาอาการผู้เจ็บป่วยเส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากงานศึกษาวิจัยบอกว่าข้อสรุปข้างต้นจำต้องตีความด้วยความระมัดระวังเนื่องด้วยความจำกัดต่างๆของการค้นคว้าวิจัย รวมทั้งยังจะต้องศึกษาเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องแน่ใจรวมทั้งมีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินความสามารถการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นได้ แต่ยังมีหลักฐานเกื้อหนุนน้อยเกินไป
โรคเส้นเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับในการลดปริมาณไขมันในเส้นเลือดได้ จากการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ไม่ออกอาการกลุ่มหนึ่งรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกเป็นเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครอีกทั้ง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกัน แต่ในกลุ่มที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอรวมทั้งขาลดลง รวมถึงลักษณะของพลัคอีกทั้งความหนาและความยาวก็น้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่ประสงค์ สามารถทนต่ออาการข้างๆได้ และมีการบันทึกผลของการตรวจเลือดเป็นประจำ ด้วยเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่พอ จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ปกป้องลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีเหตุที่เกิดจากการโดยสารเรือบินเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาชี้แนะว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวและก็เพิ่มการไหลเวียนเลือดในผู้ที่โดยสารเรือบินติดต่อกันนานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่เด่นชัดว่าการเรียนรู้ชิ้นนี้จะคือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เนื่องมาจากหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการคุ้มครองป้องกันลิ่มเลือดยังไม่พอ ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในคนเจ็บเบาหวาน งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งให้คนเจ็บเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยจำนวน 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารสามเทอร์พีนอยด์เป็นสาระสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารตรีเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของคนไข้เบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังไม่เพียงพอ ก็เลยจึงควรศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถและก็ผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลโรคเบาหวาน โดยแบ่งผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารทวีปเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม แล้วก็อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกจำนวน 2 แคปซูลข้างหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง แล้วก็มีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนไข้ที่รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากกว่าและไม่เจอผลข้างเคียง หรือบอกได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีคุณภาพสำหรับการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดผลข้างๆ แต่ว่าเพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลเบาหวานยังไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ดังเช่นว่า ทวีปเอเชียตำหนิโคไซด์ กรดเอเชียว่ากล่าวก มาเดแคสโซไซด์ รวมทั้งกรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายและก็อาจมีสมรรถนะสำหรับในการรักษาแผลต่างๆทั้งแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมทั้งแผลเป็นแบบนูน ซึ่งจากงานค้นคว้าชิ้นหนึ่งได้เสนอแนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ตลอดนาน 6-8 อาทิตย์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมถึงแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นเนื่องมาจากหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อแผลยังไม่เพียงพอ ก็เลยจะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการตั้งท้อง ได้มีงานศึกษาเรียนรู้เสนอแนะให้ผู้ที่กำลังตั้งท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน เป็นประจำวันแล้ววันเล่าในช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกจากนั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงท้องจำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจจะทำให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกลุ่มที่ใช้ยาหลอก แต่เนื่องมาจากหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
ลดความกลุ้มใจ การดูแลรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการซึมเศร้าแล้วก็ความวิตกกังวล ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสามารถของใบบัวบกสำหรับการลดความรู้สึกไม่สบายใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลการทดลองทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านทานความรู้สึกกลุ้มใจ ช่วยลดความตึงเครียด แต่ยังคงจำเป็นต้องเรียนเพิ่มอีกต่อไปถึงความสามารถของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรควิตก
โรคและก็อาการอื่นๆเป็นต้นว่า หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การต่อว่าดเชื้อฟุตบาทปัสสาวะ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ซึ่งยังจำต้องวิจัยหาสมรรถนะและความปลอดภัยสำหรับการรักษาต่อไป

ความปลอดภัยในการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่การกินใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก เพราะเหตุว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะเกื้อหนุนถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งต่อเด็ก แม่ หรือลูกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อตับ ดังนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรกินใบบัวบก เพราะเหตุว่าอาจจะส่งผลให้อาการต่างๆแย่ลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกรุ๊ปพวกนี้ เป็นต้นว่า พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีปีนป่าย ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตติเตียนน ฯลฯ
การรับประทานใบบัวบกในปริมาณมากอาจทำให้รู้สึกง่วงนอนได้มากกว่าธรรมดา หรือถ้ากินร่วมกับยานอนหลับหรือยาความไม่สบายใจลดลง เช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรจะหยุดกินใบบัวบกอย่างน้อย 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เพราะบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการผ่าตัดรวมทั้งอาจจะส่งผลให้รู้สึกอยากนอนได้มากขึ้น
ควรจะขอความเห็นหมอก่อนกินใบบัวบก หากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะอาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงปรารถนาแม้รับประทานใบบัวบกในระหว่างการดูแลและรักษาของผู้เจ็บป่วยโรคไม่สบายใจ คนเจ็บเบาหวาน คนที่หรูหราคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนเจ็บอัลไซเมอร์ รวมทั้งคนที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกลุ้มใจลดลง และก็คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้กดประสาทเยอะขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรบัวบก

4


ราชพฤกษ์

คูน ประโยชน์และสรรพคุณของคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์
ความเป็นมาดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน ฯลฯไม้ประจำถิ่นของเอเชียใต้ ตั้งแต่ปากีสถาน ประเทศอินเดีย ประเทศพม่า และศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากในเขตร้อน สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในที่โล่ง และมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 แต่ก็ยังมิได้ข้อสรุปกระจ่างแจ้ง จนตราบเท่ามีการลงชื่อให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย ตอนวันที่ 26 ตุลาคม พุทธศักราช 2544
ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องมาจาก ต้นราชพฤกษ์ มีดอกสีเหลืองชูช่อ มองสง่างาม ทั้งยังมีสีตรงกับ สีทุกวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระเจ้าแผ่นดิน" รวมทั้งมีการเซ็นชื่อให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งใน 3 สัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย และ 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เนื่องจากฯลฯไม้ประจำถิ่นที่รู้จักกันอย่างมากมาย และมีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย
  • มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับจารีตประเพณีสำคัญๆในไทยแล้วก็ฯลฯพืชที่มีความมงคลที่นิยมนำมาปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้นานาประการ ได้แก่ ใช้เป็นยารักษาโรค ทั้งยังคงใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ ฯลฯ
  • มีสีเหลืองงาม พุ่มไม้สวยเต็มต้น เปรียบเป็นเครื่องหมายที่ศาสนาพุทธ
  • มีอายุยืนนาน รวมทั้งแข็งแรง


คูน หรือ ราชพฤกษ์ (Golden Shower, Indian Laburnum) เป็นพืชสมุนไพรชนิดยืนต้นขนาดกึ่งกลางถึงขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆดังเช่นว่า ภาคเหนือเรียก ราชพฤกษ์, ราชพฤกษ์ หรือชัยพฤกษ์ ส่วนปัตตานีเรียก ลักเคย หรือลักเกลือ และก็กะเหรี่ยง-กาญจนบุรีเรียก กุเพยะ ฯลฯ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรประจำถิ่นของเอเชียใต้ไปจนถึงอินเดีย ศรีลังกา แล้วก็เมียนมาร์ แล้วก็คูนหรือราชพฤกษ์นี้ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติของไทยอีกด้วย
————– advertisements ————–
การรักษา
           แสงสว่าง : ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง รวมทั้งเติบโตเจริญในที่โล่งแจ้งเป็นพิเศษ
           น้ำ : ถูกใจน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับลักษณะอากาศร้อนเจริญ
           ดิน : สามารถเจริญวัยก้าวหน้าในดินซึ่งร่วนซุย ดินร่วนซุยปนทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยมูลสัตว์ ในอัตรา 2-3 กิโลต่อต้น แล้วก็ควรจะให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
การขยายพันธุ์
           แนวทางขยายพันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยม คือ การเพาะเมล็ด โดยใช้เม็ดสดๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่จำเป็นต้องเลือกขลิบบริเวณด้านป้าน เพราะเหตุว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ ต่อจากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งเอาไว้ผ่านวัน แล้วก็ค่อยเทน้ำออกให้เหลือปริมาณเพียงพอหล่อเลี้ยงเมล็ดได้ จากนั้นทิ้งไว้อีกคืนก็จะเจอรากงอก และสามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           เชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคล ที่ควรปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ รวมทั้งหากปลูกเอาไว้ภายในบ้านจะช่วยทำให้ทรงเกียรติขั้น เกียรติยศ และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยเวท โดยใช้ใบทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ เพราะเหตุว่าเป็นพืชที่มีความมงคลนาม
ลักษณะทั่วไปของคูน
สำหรับต้นคูนนั้นจัดว่าเป็นไม้ต้นขนาดกลาง โดยลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา มักขึ้นตามป่าผลัดใบ หรือในดินที่สามารถระบายน้ำเจริญ ส่วนใบจะมีสีเขียวเป็นมัน วัวนมน เนื้อใบเกลี้ยงรวมทั้งบาง ดอกจะออกเป็นช่อ มีกลีบรูปทรงไข่กลับอยู่ 5 กลีบ และก็เห็นเส้นกลีบชัดเจน ฝักอ่อนมีสีเขียวแล้วก็จะเป็นสีดำเมื่อแก่จัด รวมทั้งในฝักจะมีผนังเยื่อบางๆกันเป็นช่องๆอยู่ตามแนวขวางของฝัก และภายในช่องพวกนี้จะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์
ผลดีและสรรพคุณของคูน
ใบ – ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง ฆ่าเชื้อโรคต่างๆช่วยระบายท้อง สามารถใช้พอกแก้อาการปวดข้อ หรือแก้ลมตามข้อ รวมทั้งช่วยแก้โรคอัมพาตของกล้ามบนใบหน้า หรือนำไปต้มกินแก้เส้นพิการ และโรคเกี่ยวกับสมอง ให้รสเมา
ดอกราชพฤกษ์ – ช่วยระบายท้อง แก้ไข้ แก้พรรดึก (ท้องผูก) รวมทั้งโรคกระเพาะอาหาร และแผลเรื้อรัง ให้รสขมเปรี้ยว
ราก – ช่วยสำหรับในการทำลายเชื้อคุดทะราด ระบายพิษไข้ แก้กลากหรือโรคเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึมหนักบริเวณหัว รวมทั้งช่วยถ่ายสิ่งสกปรกสกปรกออกมาจากร่างกาย แก้อาการหายใจขัด ทำให้สดชื่นอก แก้อาการไข้ ไปจนกระทั่งรักษาโรคหัวใจ ถุงน้ำดี มีฤทธิ์ถ่ายแรงกว่าเนื้อในฝัก สามารถใช้ได้กับเด็กหรือสตรีท้อง ไม่เป็นผลข้างๆอะไรก็ตามให้รสเมา
แก่น – ช่วยในการขับพยาธิไส้เดือน ให้รสเมา
กระพี้ – ช่วยแก้โรครำมะนาด ให้รสเมา
เนื้อในฝัก – ใช้พอกเพื่อช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อ แก้ต้นตานขโมย ปรับปรุงแก้ไขไข้จับสั่น แก้บิด ถ่ายพยาธิ หรือคนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง แล้วก็ถ่ายเสมะและก็แก้พรรดึก (ท้องผูก) ไปจนถึงระบายพิษไข้ สามารถใช้ได้ในเด็กและสตรีมีท้อง ไปจนกระทั่งเป็นยาระบายที่ไม่ทำให้ปวดมวนหรือไข้ท้อง ให้รสหวานเบื่อ
เปลือกฝัก – ทำให้แท้งลูก ทำให้คลื่นไส้ และขับรกที่ค้างอยู่ออกมา ให้รสขื่นเมา
เม็ด – ทำให้อาเจียน ให้รสฝาดเมา
เปลือกต้น – ช่วยแก้อาการท้องเดิน ใช้ฝนผสมกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ รวมทั้งน้ำตาล รับประทานเพื่อกำเนิดลมเบ่ง ให้รสฝาดเมา
เปลือกราก – ช่วยแก้ไข้ไข้จับสั่น รวมทั้งระบายพิษไข้ ให้รสฝาด
ดอกคูน หรือ ดอกราชพฤกษ์
ต้นคูนมักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในพื้นที่เขตร้อนและก็ครึ่งเขตร้อน สามารถเจริญเติบโตก้าวหน้าในที่โล่งแจ้ง และปลูกได้ง่ายทั้งในดินซึ่งร่วนซุย ดินร่วนซุยปนทราย หรือดินร่วนซุยเหนียว และก็ยังทนต่อสภาพภูมิอากาศแห้งและดินเค็มก้าวหน้า แม้กระนั้นแม้อากาศหนาวจัดอาจก่อให้ติดโรคราหรือโรคใบจุดได้http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรราชพฤษ์

5

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือมีผลยังไงต่อเซลล์ต่อมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคความดันสูง และก็โรคอื่นๆอันแสนเหนื่อยที่จะรักษา ติดตามผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยยืนยันสรรพคุณได้ในบทความนี้จ้ะ
บทความกลุ่มนี้อ้างอิงคุณประโยชน์ของเห็ดหลินจือจากผลการศึกษาวิจัยรับรองจากที่ต่างๆเพื่อเพื่อนพ้องได้ใคร่ครวญด้วยตัวเองว่ารักษาโรคก้าวหน้าแค่ไหนและน่าไว้ใจเท่าใด หากเพื่อนพ้องๆเคยอ่านบทความเกี่ยวกับสรรรพคุณหรือการวิจัยเกี่ยวกับเห็ดหลินจือจากที่อื่นมาก่อน แล้วรู้สึกอ่านไม่ง่ายเท่าใดหรือเปล่ารู้เรื่อง บทความในเว็บนี้คนเขียนได้คัดเลือกแล้วก็เก็บจากหลายที่และก็เขียนในภาษาที่อ่านง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพื่อนพ้องๆถูกใจเนื้อหานี้ก็จะเป็นอย่างยิ่งจิตใจให้คนเขียนได้บทความดีๆให้เพื่อนอ่านกันอีกต่อไปบทความเห็ดหลินจือรักษาโรคเด็ดๆที่เพื่อนๆจะต้องชอบ
ระบบภูมิคุ้มกันเป็นกลไกการกำจัดเชื้อโรค สารเคมีปะปน เซลล์ของมะเร็ง แล้วก็สิ่งแปลกปลอมอื่ๆที่จะเข้ามาทำอัตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายพวกเรานั้นเอง ฉะนั้นถ้าเกิดเพื่อนฝูงๆมีระบบระเบียบภูมิต้านทานดีก็จะไม่เจ็บไข้ง่าย หรือถ้าหากเจ็บป่วยก็จะฟื้นเร็ว แต่ว่าถ้าระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีก็จะเจ็บไข้บ่อยครั้งรวมทั้งเป็นหนักกว่ามีระบบูมิคุ้มกันแข็งแรง มาถึวนี้แล้วเพื่อนๆอาจจะมองเห็นจุดสำคัญของการมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกันแล้ว
คนจีนโบราณใช้เห็ดหลินจือมาเป็นเวลายาวนานกว่า 2000 ปีแล้ว แม้กระนั้นในยุคนั้นยังไม่มีผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าเพราะเหตุใดคนที่ทานเห็ดหลินจือถึงมีอายุยืนและแข็งแรงไม่ค่อยเป็นโรค ในขณะนี้เราสมารถพิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าสารกลุ่ม Polysacchayide ในเห็ดหลินจือนั้นสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพวกเราได้จริง สารกรุ๊ปดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถกระตุ้นการผลิต Interleukin และ Immuoglodulin ซึ่งส่งผลให้ระบบภูเขามปกป้องดีแล้วก็แข็งแรงขึ้น
ระบบภูมิต้านทานที่ถูกเสริมด้วยสาร Polysaccharide ในเห็ดหลินจือจะสามารถต้านทานวรัส เซลล์ของโรคมะเร็ง แล้วก็จำกัดสารอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น นอกนั้นยังช่วยให้คนที่ถูกผลกระทบที่โดนยาต้านมะเร็งบางตัวรวมทั้งการทำคีโมกดภูมิคุ้มกันให้มีระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นอีก รวมทั้งเห็ดหลินจือยังมีสารออกฤทธิ์ต้านการแบ่งตัวของเชื้อ HIV อีกด้วย ซึ่ง กรุ๊ปดังกล่าวคือกลุ่ม Bitter Triterpenoids
A
นักค้นคว้าได้ค้นพบสารหลายอย่างในเหล็ดหลินจือที่ช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือดเป็นGanoderic Acid รวมทั้ง Lucidenic Acid ซึ่งสาร 2 จำพวกที่กล่าวมาข้างต้น นอกเหนือจากช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้แล้ว ยังคุ้มครองป้องกันไม่ให้ไขมันตันเส้นเลือดได้โดยตรงอีกด้วย ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสารกลุ่ม Nucleotide ที่สามารถช่วยลดการอุดตันของลิ่มเลือดในเส้นโลหิต รวมทั้งช่วยลดอัตราเสี่ยงที่จะเป็นอัมพาตได้อีกด้วย
ได้มีนักวิทยาศาสตร์ที่ญี่ปุ่นทดลองให้สารสกัดเห็ดหลินจือกับคนที่เป็นโรคไขมันเส้นเลือดสูง 70 ราย รวมทั้งกระทำการเก็บผลของการทดลองภายหลังจากผ่านไป 3 เดือน พบว่าโคเรสเตอรอคอยลของผู้รับการทดลองลดน้อยลงไปถึง 74% ซึ่งก็สอดคล้องกับผลการวิเคาะห์จากทั้งโลก และก็ยังพบว่าเห็ดหลินจือ เว้นเสียแต่ช่วยลดการอุดตันของไขมันในเส้นโลหิตแล้ว ยังเป็นเหตุให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ก็เลยอาจจะบอกได้ว่า ข้อพิสูจน์ทางคุณลักษณะแล้วก็คุณประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานค้นคว้าวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดลองในคนเจ็บบางกลุ่มเพียงแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรปฏิบัติการทดสอบถัดไป เพื่อได้เห็นผลลัพ์ที่ชัดแจ้ง แล้วก็มีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาคนเจ็บโรคมะเร็งได้ในอนาคต

ภาวะต่อมลูกหมากโต แล้วก็การเจ็บป่วยในระบบทางเดินฉี่
มีกรรมวิธีการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดลองในคนป่วยเพศ 88 รายซึ่งแก่เกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะฉี่ขัดข้อง ข้างหลังการทดสอบกว่า 12 อาทิตย์ ผลสรุปที่ได้คือ ผู้ป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลในการวัดปัญหาในระบบฟุตบาทปัสวะของคนไข้จากการตอบคำถาม แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
ด้วยเหตุดังกล่าว การทดสอบดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่เด่นชัดเพียงพอ จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่แจ่มชัดสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลและรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพใดๆที่เกี่ยวข้อง
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดสอบทางด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาพวกนั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในงานค้นคว้าวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้เจ็บป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเสีย หรือท้องผูก
ดังนั้นจำเป็นจะต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงสมรรถนะของเห็ดหลินจือสำหรับการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองและก็การดูแลและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจต่อไป และให้ได้ความแน่ชัดชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมากเพิ่มขึ้น อันเป็นผลดีต่อแนวทางการรักษาปกป้องโรคเส้นโลหิตหัวใจแล้วก็อาการต่างๆที่เกี่ยวข้องถัดไปในอนาคต

6

ขิง
ขิง ชื่อสามัญ Ginger (จิน’พบ)
ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จัดอยู่ในสกุลขิง (ZINGIBERACEAE)
ขิง จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆด้าน เพราะว่าอุดมไปด้วยวิตามินและก็แร่ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อสภาพร่างกายของพวกเรา ดังเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต รวมทั้งเส้นใยหลายชิ้นอีกด้วย ซึ่งคุณประโยชน์ซึ่งมาจากขิงนั้น เราสามารถนำมาใช้ได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น แล้วก็ผลก็ได้ทั้งนั้น
ประโยชน์ของขิง
-ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอดเยี่ยม
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดริ้วรอย
มีส่วนช่วยสำหรับการปกป้อง ต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ต้านทานการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ช่วยลดผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้เพื่อการรักษามะเร็ง เพราะฉะนั้นควรรับประทานขิงควบคู่ไปกับการรักษามะเร็งจะมีผลดี
ขิง มีฤทธิ์อุ่น ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น แล้วก็ช่วยสำหรับการขับเหงื่อ
ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ลำต้นสดๆเอามาตีให้แหลกโดยประมาณ 1 กำมือ แล้วต้มกับน้ำ
ช่วยลดความอ้วน ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากไส้ แล้วปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดหัวและไมเกรน ด้วยการกินน้ำขิงเป็นประจำ
ช่วยลดความต้องการของผู้ติดสิ่งเสพติดลงได้
แก้ต้นตานขโมย ด้วยการใช้ขิง ใบกะเพรา พริกไทย ไพล มาบดผสมกันแล้วเอามากิน
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต ด้วยการนำขิงสดมาฝานต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยบำรุงหัวใจของคุณให้แข็งแรง
ช่วยบรรเทาลักษณะโรคประสาท ซึ่งทำให้จิตใจหม่นหมอง (ดอก)
ช่วยฟื้นฟูร่างการสำหรับคุณแม่ข้างหลังคลอดลูก ด้วยการกินไก่ผัดขิง
มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร (ราก, เหง้า) ด้วยการใช้เหง้าสดราวๆ 1 องคุลีนำมาต้มกับน้ำ ก็จะได้เป็นยาขมเจริญอาหาร
ใช้รับประทานเพื่อบำรุงเป็นยาธาตุ บำรุงธาตุไฟ (เหง้า, ดอก)
ใช้บำรุงน้ำนมของมารดา (ผล)
ช่วยให้นอนได้อย่างสบาย
การกินขิงจะช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มเลือดได้ช้าลง
ใช้แก้ไข้ (ผล) ด้วยการนำขิงสดมาคั้นเป็นน้ำให้ได้โดยประมาณครึ่งถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา นำมาต้มกับน้ำ 2 ถ้วย แล้วนำมาดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการได้
ช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการไอ บรรเทาหวัดจับเสลด ด้วยการใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาวใส่เกลือเล็กน้อย
ไอน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยทำลายเชื้อไวรัสหวัดในทางเดินหายใจได้
แก้ลม (ราก)
ในคนป่วยที่มีอาการติดยาสลบข้างหลังผ่าตัด น้ำขิงช่วยแก้เมาได้
ช่วยแก้อาการเมารถ เมาเรือได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้ขิงสดนำมาตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำ (ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)
ช่วยไขปัญหาผมหล่น หัวล้าน ด้วยการนำเหง้าสดไปผิงไฟจนอุ่น แล้วนำมาตำให้แหลก เอามาพอกรอบๆที่มีผมตก วันละ 2 ครั้งจนอาการดีขึ้น หรืออีกวิธีก็คือคั้นเอาเฉพาะน้ำขิงมาผสมกับน้ำมันมะกอกแล้วเอามาหมักผม นวดให้ทั่วหัวประมาณ 30 นาทีก็ช่วยลดปัญหาผมหล่นได้เหมือนกัน แถมยังช่วยให้ผมงาม แข็งแรง มีความนุ่มลื่น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
-ช่วยบำรุงสายตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา แล้วก็ใช้แก้อาการตาพร่า (ผล, ใบ)
ช่วยรักษาอาการตาแฉะ (ดอก)
ช่วยแก้โรคกำเดา (ใบ)
ใช้แก้อาการคอแห้งผาก เจ็บคอ (ผล)
ใช้รักษาอาการปากคอเปื่อย ท้องผูก (เหง้า,ดอก)
ช่วยรักษาอาการปวดฟัน ด้วยการนำขิงแก่มาตีให้ละเอียดคั่วกับน้ำสารส้มจนกระทั่งเกรียม แล้วบดจนเป็นผง จากนั้นเอามาพอกรอบๆฟันที่ปวดแก้เสมหะ เสลดขาวเหลวจำนวนมากมีฟอง (ผล, ราก)ช่วยรักษาภาวะน้ำลายมาก อ้วกเป็นน้ำใสช่วยลดกลิ่นปาก แก้อาการปากเหม็น ด้วยการนำขิงมาคั้นผสมน้ำอุ่นรวมทั้งเกลือบางส่วน เอามาอมบ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วยช่วยบำรุงรักษาฟันและก็คุ้มครองการเกิดฟันผุ
ช่วยขจัดกลิ่นรักแร้ ด้วยการใช้เหง้าขิงแก่นำมาตีให้แหลก แล้วนำมาคั้นเอาน้ำมาทารักแร้เสมอๆ จะสามารถช่วยในการขจัดคราบกลิ่นได้
ช่วยแก้อาการสะอึก ด้วยการใช้ขิงสดตำจนกระทั่งแหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาโรคบิด (ผล, ราก, ดอก) ด้วยการใช้ขิงสดราวๆ 75 กรัม ผสมกับน้ำตาลทรายแดง เอามาตำจนกระทั่งถูกกัน แล้วกิน 3 มื้อต่อวัน
ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ (เหง้า, ผล) ด้วยการนำขิงสดโดยประมาณ 5 กรัมหรือขนาดเท่านิ้วโป้งมือ เอามาทุบให้แตกแล้วต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยลดการอ้วกอาเจียนจากการแพ้ท้อง (สำหรับหญิงมีท้องไม่ควรรับประทานบ่อยครั้งจนถึงเหลือเกิน)
แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในไส้ (ผล, ราก, ใบ) ด้วยการนำขิงแก่มาทุบพอแหลก เทน้ำเดือดลงไปครึ่งแก้ว แล้วปิดฝาตั้งทิ้งไว้โดยประมาณ 5 นาทีแล้วนำน้ำมาดื่มระหว่างมื้อของกิน
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดในช่วงก่อนหรือหลังระดู ด้วยการนำขิงแก่ที่แห้งแล้วประมาณ 30 กรัมมาต้มกับน้ำดื่มเป็นประจำ
ช่วยสำหรับในการย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ดอก)
ช่วยปกป้องการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด (เหง้า)
ช่วยสำหรับการถ่าย รวมทั้งช่วยในเรื่องของระบบไส้ให้ดำเนินการได้อย่างปกติ
ช่วยฆ่าพยาธิ พยาธิกลมจุกลำไส้ (ใบ) ใช้น้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งแล้วนำมาดื่ม
ช่วยแก้อาการขัดเยี่ยว (ดอก, ใบ)
ช่วยรักษาปัสสาวะรดที่พักผ่อนในคนไข้ที่มีภาวะหยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ช่วยรักษาโรคนิ่ว (ใบ, ดอก)
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ (ใบ)
ขิง ช่วยรักษาอาการปวดข้อตามร่างกายด้วยการกินขิงสดเสมอๆ
มีฤทธิ์ช่วยต้านทานเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เป็นยาแก้คัน ด้วยการนำแก่นของขิงฝนทำเป็นยา (แก่น)
จัดการกับปัญหาหนังที่มือลอกเป็นสะเก็ด ด้วยการใช้เหง้าสดมาหั่นเป็นแผ่น แล้วนำมาแช่เหล้า 1 ถ้วยชา ทิ้งเอาไว้ 1 วัน แล้วนำแผ่นขิงมาเช็ดรอบๆดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ววันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลเริมบริเวณข้างหลัง ด้วยการใช้เหง้า 1 หัว นำมาเผาเปลือกนอกจนกระทั่งเป็นถ่าน คอยปาดถ่านที่ผิวนอกออกไปเรื่อยแล้วนำผงที่ได้มาผสมกับน้ำดีหมูเอามาทาบริเวณที่เป็นแผลถ้าหากว่าถูกแมงมุมกัด ใช้ขิงสดฝานบางๆนำมาวางทับรอบๆที่ถูกกัดจะช่วยทุเลาอาการได้ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น กลัวหนาว เย็นท้อง ฯลฯ ช่วยคุ้มครองการแพ้อาหารทะเลจนเกิดผื่นคัน ลมพิษ หรืออาหารช็อกคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง
ช่วยรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการนำขิงสดมาตำให้แหลก แล้วนำกากมาพอกบริเวณแผล เพื่อคุ้มครองป้องกันการอักเสบและการเกิดหนองในขิงมีสารที่สามารถใช้กันบูดกันเหม็นหืนในน้ำมันได้
ในด้านการทำอาหารนั้น ขิงสามารถช่วยเพิ่มรสชาติอาหารได้เป็นอย่างดี แล้วก็สามารถช่วยกำจัดกลิ่นคาวของของกินก้าวหน้าอีกด้วย
ในด้านความสวยนั้นมีผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งหน้าที่ใช้บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของขิงอีกด้วย
ช่วยให้ผิวพรรณเรียบเนียนยิ่งขึ้น ด้วยการนำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วนำมานวดรอบๆต้นขา ตูด หรือรอบๆที่มีเซลลูไลต์จะช่วยลดความตะปุ่มตะป่ำของผิวได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์จากขิงนั้นนำมาดัดแปลงได้หลายชนิด เช่น บัวลอยน้ำขิง ขิงแช่อิ่ม ขิงเชื่อม ขิงกระป๋อง ขิงแคปซูล น้ำขิงมะนาว เป็นต้น

ขั้นตอนการทำน้ำขิง
กระบวนการทำน้ำขิงวิธีทำน้ำขิงลำดับแรกให้จัดแจงส่วนประกอบดังต่อไปนี้ ขิงแก่ 1 กก. / น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วยตวง / น้ำสะอาด 3 ลิตร
นำขิงที่ได้ไปล้างให้สะอาด เอามาทุบให้แตก แล้วนำมาใส่ไว้ภายในหม้อต้ม เพิ่มเติมน้ำสะอาดลงไป เอาขึ้นตั้งไฟ
เมื่อต้มจนน้ำเดือดและก็หลังจากนั้นจึงค่อยค่อยไฟลง ต้มประมาณ 20 นาทีจนถึงน้ำขิงละลายออกมาจนถึงหมด (น้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) แล้วยกลงจากเตา
เสร็จแล้วให้ตักน้ำขิงใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป 1-2 ช้อนชา (ตามความอยาก) แล้วคนจะกว่าจะเข้ากัน
เป็นระเบียบและก็สามารถนำมากินได้ โดยเอามาดื่มแบบร้อนๆได้เลย
หรือจะดื่มแบบเย็นๆด้วยการใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้เหมือนกัน แม้กระนั้นควรจะเพิ่มเติมน้ำตาลมากยิ่งกว่า 2-3 เท่า (จะช่วยไม่ให้รสจืดมากเกินไป เพราะเหตุว่ามีน้ำแข็งผสมอยู่นั่นเอง)
น้ำขิงที่คั้นมานั้นไม่ควรใช้จำนวนที่เข้มข้นจนเหลือเกิน ด้วยเหตุว่าจะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ เนื่องจากจะไประงับการบีบตัวของลำไส้ จนถึงทำให้ไส้หยุดการบีบตัว ด้วยเหตุนั้นควรจะคั้นในจำนวนน้อยๆหรือดื่มจนเคยชินก่อน
พวกเราชอบรู้จักคุ้นเคยกับขิงว่าเป็นอาหารที่นิยมนำมาใช้สำหรับการประกอบอาหารและทำเครื่องดื่ม ซึ่งอันที่จริงแล้วขิงจัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการเยียวยารักษาโรคต่างๆได้สารพัดสารพัน นับว่าเป็นตัวช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคได้เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้พวกเราก็ไม่ควรจะหวังพึ่งคุณประโยชน์ของขิงเพียงอย่างเดียวสำหรับการเยียวยาโรค ควรทำอันอื่นหรือดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของพวกเราร่วมด้วยจะได้ผลดีนักแล
พวกเรามักนิยมใช้ขิงแก่ ด้วยเหตุว่ายิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน ก็เลยมีคุณประโยชน์ทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน แล้วก็ยังมีใยอาหารมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าขิงมีรสเผ็ด มีคุณลักษณะอุ่น จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่นคนที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกเวลากลางคืน ตาแดง หรือมีไฟในตัวมากยิ่งกว่าธรรมดา แต่ว่าถ้าหากจะรับประทานควรระมัดระวังเป็นพิเศษ http://www.disthai.com/

หน้า: [1]