รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - onee021s149aa

หน้า: [1]
1

เหงือกปลาหมอ
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำรายาไทยบอกว่า เหงือกปลาแพทย์สามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้กระทั้ง โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะลดลงลง
สมุนไพร เหงือกปลาแพทย์เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางๆสูงประมาณ 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นและใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งและก็มีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงกันข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบจะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เมล็ด จะสามารถมักพบตามชายน้ำ ริมฝั่งคลองรอบๆปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้จะร้ายแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แต่เมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยังยากินและต้มน้ำอาบต่อเนื่องกันเป็นเวลานานกว่า 3 ข้างขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดลงลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังด้วย
แนวทางปรุงยารวมทั้งวิธีการใช้ยาก็มีหลายวิธีหมายถึง
แนวทางต้มยารับประทานและอาบ
เอาเหงือกปลาแพทย์สดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้า-เย็น ก่อนรับประทานอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง รุ่งเช้า-เย็นครั้งละ 3-4 ขัน แม้กระนั้นถ้ามีเหงือกปลาหมอจำนวนมาก อาจจะต้มยาเพื่อเป็นการแช่ตลอดตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาแพทย์ทั้ง 5 คราวตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งอาจจะรับประทานครั้งละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุแล้วก็น้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร รุ่งเช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยๆจวบจนกระทั่งจะหาย แต่ถ้าเกิดเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องก็จำเป็นต้องรับประทานตลอดกาล

วิธีทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาแพทย์ที่ผ่านการบินร่อนเป็นผงละเอียดเสมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มก. ผู้ใหญ่รับประทานทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนที่จะกินอาหาร เด็กลดน้อยลงตามส่วน
เหงือกปลาแพทย์มีสรรพคุณมากมายก่ายกอง ยกตัวอย่างเช่น
-ราก มีสรรพคุณสำหรับการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ แล้วก็ใช้ขับเสมหะ
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลากหลายประเภท โดยใช้ต้นตำผสมน้ำดื่มรักษาวัณโรค อาการผอมแห้งแรงน้อย ถ้าใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้สรรพคุณทางยาไม่เหมือนกันออกไปอีก
-ทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกประเภท
-ทั้งต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มรับประทานแก้พิษไข้ทรพิษ ฝีทั้งหมด ผลรับประทานเป็นยาขับโลหิตระดู ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาตลอดตัว
- ทั้งต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดีขึ้น
- ตำเอาน้ำกินกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน คุดทะราด ป่วยจับสั่น
- ทั้งต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนรับประทาน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ซูบซีดเหลืองทั้งตัว กินทุกวี่วัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเสมอกันใส่หม้อ เกลือนิดเดียว หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ดุ้น ต้มกับน้ำจนถึงเดือดให้งวดก็เลยชูลง กลั้นหายใจรับประทานขณะอุ่นจนถึงหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนหมดทั้งตัว วิงเวียน ตามัว เจ็บระบมตลอดตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาหมอ" ทั้งยัง 5 รวมราก กับ ข้าวเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ จำนวนเท่ากัน กะตามอยาก ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มขณะอุ่นทีละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้าตรู่ ช่วงเวลากลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดีขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาแพทย์" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นรับประทานวันแล้ววันเล่า
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค สติปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกหมวดหมู่หาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 ชนิด หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่ทราบอ่อนแรง
กินได้ 7 เดือน ผิวสวย
กินได้ 8 เดือน เสียงน่าฟัง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนหากผิวแตกหมดทั้งตัวหายได้ ทั้งหมดที่บอกเป็นหนังสือเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่น รู้ไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/

2

ทับทิม
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม ยอดเยี่ยมราชินีที่ผลไม้ มีคุณประโยชน์อีกทั้งต้น
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม สุดยอดราชินีแห่งผลไม้ เป็นประโยชน์อีกทั้งต้น
อัปเดตล่าสุดช่วงวันที่ พฤษภาคม 3, 2018 ราวเวลาการอ่าน: 2 นาที
แชร์บทความนี้
ทับทิมเป็นผลไม่ที่นิยมกินกันมาก รวมทั้งขึ้นชื่อในเรื่องของคุณค่าที่มากมาย จนได้รับสมญาว่า ราชินีที่ผลไม้ พูดกันว่าทับทิมนั้นคือผลไม้ที่ถูกประยุกต์ใช้ในแวดวงแพทย์มาแล้วนับพันปี ในปัจจุบันทับทิมถือเป็นผลไม้ที่นิยมปลูก และก็กินกันทั้งโลก สามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย พินิจได้จากร้านค้าขายน้ำทับทิม หรือผลทับทิมสด ที่แทบมีอยู่ตามถนนหรือทุกตลาดในประเทศไทย
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากทับทิมมีมากมาย ทั้งยังในเรื่องของสารอาหาร แล้วก็การป้องกันโรค
วิตามินซีสูงมาก
ทับทิมนับว่าเป็นผลไม่ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียง 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงจำนวนร้อยละ 40 ของจำนวนที่เราอยากในหนึ่งวัน (สำหรับคนแก่) ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงในระดับนี้จึงมีสรรพคุณสำหรับในการลดการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคหวัด หรือแพ้อากาศได้อย่างดี
ช่วยบำรุงผิวพรรณ
การกินทับทิมสด หรือน้ำทับทิมนั้น จะช่วยทำให้ผิวพรรณของเรามองสดใส เนื่องจากว่าทับทิมสำเร็จถึงที่เหมาะมีคุณประโยชน์สำหรับการต้านทานอนุมูลอิสระ ช่วยสำหรับเพื่อการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของพวกเรา แล้วก็ด้วยจำนวนวิตามินซีที่สูงก็เลยช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างขาวสวยใส นอกจากนี้เรายังสามารถใช้น้ำทับทิมราวๆ 1 ช้อนชา ทาบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยในการบำรุงผิวหน้าให้มองเต่งตึงมากเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย คุณประโยชน์ในข้อนี้ของทับทิมสามารถยืนยันได้จากการที่ในขณะนี้ มีเครื่องสำอางหรือครีมหลายประเภทได้นำทับทิมไปเป็นองค์ประกอบ
หลอดเลือดแล้วก็หัวใจดียิ่งขึ้น
ในทางการแพทย์มีการวิจัยแล้วพบว่าทับทิม มีสรรพคุณช่วยสำหรับในการทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดภาวการณ์ขาดเลือดในคนไข้โรคหัวใจ ยิ่งกว่านั้นยังพบว่าคนที่มีความดันโลหิตสูง เมื่อรับประทานน้ำทับทิมวันละ 50cc จะช่วยลดความดันเลือดได้ปริมาณร้อยละ 5 ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของไขมันในหลอดเลือดได้อีกด้วย
ลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดมะเร็ง
เพราะคือผลไม้ที่มีค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูง จึงช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม มีการวิจัยพบว่า การกินทับทิมช่วยลดช่องทางการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์ของโรคมะเร็งถึง 13ช นิด และยังสามารถช่วยทำลายเซลล์ของโรคมะเร็งในหลอดอาหาร แล้วก็ไส้ได้อีกด้วย
ประโยชน์อื่นๆของทับทิม
เว้นแต่สรรพคุณหลักที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ทับทิมยังมีคุณประโยชน์อื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งท้อง ช่วยปรับให้สมดุลในวัยหมดระดู ลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคความจำไม่ดีในผู้สูงอายุ คุ้มครองป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสุขภาพกระดูกลดการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคกระดูกพรุน ปกป้องการเสื่อมสรรถยนต์ภาพทางเพศ ลดการตกขาว เรียกได้ว่ามีสรรพคุณล้นหลามจริง
 นอกเหนือจากส่วนที่เรานิยมกินกันอย่างเมล็ดแล้ว ส่วนประกอบอื่นของทับทิมก็มีคุณประโยชน์ไม่แพ้กัน ทั้งเป็นยาและสมุนไพร
ใบ: สามารถทำน้ำยาบ้วนปากหรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำจากใบสามารถช่วยทุเลาอาการผมร่วงได้อย่างดี
เปลือก: ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของพวกเราใช้รักษา แผลหิด กากโรคเกลื้อน มีคุณประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลและรักษาโรคในทางเดินอาหาร ตัวอย่างเช่นรักษาอาการท้องเดินได้
เปลือกของลำต้น และราก: สามารถเอามาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยเอามาผสมกับกานพลู และก็บางทีอาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำโดยประมาณสามถ้วย มีสรรพคุณสำหรับในการถ่ายพยาธิ
ดอก: มีคุณประโยชน์สำหรับการรักษาแผล แล้วก็ทุเลาอาการอักเสบของหูชั้นใน
ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่เป็นประโยชน์ในทุกส่วนของต้น ไม่ใช่ก็แค่เมล็ด หรือน้ำทับทิม จึงไม่ประหลาดใจเลยที่ทับทิมจะได้รับสมญานามว่า "ราชชินีที่ผลไม้"
โรคแล้วก็อาการอื่นๆเป็นต้นว่า โรคเส้นโลหิตหัวใจ การหย่อนยานสมรรถนะทางเพศ เจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังการบริหารร่างกาย กลุ่มอาการอ้วนอ้วน โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแดด การตำหนิดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ท้องร่วง โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง รวมทั้งอื่นๆยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาวิจัยวิจัยเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับความสามารถแล้วก็ความปลอดภัยของทับทิมสำหรับเพื่อการรักษาโรค
ความปลอดภัยในการกินทับทิมหรือผลิตภัณฑ์จากทับทิม
โดยปกติการกินน้ำทับทิมค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่ว่าในบางรายที่มีลักษณะอาการแพ้ผลสดของทับทิมอาจเป็นผลใกล้กันจากการกินน้ำทับทิมได้
รากทับทิมมีสารที่เป็นพิษต่อสภาพร่างกาย การกินรากและก็ลำต้นของทับทิมในจำนวนมากบางทีอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมค่อนข้างจะไม่มีอันตรายในการกินหรือประยุกต์ใช้กับผิวหนัง แม้กระนั้นอาจจะเป็นผลให้เกิดอาการแพ้บางส่วนในบางราย อาทิเช่น อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจลำบาก
การรับประทานน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงท้องหรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร แม้กระนั้นยังไม่มีรายงานรับรองความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานหรือใช้ทับทิมในแบบอย่างอื่น ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากทับทิม จำเป็นต้องขอคำแนะนำหมอก่อนที่จะมีการกินทุกครั้ง
น้ำทับทิมอาจจะทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงน้อย ซึ่งอาจก่อให้ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวการณ์ความดันต่ำอาการแย่ลง

คนที่มีอาการแพ้จากพิษพืชอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้จากการกินทับทิม
คนป่วยที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดกินทับทิมขั้นต่ำ 2 สัปดาห์ เนื่องจากทับทิมนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง จึงอาจกระทบต่อความดันเลือดในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังข้างหลังการผ่าตัด
การรับประทานทับทิมพร้อมกันกับยาบางชนิดอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา อย่างเช่น ยาที่เกี่ยวโยงกับลักษณะการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome ประเภท P450 2D6 หรือชนิด P450 3A4 ยาลดความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยาโรสุวาสแตติน คนที่กินยาบ่อยๆหรือมีโรคประจำตัวควรจะขอคำแนะนำหมอก่อนการรับประทานเพื่อให้มีความปลอดภัย http://www.disthai.com/

หน้า: [1]