รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - iottt20t5zxv4

หน้า: [1]
1
ไขมันส่วนเกิน ต้นเหตุของท้องแล้วก็ความอ้วน
พ.ค. 19, 2018  kungtep
ไขมันส่วนเกิน เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายหลากหลายประเภท จะต้องรีบสลายไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินออกไป มิฉะนั้นจะพบกับความอ้วน น้ำหนักตัวสูง รูปร่างอ้วนกลมบ๊อก เซลลูไลน์(cellulite)หนักอึ๊ง
ไขมันส่วนเกิน ที่มาของความอ้วน จำเป็นต้องสลายไขมันออกไป
พุงที่เด่นกว่าใบหน้า ความอ้วนที่แบกรับมานานจากปัญหาของไขมันสะสม เรื่องใหญ่ของลักษณะท่าทางภายนอก กำจัดให้ออกไปได้ เพียงแต่ใช้สมุนไพรส้มแขก เรียกหุ่นที่ดูดีน่ามองกลับมาอีกครั้ง
ความอ้วน ทำให้ลักษณะท่าทางเสีย ขาดความเชื่อมั่น
ปัญหาด้านสุขภาพนับสิบนับร้อย ถือเป็นความกังวลใจอย่างหนึ่งในชีวิต เพราะเมื่อได้เกิดการป่วยขึ้นมาแล้ว มันก็ย่อมส่งผลกระทบตามมาต่อการดำรงชีวิตหลายอย่าง ไม่ว่าจะการทำงาน การพบปะผู้คน การประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆซึ่งเรื่องของปัญหาสุขภาพในปัจจุบันนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องโรคร้ายแรงหรือเรื้อรังอย่างเดียว แต่ยังมีปัญหาสุขภาพในด้านของบุคลิกลักษณ์ที่มีผลต่อความไม่มั่นใจในตนเอง
 
ไขมันส่วนเกิน
ไขมันส่วนเกินสูง cr.adrianjamesnutrition.com
ทางแก้ไขมันส่วนเกินสูง อยากลดหุ่น คุณทำเองได้
ปัญหาความอ้วน เซลลูไลท์มากมาย ไขมันในร่างกายสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทยเราทุกๆวันนี้ รวมทั้งในอีกหลายประเทศทั้งโลกเลยก็ว่าได้ และนับว่าเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากในระดับหนึ่งเลย แม้กระนั้นก็เพียงพอมีแนวทางที่จะช่วยจัดการปัญหานี้ได้ ได้แก่
ลดของกินชนิดแป้งแล้วก็น้ำตาล
ลดอาหารพวกที่ทำมาจากการทอด
ลดของกินที่มีไขมันสูง เช่น กลุ่ม เนื้อ ไก่
ออกกำลังกาย เพื่อ{เผาผลาญไขมัน|สลายไขมันส่วนเกิน
รับประทานน้ำให้มากมาย อย่างต่ำวันละ 2 ลิตร
รับประทานผัก ผลไม้ เป็นของกินหลัก อย่างเช่น สลัด
ลดอาหารเย็น กินให้ลดน้อยลง
อย่าให้ความอ้วน ไขมันส่วนเกิน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
ด้วยเหตุว่าเรื่องของความอ้วนไม่ใช่เรื่องที่จะหยิบมาล้อเลียนกันได้ง่ายๆราวกับอย่างที่หลายๆคนเคยทำกันมา ผู้ที่ล้ออาจรู้สึกสนุก และไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการหัวเราะชอบใจ คิดแค่ขำๆหน่า แต่ผู้ที่ถูกล้อนี่สิ คงจะไม่ขำด้วย เพราะเหตุว่าสำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องขบขันเอาเสียเลย แถมยังเป็นเรื่องที่รู้สึกขายขี้หน้าในรูปภาพลักษณ์ที่ดูไม่ดี แปลกกว่าปกติทั่วไปด้วย บางคนที่ถูกล้อหนักๆเสมอๆก็เก็บไปคิดมากจนกระทั่งเป็นความทุกข์ แล้วก็สูญเสียความแน่ใจไปหมดทุกเรื่องในชีวิตเลยก็มี ไม่ใช่ว่าเขาเล่านั้นต้องการอ้วนจนกระทั่งถูกล้อเลียนอย่างงี้หรอก แต่ว่าแบบอย่างการใช้ชีวิตแต่ละคนมันหลีกเลี่ยงความอ้วนได้ยาก แล้วก็คนไม่ใช่น้อยก็อ้วนง่ายแต่ลดยากจำนวนมากไป จริงไหม ?

ทางลัด ลดหุ่น ลดความอ้วน ลดไขมันส่วนเกิน
“ส้มแขก” สมุนไพรช่วยระบายไขมัน ขับความอ้วนออกไป ทุเลาท้องผูก สลายเซลลูไลน์(Cellulite) เมื่อมีปัญหาเรื่องความอ้วน ไขมันส่วนเกินสูง ทดสอบการใช้

2

รากสามสิบ
รากสามสิบ ชื่อสามัญ Shatavari8
รากสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm.) จัดอยู่ในตระกูลหน่อไม้ฝรั่ง (ASPARAGACEAE) แล้วก็อยู่ในสกุลย่อย ASPARAGOIDEAE4
สมุนไพรรากสามสิบ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า สามร้อยราก (กาญจนบุรี), ผักหนาม (นครราชสีมา), ผักชีช้าง (จังหวัดหนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), พอควายเมะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดเชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยสามี, สาวร้อยผัว, ศตาวรี ฯลฯ
ลักษณะของรากสามสิบ
ต้นรากสามสิบ จัดเป็นไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามเปลี่ยนแปลงมาจากใบเกล็ดบริเวณข้อ) สามารถเลื้อยปีนต้นไม้อื่นขึ้นไปได้สูงประมาณ 1.5-4 เมตร แตกแขนงเป็นเถาห่างๆลำต้นเป็นสีเขียวหรือสีขาวแกมเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เรียบ ลื่น รวมทั้งวาว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 2-5 มม. เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ยาวราว 1-4 มม. บริเวณข้อมีกิ่งแตกแขนงแบบรอบข้อ และกิ่งนี้จะกลายเป็นสีเขียวลักษณะแบนเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม กว้างโดยประมาณ 0.5-1 มม. แล้วก็ยาวประมาณ 0.5-2.5 มิลลิเมตร ทำหน้าที่แทนใบ มีเหง้าแล้วก็รากอยู่ใต้ดิน ออกเป็นกลุ่มเหมือนกระสวย ลักษณะของรากออกเป็นพวงเหมือนรากกระชาย ลักษณะอวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว มีขนาดโตกว่าเถามากมาย มีเขตผู้กระทำระจายชนิดในประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา ชวา จีน มาเลเซีย รวมทั้งออสเตรเลีย เจอขึ้นตามป่าในเขตร้อนชื้น ป่าเขตร้อนแห้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรือตามเขาหินปูน
ต้นรากสามสิบ
สามร้อยราก
ใบรากสามสิบ ใบเป็นใบเดี่ยว แข็ง ออกรอบข้อเป็นฝอยๆเล็กคล้ายหางกระรอก หรือออกเรียงสลับเป็นกลุ่ม 3-4 ใบ ใบเป็นสีเขียวดก ลักษณะของใบเป็นรูปเข็มขนาดเล็ก ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 0.5-1 มม. แล้วก็ยาวประมาณ 10-36 มิลลิเมตร แผ่นมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาวประมาณ 13-20 ซม.
ใบรากสามสิบ
ดอกรากสามสิบ มีดอกเป็นช่อกระจะ ยาวราวๆ 2-4 เซนติเมตร โดยจะออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบและก็ข้อเถา ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอมหวน มีราวๆ 12-17 ดอก ก้านดอกย่อยยาวโดยประมาณ 2 มิลลิเมตร มีกลีบรวม 6 กลีบ แยกเป็น 2 วง วงนอก 3 กลีบ และวงในอีก 3 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ขอบเรียบ กลีบกว้างโดยประมาณ 0.5-1 มม. แล้วก็ยาวราวๆ 2.5-3.5 มม. กลีบดอกมีลักษณะบางแล้วก็ย่นย่อ โคนกลีบเชื่อมชิดกันเป็นหลอดรูปดอกเข็มยาวโดยประมาณ 2-3 มม. ส่วนปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรผู้เชื่อมและอยู่ตรงกันข้ามกับกลีบรวม เป็นเส้นเล็ก 6 อัน ก้านยกอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีน้ำตาลเข้ม รังไข่เป็นรูปไข่กลับ อยู่เหนือวงกลีบ ยาวโดยประมาณ 1 มิลลิเมตร มี 2 ช่อง ในแต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด หรือมากกว่า ส่วนก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2 แฉกขนาดเล็ก โดยจะมีดอกในช่วงราวๆเดือนเมษายนถึงมิ.ย.1,2,4,5
ดอกรากสามสิบ
ผลรากสามสิบ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงค่อนข้างจะกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบวาว มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณ 4-6 มิลลิเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีม่วงแดง ภายในผลมีเม็ดประมาณ 2-6 เม็ด เม็ดเป็นสีดำ เปลือกหุ้มมีลักษณะแข็งแต่ว่าเปราะ ให้ผลในช่วงราวเมษายนถึงกรกฎาคม1,8
ผลรากสามสิบ
เมล็ดรากสามสิบ

สรรพคุณของรากสามสิบ
รากสามสิบมีรสเฝื่อนเย็น มีคุณประโยชน์เป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยาชูกำลัง (ราก)
หนังสือเรียนยาไทยจะใช้รากเป็นยาแก้กระษัย (ราก)
ในประเทศอินเดียจะใช้รากเป็นยากระตุ้นประสาท (ราก)
รากใช้ผสมกับเหง้าขิงป่าและก็ต้นจันทน์แดง ผสมกับเหล้าโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาลดระดับความดันเลือดรวมทั้งลดไขมันในเลือด (ราก)
รากสามสิบมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นการทำงานของตับอ่อนให้เพิ่มการหลั่งสาร insulin (ราก)
ต้นหรือรากเอามาต้มกับน้ำเป็นยารักษาโรคคอพอก (ราก, ทั้งยังต้น)
ผลมีรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อเป็นยาดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง (ผล)
รากมีรสขื่นเย็น ใช้กินเป็นยาแก้พิษร้อนในอยากกินน้ำ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ไอ (ราก)
ช่วยขับเสมหะ4 แก้การตำหนิดเชื้อที่หลอดลม (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาช่วยขับลม รวมทั้งช่วยลดกรดในกระเพาะ (ราก)
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับไส้ แก้อาการอาหารไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะ โรคกระเพาะ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้อาการท้องร่วง แก้บิด (ราก)
ใบมีสรรพคุณเป็นยาระบาย (ใบ)
หนังสือเรียนยาสมุนไพรประจำถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากนำมาต้มกับน้ำเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
รากมีคุณประโยชน์เป็นยาแก้ขัดเบา ขับเยี่ยว ช่วยหล่อลื่นและกระตุ้น (ราก)
ช่วยรักษาอาการเมนส์ไม่ปกติของสตรี (ราก)
ทั้งยังต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้แท้งลูก (ราก, อีกทั้งต้น)
ในอินเดียจะใช้รากสามสิบเป็นยากระตุ้นสมรรถนะทางเพศทั้งยังชายแล้วก็หญิง คนทางภาคเหนือบ้านเราจะใช้รากสามสิบทำเป็นยาดอง ใช้รับประทานเป็นยาบำรุงสำหรับผู้ชาย กินแล้วครื้นครึกเสมือนม้า 3 ตัว ก็เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ม้าสามต๋อน” ส่วนหมอยาโบราณจะใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งเป็นสาเหตุของชื่อ “สาวร้อยผัว” หรือ “สามร้อยสามี” กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ยังสามารถมีลูกมีสามีได้ อายุเยอะแค่ไหนก็ยังดูสาวเสมอ แต่ว่าไม่ใช่รับประทานแล้วจะสามารถมีสามีได้เป็นร้อยคน ในตำราอายุรเวทจะใช้สมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรหลักสำหรับเพื่อการบำรุงสตรี ทำให้กลับมาเป็นสาว ช่วยแก้ปัญหาต่างๆของสตรี ไม่ว่าจะเป็นภาวการณ์รอบเดือนไม่ปกติ ภาวะหมดประจำเดือน ปวดเมนส์ ตกขาว มีลูกยาก หมดอารมณ์ทางเพศ ช่วยบำรุงรักษาครรภ์ บำรุงน้ำนม ป้องกันการแท้ง ฯลฯ ส่วนวิธีการใช้ก็ให้นำรากมาต้มกิน หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานกับน้ำผึ้ง นอกเหนือจากนั้นยังใช้กระตุ้นน้ำนมในวัวนมได้อีกด้วย (ราก)
ใช้เป็นยาบำรุงตับและก็ปอดให้เกิดกำลังเป็นปกติ แก้ตับแล้วก็ปอดทุพพลภาพ (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้พิษจากแมลงป่องกัดต่อย (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้อาการปวดฝี ทำให้เย็น ช่วยทำลายพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน (ราก)
ช่วยบรรเทาอาการเคือง (ราก)
รากใช้กินเป็นยาแก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้า ครั่นตัว (ราก)
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อและคอ (ราก)
ใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับนม ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ใบ)
รากใช้เป็นยาบำรุงเด็กแรกเกิดในท้อง บำรุงน้ำนม บำรุงร่างกายข้างหลังการคลอดลูกของสตรี (ราก)
ใน “พระตำราสรรพคุณ (แลมหาพิกัด)” ได้พูดถึงคุณประโยชน์ของรากสามสิบไว้ว่า “ผักหวานตัวผู้มีรสหวาน แก้กำเดา แก้ดวงตาโรค รากสามสิบ 2 มีคุณมากกว่าผักหวาน” กำเดาหรือไข้กำเดา มีอยู่ 2 ชนิด สิ่งแรกเป็นตัวร้อน เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งหมายถึงมีลักษณะอาการร้ายแรงมากกว่า มีเม็ดผุดขึ้นตามร่างกาย มีลักษณะคัน ไอ มีเสมหะ รวมทั้งมีเลือดออกทางปากและจมูก (ราก)
ส่วนในหนังสือ “พระคู่มือเวชศาสตร์เกื้อหนุน” ได้เอ๋ยถึงตำรับยารักษาคนธาตุหย่อนยาน อันมีตัวยารากสามสิบรวมอยู่ด้วยร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆอีกหลายชนิด โดยกล่าวว่ามีสรรพคุณ (ที่ค่อนจะเข้าใจยาก) ว่าช่วยจำเริญชีวิตให้เกิดกำลัง ให้บำรุงธาตุไฟ ให้เจริญอินทรีย์แต่ละอย่าง มีกำลังเดินทางมากแตกต่าง รับประทานเข้าไปแล้วหาโทษไม่ได้ ใช้ได้อีกทั้งเด็ก คนชรา คนมีกำลัง คนซูบผอม คนไม่มีกำลัง คนธาตุหย่อนยาน ให้ประกอบยานี้กันเถอะ อนึ่ง รับประทานแล้วให้มีขึ้นลูก ให้อกโคนแค่นพระจันทร์งทั้ง 4 มีกำลัง ถึงกระหักก็ดี แพทย์ก็เชื่อถือรักษาด้วยยานี้เหอะ (ราก)
อีกตำรับหนึ่งเป็นยาแก้โรคซูบผอม แก้อาการหอบหืด แก้ปิดตะ รวมทั้งแก้โรคลมต่างๆจะมีสมุนไพรอยู่ร่วมกัน 20 อย่างและก็รากสามสิบ (ราก)
ใน “พระคู่มือวรโยคสาร” ตำรับยา “วะระนาทิภาควิชา” เป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยรากไม้ 17 อย่าง รวมทั้งรากสามสิบ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้แก้อันตะวิทราโรค หรือโรคที่มีลักษณะอาการทิ่มแทงในลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาแก้มันทาคินี แก้เสลด แก้ลุกลุมโรคหายแล และยังมีตำรับยาอีกอย่างก็คือ ตำรับยาแก้เสมหะ ที่มีสมุนไพรรวมอยู่ด้วย 16 อย่าง รวมทั้งรากสามสิบ (ราก)
ตำรับยาบำรุงครรภ์ แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ ประกอบไปด้วยสมุนไพร 13 ประเภท ดังเช่นว่า รากสามสิบ แก่นสน กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะลูด อบเชย เปลือกสมุลแว้ง เทียนทั้ง 5 บัวน้ำอีกทั้ง 5 โกฐทั้งยัง 5 จันทน์ทั้ง 4 รวมทั้งเทพทาโร (ใช้อย่างละเท่ากัน) นำทั้งหมดทั้งปวงมาใส่ไว้ภายในหม้อเคลือบหรือหม้อดิน เติมน้ำลงไปให้ท่วมยาสูงราว 6-7 ซม. แช่ทิ้งเอาไว้ราวๆ 15 นาที แล้วนำขึ้นตั้งด้วยไฟอ่อนๆต้มต้มราวๆ 30 นาที น้ำยาเดือดและก็มีกลิ่นหอมก็เลยยกลงจากเตา ใช้ดื่มก่อนกินอาหารเช้าและก็เย็น วันละ 2 เวลา เป็นยาบำรุงท้องอย่างยอดเยี่ยม (ราก)
นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ของรากสามสิบตามเว็บไซต์ต่างๆนอกจากที่กล่าวมา สมุนไพรจำพวกนี้ยังมีสรรพคุณช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิง แก้วัยทองคำ เพิ่มขนาดทรวงอกและก็บั้นท้าย ช่วยไขปัญหาช่องคลอดอักเสบ กำจัดกลิ่นในช่องคลอด ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับรูปทรง ลดไขมันส่วนเกิน บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวขาวใส ช่วยชะลอความแก่เฒ่า ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก ช่วยเสริมสร้างแล้วก็ปรับปรุงความจำและสติปัญญา (ไม่มีอ้างอิง)
ขนาดและก็วิธีใช้ : การใช้รากตาม ให้ใช้รากประมาณ 90-100 กรัม เอามาต้มกับน้ำดื่มวันละครั้งในรุ่งอรุณ
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบ
สารสำคัญที่เจอ อย่างเช่น asparagamine, cetanoate, daucostirol, sarsasapogenin, shatavarin, racemosol, rutin
สมุนไพรรากสามสิบมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านทานเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้อาการปวด คลายกล้ามของมดลูก บำรุงหัวใจ คุ้มครองป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ขับน้ำนม มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยั้งเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ
สารสำคัญที่พบในรากเป็นสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่เลียนแบบฮอร์โมนเพศ ก็เลยคงจะมีบทบาทสำหรับในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในช่วงวัยหมดระดูของสตรี รวมไปถึงการช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคหัวใจและก็หลอดเลือดรวมทั้งโรคกระดูกพรุน
จากการศึกษาเล่าเรียน
ในหนูแรทโดยใช้สารสกัดจากรากด้วยเอทานอล แบ่งเป็น 2 ช่วงหมายถึงตอนทันควันและก็ช่วงยาวสม่ำเสมอ โดยการเล่าเรียนในช่วงรุนแรงป้อนสารสกัดเอทานอลจากรากสามสิบในขนาด 1.25 กรัมต่อกก. ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน หนูแรทที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 1 และก็ชนิดที่ 2 พบว่าไม่เป็นผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ว่าช่วยให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของกลูโคส ในนาทีที่ 30 ดีขึ้น ส่วนการเรียนช่วงยาวตลอดวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และก็เพิ่มระดับของอินซูลิน 30%เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน และเพิ่มไกลวัวเจนที่ตับ เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปเบาหวานควบคุม ก็เลยสรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการหยุดยั้งการย่อยและก็การดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งคงจะเป็นประโยชน์ในการเอาไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้9
จากการทดสอบทางสถานพยาบาลเป็นการใช้รักษาโรคกระเพาะในคนจริงๆโดยการกินผงแห้งของราก พบว่าได้ผลดีสำหรับการรักษาแผลที่กระเพาะแล้วก็ลำไส้เล็ก จากการที่กรดเกิน
เมื่อปี คริสต์ศักราช1997 ที่ประเทศอินได้กระทำการตรวจสอบและลองใช้รากสามสิบกับคนป่วยความดันเลือดสูงชนิด mild hypertension โดยทดลองเปรียบเทียบกับยาลดระดับความดัน (Propranolol) ใช้ช่วงเวลากระทำทดลองนาน 3 เดือน ผลของการทดลองพบว่า คนป่วยมีความดันเลือดลดน้อยลง < 90 mm.Hg. รวมทั้งลดไขมันได้ประสิทธิภาพที่ดี

  • K. Mitra และคณะ (ค.ศ.1996) ที่อินเดียได้ทำตรวจสอบและลองใช้สารสกัดจากรากสามสิบกับตัวทดลองที่ถูกกระตุ้นด้วย Streptozotocin ผลของการทดสอบพบว่า สารสกัดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถกระตุ้นตับอ่อนของหนูให้เพิ่มการหลักhttp://www.disthai.com/


    Tags : สมุนไพรรากสามสิบ

3


[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์[/url][/size][/b]

คูน ประโยชน์แล้วก็คุณประโยชน์ของคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์
ประวัติความเป็นมาดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน เป็นต้นไม้พื้นบ้านของเอเชียใต้ ตั้งแต่ปากีสถาน อินเดีย ประเทศพม่า แล้วก็ศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากมายในเขตร้อน สามารถเจริญวัยได้ดีใน และก็มีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 แต่ว่าก็ยังมิได้ข้อสรุปกระจ่าง จนกว่ามีการลงชื่อให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย ตอนวันที่ 26 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2544
ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องด้วย ต้นราชพฤกษ์ ออกดอกสีเหลืองชูช่อ ดูสง่างาม ทั้งยังมีสีตรงกับ สีประจำวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์" และก็มีการลงนามให้ต้นราชพฤกษ์ ยอดเยี่ยมใน 3 เครื่องหมายประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย รวมทั้ง 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เนื่องจากว่าฯลฯไม้ท้องถิ่นที่รู้จักกันอย่างมากมาย แล้วก็มีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย
  • มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับขนบธรรมเนียมหลักๆในไทยแล้วก็ฯลฯพืชที่มีความมงคลที่นิยมนำมาปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้นานัปการ อาทิเช่น ใช้เป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังคงใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ เป็นต้น
  • มีสีเหลืองอร่าม พุ่มงามเต็มต้น เปรียบเทียบเป็นเครื่องหมายแห่งศาสนาพุทธ
  • มีอายุยืนนาน และทน


คูน หรือ ราชพฤกษ์ (Golden Shower, Indian Laburnum) เป็นพืชสมุนไพรจำพวกยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกตามเขตแดนต่างๆอย่างเช่น ภาคเหนือเรียก ราชพฤกษ์, ราชพฤกษ์ หรือชัยพฤกษ์ ส่วนปัตตานีเรียก ลักเคย หรือลักเกลือ และก็กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรีเรียก กุเพยะ ฯลฯ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรประจำถิ่นของทวีปเอเชียใต้ไปจนถึงอินเดีย ศรีลังกา แล้วก็ประเทศพม่า รวมถึงคูนหรือราชพฤกษ์นี้ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติของไทยอีกด้วย
————– advertisements ————–
การรักษา
           แสงสว่าง : ต้องการแสงแดดจัด หรือที่โล่งแจ้ง รวมทั้งเจริญวัยได้ดิบได้ดีในที่โล่งเป็นพิเศษ
           น้ำ : ชอบน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับลักษณะอากาศร้อนได้ดิบได้ดี
           ดิน : สามารถเติบโตก้าวหน้าในดินที่ร่วนซุย ดินร่วนผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก ในอัตรา 2-3 โลต่อต้น และควรให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
การขยายพันธุ์
           แนวทางเพาะพันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยม คือ การเพาะเมล็ด โดยใช้เม็ดสดๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่ต้องเลือกขลิบบริเวณด้านป้าน ด้วยเหตุว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ แล้วต่อจากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งไว้ผ่านวัน จึงค่อยเทน้ำออกให้เหลือจำนวนเพียงพอหล่อเลี้ยงเม็ดได้ แล้วทิ้งเอาไว้อีกคืนก็จะพบรากแตกออก และก็สามารถนำลงปลูกได้เลย
ความศรัทธาเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           มั่นใจว่าฯลฯไม้มงคล ที่ควรจะปลูกเอาไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ และหากปลูกไว้ในบ้านจะช่วยทำให้ทรงเกียรติตำแหน่ง เกียรติ และก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยเวท โดยใช้ใบทำน้ำพระพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ เนื่องจากว่าเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนาม
ลักษณะทั่วไปของคูน
สำหรับต้นคูนนั้นจัดว่าเป็นไม้ใหญ่ขนาดกึ่งกลาง โดยลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา มักขึ้นตามป่าผลัดใบ หรือในดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี ส่วนใบจะมีสีเขียวเป็นมัน โคนมน เนื้อใบหมดจดและบาง ดอกจะออกเป็นช่อ มีกลีบทรงไข่กลับอยู่ 5 กลีบ และมองเห็นเส้นกลีบแน่ชัด ฝักอ่อนมีสีเขียวและจะเป็นสีดำเมื่อแก่จัด และในฝักจะมีผนังเยื่อบางๆกันเป็นช่องๆอยู่ตามแนวขวางของฝัก รวมทั้งภายในช่องเหล่านี้จะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์
คุณประโยชน์และสรรพคุณของคูน
ใบ – ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง ฆ่าเชื้อโรคต่างๆช่วยระบายท้อง สามารถใช้พอกแก้อาการปวดข้อ หรือแก้ลมตามข้อ รวมถึงช่วยแก้โรคอัมพาตของกล้ามบนใบหน้า หรือนำไปต้มรับประทานแก้เส้นพิการ รวมทั้งโรคเกี่ยวกับสมอง ให้รสเมา
ดอกราชพฤกษ์ – ช่วยระบายท้อง แก้ไข้ แก้พรรดึก (ท้องผูก) และโรคกระเพาะอาหาร และก็แผลเรื้อรัง ให้รสขมเปรี้ยว
ราก – ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคคุดทะราด ระบายพิษไข้ แก้ขี้กลากหรือเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึมหนักบริเวณหัว แล้วก็ช่วยถ่ายสิ่งสกปรกโสโครกออกจากร่างกาย แก้อาการหายใจขัด ทำให้สดชื่นหน้าอก แก้ลักษณะของการมีไข้ ไปจนถึงรักษาโรคหัวใจ ถุงน้ำดี มีฤทธิ์ถ่ายแรงกว่าเนื้อในฝัก สามารถใช้ได้กับเด็กหรือสตรีมีครรภ์ ไม่มีผลข้างๆอะไรก็ตามให้รสเมา
แก่น – ช่วยสำหรับเพื่อการขับพยาธิไส้เดือน ให้รสเมา
กระพี้ – ช่วยแก้โรครำมะนาด ให้รสเมา
เนื้อในฝัก – ใช้พอกเพื่อช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อ แก้ต้นตานขโมย ปรับปรุงไข้จับสั่น แก้บิด ถ่ายพยาธิ หรือคนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง รวมทั้งถ่ายเสมะแล้วก็แก้พรรดึก (ท้องผูก) ไปจนถึงระบายพิษไข้ สามารถใช้ได้ในเด็กและก็สตรีตั้งท้อง ไปจนกระทั่งเป็นยาระบายที่ไม่ทำให้ปวดมวนหรือไข้ท้อง ให้รสหวานเอียน
เปลือกฝัก – ทำให้แท้งลูก ทำให้อาเจียน แล้วก็ขับเกลื่อนกลาดที่ค้างอยู่ออกมา ให้รสขื่นเมา
เม็ด – ทำให้อาเจียน ให้รสเฝื่อนเมา
เปลือกต้น – ช่วยแก้อาการท้องเสีย ใช้ฝนผสมกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ และน้ำตาล รับประทานเพื่อเกิดลมเบ่ง ให้รสฝาดเมา
เปลือกราก – ช่วยแก้ไข้ไข้จับสั่น รวมทั้งระบายพิษไข้ ให้รสฝาด
ดอกคูน หรือ ดอกราชพฤกษ์
ต้นคูนมักนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับในพื้นที่เขตร้อนรวมทั้งครึ่งเขตร้อน สามารถเจริญวัยเจริญในที่โล่ง และปลูกได้ง่ายทั้งยังในดินซึ่งร่วนซุย ดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนเหนียว และยังทนต่อสภาพอากาศแห้งรวมทั้งดินเค็มได้ดิบได้ดี แม้กระนั้นแม้อากาศหนาวจัดอาจจะก่อให้ติดโรคราหรือโรคใบจุดได้http://www.disthai.com/

4

กระเทียม
กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic
กระเทียม ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum L. จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE)
สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกมากมายในทางภาคเหนือและก็ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้กระนั้นสำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดี กลิ่นแรงคงจะหนีไม่พ้นจังหวัดศรีสะเกศา
คุณประโยชน์ของกระเทียม
ช่วยทำนุบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดีรวมทั้งแข็งแรง
ช่วยสร้างเสริมการเติบโตของเยื่อภายในร่างกาย
ช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมทั้งน้ำตาลในเลือด
ช่วยทำให้สมดุลในร่างกาย
ช่วยแก้อาการเวียนหัวหัว อาการมึนงง ปวดหัว หูอื้อ
ช่วยในเรื่องระบบขยายพันธุ์และระบบทางเท้าเยี่ยว เพราะว่ามีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนทั้งหญิงรวมทั้งชาย ช่วยให้มดลูกบีบตัว เพิ่มพลังให้มีเรี่ยวแรง
ช่วยรักษาโรคความดันเลือด
ช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวกระทันหัน
ช่วยต่อต้านเนื้องอก
ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
ช่วยปกป้องการเกิดรวมทั้งรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยสำหรับในการขับพิษและก็สารพิษอันตรายที่แปดเปื้อนในเม็ดเลือด
ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือดหนาและก็แข็งตัว
สารสกัดน้ำมันกระเทียมมีสารที่มีส่วนช่วยสำหรับการละลายลิ่มเลือด
ช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดเส้นเลือดตัน
มีสารต่อต้านไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
ช่วยทุเลาอาการไอ น้ำมูกไหล คุ้มครองปกป้องหวัด
ช่วยรักษาโรคหวัดและก็ไข้หวัดใหญ่
ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบและก็ไซนัส
ช่วยรักษาโรคโรคไอกรน
ช่วยแก้อาการหอบ โรคหืด
ช่วยรักษาโรคหลอดลม
ช่วยยับยั้งกลิ่นปากกระเทียม
ช่วยในการขับเหงื่อ
ช่วยสำหรับในการขับเสมหะ
ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยั้งไม่ให้น้ำย่อยของกินมาย่อยแผลในกระเพาะ
ช่วยสำหรับการขับลม
ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ
ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
ช่วยรักษาโรคบิด
ช่วยสำหรับการขับปัสสาวะ
ช่วยสำหรับการขับพยาธิได้หลายแบบ ดังเช่นว่า พยาธิแส้ม้า พยาธิด้าย พยาธิหมุด พยาธิไส้เดือน ฯลฯ
ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบประเภทรุนแรงได้
ช่วยปกป้องการเกิดโรคไต
ช่วยทำลายเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่างๆรวมทั้งเชื้อราตามหนังหัวแล้วก็บริเวณเล็บ
ช่วยยับยั้งเชื้อต่างๆตัวอย่างเช่น เชื้อที่กระตุ้นให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดอักเสบ เชื้อวัณโรค เป็นต้น
ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่วกระเทียมสรรพคุณ
ช่วยรักษาขี้กลาก เกลื้อน
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ บำรุงข้อต่อรวมทั้งกระดูกในร่างกาย
บรรเทาลักษณะของการปวดข้อและเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวตามร่างกาย
ช่วยแก้อาการเคล็ดปวดเมื่อยและเท้าพลิก เพราะว่ามีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบประมาณริเวณที่นวดยาเจริญเยอะขึ้นนั่นเอง
มีสารต่อต้านอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาติสซั่ม
กระเทียมมีกลิ่นฉุนก็เลยสามารถช่วยไล่ยุงได้เป็นอย่างดี
ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากอาหาร
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากกระเทียม
ประโยชน์หลักๆของกระเทียมอาจจะหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยแต่งรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่างๆอีกสารพัด
กระเทียมเป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่หลายชนิด และก็ยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชจำพวกอื่นๆทั้งยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA แล้วก็ RNA ของเซลล์ภายในร่างกาย
นอกเหนือจากนี้ยังมีการนำกระเทียมไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างนานัปการ ตัวอย่างเช่น กระเทียมเสริมของกิน กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมดอง ฯลฯ

คุณค่าทางโภชนาการของกระเทียมดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 149 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 33.06 กรัม
น้ำตาล 1 กรัม
เส้นใยอาหาร 2.1 กรัม
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 6.36 กรัม
วิตามินบี 1 0.2 มก. 17%
วิตามินบี 2 0.11 มก. 9%
วิตามินบี 3 0.7 มก. 5%
วิตามินบี 5 0.596 มก. 12%
วิตามินบี 6 1.235 มก. 95%
วิตามินบี 9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 31.2 มก. 38%
ธาตุแคลเซียม 181 มก. 18%
ธาตุเหล็ก 1.7 มก. 13%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มก. 7%
ธาตุแมงกานีส 1.672 มิลลิกรัม 80%
ธาตุฟอสฟอรัส 153 มก. 22%
ธาตุโพแทสเซียม 401 มก. 9%
ธาตุสังกะสี 1.16 มก. 12%
ธาตุซีลีเนียม 14.2 ไมโครกรัม
% ปริมาณร้อยละของปริมาณเสนอแนะที่ร่างกายต้องการในทุกๆวันสำหรับผู้ใหญ่ (ที่มา : USDA Nutrient database)
ข้อเสนอและก็ข้อควรพิจารณาสำหรับการใช้กระเทียม
กระเทียมยิ่งสดมากแค่ไหนก็ยิ่งมีคุณประโยชน์ที่ดีเลิศขึ้นแค่นั้น แม้กระนั้นสำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยวิธีการต่างๆหรือผ่านการดอง จะทำให้วิตามินและก็สารอัลลิสินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นย่อยสลายไป
วิตามินรวมทั้งแร่ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากมายหรือน้อยก็ขึ้นกับดินและก็สภาพภูมิอากาศที่ใช้เพื่อการเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูก คนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดปกติ มีระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมถึงคนที่ใช้ยาอื่นๆเป็นประจำ เป็นต้นว่า ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต่อต้านไวรัส คุณไม่ควรกินกระเทียมหรือผลิตภัณฑ์กระเทียมเสริมในปริมาณที่มากจนเหลือเกิน ด้วยเหตุว่าอาจจะทำให้เป็นโทษต่อสุขภาพร่างกายได้
สำหรับผู้ที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเป็นประจำ อาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อรับประทานได้ โดยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการอ้วก แล้วก็มีของกินหัวใจที่เต้นแรงแตกต่างจากปกติ แต่อาการดังที่กล่าวถึงมาแล้วจะค่อยๆหายไปเองภายในช่วงระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่ประยุกต์ใช้สำหรับการประกอบอาหารชอบก่อให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบใหม่ๆ
สำหรับผู้ที่อยู่ในครัวหรือผู้จะต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมเป็นประจำและก็เป็นเวลานาน อาจจะก่อให้ผิวหนังมีการอักเสบ มีตุ่มน้ำได้ ฉะนั้นคุณควรจะหลบหลีกการสัมผัสกระเทียมโดยตรงเป็นประจำด้วยการสวมถึงมือทุกครั้งในขณะที่จะใช้กระเทียม
หากว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่เยอะมาก แม้กระนั้นคุณก็ไม่ควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลสำหรับเพื่อการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง อีกทั้งผลที่ได้ในแต่ละบุคคลก็อาจจะแตกต่างออกไป ฉะนั้นคุณควรที่จะเลือกกินให้นานาประการและก็ครบ 5 หมู่ จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากพืชผักสมุนไพรธรรมดา ถ้าหากเล่าเรียนกันอันที่จริงแล้ว มันก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่ากันเลย
ปัจจุบันนี้ในบ้านเรายังไม่มีการรับรองว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง อาจเป็นไปได้เพียงแค่สมุนไพรโอกาสสำหรับเพื่อการรักษารวมทั้งสมุนไพรเสริมสุขภาพเพียงแค่นั้นhttp://www.disthai.com/

5

บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะอย่างไรนี่ เรากำลังดูหนังการรบอยู่หรอ เปล่าครับผม บุกในที่นี้มิได้ถึงศัตรูบุก แต่หมายความว่าหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านเรา ต่างหาก แล้วก็ที่ต้องหนี ไม่ใช่ผู้ใดที่แห่งไหน แม้กระนั้นเป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างโรคอ้วน โรคเบาหวาน ต่างหากที่จำต้องหนีไป
บุก ส่วนที่เห็นเป็น หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็ไม่ได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมเหมือนเดี๋ยวนี้ด้วยเหตุว่าจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชพื้นเมืองอยู่ดี  คนในเขตแดนก็นำบุกมาปรุงอาหาร เสมือนเผือก เสมือนมันทั่วๆไปเพียงพอเริ่มมีคนมาวิจัย   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยแปลงเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการแปรรูปเป็นต้นแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก รวมทั้งอื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเกินความจำเป็นที่จะนำทุกคนมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นอสุรกาย  น่าสยองนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากลักษณะของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อตระกูล    ARACEAE
ชื่อตามแคว้น  :  บุกปะทุงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
เราพบบุกถึงที่กะไว้ไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่เจอทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่กับตาม ชายเขา และก็บางทีก็พบตามพื้นที่ ทำไร่ทำนา เช่นที่ปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ฯลฯ บุกขึ้นได้ในภาวะดินทุกประเภท แต่จะเติบโตได้ดิบได้ดีให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังแล้วก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
รูปแบบของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก บ่งบอกถึงองค์ประกอบคือใบบุก แล้วก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่เราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  แบบเดียวกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ราว 25 เซนติเมตร (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่ว่าบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกันออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือครั้งคราวบุกบางประเภทก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน  จะมีความคิดเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานาประการมากมาย  แม้กระนั้นที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แม้กระนั้นบาง พันธุ์จะแปลกตรงที่กลับขึ้นด้านบนราวกับหงายร่ม ด้วยเหตุนั้นรูปแบบของใบบุก มีหลายแบบขึ้นอยู่กับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกเหมือนต้นหน้าวัว แต่ละประเภทมีขนาด สี และก็รูป ทรงแตกต่าง บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นเหมือนเนื้อสัตว์เน่า บุกชนิดอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เช่นเดียวกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แม้กระนั้นบุกสามารถออกดอกได้ในตอน เวลาต่างๆกัน ช่วงเวลาสำหรับเพื่อการแก่เต็มกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็ต่างกัน
 ผลบุก (อย่างงงันกับหัวบุกนะ ) ภายหลังดอก ผสมพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง พออายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกโดยมากจะมีลักษณะคล้ายกัน แม้กระนั้นเมล็ดข้างในไม่เหมือนกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว  บุกบางประเภทก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม

บุกกับการนำมาเตรียมอาหาร
เป็นพืชของกินท้องถิ่นซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค เป็นต้นว่าทางภาคอีสาน มีการทำของหวานที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคทิศตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งกินกับข้าว ทางภาคเหนือโดยยิ่งไปกว่านั้นชาวเขา มักนำมา ปิ้งกิน ภาคกึ่งกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วจากนั้นจึงค่อยนำไปทำเป็นอาหารหวาน
*บุกมีหลายชนิดหลายจำพวก อาจขมรวมทั้งมีพิษ ทุกประเภทมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งๆที่ก้านใบรวมทั้งหัว ซึ่งอาจก่อให้คัน ก่อนเอามาทำอาหารจำเป็นต้องต้มซะก่อน ไม่อย่างนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากแล้วก็ลิ้นพอง
อาหารที่ดัดแปลงมาจากบุก
เดี๋ยวนี้มีการนำบุกมาแปรรูป อีกทั้งในลักษณะของเส้นบุก ซึ่งเป็นสินค้าดัดแปลงจากส่วนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าคนไหนกันเคยไปรับประทานเนื้อย่างอาจเคยพบบ้าง นอกจากเส้นบุกแล้วมีการเอามาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบได้รับความนิยมๆอดีตหมายถึงเจเล่ ผสมผงบุก ถ้าเกิดจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (ผู้ครอบครองบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณาด้วยครับ)
คุณประโยชน์ของบุก
จากการเล่าเรียนพบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูวัวแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 ชนิดเป็นดี-กลูโคส (D-glucose) รวมทั้ง (D-mannose) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ว่าร่างกายสลายตัวได้ยาก ดูดซึมได้ช้า ก็เลยให้พลังงานและก็สารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี คนที่ต้องการลดหุ่นนิยมรับประทานอาหารจากแป้งบุก เช่น วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เพราะกินอิ่มได้ ระบายท้อง แม้กระนั้นไม่ทำให้อ้วน
นอกจากนี้เองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะเหตุว่าความเหนี่ยว ซึ่งยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส โดยเหตุนี้ กลูวัวแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามากมาย ตอนนี้จึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นของกินสำหรับคนป่วยเป็นโรคโรคเบาหวาน แล้วก็สำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับเป็นคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันครับผม มีคุณประโยชน์ขนาดนี้ สมัยปัจจุบันไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว แนะนำมามายำแบบยำวุ้นเส้นนะครับ รับรองอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/

หน้า: [1]