รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - ind4s2fuo6p0

หน้า: [1]
1

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบและก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของประเทศอินเดียและก็จีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค ยกตัวอย่างเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และก็ยังเอามาเข้าครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่มีประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกายอยู่หลายชนิด เช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียติวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียติเตียนก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีสรรพคุณหลายสิ่งหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ทุเลาอาการอักเสบ หากใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันโลหิตในหลอดเลือดดำ รวมทั้งนำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีต้นเหตุมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆตัวอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การตำหนิดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด ฯลฯ ยิ่งกว่านั้น ยังมีความเห็นกันว่าหากใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่มีเหตุที่เกิดจากการมีครรภ์ แม้กระนั้นสิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองความเชื่อ สรรพคุณ รวมทั้งความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจเห็นผล
เส้นเลือดขอด มีการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งรายงานว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงรักษาและก็สร้างสมดุลสำหรับในการเจริญวัยของเนื้อเยื่อเกี่ยวเนื่อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต มีผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยแล้วก็เส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยแก้ไขการไหลเวียนของเลือด นอกนั้น ยังมีการศึกษาโดยการทบทวนงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้อง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนเจ็บที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก รวมทั้งอาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยทุเลาอาการคนไข้เส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แต่ว่าจากการวิจัยบอกว่าข้อสรุปข้างต้นจะต้องตีความหมายด้วยความระวังเหตุเพราะข้อกำหนดต่างๆของงานวิจัย รวมทั้งยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนแล้วก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินความสามารถการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แต่ว่ายังมีหลักฐานส่งเสริมน้อยเกินไป
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกลุ่มหนึ่งกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน แล้วก็อีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของหลอดเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครอีกทั้ง 2 กลุ่มไม่ได้มีความแตกต่างกัน แต่ในกรุ๊ปที่กินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดน้อยลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอและขาลดลง รวมทั้งลักษณะของพลัคทั้งความหนาแล้วก็ความยาวก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งยังยังไม่พบอาการที่ไม่ประสงค์ สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้ รวมทั้งมีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เนื่องมาจากหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่เพียงพอ ก็เลยต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองปกป้องลิ่มเลือด การกินใบบัวบกบางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นรถเครื่องบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาเสนอแนะว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวแล้วก็เพิ่มการไหลเวียนเลือดในผู้ที่ขึ้นรถเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่แจ่มชัดว่าการเล่าเรียนชิ้นนี้จะหมายคือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เพราะว่าหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่เพียงพอ ก็เลยควรต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในคนไข้เบาหวาน งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งให้คนไข้เบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยปริมาณ 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นข้อสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารตรีเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีสาระต่อการไหลเวียนของโลหิตในหลอดเลือดฝอยของผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่หลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังน้อยเกินไป จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการทำการวิจัยเกี่ยวกับคุณภาพและผลข้างเคียงของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลโรคเบาหวาน โดยแบ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. รวมทั้งอีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกจำนวน 2 แคปซูลข้างหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และก็มีการวัดผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนไข้ที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากยิ่งกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือกล่าวได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลใกล้กัน แต่ว่าเนื่องจากหลักฐานเกื้อหนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการดูแลและรักษาแผลโรคเบาหวานยังไม่พอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
แผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ได้แก่ เอเชียติเตียนวัวไซด์ กรดทวีปเอเชียติก มาเดแคสโซไซด์ แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายและก็อาจมีสมรรถนะสำหรับในการรักษาแผลต่างๆแผลขนาดเล็ก แผลไฟเผา แผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งได้เสนอแนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ตลอดนาน 6-8 อาทิตย์ อาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมทั้งรอยแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นเนื่องด้วยหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อแผลยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการตั้งท้อง ได้มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยชี้แนะให้คนที่กำลังมีครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน เป็นประจำทุกวี่ทุกวันในตอน 6 เดือนท้ายที่สุดก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งบางทีอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงมีครรภ์จำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจจะทำให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แต่ว่าเหตุเพราะหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกกลุ้มใจ การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการไม่มีชีวิตชีวาแล้วก็ความวิตกกังวล ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกในการลดความกังวล โดยสุ่มให้อาสาสมัครรับประทานใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านความรู้สึกไม่สบายใจ ช่วยลดความตึงเครียด แม้กระนั้นยังคงจำต้องศึกษาเล่าเรียนเสริมเติมต่อไปถึงคุณภาพของใบบัวบกในการรักษาโรคตื่นตระหนก
โรคและอาการอื่นๆอาทิเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การตำหนิดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจำเป็นจะต้องวิจัยหาคุณภาพแล้วก็ความปลอดภัยในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยในการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการกินใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังมีครรภ์ หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก เพราะว่ายังไม่มีหลักฐานด้านการแพทย์เพียงพอที่จะส่งเสริมถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งยังต่อเด็ก แม่ หรือลูกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นสาเหตุให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับ ฉะนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรรับประทานใบบัวบก เพราะอาจก่อให้อาการต่างๆห่วยลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มกลุ่มนี้ ดังเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีตะกาย ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตว่ากล่าวน ฯลฯ
การกินใบบัวบกในปริมาณมากอาจจะเป็นผลให้รู้สึกง่วงได้มากกว่าธรรมดา หรือแม้กินร่วมกับยานอนหลับหรือยาไม่สบายใจลดลง ยกตัวอย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล แล้วก็โซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างน้อย 2 สัปดาห์สำหรับคนที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุว่าอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับในการผ่าตัดและก็อาจทำให้รู้สึกง่วงงุนได้มากขึ้น
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินใบบัวบก ถ้าหากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมประเภทอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะเหตุว่าอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงปรารถนาถ้าหากรับประทานใบบัวบกในระหว่างการรักษาของคนป่วยโรคไม่สบายใจ คนป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนไข้อัลไซเมอร์ รวมถึงผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาหนักใจลดลง แล้วก็ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่าอาจจะทำให้กดประสาทเยอะขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

2

ขิง
หากว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ปรุงอาหารและมีสรรพคุณในการรักษาโรค หากว่าขิงจะมีกลิ่นแรงรวมทั้งมีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยนั้น แม้กระนั้นขิงก็เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ปรุงอาหารและก็มีคุณประโยชน์รักษาโรค เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าสมุนไพรดีๆอย่างขิงนั้นเป็นประโยชน์และโทษอะไรที่พวกเราคาดไม่ถึงบ้าง
คุณประโยช์จากขิง
+ ลดอาการท้องอืดแม้คุณรู้สึกท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือรับประทานขิงสดจะก่อให้คุณรู้ดีขึ้น หรือหากคุณกำเนิดอาการท้องอืดที่เกิดขึ้นจากด้านการกินถั่วละก็ ครั้งหลังทดลองฝานถั่วบางๆลงไปในของกินที่มีถั่ว โน่นก็จะช่วยลดอาหารท้องขึ้นได้ด้วยเหมือนกันจ้ะ เนื่องจากขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นหลักการทำงานของไส้ทำให้ อาการท้องอืดบรรเทาลงได้
+ ช่วยทุเลาอาการไมเกรน
จากการเรียน
พบว่า การรับประทานขิงขณะที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนน้อยลงได้ เพราะว่าขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ ยิ่งกว่านั้นยังมีการศึกษาเล่าเรียนอื่น บ่งบอกถึงอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าผู้ที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีลักษณะอาการต่ำลงเมื่อบริโภคขิงผงเสมอๆทุกวี่วัน
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากขิง และก็โทษที่คุณอาจคิดไม่ถึง
+ ช่วยคุ้มครองปกป้องมะเร็ง
 ขิงมีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการเล่าเรียนพบว่าขิงช่วยทำให้เซลล์ของมะเร็งภายในรังไข่ตาย เพราะว่าในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องมะเร็งได้ นอกนั้นยังเจออีกว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีขิงเป็นองค์ประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
+ ช่วยทุเลาอาการอาเจียน
 ขิงสามารถบรรเทาอาการอาเจียนได้ โดยชาวเอเชียนั้นมักจะใช้ขิงสำหรับการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกเหนือจากนั้นยังมีหลายการศึกษาพบว่าขิงสามารถช่วยคุ้มครองป้องกันรวมทั้งบรรเทาอาการอ้วกภายหลังจากการผ่าตัดและก็ยังช่วยบรรเทาอาการอาเจียนรวมทั้งคลื่นไส้ในคนไข้โรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดรักษาได้อีกด้วย
+ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
 มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะกับคนป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ควรจะที่จะขอคำแนะนำหมอก่อนกินขิงร่วมกับยา เพราะเหตุว่าขิงบางทีอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และก็ควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างสนิทสนม เนื่องจากถ้าหากกินขิงมากเกินความจำเป็นก็อาจจะก่อให้ระดับอินซูลินน้อยลงมากเกินความจำเป็นกระทั่งอยู่ในพิกัดอันตรายได้
คุณประโยช์จากขิง และโทษที่คุณอาจไม่คาดฝัน
ขิงดอง สรรพคุณดีก็มีนะ ทราบยัง?
 พวกเราบางทีอาจจะเคยได้ฟังกันมาว่าการรับประทานของดองไม่เป็นผลดีสำหรับสุขภาพ แต่ว่าจำต้องขอยกเว้นไว้สำหรับขิงดองค่ะ เนื่องจากว่าจริงๆแล้วหากแม้ขิงดองจะเป็นอาหารที่ผ่านการดองด้วยน้ำส้มสายชู แต่ว่าเรื่องสรรพคุณ และคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ ขิงดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงสดๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งประโยชน์ของขิงดองมีดังนี้
* ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ และก็อาการแพ้ท้อง

เพราะเหตุว่าขิงดองเป็นของกินที่มีกลิ่นแรงทั้งยังยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้กลายเป็นอาหารที่เหมาะกับมีลักษณะอาการเมาเรือ เมารถ รวมทั้งสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งชอบมีอาการแพ้ท้อง เอาไว้รับประทานขณะที่รู้สึกคลื่นไส้ เพราะเหตุว่าจะช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ทดลองใช้ขิงดองดูนี่ล่ะค่ะ เด็ด !
* ช่วยล้างปากเวลากินอาหาร
 สำหรับคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่าเพราะเหตุใดเวลาไปทานอาหารประเทศญี่ปุ่นแล้วบนจานอาหารประเทศญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือขิงดองพวกนั้นมีไว้กินล้างปากค่ะ โดยส่วนใหญ่สำหรับการกินอาหารประเทศญี่ปุ่น จะกินขิงดองตามเข้าไปภายหลังทานอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารจานเดิมติดอยู่ในปากจนถึงทำให้รู้สึกมันและรับประทานจานถัดไปไม่ไหว ทั้งยังมีผลให้ลิ้มรสของกินจานถัดไปได้อย่างมากอีกด้วย
* โซเดียมต่ำ
 แม้ขิงดองจะมีรสจัด แต่ว่าน่าประหลาดที่ขิงดองเป็นของกินที่มีโซเดียมต่ำมากเมื่อเทียบกับของกินดองจำพวกอื่นๆเมื่อเอามารับประทานและจากนั้นก็ทำให้ไม่ต้องกังวลกับจำนวนโซเดียม ลดการเสี่ยงที่จะเกิดความดันโลหิตสูงลงไปได้อีกมากมายเลย
ประโยช์จากขิง แล้วก็โทษที่คุณอาจไม่คาดฝัน
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังในการทานขิง
- อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกสำหรับเพื่อการตั้งท้องได้
 มีบางการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนสำหรับในการท้องและการแท้ง แต่ว่าสำหรับการมีครรภ์รายอื่นๆนั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะมีผลให้เกิดอาการพวกนั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอาเจียนจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย โดยเหตุนี้คุณควรไปหารือแพทย์ก่อนจะที่ใช้ขิงสำหรับในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองจ้ะ
- ทำให้มีการเกิดแผลร้อนในด้านในปากได้
 ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากกินเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถเยื่อบุข้างในโพรงปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ โดยเหตุนี้ไม่สมควรกินขิงมากจนเกินไปจ้ะ
- ยั้งการแข็งตัวของเลือด
 การเรียนหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้ออกคำเตือนให้งดการรับประทานขิงในระหว่างที่ใช้ยาละายลิ่มเลือดเพราะว่าจะมีผลให้เกิดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดอาการช้ำเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ด้วยเหตุนี้ถ้าหากคุณมีลักษณะอาการเลือดออกผิดปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการกินขิงจ้ะฃ http://www.disthai.com/

หน้า: [1]