รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - dkdiiru02sz

หน้า: [1]
1
มหันตภัย ! ความดันแล้วก็เบาหวานภัยใกล้ตัว เจียวกู่หลานช่วยกำจัดได้
พ.ค. 8, 2018  kungtep
โรคความดันรวมทั้งเบาหวาน เป็นโรคที่คนไม่ใช่น้อยไม่มองถึงความรุนแรงสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่า สร้างความฉิบหายต่อสุขภาพร่างกายและชีวิตอย่างไม่ได้นึกฝัน รีบคุ้มครองป้องกันให้ตรงจุดด้วย ” สมุนไพรเจียวกู่หลาน

โรคความดันสูง-เบาหวาน ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
สิ่งใดที่อยู่ใกล้ตัว สิ่งนั้นมักถูกมองข้ามเสมอ หลายสิ่งในชีวิตที่พวกเรามักไม่ใส่ใจมองไม่เห็นถึงความสำคัญ ดังเช่น คู่รัก เพื่อนเกลอ คนในครอบครัว ที่ถูกไม่ให้ความสนใจจากพวกเราอย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งอาจจะด้วยการตั้งใจจริงทำงานหรือเหตุผลอื่นใดก็ตามแต่ รวมถึงก็มีหลายสิ่งรอบข้างที่พวกเรามักไม่เห็นถึงความอันตราย ที่จะนำมาสู่ตัวหรือคนที่อยู่รอบข้างสักเท่าไหร่ อย่างเรื่องของสุขภาพการเจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆทั้งที่ไม่รุนแรงรวมทั้งที่มีความรู้สึกว่าไม่ร้ายแรง แต่ว่าแอบแฝงด้วยภัยอย่างมหัน ที่รอคอยจังหวะเวลาอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น โรคของความดันรวมทั้งเบาหวาน เป็นต้น ซึ่งทั้งยัง 2 ต่างก็เป็นโรคที่ชินหูพวกเราอย่างดีเยี่ยม ภัยร้ายก็มีแต่ว่าก็ทุเลาแล้วก็ปลอดภัยได้เพียงใช้ “เจียวกู่หลาน”
ลดการอุดตันเส้นโลหิต เจียวกู่หลาน
โรคความดันเลือดสูง มีลักษณะอย่างไร?
อาการป่วยโรคความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่เราจะพบผู้เจ็บป่วย เป็นความดันเลือดสูงเกินไปกว่าโรคความดันต่ำ  ซึ่งเป็นอาการของการบีบตัวของหัวใจร่วมกับแรงดันในกระแสโลหิตที่สูง เร็ว ถี่ มากกว่าธรรมดาทั่วไป
ความดัน เบาหวาน อายุ 40 ปีขึ้นไปต้องระวัง!
โรคความดันสูง เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเต้นของหัวใจ ที่เป็นอวัยวะที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา  อีกทั้งแรงดันในเลือดที่จำเป็นต้องดำเนินการเช่นกันอย่างเลี่ยงมิได้ โรคความดันสูงเป็นโรคที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย แม้กระนั้นที่จะเป็นไปได้ง่ายดายที่สุดกับคนที่มีอายุ 35 – 40 ปีขึ้นไป ก็เลยพินิจได้ว่าบิดามารดาต้นตระกูลของเรามักเป็นโรคนี้กันมาก

คุณประโยชน์เจียวกู่หลาน
คุณประโยชน์รวมทั้งผลดีใบเจียวกู่หลาน
“เจียวกู่หลาน” ป้องกันโรคความดันสูงแล้วก็เบาหวานได้ไหม
การดูแลรักษาโรคความดันสูง ต้นเจียวกู่หล่านช่วยคุ้มครองได้ ความต่ำช้าร้ายของโรคความดันสูงที่ควรจะรักษาด้วย เจียวกู่หลานเป็นเมื่อความดันสูงมากๆจะมีผลให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญๆหลายส่วนไม่พอ จนกระทั่งเสียหายมีผลต่อชีวิตได้ ตัวอย่างเช่น ทั้งไตวายเรื้อรัง หัวใจล้มเหลว เส้นโลหิตแดงส่วนปลายแข็งดำเนินงานไม่เต็มกำลัง สมองเสื่อม และเส้นโลหิตสมองแตกได้สุดท้าย ซึ่งหากไม่ตายก็อาจเป็นอัมพาต
โรความดันและเบาหวาน ปกป้องได้ด้วย”เจียวกู่หลาน”
สมุนไพรรักษาโรความดัน-เบาหวาน [url=https://kungtep.com/]เจียวกู่หลาน[/url] ผู้ป่วยหรือผู้ต้องการับประทานคุ้มครองป้องกัน ควรที่จะทำการเลือกสินค้าที่มีทะเบียนยาแล้วก็ทะเบียน(อย) สร้างขึ้นมาจากโรงงานตามมาตรฐานGMP

2

กระเทียม
กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic
กระเทียม ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum L. จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE)
สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกมากในทางภาคเหนือและก็ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม้กระนั้นสำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดี กลิ่นแรงคงจะหนีไม่พ้นจังหวัดศรีสะเกศา
สรรพคุณของกระเทียม
ช่วยบำรุงรักษาผิวหนังให้มีสุขภาพแข็งแรงแล้วก็แข็งแรง
ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเยื่อในร่างกาย
ช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและก็น้ำตาลในเลือด
ช่วยทำให้ปรับสมดุลภายในร่างกาย
ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อาการมึน ปวดศีรษะ หูอื้อ
ช่วยในเรื่องระบบสืบพันธุ์และก็ระบบทางเท้าเยี่ยว เนื่องจากว่ามีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนทั้งยังหญิงแล้วก็ชาย ช่วยให้มดลูกบีบตัว เพิ่มกำลังวังชาให้มีเรี่ยวแรง
ช่วยรักษาโรคความดันเลือด
ช่วยคุ้มครองการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวกะทันหัน
ช่วยต้านทานเนื้องอก
ช่วยจัดการกับปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
ช่วยป้องกันการเกิดและรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยสำหรับเพื่อการขับพิษและก็สารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
ช่วยปกป้องฝาผนังเส้นเลือดหนาและก็แข็งตัว
สารสกัดน้ำมันกระเทียมมีสารที่มีส่วนช่วยในการละลายลิ่มเลือด
ช่วยป้องกันการเกิดเส้นโลหิตตัน
มีสารต้านทานไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำมูกไหล คุ้มครองปกป้องหวัด
ช่วยรักษาโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบและก็ไซนัส
ช่วยรักษาโรคไอกรน
ช่วยแก้อาการหอบ หืด
ช่วยรักษาโรคหลอดลม
ช่วยระงับกลิ่นปากกระเทียม
ช่วยสำหรับเพื่อการขับเหงื่อ
ช่วยในการขับเสมหะ
ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยอาหารมาย่อยแผลในกระเพาะ
ช่วยสำหรับเพื่อการขับลม
ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องเฟ้อ ท้องเฟ้อ
ช่วยคุ้มครองป้องกันโรคท้องผูก
ช่วยรักษาโรคบิด
ช่วยสำหรับเพื่อการขับฉี่
ช่วยสำหรับการขับพยาธิได้หลายอย่าง เช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิด้าย พยาธิเข็มหมุด พยาธิไส้เดือน เป็นต้น
ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบจำพวกรุนแรงได้
ช่วยปกป้องการเกิดโรคไต
ช่วยฆ่าเชื้อโรครา เชื้อแบคทีเรียต่างๆรวมทั้งเชื้อราตามหนังศีรษะและบริเวณเล็บ
ช่วยยับยั้งเชื้อต่างๆดังเช่นว่า เชื้อที่กระตุ้นให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดบวม เชื้อวัณโรค เป็นต้น
ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่วกระเทียมคุณประโยชน์
ช่วยรักษาขี้กลาก เกลื้อน
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเยื่อ บำรุงข้อต่อรวมทั้งกระดูกภายในร่างกาย
บรรเทาลักษณะของการปวดข้อรวมทั้งเมื่อยตามร่างกาย
ช่วยแก้อาการเคล็ดลับขัดยอกรวมทั้งเท้าพลิก เพราะว่ามีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบประมาณริเวณที่นวดยาได้ดีเยอะขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
มีสารต่อต้านอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาติสซั่ม
กระเทียมมีกลิ่นแรงจึงสามารถช่วยไล่ยุงได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากของกิน
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากกระเทียม
ประโยชน์หลักๆของกระเทียมคงจะหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยปรุงรสชาติของของกิน ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่างๆอีกสารพัน
กระเทียมเป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและก็แร่ธาตุหลายชนิด และยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงขึ้นมากยิ่งกว่าพืชประเภทอื่นๆทั้งยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกาย
นอกจากนั้นยังมีการนำกระเทียมไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างหลากหลาย ได้แก่ กระเทียมเสริมของกิน กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมดอง ฯลฯ

คุณประโยชน์ทางโภชนาการของกระเทียมดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 149 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 33.06 กรัม
น้ำตาล 1 กรัม
ใยอาหาร 2.1 กรัม
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 6.36 กรัม
วิตามินบี 1 0.2 มก. 17%
วิตามินบี 2 0.11 มก. 9%
วิตามินบี 3 0.7 มก. 5%
วิตามินบี 5 0.596 มก. 12%
วิตามินบี 6 1.235 มิลลิกรัม 95%
วิตามินบี 9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 31.2 มก. 38%
ธาตุแคลเซียม 181 มก. 18%
ธาตุเหล็ก 1.7 มิลลิกรัม 13%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มก. 7%
ธาตุแมงกานีส 1.672 มิลลิกรัม 80%
ธาตุฟอสฟอรัส 153 มิลลิกรัม 22%
ธาตุโพแทสเซียม 401 มิลลิกรัม 9%
ธาตุสังกะสี 1.16 มิลลิกรัม 12%
ธาตุซีลีเนียม 14.2 ไมโครกรัม
% จำนวนร้อยละของจำนวนชี้แนะที่ร่างกายต้องการในทุกๆวันสำหรับผู้ใหญ่ (ที่มาที่ไป : USDA Nutrient database)
คำเสนอแนะแล้วก็ข้อควรตรึกตรองสำหรับเพื่อการใช้กระเทียม
กระเทียมยิ่งสดเท่าใดก็ยิ่งมีคุณประโยชน์ที่ดีเยี่ยมขึ้นแค่นั้น แม้กระนั้นสำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยแนวทางต่างๆหรือผ่านการหมัก จะก่อให้วิตามินและสารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นย่อยสลายไป
วิตามินแล้วก็แร่ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากมายหรือน้อยก็ขึ้นกับดินแล้วก็ลักษณะอากาศที่ใช้ในการเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูก ผู้ที่หรูหราน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ หรูหราความดันโลหิตเป็นปกติ ผู้ที่มีลักษณะอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมถึงคนที่ใช้ยาอื่นๆเสมอๆ เป็นต้นว่า ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต้านไวรัส คุณไม่ควรกินกระเทียมหรือผลิตภัณฑ์กระเทียมเสริมในจำนวนที่มากจนถึงเกินความจำเป็น เพราะว่าอาจทำให้เป็นอันตรายต่อสภาพร่างกายได้
สำหรับผู้ที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเสมอๆ อาจทำให้กำเนิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อกินได้ โดยอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการคลื่นไส้ และก็มีอาหารหัวใจที่เต้นแรงแตกต่างจากปกติ แม้กระนั้นอาการดังที่กล่าวถึงแล้วจะเบาๆหายไปเองภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารมักจะส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบใหม่ๆ
สำหรับคนที่อยู่ในครัวหรือผู้จำเป็นต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมเป็นประจำและเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน อาจจะก่อให้ผิวหนังมีการอักเสบ มีตุ่มน้ำได้ ด้วยเหตุนี้คุณควรจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกระเทียมโดยตรงเป็นประจำด้วยการใส่ถึงมือทุกคราวในช่วงเวลาที่จะใช้กระเทียม
แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์อยู่เยอะมาก แม้กระนั้นคุณก็ไม่สมควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง อีกทั้งผลสรุปที่ได้ในแต่ละบุคคลก็บางทีก็อาจจะต่างกันออกไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณควรเลือกรับประทานให้หลากหลายรวมทั้งครบ 5 หมู่ จะเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมที่สุด เพราะเหตุว่าผักสมุนไพรทั่วๆไป ถ้าเกิดเรียนกันในความเป็นจริงแล้ว มันก็มีประโยชน์มากพอๆกับกันเลย
ปัจจุบันนี้ในบ้านพวกเรายังไม่มีการรับรองว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง อาจเป็นไปได้เพียงแค่สมุนไพรลู่ทางสำหรับในการรักษาแล้วก็สมุนไพรเสริมสุขภาพแค่นั้นhttp://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรกระเทียม

3

ตะไคร้
ตะไคร้ (Lemon Grass) จัดเป็นผักสมุนไพรประเภทหนึ่งที่นิยมนำมาทำอาหารสำหรับขจัดกลิ่นคาว รวมทั้งช่วยเพิ่มรสชาตของของกิน ในมากมายรายการอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจำพวกที่เป็นอาหารต้มยำ และแกงต่างๆรวมถึงการนำมาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอาทิเช่น น้ำตะไคร้ ผงตะไคร้ เป็นต้น
ตะไคร้ เป็นไม้ล้มลุกตระกูลเดียวกันกับต้นหญ้า แก่มากกว่า 1 ปี ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม มีบ้านเกิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังเช่น เมียนมาร์ ไทย ลาว มาเลเชีย อินโดนีเชีย เป็นต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbopogon citratus (DC.)
สกุล : Graminae
ชื่อสามัญ : Lapine, Lemon grass, Sweet rush, Ginger grass
ชื่อท้องถิ่น:
– ตะไคร้
ตะไคร้แกง
– ตะไคร้มะขูด
– ค้างหอม
– ไคร
– จะไคร
– เชิดเกรย
– หัวสิงไค
– เหลอะเกรย
– ห่อวอตะโป
– เฮียงเม้า
ตะไคร้1
ลักษณะทั่วไป
ลำต้น
ลำต้นตะไคร้มีเหง้าใต้ดิน ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง ทรงกระบอก มีความสูงได้ถึง 1 เมตร (รวมถึงใบ)ส่วนของลำต้นที่เราแลเห็นจะเป็นส่วนของกาบใบที่ออกเรียงช้อนกันแน่น โคนต้นมีลักษณะกาบใบหุ้มดก ผิวเรียบ และก็มีขนอ่อนปกคลุม ส่วนโคนมีรูปร่างอ้วน มีสีม่วงอ่อนน้อย รวมทั้งค่อยๆเรียวเล็กลงเปลี่ยนเป็นส่วนของใบ ศูนย์กลางเป็นปล้องแข็ง ส่วนนี้สูงราวๆ 20-30 ซม. ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และก็จำพวก รวมทั้งเป็นส่วนที่ประยุกต์ใช้สำหรับเข้าครัว
ตะไคร้ ใบ
ใบตะไคร้ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ก้านใบ (ส่วนลำต้นที่กล่าวข้างต้น) หูใบ (ส่วนต่อ
ระหว่างกาบใบ รวมทั้งใบ) และก็ใบ
ใบตะไคร้ เป็นใบลำพัง มีสีเขียว มีลักษณะเรียวยาว ปลายใบโค้งทางลงดิน โคนใบเชื่อมต่อกับหูใบ ใบมีรูปขอบขนาน ผิวใบสากมือ และมีขนปกคลุม ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แต่ว่าคม กลางใบมีเส้นกลางเรือใบแข็ง สีขาวอมเทา มองเห็นต่างกับแผ่นใบชัดแจ้ง ใบกว้างราวๆ 2 ซม. ยาว 60-80 ซม.
ดอก
ตะไคร้เป็นพืชที่มีดอกยาก จึงไม่ค่อยพบเจอ ดอกตะไคร้ดอกจะออกดอกเป็นช่อกระจัดกระจาย มีก้านช่อดอกยาว และมีก้านช่อดอกย่อยเรียงเป็นคู่ๆในแต่ละคู่จะมีใบแต่งแต้มรองรับ มีกลิ่นหอมหวน ดอกมีขนาดใหญ่คล้ายดอกอ้อ
ดอกตะไคร้
คุณประโยชน์ตะไคร้

  • ลำต้น และใบสด


– ใช้เป็นเครื่องเทศทำอาหารสำหรับขจัดกลิ่นคาว ช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอมสดชื่น แล้วก็ปรับแต่งรสให้น่าอร่อยมากขึ้นเรื่อยๆ
– ใช้เป็นส่วนประกอบของยาใช้ภายนอกกันยุง สเปรย์กันยุง รวมทั้งยาจุดกันยุง

  • น้ำมันตะไคร้

    – ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำหอม
    – ใช้เป็นส่วนผสมสำหรับทำสบู่ แชมพูสระผม
    – ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง
    – ใช้ทานวด แก้เมื่อย
    – ใช้ทาลำตัว แขน ขา เพื่อคุ้มครอง และไล่ยุง
    – ใช้เป็นส่วนประกอบของสารป้องกัน และก็กำจัดแมลง
    ค่าทางโภชนาการของตะไคร้ ( 100 กรัม)

  • พลังงาน 143 กิโลแคลอรี่
  • โปรตีน 1.2 กรัม
  • ไขมัน 2.1 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 29.7 กรัม
  • เส้นใย 4.2 กรัม
  • แคลเซียม 35 มก.
  • ฟอสฟอรัส 30 มก.
  • เหล็ก 2.6 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 43 ไมโครกรัม
  • ไทอามีน 0.05 มก.
  • ไรโบฟลาวิน 0.02 มก.
  • ไนอาสิน 2.2 มก.
  • วิตามินซี 1 มิลลิกรัม
  • เถ้า 1.4 กรัม


ที่มา: กองโภชนาการ (2544)(1)
สารสำคัญที่พบ
ส่วนของลำต้น และก็ใบมีน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil) ที่ประกอบด้วยสารหลายชนิด อย่างเช่น
– ซิทราล (Citral) มักพบที่สุด 75-90%
– ทรานซ์ ไอโซสิทราล (Trans-isocitral)
– ไลโมเนน (Limonene)
– ยูจีนอล (Eugenol)
– ลิท้องนาลูล (Linalool)
– พบรานิออล (Geraniol)
– คาริโอฟิวลีน ออกไซด์ (Caryophyllene oxide)
– พบรานิล อะซิเตท (Geranyl acetate)
– 6-เมทิล 5-เฮพเทน-2-วัน (6-Methyl 5-hepten-2-one)
– 4-โนทุ่งนาโนน (4-Nonanone)
– เมทิลเฮพครั้งโนน (Methyl heptennone)
– สิโทรเนลลอล (Citronellol)
– ไมร์ซีน (Myrcene)
– การบูร (Camphor)
เก็บจาก ทอง ขยัน (2552)(2), กมลวรรณ ตระการชัยสกุล (2551) อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ(4)

สรรพคุณตะไคร้

  • ลำต้น และก็ใบ


– ช่วยบรรเทา และก็รักษาลักษณะของการมีไข้หวัด
– แ้ก้ไอ รวมทั้งช่วยขับเสลด
– บรรเทาอาการโรคหืดหอบ
– รักษาอาการปวดท้อง
– ช่วยขับฉี่ แก้ฉี่ยาก
– ช่วยขับเหงื่อ
– ช่วยสำหรับในการขับลม
– แก้อหิวาต์
– บำรุงธาตุ เจริญอาหาร
– ช่วยลดระดับความดัน โลหิตสูง
– ลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นโลหิต
– แก้รอบเดือนมาเปลี่ยนไปจากปกติ

  • ราก


– ใช้เป็นยาแก้ไขปวดท้อง รวมทั้งท้องเสีย
– ช่วยขับปัสสาวะ
– บรรเทาอาการไอ รวมทั้งขับเสมหะ

  • น้ำมันหอมระเหย


– ออกฤทธิ์ต้านเชื้อรา
– ช่วยกำจัดเซลลูไลท์
– ช่วยสำหรับในการขับถ่าย
– ทุเลาอาการท้องร่วง
– ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง จากฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้
– ช่วยขับน้ำดี
– ช่วยขับลม
– ระังับอาการปวด
– ต้านทานอาการอักเสบ รวมทั้งลดการต่อว่าดเชื้อ
– กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด
– ลดอาการเศร้าใจ
– ต่อต้านอนุมูลอิสระ
สะสมจาก กาญจนา ขยัน (2552)(2), ดวงใจวรรณะ น่าอัศจรรย์ชัยสกุล (2551)(4)
ฤทธิ์ทางยาของสารสกัดจากตะไคร้

  • ฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้


น้ำมันหอมระเหยของตะไคร้ออกฤทธิ์ลดอาการแน่นจุกเสียดด้วยการลดการบีบตัวของไส้ โดยมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ อาทิเช่น Cineole รวมทั้ง Linalool

  • ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุอาการของอาการท้องเสีย


สารเคมีในน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้สามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สำคัญของอาการท้องเสีย คือ E. coli โดยมีสารออกฤทธิ์ อาทิเช่น Citral, Citronellol, Geraneol และ Cineole

  • ฤทธิ์ขับน้ำดี


น้ำมันหอมระเหยของตะไคร้สามารถออกฤทธิ์กระตุ้นการขับน้ำดีของตับอ่อน โดยมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ ตัวอย่างเช่น Borneol, Fenchone รวมทั้ง Cineole

  • ฤทธิ์ขับลม


สาร Menthol, Camphor และ Linalool สามารถออกฤทธิ์กระตุ้นการขับลมในร่างกายได้
พิษของน้ำมันตะไคร้
ปริมาณน้ำมันตะไคร้ที่ทำให้หนูขาวตายที่ครึ่งเดียวของจำนวนหนูขาวทั้งผอง ด้วยการให้ทางปาก  ที่ความเข้มข้น 5,000 มก./โล รวมทั้งการให้น้ำมันหอมระเหยทางกระเพาของกินแก่กระต่ายที่ทำให้กระต่ายตายที่ครึ่งหนึ่ง พบว่า มีจำนวนความเข้มข้นเดียวกันกับการให้แก่หนูขาว
พิษทันควันของน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ที่ความเข้มข้น 1,500 ppm ในระยะเวลา 60 วัน กลับพบว่า หนูขาวที่ได้รับน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้มีการเติบโตเร็วกว่ากลุ่มที่ไม้ได้รับ และก็ค่าทางเคมีของเลือดไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

4

ขิง
ถึงแม้ว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำครัวรวมทั้งมีสรรพคุณในการรักษาโรค ถึงแม้ขิงจะมีกลิ่นฉุนและก็มีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากหลายท่านนั้น แม้กระนั้นขิงก็เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำกับข้าวรวมทั้งมีสรรพคุณรักษาโรค เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าสมุนไพรดีๆอย่างขิงนั้นมีสาระรวมทั้งโทษอะไรที่พวกเรานึกไม่ถึงบ้าง
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิง
+ ลดอาการท้องอืดแม้คุณรู้สึกท้องอืดหรือของกินไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือรับประทานขิงสดจะทำให้คุณเข้าใจกันดีขึ้น หรือถ้าคุณเกิดอาการท้องอืดที่เกิดจากการกินถั่วละก็ ครั้งหลังลองฝานถั่วบางๆลงไปในของกินที่มีถั่ว โน่นก็จะช่วยลดอาหารท้องอืดได้เช่นกันจ้ะ เพราะขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นแนวทางการทำงานของลำไส้ทำให้ อาการท้องอืดบรรเทาลงได้
+ ช่วยบรรเทาอาการไมเกรน
จากการเล่าเรียน
พบว่า การกินขิงเวลาที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบเสิบสานนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บจากอาการไมเกรนน้อยลงได้ เพราะเหตุว่าขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ นอกเหนือจากนั้นยังมีการเล่าเรียนอื่น บอกให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าคนที่มีลักษณะอาการของโรคข้อหัวเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีลักษณะอาการต่ำลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำวันแล้ววันเล่า
ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิง และโทษที่คุณอาจไม่ได้นึกฝัน
+ ช่วยป้องกันมะเร็ง
 ขิงมีคุณลักษณะในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงช่วยให้เซลล์ของโรคมะเร็งภายในรังไข่ตาย เพราะว่าในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็เลยช่วยคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งได้ ยิ่งกว่านั้นยังพบอีกว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีขิงเป็นองค์ประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
+ ช่วยบรรเทาอาการอาเจียน
 ขิงสามารถบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ โดยชาวเอเชียนั้นชอบใช้ขิงสำหรับการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกเหนือจากนี้ยังมีหลายการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงสามารถช่วยคุ้มครองแล้วก็บรรเทาอาการอาเจียนภายหลังการผ่าตัดและยังช่วยบรรเทาอาการอาเจียนแล้วก็อาเจียนในคนป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดรักษาได้อีกด้วย
+ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
 มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นกับผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 แม้กระนั้นก็ควรจะที่จะปรึกษาหมอก่อนรับประทานขิงร่วมกับยา เพราะเหตุว่าขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะเหตุว่าหากกินขิงมากจนเกินไปก็อาจจะก่อให้ระดับอินซูลินลดลงมากเกินไปกระทั่งอยู่ในพิกัดอันตรายได้
คุณประโยชน์ของขิง รวมทั้งโทษที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ขิงดอง คุณประโยชน์ดีก็มีนะ รู้ยัง?
 พวกเราอาจจะเคยได้ฟังกันมาว่าการรับประทานของดองไม่ดีกับสุขภาพ แต่ว่าต้องขอนอกจากไว้สำหรับขิงดองจ้ะ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้วหากแม้ขิงดองจะเป็นอาหารที่ผ่านการหมักดองด้วยน้ำส้มสายชู แม้กระนั้นเรื่องสรรพคุณ และผลดีเพื่อสุขภาพ ขิงดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงใหม่ๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงดองมีดังนี้
* ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ และก็อาการแพ้ท้อง

เนื่องจากว่าขิงดองเป็นอาหารที่มีกลิ่นฉุนอีกทั้งยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้กลายเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะอาการเมาเรือ เมารถ และก็สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งชอบมีลักษณะอาการแพ้ท้อง เอาไว้กินเวลาที่รู้สึกอาเจียน เพราะเหตุว่าจะช่วยบรรเทาอาการได้จ้ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ทดลองใช้ขิงดองมองนี่ล่ะจ้ะ เด็ด !
* ช่วยล้างปากเวลารับประทานอาหาร
 สำหรับคนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่าทำไมเวลาไปกินอาหารญี่ปุ่นแล้วบนจานของกินประเทศญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือขิงดองเหล่านั้นมีไว้รับประทานล้างปากจ้ะ โดยส่วนมากในการกินอาหารญี่ปุ่น จะกินขิงดองตามเข้าไปหลังจากรับประทานอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารจานเดิมติดอยู่ในปากจนทำให้รู้สึกมันและก็กินจานถัดไปไม่ไหว ทั้งยังทำให้ลิ้มรสของกินจานต่อไปได้อย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย
* โซเดียมต่ำ
 หากแม้ขิงดองจะมีรสจัด แต่ว่าน่าประหลาดที่ขิงดองเป็นอาหารที่มีโซเดียมต่ำมากเมื่อเทียบกับของกินหมักดองประเภทอื่นๆเมื่อเอามากินและทำให้ไม่ต้องวิตกกังวลกับจำนวนโซเดียม ลดความเสี่ยงที่จะกำเนิดความดันเลือดสูงลงไปได้อีกเยอะแยะเลย
คุณประโยช์จากขิง และก็โทษที่คุณอาจคิดไม่ถึง
ข้อควรคำนึงในการทานขิง
- อาจจะก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้
 มีบางการศึกษาพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนสำหรับการตั้งครรภ์และก็การแท้ง แม้กระนั้นสำหรับการท้องรายอื่นๆนั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะทำให้กำเนิดอาการพวกนั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอาเจียนจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนจะที่ใช้ขิงในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองค่ะ
- กระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในด้านในปากได้
 ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้ากินเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุภายในโพรงปากเกิดการอักเสบจนกระทั่งเป็นอาการร้อนในได้ โดยเหตุนี้ไม่ควรกินขิงมากเกินไปจ้ะ
- ยั้งการแข็งตัวของเลือด
 การเล่าเรียนหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณในการต่อต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้ออกคำตักเตือนให้งดการรับประทานขิงในระหว่างที่ใช้ยาละายลิ่มเลือดด้วยเหตุว่าจะทำให้กำเนิดการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณมีอาการเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด น่าจะหลีกเลี่ยงการรับประทานขิงจ้ะฃ http://www.disthai.com/

หน้า: [1]