รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - jjoolki0214555

หน้า: [1]
1

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญวัยในแถบอินเดีย แอฟริกา รวมทั้งเอเซียอาคเนย์ ใบแล้วก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของอินเดียและจีนมาอย่างช้านาน ใช้รักษาหลายโรค เช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาทำครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอยู่หลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือตรีเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียว่ากล่าววัวไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียติเตียนก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และก็กรดมาดีคาสสิค (Madecassic Acid) ก็เลยทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยเชื่อว่ามีคุณประโยชน์หลายแบบ เช่น บรรเทาอาการอักเสบ ถ้าเกิดใช้รับประทานอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันโลหิตในเส้นเลือดดำ และก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีสาเหตุมาจากการตำหนิดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเป็นต้นว่า หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบฟุตบาทปัสสาวะ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกเหนือจากนั้น ยังมีความเห็นว่าหากใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับในการสมานบาดแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีต้นเหตุมาจากการมีครรภ์ แต่สิ่งที่ใช้พิสูจน์หรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันความเชื่อถือ สรรพคุณ และความปลอดภัยของใบบัวบกในการรักษาโรคกลุ่มนี้
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่อาจได้ผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงรักษาและก็สร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเจริญเติบโตของเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับปรุงการไหลเวียนของโลหิต ยิ่งกว่านั้น ยังมีการเล่าเรียนโดยการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวโยง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนป่วยที่มีปัญหาเส้นโลหิตขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก แล้วก็อาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้สารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยบรรเทาอาการผู้ป่วยเส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากงานค้นคว้าระบุว่าบทสรุปข้างต้นจำต้องแปลความหมายด้วยความระแวดระวังเพราะข้อจำกัดต่างๆของงานวิจัย รวมทั้งยังจำเป็นจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องชัดเจนแล้วก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นไปได้ แต่ยังมีหลักฐานเกื้อหนุนน้อยเกินไป
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับในการลดปริมาณไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกลุ่มหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน แล้วก็อีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของหลอดเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครทั้งยัง 2 กลุ่มไม่ได้ต่างอะไรกัน แต่ว่าในกรุ๊ปที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมทั้งลักษณะของพลัคทั้งยังความครึ้มรวมทั้งความยาวก็น้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน ทั้งยังยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้ และมีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ เนื่องมาจากหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคหลอดเลือดแดงแข็งยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ป้องกันลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจช่วยปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุมาจากการโดยสารเรือบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาเสนอแนะว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวรวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในผู้ที่โดยสารเครื่องบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการเรียนชิ้นนี้จะหมายความว่าการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เหตุเพราะหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการปกป้องลิ่มเลือดยังไม่เพียงพอ จึงต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในคนไข้เบาหวาน การค้นคว้าหนึ่งให้คนเจ็บโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยจำนวน 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารไตรเทอร์พีนอยด์เป็นหัวใจสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกเป็นประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของคนไข้โรคเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนเลือดยังไม่พอ จึงจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการวิจัยเกี่ยวกับสมรรถนะและก็ผลข้างเคียงของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งคนเจ็บเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารเอเชียตำหนิโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. แล้วก็อีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลข้างหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และมีการประเมินผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนไข้ที่รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดียิ่งกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือพูดได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลใกล้กัน แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการรักษาแผลเบาหวานยังไม่พอ ก็เลยควรต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก เป็นต้นว่า ทวีปเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ กรดเอเชียติเตียนก มาเดแคสโซไซด์ และก็กรดมาดีค้างสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายและอาจมีสมรรถนะสำหรับเพื่อการรักษาแผลต่างๆแผลขนาดเล็ก แผลไฟลุก แผลเป็นจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลแบบนูน ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องนาน 6-8 สัปดาห์ อาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่ด้วยเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแผลยังไม่พอ จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีการค้นคว้าวิจัยชี้แนะให้ผู้ที่กำลังมีท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี แล้วก็คอลลาเจน บ่อยๆทุกวี่วันในตอน 6 เดือนในที่สุดก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ ยิ่งกว่านั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงมีท้องปริมาณ 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกลุ่มที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ลดความไม่สาบายใจ การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการเหงาหงอยแล้วก็ความรู้สึกกังวลใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสามารถของใบบัวบกในการลดความไม่ค่อยสบายใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือรับประทานยาหลอก จากผลของการทดลองแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านความรู้สึกกังวล ช่วยลดความตึงเครียด แต่ยังคงต้องศึกษาเพิ่มอีกต่อไปถึงคุณภาพของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคกังวล
โรคและก็อาการอื่นๆอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การตำหนิดเชื้อทางเดินฉี่ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย ซึ่งยังจึงควรศึกษาค้นคว้าหาประสิทธิภาพแล้วก็ความปลอดภัยสำหรับในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยสำหรับการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังมีท้อง หรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมบุตร เพราะเหตุว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เพียงพอที่จะสนับสนุนถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งต่อเด็ก แม่ หรือทารกในท้อง
การกินใบบัวบกบางทีอาจเป็นต้นเหตุให้กำเนิดความย่ำแย่ต่อตับ เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรรับประทานใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจจะส่งผลให้อาการต่างๆแย่ลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกรุ๊ปเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีปีน ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตติน เป็นต้น
การกินใบบัวบกในจำนวนมากอาจก่อให้รู้สึกง่วงงุนได้มากกว่าปกติ หรือถ้ารับประทานร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกลุ้มใจลดลง ได้แก่ โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล รวมทั้งโซลพิเดม
ควรจะหยุดรับประทานใบบัวบกขั้นต่ำ 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เพราะบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับในการผ่าตัดและอาจก่อให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรขอคำแนะนำแพทย์ก่อนรับประทานใบบัวบก แม้อยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ปรารถนาแม้กินใบบัวบกในระหว่างการดูแลรักษาของคนเจ็บโรคกังวล ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนไข้อัลไซเมอร์ รวมถึงผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยากังวลใจน้อยลง รวมทั้งคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่าอาจก่อให้กดประสาทเยอะขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรบัวบก

2

ทับทิม
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
ทับทิมช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อ ทับทิม ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
ประโยชน์ของทับทิมน้ำตาล 13.67 กรัม
เส้นใย 4 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
โปรตีน 1.67 กรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ http://www.disthai.com/

3

รากสามสิบ
รากสามสิบ คุณประโยชน์สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพที่คนอยากมีลูกห้ามพลาด
          รากสามสิบ คุณประโยชน์เด่นๆของสมุนไพรตัวนี้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งหลายๆคนอาจเคยได้เห็นสมุนไพรรากสามสิบแบบแคปซูลกันมาบ้าง แล้วรู้ไหมขาว่า คุณประโยชน์ของรากสามสิบ สมุนไพรตัวเด็ดนี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยคนอยากมีลูกแค่นั้น
รากสามสิบ สมุนไพรนี้มีที่มา
          รากสามสิบตามที่เป็นจริงแล้วถูกเรียกหลายชื่อมากมายๆได้แก่ สาวร้อยสามี จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ) ผักชีช้าง ผักหนาม (ภาคอีสาน) สามร้อยราก สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน หรือม้าสามต๋อน มีชื่อสามัญว่า Shatavari
          ส่วนลักษณะต้นรากสามสิบเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง มีหนามแหลม มีเหง้าและรากใต้ดินเหมือนรากของต้นกระชาย ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว แยกเป็นช่อ มีกลิ่นหอมหวน เป็นต้นที่ส่งผลสดลักษณะกลม ผิวเรียบมัน แล้วก็มีเม็ดสีดำ
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
สรรพคุณรากสามสิบ
          รากสามสิบถูกเปรียบเทียบให้เป็นพลังแห่งการปฏิสังขรณ์ความสาว (Female Rejuvenation) เป็นยาโบราณที่หมอแผนโบราณรวมทั้งแพทย์สมุนไพรใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งก็นับเป็นสาเหตุของชื่อสาวร้อยสามี ชื่อเล่นอีกชื่อของรากสามสิบนั่นเอง โดยคนโบราณชอบนำรากมาต้มกินหรือปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานกับน้ำผึ้ง ซึ่งบอกต่อๆกันว่า จะช่วยบำรุงสตรีให้ไมว่าจะอายุเยอะแค่ไหนก็มีลูกได้ง่าย
          นอกจากนี้สมุนไพรรากสามสิบยังผ่านการศึกษาวิจัยสรรพคุณมาล้นหลาม โดยพบว่า รากสามสิบมีสรรพคุณทางเภสัชวิทยาตามนี้ติดตัวอยู่ด้วย
          - ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เชื้อรา
          - คลายกล้ามมดลูก
          - บำรุงหัวใจ
          - ลดการอักเสบ
          - แก้ปวด
          - ยับยั้งโรคเบาหวาน
          - ปราบเซลล์มะเร็ง
          - กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
รากสามสิบ
          - ต่อต้านภาวการณ์เม็ดเลือดขาวต่ำ
          - ลดระดับไขมันเลือด
          - คุ้มครองกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
          - ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง
          - มีฤทธิ์ใกล้เคียงฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนผู้หญิง)
          - ช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง
          - ขับน้ำนม
          - ช่วยทำให้การตกไข่สมบูรณ์
          - ช่วยทำนุบำรุงกำลังท่านชาย
          - เสริมความแข็งแรงของน้ำอสุจิอสุจิ
          - ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะ
          - ลดอาการกรดเกินในกระเพาะอาหาร
          - ยั้งพิษต่อตับ
          - แก้ริดสีดวงทวาร
          - ขับลม
          - ขับฉี่
          - ขับเสลด
          - บำรุงเด็กในครรภ์
          - แก้ตกเลือด
          - รักษาโรคคอพอก
          - แก้ปวดเมื่อย ครั่นตัว
          - ฝนรากทาเป็นยาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้
          - กระตุ้นประสาท บำรุงกำลัง
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
          และด้วยสรรพคุณของรากสามสิบที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยพะเยาจีงได้ศึกษาวิจัยเรื่อง ผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการคุ้มครองป้องกันการสลายเนื้อกระดูกและอวัยวะสืบพันธุ์ ในหนูแรทที่ถูกตัดรังไข่ เพราะเหตุว่ามองเห็นว่า โรคกระดูกพรุนซึ่งมักจะกำเนิดกับเพศหญิงมากยิ่งกว่าเพศชายนั้น มีต้นเหตุหลักจากการลดน้อยลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนภายหลังหมดเมนส์ โดยได้ผลการทดสอบมาว่า หนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบภายหลังจากถูกตัดรังไข่ มีน้ำหนักมวลกระดูกที่มากกว่ากลุ่มหนูถูกตัดรังไข่แม้กระนั้นไม่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบ
          นอกจากนี้สารสกัดรากสามสิบยังไม่ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวในเยื่อบุโพรงมดลูก ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงสรุปได้ว่า สารสกัดรากสามสิบอาจมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการป้องกันการสลายของเนื้อกระดูกในตัวทดลองได้ โดยไม่ส่งผลกระทบอะไรก็ตามต่ออวัยวะสืบพันธุ์ ทว่ายังคงจำต้องทดลองเพิ่มอีกเพื่อศึกษาว่า สารสกัดรากสามสิบจะมีผลเสียอะไรก็ตามกับอวัยวะอื่นหรือเปล่า
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี       

หารากสามสิบได้จากที่ไหน
          หากแม้ต้นรากสามสิบจะยังมีให้มองเห็นอยู่ในประเทศไทย แม้กระนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปขุดหารากสามสิบมาต้มกินให้เหนื่อย เพราะว่าปัจจุบันนี้มีสารสกัดรากสามสิบในรูปแคปซูลมาให้เลือกซื้อมากมาย แต่ทั้งนี้ควรจะตรวจตราให้แน่ว่าแคปซูลรากสามสิบมีสัญลักษณ์รวมทั้งได้รับการรับรองจากหน่วยงานอาหารรวมทั้งยาไหม
          แม้กระนั้นถ้าผู้ใดกันแน่สามารถหาต้นรากสามสิบสดๆได้ จะเอามาต้มยารับประทานเองเราก็มีสูตรยาสมุนไพรรากสามสิบมาให้ด้วยค่ะ
น้ำรากสามสิบ (สูตรเริ่มแรก)
     ส่วนประกอบ

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กิโล
  • น้ำ 10 ลิตร


     แนวทางการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกและก็ดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกรอบ
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • ใส่รากสามสิบ ลงในหม้อต้ม
  • เคี่ยวราวๆ 3 ชั่วโมง
  • ชิมรส และก็สามารถเพิ่มเติมน้ำตาลกรวดหรือใบเตยเพิ่มความหอมลงไปได้
รากสามสิบแช่อิ่ม
     ส่วนประกอบ

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กิโลกรัม
  • น้ำตาลทราย 1.5 โล
  • น้ำ 5 ลิตร
    แนวทางการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกแล้วก็ดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกครั้ง
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • เพิ่มน้ำตาล ลงในหม้อต้ม
  • ต้มจนน้ำตาลทรายละลายหมด
  • ใส่รากสามสิบ
  • ต้มต่อจนกระทั่งเป็นสีเหลืองทอง
รากสามสิบ
ข้อพึงระวังสำหรับในการใช้สมุนไพรรากสามสิบ
          เนื่องจากว่าสมุนไพรรากสามสิบออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้นจึงจัดเป็นยาสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัยนักต่อเพศหญิงที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งอยู่แล้ว เป็นต้นว่า ผู้ที่ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในมดลูก (Uterine Fribrosis) หรือมีก้อนเนื้อในเต้านม (Fibrocystic Breast) ฯลฯ โดยเหตุนี้ไม่ว่าจะใช้สมุนไพรอะไรก็ควรปรึกษาหมอก่อนจะเยี่ยมที่สุดนะคะ       
          มองเห็นคุณประโยชน์รากสามสิบกันไปแล้วคนจำนวนไม่น้อยเริ่มพอใจอยากหารากสามสิบมาบำรุงสุขภาพกันบ้าง แต่ว่าก็อย่าลืมที่เตือนไว้นะคะ ก่อนซื้อแคปซูลรากสามสิบมากิน ควรจะตรวจตราแหล่งที่มาและก็ยี่ห้อ รวมถึงการรับรองจากหน่วยงานที่น่าไว้ใจด้วย http://www.disthai.com/

4

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือมีผลอย่างไรต่อเซลล์ต่อมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคความดันสูง และโรคอื่นๆอันแสนเหนื่อยที่จะรักษา ติดตามผลการศึกษาเรียนรู้รับรองสรรพคุณได้ในเนื้อหานี้ค่ะ
บทความพวกนี้อ้างอิงสรรพคุณของเห็ดหลินจือจากผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยรับรองจากที่ต่างๆเพื่อเพื่อนพ้องได้พินิจพิเคราะห์ด้วยตัวเองว่ารักษาโรคได้ดีแค่ไหนและก็น่าไว้ใจแค่ไหน ถ้าเกิดเพื่อนฝูงๆเคยอ่านบทความเกี่ยวกับสรรรพคุณหรืองานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเกี่ยวกับเห็ดหลินจือจากที่อื่นมาก่อน แล้วรู้สึกอ่านไม่ง่ายเยอะแค่ไหนไหมรู้เรื่อง บทความในเว็บแห่งนี้คนเขียนได้คัดและก็รวบรวมจากหลายที่และเขียนในภาษาที่อ่านง่ายที่สุดเท่าที่จะทำเป็น
สหายๆชอบบทความนี้ก็จะเป็นอย่างยิ่งหัวใจให้คนเขียนได้บทความดีๆให้เพื่อนฝูงอ่านกันอีกต่อไปบทความเห็ดหลินจือรักษาโรคเด็ดๆที่เพื่อนๆจำเป็นต้องชอบ
ระบบภูมิคุ้มกันเป็นกลไกการกำจัดเชื้อโรค สารเคมีแปลกปลอม เซลล์มะเร็ง และก็สิ่งเจือปนอื่ๆที่จะเข้ามาทำอัตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายเรานั้นเอง ด้วยเหตุผลดังกล่าวถ้าเกิดเพื่อนๆมีระบบภูมิต้านทานดีก็จะไม่ป่วยไข้ง่าย หรือถ้าหากเจ็บป่วยก็จะรู้สึกตัวเร็ว แต่ว่าถ้าเกิดระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีก็จะป่วยหลายครั้งและเป็นหนักกว่าผู้ที่มีระบบูมิคุ้มกันแข็งแรง มาถึวที่ตรงนี้แล้วเพื่อนฝูงๆคงเห็นจุดสำคัญของการมีระบบระเบียบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกันแล้ว
ชาวจีนโบราณใช้เห็ดหลินจือมาเป็นเวลานานกว่า 2000 ปีแล้ว แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าเพราะอะไรทานเห็ดหลินจือถึงแก่ยืนรวมทั้งแข็งแรงไม่ค่อยเป็นโรค ในเวลานี้เราสมารถพิสูจน์ได้ในทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าสารกลุ่ม Polysacchayide ในเห็ดหลินจือนั้นสามารถเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับเราได้จริง สารกลุ่มดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถกระตุ้นการสร้าง Interleukin รวมทั้ง Immuoglodulin ซึ่งส่งผลให้ระบบภูเขามปกป้องดีและแข็งแรงขึ้น
ระบบภูมิต้านทานที่ถูกเสริมด้วยสาร Polysaccharide ในเห็ดหลินจือจะสามารถต้านทานวรัส เซลล์มะเร็ง แล้วก็จำกัดสารอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังช่วยทำให้คนที่ถูกผลข้างเคียงที่โดนยาต้านโรคมะเร็งบางตัวแล้วก็กระบวนการทำคีโมกดภูมิต้านทานให้มีระบบภูมิต้านทานดีขึ้นอีก และเห็ดหลินจือยังมีสารออกฤทธิ์ต้านทานการแบ่งตัวของเชื้อ HIV อีกด้วย ซึ่ง กรุ๊ปดังที่กล่าวมาข้างต้นเป็นกลุ่ม Bitter Triterpenoids
A
นักค้นคว้าได้ศึกษาและทำการค้นพบสารหลากหลายประเภทในเหล็ดหลินจือที่ช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นโลหิต คือ Ganoderic Acid แล้วก็ Lucidenic Acid ซึ่งสาร 2 จำพวกที่ได้กล่าวมาแล้ว นอกเหนือจากช่วยลดไขมันในเส้นโลหิตได้แล้ว ยังป้องกันไม่ให้ไขมันอุดตันเส้นโลหิตได้โดยตรงอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีสารกลุ่ม Nucleotide ที่สามารถช่วยลดการอุดตันของลิ่มเลือดในเส้นโลหิต รวมทั้งช่วยลดอัตราเสี่ยงที่จะเป็นอัมพาตได้อีกด้วย
ได้มีนักวิทยาศาสตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นทดลองให้สารสกัดเห็ดหลินจือกับผู้ที่เป็นโรคไขมันเส้นโลหิตสูง 70 ราย แล้วก็ทำเก็บผลของการทดสอบภายหลังจากผ่านไป 3 เดือน พบว่าโคเรสเตอรอลของผู้รับการทดสอบน้อยลงไปถึง 74% ซึ่งก็สอดคล้องกับผลจากการวิจัยจากทั่วโลก และยังพบว่าเห็ดหลินจือ เว้นเสียแต่ช่วยลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือดแล้ว ยังมีผลให้โลหิตไหลเวียนอีกด้วย
โดยเหตุนี้ ก็เลยอาจพูดได้ว่า เครื่องพิสูจน์ทางคุณสมบัติและก็ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง การค้นคว้าวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีคุณภาพพอเพียง หรือเป็นเพียงแค่การทดลองในคนป่วยบางกรุ๊ปเท่านั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรจะปฏิบัติการทดลองต่อไป เพื่อได้ได้ผลลัพ์ที่แจ่มกระจ่าง และมีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาคนไข้โรคมะเร็งได้ในอนาคต

สภาวะต่อมลูกหมากโต และก็การเจ็บป่วยในระบบทางเดินฉี่
มีกรรมวิธีการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดลองในผู้เจ็บป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะฉี่ติดขัด หลังการทดสอบกว่า 12 สัปดาห์ คำตอบที่ได้คือ ผู้ป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของคนเจ็บจากการตอบคำถาม แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนั้น การทดลองดังที่กล่าวผ่านมาแล้วก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างเพียงพอ จำเป็นที่จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่เด่นชัดสำหรับในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพใดๆก็ตามที่เกี่ยว
ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะช่วยเหลือผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับในการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือสิ่งเดียวกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้ป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
ดังนั้นจะต้องมีการค้นคว้าทดลองถึงความสามารถของเห็ดหลินจือในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆพวกนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันและการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจต่อไป และให้ได้การชัดเจนชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวถึงแล้วมากขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อกรรมวิธีรักษาป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจรวมทั้งอาการต่างๆที่เกี่ยวโยงต่อไปในอนาคต

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ

หน้า: [1]