รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - giulp54252

หน้า: [1] 2
1

ราชพฤกษ์ ผักชี คุณประโยชน์ดีอย่างไร เพราะอะไรคนญี่ปุ่นถึงฮิตกินผักชีหนักมากมาย มาทำความรู้จักประโยช์tyจาkilกราชพฤกษ์ผักชี ผัioulwguilๆกลิ่นoiGจะแhrtภท|hrจำthGRtyjEhrtพวก}นี้เข้าอย่างจัRErtuiulhthrtง ทั้งที่คุณปhrtระโยชน์ของผักชีกล่าyjtวได้ว่าดีตั้งแต่รากjtyจนกระuilทั่งใบ ukkiuyukiulด้วยเiuillหตุนั้นต่อไปแม้เจอผักชีอยู่uilในจtyานirthjtytuiluiอาหารก็อย่ghtrjtyuilาพึ่งจiuluiGEuiRluilเขี่ยทิ้uiงนะคะ {เพjytmyukkyราะ|เพuilราะว่jtyผักชีให้อายtyjtyyukคนyukปiulระเทศญี่ปุ่yukนuykjyukil;uiulปเพuiluiราะเหeตุใดluierกันล่ะเนอะผักชีผักชี สtyjtyjมุนไhrพรมีดีที่อยากให้รู้จัก ผักชี หรือภาษyukาอังกฤษว่yukา yukCoriander เป็jkyukykนไม้ล้มลุกที่jtyมีสีเjtyยวyukตลอดทั้งต้ykuน เสลด และก็รักษาโรคริดสีดวงทวาร   - รากผักชี ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยyukyukyuขับพิษไข้หัว ไข้อีดำอีแดkyuง รักษาหิด yukและอีkukyukสุกอีใสผักlชีวิธีแล้วก็ปริมาณที่uilใช้ผักชีเป็นยา ใช้ต้นผักชีแห้ง 1uilui0-15 กรัม หรือต้นสด 60-150 กรัม มาต้ehttมเอาน้ำyukมาดื่ม hrหรือคั้นน้ำผักชีมาดื่ม หากใช้ด้านนอกให้เอาน้ำสุกiulผักชีมาuilชำระล้าง หรือนำผักชีต้มมาตำแล้วก็พอกให้ทั่ว หรือถ้าหากจะใช้เมล็ดผักชีแก้ปวดykrlkjฟัน iulกษาแผลในuilปาก ใuiluiห้นำเมล็ดliulผักชีต้มน้ำ แล้วเอาน้ำผักชีมiulาบ้วนปากเป็นประจำ

Tags : ราชพฤกษ์

2

พริกไทยดำ ขอบชะนางขอบชะนาง ชื่อวิทยาศาสตร์ Gonostegia pentandra (Roxb.) Miq.  (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Pouzolzia pentandra (Roxb.) Benn.) จัดอยู่ในสกุลกะลังตังช้าง (URTICACEAEหรือ CROPIACEAE)สมุนไพรขอบชะนาง มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า หญ้ามูกมาย (oi;io;io';opสระบุรี),พริกไทยดำ ขอบชะนางขาeeว หนอehนตายopehrehpต้erองการขาว หนอนขาว ขอบชะนางtyyukแดง หljtyuiluiluilนอนตายอยากแดง หนอนแtyดง (ภาคpo'op'opกลาehrhjtyjtyjงyj), หญ้าหนอนตาย (ภาคเหนือop'), ตาสียาเสียเวลาเปล่า โคนสีเพาykuyukyะเกล (กะเuyliuoio;หรี่ยง-แม่yukyukฮ่องสอน), เปลืi;io;iooอกมืนดิน ฯล;io;ฯลักษณะrtของjtyขอhrthบชะนางต้io;นขอjtyบชะนาtyjง มีเขo'o'poตjtyผู้กrthrรjtyjtyะทำระจายhrthrthrtจำtjrพวกอrhjยู่io;oi;วทุกภาคของjtyประเทศio;op'opอjtyยู่ร่วมกัน io;2 ชนิrehด เช่น ขอบชะนางแดงและขอบชะนางขาว ;io;oioโดยจัดเป็นพ;io;ioรรณไม้ล้มลุกประเภทต้นหญ้าjty รวมทั้;io;oiงเลื้อยแผ่jtyjt;oi;yไปตามดินแต่ว่ายอดจะตั้ง io;ลำoi;ioต้นมีขนาดใหญ่กว่าก้านไม้ขีดเพียงเล็กน้อย โดยเป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นตามเรือกสวนริมร่อง และขึ้l;oi;uiนตามพื้นที่ร่มjtyykเย็นoi;เป็นสุขที่มีก้;oi;อนอิฐปูนเก่าๆหรือจากที่ผุพัerง เพาioioะพันธุ์ด้วยวิธีการใช้ผ;ลลำต้นอยู่เหjtyนืjtyอดิน ตั้งตรงเองได้ ลำio;io;ต้นเรีio;ยบมีความio;สูงได้โดยประมาณoi;i; 2-3 ฟุตขอบชthjtyะนาoi;งแดงใบขอบชะนาง ใบเป็นใบคนเดียว ออกเรียงสลับio;oi;กัน โดยใบขio;องขอบioชะนางแดงjtyjtyjจะyjtyมีลักษณะเป็นรูปใบหอก ใบมีขนาดกว้างราวๆ 1.5-2.5 ซม.และยาว{ประมาณ|ราว|ราวๆ|โดยประมา;oio5-8 ซม. ส่วนขiioอบชะนางขาtyjวจะมีop;ลักษณ'p['tyj[pะของใบเป็นรูปออกจะมนรวมทั้งกลyukyukyukyukมหรือเป็นรูปไข่พริกไทยดำ ใบมีขนาดกว้างtyjโดยประมาณ 1-1.5 ซม.และยาวราrtjhtวๆ 2-3 เซนติเมตร เส้นykuใบของtytyjงสองประเภทสามารถแลเห็นได้แจ้งชัด เป็นเส้น 3 เส้น ใบจะมีขนาดใjytkuuiliuoliuoyหญ่โดยประมาณ edhrtjt2 กระเบียjhghmyukด,jนิ้ว ยาวราวๆ 1 นิ้วค/.รึ่ง ถึง 1 นิ้วฟุryjtytต สีของใบและต้jtyนของขอjtyjบชะนางจะเป็นjtyสีม่วงอมสีแดง เฉพาะแผ่นใบนั้นสีจะเด่นชัด คือ หyukลังใบจะเป็นสีเขียวเข้มอมสีแดง yukรmghวมทั้งท้อhgmghmงใบจะเป็ghmghนสีแดงคล้ำ แม้กระนั้นถ้าเกิดyukเป็yukop'นขอบชะนางขาวสีของใบจะเป็นfgyukyukสีเขียวอ่ghอนๆแล้วก็mghmyukyukyทั้งสองชนิดพริกไทยดำจะมีขmghmนเล็กน้อยอยู่ทั้งยังบนแผ่นใบรวมทั้งตyuามลำต้นดngmอกขอบชะนาpo'pgmo'ง ออกดอกเyukyuป็นช่อกระจุกตามgระหว่างซอกใบkyuและก็ตามกิ่ง ดอกมีukyขนาดเล็ก เป็jytนแบบแยกเพtyjศjty อยู่บนต้นเดียวกัน เป็นดอกเพศผู้กับดอกเพศtyjภรรยา โดยดอกขyukองขอyukบชytjะนางแดงจะเป็yukkนสีแดง ส่วนดอกขอyukงjขอบชtytyะนางขาวจjะเป็tyjtyนสีเyukขียวอมyukเหลืองหรือสีนวลผลขอบชะนางพริกไทยดำ ผลได้ผลสำเjtyร็tyจแห้งไม่แตกแบบ achene1 ผลเป็นสีน้ำตาลkyuออกเป็นกระจุกตามซอกyukyukkyuyukkใบ มีขนาดโดยประมาณytyjt 2-3 มิลลิเมtyjตร เมื่อแห้งแล้วyukจะหล่นลงบนtyjtytyjtyjtyดินหรือลอยละลิ่วไปตามลม ข้างในผลมีเม็ดjtyราวๆ 1-2 jเมล็ด เม็ดมีลักษณะกลมรีสีน้ำตาลแล้tyjtyjtyวก็พริกไทยดำมีขjtyนาดเล็กมากคุณประโยชน์ของขอบชะนางช่วยแก้อาการเบื่ออาyuหาร (ใช้ผลแห้ง โดยใช้สูตรเดียวกับการรักษาลักษณะของการปวjtดท้อง)ช่วยแก้อาการคลื่นไส้เป็นฟอง

Tags : พริกไทย

3


อัญชัน
ชื่อสมุนไพร  อัญชัน
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น อัญชันบ้าน , อัญชันเขียง (ภาคกลาง) , เอื้องจัน , เอื้องชัน , อังจัน (ภาคเหนือ) ,แดงจัน (เชียงใหม่)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Clitorea ternatea Linn.
ชื่อสามัญ  Butterfly Pea , Blue Pea , Shell creeper.
วงศ์  Fabaceae (Leguminosae-Papilionoideae)

ถิ่นกำเนิด
อัญชันในเขตร้อนแถบทวีปเอเชียและก็อเมริกาใต้ (แต่บางตำราเรียนกล่าวว่าอยู่ที่อินเดีย) แล้วมีการแพร่ไปประเภทไปในเขตร้อนต่างๆทั้งโลกรวมไปถึงในออสเตรเลีย อเมริกา และภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ ยกตัวอย่างเช่น ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่าเป็นต้น สำหรับในประเทศไทย อัญชันคงจะมีการแพร่ขยายพันธุ์มานานแล้ว ด้วยเหตุว่าเจอในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ ของแพทย์ปรัดเล พ.ศ.2416 เอ่ยถึงอัญชันว่า"อัญชัน : เปนชื่อเครือเถาวัลอย่างหนึ่ง มันมีดอกเขียวบ้าง ขาวบ้าง ไม่มีกลิ่น" รวมทั้งสามารถพบบ่อยในป่าโล่งแจ้ง หรือในที่ครึ่งร่ม ทั้งยังป่าเบญจพรรณในพื้นด้านล่างจนไปถึงป่าดิบเขาสูง
โดยอัญชันที่เจอในประเทศไทย มีทั้งยังจำพวกบ้านที่ผ่านการคัดสรรให้ดอกใหญ่ ดก สีเข้ม ฯลฯ กับประเภทที่ขึ้นเองจากที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งเป็นพันธุ์ดอกชั้นเดี่ยว ดอกเล็ก รวมทั้งสีไม่เข้ม ซึ่งคนไทยจำนวนมาก นิยมปลูกอัญชันดอกสีน้ำเงินเข้ม กลีบดอกไม้ซ้อน ดอกขนาดใหญ่และ ดก เพราะว่านอกเหนือจากสวยแล้ว ยังนำไปใช้คุณประโยชน์ได้หลายประเภท อีกด้วย
ลักษณะทั่วไป อัญชันจัดอยู่ในสกุล Fabaceae ซึ่งเป็นตระกูลของถั่วในกลุ่มถั่วฝักเมล็ดกลม (pea) เช่น ถั่วลันเตา (green pea) ถั่วแระต้น (congo pea) ถั่วพู(manila pea)
โดยจัดเป็นไม้ล้มลุกเลื้อยพัน นิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามรั้วหรือซุ้ม เถากลมเล็กเรียว สีเขียวอ่อน เถาอ่อน กิ่งอ่อน หูใบ ก้านใบ แกนใบประกอบ แผ่นใบด้านล่าง ก้านดอก ใบประดับประดา และก็กลีบเลี้ยง มีขนนุ่ม แตกกิ่งก้านตามข้อใบ เถายาว 1-5 เมตร ใบประกอบแบบขนปลายคี่ เรียงสลับ ใบย่อย 2-3 คู่ ใบบาง สีเขียว แต่ละใบมี ใบย่อย 5-9 ใบ ใบย่อยรูปวงรีแกมขอบขนานหรือรูปวงรีปนไข่กลับ กว้าง 1-3 ซม. ยาว 2-5 เซนติเมตร แกนกลางใบประกอบยาว 3-7 เซนติเมตร รวมก้านที่ยาว 1-3 ซม. ผิวใบมีขนปกคลุมทั้งคู่ด้าน หรือบางทีผิวด้านบนสะอาด ขอบของใบเรียบ โคนใบสอบ ปลายใบมน ปลายเป็นติ่งแหลมสั้นๆแผ่นใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างจะบาง เส้นกิ้งก้านใบ ข้างละ 4-5 เส้น หูใบรูปใบหอก ขนาดเล็ก ปลายแหลมยาว ยาว 2-5 มิลลิเมตร ดอกคนเดียว ออกที่ซอกใบ มี 1-2 ดอก กลีบดอกไม้ รูปดอกถั่ว มี 5 กลีบ แบ่งเป็น 2 ปาก ปากล่างขนาดใหญ่ ขอบมน กลีบดอกไม้ย่นย่อบาง ตรงกลางดอกมีแถบสีเหลืองขาว กลีบเลี้ยงสีเขียวมี 5 กลีบ โคนติดกัน ยาว 1.5-2 ซม. แผ่นกลีบบาง ปลายแยกเป็น 5 แฉก แฉกลึกราวครึ่งหนึ่งหรือน้อยกว่า ปลายแฉกแหลมยาว ดอกมีสีสีน้ำเงิน ม่วง หรือขาว กึ่งกลางกลีบสีเหลืองหม่นหมองขอบสีขาว รูปดอกถั่ว แต่ละกลีบมีขนาดไม่เท่ากัน มีกลีบใหญ่ที่สุด 1 กลีบ ซึ่งจะมีจุดทาสีเหลืองกึ่งกลางกลีบประเภทนี้เรียกว่าประเภทดอกลา ครั้งคราวกลีบดอกไม้ 5 กลีบมีกลีบใหญ่มากกว่า 1 กลีบ ทำให้ดูเหมือนมีกลีบดอกไม้หลายชั้น เรียกว่าประเภทดอกซ้อน กลีบกลางรูปรีกว้างแทบกลม ยาวราวๆ 3.5 เซนติเมตรก้านกลีบสั้นๆในดอกสีน้ำเงินหรือชมพูมีปื้นสีขาวช่วงกลางกลีบด้านโคน กลีบปีกรวมทั้งกลีบคู่ด้านล่าง ขนาดเล็กกว่ากลีบกึ่งกลางโดยประมาณ กึ่งหนึ่ง มีก้านกลีบเรียวยาวเท่าแผ่นกลีบกลีบข้างรูปไข่กลับแกมรูปขอบขนาน กลีบคู่ข้างล่างรูปรี เกสรเพศผู้ติดสองกลุ่ม 9 อัน ติดกันราว 2 ใน 3 ส่วน เกลี้ยง ยาวเท่ากลีบปีกแล้วก็กลีบคู่ด้านล่างรังไข่ทรงกระบอก ยาวราว 5 มม. มีขนยาวก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว มีขนยาวหนาแน่นช่วงปลายข้างใน ก้านช่อยาวราว 5 มม. ใบเสริมแต่งขนาดเล็กออกเป็นคู่ ยาว 2-3 มม. ใบประดับย่อยมีขนาดใหญ่กว่าใบประดับ มี 1 คู่ รูปไข่กว้างเกือบจะกลม ขนาดโดยประมาณ5 มม. มีเส้นใบแจ่มแจ้ง ก้านดอกสั้นๆยาว 2-3 มม. ผลเป็นฝัก รูปกระบี่ แบนยาว ขนาดกว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 5-12 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ปลายเป็นจะงอยสั้นๆฝักอ่อนมีสีเขียว พอแก่มีสีน้ำตาลอ่อน แตกเป็น 2 ฝา เมล็ดรูปไตสีดำ ยาวได้ราว 5 มิลลิเมตร ปริมาณ 6-10 เมล็ด
โดยทั่วไปนั้น ดอกอัญชันมี 3 สี คือ สี ขาว สีน้ำเงิน รวมทั้งสีม่วง จำพวกดอก สีม่วงนั้นบางหนังสือเรียนว่ามีต้นเหตุจากการผสมพันธุ์ระหว่างชนิดดอกสีขาวกับชนิดดอกสีน้ำเงิน ซึ่งผู้เขียนไม่แน่ใจว่าถูก เพราะเคยเห็นอัญชันดอกขาวบางต้น มีกลีบสีขาวลายน้ำเงิน แปลว่าเป็นพันทางระหว่างดอกขาวกับดอกสีน้ำเงิน แต่ว่าข่มกันไม่ลงก็เลยแสดงออกมาอีกทั้ง 2 สี ไม่เปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างที่บอกในบางตำรา
การขยายพันธุ์ อัญชันเป็นไม้เถาที่ปลูกง่าย มีความแข็งแรง คงทน ก็เลยมีการปลูกทั่วไป โดยนิยมปลูกเป็นพืชหลังบ้าน ริมรั้ว หรือ ซุ้มไม้ ส่วนการขยายพันธุ์สามารถทำได้ด้วยการใช้เมล็ด ซึ่งมีวิธีการปลูกคือ ถ้าหากปลูกเพื่อการขายให้ปรับดินโดยการไถพรวนแล้วให้ปุ๋ยคอมในอัตรา 1 ต้น ต่อไร่ แล้วหว่านเมล็ดอัญชันลงไปในอัตรา 0.5-1 โลต่อไร่ แล้วก็ให้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์ แต่โดยส่วนมากมักจะนิยมนำมาปลูกในฤดูฝนเพราะว่าไม่ต้องให้น้ำ ส่วนการปลูกเป็นไม้ประดับให้ชูร่องขนาดกว้าง 1.20 เมตร ส่วนขนาดความยาวตามที่ต้องการ แล้วต่อจากนั้นย่อยดินแล้วก็ผสมปุ๋ยธรรมชาติลงไปแล้วขุดหลุมหยอดเมล็ด หรือนำต้นกล้าที่เพาะได้ลงปลูก โดยใช้ระยะปลูก (กว้างxยาว) 1x1 เมตร แล้วปักหลักและก็ทำค้างให้เถาเลื้อยเกาะ รดน้ำให้ชุ่มทุกวี่ทุกวันในช่วงสัปดาห์แรก โดยปกติแล้วอัญชันถูกใจขึ้นที่โล่งแจ้งที่ได้ รับแดดเต็มกำลังชอบดินร่วนปนทรายที่ค่อนข้างจะร่วนซุยแม้กระนั้นมีการระบายน้ำได้ดิบได้ดี ปกติอัญชันจะเลื้อย ได้ยาวประมาณ ๗ เมตร เมื่อถึง หน้าแล้งจะแห้งตายไป แต่ว่าแม้มีน้ำ เพียงพอรวมทั้งดูแลอย่างเหมาะควร ก็สามารถปลูกรวมทั้งได้ดอกอัญชันทั้งปี
เมล็ด มีสาร adenosine, arachidic acid, campesterol, 4-hydroxycinnamic acid, p-hydroxy cinnamic acid, Clitoria ternatea polypeptide, ethyl-D-D-galactopyranoside, hex acosan-1-ol, palmitic acid, stearic acid, oleic acid, linoleic acid, linolenic acid, delphinidin 3,3´,5´-triglucoside, ß-sitosterol, J-sitosterol, avonol-3-glycoside, 3,5,7,4´-tetrahydroxy avone, 3-rhamnoglucoside รวมทั้ง anthoxanthin glucoside
ดอก มีสารในกรุ๊ป ternatins อย่างเช่น ternatin A1, A2, A3, B1, B2, B3, B4, D1 และ D2 สารที่ให้สีน้ำเงินในดอกเป็น สาร delphinidin-3,5-diglucoside, delphinidin 3-O-ß-D-glucoside, 3´-methoxy-delphinidine-3-O-ß-D-glucoside
ใบ มีสาร aparajitin, astragalin, clitorin, ß-sitosterol, kaempferol-3-monoglucoside, kaempferol-3-rutinoside, kaempferol-3-O-rhamnosyl-galactoside, kaempferol3-O-rhamnosyl-O-chalmnosyl-O-rhamnosyl-glucoside, kaempferol3-neohesperiodoside, รวมทั้ง kaempferol-3-O-rhamnosyl-glucoside
 
ประโยชน์ / สรรพคุณ
 
อัญชันมีการประยุกต์ใช้ทำประโยชน์หลายสิ่งหลายอย่าง อาทิเช่น สีจากดอกอัญชัน นิยมใช้ดอกสีน้ำเงินซึ่งมีสาร Anthocyanin ใช้ ทำสีของหวาน ดังเช่นว่า ขนมดอกอัญชัน ของหวานช่อม่วง ทำน้ำกินสมุนไพร ได้ น้ำสีม่วงงามเนื่องจากสีของดอกอัญชันละลายน้ำได้รวมถึงสีเปลี่ยน ไปตามความเป็นกรดด่างเหมือน กระดาษลิตมัสที่ใช้ตรวจทานความเป็นกรดด่างของสารละลาย ส่วนดอกอัญชันสามารถใช้กินเป็นผักได้อีกทั้ง จิ้มน้ำพริกใหม่ๆหรือชุบแป้งทอด
ในตอนนี้อัญชัน ซึ่งถูกเอามาปรับปรุงเป็นสินค้ายุคใหม่ ยกตัวอย่างเช่น แชมพูสระผม และก็ยานวดผมจากดอกอัญชัน (สีน้ำเงิน) กำลัง ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยรวมทั้งมีคุณค่าเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคุณสมบัติของดอกอัญชันสำหรับการรักษาเส้นผมให้ดกดำ คุ้มครองผมร่วงแล้วก็ช่วยปลูก ผมให้ดกหนาขึ้น รวมถึงใช้นำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องแต่งหน้าหรือใช้ทำเป็นสีผสมอาหารเป็นต้น
ยิ่งกว่านั้นหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิยมใช้ดอกหุงกับข้าวเพื่อให้ข้าวมีสีม่วงหรือสีน้ำเงินอ่อน ทำให้น่าอร่อยยิ่งขึ้น และในประเทศประเทศฟิลิปปินส์ใช้ฝักอ่อนรับประทานเป็นผัก ประเทศมาเลเซียมักปลูกเป็นพืชคลุมแปลงสวนยาง บางประเทศในแถบแอฟริกาปลูกเป็นพืชหุ้มแปลงบำรุงดิน หรือปลูกเป็นไม้ประดับตามรั้วบ้าน รวมทั้งใช้เป็นพืชอาหารสัตว์ ส่วนสรรพคุณทางยานั้น ตามตำรายาไทย ใช้ เมล็ด รสมัน เป็นยาระบาย แม้กระนั้นมักทำให้อ้วกอ้วก ราก รสขมเย็น
(นิยมใช้ รากดอกขาว) ขับเยี่ยว แก้ฉี่พิการ เป็นยาระบาย ฝนหยอดตาแก้ตาเจ็บ ตามัว ทำให้ตาสว่าง บำรุงดวงตา ใช้รากถูฟัน ทำให้ฟันทน แก้ปวดฟัน ราก รสเบื่อเมา ปรุงเป็นยากินแล้วก็พอก ทำลายพิษหมาบ้า ดอก โบราณใช้อัญชันสำหรับการปลูกผมรวมทั้งคิ้วเด็กอ่อน หยุดการหล่นของหนังหัวอ่อนแอทำสีผมหงอกให้เป็นสีดำ ใช้ตำเป็นยาพอกหรือคั้นเอาน้ำทาแก้บวมช้ำบวม แก้พิษแมลงกัดต่อย ใบแล้วก็รากฝนเอาน้ำหยอดตา แก้ตาเฉอะแฉะ ตาฝ้า ส่วนแบบเรียนยาประจำถิ่น ใช้ ราก ฝนกับรากสะอึกและก็น้ำแช่ข้าว กินหรือทา แก้งูสวัด
สำหรับการใช้ประโยชน์ในเมืองนอก ตามตำราอายุรเวทศาสตร์ของอินเดีย มีการนำส่วนรากรวมทั้งเมล็ดของอัญชันใช้เป็นยาบำรุงร่างกายแล้วก็บำรุงสมอง รวมถึงใช้เป็นยาระบายรวมทั้งขับเยี่ยวและก็ในแถบอเมริกา มีรายงานการใช้น้ำสุกจากส่วนรากเพียงอย่างเดียวหรือน้ำสุกจากรากและก็ดอกด้วยกันเป็นยาบำรุงเลือด ส่วนเม็ดใช้เป็นยาระบายขับปัสสาวะ รวมทั้งขับพยาธิ ส่วนสำหรับในการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่าดอกอัญชันมีสารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารสีม่วงอยู่มากมาย มีคุณลักษณะเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีเยอะขึ้น เช่น เส้นเลือดส่วนปลาย ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมเพิ่มมากขึ้น หรือทำให้กลไกสถานที่ทำงานเกี่ยวกับมองเห็นแข็งแรงขึ้น เพราะว่ามีหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งที่สำคัญยังช่วยลดความเสื่อมถอยของการเกิดสภาวะเส้นเลือดตัน ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ช่วยสำหรับการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย ช่วยในการบำรุงสมอง ช่วยล้างสารพิษแล้วก็ของเสียออกจากร่างกาย ช่วยต้านทานเบาหวานฯลฯ
แบบ / ขนาดวิธีการใช้ ใช้บำรุงดวงตา แก้ตาเจ็บขับปัสสาวะ แก้เหน็บชา ดอกอัญชันอบแห้ง 20 กรัม เพิ่มน้ำสะอาด 500 ซีซี ต้มจนถึงเดือนต่อจากนั้นต้มต่ออีก 2 นาที ยกลง ปล่อยให้เย็น กรองใส่ขวดใช้รับประทาน แก้ปวดฟัน , ช่วยทำให้ฟันทน ใช้รากสดเช็ดตามฟันซีที่ต้องการ , แก้ตาเจ็บ , บำรุงดวงตา ใช้รากฝนกับน้ำแล้วหยอดตาหรือใช้รากต้มกับน้ำใช้ดื่ม เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะแก้เยี่ยวพิการ ดอกสดใช้ตำเป็นยาพอกหรือคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่บวมช้ำรวมทั้งใช้แก้พิษแมลงกัดต่อย
 
การเรียนทางเภสัชวิทยา
 
ฤทธิ์คลายเครียดรวมทั้งวิตกกังวล เรียนรู้ฤทธิ์เครียดลดลงและไม่สบายใจของพืชที่มีสรรพคุณบำรุงสมองตามตำราอายุรเวชศาสตร์ของประเทศอินเดีย พบว่าสารสกัดเมทานอล รากอัญชัน ขนาด มิลลิกรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว มีผลกลุ้มอกกลุ้มใจลดลงของหนูเม้าส์ เมื่อทดลองด้วยแนวทาง elevated plus-maze (EPM) ซึ่งเป็นกรรมวิธีการทดสอบที่ทำให้หนูเกิดความกลัว รวมทั้งการป้อนสารสกัดเมทานอลรากอัญชัน ขนาด 50, 100 และ 200 มก./กก. น้ำหนักตัว ให้แก่หนูเม้าส์ก่อนนำไปทดลองเหนี่ยวนำให้กำเนิดความเครียดด้วยวิธี forced swimming test (FST) พบว่าสารสกัดเมลานอลรากอัญชันทุกขนาด มีฤทธิ์ต่อต้านความเคร่งเครียด โดยการทำให้ค่า immobility time period ลดน้อยลง เมื่อเทียบกับหนูที่ถูกป้อนด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว และก็ในการศึกษาฤทธิ์ผ่อนคลายความเครียดของอัญชัน ในหนูแรทด้วยวิธี tail suspention test (TST) และ FST โดยการทำการป้อนสารสกัดเอทานอลรากอัญชัน ขนาด 150 และก็ 300 มก./กก. น้ำหนักตัว พบว่าสารสกัดเอทานอลนากอัญชันทั้งสองขนาดมีฤทธิ์ความเครียดลดลงของหนูแรทจากการทดลองทั้งสองประเภท โดยมีค่า immobility time period ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม
การป้อนสารสกัดเมทานอลจากส่วนเหนือดินของอัญชันขนาด 30,100,200 รวมทั้ง 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว ให้แก่หนูเม้าส์ 60 นาทีก่อนนำไปทดลองด้วยวิธีต่างๆได้แก่ EPM, TST รวมทั้ง light/dark exploration พบว่าสารสกัดเมทานอลอัญชันขนาด 100 – 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว มีฤทธิ์ระงับความเครียดแล้วก็กังวลเมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุม นอกนั้นการฉีดสารสกัดเอทานอลจากดอกอัญชัน ขนาด 100 และก็ 200 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว เข้าทางช่องท้องหนูแรทมีฤทธิ์กลุ้มใจลดลง เมื่อทำการทดสอบด้วยต้นแบบต่างๆยกตัวอย่างเช่น EPM, TST และ Rota Rod test โดยขนาด 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว ได้ผลดีมากกว่าขนาด 100 มก./กก.น้ำหนักตัว

ฤทธิ์กระตุ้นการเรียนรู้และก็ความจำเล่าเรียนฤทธิ์กระตุ้นการเรียนรู้และก็ฟื้นฟูความทรงจำของสารสกัดเอทานอลใบอัญชัน จากภาวการณ์จำอะไรไม่ค่อยได้ที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยการทำการทดลองในหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานด้วยการฉีด streptozotocin แล้วหลังจากนั้นป้อนสารสกัดเอทานอลใบอัญชันให้กับหนูขาววันละ 200-400 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว นาน 75 วัน วัดความรู้ความเข้าใจสำหรับการจำตำแหน่งของวัตถุหรือสิ่งที่อยู่รอบกายด้วยวิธีการต่างๆได้แก้ Y-maze test , mirrow water maze test แล้วก็ radial arm maze test ในวันที่ 71 และก็ 75 ของการทดลอง ผลจากการเรียนพบว่า หนูที่ถูกป้อนสารสกัดเอทานอลใบอัญชันทั้งสองขนาด มีความรู้และความเข้าใจสำหรับในการศึกษาแล้วก็ความจำดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับหนูกลุ่มควบคุม ยิ่งไปกว่านี้จากการวัดค่าชีวเคมีในเลือดหนูพบว่า การป้อนสารสกัดเอทานอลใบอัญชันทั้งสองขนาด มีความรู้และความเข้าใจในการเรียนรู้และความจำดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับหนูกรุ๊ปควบคุม นอกจากนี้จกาการวัดค่าชีวเคมีในเลือดหนูพบว่า การป้อนสารสกัดเอทานอลใบอัญชัน มีผลยับยั้งหลักการทำงานของเอนไซม์ acetycholinesterase ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ปฏิบัติหน้าที่สลายacetylcholine ที่ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท เกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้แล้วก็ความจำ ยิ่งกว่านั้นยังเพิ่มระดับของเอนไซม์ที่เกี่ยวเนื่องกับกรรมวิธีการต่อต้านอนุมูลอิสระ ดังเช่นว่า superoxide dismutase (SOD) ,catalase (CAT) และ glutauhione (GSH) อีกด้วยชี้ให้เห็นว่าสารสกัดเอทานอลใบอัญชันมีฤทธิ์บำรุงสมองกระตุ้นการเล่าเรียนและก็ช่วยฟื้นฟูความจำ จากภาวการณ์ที่ป่วยเป็นเบาหวานในตัวทดลองได้ แล้วก็จากการเล่าเรียนฤทธิ์ระงับความเครียดแล้วก็วิตกของพืชที่มีสรรพคุณบำรุงสมองตามตำราอายุรเวทศาสตร์ของอินเดียพบว่า สารสกัดเมทานอล 80% จากรากอัญชัน ขนาด100 แล้วก็ 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว เมื่อป้อนให้แก่หนูเม้าส์ ส่งผลกระตุ้นการเล่าเรียนรวมทั้งความจำของหนู เมื่อทดสอบด้วยแนวทาง step-down passive avoidance model ซึ่งเป็นกรรมวิธีการทดสอบพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการเสริมแรงทางลบ (negative reinforcement)
การศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์กระตุ้นการเรียนและก็ความจำของอัญชันในหนูแรทแรกเกิด (อายุ 7 วัน) โดยทำการป้อนสารสกัดน้ำรากอัญชัน ขนาดวันละ 50แล้วก็ 100 มก./กิโลกรัม นาน 30 วัน แล้วนำไปทดลองแนวทางในการศึกษาเรียนรู้และก็จดจำด้วยวิธี passive avoidance test และก็ T-maze test พบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดน้ำอัญชันได้ผลการทดลองดีมากยิ่งกว่าหนูกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่มีผลต่ออัตราการเคลื่อนไหวหรือส่งผลให้เกิดอาการเซื่องซึม นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดน้ำรากอัญชัน ขนาด 100 มก./กก. น้ำหนักตัว มีผลเพิ่ม acetylcholine ในสมองรอบๆ hippocampus ของหนูแรททั้งยังในวัยแรกเกิดและก็หนูที่อยู่ในวัยบริบูรณ์ประเภทอีกด้วย
ฤทธิ์ต้านทานการอักเสบรวมทั้งแก้ปวด ศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์แก้ปวดของอัญชันในหนูเม้าท์ที่ถูกรั้งนำให้เกิดอาการเจ็บปวดด้วยการฉีดกรดอะซีว่ากล่าวก (acetic acid) เข้าทางช่องท้อง ภายหลังได้รับสารทดสอบ แบ่งหนูเม้าส์ออกเป็น 4 กลุ่ม กรุ๊ปที่ 1 เป็นกลุ่มควบคุม กรุ๊ปที่ 2 ป้อนยาพารา diclofenac sodium ขนาด 10 มก./กก.น้ำหนักตัว กลุ่มที่ 3 รวมทั้ง 4 ป้อนสารสกัดเมทานอล/น้ำจากใบอัญชันขนาด 200 รวมทั้ง 400 มิลลิกรัม/กก. น้ำหนักตัวเป็นลำดับ แล้วหลังจากนั้นดูความประพฤติการบิดงอตัวของหนู ซึ่งเป็นอาการแสดงออกถึงความเจ็บปวด ผลจากการทดสอบพบว่า หนูเม้าส์ที่ได้รับสารสกัดเมทานอลใบอัญชันทั้งคู่กรุ๊ปควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ แล้วก็พบว่าสารสกัเมทานอล/น้ำจากใบอัญชันได้ผลดีกว่ากลุ่มที่ให้ยาแก้ปวด diclofenac sodium เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การต่ำลงของอาการบิดงอตัว (%inhibition of writhing) เปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุม กรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดเมทานอล/น้ำจากใบอัญชันขนาด 200 และก็ 400 มิลลิกรัม/กก. น้ำหนักตัวมีค่าเท่ากับ 82.67 รวมทั้ง 87.87 % ตามลำดับ ขณะที่กรุ๊ปที่ได้รับยาพารา diclofenac sodium มีค่าพอๆกับ 77.72% แสดงให้เห็นว่าสารสกัดเมทานอล/น้ำจากใบอัญชันมีฤทธิ์แก้ปวด รวมทั้งในการศึกษาวิจัยฤทธิ์แก้อักเสบของอัญชันในหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้มีการบวมและก็อักเสบด้วยการฉีดสาร carrageenan เข้าที่เข้าทางบริเวณอุ้งเท้า โดยทำการป้อนสารสกัดน้ำมันปิโตรเลียมอีเทอร์ดอกอัญชัน ขนาด 200 รวมทั้ง 400 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว เปรียบเทียบกับการให้ยาแก้ปวด diclofenac sodium พินิจแล้วก็วัดอาการปวดของฝ่าเท้าหนูด้วยเครื่อง plethismometer ผลจากการทดลองพบว่า หนูที่ได้รับสารสกัดน้ำมันปิโตรเลียมอีเทอร์ ดอกอัญชันทั้งสองขนาดมีอาการบวมของฝ่าตีนน้อยกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง แล้วก็เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การลดน้อยลงของอาการบวมของอุ้งเท้า (%inhibition of paw) เปรียบเทียบกับกรุ๊ปควบคุม กลุ่มที่ได้รับสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ดอกอัญชันขนาด 200 รวมทั้ง 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว มีค่าพอๆกับ 14 และก็ 21% เป็นลำดับ และก็กรุ๊ปที่ได้รับยาพารา diclofenac sodium เท่ากับ 38% ชี้ให้เห็นว่าสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ดอกอัญชันมีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบแม้กระนั้นยังมีคุณภาพน้อยกว่ายา diclofenac sodium นอกจากนี้เมื่อศึกษาค้นคว้าฤทธิ์แก้ปวดของสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ดอกอัญชันทั้งคู่ขนาดในหนูเม้าส์ เปรียบเทียบกับยาพารา pentazocine ซึ่งฉีดเข้าทางช่องท้องหนู โดยทดสอบด้วยแนวทาง Eddy's hot plate method พบว่าสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์ดอกอัญชันขนาด 400 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว มีฤทธิ์ต้านทานลักษณะของการเจ็บปวด แม้กระนั้นยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่ายา pentazocine
ฤทธิ์ช่วยสำหรับการนอนหลับ เรียนรู้ฤทธิ์ด้านเภสัชวิทยาระบบประสาท (neurophamacological study) ของอัญชันในหนูเม้าส์ โดยการฉีดสารสกัดเอทานอลรากอัญชันเข้าท้องขนาด 50,100 รวมทั้ง150 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว ก่อนนำไปทดสอบด้วยวิธี head dip test และก็ Y-maze test พบว่าสารสกัดเอทานอลรากอัญชันขนาด 100 และ 150 มิลลิกรัม/กก. น้ำหนักตัว มีผลลดอาการผงกศีรษะ (head dip) และช่วงเวลาการวิ่งในกล่องรูปตัว Y ลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสารสกัดเอทานอลรากอัญชัน มีฤทธิ์ลดพฤติกรรมการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติและความพึงพอใจต่อสิ่งแวดล้อมของหนูเม้าส์ นอกจากนั้นยังพบว่า สารสกัดเอทานอลรากอัญชันเข้าทางท้องของหนู 30 นาที ก่อนฉีดยานอนหลับดังที่กล่าวถึงแล้ว โดยการทำให้ระยะเวลาการนอนของหนูนานขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับการฉีดยาphenobarbitone เพียงอย่างเดียว

ฤทธิ์ต่อต้านการยึดกลุ่มของเกล็ดเลือด การวิเคราะห์แยกสารanthocyanin กรุ๊ป ternatins ที่สกัดได้จากดอกอัญชัน แล้วก็เรียนฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารดังกล่าวมาแล้วข้างต้นในหลอดทดสอบ (in vitro) พบว่า สาร ternatin D1 จากดอกอัญชันมีคุณลักษณะยั้งการยึดกรุ๊ปของเกล็ดเลือดกระต่ายที่เหนี่ยวนำโดย collagen รวมทั้ง adenosine diphosphate (ADP)
ฤทธิ์ลดไข้ เรียนรู้ฤทธิ์ลดไข้ของอัญชันในหนูแรทที่ถูกรั้งนำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นด้วยการฉีดเชื้อยีสต์เข้าทางใต้ผิวหนัง ขนาด 10 มิลลิลิตร/กิโลกรัม น้ำหนักตัว ต่อจากนั้น 19 ซม.แบ่งหนูออกเป็น 5 กลุ่ม (กรุ๊ปละ 6 ตัว) กลุ่มที่ 1 ให้เป็นกลุ่มควบคุม กรุ๊ปที่ 2 ป้อนยาพาราเซตามอลขนาด 150 มก./กก. น้ำหนักตัว กรุ๊ปที่3-5 ป้อนสารสกัดเมทานอลรากอัญชัน ขนาด 200 , 300 แล้วก็ 400 มิลลิกรัม/กก. น้ำหนักตัว ตามลำดับ กระทำการวัดปรอทร่างการทางทวารหนักของหนูที่ชั่วโมง 0,19,20,21,22 และก็ 23 ของการทดลองพบว่า สารสกัดเมทานอลรากอัญชันทุกขนาดส่งผลลดอุณหภูมิร่างกายของหนูลงอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุม แล้วก็ได้ผลไม่ได้มีความแตกต่างจากกลุ่มที่ได้รับยาพาราเซตามอล
 
ฤทธิ์ต้านทานโรคเบาหวาน การศึกษา
 
ฤทธิ์ต้านทานเบาหวานของอัญชันในหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงโดยการฉีดสาร alloxan พบว่าการป้อนสารสกัดน้ำจากใบแล้วก็ดอกอัญชัน ขนาดวันละ 100-400 มิลลิกรัม/กก. นาน 14-84 วัน ส่งผลลดระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือดคอเลสเตอรคอยล ไตรกลีเซอไรด์ รวมถึงระดับเอนไซม์ glucose-6-phosphatase ไปเป็นน้ำตาลแล้วก็เพิ่มระดับอินซูลิน HDL-cholesterol รวมทั้งเอนไซม์ glucokinase ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับเดกซ์โทรสไปเก็บสะสมเป็นพลังงานสำรองในรูปของ glucogen ในตับแล้วก็กล้าม ยิ่งกว่านั้นยังลดความย่ำแย่ของกลุ่มเซลล์ Islet of Langerhans ชนิด B-cells ในตับอ่อนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผลิตอินซูลิน จากการฉีดสาร alloxan ได้
ส่วนสำหรับเพื่อการทดสอบฤทธิ์ของอัญชันในสินค้าเครื่องสำอางสำหรับบำรุงผิวพบว่าสารสกัดน้ำรวมทั้งสารสกัดเอทานอลจากดอกอัญชัน มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระเมื่อทดสอบด้วยแนวทาง 2,2-diphenyl-1-picrylhdrazy (DPPH) ขึ้นรถสกัดน้ำจะมีฤทธิ์มากยิ่งกว่าสารสกัดเอทานอล ซึ่งมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งอนุมูลอิสระได้ 50% (IC50) เท่ากับ 1 และ4 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เป็นลำดับ แล้วก็เมื่อนำสารสกัดน้ำดอกอัญชันไปเป็นองค์ประกอบในเจลสำหรับทารอบดวงตาพบว่าฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระของอัญชันยังคงอยู่ แต่ว่ามีคุณภาพน้อยกว่าครีมมาตรฐาน ทำให้บางทีอาจสรุปได้ว่าการใช้ดอกอัญชันเป็นองค์ประกอบในเครื่องสำอางสำหรับบำรุงผิวบางครั้งอาจจะได้ประโยชน์จากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา
การเล่าเรียนความเป็นพิษแบบทันควัน ของสารสกัดน้ำมันปิโตรเลียมอีเทอร์จากดอกอัญชันในหนูแรทเพศภรรยาพบว่า การป้อนสารสกัดขนาด 2000 มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ไม่ก่อกำเนิดความเป็นพิษต่อหนูอะไร และก็ในการค้นคว้าความเป็นพิษของสา

4
อื่น ๆ / สมุนไพร ดาวอินคา
« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2018, 03:17:06 AM »

ดาวอินคา
ชื่อสมุนไพร ดาวอินคา
ชื่ออื่นๆ ถั่วดาวอินคา
ชื่อวิทยาศาสตร์  Plukenetia volubilis.
ชื่อสามัญ  sacha inchi, sacha  mani , Inca peanut.
วงศ์  Euphorbiaceae
ถิ่นกำเนิด
ดาวอินคาติดอยู่ เป็นพืชวงศ์ Euphorbiaceae เช่นเดียวกับ ยางพารา สบู่ดำ หรือมันสำปะหลัง นับเป็นพืชเฉพาะถิ่นชนิดหนึ่ง มีถิ่นกําเนิดจากรอบๆลุ่มแม่น้ําอเมซอน ในประเทศประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมนุษย์รู้จักนำมาใช้คุณประโยชน์ตั้งแต่ยุคอินค้าง หรือในช่วงปี ค.ศ. 1438-1533 และสืบทอดมากันมาสู่คนพื้นบ้านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีการนำดาวอินติดอยู่มาใช้ประโยชน์นานาประการ ดังนี้ จากแหล่งเกิด และก็ความเป็นมาที่ชาวอินคานำมาใช้ประโยชน์ ประเทศไทยก็เลยเรียกพืชชนิดนี้ว่า ถั่วดาวอินคา ในปัจจุบันก็มีการเพาะปลูกดาวอินคาในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีการนำดาวอินติดอยู่มาแปรรูป เช่น น้ำมันดาวอินคาที่ได้จากการสกัด ถั่วดาวอินคาอบเกลือ หรือถั่วดาวอินติดอยู่คั่ว
 สำหรับในประเทศไทยได้มีบริษัทเอกชนนำดาวอินค้างเข้ามาช่วยเหลือการปลูกทีแรก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มที่จังหวัดหนองคายเนื่องจากมีความคิดเห็นว่ามีที่ตั้งภูมิศาสตร์เส้นทางการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสม แล้วก็สามารถเชื่อมโยงไปสู่กรุ๊ปประเทศอินโดจีนได้จนมีการปลูกอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ในปัจจุบัน
ลักษณะทั่วไป
ดาวอินคาจัดเป็นไม้เลื้อยเพราะเหตุว่ามีลำต้นเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุนาน 10-50 ปี ลำต้นแตกกิ่งเป็นเถาเลื้อยได้ยาวมากว่า 2 เมตร เถาอ่อนมีสีเขียว เถาแก่หรือโคนเถามีสีน้ำตาล แก่นเถาแข็ง รวมทั้งเหนียว
 ใบของถั่วดาวอินติดอยู่เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบเป็นใบโดดเดี่ยว เรียงสลับเยื้องกันตามความยาวของเถา ใบมีรูปหัวใจ โคนใบกว้าง แล้วก็เว้าตรงกลางเป็นฐานหัวใจ ส่วนปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสด แล้วก็มีร่องตื้นๆตามเส้นกิ้งก้านใบ ส่วนขอบของใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ส่วนแผ่นใบกว้างราวๆ 8-10 ซม. ยาวราวๆ 12-18 เซนติเมตร
 ดอกเป็นช่อตามซอกใบบนเถา แต่ละช่อมีดอกขนาดเล็กจำนวนไม่น้อย ดอกมีลักษณะทรงกลม สีเขียวอมเหลือง เป็นดอกประเภทแยกเพส แม้กระนั้นรวมอยู่ในช่อดอก แล้วก็ต้นเดียวกัน โดยดอกเพสเมียจะอยู่รอบๆโคนช่อดอก 2-4 ดอก ส่วนดอกเพศผู้มีเยอะแยะต่อจากดอกเพศเมียมาจนถึงปลายช่อดอก ทั้งนี้ ถั่วดาวอินคาจะติดดอกครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 5 เดือน หลังเมล็ดแตกหน่อรวมทั้งผลจะแก่ที่พร้อมเก็บได้ประมาณอีก 3-4 เดือน หลังออกดอกผลเรียกเป็นฝัก มีลักษณะเป็นแคปซูลที่แบ่งได้พูๆหรือแฉก 4-7 พูขนาดฝักกว้าง 3-5 ซม. เปลือกผลอ่อนมีสีเขียวสด รวมทั้งมีประสีขาวกระจัดกระจายทั่ว และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสุก แล้วก็แก่จนแห้งกลายเป็นสีน้ำตาล พร้อมกับเปลือกปริแตกกระทั่งแลเห็นเมล็ดภายใน
 เม็ดดาวอินคาใน 1 ผลหรือฝัก จะมีจำนวนเม็ดตามพูหรือแฉก เป็นต้นว่า ฝักมี 5 พู ก็จะมี 5 เม็ด ถ้าหากมี 7 พู ก็จะมี 7 เม็ด โดยเมล็ดจะแทรกอยู่ในแต่ละพูในแนวตั้งเม็ดมีทรงกลม รวมทั้งแบน ขอบเมล็ดบางแหลมกึ่งกลางเม็ดนูนเด่น ขนาดเมล็ดกว้าง 1.5-2.0 เซนติเมตร ยาว1.8-2.2 เซนติเมตร น้ำหนักเม็ดเฉลี่ย 1.5 กรัม/เม็ด เปลือกเม็ดเป็นแผ่นบาง มีสีน้ำตาลอมดำ ถัดมาจากเปลือกเป็นเนื้อเม็ดที่มีสีขาว เนื้อเม็ดเมื่อคั่วสุกจะกรอบ แล้วก็มีรสมันอร่อย มีน้ำมันจำนวนมาก
 การขยายพันธุ์ ดาวอินค้างสามารเติบโตได้ดิบได้ดีในสภาพภูมิอากาศอุ่น ที่อุณหภูมิ 10-36 องศาเซลเซียสที่มีความสูงตั้งแต่100-2000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งสามารถปลุกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
 สำหรับเพื่อการเพาะพันธุ์สามารถขยายพันธุ์โดยเม็ด โดยการนำเม็ดที่แก่แล้วมาเพาะในถุงดำ เมื่อต้นสูงประมาณ 30 ซม. จึงย้ายปลูกหรือหยอดเมล็ดในหลุมปลูกเลยก็ได้ ระยะปลูก 2 x 3 ถึง 2 x 4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ 200 – 300 ต้น เป็นพืชที่รังเกียจน้ำขังเฉอะแฉะในพื้นที่ต่ำควรชูร่อง ทำค้างสำหรับให้ต้นเลื้อยพัน โดยใช้สิ่งของในพื้นที่ ที่ใช้กันอยู่ในตอนนี้มักใช้ท่อพีวีซีเป็นเสาหลักแล้วใช้สายโทรศัพท์เก่าขึงระหว่างเสาเป็นค้างสำหรับให้ยอดเลื้อยพัน ส่วนปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยปกติดาวอินคาสามารถให้ผลผลิต 600 – 800 โลต่อไร่รวมทั้งให้ผลผลิตนาน 15 – 50 ปี เลยทีเดียว
 และน้ำมัน (35-60%) โดยมีกรดไขมันจำพวก omega-3 เป็นต้นว่าlinolenic acid โดยประมาณ 45-53% (12.8–16.0 g/100 g seed) , omega-6 ดังเช่นว่า linoleic acid ประมาณ 34-39% (12.4–14.1 g/100 g seed) รวมทั้ง omega-9 ประมาณ 6-10% ของไขมันทั้งสิ้น อัตราส่วนของ omega-6 /omega-3 อยู่ในตอน 0.83–1.09 ยิ่งไปกว่านี้มี phytosterols ดังเช่น beta-sitosterol รวมทั้งstigmasterol สารที่มีฤทธิ์ต้านทานขบวนการออกซิเดชันอย่างเช่น วิตามินอีในรูป tocopherols สารกรุ๊ปฟีโนลิก และแคโรทีนอยด์ รวมทั้งกรดอะไม่โยหลายประเภทเช่น สิสเตอีน (cysteine) ไทโรซีน (tyrosine) ทรีโอนีน (threonine) และก็ทริปโตเฟน (tryptophan)
 ส่วนค่าทางโภชนาการของเม็ดดาวอินค้าง (คั่วเกลือจำนวน 100 กรัม) พลังงาน 607 กิโลแคลอรี โปรตีน 32.14 กรัม ไขมันทั้งปวง 46.43 กรัม คาร์โบไฮเดรต 17.86 กรัม น้ำตาล 3.57 กรัมแคลเซียม 143 มก. ธาตุเหล็ก 4.59 มิลลิกรัม โซเดียม 643 มก.
 ประโยชน์/คุณประโยชน์ เม็ดดาวอินติดอยู่สามารถใช้ดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ของกินเล่น เป็นต้นว่า ถั่วคั่วเกลือ ถั่วทอด หรือ เอามาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เป็นต้นว่า ซอส ซีอิ้วเต้าเจี้ยว รวมถึงแปรรูปเป็นแป้ง ดาวอินค้างสำหรับใช้ปรุงอาหารและทำอาหารหวาน ในตอนนี้นิยมนำเม็ดดาวอินคานำมาสกัดน้ำมัน ซึ่งใช้ประโยชน์คุณประโยชน์ในหลายด้าน เช่น ใช้เป็นน้ำมันกินเพื่อเป็นอาหารเสริมให้แก่ร่างกาย โดยมักผลิตในรูปบรรจุขวดหรือใส่แคปซูลพร้อมกิน ใช้เป็นน้ำมันทอดหรือเข้าครัว ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องแต่งตัว ยกตัวอย่างเช่น โฟมที่ใช้ล้างหน้า สบู่ น้ำหอม แล้วก็ครีมบำรุงผิว น้ำมันที่สกัดได้ใช้สำหรับทานวดแก้ปวดเมื่อย รวมทั้งใช้ชโลมผมให้ดกดำ และจัดทรงง่าย
 ส่วน
สรรพคุณของดาวอินติดอยู่ มีดังนี้
สารสำคัญที่พบในเมล็ดดาวอินคา อย่างเช่นกรดไขมันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง omega-3 แล้วก็ phytosterols นั้นมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดนอกเหนือจากนั้นสารต้านทานขบวนการออกซิเดชัน เช่น tocopherols สารกรุ๊ปฟีโนลิก และแคโรทีนอยด์ สามารถต้านทานอนุมูลอิสระรวมทั้งปกป้องการออกซิเดชันของไขมัน ก็เลยสามารถช่วย ลดไขมันในเลือด และก็ปกป้องโรคหัวใจรวมทั้งหลอดเลือดได้ แล้วก็กรดไขมันโอเมก้า 3 ในดาวอินคายังมีคุณประโยชน์ช่วยให้ร่างกายซับแคลเซียมมาบำรุขี้งกประจำเดือนกเจริญขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาความแข็งแรงของเยื่อห่อหุ้มเซลล์ ลดการอักเสบของหลอดเลือด รวมทั้งลดความเสี่ยงโรคไขข้อได้อีกด้วย อีกทั้งในดาวอินคายังอุดมไปด้วยวิตามินอี และก็วิตามินเอที่ช่วยบำรุงสุขภาพผิวแล้วก็ผมช่วยป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระอันเป็นที่มาของการอักเสบ ช่วยลดริ้วรอย รวมทั้งช่วยทำนุบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
 นอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (cardiovascular disease) ต้าน rheumatiod arthritis โรคมะเร็ง แล้วก็คุ้มครองป้องกันเชื้อไวรัส โทโคฟีคอยล (tocopherols) ไฟโตสเตอรอคอยล (phytosterol) สารโทโคฟีรอลและฟลาโวนอยด์จากถั่วดาวอินติดอยู่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจรวมทั้งโรคมะเร็ง สารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds) แล้วก็สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ในส่วนของเปลือกและเม็ดพบกรดไขมันอิ่มตัวที่มีคุณลักษณะ anti-antherogenic, anti-thrombogenic และก็ hypercholesterolemic effect รวมถึงยังช่วย ช่วยคุ้มครองป้องกันการแข็งตัวของเลือด คุ้มครองปกป้องโรคความดันเลือดสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แล้วก็ปกป้องโรคเบาหวาน กระตุ้นความจำช่วยสนับสนุนพัฒนาการของสมองปกป้องโรคสมองเสื่อม ควบคุมความดันในดวงตา แล้วก็เส้นเลือด
 ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้ ในขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดแบบ / ขนาดการใช้หรือขนาดกินดาวอินคาอย่างแน่ชัด โดยบางงานค้นคว้าวิจัยบอกว่า เมล็ดดาวอินติดอยู่รับประทานไม่ได้ ด้วยเหตุว่ามีสารกลุ่มที่ยั้งกานดำเนินการของเอ็นไซม์ทริปสิน (trypsin inhibitor) แต่สามารถนำมาหีบเอาน้ำมันมาใช้กินเพื่อได้ประโยชน์จากน้ำมันดาวอินคาและบางงานศึกษาค้นคว้าวิจัยบอกว่าเม็ดดาวอินค้างสามารถรับประทานได้เมื่อทำให้สุกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามถ้าเกิดต้องการรับประทานเพื่อคุ้มครองป้องกันและก็บรรเทาโรคควรจะหารือแพทย์หรือผู้ชำนาญก็จะเป็นการดีที่สุด
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีการค้นคว้าทางสถานพยาบาลที่เรียนถึงผลของน้ำมันดาวอินคา ว่ามีคุณลักษณะที่สามารถน้ามาใช้แทนโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในน้้ามันปลาได้หรือเปล่า โดยมีงานวิจัยที่เล่าเรียนผลของน้ำมันจากดาวอินคาต่อการลดระดับไขมันในเลือด ทดลองในคนป่วยที่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง โดยให้กินน้ำมันที่สกัดจากดาวอินติดอยู่ 5 หรือ10 มิลลิลิตรเป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าทั้งยัง 2 กลุ่มส่งผลคลอ-เรสเตอรอคอยลทั้งสิ้นแล้วก็ไขมันที่ไม่จ้าเป็นในเลือดน้อยลง แล้วก็เพิ่มระดับไขมันเอชดีแอล บ่งบอกถึงถึงว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อยู่ในดาวอินติดอยู่ออกฤทธิ์ละม้ายกับกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่สกัดออกมาได้จากน้ำมันปลา
การเรียนทางพิษวิทยา
สำหรับความปลอดภัยสำหรับการกินน้ำมันดาวอินคา ได้มีงานค้นคว้า ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบอายุระหว่าง 25-55 ปีจ้านวน 30 คน เป็นเพศชาย 13 คน และผู้หญิง 17 คน กินน้ำมันดาวอินค้าง วันละ 10-15 มิลลิลิตร โดยเปรียบเทียบกับน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันจำนวนเท่ากัน ช่วงเวลาเช้า เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าผลกระทบที่พบเป็นหลักในกรุ๊ปที่กินน้ำมันดาวอินค้าง เช่นอาการอ้วก เรอ ส่วนอาการอื่นๆที่เจอบ้าง ดังเช่น ร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ เจ็บท้อง ท้องผูก ส่วนผลข้างเคียงที่พบเป็นหลักในกรุ๊ปที่รับประทานน้ำมันเม็ดดอกทานตะวัน อาทิเช่นอ้วกท้องขึ้น ส่วนอาการอื่นๆที่พบบ้าง อาทิเช่น เจ็บท้อง ในส่วนของค่า ลักษณะการทำงานของตับตัวอย่างเช่น AST (Aspartate transaminase), ALT (Alanine Aminotransferase), GGT (Gammaglutamyl transferase), Alkaline Phosphatase, Total Bilirubin, Albumin, Total protein ค่าการท้าทายงานของไต ดังเช่นว่า Creatinine ค่าการอักเสบ อาทิเช่น CRP รวมทั้งค่ากรดยูริค(Uric acid) ทั้งหมดทั้งปวงนี้ไม่พบว่ามีความผิดธรรมดา ข้อเสนอแนะ / ข้อควรตรึกตรอง
 1. เนื่องมาจากยังไม่มีการกำหนดขนาดการใช้ดาวอินค้างอย่างแน่ชัด ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำหรับเพื่อการใช้ป้องกันหรือรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ที่มีความชำนาญ
 2. ไม่สมควรใช้ต่อเนื่องกันในจำนวนมากลเป็นเวลานานเพราะว่าอาจส่งผลต่อระบบต่างๆในร่างกาย
 3. สำหรับเพื่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปของดาวอินติดอยู่ ควรเลือดผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและก็ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารและยา
เอกสารอ้างอิง

  • มารู้จักถั่วดาวอินคา กันเถอะ??.. จดหมายข่าว วิทย์-แพทย์ คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยพะเยา.ปีที่5.ฉบับที่ 2.เมษายน-มิถุนายน 2557
  • Gonzales GF , Gonzales C. A randomized, double-blind placebo-controlled study on acceptability, safety and efficacy of oral administration of sacha inchi oil (Plukenetia volubilis L.) in adult human subjects. Food Chem Toxicol. 2014;65:168-76.https://www.disthai.com/
  • อุดมวิทย์ ไวทยากร,กัญญรัตน์ จำปาทอง,เถลิงศักดิ์ วีระวุฒิ.ดาวอินคา พืชมหัศจรรย์ สุดยอดโภชนาการ.จดหมายข่าวผลิใบ ก้าวใหม่การวิจัยและพัฒนาการเกษตร.กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • Souza, A.H.P., Gohara, A.K., Rodrigues, A.C., Souza, N.E., Visentainer, J.V. & Matsushita, M. (2013). Sacha inchi as potential source of essential fatty acids and tocopherols: multivariate study of nut and shell. Acta Scientiarum, 35, 757-763.
  • รัชนก ภูวพัฒน์.การศึกษาการเปรียบเทียบความสามารในการผลิตสารทุติยภูมิจากใบอ่อนใบเพสลาดและใบแก่ของถั่วดาวอินคาเพ่อรองรับการผลินใบชาเพื่อชุมน ของจังหวัดนราธิวาส.วารสารมหาวิทยาลัยพระธิวาสราชนครินทร์.ปีที่ 8.ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2559
  • เปลือกถั่วดาวอินคา.กระดานถาม-ตอบ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • ธนกฤต ศิลปะธรากุล.ประสิทธิผล ของอาหารเสริมจากน้ำมันถั่วดาวอินคาในรูปรับประทาน ต่อการทำงานของสมองด้านสติปัญญา.สรุปการประชุมวิชาการและเสนอผลงานวิจัยระดับชาติครั้งที่ 3 ก้าวสู่ทศวรรษที่2:บูรณาการวิจัยใช้องค์ความรู้สู่ความยั่งยืน 17 มิถุนายน 2559 ณ.วิทยาลัยนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา.หน้า 14-21
  • Maurer, N.E., Sakoda, B.H., Chagman, G.P. & Saona, L.E.R. (2012). Characterization and authentication of a nevel vegetable source of omega-3 fatty acid, sacha inchi (Plukenetia volubilis L.) oil. Food Chemistry, 134, 1173-1180.
  • ถั่วดาวอินคา สรรพคุณ และการปลูกถั่วดาวอินคา.พืชเกษตรดอทคอม
  • Chirnos, R., Zuloeta, G., Pedreschi, R., Mignolet, E., Larondelle, Y. & Campos, D. (2013). Sacha inchi (Plukenetia volubilis): A seed source of polyunsaturated fatty acids, tocopherols, phytosterols, phenolic compounds and antioxidant capacity. Food Chemistry, 141, 1732-1739.
  • Hanssen, H.P. & Hubsch, M.S. (2011). Sacha Inchi (Plukenetia volubilis L.) nut oil and its therapeutic and nutritional uses. Nuts & Seeds in health and disease prevention, 991-994.
  • Van Welzen,P.C. and K. Chayamarit. Euphorbiaceae. pp. 509 – 512. In Santisuk, T and K. Larsen (eds.) Flora of Thailand. Volume Eight. Part Two. The Forest Herbarium. National Park, Wildlife and Plant Conservation Department, Bangkok.


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : คาวอินคา

Tags : ดาวอินคา

5

ขายส่งมะรุม ผักเบี้ยหินผักเบี้ยหิน ชื่อวิทยาluliอดของผักเบี้ยหินกับหuluนูทดลอง โดยแบ่งหนูtkyjที่ถูกกระตุ้นให้เป็นเบาหวtyานด้วย streptrtjyukoi;ozotocin ออกเป็นrhte4 กลุ่ม กรุ๊ปละ 6 ตัว แบ่งเป็นกรุ๊ปควบคุม กรุ๊ปหวานใจษาด้tyjวdetjyukยยามาตรฐาy;น;ซึ่jtyงใtyช้ลดน้ำตาลใi;iooนเลือด (glibenclamide)มะรุมราคาถูก ในขนาด 1 มก.ต่อuilกิโลกรัม|กก.|กิโล|โล} ส่วนอีก 2 กลุ่มให้สารสกัดเtyjมทานอลขtyjองtyjผักเบี้ยหิน ขนาด 100 และก็ 200 มก.ต่อโล เป็นjtyjtyลำดับ ผลการ;uทดสอบพบjtuliว่าสารสกัดเมทาuiyjtylนjtyอลขjองผักเบี้ยtyหินส'oขายส่งมะรุมเเคปซูลp'ามาjtydjyyuรถช่วยลดระดับน้ำop'ตาลในเลือดของtyjหนูแรทได้อย่างเป็นจริงเป็นจังหtytyjลัtyjงขายส่งมะรุมเเคปซูลกินเข้าไป 1 ชั่lgiวโมง พรรณtyjม้ที่แพร่uioพัjtyนธุ์tjtyyด้วยแนวทางเพาะเมล็ดj จัดเป็นพรรณไม้กลางioop';แจ้งที่ชอบแสงอาทิตย์uil;แดดจัดเต็มวัน มีความiuoนปาio;นกลาง เจอในข้าวไร่และท้องนาดอนพื้นที่นาน้ำฝl;uoi;น ioประโยชน์ของ|ประโยชน์ที่ได้รับมาจาก|dejtประโio;;ยช์จาก|ปรjtyjะโยชน์ซึ่งมาจาioก|io;ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจาก|คุณ;io;ปioระโยชน์ขykylอง|คุณประโยaชน์ที่ได้รับมาจาก|คุณประโยช์จาก|คุณประio;โยชน์ซึ่งมาจาก|คุณประkuโliยชน์ต่างๆที่ไo;รับจาก}ผัuyk;opกเบี้ยหินใช้ปรุงเป็นของกินหรือขายส่งมะรุมเเคปซูลกินสดty ข้อมูลทางเภสัชวิทยาio;ของผักเบี้ยหินนั้น จากการศึกษาฤjhrทธิ์ลดระดับน้ำตาลใio;hrttนเลือดของผักเบี้ยio;หินกับหนูทดลtyjtyrthอง ผลของการทดสอบมะรุมราคาถูกพบว่าสารสกัดเrthทานอลของผักเบี้ยหินสามารถช่วยลดระดับน้ำjtyjตาjtyลในopเลือดของหrtjntyขายส่งมะรุมเเคปซูลนูแรo;ioทได้อย่างมีนัยสำคัjtyjญข้างหลังhrteกินเlio;ข้าไป 1 ชั่วโมง และก็จะrehtrลrthดระดับน้ำตาลก้าวหน้าที่สุดjข้างหลังกินเข้าไป jty4 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าio;สารjtyดังกล่าว|ดังที่กล่าวมาแล้ว|ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว|ดัiukyuที่กล่าวผ่านมาแล้ว|ดังที่กล่าวถึงtyjtyjแล้ว|ดังกล่าวข้างต้น|ดังกล่าวมาแล้วuilข้างต้น|ดังrtที่กล่าวมาข้างต้น|ดัrthงที่tyjกล่าวtyมาแล้วข้างต้น|ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว|ดังที่ได้กio;ล่าวมาแล้วข้างต้น|ดังที่ไjtyjtyด้กล่าวผ่านมาแล้ว}มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นขายส่งมะรุมเเคปซูลเบาหวานได้เท่ากันกับการดูแลรักษาโดยใyjช้ยามาตรฐานที่ใช้ลดน้ำตาลในเลือด (glibenclamide)2ยtyjtyjyาวประมาณ มะรุมราคาถูก1-1.5 มิลิเมตร ไม่หล่น กลีบดอกloเป็นสีชมพูอ่อนหรือสีชมพูแกมขาว แยกจากกัน มี มะรุมราคาถูก5 กลีบlkuil กลีบดอกไม้jtyมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานปลายแหลม ช่วงปลายกลีบเป็นwhrtlติ่งแหลมสีม่วง กลีuiบดอกมะรุมราคาถูกมีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 kuuมม. รวมทั้งยาวมะรุมราคาถูกโดยประมาณ 2-3 มม. ดอกมีเกสรเพศผู้เยอะแยะ ติดอยู่บนrtกลีบดอกไม้ ขายส่งมะรุมเเคปซูลก้านยกอับเรณูเป็นสีขาวยาวโดยประมาณ r2-3 มิลลิเมตร อับเรณูเป็นสีชมพูth มะรุมราคาถูกเกสรเพศเมียมี 1rthrt อัน รังไข่ superior otyhvary มีก้านเกสรเพศเมียยาว 3 มม.ขายส่งมะรุมเเคปซูล ยอดเกสรเป็นเส้น รังไข่เป็นรูปทรงกระบอกมี 1 ห้อง ออวุลมี 2-8 อัน ออกดอกได้ตลอดทั้งปี

Tags : มะรุมราคาถูก

6

กล้วยน้ำว้า พริกชี้ฟ้า (Prik-Cee-Fa) เป็นพืชผักสมุนไพร ที่เติบโตได้ง่ายๆเป็นไม้ทรงพุ่มไม้ขนาดเล็ก มีลำต้นกลมๆมีสีเขียว ใบมีลักษณะทรงเรียวรี ปลายใyukบแหuilม ใบเuluรียบมันyuk มีสีเขียว ดอกมีลักษณะรูyukyukปกรวย กrjuykuiลีบดอกมีสีขาlio;ว กล้วยน้ำว้าผลมีกษณะทรuioงกลp'[p[[]oiulมยาว ปลายเuilรียวแหลม โค้งuงอ ผิวเปลือกดกลื่นวาว ผloiลดิบมีสีเขียวเข้lioม ผลสุกมีyukสีแkดiouง ด้าdetjนในผiio;lio;uliลกลวงมีแกนกลาง loiจะมีเม็ดกลyukykkแบนเล็กๆสีเหลืองอ่อนเกาะแtyกนอยู่มากkyuาtมาก มีรสชาติเผ็ดพอควร ใช้เตรียมอาluหloiารรายการอาหkiolารyukkiolioต่opoi';;pางๆได้หลายรายการอlioาyukหาร เมืองไทยนิยมรั'oบประทiolานกันมาก และop'olioก็มีการปลูกหลายสายพันธุ์ลำต้น เป็นพืชผักสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้tjyukตกกิ่งก้าluiงใบ}เรียบ มีก้านletyjtyjyuthบยาว ใบมีerhtสีgเขียว มีขนปกyukคลุมทั่วใบราก เป็นระบบรากแก้ว uilloiuiมีลักษณะกลมๆแทงลึกลงในดิน มีรากyukกิ่งก้านสาขาแล้วก็รากย่อย รากออกตามรอบtyuiliuojๆresiohลำต้น มีสีน้ำตาลดอก ออกดอกrhtyคนเดียว ดอกจะชี้ขึ้นบน ดอกมีลักษณะรูปกรวย กลีบมีสีขาว มีกลีบเลี้ยงสีเขียว uilก้าiooioilioนช่อดอกจะยาว ดอกออjyukกตามซอuilใบ แล้วก็ออกตรงปลายยอดกิ่งผล ได้ผลสำเร็จลำkyuพัง มีลักษulณะทรงกลมยาว ปลาuilยเรียวแหลม โyukค้งงอ ผิวเปลือกดกลื่นวาวกล้วยน้ำว้า ผลดิบมีสีเขียวเข้ม ผลสุกuมีสีแดง ข้างใlawerนผลกลวงมีแกนกลาง จะมีเม็ดกลมแบนเล็กๆสีเหลืองอ่อนเกาะแกนuilอยู่tfuluilเยอะมuyukก มีรสชาติเผ็ดtyพอประมาณ ใช้ทำครัวรuilยการuilอาหารuiต่างๆไuiด้หลายlรายการluอาหารเมล็ด มีขนาดเilล็กๆจำนวนมาก เกาะแกนกลางอยู่ด้านในผล เม็ดมีลักษณะกลมแบนเล็กๆมีสีเหลืองอ่อนเม็ดพริกชี้ฟ้าผลดีรวมทั้งสรรพคุณพริกชี้ฟ้ามีวิตามินซี มีวิตามินเค มีโพแทสเซียม มีวิตามินเอ มีแคลเซียม มีธาตุฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีเบตาแคโรทีน มีคาร์โบไฮเดรต มีโปรตีน มีไขมัน มีเส้นใยช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับฉี่ แก้กล้วยน้ำว้าปวดเมื่อย แก้ฟกช้ำ แก้เคล็ดปวดเมื่อย ช่วยทำให้ไหลเวียนของโลหิตดี ช่วยปกป้องเส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยปกป้องโรคมะเร็ง แก้หวัด แก้ไอ แก้ไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยลดน้ำมูก ช่วยบรรเทาคัดจมูก ช่วยรักษาการตันเส้นโลหิต ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยทุเลาลักษณะของการปวด กล้วยน้ำว้าช่วยขับลม มีอนุมูลอิสระ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยบำรุงธาตุ แก้ปวดหัว แก้กระษัย ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยบรรเทาความดันโลหิตสูง ช่วยขับเหงือ แก้จุกเสียด แก้ท้องขึ้น เป็นยาระบายอ่อนๆแก้หิด ช่วยรักษาขี้กลากโรคเกลื้อน แก้อาการตะคิว

Tags : กล้วยน้ำว้า

7

ขายถั่งเช่า รูปแบบของมะแฟนต้นมะแฟน จัดเป็นพรรณไม้lylยืนต้นผลัดใบขนาดกึ่งกลาง tkmuiliลำต้นมีความสูงได้ประมlku7lululาณ 10-30 เมตร เรือululu5ejนยอดออกจtjyujliะi;i;ทึบ เป็นพุ่มไม้กลมในช่วงบน ลำylylylต้นค่อนข้ylylางจะเปลาตรง โulคนต้นเป็นพูพอน เปลือylyกต้นเป็นสีน้ำตาlylล แตกเป็นสะเylก็ดโตๆขylยายพันธุ์จำหน่ายถั่งเช่าtjด้วยtjวิธีการเพาะเมล็ylylด เป็นพรรณไม้ที่โล่งแจ้ulง ที่ทนต่อความร้อlululนiด้ดีtj|ได้ดิบได้ดี|เจริญ|ก้าวหน้ilulu} พบtjได้มากขึ้นเป็นกรุ๊ปtjๆตาrjมป่าเบญจพtjรรณทั่krtjวไป หรือตtjามป่าเบญtyจพรรtjjtjณบริเวณylรอบๆเขาหินlylปูนyและป่าดงดิบแk.k.ล้งใกล้สายธาร ที่ความสูงจากระดับน้ำjuk/ะเล 100-800 เk/มตlร1tj,3ต้jtytjะเว้น}ใบยอดช่อจะเป็นใบคนเดียykว รูk/ปแบบของ/kใบย่อยเป็นรูปรียาว หรือรูปแกมkl;ขอบขนาน ปลายใบyukยัkjกคอดเป็นติ่งแหลม โคนใtบกลykjม;jมนหรือjlเบี้ยว ส่วนilขอบใบอ่jlอนหยัilกเป็นพันเtjอยil ส่ilวนใบแก่มักเรียบหรือเป็ilililนคลื่นหางๆใบมีขนาดกว้างราว 3-5 เซนติเมตรขายถั่งเช่า รวมykhukทั้งยาวราว 6-13 ซม. เtjนื้อใบหนา lilใบอ่อนมีขkyนงlอกประปราlยkyuk เมื่อแก่ขนจะหลุดออtกเkykป็tjนใบyเรียบเกลี้ยง ท้อjkงใบเห็นเส้นใบเป็นรูปตาข่ายไyukด้yดแจ้ง ก้านใบยาวโดยปyulระมาณ 1 ykเซนติเมตรจำหน่ายถั่งเช่าใบมะแฟkkyyนดอกมะแjlฟน มีดอกเykป็นช่อกระจัykjtjดกระจายอยู่ตามบริเวณykรtjอบๆซอกใบรวมทั้งปuilลายกิ่ง ในแต่yuลlะช่อจะuilมีทั้งดอกบริบูรณ์เพศรวมทั้งดอกแยกykเพศขายถั่งเช่า[/u] รูปtjบบkของดอกมีyukกลีtดอกไม้และกลีบyukรองกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ

Tags : ขายถั่งเช่า

8
อื่น ๆ / โกศเขมา สรรพคุณเเละประโยชน์
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2018, 05:00:45 AM »


โกศเขมา[/url][/size]
ชื่อสมุนไพร  โกศเขมา
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น โกศหอม (ไทย) , ซังตุ๊ก (จีนแต้จิ๋ว) , ซางจู๋ (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Atractylodes lancea (Thunb.) DC.
ชื่อสามัญ Atractylodes
วงศ์ Compositae
ถิ่นกำเนิด
โกศขมา มีบ้านเกิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและแมนจูเรีย แถมเขตเหอหนาน เจียงซู หูเป่ย ซานตง อันฮุย เจ๋อเจียง เจียงซีเสฉวน อื่นๆอีกมากมาย แหล่งผลิตที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม คือ มณฑลเหอดกน แต่ว่าแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุด คือ เขตหูเป่ย

ดังนี้ โกศเขมา มีเขตการกระจายชนิดในประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งรัสเซียโดยมักจะพบต้นหญ้า ในป่า และตามซอกหิน
ลักษณะทั่วไป
โกศเขมา จัดเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง30-100 เซนติเมตร เหง้าทอดนอนหรือตั้งขึ้น มีรากพิเศษขนาดเท่าๆกันมากมาย โดยเหง้าค่อนข้างกลมหรือยาว รูปทรงกระบอกมีกลิ่นหอมยวนใจมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 1-2 ซม. ผิวมีลักษณะขรุขระ ปุ่มป่ำ เปลือกนอกคล้ายผิวมะกรูด มีสีน้ำตาลอมเทา สีน้ำตาลเข้ม หรือสีน้ำตาลแกมดำ มีรอยย่นและรอยบิดตามขวาง เนื้อในแน่น เมื่อฝานหัวออกใหม่ๆจะเป็นสีขาวขุ่นที่เนื้อใน และมีทาสีแสดของชันน้ำมันอยู่เล็กน้อยทั่วๆไปมีกลิ่นหอมยวนใจเฉพาะ รสหวานอมขมน้อย รวมทั้งเผ็ดร้อน โดยเหง้าใต้ดินนี้เป็นส่วนที่ใช้สำหรับทำยาโดยจะเรียกว่า “โกฐเขมา” ส่วนลำต้นขึ้นลำพังหรือเป็นกลุ่ม ไม่แตกกิ่งหรือแตกกิ่งเฉพาะตอนบน มีขนคล้ายใยแมงมุมน้อย
ใบเป็นใบคนเดียว เรียงเวียนแผ่นใบบางคล้ายกระดาษซึ่งมีหลายแบบอย่างแม้กระนั้นส่วนใหญ่เป็นรูปหอกหยักซี่ฟัน ใบใกล้โดนต้นรูปไข่ กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 8-12 เซนติเมตร ขอบเรียบหรือหยักแบบขนนก 3-5 แฉก แฉกข้างรูปรีหรือรูปไข่กลับแกมรี แฉกปลายรูปกลม รูปไข่กลับ รูปไข่ หรือรูปรี ก้านใบสั้น ใบบริเวณกึ่งกลางต้นรูปไข่กลับ รูปไข่กลับปนรี รูปรีแคบ หรือรูปใบหอกกลับ
ช่อดอกออกเป็นแบบช่อกระจุกแน่น ออกลำพังหรือหลายช่อ ตามปลายกิ่ง วงใบแต่งแต้มมี 5-7 แถวขอบมีขนเหมือนใยแมงมุมน้อย ปลายมน ใบประดับประดาวงนอกรูปไข่ถึงรูปใบหอก กว้าง 2-3 มิลลิเมตรยาว 3-6 มิลลิเมตร ใบประดับกลางรูปไขถึงรูปไข่ปนรี หรือรูปรี กว้าง 3-4 มม. ยาว 0.6-1 ซม. ใบประดับประดาวงในรูปรีถึงรูปแถบ กว้าง 2-3 มม. ยาว 1.1-1.2 ซม. ปลายใบตกแต่งในสุดอาจมีสีแดง ข้างบนของฐานดอกแบน มีเกล็ดหนาแน่น ดอกสีขาวเป็นดอกสมบูรณ์เพศ หรือดอกเพศเมียที่มีเกสรเพศผู้ลดรูป กลีบหมดจดเป็นขน สีน้ำตาลถึงขาวหม่น มี 1 แถว โคนชิดกันเป็นวง ยาว 7-8 มิลลิเมตร กลีบยาวราว 9 มิลลิเมตร ปลายเป็น 5 หยัก เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดที่หลอดกลีบดอก รังไข่อยู่ได้วงกลีบ มี 1 ช่อง ก้านยอดเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียเป็นสามเหลี่ยมมีขนนุ่ม เกสรเพศเมีย แยกเป็น 2 แฉก ผลแบบผลแห้งเม็ดล่อน รูปไข่กลับ
การขยายพันธุ์
โกศเขมา สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เหง้า เหมือนกันกับพืชหัวธรรมดา โดยเกฐเฉมาสามารถเจริญวัยได้ดิบได้ดีในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 700-2500 เมตร และก็อุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 15-22 องศาเซลเซียส เป็นพืชที่สามารถทนต่ออากาศหนาวเย็นได้ และเป็นพืชที่มีการเจริญวัยดีมาก โดยสามารถเจริญเติบโตได้ในดินที่มากมายอีกทั้งบนเขา หุบเขา ที่ราบบนเขา ซึ่งอยากชั้นดินที่ดกแล้วก็ลึก เป็นดินร่วนอุดมสมบูรณ์ การระบายน้ำดี เกลียดชังน้ำหลากขัง และจะเจริญเติบโตได้ดีมาก บริเวณพื้นดินที่ไม่สูงนักแล้วก็เป็นดินร่วนผสมทราย โกศเขมาออกดอกรวมทั้งได้ผลสำเร็จตั้งแต่มิถานายนถึงตุลาคมมีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 ปี
องค์ประกอบทางเคมี โกฐเขมามีองค์ประกอบทางเคมีเป็นน้ำมันระเหยง่ายปริมาณร้อยละ 3.5-5.6 น้ำมันระเหยง่ายนี้มีสารสำคัญเป็น สารเบตา-ยูเดสมอล (beta-eudesmol) สารอะแทร็กครั้งโลดิน (atractylodin), beta-selinene, alpha-phellandrene, สารไฮนีซอล (hinesol) สารเอลีมอล (elemol) แล้วก็สารอะแทร็กครั้งลอน (atractylon) และ สารกลุ่มpolyacetyletylenes เป็นต้นว่า1-(2-furyl)-E-nonene-3,5-diyne-1,2-diacetata, erythro-(1,5E,11E)-tridecatriene-7,9-diyne-3,4-diacetate, threo-(1,5E,11E)-tridecatriene-7,9-diyne-3,4-diacetate, (3E,5E,11E)-tridecatriene-7,9-diyne-3,4-diacetate, (3Z,5Z,11Z)-tridecatriene-7,9-diyne-3,4-diacetate, (3E,5Z,11E)-tridecatriene-7,9-diyne-3,4-diacetate,(3Z,5E,11E),tridecatriene-7,9-diyne-5,6-diyldiacetate,(1Z)-atractylodin,(1Z)-atractylodinol,(1Z)-acetylatractylodinol(4E,6E,12E)-tetradecatriene-8,10-diyne-1,3-diyl diacetate,4,6,12-tetradecatriene-8,10-diyne-1,3,14-สารกรุ๊ป polysacchaccharides ดังเช่น arabino-3,6-galactans,galacturonic acid รวมทั้งสารกรุ๊ปอื่นๆดังเช่นว่า coumarins (osthol) วิตามินเอ (vetinol) วิตามินบี (thiamine) วิตามินดี(calcifrol) กรดไขมัน (linoleic acid, oleic acid และก็ palmitic acid)ประโยชน์/คุณประโยชน์ โกศเขมา เป็นสมุนไพรที่ใช้ในยาหลายตำรับมาก ทั้งในหนังสือเรียนแพทย์แผนจีนรวมทั้งแผนไทย มีการรับรองอยู่ในตำรับยาแห่งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ฉบับคริสต์ศักราช 2000 ในชื่อ Rhimosa atractylodis สำหรับเมืองไทยก็มีการใช้มาก ตัวยาสมุนไพรที่มีการจดทะเบียนยาแผนโบราณของอย. (อ.ย.) มี โกศเขมา ถึง 1,100 ตำรับ
ซึ่งแบบเรียนตามสรรพคุณยาไทยกำหนดไว้ว่า โกศเขมา มีกลิ่นหอม รสร้อน ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ เป็นยาบำรุงกำลัง แก้โรคเข้าข้อ เป็นยาเจริญอาหาร ยาขับเยี่ยว แก้โรคในปากในคอ แก้หวัดคัดจมูก แก้ไข้ แก้ไข้รากสาดเรื้อรัง ยับยั้งอาการหอบคล้ายยาอีเฟรดริน
ช่วยขับลม ใช้เป็นยาบำรุง แก้โรคในปากในคอเป็นแผลเปื่อยยุ่ย แก้เสียดแทงสองราวข้าง แก้จุกแน่น แก้โรคหอบหืด แก้ลมตะกัง แก้เหงื่อไหลไคลย้อยมาก แก้ขาปวดบวม ขาไม่มีแรง ปวดข้อ แก้ท้องเดิน นอกนั้นโกฐเฉมายังเป็นหนึ่งในพิกัดโกฐทั้งยัง 5 โกศอีกทั้ง 7 รวมทั้งหีบศพทั้ง 9 ส่วนในสรรพคุณยาจีนกล่าวว่าหมอแผนจีนนิยมใช้โกฐเฉมามาก เข้าในยาจีนหลายขนาน ตำราเรียนยาจีนว่าใช้แก้อาการท้องเสียท้องร่วง แก้อาการบวมโดยเฉพาะอาการบวมที่ขา แก้ปวดข้อ เพราะว่าโรคข้ออักเสบ แก้หวัดและก็แก้โรคตาบอดช่วงกลางคืน
นอกนั้นบัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้เริ่มแรก ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้โกฐเขมาในยารักษาลักษณะโรคในระบบต่างๆของร่างกาย รวม 2 ตำรับ เป็นยารักษากรุ๊ปอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” และก็ตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” มีส่วนประกอบของโกฐเฉมาอยู่ในพิกัดโกฐทั้ง 9 ร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับมีสรรพคุณสำหรับการแก้ลมหน้ามืด แก้อาการหน้ามืด ลายตา ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้องยารักษากรุ๊ปอาการทางระบบอาหาร ปรากฏตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของโกฐเขมาร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับ ใช้ทุเลาอาการท้องอืดเฟ้อ อาการอุจจาระธาตุทุพพลภาพ ท้องเดินชนิดที่ไม่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการติดเชื้อ
ต้นแบบ/ขนาดวิธีการใช้
ในหนังสือเรียนยาแพทย์แผนจีนเจาะจงให้ใช้เหง้าต้ม กินทีละ 3-9 กรัม แต่ว่าในบางแบบเรียนก็ระบุให้ใช้ 5-12 กรัม ส่วนในตำรายาไทยมักจะใช้เป็นเครื่องยาตามตำรับยา มีวิธีการจัดแจงเหง้าโกศเขมาเพื่อใช้ทำยา 3 แนวทางคือ
1. ตากแห้ง โดยแช่เหง้าโกศเขมาในน้ำสักประเดี๋ยว เพื่อให้นุ่มลง แล้วหั่นเป็นแว่นครึ้มๆนำไปตากให้แห้ง จะจับตัวได้ยารสชาติเผ็ดขม อุ่น จะให้คุณประโยชน์ ขับความชุ่มชื้นเสริมระบบการย่อยของอาหารแก้ความชุ่มชื้นกระทบส่วนกลาง (จุกเสียด อึดอัดลิ้นปี่ คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร ท้องร่วง) แก้ปวดข้อและกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการไข้หวัดจากลมเย็นหรือความชื้น (ป่วย หนาวๆร้อนๆปวดศีรษะ เมื่อยตัว)
2. ผัดรำข้าวสาลี โดยนำรำข้าวสาลีใส่ลงในกระทะตั้งไฟปานกลางจนควันขึ้น แล้วนำเหง้าโกศเขมาตากแห้งใส่ลงไป คนอย่างรวดเร็วจวบจนกระทั่งผิวของตัวยาเป็นสีเหลืองเข้ม นำออกจากเตา แล้วร่อนเอารำข้าวสาลีออก ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นจะทำให้ความเผ็ดน้อยลง แม้กระนั้นเนื้อยาจะนุ่มนวลขึ้น แล้วก็มีกลิ่นหอมยวนใจ จะให้คุณประโยชน์ ช่วยรักษาอาการของม้ามรวมทั้งกระเพาะอาหารดำเนินงานไม่เกี่ยวข้องกัน (กระเพาะทำหน้าที่ย่อยของกินจนได้สารต้อง ส่วนม้ามปฏิบัติภารกิจลำเลียงสารจำเป็นต้องนี้ไปใช้ทั่วร่างกาย) แก้เสมหะข้นเหนียว แก้ต้อหิน แก้ตาบอดช่วงเวลากลางคืน
3. ผัดเกรียม โดยนำเหง้าโกศเขมาตากแห้งใส่กระทะ ผัดโดยใช้ไฟปานกลาง จนกระทั่งผิวนอกมีสีน้ำตาลไหม้ พรมน้ำน้อย แล้วผัดต่อโดยใช้ไฟอ่อนๆจนกระทั่งตัวยาแห้ง นำออกจากเตา ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นแล้วร่อนเอาเศษเล็กๆจะได้ตัวยารสออกเผ็ด จะให้สรรพคุณ ช่วยทำให้การทำงานของลำไส้แข็งแรง แก้ท้องเสียเป็นหลัก ใช้รักษาอาการท้องร่วงเนื่องมาจากม้ามพร่อง โรคบิดเรื้อรัง
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ การเรียนรู้ฤทธิ์ของสารสกัดเหง้าโกฐเขมา และก็น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากเหง้า คือ β-eudesmol ต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก และก็ระยะเวลาที่ทำให้กระเพาะว่างในหนูเม้าส์เพศผู้ ที่ถูกกระตุ้นด้วย atropine, dopamine รวมทั้ง 5-hydroxytryptamine (5-HT)โดยให้สารสกัดโกฐเขมาในขนาด 500 หรือ 1000 มิลลิกรัม/โลและ β-eudesmol ขนาด 50 หรือ 100 มก./กิโลกรัม รวมทั้งยามาตรฐาน itopride hydrochloride ขนาด 10 หรือ 50 มก./โล ผลของการทดลองพบว่าสารสกัดโกฐเฉมามีฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก และทำให้อาหารเขยื้อนผ่านกระเพาะอาหารเร็วขึ้น ในหนูที่ถูกกระตุ้นด้วยdopamine ขนาด 1 มก./โล และสารสกัดโกฐเฉมาในขนาด 1000 มก./โล และ β-eudesmol ขนาด 100 มก./กิโล มีฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็กในหนูที่ถูกกระตุ้นด้วยatropine แต่ไม่มีผลต่อช่วงเวลาที่ทำให้กระเพาะว่างนอกจากนั้นสารสกัดโกฐเฉมาในขนาด 500 หรือ 1000 มิลลิกรัม/กก. แล้วก็ β-eudesmol ขนาด 25, 50 หรือ 100 มก./โล มีฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก และทำให้อาหารเขยื้อนผ่านกระเพาะอาหารเร็วขึ้น ในหนูที่ถูกกระตุ้นด้วย 5-HT ขนาด 4 มิลลิกรัม/กิโลกรัมหรือ 5-HT3 receptor agonist จากงานค้นคว้านี้ก็เลยสรุปว่าสารสกัดโกฐเฉมาและน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากโกฐเขมา เป็น β-eudesmolทำให้อาหารเขยื้อนผ่านกระเพาะเร็วขึ้น รวมทั้งกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ผ่านกลไลการยับยั้ง dopamine D2 receptor และ 5-HT3 receptor สามารถนำมาพัฒนายารักษาอาการท้องอืดเฟ้อ อาการอ้วก อึดอัดแน่นจากของกินที่อยู่ในกระเพาะ รักษาโรคกระเพาะอาหาร ซึ่งมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทของกระเพาะอาหารถูกทำลาย (gastroparesis) ส่งผลให้กล้ามกระเพาะเหน็ดเหนื่อย ทำให้ไม่สามารเคลื่อนอาหารให้ผ่านไปยังส่วนต้นของไส้ (duodenum) ได้ จึงมีอาหารเหลือตกค้างในกระเพาะ
 
ฤทธิ์ต้านการปวด
 การทดสอบในหนูพบว่า สาร β-eudesmol มีฤทธิ์ต้านปวดโดยยับยั้ง nicotinc Ach receptor channels ที่neuromuscular junction และพบว่าส่งผลต่อกล้ามเนื้อของหนูที่เป็นโรคเบาหวานมากยิ่งกว่าหนูปกติ
ฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ สาร β-eudesmol , atractylochromene , 2-(2E0-3,7-dimethyl-2,6-octadienyl -6-methyi-2,5-cyclohexadiene-1,4-dione , 2-(2’E)-3’7’-dimethyl-2’6’-octadienyl-4-methoxy-6-methylphenol,(3Z,5E,11E)-tridecatriene-7,9-diynyl-1-0-(E)-fenulate มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบโดยยับยั้งเอนไซม์ 5-lipoxygenase รวมทั้งcyclooxygenase-1
ฤทธิ์ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะ สารสกัดจากเหง้าของโกฐเฉมาเมื่อป้อนให้หนูแรทสายพันธุ์ sprague-dawley ซึ่งถูกรั้งนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารโดยใช้กรด acetic acid ทำเก็บเลือด รวมทั้งเซลล์เนื้อเยื่อกระเพาะอาหารของหนู วัดระดับของ epidermal growth factor (EGF), trefoil factor 2 (TFF2), tumor necrosis factor-α(TNF-α), interleukin 6, 8 (IL-6, 8) รวมทั้ง prostaglandin E2 (PGE2) ที่เกิดขึ้น โดยใช้เคล็ดวิธี (ELISA) และวัดการแสดงออกของ mRNA เช่น EGF, TFF2, TNF-α และ IL-8 ในกระเพาะอาหาร จะถูกพินิจพิจารณาโดยใช้เคล็ดวิธี real-time-PCR ผลการทดลองพบว่าการถูกทำลายจากกรดของเซลล์เนื้อเยื่อกระเพาะต่ำลงและก็ยังยั้งการสร้างสารที่เกี่ยงงอนข้องกับการอักเสบอาทิเช่นTNF-α, IL-8, IL-6, แล้วก็ PGE2และก็มีฤทธิ์คุ้มครองปกป้องกระเพาะอาหารโดยเพิ่มการแสดงออกของ mRNA ของ EGF, TFF2เพิ่มการผลิตEGF, TFF2
ฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน สารสกัดน้ำที่ประกอบด้วยสาร polysaccharides ที่มีน้ำตาลเชิงคนเดียวเป็น galacturonic acid มีฤทธิ์กระตุ้นระบบคุ้มกันในหนูที่ติดเชื้อรา Candida albicans ทำให้หนูมีชีวิตรอดเยอะขึ้น และก็สารกลุ่ม arabino-3,6-galactan มีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิต้านทานในหนู
ฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร สารสกัดน้ำมีฤทธิ์ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้นสารสำคัญคือสารกรุ๊ป polyacetylenes
ฤทธิ์ต้านทานการขาดออกซิเจนในร่างกาย สารสกัดอะซิโตนมีฤทธิ์ต้านการขาดออกสิเจนในร่างกายหนูถีบจักรเหตุเพราะสารโปแตสเซียมไซยาไนด์ สาระสำคัญคือ β-eudesmol
ฤทธิ์แก้ท้องขึ้นเฟ้อ ฤทธิ์เพิ่มระยะเวลาที่ทำให้กระเพาะอาหารว่าง ของน้ำมันหอมระเหยจากเหง้าโกฐเฉมา ในหนูแรทเพศผู้ สายพันธุ์วิสตาร์ ที่อยู่ในสภาวะเครียด แล้วก็ผลของฮอร์โมนที่ควบคุมหลักการทำงานของกระเพาะแล้วก็ลำไส้ ซึ่งหลั่งจากต่อมไฮโปธาลามัส หรือ corticotropin-releasing factor (CRF) ทดสอบโดยป้อนน้ำมันหอมระเหยจากเหง้า ในขนาดต่างๆเป็น 30,60 และก็ 120 mg/kg ต่อวัน แก่หนูตรงเวลา 7 วัน พบว่าไม่เป็นผลเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาที่ทำให้กระเพาะว่างในหนูปกติ แต่ส่งผลทำให้เพิ่มระยะเวลาที่ทำให้กระเพาะอาหารว่างได้ในหนูที่มีภาวการณ์เครียด น้ำมันหอมระเหยสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมน motilin (MTL) รวมทั้ง gastrin (GAS) และลดระดับ somatostatin (SS) และ CRF อย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่ากลไกสำคัญเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมน คือยับยั้งการหลั่ง CRF ซึ่งผลเหล่านี้ทำให้เพิ่มช่วงเวลาที่ทำให้กระเพาะอาหารว่างเร็วขึ้น ก็เลยลดอาการไม่สบายท้อง ท้องขึ้นเฟ้อจากความตึงเครียดในหนู (ภาวการณ์เครียดทำให้รูปแบบการทำงานของกระเพาะอาหารและไส้น้อยลง)
การเรียนทางพิษวิทยา
การทดสอบพิษฉับพลันของสารสกัดเหง้าด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 โล (คิดเป็น 1,786 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) รวมทั้งให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ไม่เจออาการเป็นพิษ
ข้อแนะนำ/เนื้อความระวัง
1. คนเจ็บที่มีอาการท้องเดิน ที่มีอุจจาระร่วงเป็นน้ำ ควรจะใช้โกศเขมาด้วยความระวัง
2. สตรีมีท้องแล้วก็สตรีให้นมบุตรควรจะขอความเห็นแพทย์ รวมทั้งผู้เชียวชาญก่อนใช้เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยในสตรีตั้งท้องและสตรีให้นมลูก
3. อาการข้างๆที่เจอได้ในผู้ที่ใช้  โกศเขมาคือ คลื่นไส้ อ้วก ปากแห้ง และก็มีกลิ่นปาก
4. ไม่ควรใช้โกฐเขมาในปริมาณที่มากเกินไปหรือใช้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเนื่องจากบางทีอาจส่งผลต่อระบบต่างๆของร่างกายได้
เอกสารอ้างอิง
1. วิทยา บุญวรพัฒน์.“โกฐเฉมา”.หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้หลายครั้งในประเทศไทย. หน้า 102.
2. นพมาศ สุนทรเจริญนันท์.โกฐเขมา จุลสารข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ปีที่28 .ฉบับที่ 3 เมษายน 2554.หน้า17-19
3. ชยันต์ พิเขียรสุนทร แม้นมาส ชวลิต วิเชียร จีรวงศ์.คำอธิบายตำราเรียนพระยารักษาโรคพระนารายณ์.จังหวัดกรุงเทพ: สถานที่พิมพ์อมรินทร์.2542 https://www.disthai.com/
4. “โกฐเขมา Atractylis”. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ. หน้า 217.
5. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. 2546. ประมวลผลการวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 1.สำนักพิมพ์การศาสนา:กรุงเทพฯ.
6. โกศเขมา.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpaye&pid=27
7. Yu KW, Kiyohara H, Matsumoto T, Yang HC, Yamada H. lntestinal immune system modulating poly-saccharides from rhizomes of Atractylodes lancea. Planta Med 1998;64(8):714-9.
8. Kimura Y, Sumiyoshi M. Effects of an Atractylodes lancea rhizome extract and a volatile component beta-eudesmol on gastrointestinal motility in mice. J Ethnopharmacology. 2012;141:530-536.
9. Yu Y, Jia T-Z, Cai Q, Jiang N, Ma M-Y, Min D-Y, et al. Comparison of the anti-ulcer activity between the crude and bran-processed Atractylodes lancea in the rat model of gastric ulcer induced by acetic acid. J Ethnopharmacology. 2015;160:211-218.
10. Nakai Y, Kido T,Hashimoto K, Kase Y, Sakakibara l, Higuchi M, Sasaki H. Effect of the rhizomes of Atractylodes lancea and its constituents on the delay of gastric emptying. J Ethnopharmacol 2003;84(1):51-5.
11. Lehner MS, Steigel A, Bauer R. Diacetoxy-substituted polyacetyenes from Atractylodes lancea. Phyto-chemistry 1997;46(6):1023-8
12. Resch M, Heilmann J,Steigel A, Bauer Rauer R. Futher phenols and polyacetyenes from the rhizomes of Atractylodes lancea and their anti-inflammatory activity. Planta Med 2001;67(5):437-42.
13. Zhang H, Han T, Sun L-N, Huang B-K, ChenY-F, Zheng H-C, et al. Regulative effects of essential oil from Atractylodes lancea on delayed gastric emptying in stress-induced rats. Phytomedicine. 2008;15:602–611.
14. Chiou LC, Chang CC. Antagonism by β-eudesmol of neostigmine-induced neuromudcular failure in mouse diaphragms. Eur J Pharmacol 1992;216(2):199-206.
15. Kimura M, Nojima H, Muroi M, Kimura l. Mechanism of the blocking action of β-eudesmol on the nicotic acetylcholine receptor channel in mouse skeletal muscles. Neuropharmacology 1991;30(8):835-41.
16. Kimura M, Tanaka K, Takamura Y, Nojima H, Kimura l, Yano S, Tanaka M. Structural componets of beta-eudesmol essential for its potentiating effect on succinylcholine-induced neuromuscular blockade in mice. Biol Pharm Bull 1994;17(9): 1232-40.
17. Yamahara J, Matsuda H, Naitoh Y, Fujimura H, Tamai Y. Antianoxic action and active constituents of atractylodis lanceae rhizome. Chem Pharm Bull 1990;38(7):2033-4.
18. Lnagaki N, Komatsu Y, Sasaki H, Kiyohara H, Yamada H, lshibashi H, Tansho S, Yamaguchi H, Abe S, Acidic polysaccharides from rhizomes of Atractylodes lancea as protective principle in Candida-lnfected mice. Planta Med 2001;67(5):428-31.

Tags : โกศเขมา

9
ประโยชน์ขมิ้น

10
กวาวเครือแดง

11
อื่น ๆ / Re: ขายถั่งเช่า รูปแบบของมะแฟนต้นมะแฟน
« เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2018, 05:02:32 AM »
ถั่งเช่า

12
อื่น ๆ / Re: ขายตรีผลา ถ้าคุณ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2018, 08:48:10 AM »
ตรีผลา

13

ขายส่งพริกไทยดำ มะละกอ เป็นไม้ผลที่มีเนื้อในสีเหลือuilงส้ม หุ้มด้วยเปลือกชั้นนอกบางๆสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีส้มหรือแดงเมื่อผลใกล้rhytjสุกเyukต็มที่แล้ว แม้ยัul;i;i;งไม่ถูกผ่าออก พริกไทยดำราคาถูกมะละกอจะไม่ส่งกลิ่นอะไรkก็ตulามแต่ขายส่งพริกไทยดำเเคปซูลเมื่อถูกปiulอกเปลืfrkiurfkอกรวมทั้uykงผ่าจนlเห็นเนื้อใน มะละกอจะส่งกลิ่นหอมหวาtjkdfkyiulนออกมา เว้นเสียแต่คนจะนิยมกิน7lkมะละกอสุกคือผลไy7kม้ของว่างแล้ว มะละกอยังถูกนำมาเข้าครัวไทยหลายชนิด โดยเฉoi;พาะส้มตำพริกไทยดำราคาถูก อาหาuuu;nhiufrtsxรยอlohuoghtfดฮิตขายส่งพริกไทยดำเเคปซูลและลืk87kอชื่อerเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองไทยมะละกอในด้านค่าทางโภ'buชนาการ มะละกอคือผลไม้ที่ประกอบไปด้วยสารอาหารนานาพริกไทยดำราคาถูกชนิดที่yukเป็นประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกาย มีแคลอรี่ต่ำ ไม่มีไuilขมันหรือคอเลสเตอรอล แล้วก็ยังiulเป็นแหล่งอาหารที่สำuilคัญของวิตามินเอ วิตามินซี uiluiuilโพแทสเซียม โฟเลต และก็เส้นใยอาหาร ยิ่งกว่าuilนั้น ขายส่งพริกไทยดำเเคปซูลในมะลrhกอยังมีสารพาเพน (Papain) พริกไทยดำราคาถูกซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคkuyมีที่ช่วiuilkulยสำหรับการย่อยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันได้อย่uilางดีเยี่ยม มีผลดีต่อกระบวนการเสื่อมสลายของกินจำพวกเนื้อสัตว์ที่ถูกกินเข้าไป แล้วก็ยังมีสารคาร์เพน (saghtCarpain) ที่คาดว่าอrthาจมีฤทธิ์สำหรับเพื่ykอyjyการฆ่luilาทำลายปรสิต และเป็นผลดีขายส่งพริกไทยดำเเคปซูลต่อระบบประสาทได้อีกด้วยด้วยเหตุดังกล่าว ผลและก็ใบของมะละกอจึงเชื่yukอว่ามีประโยชน์ต่อร่างกyuยพริกไทยดำราคาถูกในu7ด้านต่างๆรวมทั้งอาจสามารถนำมาใช้รักษาทุเkuyลyukาลักษณะการป่วยบluiางอย่างได้ อyukย่างเช่นขายส่งพริกไทยดำเเคปซูล ช่วยทำให้ประสาทผ่อนคลาย ช่วยขับเkยี่ยว คุ้มครองป้องกันรวมทั้งรักษาโรคในระบบทางเดินอาหkาร การติดเชื้อและโรคพยาธิในลำไส้ และอากuilารปวดเส้yukนประสาทเนื่องมาจากมีหนอนพยาธิในระบบน้ำเหลือkyง ฯลฯแต่ ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีต่างๆที่เจอในมะละกอ ว่ามีคุณภาพทางการรักษาiuรวมทั้งมีประโยชน์ต่อร่างกายใช่หรือไม่ จึงเป็นต้นเหตุของพริกไทยดำราคาถูกการเล่าเรียนค้djนคว้าข้อมูลในด้านต่kyuางๆรวมtykjทั้งuilการทuilดลองขายส่งพริกไทยดำเเคปซูล{ท7lปรับใช้ประโยชน์ได้จริงuylตัวอย่างงานทดสอบที่เกี่ยวโยงกับประสิทธิผuilลและผลกระทบขอiuงมะละกอ พริกไทยดำราคาถูกดังเช่นว่าykสร้างเสริมวิตามินเอ

Tags : ขายส่งพริกไทยดำ,พริกไทยดำราคาถูก

14

ขายส่งยาระบายประโยชน์ซึ่งมาจากชะพลู ขายส่งยาระบายเเคปซูลไอเดียการกินรวมทั้งการใช้ชะพลูเพื่อสุขภาพชะพลู ผักที่มีลักษณะเหมือนยาระบายราคาถูกใบพลู มีกลิ่นหอมยวนใจ โดยเป็นผักสมุนไพรพื้นเมืองที่หาได้ง่าย หลายท่านอาจจะรู้จักกันดีul ขายส่งยาระบายเเคปซูลแต่ว่ายังมีอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่ยังไuม่รู้ และไม่รู้ว่าประโยylชน์ulของชะพuliลูนั้นมีดีต่อร่างกายอย่างไรบ้างวันนี้พวกเราเลยจะพาคุณไปทำความรู้จักกับคุณประโยชน์และสรรพคุณของชะพลูกัน พร้อมไulอเดียกาuliรกินการใช้เพื่อสุขภาพ บอกเลยว่านานาปulระการยาระบายราคาถูกจนจำต้องอัศจรรuiluใจชะพuiลู ด้วยเนื่อuilงจากขายส่งยาระบายเเคปซูลลักษณะขอrsjthtyงยาระบายราคาถูกใบที่มีควาjyukuiluilมคล้ายคลึงกัน ซึ่งคุณประโยชน์ของชะพkลูนั้น สามารถที่จะช่วยในเรื่องเกี่tjytยวกับการkuyukบำรุงร่างกายในด้านต่างๆแล้วก็สามารถที่จะช่วยกำyukจัดลมข้างในท้อง หรือจะเรียกได้yukว่าเป็นผักประจำถิ่นที่ช่วiuukยในเรื่องเyukกี่ยrfyวกับการดูแลสุขภาพโดyยธรรมดาได้อย่างนานาประการด้านก็ไม่ผิดแต่อย่างใดลักษณะykyขyukองชะพลูหรับต้นชะพลูนั้น ขายส่งยาระบายเเคปซูลนับว่าเป็นพืylชล้มลุuyulกที่มีขนาดเล็yukกรวมทั้งสามารถที่จะเผชิญได้อย่างง่ายๆเพราะเyulหkyukตุว่าจะขึ้นอยู่กับในพื้นที่ที่เปียกแฉะยาระบายราคาถูก ลักษณะใyulบสีเขียวสด มีกลิ่นเฉพrfykuyuาะเป็นของตัวเองขายส่งยาระบายเเคปซูล แล้วก็สามารถที่yukจะมองเห็นเส้นแบ่งyukใบได้อย่างเห็นได้ชัด สำหรับผลจะมีลักษyukณะคล้ายผลเบyuอร์yukปรี่ เป็นมีทรงกระบอก ภายในจะมีเม็ดขkyuyukนาดเล็ก ในส่วนของดyukอกชะพลูyukyukนั้นyuจะมีความคล้ายกับดอกดีปลี แต่ว่าจะมีขนyukาดที่สั้นกว่าคุkyukณค่าทาluyงโภชนาการของชะพลูในส่วนขอlyuงใบชะพลูขายส่งยาระบายเเคปซูลปริมkyukาณ 100 กkluiรัม ให้ท่านค่าทางโภชนากfyารดังต่อไปนี้พลัykuงงาน 101 กิโลแคลอรี่, คาร์โบyukไฮเดรต 14.2 กรัม, โปรตีน 5.4 yukกรัม, แคลเซียม 601 มิลลิกรัม,yukfry เส้นใย 4.6 กรัม, เบluilต้า-แคโรทีน 414.45 ไiulโครกรัม, วิตามินซี 22 มิลลิกuม,  ioฟอสฟอรัliuiส 30 มิลลิกรัม, เหล็ก 7.6 มก., วิตามินบีหนึ่ง 0.13 มิลลิกรัม, วิตามินบีสอง 0.11 มิลลิกรัม และก็ไนอาuซิน 3.4 มิลลิกulรัมjtyyulkloiคุณประiulโยชน์ของต้นชะพลูสำหรับต้นชะพลูนับว่าเป็นผักยาระบายราคาถูกท้องถิ่นที่สามารถยาระบายราคาถูกใช้ประโยชน์ได้ในทุกส่วน โดยสามารถที่จะแบ่งได้ ดังต่อไปนี้1. ราก รากของต้นชะพลูจะมีรสชาติที่trjtyเผ็ดร้อน โดยสามารถที่จะช่วยบำรุงรวมทั้งuilปรับสมดุลขายส่งยาระบายเเคปซูลในร่างกาย นอกเหนือจากนั้น ยังช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าอาหารได้มากilfrftl9lเพิ่มขึ้น2. ลำต้น ช่วยกำจัดเสมหะทั้งเสมหะที่อyuluylยู่ในยาระบายราคาถูกลำuylคอรวมทั้lyuyuงเสมหะแห้fyrkyulง และก็ยังช่วยรักษาลักษณะของuilการปวดท้uiluilอง รวมถึงuilอาการโรคดีซ่านได้อีกด้วย3. ใบ มีคุณปrfkluilระโยชน์ที่ยาระบายราคาถูกคล้ายคylลึงกันกับราก โดยจะช่วยรักษาโรคโรคเบาหวานได้

Tags : ยาระบายราคาถูก

15

ขายกระชายดำ รูปแบบของต้นม่อนไข่ต้นม่อนไข่ จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงโดยปกติไม่tjyuklul;กิน 8 เมตร รวมทั้งอาจสูงได้ถึง 27-30 เมตร uilulมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของต้นราวๆ 1 เมตร ลำต้uมียางสีขาวๆที่กิ่งอ่jjอนเป็นสีuli;jj.oน้ำตykาลiul1,2j ผลjไม้ม่อนไข่jj จำหน่ายกระชายดำคือผลไม้พื้น,iu.;ulo'เมือykงที่มีบ้านเกิดเมืองtkuilykอนใykyukuykไrtjข่ ลูกม่อนykykไข่ใบม่อนไykข่ รูปแop'บของใบเป็นรูปใบหykอก ปลykoulppykyukykyายใบเรียวแหลม ยาวราวๆ 11.25-2kpit8 เซนติเมตร กว้างประykมาณ 4-7.5 เซนติเมตร ใบเป็p'นykมันแล้วก็บาop'งใบม่อนไo'ข่ดอกม่p'อนไข่ ดอก'o'มีสีครีมyukและก็มีกลิ่นหอมykหวนผลม่อนไข่ ผลมีลักษณะเป็นกลมรูปykykรี ปลายผลมีหลาykopยแหลมหรือจะงอย ผลมีขนykาดกว้างโดยykประมาณ 5-7.5 ซม.ykkมทั้งยาวประมykyy;o;'opาณ 7.5-12.5 ขายกระชายดำซkykม. ผลเมื่อสุกyykจะเป็นสีเหลืองอ่อน เykลือกผลบ;าง เนื้ykในผลเป็นykเหลืองสดน่ากิน เนื้อkลั'o'กษณะเหนียวคล้าloi;ทำของหวาน เนื้อนุ่มคo;po;ล้ายกับไข่แดง (จึงเป็นที่มาของชื่อ Egg fruit) ข้างo;opในopผลมีเมล็ดขนาดใ;o;หญ่ และก็มีลักษณะเป็นรูปรีสีดำ;o รสหวานopo
ผลไม้ม่อนไข่เม็ดม่อykนไข่สรรพคุณขykองyukyukyม่อนไข่เปลือกของต้นม่อนไข่ใช้เป็นยารักษykkาอาการไข้ ตัวร้อน (เปykyลือกต้น)ykลสุกใช้กิน ช่วยรักษาโรคเลือดไหลตามไรฟัน (ผล)เมล็ดใช้เป็;opนยาyสำykหykykรับช่วยรักษาแผลเน่าเปื่อยจำหน่ายกระชายดำ (เม็ด)ช่วยรักษาผดkyผื่นคัน (เปลือกต้น)kykyy
คุณประโยชน์ของม่อนไข่ผลม่อนไข่นิยมใช้กินเป็นผลไม้สด;lio; มีความเห็นว่าอร่อยนัก ชาวฟลอริดานิยมรับประทykนร่วมกับเกลือykริกไทย มายอyเค้yuuilก|ขนมเค้ก} แยม คัสตาร์ด ทาร์ต ใช้อบใulห้สุก หรือนำมาใช้ผสมกับนมหรือโยเกิร์ต เป็นต้นแก่น;oไม้ของต้นม่อนไข่มีควo;ามละเอียดtykiuแล้วก็แข็งแรง สopามารถขายกระชายดำนำมาใช้ทำเป็นไliกระดานหรือใช้ในการก่อสร้างต่างๆได้

Tags : ขายกระชายดำ,ขายกระชายดำ

หน้า: [1] 2