1
รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
- พฤศจิกายน 24, 2024, 05:34:00 AM
- ยินดีต้อนรับ, บุคคลทั่วไป
ข่าว:
SMF - Just Installed!
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
หน้า: [1]
2
อื่น ๆ / “ไม่ทานแป้ง” ความเชื่อไม่ถูกต้องของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก
« เมื่อ: เมษายน 25, 2018, 07:19:23 AM »“อดข้าวนะ กำลังไดเอทอยู่” ประโยคนี้คุ้นๆไหมเอ๋ย คุณอาจจะเป็นคนพูดเอง หรือบางทีก็อาจจะได้ยินคนใกล้ตัวกล่าวกันอยู่เสมอๆไม่กินข้าวในที่นี้ เป็นไปได้ทั้งการ “ไม่กินข้าว แต่ว่ากินเกาเหลา สุกี้ ยำ ส้มตำ ฯลฯ” ไปจนกระทั่ง “งดเว้นมื้ออาหาร” ไปเลย บางบุคคลทำแล้วได้ผล แม้กระนั้นบางบุคคลบางทีก็อาจจะมิได้โชคดีเสมอ ถ้าไม่ทานแป้งเลยจะส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายอย่างไรบ้าง พวกเรามีคำตอบค่ะ
1. แป้งนั้น สำคัญไฉน?
แป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เป็นหนึ่งในอาหาร 5 หมู่ ที่ร่างกายอยากได้ในทุกวัน โดยคาร์โบไฮเดรตเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคส มีบทบาทคอยให้พลังงานแก่ร่างกาย ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆ ยืน เดิน วิ่ง ทำงาน บริหารร่างกาย ทุกกิจกรรมล้วนแต่อยากได้พลังงานทั้งสิ้น โดยเหตุนี้หากร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอ อาจก่อให้เราขาดพลังงานสำหรับการทำกิจกรรมดังที่กล่าวมาแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรง สมองไม่แล่น เหนื่อยง่าย หรืออาจถึงขั้นโหยหิว มือสั่น ต้องการทานอะไรหวานๆ อาการคุ้นๆไหม คนไหนที่หักดิบไม่กินข้าวไปครู่หนึ่งหลายคน อาจเคยมีอาการคล้ายๆกันนี้มาแล้ว
2. อันตรายจากการขาดคาร์โบไฮเดรต
ถ้าหากเราไม่ทานแป้ง หรือน้ำตาลเลย อะไรจะเกิดขึ้น? แน่ๆว่าอันดับแรก คือ ร่างกายจะไม่มีเรี่ยวแรงในการทำกิจกรรมต่างๆขาดพลังงานสำหรับในการดำรงชีวิต ร่างกายบางทีอาจ พยายามหาแหล่งพลังงานมาเผาผลาญแทนคาร์โบไฮเดรต โดยการดึงไขมัน และโปรตีนมาเผาผลาญแทน แต่ว่าในเมื่อไขมัน และโปรตีนเป็นตัวที่ช่วยสร้างกล้าม สร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ถ้าโดนดึงมาเผาผลาญพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรตอยู่เป็นประจำกล้ามเนื้อก็บางทีอาจจะลีบแบน ร่างกายผอมโซ ผิวหนังเหี่ยวย่น
ยิ่งกว่านั้น เมื่อร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญไป ระบบการทำงานด้านในก็จะเริ่มผันแปร ภูมิต้านทานเริ่มบกพร่อง ตับไตกระเพาะอาหารเริ่มทำงานผิดปกติ รวมไปถึงระบบเลือด ต่อมน้ำเหลือง และก็อื่นๆ จึงอาจเป็นช่วงอันตรายที่หลายโรครุมเร้าได้ง่าย ด้วยเหตุว่าร่างกายจะอ่อนแอ เชื้อแบคทีเรีย แล้วก็ไวรัส อาจเข้ามาก่อโรคให้เราได้ง่ายเพิ่มขึ้น
3. ทานแป้งเท่าไรต่อวัน ถึงจะพอดี?
สำหรับคนใดที่ยังอยากลดหุ่น อย่างปลอดภัย ไร้โรค ยังคงจำเป็นต้องจำกัดปริมาณสำหรับในการทานแป้งนั่นแหละถูกแล้ว แต่ว่าไม่สมควรงดเว้นทานเลย 100% ควรจะทานให้อยู่ในปริมาณที่สมควร เลืออกทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีมีคุณภาพ เพื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่ดี มีประโยชน์ และไม่มากจนเกินไปจนกระทั่งเหลือไปสะสมเป็นชั้นไขมันหนาๆตามส่วนต่างๆของร่างกาย
คาร์โบไฮเดรตที่ดี คือ ข้าวที่มิได้รับการขัดสี หรือขัดสีน้อย ตัวอย่างเช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปังที่ไม่ฟอกขาว ยกตัวอย่างเช่น ขนมปังโฮลวีท รวมถึงผักผลไม้ที่มีรสหวานน้อย กากใยอาหารมาก อย่างมันเทศ ข้าวโพด ก็ยังทานได้ แล้วก็ดีต่อร่างกาย แต่ว่าควรควบคุมปริมาณไม่ให้มากเกินไปต่อสภาพร่างกาย
คิดอย่างาย คือ ใน 1 มื้อ ทานได้ 1 กำมือ กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ มื้อเย็นจะลดแป้งลงอีกนิดหน่อย รวมทั้งเพิ่มเนื้อสัตว์ รวมทั้งผักผลไม้เข้ามาแทนก็ได้ แม้กระนั้นอย่าถึงกับงดเว้นทานแป้ง แล้วก็น้ำตาลโดยสิ้นเชิง
แม้กระนั้นถ้าเกิดต้องการที่จะลดปริมาณของคาร์โบไฮเดรตที่คงจะเกิดผลดีต่อสถาพทางร่างกายเป็นการบริโภคน้ำตาลที่มากเหลือเกิน โดยเราไม่ควรบริโภคเกินวันละ 6 ช้อน เนื่องจากว่าร่างกายจะนำน้ำตาลไปใช้ไม่ทัน ทำให้เกิดการสั่งสมไขมันในตับ ทำให้ตับอักเสบ แล้วก็เป็นต้นเหตุหนึ่งของการเกิดโรคตับแข็งได้ รวมทั้ง น้ำตาลที่เกินจะแปลงเป็นไขมันที่สะสมอยู่ตามท้องของพวกเรานั่นเอง
สิ่งจำเป็นที่คนอยากผอมมักมองข้าม คือ นอกเหนือจากการควบคุมจำนวนอาหารที่ทานในแต่ละวันแล้ว เราควรจะเผาผลาญพลังงานที่มีอยู่ออกไปด้วยการบริหารร่างกาย ด้วยเหตุนี้แม้จะต้องออกกำลังกาย ร่างกายของพวกเราก็เลยจำเป็นจะต้องมีพลังงานเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินด้วย ใครทำได้ตามนี้ ยืนยันว่านอกจากจะได้รูปร่างดีๆกลับไปแล้ว ยังได้สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ไร้โรคภัยเป็นของแถมไปด้วยแน่นอน
ขอขอบคุณ
เว็บไซต์ : https://www.sanook.com/health/5761/
เขียนโดย : 928bet
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ดูแลสุขภาพ
Tags : ออกกำลังกาย,กิจกรรม,สำคัญ
3
อื่น ๆ / ระวัง! เครื่องปรับอากาศรถยนต์เปรอะเปื้อน ราขึ้นรถ ต้นเหตุสุขภาพพัง
« เมื่อ: เมษายน 07, 2018, 12:59:49 AM »เคยเข้าไปนั่งในรถตนเอง หรือรถยนต์เพื่อนฝูง แล้วรู้สึกอากาศอับๆ ชื้นๆ หรือบางทีอาจจะฝุ่นละอองมากมาย จนทั้งจามทั้งไอ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นรถกันบ้างหรือเปล่าค่ะ อากาศบ้านเราก็อีกทั้งร้อนทั้งยังเปียกชื้น ทั้งเชื้อรา ทั้งแบคทีเรียเติบโตได้ง่ายดายยิ่งช่องแอร์ถ้าไม่ได้รับการทำความสะอาดบ้าง ลมปะทะหน้าหนแรกที่เปิดแอร์นี่เต็มไปด้วยเชื้อราชัดๆจะไม่ให้เจ็บป่วยได้ยังไงไหว ด้านการแพทย์เขาเรียกว่า “Sick Car Syndrome” ค่ะ
อาการป่วยจากเชื้อรา แบคทีเรีย และก็ฝุ่นละอองต่างๆในรถยนต์
- ไอ
- จาม
- หายใจติดขัด
- เคืองตา และจมูก จนกระทั่งน้ำมูกน้ำตาไหล
- ง่วงซึม
- แน่นหน้าอก
- ระบบทางเดินหายใจแตกต่างจากปกติ
- ภูมิแพ้
สเปรย์ฉีดกำจัดกลิ่น น้ำยาขจัดกลิ่นในรถ ช่วยได้ไหม?
ถ้าเป็นสูตรกำจัดแบคทีเรียก็ช่วยได้เพียงแต่ระยะหนึ่ง แม้กระนั้นเมื่อฤทธิ์ หรือกลิ่นของน้ำยาหมด แบคทีเรียและเชื้อราก็จะกลับมาอีกอยู่ดี แต่ว่าหากเป็นสูตรปรับกลิ่นเฉยๆก็ไม่สามารถที่จะฆ่าแบคทีเรีย หรือเชื้อราได้
แนวทางขจัดฝุ่นละออง เชื้อราในรถยนต์ สิ่งที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
1. หาสิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ ถ้าหากเปิดประตูเข้าไปแล้วมีกลิ่นเลย กลิ่นบางทีก็อาจจะมาจากที่นั่ง แม้มีกลิ่นตอนเปิดเครื่องปรับอากาศ กลิ่นอาจมาจากเครื่องปรับอากาศ ฯลฯ เมื่อหาต้นสายปลายเหตุได้และก็จัดการชำระล้างซะ
2. หมั่นดูดฝุ่นเบาะนั่งเป็นประจำ โดยเฉพาะเบาะผ้า อย่าลืมดูดฝุ่นผงพรมที่เท้าด้วย
3. ถ้ามีน้ำ หรือเครื่องดื่มต่างๆเคยหกใส่เบาะ หรือที่วางเท้า รีบชำระล้าง รวมทั้งจัดการให้แห้ง
4. อย่าฉีดสเปรย์ น้ำหอม หรือสารเคมีต่างๆมากเกินความจำเป็น แทนที่จะได้ผลดี กลับได้ผลที่แย่กว่าเดิม
5. ถ้ายังมีเชื้อรา หรือกลิ่นเหม็นอับชื้นที่แก้ไขเองมิได้ ให้รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
รถยนต์สำหรับบางบุคคลแทบจะเป็นเสมือนบ้านหลังลำดับที่สองหรือสาม (รองจากออฟฟิศ) ด้วยเหตุนี้พวกเราก็ควรจะดูแล ทำความสะอาด รวมทั้งรักษาสภาพรถยนต์ให้สะอาด รวมทั้งพร้อมใช้งานอยู่เป็นประจำ เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง รวมทั้งความปลอดภัยของเราค่ะ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :The Auto Channel
ภาพ :iStock
เว็บไซต์ : https://www.sanook.com/health/1793/
เขียนโดย
AVATAR
Tags : ภูมิแพ้,สุขภาพกาย
หน้า: [1]