รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - bilbill2255

หน้า: [1] 2 3 ... 8
1

มะรุม สำหรับผู้หญิงที่กำลังไดเอต เว้นแต่ของกินคลีน หรืออาหารเพื่อสุขภาพแล้ว จำต้องuio;ioนึกถึงรายการอาหารแgtu'poiu;ilio;กงไทยอย่างแกงส้มแน่นop';p[p['อนมะรุม เป็นอีกเมtj'ukuiluนูแกงไม่ใส่น้ำกะทิ มีรuio;io;สชาติเปรี้uluiliouยวแ;o'poiซ่ylyบ แถมยังทำ'op;opi/'op'ง่ายอีกylด้วย กระปุกsrjtyดอทคอrtjyukuilมขอนำเสนอ io;oip';iop5 แนวท'pp['[างการทำแกงส้ม ได้แก่ แกงส้;g;io;มหน่อkyulyylไม้ดอlfyงy แกงส้io;มชะอมกุ้ง ulแกงส้มต้นfrkuอ่อนทlyuานตะวัน;'op'op' แกyyudfkลากระบอก รวมทั้งแกงส้yukio;มผักรวมกุ้งสด (สูตรไมโครเวฟio;) ykถูกใจสูตรไหน ไปช้อปปิ้งส่วนiluuilui;lio;ประกอบได้เลยจ้ะแกงส้ม 1. แกงส้มหน่อไม้ดอง มาเริ่มกัioนที่รายการอาหารแกrjhงส้มสุดp[[คoาสสิก โดยเ;ioฉพาะคนถูกใจกินแกflงใต้ ขอเสนอแนะop'แกงส้op'มหน่อไม้ดอง หรือแilงเop'หลืองหน่อไม้ดองสูตรจากio;io';oiคุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บพันjyuktทิปดอทคอม รสเผ็uylร้อน ไร้กลิ่นมะรุมคาวปลา หอมsryjเครื่องสมุนไพร สามาi;iooรถดัดilแปลงใui;ส่เนื้อกุ้io;งแทนเนื้อปลาได้นะคะoiu; เย็นนี้สักหoi;io;ม้อดี'poหม ?  นำขึ้นตั้งไฟให้เดือด แต่งรสด้ว'ยน้ำมะขามแ;ioฉะ น้ำปลา และน้ำตาลปีบตาม{ชอบ|ถูกใจio; พอน้ำแกงio';ioli;เดือดจัดใส่ปลาลuปต้มให้สุก ระ;หp'ว่างนี้ห้ามu;luiคนเด็ดขาดเพื่อไม่ให้คop'op'gว (กรณีใgช้กุ้งสดให้ข้ามขั้'opนใopนเวลานี้ไป โio;ดยใส่กุ้งoi;;ดในขั้นตyukนสุดท้าย) ใส่yukน่อไม้ที่ตระเตรียมไว้ลงไui; พอเดือดชิมรuil;uiสอีกlครั้งให้ประทับใจ  ใส่ใบมะกรูดและจ'opกนั้นก็ปิดไฟจ้ะ ({หาก|ถ้า|แม้|ถ้าหาก|ถ้าเกิfykด'opช้ปลาทะเลที่'opมีกลิ่นคาวจัด ;oiควรเพิ่io;ioมน้ำมะกรูดมะรุม รวมทั้งลูกมะกรูดลงไปช่วยดั;บคาว)เชื่อเถอะว่าร้อยyukyfkuทั้งยังร้;ioอยop'จำต้องiloi;เคยรับประทานแก'o'oppงส้มชะอมio;ioกุ้งกันมาแล้ว ผู้ใดกันแน่ต้องก;io;ารทดioลองทำมัดจิopตใจคนพิเศษขtrjอชี้แนะเมนูแกuilงส้มชะอมกุ้งสูตรง่าย ใช้เนื้yukyukอปลาทูน่าโขลกio;oiผสมกับน้ำพริกแกง เสิร์ฟคู่กับไข่เจี;gio;fylyukวชะอม ได้สูตรข;น้ำพริกแกงส้ม 1/2 ถ้วย  หอมแดง (ปอก)มะรุม 5 หัว ระชาย 100 กรัม ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ หรือoi;น้ำแร่ 1 กระป๋oi; (บีบน้ำออกจนio

2
อื่น ๆ / Re: ขายตรีผลา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2018, 04:53:22 AM »
ตรีผลาคืออะไร? กินแล้วดีอย่างไร? 

3
อื่น ๆ / พลูคาว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2018, 04:07:05 AM »

พลูคาว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ลำต้นกระทือจัดเป็นไม้ล้มลุกที่แก่ข้ามปี มีลำต้นแบ่งได้ 2 ส่วน คือ1. ลำต้นเหนือดินลำต้นเหนือดิน จัดเป็นไม้เนื้ออ่อน มีแกนเป็นเส้นใยในแนวตั้งตรง มีลำต้นสูงราวๆuo;iopi; 1-1.5 เมตร ลำต้นio;io;มีลักษณะehytjuykกลม ถูกพลูคาวuilkoiulo;ห่อด้วยกาyukuilบใบ ดังนี้ ลำต้น รวมทั้งใบเukyyหนือดินจะเหลือง แ'op'ละก็แkuio;ห้งในo'ฤดูแล้ง แล้วหน่อio;iopop';หม่จะทยอยเrtjtkyuklง|กิ้งก้านergr|กิ่งก้านสาขา}แทงลึกลashtyjyuงดิน คล้ายเหง้าข่uiluilา แต่ละปลายแง่งจlkuilะเจริญรุ่งเรืoi;io;องเป็นหน่อแทงขึ้นกลายเป็นลำต้นเหนือดิน เหง้าอ่loil;อนหรือหi;น่อหน่;iออ่อนมีกi;าบหุ้มห่อหน่อสีม่rthวง เนื้อเหง้ามีสีขาว เหง้rthาแก่มีo;senyhjrjmrykสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อเhrthหi;าข้างในมีสีเหลืrjyukองอ่อน มีรสขio;ม เผ็io;ด hrthแio;p;o;i;ะก็มีกลิ่นหอwgrthtyjyukมหวนyukyu สามารถใช้เป็นเครื่องyuเทศใส่ด้านในergkuyreของกินได้ แม้tjryukuluกระนั้นไม่นิยมนักใบกioliolระทือเป็นพืชใบเลี้ytยงเดี่ยว แทงใบออกเยื้องสลับกันตามluiluejukyuiคyukuiวามสูงของลำต้นlu ใบมีกาบใบio;ห่อหุ้มติerhดแน่นกับแกนลำต้น ใบมีก้านใrtjrtบสั้นชิดกับกาบjkyuklใบuilu ใบมีรูปหอกยlาว กว้างประมาณ 5-10 ซม. และยาวราว 20-40 ซม. แผ่นใบulเรียบ ใบอ่อนมีสีเulขียวสด ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ขอบของใบเป็นคลื่นบางส่วkyukน โคนใบสอบแคบ uilปลายใบแหลมเล็กio;io แผ่;iนใบแลเห็นริ้วเo;uป็นเส้นตามแuilนวยาวรางๆมีเส้นกึ่งกลางใบขนuiluiาดใหญ่แจ่มแจ้งอกกระทืoi;u;อออกดอกเป็นช่yอuerhyuk แทtyjyuliou;oi;iงก้านช่อดอกตั้งตรงจากเหง้าขึ้นมาเหนืkjuylkulอดิน ก้านช่อดอกมีลักษjytณะกลuilio;ม ยาวปรi;มาณio; 15rykyut-45พลูคาว เซนติเมตร ตัวช่อดอกมีลักluuiษณะกลม กว้jytkyางประมาณyukyk 4-5 ซม. ยาวราวๆ 7-12 เซนติเมตร โคนช่อดอกกว้าง iou;lรวมทั้งเบiluiาๆเล็กลงliu และก็มyuklนที่ปลาย บนrhtykช่อดอกประกอบด้วยiluบตกแต่งio;ที่kyuซ้อนเรียงopชิดกันเป็นกลีบๆแต่ล'opะก'opลีบมีรูปสามเjyuop'po'kykuilio;หลี่ยม ปล'op'ายเหลี่ยมมน edrhrขอop'บกลีบมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆขนาดกว้างราว 3-io;5 เซนkyukติเมตร สูงปio;ระมาณyuk 2-iolio;io;i2.5 yukซม. ช่io;อดอกอ่อนoi;ใบตกแต่opงสีเขียว หลังrdtjyuykuyจากนั้นค่อยกลio;op;ายเป็นสีม่วงแดงหรือสีrhyrkioliouulilแดงสด เuilo;iมื่อดอกบาน ตัวดอกจะแทio;uilงออกจากซอกระหว่างใบประดับประดาแต่ละio;น โดยทยอยpoiานออกจา'opกข้างบนลงด้านล่างดอกย่อยแต่ละดอก มีก้าio;นดอกเป็นหลอด ยาวปรio;ะมาณ 2.5 เซนopติเมตร ต่อมาเop'ป็นกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบเลี้ยงมีรูปหอก 'op'แผ่นกลีบเลี้ยงสะอาดuliหมดจo;io;ด สีขาวอมเหลือง ค่อนข้างจะโปร่งแสง มีขนาดใหo;io;oญ่กว่ากลีบดอกไip';poม้ io;ถัดมาข้างในเป็นกลีบดอกไม้ จำนวน 3 กลีบ ปลายกลีบดอกไม้แยกออกเป็น 3 แฉก แผ่นกลีบดio;iอกเรียio;บ มีรูปหอก ปลายกลีบแหลม มีสี'op'opาวอมเหลือง กว้างโดยประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวโดยประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร พลูคาวตรงกลางดอioio;กมีเกสรเพศผู้ 1 io;io;อัน ที่มีอับio;เรณูสีเหลือง ขนาดใหญ่ ด้านล่างเป็นเกสรเพศเมีย แลopopะรังไข่รูปวงรี ดังนี้ ด;io;อกจะออกในตอนส.ค.io;-เดือนกันยายนผล และเมล็ดผลกระทือจะแทรกอยู่ตรงซอกขอop'oงใบประดับ มีรูปไข่กลับ ขนาดผลกว้าio;งประมาณ 0.5-1 เซนติเมp'ตร ยาวp'oประมาioณ 1-1.5 เซนติเมตร เนื้อห่อพลูคาวเม็ดมีสีขาว ด้าioน;ioนมีเม็ด 1 ;เมล็ด ส่วนเมล็ดมีลักษณะกลม เปลือกหุ้มเม็ดมีสีดำ ผิวเมล็ดเรียบ และเป็นมัน ทั้งนี้;io จะติดผลในตอนตุลาคม

4

ขายกระชายดำ ข้าวโพดมีสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องโรคมะเร็งได้จริงหรือเปล่า รับประทานอาหาulรโพดช่วยลดความอ้วนได้ไหม แล้วสรุปข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้กันแน่ ทุกใจความสำคัญน่าสงyu,i.u.ioสัย วันนี้จำหน่ายกระชายดำพวกเรามีคำตอบมาให้แล้ว  มั่นใจว่าulคงจะไม่มีulใdsfjyukuilkulluครไม่เคยรู้ข้าวโพด ด้วยเหตุว่าอย่างต่ำๆก็จำต้องi;i;op';hulkเคยulานป๊อปคtloi;i;อร์นตามโรงหนัง หรื;oi;oi;อข้าวโพดอบเนยตามตลาดylio;op[rhtนัดกันบ้าง แต่ว่าจะมีสักกี่tjytjykผู้ที่ทราบว่าข้าวโพดมีสาระ ช่วยลดความuluilเสี่ยงแulละก็ปกป้องโรคได้มากมาย ถึงขั้นที่มีนักค้นคว้านำข้าวโพดไปวิจัยกันหลายต่อหลายรอบ ซึ่งในวันนี้เราก็ไulด้สะสมนานาประการขายกระชายดำประโยชน์เด็ดๆของข้าวโพด ที่จะทำให้ทุกคนจำต้องหลงรักมาฝากกัน แต่ก่ulอนอื่น ไปทำความรู้จักข้าวโพดกัo'o';o'ooนให้เพิ่ululoip;opมมากขึ้นกว่านี้อีกนิด เพราะว่าตอนนี้ผู้คนulจำนวนมากuยังงงเต็กจำหน่ายกระชายดำอยู่เลยว่า ข้าวโพดเป็นผักหรือผลไม้กันแน่ !  ข้าวโพดเป็นผักหรือuilลไuilม้กันแน่iu ?   ประการแรกอยากให้ทุกคนทำควาi;มเข้าiliol;io;ใจผักและผลfkyuไม้อย่างง่ายๆio;ก่อนว่า ผัก คือ พืชที่พวกเรานำราก ใบ แล้วก็ดอก ไปประกอบเป็นอาหาร ส่วนผลไม้ เป็นพืชที่พวกเรานำผลมาบริโภค ซึ่งส่วนใหญ่จะหวานกว่าผัก รi;วมทั้io;งสามารถกินได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องytkปรุงให้สุก  อย่างไรก็แล้วแต่ พวกเราต้องการจะบอกว่าข้าวโพด ไม่ใช่อีio;io;กทั้งผักรวมทั้งผลไม้ ด้วยเหตุว่าข้าวโพดจัดเป็นพืชไร่เครือญาติหญ้าที่พวกเรานำเมล็ดมาทำเป็นอาหาio;ร เหมือนกับพืชอย่างข้าวและถั่ว ซึ่งพืfrjykyutlilukluilพวกนี้ นับว่าเป็นธัญพืululช ฉะนั้iu;iu;o;นคำถามขายกระชายดำที่ว่า ข้าวโพดเป็นผักหรือผlulio;orjyukลไม้กันแน่ ? ก็ตอบได้เลยจ้ะว่า ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เพราะว่าข้าวโพดเป็นyloi;i;เมล็ดพืชนั่นเอง !

Tags : ขายกระชายดำ

5
อื่น ๆ / ทับทิม หากกล่าวถึง
« เมื่อ: ตุลาคม 29, 2018, 01:37:32 AM »

ทับทิม ถ้าพูดถึงคุณประrhytjtjtโยช;ต่างๆที่ได้tkuli;io;รับจากถั่วดำ หรือ Blackio ;oibep'[p'p[\n ทับทิมioคนไม่ใช่;io;io;น้อยบางทีก็อาจจะยังไม่เคยทราบว่าสรรพคุณของถั่วดำจัดว่kuilioloiาเป็นอาหารต่อต้านโรคมะเร็งก้าวหน้าอีกชนิดหนึ่งเลยนะ  เมนูyukถั่วดำเป็นของหวานที่ykเราkyukคุ้นเคยuiluiluilกันดี เนื่องจากว่าถั่วดำทำอะไyryrkytkuyyuรก็อyukร่อย ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยโบราณๆอย่างข้าวเหนียวแฉะshถั่วดำ ถั่วมุดน้ำyukน้ำกะทิ หรืtytykอผ่านทวีปไปil;iuul;อีกนิดเtykป็นบราวukyukdehนี่ถั่วดำ เห็นได้ชัดว่าถั่tyjtyjrrวดำเป็นธัญพืชที่รับประทานง่ายyjtyjจริงๆแม้กระนั้นนอกtyyuจytjากคุณประโuilยชน์ในด้านความอร่อยที่หลาuilกหลาjyยtแล้ว ทราบไหมคะว่า{ประโยชน์ขuilง|ประโยชน์ที่ได้รับมาuilจาก|ประโยjtyjช์จาก|ประโยชน์ซึ่งมาจาก|yukluปรuilยชน์ต่างๆที่ได้รับจrthjrยวล่ะ ;ioโดยเ;io;ฉพาะอย่างยิ่งคุณประโยชน์ในการต้านโรคมytkuyukjulะเร็ง ทับทิม แต่ก่อนจะไปดูประโยชน์ที่ไioด้รับมาจากถั่วดำ พวกเราอยากโชว์htyคุณประโยชน์tktykทางของกินtองถั่วดำในจำนวน 100 กรัม โดkyukuilยอ้างอิงจากข้อมูลกuylองโภชนาyukการ กรuillมอนามัyukย ตาuiมนี้ก่อนเลยคุณปuilระโยชuilน์ที่ได้รับมาจากถั่วดำ มากมาย;io;io;ล้ำไปด้วยสรรพคุณดีๆ1. ปรับสมดุio;ลระบบทางเดินอio;io;io;ioshหาร และน้ำตาลในเลือดจาy;uiluoiluii;io;กที่มีความเห็นว่าถั่วดำเป็นแหล่งโปรตีน เส้io;jtyjนใยอาหาร และก็แร่ต่างๆที่ดีหลายแuillบ ถั่lวuilดำก็uiเลยมีuilคุณประโยชน์ช่วยปรับสมดุลให้ระบบทางtyดินอาหารทำงานก้าวหน้า แล้วก็ยังช่วยสร้างสมuilดุลรuilะดับน้ำตาลในเลือด ไม่ให้เพิ่มหรือลดน้อยลงอย่างรวดเร็วด้วย2. เป็นอาหารต่อต้านuilมะเร็งรังไข่ด้วยคุณประโยชน์ของถั่วดำที่ทับทิมช่วยทำนุบำรุงสุขภาพม้าม ขัuilบความชื้นในร่างกาย บำรุงพลังศูนย์กลาง ซึ่งจะช่วยให้ระบบแนวทางการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบภูมิคุ้มกันปฏิบัติงานได้อย่างเต็มuilระสิทธิภาพ เป็นป้อมulyilฮอร์โมนuilภายในร่างกาย ถั่วดำก็เลยมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งรังไข่ อันมีต้นเหตุจากความไม่ปกติขอuilงฮอร์โมuiluilนในร่างกายได้นั่นเอง  ทั้งนี้พiuilulวกเรtykrj'yukykyาก็มีสูตรเ'uiopมนู'opซุปถั่วดำทับทิม รับประทานเพื่อต่อต้านโรคมะเร็งรังไข่luilาฝากด้วย ตkuykามนี้เลยจ้ะวดําสูตรซุปถั่ว liulส่วนประui;i;opกอบ ซุปถั่วดำ3. คุ้มuoikครองuมะเร็งไส้ เว้นแต่ถั่วดำจiluiluiluะเป็นของกินต่อต้า'ytkนรังไข่แล้ว 'opยังมีคุณประโยชน์ช่วยต้านทานมะเร็งจำพวกอื่นๆได้อีกด้วย ทับทิมด้วยเหตุว่าในเปลือกถั่วio;ดำเป็นแหล่งสะสมสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง โดยมี{งานวิจัย|การวิจัpoiย|การค้นคว้า|กาio;รค้นคว้าวิจัย|งานค้นคว้าวิจัย|งานศึกio;ษาวิจัย|งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย|งานศึกษาค้นคว้าio;ซลล์ร้ายได้

6

สมุนไพรฟันปลา
ฟันปลา Litsea umbellate Merr.
บางถิ่นเรียกว่า ฟันปลา เศร้าใจ (จังหวัดปราจีนบุรี) เมนตรือ (เขมร-จันทบุรี) สะเตื้อ (จังหวัดตราด)
       ต้นไม้ ขนาดเล็ก หรือไม้พุ่ม สูง 3-10 มัธยม ตามกิ่งไม้มีขนสีน้ำตาล ใบ คนเดียวออกเรียงสลับ หรือเรียงเวียนห่างๆรูปรี หรือ มีขนาดออกจะเล็ก กว้าง 4-10 เซนติเมตร ยาว 7.5-23 เซนติเมตร ปลายใบแหลม หรือมน โคนใบแหลมขอบใบเรียบ หรือเป็นคลื่นน้อย ข้างบนสีเขียวเข้มเป็นมัน มีขนเฉพาะตามเส้นกลางใบและก็เส้นกิ่งก้านสาขาใบ ข้างล่างเป็นคราบเปื้อนขาว มีขน เส้นใบมี 6-10 คู่ ด้านล่างแลเห็นชัดกว่าด้านบน ก้านใบยาว 6-12 มิลลิเมตร มี ดอก ออกเป็นช่อ เป็นกระจุกตามง่ามใบ ก้านช่อยาว 2-5 มม. ช่อดอกมีขนปกคลุมหนาแน่น สมุนไพร กลีบรวมเชื่อมชิดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 4-6 กลีบ อีกทั้งถ้วยและก็กลีบติดทนจนกระทั่งเป็นผล ผล รูปไข่หรือออกจะกลม ปลายมีติ่งแหลม โคนมีชั้นของกลีบรวมรองรับอยู่ ขอบกลีบรวมมีขน

นิเวศน์วิทยา
: ขึ้นในป่าดิบ พบทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และก็ทางภาคใต้ของไทย
คุณประโยชน์ : ต้น เปลือกต้นเจอ alkaloid ใบ ตำเป็นยาพอกฝี

Tags : สมุนไพร

7
สมุนไพรดีๆ สรรพคุณเด่นๆ มีประโยชน์มากมาย

8

บัวบก
ใบบัวบกสมุนไพรจีนโบราณที่ได้ยินชื่อกันมานาน นี่คือ คุณประโยชน์ของใบบัวบกที่เข้าใจดีแล้วต้องรักเจ้าสมุนไพรนี้ยิ่งกว่าเดิม
          มั่นใจว่าคนจำนวนไม่น้อยก็น่าจะเคยทราบกันมานักต่อนักว่าเวลาบอบช้ำในให้ดื่มน้ำใบบัวบก เนื่องจากจะช่วยให้หายจากอาการช้ำในเร็วขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วเจ้าสมุนไพรที่มีนามว่าใบบัวบก ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่ประยุกต์ใช้กันตั้งแต่โบร่ำโบราณนั้นก็ยังมีคุณประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ช่วยทำนุบำรุงสุขภาพ รักษาโรค หรือแม้กระทั้งช่วยทำนุบำรุงความสวย ต้องการทราบกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าใบบัวบก สมุนไพรที่เชื้อเชิญให้รู้สึกเหม็นเขียวจะมีสรรพคุณอะไรดีๆอีกบ้าง ถ้าอย่างนั้นทดลองไปดูที่พวกเราถือมานำเสนอในวันนี้กันเลยดีกว่า บอกได้คำเดียวเลยว่า เข้าใจดีแล้วต้องลืมกลิ่นเขียวๆพวกนั้นไปเลยแน่นอน

  • แก้ไขปัญหาเส้นโลหิตขอด


          เมื่อเส้นโลหิตสูญเสียความยืดหยุ่นก็ทำให้หลอดโลหิตดำมีการฉีกจนขาดและทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่บริเวณขา เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมที่เรียกว่าอาการเส้นโลหิตขอดนั่นเอง โดยมีการเรียนพบว่าการรับประทานใบบัวบก สามารถลดอาการบวมรวมทั้งกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ โดยในการศึกษาเรียนรู้นั้นได้กระทำทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 90 คน ที่มีลักษณะของเส้นเลือดขอด และก็เมื่อรับประทานใบบัวบกเข้าไปและจากนั้นก็พบว่าอาการเส้นโลหิตขอดนั้นเมื่อเทียบกับผู้ที่กินยาหลอก และก็เมื่อทำอัลตราซาวด์ก็พบว่าคนที่กินใบบัวบกมีการรั่วไหลของเส้นเลือดดำลดลงจ้ะ

  • สมานแผลแล้วก็รักษาโรคผิวหนังบางจำพวก


          หนึ่งในสารสำคัญที่ส่งผลให้ใบบัวบกเปลี่ยนเป็นสมุนไพรที่มากคุณประโยชน์ก็คือสารไตรเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ที่มีการศึกษาเล่าเรียนกับสัตว์แล้วพบว่าสามารถช่วยสมานบาดแผลได้ นั่นก็เป็นเนื่องจากสารดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะปฏิบัติหน้าที่สำหรับการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับรอยแผล แล้วก็ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณบาดแผลมากขึ้น ทำให้บาดแผลค่อยๆหายในช่วงเวลาที่น้อยลง ทั้งยังสารจากใบบัวบกก็ยังช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นได้อีกด้วย การใช้ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องนำใบบัวบกมาตำแล้วพอกให้ยาก เพราะว่าในเวลานี้มีแบบที่เป็นครีมผสมสารสกัดไว้ทาโดยเฉพาะ แค่เพียงเลือกให้เหมาะกับชนิดรอยแผลก็ช่วยได้มากเลยล่ะ

  • ระบายความร้อน


          ความร้อนภายในร่างกายแม้สูงมากเกินความจำเป็นอาจจะก่อให้ร่างกายเกิดลักษณะของการมีไข้ ตัวร้อน อยากกินน้ำ ตลอดจนการอักเสบ ฉะนั้นการกินใบบัวบกที่มีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับพิษร้อนออกจากร่างกายได้อีกด้วย

  • ขับพิษร้อน รวมทั้งความชื้น


          โรคต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากความร้อนและก็ความชุ่มชื้น อาทิ โรคตับเหลือง นิ่วในทางเดินฉี่ หรือโรคบิด สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานใบบัวบก เพราะเหตุว่าใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์ขมเย็น สามารถช่วยสลายความชื้นภายในร่างกายและขับความร้อนออกมาได้ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่สมควร เพราะว่าแม้กินมากมายๆอาจจะส่งผลให้ร่างกายเย็นจนกระทั่งเกินไปแล้วก็เป็นโทษได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • ลดความกระวายกระวน ช่วยให้จิตใจสงบ


          สารตรีเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในใบบัวบกนั้น นอกเหนือจากการที่จะช่วยสำหรับในการสมานแผลรวมทั้งรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้และจากนั้นก็ยังมีฤทธิ์ในการลดความกระวนกระวายและก็ช่วยกระตุ้นกลไกหลักการทำงานของสมอง โดยมีการเรียนรู้หนึ่งพบว่าผู้ที่กินใบบัวบกมีแนวโน้มที่จะตกอกตกใจกับเสียงรบกวนน้อยกว่าคนที่กินยาหลอก แต่ก็จะต้องใช้ในจำนวนที่สูงมากมาย จึงยังไม่มีการรับรองชัดเจนว่าควรจะใช้ปริมาณใดก็เลยจะได้ผลและไม่มีผลใกล้กันต่อร่างกายตามมาค่ะ

  • รักษาโรคหนังแข็ง


          เหตุเพราะใบบัวบก มีฤทธิ์ในการลดการอักเสบต่างๆในร่างกาย ก็เลยสามารถใช้ทุเลาอาการของคนป่วยโรคหนังแข็งได้ โดยมีการศึกษาเล่าเรียนกับผู้หญิง 13 ผู้ที่มีอาการของโรคหนังแข็งพบว่า การกางใบบัวบกสามารถลดอาการปวดตามข้อ และลดการเกิดหนังแข็ง รวมทั้งทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นไปในทางที่ดียิ่งขึ้น แต่ว่าดังนี้ก็จะต้องอยู่ในจำนวนที่แพทย์ควบคุมเท่านั้น

  • ช่วยทุเลาอาการนอนไม่หลับ


          คนไหนกันที่มักจะนอนไม่หลับเสมอๆลองหาใบบัวบกมารับประทานก็ดีเหมือนกันนะ เพราะว่าใบบัวบกไม่เพียงแค่ช่วยลดความกระวนกระวายเพียงแค่นั้น แต่ว่าก็ยังช่วยให้จิตใจสงบแล้วก็ผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยแค่เพียงกินเสมอๆก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนหลับดียิ่งขึ้นได้อย่างน่าแปลกเลย
คุณประโยชน์ใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • ลดระดับความดันเลือด


        กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยรวมทั้งการแพทย์ลู่ทาง ได้ออกมาแนะนำว่าใบบัวบกเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ เนื่องจากว่าเจ้าใบบัวบกนั้นจะไปทำให้เส้นเลือดดำแล้วก็เส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น ทั้งยังช่วยลดภาวการณ์ความเครียดอันเป็นมูลเหตุที่ทำให้มีการเกิดความดันโลหิตสูง ดังนี้วิธีการรับประทานก็ง่ายๆ แค่เพียงนำใบบัวบกไปคั้นน้ำแล้วเอามาดื่ม จะนำไปผสมกับน้ำผึ้งสักนิดหน่อย หรือผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆเพื่อลดความเหม็นเขียวก็ทำได้จ้ะ

  • ลดอาการบวม


          อาการบวมช้ำเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ระบบไหลเวียนเลือดบริเวณดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นดำเนินการไม่ปกติส่งผลให้เกิดอาการคั่งของเลือด การรับประทานใบบัวบกไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำคั้นดื่ม หรือแบบที่เป็นสารสกัดแคปซูล สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำรอบๆรอยแผลได้ และก็ยังลดอาการอักเสบที่ส่งผลให้เกิดอาการบวมได้อีกด้วย

  • บำรุงสมอง


          ใบบัวบกเป็นพืชอีกชนิดที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์สมอง แล้วก็ช่วยคลายความอ่อนล้าของสมอง เพิ่มการทำงานของสมองและความจำ แถมยังสามารถลดสภาวะซึมเซา และก็สามารถช่วยยั้งลักษณะของโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นในสมองได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก ประโยชน์เลอค่า

  • รักษาอาการติดเชื้อ


          ใบบัวบกเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยรักษาโรคหวัดได้อย่างมีคุณภาพ แถมช่วยรักษาอาการติดเชื้อโรคในทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอาการติดเชื้อโรคแบคทีเรียแล้วก็เชื้อไวรัสต่างๆได้อีกมากมาย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะติดเชื้ออะไรก็แล้วแต่ ใบบัวบกสามารถช่วยรักษาได้หมด แม้กระนั้นดังนี้ก็ต้องใช้ในจำนวนที่สมควร และก็ภายใต้การดูแลของผู้ที่มีความชำนาญนะ

  • บรรเทาอาการอ่อนเพลีย


          นอกเหนือจากรักษาลักษณะการป่วยต่างๆแล้ว ใบบัวบกยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนแรงได้ แล้วก็ถ้าหากว่ารับประทานในตอนอากาศร้อนๆด้วยละก็ น้ำใบบัวบกก็สามารถช่วยลดความร้อนภายในร่างกายรวมทั้งดับกระหายได้เป็นอย่างดีเลยเชียวล่ะ

คุณประโยชน์ใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

  • บำรุงผิวพรรณให้อ่อนวัย


          ใบบัวบก เป็นอีกหนึ่งในสมุนไพรเพื่อความสวยสดงดงามที่อยู่ใกล้ตัวมากมายๆที่เป็นแบบนี้ก็เพราะใบบัวบกมีสารที่ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินภายในร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มเปียกชื้น มองอ่อนวัย นอกเหนือจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระในใบบัวบกก็ยังช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัย จึงไม่น่าแปลกเลยล่ะถ้าคุณจะได้มองเห็นชื่อของเจ้าใบบัวบกเป็นเลิศในส่วนผสมของเครื่องทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ยังสามารถนำใบบัวบกใหม่ๆมาใช้พอกหน้าได้อีกด้วย โดยมีแนวทางดังนี้จ้ะ
           - ใบบัวพอกหน้า บำรุงผิวสวยใส ลบรอยตีนกา
วิธีการทำ

  • นำใบบัวบกสดมาล้างทำความสะอาด แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • เอามาปั่นหรือบดกับน้ำสะอาด 1 แก้ว
  • เอามาพอกหน้า หรือนำสำลีชุบน้ำใบบัวบกขึ้นมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ราว 15 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำเป็นประจำทุกวี่ทุกวันก่อนนอนจะช่วยให้บริเวณใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • กำจัดเซลลูไลท์


          ผู้หญิงที่ไม่ค่อยสบายใจกับเซลลูไลท์ที่เป็นศัตรูความงามของคุณสาวๆอยู่ ขอบอกใบบัวบกช่วยคุณได้จ้ะ แค่เพียงรับประทานใบบัวบกเสมอๆก็จะสามารถช่วยให้เซลล์ไขมันเซลลูไลท์ถูกขับออกมาจากร่างกายได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งลดการอักเสบอันมีเหตุที่เกิดจากเซลลูไลท์ได้อีกด้วยล่ะ

  • บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ


          ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมตกก็คงจะแสวงหาทุกวิถีทางเพื่อบำรุงให้เส้นผมรวมทั้งหนังศีรษะแข็งแรงเพื่อจะได้มีผมดกดำ ใบบัวบกก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มีคุณประโยชน์สะดุดตาในด้านนี้ โดยปัญหาผมหล่นส่วนมากก็มีต้นเหตุที่เกิดจากรากผมที่อ่อนแอและการไหลเวียนของเลือดบนหนังหัวไม่ดี ซึ่งใบบัวบกนี้มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ และก็ยังช่วยบำรุงรักษาให้รากผมแข็งแรง คุ้มครองปกป้องผมร่วงทำให้ผมที่ขึ้นใหม่มีความแข็งแรงรวมทั้งดกดำเงางามได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีแต่อย่างใด
          ได้มองเห็นประโยชน์ดีๆของใบบัวบกกันไปแล้วอย่างนี้ ผู้ใดกันแน่ที่ยังส่ายหน้าให้กับกลิ่นเขียวๆของใบบัวบก ก็น่าจะทดลองหันกลับมามองดูเสียใหม่ ถึงอาจจะมีกลิ่นแรงไปเสียหน่อย แม้กระนั้นประโยชน์ที่ได้รับดีแล้วไม่น้อยเลย ถ้าหากไม่ลองเสียดายห่วยเลยนะ http://www.disthai.com/

9

รากสามสิบ
รากสามสิบ ชื่อสามัญ Shatavari8
รากสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm.) จัดอยู่ในตระกูลหน่อไม้ฝรั่ง (ASPARAGACEAE) แล้วก็อยู่ในสกุลย่อย ASPARAGOIDEAE4
สมุนไพรรากสามสิบ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า สามร้อยราก (จังหวัดกาญจนบุรี), ผักหนาม (นครราชสีมา), ผักชีช้าง (หนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), เพียงพอควายเมะ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยผัว, สาวร้อยผัว, ศตาวรี ฯลฯ
รูปแบบของรากสามสิบ
ต้นรากสามสิบ จัดเป็นไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามแปลงมาจากใบเกล็ดบริเวณข้อ) สามารถเลื้อยปีนป่ายต้นไม้อื่นขึ้นไปได้สูงราว 1.5-4 เมตร แตกแขนงเป็นเถาห่างๆลำต้นเป็นสีเขียวหรือสีขาวแกมเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เรียบ ลื่น และเป็นเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 มิลลิเมตร เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ยาวราวๆ 1-4 มม. บริเวณข้อมีกิ่งแตกกิ่งแบบรอบข้อ รวมทั้งกิ่งนี้จะกลายเป็นสีเขียวลักษณะแบนเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม กว้างโดยประมาณ 0.5-1 มม. แล้วก็ยาวโดยประมาณ 0.5-2.5 มิลลิเมตร ปฏิบัติหน้าที่แทนใบ มีเหง้าและรากอยู่ใต้ดิน ออกเป็นกลุ่มเหมือนกระสวย รูปแบบของรากออกเป็นพวงเหมือนรากกระชาย ลักษณะอวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว มีขนาดโตกว่าเถามาก มีเขตการกระจายชนิดในประเทศไทย ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ชวา จีน มาเลเซีย รวมทั้งประเทศออสเตรเลีย เจอขึ้นตามป่าในเขตร้อนชื้น ป่าเขตร้อนแห้งแล้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรือตามเขาหินปูน
ต้นรากสามสิบ
สามร้อยราก
ใบรากสามสิบ ใบเป็นใบโดดเดี่ยว แข็ง ออกรอบข้อเป็นฝอยๆเล็กคล้ายหางกระรอก หรือออกเรียงสลับเป็นกระจุก 3-4 ใบ ใบเป็นสีเขียวดก รูปแบบของใบเป็นรูปเข็มขนาดเล็ก ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีขนาดกว้างราว 0.5-1 มิลลิเมตร แล้วก็ยาวประมาณ 10-36 มม. แผ่นมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาวโดยประมาณ 13-20 เซนติเมตร
ใบรากสามสิบ
ดอกรากสามสิบ มีดอกเป็นช่อกระจะ ยาวราว 2-4 ซม. โดยจะออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบและข้อเถา ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาวและก็มีกลิ่นหอม มีราว 12-17 ดอก ก้านดอกย่อยยาวราวๆ 2 มม. มีกลีบรวม 6 กลีบ แยกเป็น 2 วง วงนอก 3 กลีบ และก็วงในอีก 3 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ขอบเรียบ กลีบกว้างประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร และก็ยาวประมาณ 2.5-3.5 มิลลิเมตร กลีบดอกไม้มีลักษณะบางรวมทั้งร่น โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปดอกเข็มยาวประมาณ 2-3 มม. ส่วนปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรผู้เชื่อมรวมทั้งอยู่ตรงข้ามกับกลีบรวม เป็นเส้นเล็ก 6 อัน ก้านชูอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีน้ำตาลเข้ม รังไข่เป็นรูปไข่กลับ อยู่เหนือวงกลีบ ยาวราว 1 มิลลิเมตร มี 2 ช่อง ในแต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด หรือมากกว่า ส่วนก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2 แฉกขนาดเล็ก โดยจะมีดอกในตอนราวเมษายนถึงมิ.ย.1,2,4,5
ดอกรากสามสิบ
ผลรากสามสิบ ลักษณะของผลเป็นทรงค่อนข้างจะกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบวาว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 4-6 มม. ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีม่วงแดง ภายในผลมีเม็ดราว 2-6 เม็ด เมล็ดเป็นสีดำ เปลือกมีลักษณะแข็งแต่ว่าเปราะ ให้ผลในตอนโดยประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม1,8
ผลรากสามสิบ
เมล็ดรากสามสิบ

สรรพคุณของรากสามสิบ
รากสามสิบมีรสเฝื่อนฝาดเย็น มีคุณประโยชน์เป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยาชูกำลัง (ราก)
ตำรายาไทยจะใช้รากเป็นยาแก้กระษัย (ราก)
ในประเทศประเทศอินเดียจะใช้รากเป็นยากระตุ้นประสาท (ราก)
รากใช้ผสมกับเหง้าขิงป่ารวมทั้งต้นจันทน์แดง ผสมกับเหล้าโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือด (ราก)
รากสามสิบมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นลักษณะการทำงานของตับอ่อนให้เพิ่มการหลั่งสาร insulin (ราก)
ทั้งต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำเป็นยารักษาโรคคอพอก (ราก, ทั้งยังต้น)
ผลมีรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อเป็นยาดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง (ผล)
รากมีรสเฝื่อนเย็น ใช้รับประทานเป็นยาแก้พิษร้อนในกระหายน้ำ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ไอ (ราก)
ช่วยขับเสมหะ4 แก้การตำหนิดเชื้อที่หลอดลม (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาช่วยขับลม และช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร (ราก)
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ แก้อาการอาหารไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาแก้อาการท้องร่วง แก้บิด (ราก)
ใบมีคุณประโยชน์เป็นยาระบาย (ใบ)
ตำราเรียนยาสมุนไพรประจำถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากเอามาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ขัดค่อย ขับปัสสาวะ ช่วยหล่อลื่นรวมทั้งกระตุ้น (ราก)
ช่วยรักษาอาการเมนส์แตกต่างจากปกติของสตรี (ราก)
ทั้งยังต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำเป็นยาแก้แท้งลูก (ราก, ต้น)
ในประเทศอินเดียจะใช้รากสามสิบเป็นยากระตุ้นสมรรถนะทางเพศทั้งชายและก็หญิง คนทางภาคเหนือบ้านเราจะใช้รากสามสิบทำเป็นยาดอง ใช้กินเป็นยาบำรุงสำหรับผู้ชาย กินแล้วมีชีวิตชีวาเสมือนม้า 3 ตัว ก็เลยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ม้าสามต๋อน” ส่วนหมอยาโบราณจะใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ “สาวร้อยสามี” หรือ “สามร้อยผัว” พูดอีกนัยหนึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ยังสามารถมีลูกมีสามีได้ อายุเยอะแค่ไหนก็ยังดูสาวเสมอ แต่ไม่ใช่รับประทานแล้วจะสามารถมีผัวได้เป็นร้อยคน ในตำราอายุรเวทจะใช้สมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรหลักสำหรับในการบำรุงสตรี ทำให้กลับมาเป็นสาว ช่วยแก้ปัญหาต่างๆของสตรี ไม่ว่าจะเป็นสภาวะระดูแตกต่างจากปกติ สภาวะหมดประจำเดือน ปวดระดู ตกขาว มีบุตรยาก ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ช่วยทำนุบำรุงครรภ์ บำรุงนม ปกป้องการแท้ง อื่นๆอีกมากมาย สำหรับแนวทางการใช้ก็ให้นำรากมาต้มกิน หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดเป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง นอกนั้นยังใช้กระตุ้นน้ำนมในวัวนมได้อีกด้วย (ราก)
ใช้เป็นยาบำรุงตับรวมทั้งปอดให้กำเนิดกำลังเป็นปกติ แก้ตับและปอดทุพพลภาพ (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้พิษจากแมลงป่องกัดต่อย (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้อาการปวดฝี ทำให้เย็น ช่วยถอนพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน (ราก)
ช่วยทุเลาอาการเคือง (ราก)
รากใช้รับประทานเป็นยาแก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้า ครั่นตัว (ราก)
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อและก็คอ (ราก)
ใบมีคุณประโยชน์ช่วยขับน้ำนม ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ใบ)
รากใช้เป็นยาบำรุงเด็กทารกในท้อง บำรุงนม บำรุงร่างกายหลังการคลอดลูกของสตรี (ราก)
ใน “พระคัมภีร์สรรพคุณ (แลมหาพิกัด)” ได้กล่าวถึงสรรพคุณของรากสามสิบไว้ว่า “ผักหวานเพศผู้มีรสหวาน แก้กำเดา แก้จักขุโรค รากสามสิบ 2 มีคุณยิ่งกว่าผักหวาน” กำเดาหรือไข้กำเดา มีอยู่ 2 ชนิด อย่างแรกหมายถึงตัวร้อน ไม่อยากกินอาหาร ปวดหัว รวมทั้งอีกอย่างหนึ่ง คือ มีอาการรุนแรงมากกว่า มีเม็ดผุดขึ้นตามร่างกาย มีลักษณะคัน ไอ มีเสมหะ และก็มีเลือดออกทางปากรวมทั้งจมูก (ราก)
ส่วนในหนังสือ “พระคัมภีร์เวชศาสตร์อนุเคราะห์” ได้กล่าวถึงตำรับยารักษาคนธาตุหย่อนยาน อันมีตัวยารากสามสิบรวมอยู่ด้วยร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆอีกหลายอย่าง โดยบอกว่ามีสรรพคุณ (ที่ค่อนข้างจะเข้าใจยาก) ว่าช่วยกันจำเริญชีวิตให้เกิดกำลัง ให้บำรุงธาตุไฟ ให้เจริญอินทรีย์แต่ละอย่าง มีกำลังเดินทางมากไม่เหมือนกัน รับประทานเข้าไปแล้วหาโทษมิได้ ใช้ได้อีกทั้งเด็ก ผู้สูงวัย คนมีกำลัง คนผอมบาง คนไม่มีกำลัง คนธาตุหย่อนยาน ให้ประกอบยานี้กันเหอะ อนึ่ง กินแล้วให้บังเกิดลูก ให้อกโคนแค่นดวงเดือนง 4 มีกำลัง ถึงกระหักดีแล้ว หมอก็นับถือรักษาโดยใช้ยานี้เถอะ (ราก)
อีกตำรับหนึ่งเป็นยาแก้โรคผ่ายผอม แก้หอบหืด แก้ปิดตะ รวมทั้งแก้โรคลมต่างๆจะมีสมุนไพรอยู่ด้วยกัน 20 อย่างรวมทั้งรากสามสิบ (ราก)
ใน “พระคัมภีร์วรโยคสาร” ตำรับยา “วะระที่นาทิแผนก” เป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยรากไม้ 17 อย่าง และก็รากสามสิบ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้แก้อันตะวิทราโรค หรือโรคที่มีอาการทิ่มแทงในลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาแก้มันทาคินี แก้เสมหะ แก้ลุกลุมโรคหายแล แล้วก็ยังมีตำรับยาอีกอย่างก็คือ ตำรับยาแก้เสมหะ ที่มีสมุนไพรรวมอยู่ด้วย 16 อย่าง และรากสามสิบ (ราก)
ตำรับยาบำรุงท้อง แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ ประกอบไปด้วยสมุนไพร 13 ประเภท ยกตัวอย่างเช่น รากสามสิบ แก่นสน กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะลูด อบเชย เปลือกสมุลแว้ง เทียนอีกทั้ง 5 บัวน้ำทั้งยัง 5 โกฐ 5 จันทน์ทั้ง 4 แล้วก็เทวดาทาโร (ใช้อย่างละเสมอกัน) นำทั้งหมดมาใส่ไว้ด้านในหม้อเคลือบหรือหม้อดิน เพิ่มเติมน้ำลงไปให้ท่วมยาสูงราว 6-7 เซนติเมตร แช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วนำขึ้นตั้งด้วยไฟอ่อนๆต้มเคี่ยวราวๆ 30 นาที น้ำยาเดือดแล้วก็มีกลิ่นหอมสดชื่นก็เลยยกลงจากเตา ใช้ดื่มก่อนอาหารตอนเช้ารวมทั้งเย็น วันละ 2 เวลา เป็นยาบำรุงท้องอย่างดี (ราก)
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณของรากสามสิบตามเว็บต่างๆนอกเหนือจากที่กล่าวมา สมุนไพรชนิดนี้ยังมีสรรพคุณช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิง แก้วัยทอง เพิ่มขนาดทรวงอกและสะโพก ช่วยไขปัญหาช่องคลอดอักเสบ กำจัดกลิ่นในช่องคลอด ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับรูปทรง ลดไขมันส่วนเกิน บำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวขาวใส ช่วยชะลอความแก่เฒ่า ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก ช่วยเสริมสร้างและก็ปรับปรุงความจำและเชาวน์ (ไม่มีอ้างอิง)
ขนาดและการใช้ : การใช้รากตาม ให้ใช้รากประมาณ 90-100 กรัม เอามาต้มกับน้ำกินวันละครั้งในเช้าตรู่
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบ
สารสำคัญที่เจอ เป็นต้นว่า asparagamine, cetanoate, daucostirol, sarsasapogenin, shatavarin, racemosol, rutin
สมุนไพรรากสามสิบมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้ลักษณะของการปวด คลายกล้ามของมดลูก บำรุงหัวใจ ปกป้องกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นมาจากความดันเลือดสูง ขับนม มีฤทธิ์เสมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยั้งเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ
สารสำคัญที่พบในรากคือสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ปฏิบัติภารกิจเอาอย่างฮอร์โมนเพศ ก็เลยน่าจะมีบทบาทสำหรับในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในตอนวัยหมดระดูของสตรี รวมไปถึงการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดรวมถึงโรคกระดูกพรุน
จากการศึกษา
ในหนูแรทโดยใช้สารสกัดจากรากด้วยเอทานอล แบ่งเป็น 2 ตอนหมายถึงช่วงรุนแรงรวมทั้งตอนยาวต่อเนื่อง โดยการเรียนในช่วงทันควันป้อนสารสกัดเอทานอลจากรากสามสิบในขนาด 1.25 กรัมต่อกก. ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นเบาหวาน หนูแรทที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 1 และจำพวกที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แม้กระนั้นช่วยให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของกลูโคส ในนาทีที่ 30 ดียิ่งขึ้น ส่วนการเรียนรู้ตอนยาวต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นเบาหวานจำพวกที่ 2 พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ รวมทั้งเพิ่มระดับของอินซูลิน 30%เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน รวมทั้งเพิ่มไกลวัวเจนที่ตับ เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปเบาหวานควบคุม จึงสรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการหยุดยั้งการสรุปยแล้วก็การดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต แล้วก็เพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้รักษาคนไข้โรคเบาหวานได้9
จากการทดสอบทางคลินิกหมายถึงการใช้รักษาโรคกระเพาะในคนจริงๆโดยการกินผงแห้งของราก พบว่าได้ประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาแผลที่กระเพาะและก็ลำไส้เล็ก จากการที่กรดเกิน
เมื่อปี ค.ศ.1997 ที่ประเทศอินได้กระทำตรวจสอบและลองใช้รากสามสิบกับคนเจ็บความดันเลือดสูงประเภท mild hypertension โดยทดลองเปรียบเทียบกับยาลดระดับความดัน (Propranolol) ใช้ระยะเวลากระทำทดลองนาน 3 เดือน ผลของการทดลองพบว่า ผู้ป่วยมีความดันเลือดลดน้อยลง < 90 mm.Hg. รวมทั้งลดไขมันได้ผลดี

  • K. Mitra แล้วก็ภาควิชา (คริสต์ศักราช1996) ที่ประเทศอินเดียได้ทำการทดลองใช้สารสกัดจากรากสามสิบกับหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นด้วย Streptozotocin ผลการทดสอบพบว่า สารสกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถกระตุ้นตับอ่อนของหนูให้เพิ่มการหลักhttp://www.disthai.com/


    Tags : สมุนไพรรากสามสิบ

10

น้ำมันเหลือง
ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรน้ำมันเหลืองประสิทธิภาพเลิศ ทำจากพืชสมุนไพรประเภทต่างๆกัน คุณประโยชน์ที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อทุเลาอาการต่างๆคุณประโยชน์นี้ไม่ด้อยกว่ายาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว

  • ใช้ได้กับอาการอย่างยังไงบ้าง ?


▪บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดเหมือนจะเป็นลม
▪แก้กลยุทธ์ขัดยอก ฟกช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
▪ทาท้องเพื่อขับลมด้านในท้อง
▪ทาแก้ผื่นผื่น ตุ่มคัน
▪ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาถูนวดฝ่าตีน ไล่เลือดลม
▪ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคิว ปวดสันหลังปวดบั้นเอว ปวดหัวเข่า บวมช้ำ ปวดกล้าม ดมกลิ่นแก้อาเจียน วิงเวียน หอบหืด รวมทั้งไซนัส

  • มีสเตอรอยด์ไหม ?


ไม่มีสเตอรอยด์ ไม่มีสารเคมี ทำมาจากสมุนไพรไทย 100% จึงสามารถใช้ทาได้ทุกเพศทุกวัย ทาบีบนวดเบาๆได้ตลอดเมื่อมีลักษณะอาการ ใช้แล้วไม่มีการสะสม ลูกค้าจึงชอบพอมากมาย
รูปแบบของน้ำมันเหลืองสมุนไพร
น้ำมันเหลืองสมุนไพร สืบทอด คุณประโยชน์ตำรับไทย ไม่มีส่่วนผสมสารเคมี น้ำหอม เป็นน้ำมันซึ่งสกัดจาก สมุนไพรแล้วก็ว่านต่างๆหลายประเภท ใช้สูดกลิ่นอาการหวัดคัดจมูก หน้ามืดศรีษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลมเป็นแล้ง ทาเช็ดนวด ปวด ฟกช้ำดำเขียว เหน็บชา ปวดตามเส้นตามข้อ เส้นเอ็น เอ็น มือเท้าตาย กลยุทธ์ปวดเมื่อย เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้ามเนื้อเหน็ดเสียว ตามร่างกาย โรคผิวหนัง ผื่นผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย อื่นๆอีกมากมาย น้ำมันเหลืองสมุนไพร ตราดอกบัวสี : ทาแล้วแห้งเร็ว มีกลิ่นหอมหวนของ สมุนไพร ข้อควรตรึกตรอง : ควรที่จะเก็บไว้ในที่ร่มไม่ควรถูกแดด ใช้ทาถูนวดรวมทั้งสูดดม
ใช้งานก้าวหน้าทั้งทางผิวหนังแล้วก็ทางกล้าม เป็นน้ำมันเหลืองสมุนไพรสำหรับอาการหน้ามืดศีรษะเป็นลมเป็นแล้งและอาการคัดจมูกทาเพื่อทุเลาความอ่อนล้า คลายเคียด เคล็ดลับปวดเมื่อยอักเสบบวมแมลงกัดผื่นคัน แล้วก็ เมารถเมาเรือ สามารถทำให้ร่างกายปรับสมดุลได้อย่างเร็ว
ส่วนผสมของน้ำมันเหลืองสมุนไพร

  • เมนทอล 1000 กรัม 2. พิมเสน 400 กรัม 3. การบูร 300 กรัม 4. น้ำมันเข้มข้นสกัดจากสมุนไพร 200 กรัม 5. เอสเซ็นเชียล ออยล์ 50 กรัม 6. กลิ่นที่อยาก
ลักษณะของน้ำมันเหลืองสมุนไพร
ใช้น้ำมันหลืองสมุนไพร 3 หยดและเช็ดบริเวณรอบๆท้องรวมทั้งรอบสะดือ เพื่อทุเลาอาการปวดท้องหรือท้องเฟ้อ ใช้น้ำมันเหลืองสำหรับอาการคัดจมูกโดยการทาที่บริเวณหน้าอกรวมทั้งหลัง2-3หยด ทาบริเวณที่ถูกแมลสัตว์กัดต่อย เบาๆหรือลักษณะของการปวดเมื่อยล้ารวมทั้งอาการอักเสบก ของกล้าม แล้วนวดเบาๆเพื่อให้น้ำมันเหลืองสมุนไพรซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย 2-3 ครั้งก็จะกระปรี้กระเปร่าขึ้น เก็บน้ำมันในอุณหภูมิห้องรวมทั้งคุ้มครองปกป้องมันจากความร้อน.
น้ำมันเหลืองสมุนไพรสร้างขึ้นจากสูตรดั้งเดิมจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีส่วนผสมของน้ำมันที่สกัดจากสมุนไพรเข้มข้นจากเมืองไทยหลากหลายประเภทตัวอย่างเช่น ไพลเหลือง, ขมิ้นอ้อย,ขมิ้นชัน,ดีปลี,ว่านน้ำ,รวมทั้งสมุนไพรฯลฯ ที่มีคุณลักษณะสำหรับในการทุเลาลักษณะของการปวดกล้ามรวมทั้งร่างกายได้ ที่ใช้มาตั้งแต่อดีตกาลจนกระทั่งตอนนี้
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นวิธีในการดูแลสภาพผิวรวมทั้งสุขภาพที่ขอชี้แนะเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรแล้วก็พืชต่างๆที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดนการนำสารสกัดกลิ่นและก็เนื้อน้ำมันพวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอมยวนใจ แล้วก็สัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความเคร่งเครียด ทำให้พวกเราบรรเทา รวมถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นรวมทั้งผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้เราจะพาไปดูประโยช์จากการนวดน้ำมันว่าเป็นประโยชน์ในด้านใดบ้าง
ผลการค้นคว้าจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ขยายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนหลับก้าวหน้าขึ้น ทุเลาอาการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลจากการศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า คนไข้โรคมะเร็งระยะแพร่ จะทรมาทรกรรมจากลักษณะของการเจ็บปวดลดลง อ้วกน้อยครั้ง หรือไม่อ้วกเลย รู้สึกชื่นบานขึ้น ความดันดีมากยิ่งกว่าเดิม รวมทั้งเครียดจากอาการป่วยลดน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด
แพทย์พื้นเมืองหรือการแพทย์แผนไทย เห็นด้วยในสรรพคุณอันดีเลิศของยาแผนโบราณตามตำรายาสมุนไพร ตำรับดั้งเดิมวัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุๆพนบริสุทธิ์มังคลาราม ซึ่งเป็นยาสมุนไพรแผนโบราณขนานเอกที่มีชื่อเสียงดังแล้วก็ได้รับความวางใจสำหรับเพื่อการรักษาโรคมานานมากแล้ว สมกับคำที่กล่าวไว้ว่า "นวดแผนโบราณ ยาแผนโบราณ ตำราเรียนยาสมุนไพร จำต้องวัดโพธิ์ ความคิดของคนประเทศไทยตลอดชาติของบรรพบุรุษไทย"
บริการนวดน้ำมันนวดรวมทั้งจำนวนมากสร้างความแข็งแกร่ง ระบบภูมิต้านทานรวมทั้งช่วยย่อยอาหารดียิ่งขึ้น.
ศิลป์ที่สวยสดงดงามของการนวดได้ทวีความร้ายแรงมากขึ้น[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง[/url]มันบางมากมาย. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อบริการด้านต่างๆสำหรับเพื่อการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ยอดเยี่ยมสำหรับสิ่งที่ต้องการส่วนตัวของคุณรวมทั้งผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการนวดบรรเทาและฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อจะรักษาความสมดุลด้านจิตวิญญาณของคุณและก็ร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.

11

น้ำมันนวดสมุนไพร
ฆ่าความเจ็บปวด หวดความเหน็ดเหนื่อย
            สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกรอบ คราวนี้เราจะมารีทิวทัศน์ผลิตภัณฑ์ดังเดิมแม้กระนั้นจะแน่นวิชาการสักนิดสักหน่อย เพราะคราวนี้จะมีรายละเอียดข้อมูลจากแหลงต่างๆมาอธิบายด้วยคะ เนื่องมาจากเป็นผลิตภัณฑ์คลายกล้ามเนื้อ ซึ่งเราเองเคยใช้ยามาหลายตัวแบบเดียวกัน มาดูกันดีกว่าขา
          [url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันนวด[/b][/url] อาการปวดปวดเมื่อยร่างกายเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แล้วก็เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำกิจกรรมบางสิ่งในท่าเดิมนานๆเช่น พนักงานสถานที่ทำงาน หรือคนที่ออกแรงกล้ามมากจนเกินความจำเป็น ซึ่งหากกำเนิดอาการปวดปวดเมื่อยขึ้นมาแล้ว คนจำนวนไม่น้อยก็เลือกที่จะบรรเทาลักษณะของการปวดด้วยยาคลายกล้าม เพื่อลักษณะของการปวดปวดเมื่อยเนื้อตัวหายไปเร็ว วันนี้ เราจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยสำหรับในการลดลักษณะของการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อกันนะคะ มาดูกันว่ายาคลายกล้ามเนื้อส่วนมากแล้วคืออะไร พูดกันกล้วยๆเป็น ถ้าหากพวกเรากำเนิดอาการปวดเมื่อยล้ากล้ามเนื้อคนโดยมากรวมทั้งจะเลือกหาน้ำมันนวดยาคลายกล้ามเนื้อ ดังเช่น ยาพารา บางครั้งอาจจะเป็นยาคลายกล้ามแบบเม็ด หรือแบบที่เป็นครีมนวด ซึ่งมักจะเป็นยาใช้ทุเลาอาการเจ็บปวดฉับพลันจากการที่กล้ามหดเกร็ง เพราะว่าการเจ็บหรือโรคที่เกี่ยวโยงกับกล้ามและกระดูก ซึ่งยาบางจำพวกจะมีสารสเตอรอยด์ผสมอยู่ด้วย แล้วก็ถ้าหากกินยาคลายกล้ามมากๆบางทีอาจเสี่ยง นำไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่นขึ้นมาอีก ซึ่งวันนี้ เรามีผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งมาแนะนำ ซึ่งบรรเทาลักษณะของการปวดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อได้ ลองมองกันนะคะว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นยังไง
            มาดูคุณประโยชน์ซึ่งมาจากน้ำมันนวดกันค่ะ

  • ปวดก้านคอ บ่า ไหล่ จากการนั่งทํางานนานๆทํางานหน้าคอมฯ Office syndrome ฯลฯ
  • คนทํางานที่จะต้องใช้กล้าม ดังเช่น ชูของหนัก
  • นักกีฬา หรือคนได้รับบาดเจ็บจากการออกกําลังกาย
  • นักเที่ยว นักเดินทาง
  • คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับ กระดูก ข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อ ได้แก่ ข้อเข่าอักเสบ, เอ็นอักเสบ, กระดูกทับ เส้นประสาท ฯลฯ
          ซึ่งเรามาดูผลกระทบในด้านที่เสียหายจากการทานยาคลายกล้ามเนื้อกัน
เพราะเหตุใดถึงต้องเลือก น้ำมันนวดเนื่องจาก ยาคลายกล้ามเนื้อธรรมดาที่เราทาน ทำให้กล้ามเนื้อรู้สึกหายเป็นปกติจริง เราจะรู้สึกว่ามันหายปกติ และก็บริหารร่างกายได้ปกติไม่เจ็บ แม้กระนั้นอันที่จริงแล้วกล้ามเนื้อยังอักเสบอยู่ หากเรายังใช้งานกล้ามเนื้อดังเดิมจะมีผลให้กล้ามเนื้ออักเสบเยอะขึ้นเรื่อยๆ การที่กินยาแล้วออกกำลังกายส่วนนั้นต่อเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆเข้า ก็บางครั้งอาจจะอัดเสบเรื้อรังได้ อันนี้เป็นข้อผลร้ายทางอ้อมมาจากการทานยาคลายกล้าม ซึ่งคนส่วนมากแล้วหลังจากนั้นก็จะใช้กล้ามเนื้อหรือทำงานปกติทุกอย่างด้วยเหตุว่าเราไม่เคยทราบสึกปวดหรือเจ็บแล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผิดเพราะการทานยาคลายกล้ามเนื้อยาเมื่อพวกเราทาน
ข้อเสนอเป็น หลังจากที่มีการใช้ยาแล้ว 48 ชั่วโมงให้ยาหมดฤทธิ์แล้วจริงๆนะคะ แล้วก็ค่อยไปออกกำลังกายหรือดำเนินการตามธรรมดาค่ะ ส่วนต้องพักนานแค่ไหนนั้น ไม่มีผู้ใดเข้าใจดีเท่าตัวคุณว่าร่างกายของคุณเป็นยังไงเนื่องจากมีหลายต้นสายปลายเหตุร่วมกัน เช่นพวกเราเจ็บมากแค่ไหน รักษายังไง รับประทานยาแล้วปล่อยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง แบบนี้นานหน่อยนะคะ ซึ่งนอกจากจะกินยาแล้วเนี่ยจำต้องกายภาพบำบัดช่วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น ยืดกล้ามเนื้อ ประคบ นวด อย่างถูกทางนะคะ ขอย้ำนะคะต้องถูกทาง
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะสำหรับคนใดกันบ้าง?

  • ผู้ที่บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ผู้ที่เมื่อยจากการทำงานหนัก
  • ปวดมือและคอจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ
  • ปวดหลังจาก Office syndrome
  • ผู้ที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
  • ผู้ที่ปวดเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
  • ปวดขาจากการเดิน Shopping
  • เจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ตีดอท จนกระทั่งปวดมือ
  • ปวดคอจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ
  • เมื่อยจากการทำงานหนัก
  • ช๊อปจัดหนัก กระทั่งปวดขา


          รวมทั้งภายหลังที่ พวกเราได้ตรวจสอบและลองใช้แล้วนะคะ มันเห็นผลดีจังๆข้อดีของมันเป็น ซึมซาบเร็วแห้งเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ อีกอย่างก็คือใช้ง่ายจ้ะ ข้อแนะนำในการใช้นะคะ เป็นนอกเหนือจากที่จะรอดตัวยาจะค่อยๆซึมเข้าไปข้างใน 5 นาที อากาศจะเริ่มทุเลาลง ซึ่งบางบุคคลบางครั้งอาจจะพ้นสเปรย์ไปเฉยๆแล้วหลังจากนั้นก็รอคอยให้มันแห้งก็ได้ แต่ว่าถ้านวดอย่านวดแรงเหลือเกิน ให้นวดเบาๆพอนะคะ มันจะก่อให้ได้ผลได้ดีขึ้น ซึ่งผลที่ได้นะคะ หลังจากที่ได้มีการใช้แล้วทีนี้คืออาการปวดเมื่อยล้าจากการหักโหมบริหารร่างกายของเราก็หายไป ตอนแรกเราปวดขามากเลยด้วยเหตุว่าวิ่งเกินความจำเป็น ลงไปแล้วถูเบาๆแล้วทิ้งเอาไว้สักโดยประมาณ 5 นาทีนะ จะมีความรู้สึกว่าอากาศมันดีขึ้น ไม่เป็นผลใกล้กันใดๆเลยนะคะ คือเคยปวดขากระทั่งต้องการตัดขาทิ้งนะ แต่พอได้สเปรย์ตัวนี้ไปแล้วนอนพักตื่นเช้ามาหายเป็นปลิดทิ้งเลย ความรู้สึกก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาที่แบบปวดขามากมายก็หาย เดี๋ยวนี้ผ่านมาได้7 วันแล้ว ไม่มีลักษณะของการปวดกลับมาขา ซึ่งได้ผลเจริญทีเดียว ดีกว่าทานยาเม็ดอีก
          สำหรับคนไหนกันแน่ที่  มีน้ำมันนวดติดบ้านกันไว้ก็ดีแล้วนะคะ เนื้อหานี้เป็นเพียงแค่รีวิวการใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นความความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะมิได้ขายคอแต่อย่างใด เราใช้แล้วเห็นผลจริงก็เลยมาบอกต่อซึ่ง เนื้อหานี้เราได้หาข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้จากเว็บไซต์ต่างๆนะคะ เพื่อมาประกอบสำหรับในการรีวิว ซึ่งถ้ามีข้อบกพร่องอย่างไร สามารถวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งแนะนำกันเข้ามาได้ และก็สามารถติดตามบทความรีวิว ของเราได้เรื่อยเลย และเราจะมีผลิตภัณฑ์ดีๆตัวไหนมาชี้แนะอีกห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ พบกันในบทความหน้า สวัสดีค่ะ

12

น้ำมันนวดสมุนไพร
โรคนี้จะไม่สามารถหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถหายขาดได้เอง แม้ว่าอาการที่แสดงออกมาจะร้ายแรงลดลงก็ตาม แล้วก็สุดท้ายก็จะเปลี่ยนเป็นโรคเรื้อรังและส่งผลให้เกิดความยากแค้นสำหรับในการดำรงชีพเยอะขึ้นเรื่อยๆ
1.น้ำมันนวด จะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ปฏิบัติงานได้ดีเพิ่มมากขึ้น ลดอาการตึงเครียดให้พวกเราบรรเทาจากการความอ่อนเพลียและก็ความเหนื่อยสะสม
2.การนวดน้ำมัน จะเข้าช่วยการกระตุ้นหลักการทำงานของโลหิต ให้ดำเนินงานก้าวหน้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและสามารถหล่อเลี้ยงออกสิเจนและก็สารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ ปกป้องโรคต่างๆรวมถึงลดความดันโลหิตได้ดิบได้ดีด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมบำรุงและฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆในร่างกายให้ดำเนินงานก้าวหน้าแล้วก็มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดพิษ ทั้งภายในร่างกายแล้วก็สภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนเปียกชื้น มองผุดผ่องรวมทั้งชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น
5.น้ำมันนวดช่วยในประเด็นการนอนให้ดีขึ้นกว่าเดิม ผ่อนคลายสมองและก็ร่างกายต่างๆมีผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนสนิทได้ดีกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างยอดเยี่ยม
นอกเหนือจากนั้นการนวดน้ำมันยังมีสาระอีกหลายสิ่งหลายอย่างต่อสภาพทางด้านร่างกาย ซึ่งนับได้ว่าเป็นช่องทางแก่คู่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับผู้ที่เคยทรมาทรกรรมจากลักษณะของการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยมาก แพทย์ก็ได้แนะนำให้ทดลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เพราะเหตุว่าจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีลักษณะอาการปวดศีรษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวติดต่อกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถทุเลาอาการข้างๆของโรคไมเกรน และก็นอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยค่ะ
น้ำมันนวด[/url] สมารถเเก้อาการปวดหลัง เป็นอาการที่ทุกคนต้องเคยเผชิญ ซึ่งพอปวดหลังขึ้นมาทีไรพวกเราก็อยากจะเอนหลังพัก หรือไม่ก็ไปนวดผ่อนคลายลักษณะของการปวดเมื่อยล้า ทั้งที่จริงแล้วอาการปวดหลังบางครั้งอาจจะมิได้เป็นผลมาจากอาการปวดปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเพียงเท่านั้น แต่ยังอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆได้อีกเพียบเลย อาทิเช่นที่เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจสิ่งที่ทำให้เกิดลักษณะของการปวดข้างหลังทางด้านขวา ว่ามีเหตุมาจากอะไรรวมทั้งอันตรายไหม เพื่อที่จะได้ทราบเท่าทันลักษณะการเจ็บเจ็บป่วยของร่างกาย
ปวดหลังขวาที่อยู่ข้างบน
          ลักษณะของการปวดข้างหลังข้างขวาข้างบน เป็นอาการปวดหลังที่อยู่รอบๆตั้งแต่บริเวณข้างหลังไหล่ไปจนกระทั่งใต้สะบัก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกัน โดยปัจจัยที่มักทำให้มีการเกิดลักษณะของการปวดหลังข้างบนขวา มีดังนี้
ปวดหลังข้างขวา


การนั่งดำเนินงานเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆหรือชูของหนักผิดท่า


          น้ำมันนวดสามารถช่วยการชูของหนักหรือการนั่งปฏิบัติงานในท่าทางที่ผิดจำต้องต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆก็เป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งลักษณะของการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนบนทางด้านขวาได้  โดยรอบๆข้างหลังส่วนบน นอกเหนือจากกล้ามเนื้อข้างหลังแล้ว ก็ยังเชื่อมต่อกับกล้ามไหล่รวมทั้งกล้ามคอ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการปวดหลังขวาบนจากการใช้แรงงานหนักก็มักจะมีลักษณะปวดคอรวมทั้งไหล่ในด้านเดียวกันร่วมด้วย ทราบอย่างงี้แล้วถ้าเกิดคนไหนกันที่ยังนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆก็ยืนขึ้นมายืดเส้นยืดสายบ้างนะคะ แล้วก็ควรนั่งให้ถูกท่าด้วย โดยท่านั่งดำเนินการที่ถูกก็คือควรจะให้หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตาจ้ะ


ความไม่ดีเหมือนปกติของกระดูกและก็ข้อ


          ม้ำมันนวดกระดูกรอบๆหลังส่วนบนนั้นประกอบไปด้วยกระดูกไหปลาร้า กระดูกไหล่ กระดูกสันหลัง รวมทั้งกระดูกต้นแขน ซึ่งถ้าเกิดความผิดแปลกกับกระดูกกลุ่มนี้ก็อาจจะก่อให้รอบๆข้างหลังขวาที่อยู่ข้างบนกำเนิดอาการปวดได้ โดยสาเหตุที่ทำให้กระดูกไม่ดีเหมือนปกติก็ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุ หรือข้อต่อของกระดูกที่ข้างหลังส่วนบนขวามีการอักเสบ นอกจากนี้สภาวะกระดูกพรุนก็สามารถนำมาซึ่งการก่อให้เกิดลักษณะของการปวดที่กระดูกรอบๆด้านขวาที่อยู่ทางด้านบนได้ เวลาที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งบางชนิดในระยะแพร่ไป อย่างมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ และโรคมะเร็งไต ก็จะมีลักษณะปวดกระดูกบริเวณหลังส่วนบนเช่นเดียวกัน


ความผิดแปลกของอวัยวะภายใน


          อาการปวดหลังส่วนบนขวามิได้มีต้นเหตุจากกล้ามเนื้อและก็กระดูกบริเวณข้างหลังส่วนบนแค่นั้น แต่ยังอาจเกิดจากลักษณะของการเจ็บป่วยของอวัยวะต่างๆในร่างกายได้ เช่น โรคตับ นิ่วในไตและในกระเพาะหรือลำไส้เล็กส่วนต้น โรคในถุงน้ำดี หรือแม้แต่อาการติดเชื้อในไต หรืออาจจะมีการเกิดจากอาการไส้ติ่งอักเสบที่ทำให้ปวดแผ่ขยายขึ้นบริเวณหลังทางขวาก็ได้ ส่วนคุณผู้หญิง ถ้าเกิดมีอาการปวดที่ข้างหลังส่วนบนขวา นั่นบางทีอาจเป็นสัญญาณของซีสต์ในรังไข่ การตำหนิดเชื้อของท่อรังไข่ หรือการมีครรภ์นอกมดลูกที่รอบๆท่อรังไข่ได้อีกด้วยค่ะ


โรคที่เกี่ยวกับปอด


          น้ำมันนวด ปอดเป็นอวัยวะที่อยู่ส่วนบนของร่างกายซึ่งตรงกับข้างหลังส่วนบนพอดิบพอดี ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อปอดมีความผิดปกติก็สามารถนำมาซึ่งลักษณะของการปวดข้างหลังส่วนบนได้ โดยอาการที่จะนำไปสู่อาการปวดข้างหลังข้างบนขวาก็เป็นต้นว่า โรคปอดอักเสบ โรคมะเร็ง อาการติดโรคของเยื่อห่อหุ้มปอดหรือช่องอก นอกเหนือจากนั้นอาการน้ำหลากปอด หรือแม้แต่หัวใจล้มเหลว ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่อาการปวดหลังด้านขวาทางด้านบนได้ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการปวดที่หลังข้างบนขวาแบบเรื้อรังแล้วก็รุนแรง ควรรีบไปพบหมอให้เร็วที่สุดจ้ะ

13

การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
น้ำมันนวด เป็นวิธีดูแลสภาพผิวและสุขภาพที่ขอแนะนำเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรและพืชต่างๆที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดนการนำสารสกัดกลิ่นและเนื้อน้ำมันเหล่านั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอม รวมทั้งสัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความตึงเครียด ทำให้เราผ่อนคลาย รวมไปถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้เราจะพาไปดูประโยชน์ของการนวดน้ำมันว่ามีประโยชน์ในด้านใดบ้าง
1.การนวดน้ำมันจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทให้ทำงานดีมากขึ้น ลดการตึงเครียด ทำให้เราผ่อนคลาย
2.การนวดน้ำมัน จะช่วยกระตุ้นการทำงานของโลหิต ให้ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งสามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆทั่วร่างกายอย่างครบถ้วน ป้องกันโรคต่างๆรวมทั้งความดันโลหิตได้ดีอีกด้วย
3.ความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่างๆในร่างกายทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เข้าไปกำจัดสารพิษ ทั้งภายในร่างกายและสภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมา ทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น ดูมีน้ำมีนวล
5.ช่วยในเรื่องการนอนหลับให้ดีกว่าเดิม น้ำมันนวด ผ่อนคลายสมองและร่างกายต่างๆ ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีว่าเดิม
ปวดเมื่อยร่างกายทีไร สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คงอยากจะพาตัวเองไปนอนเอนกาย รับบริการนวดแผนไทย นวดน้ำมัน หรือนวดอะไรก็ได้สักอย่างเพื่อให้เราคลายความปวดเมื่อยเนื้อตัว แต่นอกจากการนวดจะช่วยให้เราสบายตัวขึ้น ว่าไม่ใช่แค่คลายความปวดเมื่อยที่การนวดสามารถทำให้เราได้ แต่ยังมีอีก 6 ประโยชน์ที่น่าแปลกใจและดีใจไปพร้อม ๆ กัน ที่ร่างกายจะได้รับผลดีผ่านการบีบนวดเนื้อตัวตามนี้เลยค่ะ


ลดอาการปวดหัวไมเกรน


          สำหรับคนที่เคยทรมานจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยครั้ง แพทย์ก็ได้แนะนำให้ลองไปนวดบำบัดสุขภาพดูบ้าง เพราะจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ จะสามารถบรรเทาอาการข้างเคียงของโรคไมเกรน และนอนหลับได้อย่างสนิทขึ้นด้วยค่ะ
 บรรเทาอาการกล้ามเนื้ออักเสบจากการออกกำลังกาย
          เวลาที่ออกกำลังกายอย่างหนัก ร่างกายจะได้รับผลกระทบเป็นอาการปวดเมื่อย หรือกล้ามเนื้ออักเสบเป็นของแถม ซึ่งการศึกษาของ Buck Institute for Research on Aging and McMaster University in Ontario, Canada ก็ได้เผยวิธีบรรเทาอาการว่า ให้ลองไปเอนกายรับบริการนวดตัวดูบ้าง เพราะน้ำมันนวด จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากการออกกำลังกายได้ดีเทียบเท่าการรับประทานยาคลายกล้ามเนื้อยังไงยังงั้นเลยล่ะ


ดูเด็กขึ้น


          ต่อแต่นี้ไปไม่ต้องตรากตรำแอ๊บแบ๊วกระชากวัยอีกต่อไป ด้วยเหตุว่าเพียงไปสปาให้เขานวดๆบีบๆร่างกายอยู่เป็นประจำก็สามารถทำให้เรามองเด็กขึ้นได้แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก็ได้ชี้แจงเสริมเติมว่า การขัดหน้าหรือนวดหน้า รวมไปถึงนวดตัว เป็นการกระตุ้นให้เลือดในร่างกายไหลเวียนน้ำมันนวด ซึ่งก็ทำให้สุขภาพผิวดียิ่งขึ้นด้วย ทั้งยังการนวดยังช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมท่อน้ำเหลือง ให้กำจัดสารพิษที่อยู่ใต้ผิวหนังให้หมดไป ทำให้สารอาหารแล้วก็วิตามินต่างๆซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดิบได้ดีขึ้น ช่วยทำให้ผิวมองกระปรี้กระเปร่าเต่งตึงได้อีกครั้ง รวมถึงกำจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบๆผิวหน้าได้อีกด้วยนะ


คุ้มครองอาการ PMS


          ผู้หญิงทุกคนอาจรู้ว่าอาการ PMS ก่อนมีประจำเดือนนั้นสร้างความทรมาทรกรรมให้กับเราได้มากมายขนาดไหน แม้กระนั้นวันนี้พวกเราไม่ต้องวิตกกังวลกับอาการเหล่านี้อีกต่อไป เพราะผลการศึกษาวิจัยของ Touch Research Institute and University of Miami Medical School พบว่า การนวดตัวสามารถคุ้มครองปกป้องอาการข้างเคียงทุกประเภทในตอนที่หญิงมีเมนส์ได้อยู่มือ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดท้อง ตัวบวม น้ำหนักขึ้น หรืออาการรำคาญโกรธ แต่แนวทางนวดบางครั้งก็อาจจะได้ผลดีกับผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 19-45 ปี เพียงแค่นั้นนะคะ


ลดอาการใกล้กันของโรคมะเร็ง


          ผลการศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเผยว่า คนเจ็บโรคมะเร็งระยะแพร่ขยายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนได้ดีขึ้น ทุเลาอาการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิเคาะห์ของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เปิดเผยว่า ผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ไป จะทรมานจากอาการเจ็บปวดลดลง อาเจียนน้อยครั้ง หรือเปล่าคลื่นไส้เลย รู้สึกชื่นบานขึ้น ความดันดีมากกว่าเดิม และก็เครียดจากอาการป่วยลดลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยแนวทางนวด


บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง


          น้ำมันนวด ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดได้บรรยายถึงประสบการณ์ของตนเองให้ฟังว่า ผู้ที่มีลักษณะปวดเรื้อรัง ดังเช่นว่า ปวดตามข้อ โรคข้ออักเสบ แล้วก็ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าเรื้อรังอื่นๆจะคลายลักษณะการเจ็บปวดพวกนี้ลงไปได้มาก ภายหลังจากได้รับบริการนวดอย่างถูกต้องต่อเนื่องกันเพียงแค่ 2-3 ครั้งเพียงเท่านั้น เพราะว่าน้ำมันนวด ใช้ได้อย่างตรงจุด จะช่วยทุเลาอาการเกร็งของกล้ามในส่วนนั้นๆได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถทุเลาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อรอบๆนั้นได้อย่างทันใจนั่นเองจ้ะ

Tags : น้ำมันนวดสมุนไพร

14

หอมแดง
ชื่อสมุนไพร  หอมแดง
ชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน หอมไทย,หอมเล็ก,หอมหัว หอมแดง(ภาคกึ่งกลาง), หอมปั่ว ,หมอแดง (ภาคเหนือ) , หัวหอมแดง (ภาคใต้) , ฝักบั่ว (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) , ปะเซ้ส่า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ปะเซอก่อ (กะเหรี่ยง-ตาก) , ซัง , ตังซัง (จีน)
ชื่อสามัญ  Shallot
ชื่อวิทยาศาสตร์  Allium ascalonicum Linn.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Allium carneum Willd., Allium fissile Gray, Allium hierochuntinum Boiss., Porrum ascalonicum (L.) Rchb.
ตระกูล             Amaryllidaceae
บ้านเกิด หอมแดง เป็นพืชขนาดเล็กที่ปลูกไว้เพื่อบริโภคส่วนของหัวหรือบัลบ์ นิยมใช้สำหรับการทำครัว แล้วก็เป็นสมุนไพร ทั้งนี้หอมแดง มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ คาดคะเนว่าอยู่ในแถบประเทศทาจิกิสถานที่ อัฟกานิสถาน รวมทั้งอิหร่าน โดยเช้าใจกันว่าหอมแดงกลายพันธุ์ตามธรรมชาติมาจากหอมหัวใหญ่และก็มีการเลือกจำพวกเพื่อนำมาปลูกเป็นพืชอาหาร ในจีนและประเทศอินเดียและก็มีการกระจัดกระจายประเภทไปทั้งโลก ซึ่งได้มีการจดบันทึกไว้ ในช่วงคริสตวรรษที่ 12 ปัจจุบันการปลูกหอมแดงได้แพร่หลายไปทั่วทั้งโลก แต่ว่าก็ยังมีการบริโภคน้อยกว่าหอมหัวใหญ่อยู่  หอมแดง จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในประเทศไทยพบว่ามีการปลูกมากมายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งทางภาคเหนือ แม้กระนั้นหอมแดงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีก็ได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ
ลักษณะทั่วไป
ใบ ใบแทงออกมาจากลำต้นหรือหัว มีลักษณะเป็นหลอดกลม ภายในกลวง มีสารสีนวลเป็นไขฉาบผิวใบ ใบมีลักษณะตั้งตรงสูงราว 15-50 เซนติเมตร แตกออกเป็นชั้นถี่ 5-8 ใบ ใบอ่อนสดของหอมแดงใช้สำหรับการบริโภค
ท่อนหัวหรือบัลบ์ หัวหรือบัลบ์เป็นส่วนของกาบใบที่เรียงซ้อนกันแน่นจากข้างในของหัวออกมา เป็นแหล่งสะสมของกิน แล้วก็น้ำ มีลักษณะเป็นกระเปาะ เรียกว่า Bulbs มีลำต้นภายใน มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆสีขาว ซึ่งเป็นที่เกิดของหัวหอม หัวหอมจะแตกใหม่ออกมาจากหัวเดิม โดยเฉลี่ย 2 - 20 หัวต่อกอ เส้นผ่านศูนย์กลางของหัวโดยประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตร
ต้น ต้นที่แลเห็นเหนือดินเป็นส่วนที่อยู่ต่อจากบัลบ์ จัดเป็นลำต้นเทียมที่เกิดขึ้นจากกาบใบเรียงอัดกันแน่น ต่อมาก็เลยเป็นส่วนของใบ
ราก รากหอมแดงเป็นระบบรากฝอยจำนวนไม่น้อย แตกหน่อออกมาจากข้างล่างของต้น มีลักษณะเป็นกระจุกรวมกันที่ก้นหัว แล้วก็แพร่ลงดินลึกในระดับตื้นราว 10-15 เซนติเมตรแล้วก็แผ่รอยต้นราว 5-10 ซม.
การขยายพันธุ์ หอมแดงสามารถขยายพันธุ์ได้ 2 วิธี คือ การใช้ส่วนหัวชนิด (sets) และการใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds) การใช้หัวพันธุ์ (sets) เป็นแนวทางของเกษตรกรที่นิยมปฏิบัติกันมานาน หัวหอมแดงที่จะปลูกจำเป็นต้องผ่านการพักตัวมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน จึงจะปลูกได้  การใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds)  เป็นแนวทางที่ลดเงินลงทุนในการผลิตสำหรับการซื้อหัวจำพวกที่มีราคาแพง สำหรับวิธีการปลูกหอมแดงนั้นมีดังนี้
การเตรียมแปลงปลูก หอมแดงเป็นพืชที่มีระบบรากสั้น มีขอบเขตรากลึกราวๆ 10-15 ซม. เพราะฉะนั้น ในระดับความลึกนี้ หอมแดงก็เลยต้องการหน้าดินร่วนซุย รวมทั้งมีความชุ่มชื้นบ่อย มีการระบายน้ำ และอากาศดี ไม่ต้องการดินแน่น โดยยิ่งไปกว่านั้นระยะที่มีการแตกหัวใหม่ การเตรียมดินให้ร่วนซุยจะช่วยทำให้หอมแดงเจริญวัยได้ดี ด้วยการไถกระพรวนดินครั้งแรก ลึก 20 เซนติเมตร พร้อมกำจัดวัชพืช ผึ่งแดดทิ้งไว้ 7-15 วัน ต่อจากนั้น ไถพรวนดินให้ร่วนด้วยผานที่เล็กลง ลึก 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งตากดินก่อนปลูก 3-7 วัน ก่อนไถพรวนครั้งที่ให้หว่านปุ๋ยมูลสัตว์ อัตรา 2-3 ตัน/ไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 20-30 กิโลกรัม/ไร่ ในฤดูฝนแปลงปลูกหอมแดงต้องชูร่องกว้างราวๆ 1-1.2 เมตร ความยาวขึ้นกับพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกเพื่อน้ำฝนระบายออกได้ ระยะห่างระหว่างแปลงจะเว้นไว้โดยประมาณ 30-50 ซม. เพื่อเป็นทางเดินสำหรับเพื่อการให้น้ำหรือกำจัดวัชพืช
ก่อนปลูก 1-3 วัน ควรให้น้ำในแปลงให้เปียกก่อน กรรมวิธีปลูก นำหัวจำพวกที่พักตัวดีแล้วหรือหัวจำพวกที่เก็บไว้นาน 2-4 เดือนภายหลังจากเก็บเกี่ยว มาตัดรากแห้งออก แยกหัวออกจากกันให้เป็นหัวลำพังๆแล้วฝังหัวลงไปในดินให้ปลายของหัวอยู่เสมอผิวดิน ระยะปลูกที่ 15 x 15 เซนติเมตร ปิดฟางหนาโดยประมาณ 1 ซม. เมื่อหอมแดงแตกออกได้ราวๆ 15 วัน ก็เลยหว่านปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 21% อัตรา 10 กก./ไร่ แล้วให้น้ำเช้าตรู่เย็นหรือวันละครั้ง สุดแท้แต่สภาพความชื้นของผิวดิน  หอมแดงที่ปลูกจากหัวเก็บเกี่ยวเมื่ออายุราว 60 วัน หอมแดงที่สมควรในการเก็บเกี่ยวจะต้องแก่จัด มีใบแห้งตามธรรมชาติ โดยห้ามใช้สารกำจัดวัชพืชพ่นบังคับให้ใบแห้ง เพราะหัวหอมอาจบูดเน่าหายหรือแก่เก็บไว้บริโภคสั้น ก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยวโดยประมาณ 10-15 วัน จะต้องงดให้น้ำ และให้น้ำอีทีก่อนเก็บเกี่ยว 24 ชั่วโมง เพื่อให้หอมแดงถอนได้ง่าย การเก็บเกี่ยวจะใช้กระบวนการมือถอนหรือใช้จอบหรือเสียมขุดร่วมด้วย ข้างหลังการเก็บเกี่ยว หอมแดงจะเก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน ภายหลังจากเก็บเกี่ยวบนแปลง ถ้าเกิน 6 เดือน หัวหอมแดงจะฝ่อไม่อาจจะรับประทานและไม่สามารถนำไปเพาะปลูกได้
                ดังนี้หอมแดงสามารถผสมข้ามชนิดได้ กับหอมหัวใหญ่ ลูกผสมที่เกิดขึ้นมีลักษณะรูปร่างจัดเข้าอยู่ในกรุ๊ปของหอมหัวใหญ่ (A.cepa)  ส่วนชนิดหอมแดงที่นิยมนำมาปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 3  ชนิด ซึ่งลักษณะก็จะคล้ายกดกันมาก
ประเภทศรีสะเกษ เปลือกหัวนอกหนา มีสีม่วงแดง หัวมีลักษณะกลมป้อม มีกลิ่นแรง ให้รสหวาน ใบเขียวเข้มมรกต มีนวลจับนิดหน่อย
ประเภทบางช้าง มีลักษณะคล้ายกับประเภทศรีสะเกษ แต่สีเปลือกนอกจางกว่า หัวมีลักษณะกลมป้อม ใบสีเขียวเข้ม มีนวลจับน้อย เป็นชนิดที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าทุกพันธุ์
พันธุ์เชียงใหม่ มีเปลือกบาง สีส้มอ่อน หัวมีลักษณะกลมรี  กลิ่นไม่ฉุนราวกับพันธุ์อื่น ให้รสหวาน หัวจะแบ่งเป็นกลีบชัดแจ้ง ไม่มีเปลือก ใบสีเขียวมีนวลจับ
ส่วนประกอบทางเคมี   หัวหอมมีน้ำมันระเหยง่ายที่มีกำมะถัน diallyl disulphide เป็นส่วนประกอบร่วมกับสารอื่นๆอีกยกตัวอย่างเช่น Ethanol, Acetonc, methyl Ethyl, Methyl Disulfide, Methyl, Methyl Trisulfide, Methyl I-propyl Trisulfide, I-propyl Trisulfide, Ketone, I-propanol, 2 – propanol, Methanol, I-butanol, Hydrogen Sulfidc, I-propanethiol, I-propyl Disulfide , Thioalkanal-S-oxide, di-n- propyl Disulfide, n- propyl-allyl Disulfide,  Dithiocarbonate แล้วก็ Thiuram Sulfidc ,Linoleic , flavonoid Glycoside , pectin , alliin ส่วนสารที่กระตุ้นให้เกิดกลิ่นในหัวหอมมีอยู่ 3 ประเภท คือ dipropyl trisulfide, methylpropyl disulfide , methylpropyl disulfide และ methylpropyl trisulfide  ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของหอมแดงนั้นมีดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของหอมแดงดิบต่อ 100 กรัม

  • หอมแดงพลังงาน 72 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 16.8 กรัม
  • น้ำตาล 7.87 กรัม
  • เส้นใย 3.2 กรัม
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • โปรตีน 2.5 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.06 มก.
  • วิตามินบี 2 0.02 มก.
  • วิตามินบี 3 0.2 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 0.29 มก.
  • วิตามินบี 6 0.345 มก.
  • วิตามินบี 9 34 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 8 มิลลิกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 37 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 1.2 มก.
  • ธาตุแมกนีเซียม 21 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมงกานีส 0.292 มก.
  • ธาตุฟอสฟอรัส 60 มิลลิกรัม
  • ธาตุโพแทสเซียม 334 มิลลิกรัม
  • ธาตุสังกะสี 0.4 มิลลิกรัม


ผลดี/สรรพคุณ  สำหรับการใช้ประโยชน์จากหอมแดงนั้นส่วนมากกว่า 80% มักจะนิยมนำไปเข้าครัวทั้งอาหารคาว รวมทั้งอาหารหวาน รวมทั้งนำไปเป็นของเคียง ของอาหารต่างๆตัวอย่างเช่น ข้าวตรอก สเต๊ อื่นๆอีกมากมาย รวมทั้ง หัวหอม ใบและช่อดอกอ่อน รับประทานเป็นผักสดแล้วก็ปรุงเป็นของกิน หอมทั้งยังหัวแล้วก็ใบ ดอกเปรี้ยวรับประทานเป็นผักจิ้ม
ส่วนสำหรับเพื่อการใช้หัวหอมในด้านคุณประโยชน์รักษาโรคนั้นมีดังนี้ ตามคุณประโยชน์โบราณของไทยพูดว่า ใบมีรสเค็มหวาน เป็นมูก ใช้แก้หวัดแล้วก็เลือดกำเดาออก หัวหอมรสเผ็ดร้อน แก้ไข้มีเสลด ใช้ในจำนวนน้อย ดูแลผมให้งอกงาม ทำให้ผิวหนังสดชื่น แก้ไข้ เช็ดทาผิวหนังทำให้ร้อน ขับเสลด แก้โรคในปาก บำรุงธาตุ ใช้ข้างนอก
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์คุ้มครองป้องกันตับและก็ไต       การศึกษาความสามารถสำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องความทรุดโทรมของตับและก็ไตจากการติดเชื้อมาลาเรีย โดยจัดเตรียมสารสกัดหอมแดงอย่างหยาบด้วยน้ำ แล้วนำไปทดลองฤทธิ์ในหนูถีบจักร สายพันธุ์ ICR ที่ติดเชื้อโรคมาลาเรีย Plasmodium berghei  ANKA จำนวน 6x106เซลล์ ต่อตัวทดลอง โดยให้หนูทดลองได้รับสารสกัดทางหลอดของกินวันละครั้ง ตรงเวลา 4 วันต่อเนื่องกัน รวมทั้งกระทำการตรวจวัดค่าชี้ความเสื่อมโทรม ดังเช่นว่า ระดับเอนไซม์ตับ aspartate aminotransferase (AST), alanine aminotransferase (ALT) และตัวบ่งชี้หลักการทำงานของไต เช่น blood urea nitrogen (BUN) รวมทั้ง creatinine โดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูป ผลการทดสอบพบว่าความเข้มข้นสูงสุดของสารสกัดหอมแดงที่ไม่นำไปสู่ความเป็นพิษ คือ 3,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แล้วก็ตอนที่มีการติดโรคมาลาเรียนั้นจะพบความเสียหายของตับ รวมทั้งไตเกิดขึ้นในวันที่ 10 หลังจากติดเชื้อโดยมองได้จากระดับของ AST, ALT, BUN แล้วก็ creatinine ที่สูงที่สุด แต่สารสกัดหอมแดงที่ขนาด 3,000 มิลลิกรัมต่อกิโล สามารถปกป้องความทรุดโทรมของตับแล้วก็ไต จากการติดเชื้อไข้จับสั่นได้โดยดูจากตัวบ่งชี้ที่หรูหราปกติ จากผลวิจัยสามารถสรุปได้ว่าสารสกัดหอมแดงมีฤทธิ์ปกป้องความย่ำแย่ของตับแล้วก็ไตจากการต่อว่าดเชื้อไข้จับสั่นในตัวทดลองได้
ฤทธิ์ต้านทานอักเสบ       ทดสอบฤทธิ์ต้านทานการอักเสบของส่วนสกัดหัวหอมแดงในเอทานอลในหลอดทดลอง กระทำทดลองความมีชีวิตรอดของเซลล์ด้วยแนวทาง 3-4,5-dimethylthiazol-2-yl-2,5-dyphenyl tetra-zolium bromide (MTT) เรียนรู้ผลของส่วนสกัดต่อการแสดงออกของยีนที่เป็นสื่อกลางการอักเสบอย่างเช่น inducible nitric oxide synthase (iNOS), cyclooxygenase (COX)-2, COX-1, tumor necrosis factor (TNF)-α, interleukin (IL)-1β รวมทั้ง IL-6 ในเซลล์เพาะเลี้ยงมาวัวรฟาจ (RAW 264.7) ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยสาร Lipopolysaccharide (LPS) โดยวัดปริมาณยีนที่แสดงออกด้วยแนวทาง reverse transcription polymerase chain reaction (RT-PCR) พินิจพิจารณาหาจำนวนฟีนอลรวม และก็ฟลาโวนอยด์รวม ของส่วนสกัดโดยใช้ปฏิกิริยาการเกิดสีกับสาร Folin-Ciocalteu และสารอลูมิเนียมคลอไรด์ ตามลำดับ ผลการค้นคว้าพบว่าที่ความเข้มข้น 62.5, 125 รวมทั้ง 250 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ส่วนสกัดหอมแดงในเอทานอลไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ และมีฤทธิ์ยับยั้งการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวกับการอักเสบอาทิเช่น iNOS, TNF-α, IL-1β แล้วก็ IL-6 มากขึ้นตามความเข้มข้น ส่วนสกัดหอมแดงไม่เป็นผลต่อการแสดงออกของยีน COX-2 แต่ยับยั้งการแสดงออกของยีน COX-1 อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีปริมาณสารฟีนอลรวมคิดเป็น 15.964±0.122 สมมูลกับกรดแกลลิก/กรัม แล้วก็มีปริมาณสารฟลาโวนอยด์รวม 11.742 ±0.012 มิลลิกรัม สมมูลกับสารเคอร์สิทิน/กรัม
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การทดลองสารสกัดบิวทานอลจากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น หรือความเข้มข้นอื่นๆกับ Bacillus subtilis M-45 (Rec-) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์ รวมทั้งเมื่อเปลี่ยนมาใช้สารสกัดเอทานอล (95%) จากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น กับ B. subtilis H-17 (Rec+) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์ด้วยเหมือนกัน นอกจากนั้นการทดสอบน้ำสกัดหรือน้ำต้มหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น กับ B. subtilis M-45 (Rec-) และการทดลอง B. subtilis H-17 (Rec+) ด้วยน้ำสกัดหอมสด ก็พบว่าสารสกัดพวกนี้ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ แต่ถ้าหากใช้ส่วนสกัดจาก chromatography (undiluted) หรือการใช้ oleoresin จากหอม (undiluted) มาทดลองกับ Salmonella typhimurium TA100 ในจานเพาะเชื้อ พบว่ามีฤทธิ์ แต่ว่าเมื่อนำมาทดลองกับ S. typhimurium TA98 กลับไม่มีฤทธิ์ ใช้สารสกัดเมทานอลทดสอบกับ S. typhimurium TA98 พบว่าสารสกัดนี้มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แรง รวมทั้งเมื่อเล่าเรียนกลไกการเมตา-โบไลท์สารก่อกลายพันธุ์ของหอมในร่างกาย พบว่ากลูตาธัยโอน กลูคิวโรนายด์ ไดธัยโอธรีธอล สามารถลดฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมได้ แต่ว่าไวตามินซีไม่เป็นผลต่อฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมแต่อย่างใด มีการทดสอบฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของเครื่องเทศที่ใช้เตรียมน้ำพริกแกง ใน S. typhimurium พบว่าสารสกัดจากหอมมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ถึง 100% ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากสารสำคัญที่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ซึ่งมีอยู่แล้วตามธรรมชาติในหอม เมื่อกระทำการแยกรวมทั้งวิเคราะห์สารสำคัญนั้นพบว่า เป็นสารประเภท ฟลาโวนอยด์ เคอร์สิว่ากล่าวน (quercetin) ขึ้นรถสำคัญที่แยกบริสุทธิ์ได้ 1 ตัว พบว่าหมายถึงquercetin-4-0-glycoside สารนี้เป็นสารก่อกลายพันธุ์ฤทธิ์อ่อน ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของมันจะสูงมากขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยเอนไซม์ภายในร่างกาย เมื่อสลายสารนี้ด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี b-glucuronidase ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เจอที่ลำไส้ใหญ่ พบว่าฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้น
พิษต่อเซลล์ ทดสอบสารสกัดเมทานอลจากรากหอมสด ความเข้มข้น 200 มคกรัม/มล. กับ macrophage cell line raw 264.7 พบว่าสารสกัดนี้ไม่มีพิษต่อเซลล์ดังที่กล่าวมาข้างต้น
ข้อแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง

  • หนังสือเรียนยาไทยบอกว่า หัวหอม ไม่สมควรรับประทานมากเกินไป หรือกินเสมอๆ ด้วยเหตุว่าอาจก่อให้ประสาทเสีย ให้หลงๆลืมๆได้ง่าย ทำให้มีกลิ่นตัว ฟันเสีย เลือดน้อย รวมทั้งตาฝ้ามัวไม่แจ่มใส
  • สำหรับเพื่อการเลือกหอมแดงมาใช้ประโยชน์ควรที่จะทำการเลือกหอมแดงที่มีอายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 6 เดือน เพราะเหตุว่าหากเกิน 6 เดือนไปแล้ว จะได้หัวหอมที่ฝ่อ ไม่อาจจะใช้ประโยชน์ได้หรืออาจมีสารออกฤทธิ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
  • น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากหอมแดง มีรสเผ็ดร้อน ทำให้เคืองตา  แสบจมูก  รวมทั้งอาจทำให้ผิวหนังปวดแสบปวดร้อน
  • น้ำหอมแดงมีสารกำมะถันซึ่งทำให้แสบตา แสบจมูก และผิวหนังมีลักษณะอาการเคือง จึงไม่สมควรใช้ทาใกล้บริเวณผิวหนังที่บอบบาง
เอกสารอ้างอิง

  • วรวุฒิ สมศักดิ์, สุกัญญา ชาชิโย, สมเดช ศรีชัยรัตนกูล, ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์. ฤทธิ์ของสารสกัดหอมแดงต่อความเสียหายของตับและไตจากการติดเชื้อมาลาเรีย Plasmodium berghei ในหนูทดลอง. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6, วันที่ 26 มิถุนายน 2558 ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จ.สงขลา.
  • จิรวัฒน์ เวชแพศน์.2526 การศึกษาระยะปลูกของหอมแดง.ปัญหาพิเศษปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.
  • ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.หอมเล็ก.คอลัมน์ สมุนไพรน่ารู้. นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่27.กรกฎาคม 2524 http://www.disthai.com/
  • หอม.ฐานข้อมูลพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • อาทิตย ศุขเกษม. การเปรียบเทียบผลผลิตของหอมแดงที่ปลูกด้วยหัวพันธุ์และเมล็ดพันธุ์.ปัญหาพิเศษปริญญาตรี.ภาควิชาพืชสวนคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน.13 หน้า
  • Lorenz, O.A. and D.N. Maynard. 1980. Knott’s hand book for vegetable growers. John wily and Sons, Inc. New York. 390 p.
  • หอมแดง สรรพคุณและการปลูกหอมแดง.พืชเกษตรดอทคอม เว็บเพื่อพืชเกษตรไทย
  • พะยอม ตันดีวัฒน์.2530. เครื่องเทศ.119 หน้า.
  • หอมแดง.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • รัตนา พรหมพิชัย. (2542). หอมบั่ว. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ (เล่ม 14, หน้า 7530). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.
  • Werawattanachai N, Kaewamatawong R, Junlatat J, Sripanidkulchai B. Anti-Inflammatory potential of ethanolic bulb extract of Allium ascalonicum. Journal of Science & Technology, Ubon ratchathani University. 2015;17(2):63-68.
  • วิศิษย์ ว่องทิพยคงคา.2510. การเปรียบเทียบหาระยะปลูกที่เหมาะสม ของหอมต้นเพื่อเพิ่มผลผลิต ปัญหาพิเศษ ปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.


15

รางจืด
ชื่อสมุนไพร  ยาเขียว
ชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน กำลังช้างเผือก , ขอยชะนาง , รางเอ็น , เครือชาเขียว (ภาคกลาง) , รางจืด , เครือเข้าเย็น , หนามแน้ (ภาคเหนือ) , ดุเหว่า (ปัตตานี) , น้ำนอง (จังหวัดสระบุรี) , ทิดพุด (นครศรีธรรมราช) , คาย (ยะลา) , แอดแอ ,ย้ำแย้ (จังหวัดเพชรบูรณ์) จอลอดิเออ , กร่ำถะ ,พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ชื่อสามัญ  Blue trumphet vine , Laurel clockvine
ชื่อวิทยาศาสตร์  Thumbergia laurifolia Lindl
สกุล    Acanthaceae
ถิ่นเกิด รางจืดเป็นพืชเถาในเขตร้อนและเขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย ได้แก่ ประเทศแถบอินเดีย อินโดจีน ศรีลังกา พม่า ไทย มาเลเซีย อินโนดีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ รวมทั้งบริเวณกวางตุ้ง เมืองจีน แล้วก็ไตหวัน ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปตามป่าดงดิบหรือป่าดิบชื้นทั่วไป ในทุกภาคของประเทศ รวมทั้งเป็นพืชที่มักจะเติบโตได้เร็วมาก แต่ตอนนี้นิยมนำมาปลูกตามบ้านเรือนทั่วไป เพราะมีการศึกษาค้นคว้าออกมาว่าสามารถขจัด/ล้างสารพิษภายในร่างกายได้
ลักษณะทั่วไป
ต้นรางจืดเป็นไม้เถาสามารถเลื้อยไปตามพื้นดินหรือพาดพันขึ้นคลุมต้นไม้ใหญ่ๆได้ทั้งยังต้น เถามีลักษณะกลม ยกตัวอย่างเช่น ข้อปล้อง สีเขียว เป็นเงา เมื่อเถาแก่เป็นสีน้ำตาลเยอะขึ้น รวมทั้งยาวได้มากกว่า 10 เมตร ใบเป็นใบผู้เดียวสีเขียวเข้มออกเป็นคู่ตรงกันข้ามตรงข้อของลำต้น ใบมีลักษณะเหมือนใบย่านางรูปขอบขนานหรือรูปไข่ กว้าง 4-7 เซนติเมตร (เซนติเมตร) ยาว 8-15 ซม. ปลายเรียวแหลม โคนเว้าหรือหยักรูปหัวใจ ขอบของใบเรียบหรือหยักตื้น เส้นใบมี 5 เส้น ออกฐานใบเดียวกัน  ดอก ออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ช่อละ 3-4  ดอก กลีบแผ่ขยายออกเป็นรูปแตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก โคนดอกเป็นหลอดกรวยยาวราว 1 เซนติเมตร มักมีน้ำหวานบรรจุอยู่ในหลอด ดอกมีสีม่วงปนน้ำเงิน ผลเป็นรูปทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 1 เซนติเมตร เมื่อผลแห้งแล้ว จะแตก 2 ซีก จากจะงอยส่วนบน มักมีดอกในช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน-กุมพาพันธ์) ดอกที่โรยแล้วบางดอกบางทีอาจติดผล เมื่อแก่เปลือก ผลเป็นสีน้ำตาล แตกออกเป็น 2 ส่วน เม็ดมีสีน้ำตาลมีปุ่มเล็กๆคล้ายหนามอยู่บนเปลือกเม็ด แล้วก็สามารถนำไปเพาะเพาะพันธุ์ต่อไปได้
การขยายพันธุ์
รางจืดสามารถแพร่พันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดหรือปักชำ สำหรับการปักชำจะใช้กิ่งจำพวกที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี หรือกิ่งชนิดแก่ที่สีน้ำตาลอมเขียว ด้วยการตัดกิ่งยาว 20-30 ซม. โดยให้มีตากิ่งหรือข้อกิ่งติดมาอย่างต่ำ 1-2 ตา แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยนำปักชำในทรายหรือแกลบที่ไม่มีดินแล้วรดน้ำให้ชุ่มจนกระทั่งรากแตกออกแล้วจากนั้นจึงค่อยนำไปลงถุงเพาะชำเพื่อลงปลูกต่อไป หรือปักชำลงดินรอบๆที่ต้องการปลูก และรดน้ำบ่อย 1-2 ครั้ง/วัน กระทั่งกิ่งเริ่มแทงยอดอ่อน
ในการปลูกจากการเพาะเม็ดนั้น ถือเป็นวิธีซึ่งสามารถได้ต้นที่มีความสมบูรณ์ที่สุด เพราะจะได้ต้นซึ่งสามารถแตกกิ่งกิ่งก้านสาขาได้มาก กิ่งกิ่งก้านสาขายาวได้หลายเมตร และก็ลำต้นแก่เป็นเวลานานมากกว่าการปลูกจากต้นเพาะชำ
แต่ว่าการขยายพันธุ์ยาเขียวโดยมากมักจะนิยมใช้แนวทางการปักชำมากยิ่งกว่า เพราะว่าจังหวะสำหรับในการแตกออกมีมากกว่า และใช้เวลาน้อยกว่าการเพาะเมล็ด สำหรับวิธีการปลูกยาเขียวนั้นมีดังนี้  นำเอากิ่งที่ได้จากการปักชำ หรือต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเม็ด มาปลูกลงดินโดยให้ขุดหลุมปลูกมีความกว้างลึกราวๆ 1x1 ฟุต แล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักราว 1 ใน 4 ของหลุม กลบดินบางส่วน วางกิ่งปลูกหรือต้นกล้าลงกึ่งกลางหลุมแล้วกลบขอบดินให้แน่น รดน้ำตามให้เปียกแฉะ ควรปลูกขอบรั้วหรือกำแพงเพื่อให้เถารางจืดสามารถยึดเกาะแล้วก็เลื้อยพาดไปได้ หรือไม่ก็ทำค้างให้เถายาเขียวเกาะเลื้อย  ยาเขียวเป็นไม้ซึ่งสามารถรุ่งเรืองก้าวหน้าในดินเกือบทุกจำพวก และก็เป็นไม้ที่ต้องการแสงอาทิตย์ปานกลางหมายถึงไม่ได้อยากต้องการแสงแดดที่จัดมากจนเกินไป และมีความต้องการน้ำปานกลาง ในระยะแรกปลูกจะต้องรดน้ำให้ดินมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อต้นโตแล้วให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ในเช้าตรู่ ส่วนการให้ปุ๋ยนั้นใช้ปุ๋ยธรรมชาติหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ใส่รอบๆโคนต้นปีละ 2 ครั้ง โดยการพรวนดินโคนต้นให้ร่วนเสียก่อนก็เลยใส่ปุ๋ย แล้วรดน้ำตาม
การเก็บใบรางจืด  สำหรับใบรางจืดที่จะเก็บมาใช้ทางยา ควรเก็บจากต้นที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป และก็ให้ทยอยเก็บจากใบด้านล่างบริเวณโคนกิ่งก่อน และค่อยเก็บไปจนกระทั่งกลางกิ่ง ไม่สมควรเก็บให้ถึงบริเวณปลายกิ่งหลังจากเก็บมาแล้ว ถ้าไม่ใช้ทันที ให้นำใบมาล้างน้ำให้สะอาด ก่อนนำไปผึ่งแดด 5-7 แดด เมื่อแห้งแล้วให้เก็บใสถุงหรือกล่องไว้ ระวังไม่ให้โดนน้ำ เนื่องจากว่าอาจเกิดเชื้อราได้
ส่วนประกอบทางเคมี ฟลาโวนอยด์, ฟีนอลิก, apigenin, cosmosin, delphinidin-3,5-di-O-beta-D-glucoside, chlorogenic acid, caffeic acid, lutein – Chlorophyll a Chlorophyll b  Pheophorbide a  Pheophytin a
ประโยชน์ / คุณประโยชน์
                รางจืดจัดเป็นยารสเย็นใช้ปรุงเป็นยาเขียวลดไข้ ทำลายพิษผิดสำแดง และก็พิษอื่นๆใช้แก้ร้อนใน กระหายน้ำ รักษาโรคหอบหืดเรื้อรัง แล้วก็แก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆใช้แก้พิษเบื่อเมาเหตุเพราะเห็ดพิษ สารหนู หรือยาฆ่าแมลง
                ตำรายาไทย: ใบ ราก รวมทั้งเถา รสจืดเย็น ตำคั้น หรือเอารากฝนกับน้ำ หรือต้มเอาน้ำยาดื่มถอนพิษ แก้ไข้ ทำลายพิษยาเบื่อเมา แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้รอบเดือนเปลี่ยนไปจากปกติ แก้ปวดหู ตำพอก แก้ปวดบวม เถาและก็ใบ รับประทานแก้ร้อนในหิวน้ำ แก้พิษร้อนต่างๆราก รสจืดเย็น แก้อักเสบ แก้ปวดบวม แก้เมาค้าง แก้อาการปวดหัวมึนหัวสาเหตุจากพิษเหล้า ทำลายพิษสุรา พิษหลงเหลือภายในร่างกาย ใช้รากเข้ายารักษาโรคอักเสบและก็ปอดบวม รากแล้วก็เถา ใช้รับประทานเป็นยารักษาอาการร้อนในอยากดื่มน้ำ รักษาพิษร้อนทั้งหมด ต้น รสจืดเย็น ถอนพิษยาเบื่อเมา หรือใช้ปรุงเป็นยาเขียว ถอนพิษไข้ ทำลายพิษผิดสำแดง พิษเบื่อเมาเพราะว่าเห็ดพิษ สารหนู หรือยากำจัดแมลง และพิษทั้งสิ้น  รักษาหอบหืดเรื้อรัง แก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆปรุงยาแก้มะเร็ง หมอยาแผนไทยใช้เพื่อช่วยจับพิษในตับหรือล้างพิษในตับ
           สมุนไพรพื้นเมืองล้านนา: ใช้ ใบและก็ราก ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟลุก ทำลายพิษสารกำจัดศัตรูพืช พิษจากสตริกนินให้เป็นกลาง พิษจากดื่มเหล้ามากเกินไป หรือยาเบื่อชนิดต่างๆ(บอกว่ารากยาเขียวมีตัวยามากกว่าใบ 4-7 เท่า))
           ตำราเรียนยาท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา: ใช้ ใบ แก้โรคเบาหวาน
           ประเทศมาเลเซีย: ใช้ใบแก้ระดูผิดปกติ แก้ปวดบวม
                ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันได้มีการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของยาเขียวมานานแล้ว ซึ่งส่งผลการศึกษาเรียนรู้วิจัย ดังต่อไปนี้

  • พุทธศักราช 2521 นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มัธยมมหิดล เป็นกรุ๊ปแรกที่ทดสอบป้อนผงรากรางจืดให้ตัวทดลองก่อนให้น้ำยาสตริกนินแม้กระนั้นพบว่าไม่ได้เรื่อง หนูชักรวมทั้งตาย แต่ว่าถ้าผสมกับน้ำยาสตริกนินก่อนป้อน พบว่าหนูทดลองไม่เป็นอะไร แปลว่าผงรากรางจืดสามารถซึมซับสารพิษชนิดนี้ไว้
  • พุทธศักราช 2523 คุณครูพระสรัสวดี เตชะเสนรวมทั้งภาควิชา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใช้น้ำคั้นใบรางจืดป้อนตัวทดลองที่กินสารกำจัดศัตรูพืช“โฟลิดอล”พบว่าแก้พิษได้ ลดอัตราการตายลงจาก 56% เหลือเพียงแค่ 5% เท่านั้น ในตอนที่กรรมวิธีฉีดกลับไม่ได้เรื่อง
  • พุทธศักราช 2551 สุชาสินี คงกระพันธ์ ใช้สารสกัดแห้งใบยาเขียวป้อนตัวทดลองที่ได้รับยาฆ่าแมลงกรุ๊ปออร์แกนโนฟอสเฟตชื่อมาราไธออนพบว่าช่วยได้ 30%
  • พ.ศ. 2553 จิตบรรจง ตั้งปอง มหาวิทยาลัยวงกลมลักษณ์ พบว่าสารประกอบในใบรางจืดช่วยคุ้มครองป้องกันการถึงแก่กรรมของเซลล์ประสาทของหนูทดลองที่ได้รับพิษจากสารตะกั่ว ก็เลยสามารถคุ้มครองป้องกันสูญเสียการเรียนและก็ความจำได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง


มีการวิจัยเรื่องใบยาเขียวสามารถคุ้มครองปกป้องตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่กำจัดสารพิษภายในร่างกาย ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยรักษาชีวิตของคนที่ได้รับสารพิษ พุทธศักราช 2543 รายงานวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่าสารสกัดแห้งของน้ำใบรางจืดน่าจะส่งผลลดความเป็นพิษของตับจากแอลกอฮอล์ได้ พ.ศ. 2548 พรเพ็ญ เปรมโยธิน จุฬาลงมือณ์มหาวิทยาลัย รายงานผลว่าสารสกัดน้ำยาเขียวแสดงฤทธิ์ดังที่กล่าวมาแล้ว อีกทั้งในหลอดทดลองแล้วก็ในหนูทดลอง  แล้วยังพบว่า สารสกัดน้ำใบรางจืดมีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระด้วย
นอกเหนือจากนี้ยังมีการใช้ประโยชน์จากยาเขียวอีกดังเช่น ยอดอ่อน ดอกอ่อนสามารถใช้กินเป็นผักได้ โดยจะใช้ลวก แกงกิน ก็ทำเป็นอย่างกับผักพื้นเมืองทั่วๆไป นอกเหนือจากนี้เด็กๆตามชนบทยังนิยมดื่มน้ำหวานจากดอกรางจืดที่บ้านได้อีกด้วย โดยไม่ทำให้เป็นอันตรายใดๆก็ตามแม้กระนั้นแต่ การกินยาเขียวในจำนวนต่อเนื่องกันอย่างสม่ำเสมอ อาจจะจะต้องรอติดตามความเคลื่อนไหวของโลหิตวิทยาหรือเคมีคลินิกที่บางทีอาจเกิดขึ้นถัดไปด้วย
ชารางจืด ใบรางจืดสามารถนำมาหั่นเป็นฝอย ตากลมให้แห้งแล้วเอามาชงกับน้ำร้อนดื่มแทนชาได้ และก็ยังมีกลิ่นหอมหวนรวมทั้งยังช่วยล้างพิษภายในร่างกายได้อีกด้วย  ในปัจจุบันได้มีการนำสมุนไพรยาเขียวมาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ แคปซูลยาเขียวหรือรางจืดแคปซูล เพื่อความสบายรวมทั้งไม่ยุ่งยากต่อการใช้ประโยชน์  ดอกรางจืด เอามาบดอย่างรอบคอบผสมกับน้ำ แล้วกรองแยกกาก ก่อนนำน้ำที่ได้ใช้ทำขนมหวาน ใช้หุงข้าว หรือใช้ทำสีผสมอาหารอื่นๆซึ่งจะให้สีม่วงอ่อนหรือสีคราม หรือสีอื่นตามชนิดสีของดอก
คนโบราณมีความเห็นว่า การกินน้ำต้มจากรางจืดสามารถช่วยแก้คุณไสย ยาสั่งหรือมนต์ดำที่ผู้อื่นทำแก่ตนได้  ใบรางจืดตากแห้งแล้ว นำมาบดอย่างรอบคอบ ใช้ผสมในอาหารสัตว์ อาทิ ของกินหมู อาหารไก่ เป็นต้น ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต่อโรค แล้วก็ช่วยรักษาให้สัตว์มีอัตราการรอคอยดสูงมากขึ้นภายหลังที่ได้รับเชื้อโรค

แบบอย่าง/ขนาดการใช้ สำหรับเพื่อการรักษาพิษ ใช้ใบสด 10 -12 ใบ เอามาตำกระทั่งละเอียดผสมกับน้ำแช่ข้าวราวครึ่งแก้ว ส่วนการใช้คุณประโยชน์จากรากยาเขียวสำหรับเพื่อการรักษาพิษ ใช้ราก 1-20 องคุลี ให้นำมาฝนหรือนำมาตำกับน้ำซาวข้าว แล้วเอามาดื่มให้หมดเมื่อมีลักษณะ แล้วก็อาจจะต้องใช้ซ้ำอีกภายในครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงเหมือนกันกับการใช้ใบยาเขียว  หรือใช้ใบรางจืดทำเป็นชาแล้วกินครั้งละ 2-3 กรัม โดยชงกันน้ำร้อน 100-200 ซีซี วันละ 3 ครั้งที่แล้วของกินหรือเมื่อมีลักษณะอาการ รักษาโรคเบาหวาน ให้ใช้ใบยาเขียวราว 58 ใบ มาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำซาวข้าวกินครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา แก้อาการแพ้ ผื่นคัน ลดการเกิดโรคผิวหนัง โดยใช้ใบหรือเถาสด 10-15 ใบหรือเถาปริมาณยาว 10 ซม. ต้มในน้ำราว 10 ลิตร อาบทุกวี่วัน ราวๆ 5-7 วัน  แก้เมื่อย โดยนำใบ 10-20 ใบ หรือ ใช้เถาตัดเป็นชิ้นๆยาว 1-2 นิ้ว ก่อนนำไปแช่เหล้าดื่มทุกส่วนนำมาตำหรือบดผสมน้ำ ใช้สำหรับพอกแผล ยับยั้งอาการปวด ลดอาการบวม แล้วก็กำจัดพิษจากสัตว์ต่อย เช่น งูกัด แมงป่อง ตะขาบ แมงดาทะเล           ทุกส่วนออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและรักษาแผล อาทิเช่น รักษาไวรัสเริม ด้วยการบดผสมน้ำบางส่วน ก่อนนำไปประคบบริเวณรอยแผลเริม  ทุกส่วนเอามาบดผสมน้ำนิดหน่อย ก่อนเอามาประคบหรือทาแผลสด แผลเป็นหนอง ซึ่งจะช่วยทำให้แผลแห้งเร็ว ลดการตำหนิดเชื้อ ลดอาการบวมของแผล  ทุกส่วนนำมาต้มน้ำหรือคั้นน้ำดื่มสำหรับใช้เป็นยาแก้ร้อนใน และก็ช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ  น้ำต้มจากทุกส่วน เอามาดื่มอุ่นๆสำหรับรักษา รวมทั้งบรรเทาอาการท้องเดินหรือของกินเป็นพิษ
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา  มีรายงานศึกษาค้นคว้าในสัตว์ทดสอบพบว่า สารสกัดน้ำจากใบยาเขียว ขนาด 2 และ 3 ซีซี/น้ำหนักตัว 100 กรัม แล้วก็ขนาด 3.5 ก./กิโลกรัม ส่งผลลดพิษจากสารกำจัดแมลงในกรุ๊ปออร์กาโนฟอสเฟตในหนูได้ โดยทำให้อัตราการตายต่ำลง  รวมทั้งยังมีมีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยทางสถานพยาบาลที่เกี่ยวพันกับการขับยากำจัดศัตรูพืชออกจากร่างกาย พบว่ารางจืดจะทำลายพิษเจริญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษที่เกิดขึ้นจากสารกำจัดศัตรูพืช ”โฟลิดอล” และพิษออกฤทธิ์เกี่ยวข้องกับหลักการทำงานของ Cholinergic system โดยการเรียนรู้ในเกษตรกรกรุ๊ปเสี่ยงและตรวจพบระดับสารฆ่าแมลงในร่างกาย ปริมาณ 49 คน พบว่าเมื่อให้อาสาสมัครกินชารางจืดขนาด 8 กรัม/วันหรือยาหลอก นาน 21 วัน พบว่าขนาดยาฆ่าแมลงในเลือดของสมัครใจมัครที่ได้รับรางจืดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 7, 14 แล้วก็ 21 ของการทดสอบ และก็จากการเรียนของดวงรัตน์รวมทั้งแผนก พบว่าโดยยาเขียวมีผลเพิ่มปริมาณ Cholinesterase ในเลือดของเกษตรกรที่ได้รับสารกำจัดแมลง
สาขาวิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิยาลัยศรีนครินทรพิโรฒ จึงได้เรียนรู้ฤทธิ์ของสารสกัดรางจืดต่อเซลล์สมอง พบว่ายาเขียวมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทคล้ายกับสิ่งเสพติดแอมเฟทามีน รวมทั้งโคเคน โดยทั่วไปเพิ่มการหลั่งโดพามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่หลั่งมากมายในขณะที่ผู้เจ็บป่วยได้รับสารแอมเฟทามีน รวมทั้งไปเพิ่ม activity ของเซลล์ประสาทในสมองส่วน nucleus accumbens , globus pallidus,amygdala,frontal cortex ,caudate putamen and hippocampus ที่เกี่ยวข้องกับ  reward and locomotor behaviour ทำให้คาดว่าในผู้ป่วย ที่เข้ารับการดูแลและรักษา/บรรเทาสิ่งเสพติด ที่ได้รับการดูแลรักษาด้วยสารสกัดรางจืด อาจเกิดความพิงพึงพอใจเช่นเดียวกับการรับสิ่งเสพติด หากใช้ประโยชน์สำหรับเพื่อการรักษาคนไข้จะทำให้คนเจ็บไม่ต้องทุรนทรายมากมาย ก็เลยบางทีอาจเป็นสาเหตุหนึ่งครั้งการดูแลรักษาด้วยสารสกัดสมุนไพรเห็นผล
แผนกเภสัชศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ของรางจืดสำหรับเพื่อการต่อต้านพิษแอลกอฮอล์ต่อตับ พบว่าสารสกัดด้วยน้ำของยาเขียวช่วย คุ้มครองการถึงแก่กรรมของเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ ทั้งในหลอดทดสอบและก็ในหนูแรตทีได้รับแอลกอฮอล์ โดยการทำให้ค่า AST,ALT ในพลาสม่าและสามกลีเซอร์ไรด์ในตับต่ำลง แล้วก็ลดความเคลื่อนไหวสภาพทางจุลพยาธิวิทยาของตับเมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับเเอลกอฮอล์อย่างเดียว
                เพราะว่าสารสกัดด้วยน้ำของยาเขียวช่วยลดการเกิด heppatic lipid peroxidation ลดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด และก็เพิ่มระดับเอนไซม์ alcohol dehydrogenase แล้วก็ aldehyde dehydrogenase
ส่วนมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์ของยาเขียวต่ออาการขาดสุรา พบว่าสารสกัดยาเขียวให้ผลลดภาวะไม่มีชีวิตชีวาแล้วก็ทำให้พฤติกรรมที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของหนูเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ แต่ว่าไม่มีผลลดความรู้สึกหนักใจ ขึ้นรถสกัดราถงจืดชืดช่วยลดการเช็ดกทำลายเซลล์ประสาทของหนูเพราะว่าขาดเหล้าในสมองส่วน messolimbic dopaminergic system โดยยิ่งไปกว่านั้นที่บริเวณ  nucleus accumbens รวมทั้ง ventral tegmental area
ในหนูโรคเบาหวานที่ได้รับน้ำต้มใบรางจืดทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนน้ำคั้นใบยาเขียวสดในขนาด ๕๐ มิลลิกรัม/มล.ที่ให้หนูโรคเบาหวานดื่มแทนน้ำนาน ๑๒ วัน ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีการทดสอบพบว่าการให้สารสกัดด้วยน้ำของใบรางจืดมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด และทำให้บีต้าเซลล์ของตับอ่อนฟื้นฟูขึ้นบ้างแม้จะไม่สมบูรณ์ ในเรื่องของฤทธิ์ลดความดันนั้นพบว่าสกัดด้วยน้ำของใบรางจืดแห้งมีผลทำให้ความดันเลือดของหนูแรตลดลง โดยกลไกการออกฤทธิ์ส่วนใดส่วนหนึ่งบางทีอาจผ่าน Cholinergic receptor รวมทั้งทำให้หลอดเลือดแดงคลายตัว
การใช้สมุนไพรในคนเจ็บโรคเบาหวานรวมทั้งความดันนี้พึงรำลึกว่าต้องมีการดูแลและรักษาร่วมไปกับแผนปัจจุบันและก็มีการวัดระดับน้ำตาลและก็ระดับความดันอย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุว่าการศึกษาเล่าเรียนยังอยู่ในขั้นตอนของสัตว์ทดสอบเพียงแค่นั้น รวมทั้งต้องระมัดระวังการเกิดการเสริมฤทธิ์กันของตัวยาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
มีการค้นคว้าทำการวิจัยว่ารางจืดมีฤทธิ์ต่อต้านการอับเสบสูงขึ้นยิ่งกว่ามังคุดราวๆ 2 เท่า(ทดสอบด้วยวิธี Carrageenan induced paw edema) ในหนูถีบจักรและก็ยังมีความปลอดภัยสูงขึ้นมากยิ่งกว่าอีกด้วย นอกเหนือจากนั้นยังพบว่า สารสกัดยาเขียวในรูปแบบของครีมสามารถลดการอักเสบได้ดิบได้ดีเท่ากับสตีรอยด์ครีม
ฤทธิ์สำหรับการต้านทานโรคมะเร็ง มีการเล่าเรียนฤทธิ์ต้านการก่อกลายประเภท กล่าวคือสารใดๆก็ตามมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์มีสมรรถนะสูงสามารถก่อโรคมะเร็งได้ แต่ว่ารางจืดมีฤทธิ์ต้านทานไม่ให้สารนั้นออกฤทธิ์ มีการเรียนโดยให้หนูกินสารสกัดของกวาวเครือซึ่งกวาวเครือจะไปมีฤทธิ์กระตุ้นการแบ่งตัวและการสร้างนิวเคลียสของเม็ดเลือดแดง พูดอีกนัยหนึ่งนิวเคลียสของเม็ดเลือดแดงจะเป็นก้อน ใหญ่ขึ้น แล้วก็มีการแบ่งตัว โน่นคือกวาวเครือไปทำให้การเกิด micronuclei ของเม็ดเลือดแดงเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ แต่ว่าถ้าหากให้สัตว์ทดสอบกินยาเขียวร่วมด้วย พบว่าสามารถลดการเกิด micronuclei ได้ ซึ่งทั้งยาเขียวแบบสดและก็แบบแห้งสามารถใช้ได้ผลด้วยเหมือนกัน นับเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งของรางจืด
โดยพบว่าสารออกฤทธิ์อาจเป็นกรดฟีนอลิก เช่น caffeic acid และ apigenin และสารกลุ่มคลอโรฟิลล์ อาทิเช่น chlorophyll a, chlorophyll b, pheophorbide a และก็ pheophytin a ซึ่งสารกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงมากมาย
สารสกัดน้ำ เอทานอล รวมทั้งอะสิโทน มีฤทธิ์ต้านทานการก่อกลายจำพวก โดยยั้งการเกิดมะเร็ง เพราะเหตุว่าสาร 2-aminoanthracene ได้จำนวนร้อยละ 87 เมื่อวิเคราะห์ด้วยแบคทีเรีย Salmonella typhimurium TA 98 แล้วก็สามารถเพิ่มการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีควิโนนรีดักเทส ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ใช้สำหรับในการกำจัดเซลล์ของมะเร็งระยะเริ่มต้น ได้ตั้งแต่ 1.35-2.8 เท่า ทั้งยังมีรายงานการดูแลและรักษาคนป่วยพิษแมงดาทะเล ตอนวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ 2522 โดยมีกล่าวว่ามี  คนไข้ 4 ราย รับประทานยำไข่แมงดาทะเล อาการขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ ทุกรายมีลักษณะชารอบปาก รวมทั้งอ้วกคลื่นไส้ อาการชาจะลามไปกล้ามเนื้อมัดต่างๆที่ก่อให้เกิดอันตรายคือทำให้หายใจไม่ได้ ผู้ป่วย 2 รายสลบ จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ระยะที่เริ่มออกอาการตั้งแต่ 40 นาที จนถึง 4 ชั่วโมง หลังรับประทาน เนื่องมาจากพิษของแมงดาทะเล คือเทโทรโดทอกซิน (Tetrodotoxin) ไม่มียาแก้พิษจำเป็นต้องรักษาตามอาการ หลังจากได้น้ำสมุนไพรยาเขียว 50 มล. ทางหลอดสวนจมูก-กระเพาะอาหาร ผู้เจ็บป่วยเริ่มรู้ตัว รวมทั้งอาการตามลำดับ หลังจากได้รับน้ำสมุนไพร 40 นาที ผู้เจ็บป่วยอีกรายได้รับการกรอกน้ำยาเขียวเช่นกัน ในขนาด 50 มล. ทุก 1 ชั่วโมง 5 ครั้ง ภายหลังจากได้รับน้ำสมุนไพร 5 ชั่วโมง ผู้เจ็บป่วยเริ่มรู้ตัว และก็อาการตามลำดับ
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษกระทันหันที่ป้อนตัวทดลองครั้งเดียว ทั้งขนาดปกติและขนาดสูง ไม่พบความไม่ปกติใดๆแล้วก็ป้อนต่อเนื่องกัน 28 วัน ขนาด 500 มก.ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ไม่พบอาการไม่ปกติเหมือนกัน แต่อาจทำให้น้ำหนัก ตับ ไต สูงกว่ากรุ๊ปควบคุม  ค่าวิชาชีวเคมีที่เกี่ยวกับไตสูงมากขึ้น และก็ AST สูงมากขึ้น
          การเรียนพิษเรื้อรังของสารสกัดน้ำจากใบ โดยป้อนหนูแรทขนาด 20  200  1,000  2,000 มิลลิกรัม/กก./วัน หรือคิดเป็น 1, 10, 50 แล้วก็ 100 เท่า ของขนาดที่ใช้ในคนเป็นเวลา 6 เดือน พบว่าไม่เป็นผลต่อน้ำหนักตัว การกินอาหาร ความประพฤติปฏิบัติ รวมทั้งสุขภาพทั่วไปของหนู อวัยวะภายในระดับมหพยาธิวิทยาและจุลพยาธิยังคงปกติ และไม่ทำให้เกิดพิษสะสม ไม่ทำให้หนูตาย
มีการเล่าเรียนความเป็นพิษของยาเขียวต่อการกลายพันธุ์ของแบคทีเรีย พบว่า สารสกัดจากรางจืดไม่เป็นผลทำให้แบคทีเรียกลายพันธุ์แต่อย่างใด อีกทั้งยังพบว่า สารสกัดจากยาเขียวสามารถต่อต้านการกลายพันธุ์ได้ด้วย
คำแนะนำ/ข้อควรคำนึงมี

  • การเรียนระบุว่า รากของยาเขียวนั้นจะมีสรรพคุณ ทางยามากกว่าที่ใบถึง 4-7 เท่า
  • ควรที่จะใช้ให้ละเอียดและไม่ควรใช้ชิดกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกิน 30 วัน
  • พึงระวังในการใช้ในคนป่วยโรคเบาหวาน เพราะว่าอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ไม่ควรใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเนื่องมาจากบางทีอาจขับสารเคมี หรือตัวยาในร่างกายออก โดยยิ่งไปกว่านั้นคนป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยารักษาอย่างต่อเนื่อง
  • รางจืดบางทีอาจได้ผลใกล้กัน สำหรับผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคอาการหอบหืดได้โดยเมื่อกำเนิดอาการแพ้ยาเขียวก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีผลต่อระบบทางเท้าหายใจได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีระดับอาการแพ้มากน้อยแค่ไหน หากมีลักษณะแพ้ไม่มากก็บางครั้งก็อาจจะเป็นเพียงแค่ผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง
เอกสารอ้างอิง

  • ปัญญา อิทธิธรรม และคณะ 1999 การใช้สมุนไพรรางจืดขับสารฆ่าแมลงในร่างกายของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
  • วิสาตรี คงเจริญสุนทร และปิยรัตน์ พิมพ์ สวัสดิ์,2552. ฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบฉวยโอกาสบางสายพันธุ์ของสารสกัดเมทานอลจากรางจืด. วารสารวิทยาศาสตร์บูรพา.
  • ภกญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร.รางจืดราชาของยาแก้พิษ.คอลัมน์.เรื่องเด่นจากปก.นิตยสารหมอชาวบ้านเล่มที่385.มกราคม.2554
  • รางจืด.ฐานข้อมูลเครื่องยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • รศ.พร้อมจิต ศรลัมพ์.รางจืด สมุนไพรแก้พิษและล้างพิษ.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล. http://www.disthai.com/
  • รางจืดสมุนไพรล้างพิษ.คู่มือสมุนไพรล้างพิษสำหรับประชาชน.สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข.สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.พิมพ์ครั้งที่2.มีนาคม 2554.20หน้า
  • รางจืดสรรพคุณรางจืด สมุนไพรลดและกำจัดสารพิษ.พืชเกษตรดอทคอมเว็บเพื่อพืชเกษตรไทย
  • Toxicity รางจืดและข่อยดำ.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ดวงรัตน์ เชี่ยวชาญวิทย์,กำไร กฤตศิลป์,เชิดพงษ์ น้อยภู่, 2545. การใช้สมุนไพรรางจืดเพิ่มปริมาณเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสในซีรั่มของเกษตรกรที่พบพิษสารกำจัดศัตรูพืชในร่างกาย)
  • ข้อมูลสรรพคุณของรางจืดในการข้อยาฆ่าแมลงออกจากร่างกายเกษตรกร.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • กนกวรรณ สุขมาก;นงนุช คุ้มทอง;สมยศ เหลืองศรีสกุล;อภันตรี โอชะกุล เตือนใจ ทองสุข , 2547 .การศึกษาประสิทธิผลของสมุนไพรรางจืดในการป้องกันการสะสมของส

หน้า: [1] 2 3 ... 8