รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Topics - jacl598845

หน้า: [1]
1
อื่น ๆ / ข่า ประยงค์ที่เจอในประเทศไทย
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2018, 05:30:22 PM »

ข่า ประยงค์ที่พบในประเทศไทย 3 ประเภท1. ประยงค์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Alglaia chaudocensis pierre.2. ปyukะยงค์บ้าน ชื่อวิทยาศาสตร์ Alglaia odorata lour.3. ประยงค์ป่า ชื่อวิทยาศาสตร์ Alglaia odoratissima blume.ลักษณะทางวิชาyukuykพฤกษศyuykykyาสukyuตร์ลำต้นประยงค์ เkytkป็นไม้thrttrhyยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นแตกกิ่งมากข่า แukyukล้วก็มีใyukบดกyukuทำให้เป็นทรงikพุ่มykหนาทึบ ทรงพุ่มไม้ค่อนyukyukเป็นวงกลngm ลำต้นสูงyuโดhj,ยประมาณ 3-6 เมตร และอาจพบสูsdgvdsvงได้มากกrthานี้ ลำต้นมีกิ่งแตกออกที่ระดับต่ำโดnยfgประมาณ 1 เมตร ซึ่งเป็นส่วtynองแกนลำyukต้น tyที่เหลือkyuเป็นkyuกิ่งfgnbหgfnลัก ผิวลำtyktyต้นไม่ค่อtykยเรียบ มักtykเป็นคลื่น เปลืnghmgอกลำต้นdfมีสีเmhjmทา ส่วนแก่นไม้hj,ของต้น รวมทั้งกิ่ง jk,jkเป็นไม้เนื้ออ่อน เปdegrthrtjราะหักง่าย ไม่นิยมใช้ในกjtyารก่อสร้างหรือกาyukkแปรูปต่างๆแต่ว่าใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ต้นประยงค์ใบใบประยงfgnค์ เป็นใบประกอบ yukแตกออกตามปลายกิ่ง มีก้านใบหลักที่มีลักษณะทรงกลมคล้ายluiกิ่ง แyuyukตกออกเรียงสลับกันถี่บนyuกิ่ง โดยแต่ละก้านใบจyuะประกอบด้วยใบราว 3-5 ใบ แต่ละใบมีลักษณะรูปไแหลม fgnคือ โคนใบสอgfnfgnบแหลม และก็ยาว ส่วนปลuilายใบกว้างมน ส่วนyukแผ่นใบ แjyukyuล้วก็ขอบของใบข่าiuเรียบ แผ่นใบมีสีเขียวสด อีกทั้งข้างล่าง yukรวมทั้kyukงdfด้านบน ส่วนขนาดใบแnbfgnบ่งได้fgnnตามจำluiพวกชนิดyuk อย่างเช่น– ประเภทประเภทhtyใบใหญ่ กmว้าง 1.5-3.5 เซนติlerเมตรgerh ใerhยาgh 5-12 ซม.– จำพวกพันธุ์ใบใหญ่ กว้าง 0.5-2 yukซม. ใบยาว 2.5-5.5 เซนติเมตรดอกดอกประยuyงค์ แทงออกเป็นhgmกระจุกmกลุ่มช่อบริเวณปลายกิ่ง แม้กระนั้นernghปลายละกิ่งyukะมีก้านช่อดอerhก 1-10erh ช่อ แต่ละช่อยาวราวข่า 5-10 เซนติเมตร แล้วก็มีดอกราว 10-20 ดอก ดอกข่ามีก้านดอกสั้นๆสีเหลืองอมเขียว ปลายสุดเป็นตัวดอกที่มีลักษณะทรงกลม สีเหลือjtyงสด เหมือนไข่ปลา ประกอบด้วยกลีบดอกไม้สีเหลืองโค้งห่jtyอรังtyjไข่ แล้วก็เชื่อมติดกันเป็นพู yukจำนวน 5 กyukลีบ โดยตรงkyuกึ่งกลางเป็นส่วนของเกสรytjตัวผู้ 5 อัน แล้วก็รังtyjไข่ ส่วนขนาดดอกจะแบ่งออกตามประเภท

Tags : ข่า

2

ราชพฤกษ์ สมุนไพรผักข้าด มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า ผักกูดขาว (จังหวัดชลบุรี), หัสดำ (นครราชสีมา, สุราษฎร์ธานี), เราดน้ำ (แม่ฮ่องสอน), rtjไก้กวิลุ ปู่yukyแปlkuilลเด๊าะ (กะเหรี่iortjyjtj;ยง-แม่ัฮ่องp'op'สอน), แลโพopp[โด้ ล่ะโพะโด้ะyl erhrtjhryราชพฤกษ์(กะเหรี่ยงเชียงใuilio;หjtyม่),ty แทรอคjtyjอยแปล๊ะ (กะเหรี่io;ยงแดง), หย่ายจ๊วด (เมี่ยนjykuytku), สุราชั้ว (ม้ง),ehyt บ่ะฉ้อน (ลั้วะ), ร่านt5jtjtyjytyjtyjukซู้wqfล io;ขมุ), tyjเราดคึ (ภาคเหtyนืjอjtyj), ผักtyฉันดtj (ภาคกลtyาง), ข้าดioกิน oi;เป็นต้น;jtyukerjtjyjรู้จักกัyukบผักเtryukราด ! :io ผักเร;ioykuyk;าดหรือกูดกิน คioio;วามจริงแio;ล้วผักฉัyukนดjไม่ได้เป็kyiklyu;ioio;ierhtyyio;o;นผักrtj แต่io;เป็นi;ชที่เป็นเulio;io;ฟิร์นประเภทหนึ่งซึ่งสามารถio;เอio;ามาio;รับประทานเป็นผักได้i;oi;io; เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นio;เหง้าแบบio;kylyukykyตั้งตรง ต้นเมื่อแก่น้io;อย;io;มักจะเป็นใบป;i'rtj;iระกอบแบบข'oopนนกชั้oppนtrjเดียว เมื่ออายุมากop'ขึ้นจะพบว่าเio;io;ป็นใบประกอบแบบสrtjองชั้io;นi; โดยส่วนที่เykyukyukอามาปรุงเป็น{อาหyukukาร|ของกินyukก็คือส่วนขyukio;อoi;ง ฟรอoiนด์ (Frond)io; หรือก้านใบใหม่ที่โ'ผล่ขึ้นมาจากลำต้นopนปลuiายม้วนopyukkuงอ แล้ytวjyก็ส่วนrtjปลาjtrยนี้แหละจrtjะค่อยๆrtjykปรัkyบปรุงไปเป็นzsrhtrใบอ่อนyjryukแล้วก็ใบแก่ตามลำดับehป็นrtjลำดับ แต่kyuจะนิtyjยมกินฟรอนด์อ่อนๆซะytyukyukมjtากกว่านอกเหนือจากoi;ioyu;นี้ผักฉันtjดยังมีอยู่ร่วมกัukyนอีกหลาtyyukหลายประเภท ก้าuilวหน้าบริเวiulที่เฉอะแฉะ มีความชื้นสูง เติบโตyulkในช่วงฤดูฝน ขยา;ยพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เหง้า ใช้สปอtร์ หรือไหล มีเขตผู้กระทำr5jhระจายราชพฤกษ์ชนิดอยู่ใopนเขตร้อนทั่วๆไปขอtyjงเอเชีย ไjyukล่ตั้งแต่ภาคกึ่งกลางของจีนshyl ภาคใต้ของญี่ปุ่นtyj luiไปจนถึงหมู่เกiuาะแปซิฟิtyjค ส่วนในประเทศไทยบ้านเราราชพฤกษ์จะเจอผัdhกฉันดได้ทั่วไปtkเกือบทุtyกภูมิภาคในที่มีสภาพดินไม่tyjแล้ง

Tags : ราชพฤกษ์

3
อื่น ๆ / ขิง สมุทรบัวแดง บึงหนองหานหม้อ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2018, 12:40:31 PM »

ขิง สมุทรบัวแดง บ่อน้ำหนองหานกุมภ์หนองน้ำ ดูทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความอุดมสมบูรณ์ที่มีคุณค่าแก่การศึกษา .. พวghmhกเราๆท่าnนๆอาจจะfgnbnเคยทราบชื่อgnmghhnmhmj,hk,ของ “หjk,นองหาน” กัkjl.lnghkf/lk;/l;?นมานานนม ขิงแต่ว่าก็มีจำนวjl.นม,jkl/.ากที่งงงันหรือยัfไม่เคยhjรู้ว่าในภhjาคอีสgnานของเmรngานี้ ก็มีอีกทั้bnfgง “หนองหาน” สถ/fngdาnghนที่สำคัญประจำ /l;อ.กุมภบึง จ.จังjhหวัl.kl,hอุดรjธานี แล้jk.วก็ “หนองหาร” หนองใหmghญ่ที่มีตำนานผาghแดงgfngนาง,hjmhjmไอ่ และก็กลับไปบอกต่อ รวมทั้งเนื่องจากว่าไ.kl.ด้รับการโฆษณาจากททท.ให้เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวอันซีdffbนแหล่ง ใหม่เริ่มจะคุ้นเคยในกลุ่มนักเดินทาง ด้วยความงดงามอันเป็นmghmเอกลักษณ์ของดอกบัวที่ธรรมชาติแต่งตั้ง ขิงเมื่อสีแดงอมชมbgfพูขอbdfงดอกบัวสดชื่นขึ้นพร้อมเkl.พียงกัน ก็จะเปลี่ยfdgdfนเป็น.kl.ภาพความสmghmghวยสดงดงามอันhgnประณีตบรรจงสุดลูกลูกตาอย่างกัhjบใช้เวmhทย์มนตร์บนผืนผ้าmgใบ ขณะที่บรfgรยากาศรอบๆสระหนองหาน ก็สะท้อนความอุดมสมบูรnmghของแหล่งน้ำตาม ธmgรมชาติด้วยพันธุ์ปลาน้ำจืด สายพันhngธุ์นกglkmเขตแดน รวมทั้งพืชน้ำขิงอีklกจำนวนมากอันเป็นหัวใจของระบบนิเวศน์ที่หล่อเลี้ยง ทะเลบัวแดง รวมทั้งวิถีชุมชนให้ยั่งยืนจนถึงทุกวันนี้สมุทรบัวแดง บ่อน้ำหนองหานกุมภหนองน้ำ อันซีนที่สีสันธรรมชาติสร้าง

Tags : ขิง

4

ขายส่งกวาวเครือเเดง ถั่วเหลือง คุณประโยชน์ไม่ใช่ย่อย เห็นเป็นเมล็ดพืชเม็ดน้อยๆแต่เต็มไปด้วยคุณภาพที่ไม่อjkjfdยากให้พลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ งli;';ul'ดรับประทานเนื้อสัตว์ i'op'op'ถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีiulนขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลทางto;iy7เลือกกวาวเครือเเดงราคาถูกที่ไม่สมควรdjuyklu;ละเi;oลย ถั่วหลืงiy;เป็นธัญพืชที่เรากวาวเครือเเดงราคาถูกรู้จักกันดี เนื่ylkuil;opองจากสามoารถนำมาgt;op'ทำเป็นนมถั่วเหลือง น้ำนมถั่ว;;iเหลือง {น้ำมันถั่;;วเหลือง|น้ำมันที่ทำi;oจากถั่วเหลือง|น้ำมันที่ผลิตขึ้นมkluilาจากถั่วykรู้ดีว่p['p[าประโยชน์ถั่วเหลืองครyukyloiอบคลุมสุขภาพไyukด้หลายด้าน เอ;p'าเป็นว่าพ[p]วกเรามาio;ทำความuliiรู้o'จักคุณประโยชน์ซึ่งมาจากขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลถั่วเหลืองกันสักp['[]นิดดีมากกว่าขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล ถั่วเหลือง  ถั่วเหลืองมีขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลบ้านเกิดyในภาคอีiu;สานของi;จีน กวาวเครือเเดงราคาถูกโดยช'าวจีนนิยมเพาะปo'ลูกรวมทั้งใช้ประโยชน์จาi;กถั่วเหลืองมานานกว่า 5,000 ปี จากนั้นถั่วเหลืองจึงได้ขยายไปยังประเทศอื่io;นu;op'p[ๆดังเช่น ประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และก็แถylulบอเมริกา แต่ว่าการเjulข้ามาของถั่วเหลืองในไy,iuทยอาจยังไม่มีหลักฐานแจ่มแจ้ง จึงได้แต่ว่าคาดกrhtyารณ์กันว่าเหล่าพ่อค้าแล้วก็คนภูเขาซึ่งเดินทางไป-กริ้วหว่างจีนตอนใต้และrhภาคเหนือตอนบนของไทยเป็นคนที่นำถั่วเหลืองเข้ามาปlulลูกไว้ในบ้านพวกเรา ถั่วเหลือง ภาษาอังกฤษเรียกว่าขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูล Soybean มีชื่อด้l;oi;านวิทยาศาสตร์ว่า Glycine max (L.) Meulrrill อยู่ในกวาวเครือเเดงราคาถูกวงศ์ Lulegumeminosae เป็i;นพืชล้มลุก ทรงต้นเป็นพุ่ม มีความสูงulระหว่าง 50 ซม.-2 เมตร บางoi;พันธุ์ก็เลื้io;อยเป็นเถา ระบบรากมีราip';p[กแก้ว ส่วนรากioฝอยเกิดเป็นกลุ่มประสานกันอยู่ใต้ระดับผิวดิน รuอบๆผิวรากมีปมulของบัคเตรีเกาะอยู่ulรวมทั้งเห็นได้ชัดเจน ขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลลำต้นแตกกิ่งop'จำนวน io;3-5 กิ่ง มีขนสีขrtาว น้ำตาล หรือเทาหุ้มอยู่ ใบถั่วเห;io;ลืองกำเulนิดสลับกันเป็opใบรวม op'ปulระกอo'ด้วยใบย่อย 3 ใบ รูปร่างกลมรี ช่อดอกมีต้นเหตุจากมุมใบและก็ปลายยอด ดอกมีขนาดเล็กสีขาวหรือม่วง จำนวio;น 3-15 ดอกต่อหนึ่งช่'op'อ ดอกบริบูรณ์เพศ มีอับเกสรตัวผู้รวมทั้งรังไข่อio;ยู่ในดอกเดียวกัoip'oน 1. ถั่วเหลือio;งอุดมไปด้วยโปรตีน ดีต่อคนไม่กินเนื้อสัตว์   ในนมถั่วเหลืองมีโปรตีนโกลบูลิน (i;Globulin)กวาวเครือเเดงราคาถูก ซึ่งเป็นโปi;รตีนที่มีคุณภาพบริop'บูi;รณ์ เหตุเพราะio;ประกอบไปขายส่งกวาวเครือเเดงเเคปซูลด้วยกรดอะมิโนจำเป็นจะต้องต่อสภาพร่างกาย ครบทั้ง 10 จำพวก แถมยังมีulกวาวเครือเเดงราคาถูกมากกว่าในเนื้อสัตi;oว์อีกด้วย โดยพบว่าถั่วเหลืองปรุงสุกเพียงแค่ 1 ถ้วยตวง มีปริi;มาณกวาวเครือเเดงราคาถูกโปรตีนมากถึง 22 กรัม ซึ่งมากยิ่งกว่าสเต็ก 1 ชิ้นซะio;io;อีก 2. คุ้มครองการเกิดio;โรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้

Tags : ขายส่งกวาวเครือเเดง,กวาวเครือเเดงราคาถูก

5

สมุนไพรพญายอ
เสลดพังพอนตัวเมีย
เสลดพังพอนตัวเมีย ชื่อสามัญ Snake Plant
เสมหะพังพอนตัวเมีย ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Clinacanthus burmanni Nees, Clinacanthus siamensis Bremek., Justicia nutans Burm. f.) จัดอยู่ในวงศ์เหงือกปลาหมอ (ACANTHACEAE)
สมุนไพรเสลดพังพอนตัวเมีย พญายอ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า ลิ้นมังกร ผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด (เชียงใหม่), พญาข้อคำ (ลำปาง), เสลดพังพอนตัวเมีย (พิษณุโลก), พญาบ้องดำ พญาข้อทอง (ภาคกลาง), ลิ้นงูเห่า พญายอ (ทั่วๆไป), โพะโซ่จาง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ชิงเจี้ยน หนิ่วซิ้วฮวา (จีนแมนดาริน) ฯลฯ
รูปแบบของเสลดพังพอนตัวเมีย
ต้นเสมหะพังพอนตัวเมีย จัดเป็นพรรณไม้พุ่มแกมเถา มักเลื้อยพิงไปตามต้นไม้อื่นๆมีความสูงได้ราว 1-3 เมตร ลำต้นมีลักษณะเกลี้ยง ต้นอ่อนเป็นสีเขียว ลำต้นมีลักษณะกลม ผิวเรียบเป็นบ้องสีเขียว เพาะพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำหรือแยกเหง้าแขนงไปปลูก เติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ถูกใจดินร่วนซุย ระบายน้ำดี มีแดดจัด มีเขตการกระจายประเภทในจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย แล้วก็ไทย ในประเทศไทยมักพบขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วทุกภาคของประเทศ หรือเจอปลูกกันตามบ้านทั่วๆไป
ต้นเสลดพังพอนตัวเมีย
ต้นพญายอ
ใบเสลดพังพอนตัวเมีย ใบเป็นใบผู้เดียว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ๆลักษณะของใบเป็นรูปใบหอก รูปรีแคบขอบขนาน ปลายใบรวมทั้งโคนใบแหลม ส่วนขอบของใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างราว 2-3 เซนติเมตร และก็ยาวราวๆ 7-9 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบ
ใบเสลดพังพอนตัวเมีย
ดอกพญายอเสลดพังพอนตัวเมีย ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกราว 3-6 ดอก กลีบดอกไม้เป็นสีแดงส้ม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวราวๆ 3-4 ซม. ปลายแยกออกเป็น 2 ปากเป็นปากด้านล่างรวมทั้งปากบน ดอกหนึ่งมี 5 กลีบ กลีบดอกเป็นทรงกระบอก ส่วนกลีบรองกลีบนั้นเป็นสีเขียว ยาวเท่าๆกัน มีขนคือต่อมเหนียวๆอยู่รอบๆ ดอกมีเกสรเพศผู้ 2 อัน ส่วนเกสรเพศเมียหมดจดไม่มีขน มีดอกในช่วงโดยประมาณเดือนตุลาคมถึงม.ค. (แต่ชอบไม่ค่อยมีดอก)
ดอกเสลดพังพอนตัวเมีย
พญาบ้องทองคำ
ลิ้นงูเห่า
ผลเสลดพังพอนตัวเมีย ผลได้ผลแห้งและก็แตกได้ (แต่ผลไม่เคยติดเป็นฝักในประเทศไทย) ลักษณะของผลเป็นรูปกลมยาวรี ยาวได้ราว 0.5 ซม. ก้านสั้น ข้างในผลมีเม็ดโดยประมาณ 4 เม็ด
หมายเหตุ : เสลดพังพอน เป็นชื่อพ้องของพรรณไม้ 2 จำพวก คือ เสลดพังพอนตัวผู้ รวมทั้งเสลดพังพอนตัวเมีย ซึ่งจะไม่เหมือนกันตรงที่เสมหะพังพอนเพศผู้ลำต้นจะมีหนามและก็มีดอกเป็นสีเหลือง ส่วนเสมหะพังพอนตัวเมียลำต้นจะไม่มีหนามแล้วก็มีดอกเป็นสีแดงส้ม เพื่อไม่ให้เป็นการงงงวยหลายๆตำราเรียนจึงนิยมเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า “พญายอ” หรือ “พญาปล้องทอง” โดยเสลดพังพอนเพศผู้นั้นจะมีคุณประโยชน์ทางยาอ่อนกว่าเสมหะพังพอนตัวเมีย รวมทั้งตำรายาไทยนิยมนำมาใช้ทำยากันมาก
คุณประโยชน์ของเสมหะพังพอนตัวเมีย
รากและก็เปลือกต้นใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาบำรุงกำลัง (รากแล้วก็เปลือกต้น)
ต้นและก็ใบใช้กินเป็นยาทำลายพิษไข้ ดับพิษร้อน (อีกทั้งต้นรวมทั้งใบ)1,3 ใช้เป็นยาลดไข้ ด้วยการใช้ใบสด 1 กำมือ ตำอย่างละเอียด ผสมกับน้ำซาวข้าว ใช้พอกบนหัวคนไข้ประมาณ 30 นาที อาการไข้รวมทั้งลักษณะของการปวดศีรษะจะหายไป (ใบ)6
ช่วยแก้อาการผิดสำแดง (รับประทานอาหารแสลงไข้ แล้วทำให้โรคกำเริบเสิบสาน) ด้วยการใช้รากสดเอามาต้มกินทีละราว 2 ช้อนแกง (ราก)
ใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ ด้วยการนำใบสดมาบดโดยประมาณ 10 ใบ กลืนมัวแต่น้ำยาพอให้ยาจืด แล้วจึงคายกากทิ้ง (ใบ)6
ช่วยแก้คางทูม ด้วยการกางใบสดราว 10-15 ใบ ตำอย่างถี่ถ้วนผสมกับสุราโรง คั้นเอาน้ำมาทาบริเวณที่บวม อาการบวมจะหายไป รวมทั้งลักษณะของการเจ็บปวดจะหายไปข้างใน 30 นาที (ใบ)
ใช้เป็นยารักษาโรคบิด (ต้นและก็ใบ)
รากใช้ปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ ขับเมนส์ (ราก)
ใช้เป็นยาแก้รอบเดือนมาไม่ดีเหมือนปกติ (ทั้งยังต้น)
ช่วยแก้อักเสบแบบดีซ่าน (ทั้งต้น)
ใช้เป็นยาแก้แผลอักเสบจับไข้ ไข่ดันบวม ด้วยการกางใบสดราว 3-4 ใบ เอามาตำกับข้าวสาร 3-4 เม็ด ผสมกับน้ำพอเปียก ใช้พอกประมาณ 2-3 รอบ จะช่วยให้อาการดียิ่งขึ้น (ใบ)
ลำต้นเอามาฝนแล้วใช้ทาแผลสดจะช่วยทำให้แผลหายเร็ว (ลำต้น)ใช้รักษาแผลจากหมากัดมีเลือดไหล ด้วยการกางใบสดโดยประมาณ 5 ใบ เอามาตำพอกรอบๆแผลสัก 10 นาที (ใบ)
ใช้รักษาแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ใบสดเอามาตำต้มกับน้ำมะพร้าวหรือน้ำมันงา เอากากพอกแผล แผลจะแห้ง หรือจะใช้ใบสดนำมาตำให้รอบคอบผสมกับเหล้า ใช้เป็นยาพอกรอบๆที่ถูกไฟลุกหรือน้ำร้อนลวก จะมีคุณประโยชน์ช่วยดับพิษร้อนก้าวหน้า4 ส่วนอีกตำราเรียนระบุว่า นอกเหนือจากที่จะใช้รักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวกได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลเปื่อยยุ่ยเพราะเหตุว่าถูกแมงกะพรุนไฟ แผลสุนัขกัด และแผลที่เกิดจากการถูกกรดได้อีกด้วย เพียงนำใบไปหุงกับน้ำมันแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็น (ใบ)
ใช้รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ใบประมาณ 3-4 ใบ อาหารสาร 5-6 เม็ด เพิ่มเติมน้ำลงไปให้พอเพียงแฉะ แล้วเอามาพอก จะรู้สึกเย็นๆซึ่งยาจะช่วยดูดน้ำเหลืองเจริญ ทำให้แผลแห้งไว โดยให้เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง พอกไปครู่หนึ่งหนึ่งแล้วให้เอาน้ำมาหยอดกันยาแห้งด้วย (ใบ)
ใช้แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ด้วยการกางใบสดตำผสมกับสุราใช้ทา หรือใช้เหล้าสกัดใบเสมหะพังพอน จะได้น้ำยาสีเขียวเอามาทาแก้ผื่นคัน (ใบ)
ใช้แก้สิวเม็ดผื่นผื่นคัน ด้วยการนำใบมาดองกับสุรา แล้วผสมดินสอพองใช้ทาแก้สิวแล้วก็เม็ดผดผื่นคัน (ใบ)
ใช้แก้ฝี ด้วยการใช้ใบเอามาตำผสมกับเกลือแล้วก็สุรา ใช้พอกบริเวณที่เป็น เปลี่ยนแปลงยาทุกยามเช้าและก็เย็น (ใบ)
ต้นแล้วก็ใบใช้เป็นยาขับพิษ ถอนพิษ โดยเฉพาะพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ได้แก่ งู ตะขาบ แมงป่อง มด ยุง ฯลฯ รวมถึงผื่นคัน ไฟลามทุ่ง ลมพิษ แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการกางใบสดโดยประมาณ 5-10 ใบ นำมาขยี้หรือตำใช้ทาบริเวณที่เป็น หรือใช้ใบสดเอามาตำให้เพียงพอแหลก แช่ในเหล้าขาวโดยประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจากนั้นจึงค่อยนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นแผลส่วนอีกตำรับยาแก้ผื่นคัน ตามข้อมูลระบุว่า ให้ใช้ใบตำผสมกับดินสอพอง ใส่น้ำน้อย ใช้ทาบริเวณที่เป็น (ใบ)

คนเมืองจะนำใบมาตากแห้งแล้วตำผสมกับแมงป่องปิ้ง ใช้เป็นยาแก้พิษงู (ใบ)
พญายอ ใช้รักษาอาการอักเสบ รักษาแผลร้อนในปาก แก้เริม (แผลผิวหนังประเภทเริม) อีสุกอีใส แก้งูสวัด ขยุ้มตีนสุนัข รวมทั้งใช้เป็นยาทำลายพิษต่างๆด้วยการกางใบเสมหะพังพอนตัวเมียสดราวๆ 10-20 ใบ (เลือกเอาเฉพาะใบสดสีเขียวเข้มวาว ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) แล้วนำมาตำผสมกับสุราหรือน้ำมะนาว คั้นเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผลและก็เอากากพอกรอบๆแผล หรืออีกวิธีให้จัดแจงเป็นทิงเจอร์เพื่อใช้ทารักษาอาการอักเสบจากเริมในปาก โดยใช้ใบสด 1 โล นำมาปั่นอย่างระมัดระวัง เพิ่มแอลกอฮอล์ 70% ลงไป 1 ลิตร แล้วหมักทิ้งเอาไว้ 7 วัน ระเหยบนเครื่องอังละอองน้ำให้ขนาดลดน้อยลงครึ่งเดียว (ห้ามตั้งบนเตาไฟโดยเด็ดขาด) และก็เพิ่มเติมกลีเซอรีน (Glycerine pure) อีกเท่าตัว (ครึ่งลิตร) แล้วนำน้ำยาเสลดพังพอนกลีเซอรีนที่ได้มาใช้ทาแผลเริม งูสวัด แผลร้อนในปาก และใช้ถอนพิษต่างๆสำหรับแบบเรียนยาแก้งูสวัดอีกตำรับจะใช้ใบสดผสมกับดอกลำโพง โกฐน้ำเต้า อย่างละเท่ากัน รวมกันตำให้เพียงพอแหลก แช่กับเหล้า แล้วประยุกต์ใช้ทาแก้แผลงูสวัด (ใบ)
พญายอ ใช้แก้ถูกหนามท้องดอตำหรือถูกใบตะลังตังช้าง ด้วยการนำขี้ผึ้งแท้มาลุกลี้ลุกลนไฟให้ร้อน แล้วนำมากดเพื่อดูดเอาขนของใบตะลังตังช้างออกซะก่อน แล้วจึงใช้ใบเสลดพังพอนผสมกับสุราทาบริเวณที่เป็น (ใบ)
ใช้เป็นยาแก้แพ้เกสรรักษาป่า ยางรักป่า และก็ยางสาวน้อยประแป้ง ด้วยการใช้ใบผสมกับสุรา นำมาทาบริเวณที่คัน (ใบ
ใช้แก้ฝึก เหือด ด้วยการใช้ใบสดโดยประมาณ 7 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 8 แก้ว ต้มให้เดือด 30 นาที เทยาออกรวมทั้งผึ่งให้เย็น แล้วนำใบสดมาอีก 7 กำมือ ตำผสมกับน้ำ 8 แก้ว แล้วเอาน้ำยาทั้งสองมาผสมกัน ใช้อีกทั้งกินและก็ชโลมทา (ยาชโลมให้ใส่พิมเสนลงไปน้อย) เด็กที่เป็นหัด เหือด ให้รับประทานวันละ 3 ครั้ง ทีละครึ่งแก้ว (ใบ)
พญายอ อีกทั้งต้นใช้เป็นยาแก้ปวดบวม เคล็ดปวดเมื่อย บวมช้ำ กระดูกร้าว ช่วยขับความชื้นในร่างกาย แก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าเนื่องจากเย็นชื้น (ต้น)
รากใช้เป็นยาแก้ลักษณะของการปวดปวดเมื่อยบั้นเอว (ราก)
ขนาดแล้วก็วิธีการใช้ : ยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 5-10 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน ส่วนยาสดให้ใช้ทีละ 30 กรัม นำมาตำคั้นเอาน้ำกิน หรือตำพอกแผลภายนอก
ข้อควรพิจารณาพญายอ
: หากแม้ในอดีตจะมีการใช้ใบสดนำมาตำแล้วพอกรอบๆที่เป็นแผล แม้กระนั้นในขณะนี้วิธีการแบบนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบแล้ว ด้วยเหตุว่าจะชำระล้างได้ยาก ทำให้กากติดแผล รวมทั้งอาจจะเป็นผลให้ติดโรคเป็นหนองได้
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเสมหะพังพอนตัวเมีย
พญายอ รากพบสาร Betulin, Lupeol, β-sitosterol ส่วนใบพบสาร Flavonoids ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกลุ่ม monoglycosyl diglycerides ได้แก่ 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol รวมทั้งสารกรุ๊ป glycoglycerolipids ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสเริม
จากการทดสอบในสัตว์ใช้สกัดจากใบสดของเสมหะพังพอนตัวเมียด้วย n-butanol พบว่า สามารถลดการอักเสบได้2 โดยพบว่าจะช่วยลดการอักเสบของข้อเท้าหนูที่ทำให้บวมด้วยสาร carrageenan ได้ เมื่อใช้ตำรับยาที่มีเสลดพังพอนตัวเมียปริมาณร้อยละ 5 ใน Cold cream รวมทั้งสารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ เอามาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะช่วยลดการอักเสบเรื้อรังได้ แต่เมื่อใช้สารสกัดด้วย n-butanol มาทาที่ผิวหนังจะไม่ได้ผล
สารสกัดจากใบความเข้ม 15 กรัม ต่อ 1 โล มีคุณภาพต้านการอักเสบเจริญ
เมื่อให้หนูเม้าส์กินสารสกัดด้วย n-butanol จากใบ พบว่า จะช่วยลดความเจ็บของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้ปวดด้วยกรดอะซีติคได้ ขึ้นรถสกัดความแรง 90 มิลลิกรัมต่อโล จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มก.ต่อกิโลกรัม ส่วนสารสกัดด้วยน้ำแล้วก็สารสกัดด้วยเอทานอล 60 จากใบ พบว่าไม่มีผลลดความเจ็บปวด
สารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล รวมทั้งเอทิลอะสิเตทจากใบเสมหะพังพอนตัวเมียมีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสเชื้อเริม HSV-1 เมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นร้อยละ 4 และใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล พบว่าจะมีฤทธิ์ต้านไวรัสก้าวหน้าและไม่เป็นพิษต่อเซลล์ ตอนที่เมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะมีพิษต่อเซลล์ แล้วก็จากรายงานการดูแลและรักษาผู้ป่วยโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ประเภทเป็นซ้ำด้วยการใช้ยาจากสารสกัดเสลดพังพอนตัวเมีย เปรียบเทียบกับยา acyclovir รวมทั้งยาหลอก โดยให้คนเจ็บทายาวันละ 4 ครั้ง ตรงเวลา 6 วัน พบว่าไม่ได้มีความแตกต่างในระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลผู้ป่วยที่ใช้ยาจากสารสกัดใบและยา acyclovir โดยแผลจะตกสะเก็ดด้านใน 3 วัน แล้วก็หายสนิทภายใน 7 วัน ซึ่งผิดแผกกับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ โดยยาที่สกัดจากใบเสลดพังพอนตัวเมียจะไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการอักเสบและก็เคือง ในช่วงเวลาที่ acyclovir จะก่อให้แสบ นอกจากนั้นยังมีการใช้ยาที่ทำจากเสมหะพังพอนตัวเมียในผู้เจ็บป่วยโรคเริม งูสวัด และก็แผลอักเสบในปาก แล้วพบว่าสามารถรักษาแผลแล้วก็ลดการอักเสบได้ดิบได้ดี
พญายอ สารที่สกัดจากบิวทานอล (Butanol) ของใบเสลดพังพอนตัวเมีย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อเชื้อไวรัส Varicella zoster ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสจำพวกที่กระตุ้นให้เกิดเริมและอีสุกอีใส3 จากรายงานการดูแลรักษาคนเจ็บโรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดจากใบเปรียบเทียบกับยาหลอก โดยให้ป้ายยาวันละ 5 ครั้ง ตรงเวลา 1-2 อาทิตย์ ตราบจนกระทั่งแผลจะหาย พบว่าผู้เจ็บป่วยที่รักษาด้วยสารสกัดจากใบเสลดพังพอนตัวเมีย แล้วมีแผลตกสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายด้านใน 7-10 วัน จะมีจำนวนมากกว่ากรุ๊ปหวานใจษาด้วยยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติ รวมทั้งระดับความเจ็บจะน้อยลงเร็วกว่ากรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก โดยไม่เจอผลกระทบใดๆก็ตาม9
จากการทดสอบความเป็นพิษ เมื่อป้อนสารสกัด n-butanol จากใบให้หนูเม้าส์ พบว่าเป็นพิษน้อย แม้กระนั้นจะเป็นพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าท้อง ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัมต่อกก. (เทียบเท่าใบแห้ง 5.44 กรัมต่อกก.) เมื่อเอามาป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าช่องท้องหนูเม้าส์ พบว่าไม่ทำให้มีการเกิดอาการเป็นพิษใดๆ
จากการศึกษาเล่าเรียนพิษครึ่งเรื้อรัง
ด้วยการป้อนสารสกัด n-butanol จากใบในขนาด 270 และก็ 540 มิลลิกรัมต่อโล ให้หนูแรททุกวี่วัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่มีผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าพบว่ามีน้ำหนักต่อมธัยมัสลดลง ในตอนที่น้ำหนักของตับมากขึ้น และไม่พบว่ามีความผิดปกติต่ออวัยวะอื่นๆหรืออาการไม่พึงปรารถนาแม้กระนั้นอ http://www.disthai.com/

6

บัวบก
บัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จัดอยู่ในตระกูลผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
สมุนไพรบัวบก มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ เป็นต้น จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นแรง มีรสขมหวาน
เมื่อพูดถึงบัวบก สมุนไพรประเภทนี้ขึ้นมาทีไร คนจำนวนไม่น้อยอาจนึกไปว่ามันแค่ช่วยแก้อาการบอบช้ำในเฉยๆ(ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แม้กระนั้นจริงๆแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณมากมายก่ายกอง เพราะเหตุว่าได้รับการกล่าวขวัญเกี่ยวการดูแลและรักษาโรคได้หลายชนิด อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเสีย อาการท้องอืด แผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยทำนุบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความอ่อนแรงของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายอย่าง ดังเช่น บราโมซัยด์ บราไม่โนซัยด์ ตรีเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านทานการอักเสบ แล้วก็ยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม รวมทั้งกรดอะมิโน เช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสหนดิน เป็นต้น
ใบบัวบกเหมาะสำหรับขี้ร้อน มีภาวการณ์แกร่ง หรือมีความร้อนชื้น เนื่องจากว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
บัวบกประโยชน์ซึ่งมาจากใบบัวบกประโยชน์ที่ได้รับมาจากใบบัวบก
คุณประโยช์จากใบบัวบก
บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แต่ว่ามีระดับสารออกซาเลตที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในปริมาณต่ำ
ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนวัย ย้อนอายุและวัย
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยสร้างเสริมและก็กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและก็อีลาสติน
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากใบบัวบก ช่วยบำรุงรักษาแล้วก็รักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เพราะบัวบกมีวิตามินเอสูง
ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการใช้ใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นมัวแต่น้ำนำมาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ช่วยบำรุงรักษาประสาทและสมองเสมือนใบแปะก๊วย
ช่วยให้ความจำดีขึ้นรวมทั้งทำให้มีปฏิภาณไหวพริบมากยิ่งขึ้น
ช่วยเพิ่มความจำในคนชรา
มั่นใจว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มไอคิว ความฉลาด รวมทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจ
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยชะลอลักษณะของโรคโรคสมองเสื่อมในคนวัยชรา สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการลืมระยะสั้นได้
ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจในการตัดสินใจเฉพาะหน้า
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดหัว ปวดหัวฝ่ายเดียว
ช่วยแก้อาการเวียนหัวหัว
ช่วยระงับความเครียด
ช่วยเสริมลักษณะการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ก็เลยช่วยผ่อนคลายรวมทั้งทำให้หลับง่ายขึ้น
ช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆเจริญเพิ่มขึ้น
ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
ช่วยบำรุงโลหิตภายในร่างกาย
ช่วยทำนุบำรุงหัวใจ
ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ช่วยทำให้จิตใจมีชีวิตชีวา อารมณ์แจ่มใส
ช่วยให้หน้าตาแจ่มใสเสมือนเป็นวัยรุ่น
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยบำรุงเสียง
ช่วยรักษาลักษณะการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดราวๆ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเพิ่มน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบรับประทานเป็นประจำ
ช่วยแก้อยากกินน้ำคุณประโยชน์ใบบัวบก
ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
ใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์ของมะเร็ง ช่วยต้านโรคมะเร็ง
ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดิบได้ดี
ช่วยรักษาโรคโรคดีซ่านจากภาวการณ์ร้อนเปียกชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลก้อนกรวด 30 กรัม ต้มน้ำกิน
ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยรักษาอาหารโรคหืด
ช่วยรักษาโรคความดันเลือดสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือจะใช้บัวบกสดๆทั้งยังต้นราว 30 กรัมนำมาค้นเอาน้ำ เพิ่มน้ำตาลบางส่วนแล้วดื่มกินประมาณ 5-7 วัน
ช่วยรักษาโรคลมชัก
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในระยะต้น ด้วยการใช้บัวบกรวมทั้งเปลือกของลูกหมาก 1 ผล นำมาต้มกับเหล้าดื่ม
ช่วยแก้คนเป็นบ้า
ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
ช่วยลดความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือด แล้วก็ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสลด
ช่วยแก้อาการอ่อนล้า อ่อนล้า
ช่วยแก้ไข้
ช่วยห้ามเลือดกำเดา เนื่องจากทำให้เลือดเดิน แม้กระนั้นเลือดจะไม่ออกมาจากเส้นโลหิตและยังทำให้อำมหิตอีกด้วย
ช่วยแก้อาการช้ำใน เจ็บจากการกระทบกระแทก
เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
ช่วยทำให้เจริญอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น
ช่วยแก้อาการท้องร่วง
สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์คุ้มครองปกป้องรวมทั้งยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม
ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดปนเมื่อถ่าย
ช่วยรักษากระเพาะเป็นแผล
ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
แก้อาการเยี่ยวติดขัด ด้วยการกางใบบัวบกราวๆ 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อฉี่คล่องแคล่วก็ดีแล้วค่อยคัดออก
ช่วยขับความร้อนชื้นทางเท้าเยี่ยว ป้องกันการเกิดนิ่ว
ช่วยรักษาโรคนิ่วฟุตบาทฉี่ด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 แล้วเอามาดื่ม
ช่วยรักษาอาการมีหนองออกจากเยี่ยว
ช่วยแก้อาการน้ำดีภายในร่างกายมากจนเกินความจำเป็น
ช่วยรักษาโรคม้ามโต
ช่วยรักษาอาการติดเชื้อของไวรัสตับอักเสบ
แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการใช้ใบสดราวๆ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วเพิ่มขึ้น ช่วยรีบการผลิตเนื้อเยื่อ
ช่วยแก้อาการฟกช้ำ ด้วยการกางใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วเอามาโปะรอบๆที่ฟกช้ำดำเขียว หรือจะใช้ใบบัวบกราวๆ 40 กรัม ต้มกับเหล้าแดงประมาณ 250 cc. ราวๆ 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
ใช้บัวบกตำนำมาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกนำมาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกรอบๆที่เป็น
ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆดังเช่นว่า โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด ฝึกหัด ฯลฯ
ช่วยระงับการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุส่งผลให้เกิดหนอง
ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้เป็นอย่างดีรวมทั้งใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
ใช้เป็นยาทำลายพิษ ช่วยลดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งต้นสดของบัวบกราวๆ 3 ต้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟไหม้
บัวบกมีการเอามาผลิตเป็นแคปซูลวางขาย มีคุณประโยชน์ในการช่วยบำรุงรักษาสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
ปัจจุบันมีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในแบบเป็นผงใช้โรยแผล แล้วก็ในรูปแบบเม็ดกินเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟเผา น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และยังช่วยปกป้องการเกิดรอยแผลอีกด้วย
ช่วยแก้อาการก้างปลาติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ และหลังจากนั้นก็ค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
ใบและเถาบัวบกใช้รับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
น้ำคั้นจากใบบัวบกนำมาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ทาหัว มีคุณประโยชน์ช่วยทำนุบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ แก้ปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับฤดูร้อนเป็นอันมาก ด้วยเหตุว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัด
สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณลักษณะช่วยลดการระคายเคืองผิวและก็ปลอดภัยต่อสภาพร่างกาย
สารสกัดจากใบบัวบกมีการนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนผสมสำหรับในการผลิตเครื่องแต่งตัว
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นอุปกรณ์ปิดแผล
ลบรอยตีนกาตื้นๆด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนถึงละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วรอบๆหางตาหรือทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรจะทาทุกวี่ทุกวันก่อนนอน
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตอ้างถึงว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวสวยใส ผิวหน้าเต่งตึงได้

วิธีทำน้ำบัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำบัวบกวิธีทำน้ำบัวบก ควรเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า รับประทานเป็นผักสด โดยใช้ทั้งยังรากเอามาล้างน้ำชำระล้าง
ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนนำมาบด
คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำที่สองเพื่อจับตัวได้ยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรใช้น้ำที่สะอาด รวมทั้งห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่างๆ(แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองมิได้)
ข้างหลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใสๆมาดื่ม
น้ำบัวบกต้องคั้นใหม่ๆจากใบสดๆและไม่ควรเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรแช่เย็นเก็บไว้
น้ำเชื่อมถ้าหากทำจากน้ำสุกใบเตย จะทำให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
สรรพคุณของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน บอบช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
ใบบัวบกวัตถุดิบที่จำเป็นต้องจัดเตรียมอาทิเช่น บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลานิดหน่อย / น้ำมันพืชสำหรับใช้สำหรับทอด
นำบัวบกมาล้างกระทั่งสะอาดแล้วหั่นซอกซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เพิ่มเติมเครื่องปรุงต่างๆ
นำใบบัวบกที่ซอกซอยแล้วผสมลงไปในไข่ คนจนเข้ากัน
เอามาทอดในไฟอ่อนกระทั่งไข่สุก
สรรพคุณช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดศีรษะ และก็เวียนหัวหัว
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
จัดเตรียมวัตถุดิบดังนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบคาย / หอมแดงหั่นหยาบ / เกลือ / พริกไทยป่น
นำบัวบกสดที่ได้มาล้างทำความสะอาด แล้วหั่นหยาบๆให้พอดีคำ
นำแป้งที่ใช้ในการทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย และก็เกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
นำบัวบกที่หั่นจัดแจงไว้ นำมาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
หลักแล้วหลังจากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว นำมาทอดให้พอเหลืองกรอบแล้วชูลงให้สะเด็ดน้ำมัน
เท่านี้ก็เรียบร้อย นำมาจิ้มรับประทานกับน้ำจิ้มไก่ตามที่ใจต้องการได้เลย
คุกกี้บัวบก
ให้จัดแจงวัตถุดิบดังนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาล 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
นำใบบัวบกมาล้างชำระล้างแล้วหั่นอย่างระมัดระวัง โดยตัดก้านแล้วก็ใบออกมาจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆส่วนใบนำมาเรียงทับกันแล้วหั่นตามทางขวางรวมทั้งกลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
นำแป้งแล้วก็ผงฟูมาร่อนผ่านที่กรอง 2 รอบ แล้วพักไว้
นำเนยสดมาตีให้กับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนถึงขึ้นฟู ราว 1 นาที
ใส่ไข่ไก่รวมทั้งกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้ถูกกัน
ค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละเล็กละน้อย (ทีละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งหมดทั้งปวง) แล้วตีแป้งให้กับส่วนประกอบทั้งหมด
นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากันอีกที
นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนไฟ ซึ่งต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่อยาก
ใช้เวลาอบโดยประมาณ 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิประมาณ 250 องศา หรือดูว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
ขั้นตอนการทำน้ำมันบัวบก
เตรียมส่วนผสมดังต่อไปนี้ บัวบก 4 กิโล / น้ำมันที่ทำจากมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำที่สะอาด 1 ลิตร
นำบัวบกมาล้างน้ำชำระล้าง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เติมน้ำลงไปในบัวบก แล้วนำไปปั่นจนกระทั่งละเอียด
เสร็จแล้วให้กรองมัวแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนๆราวๆ 80 องศาเซลเซียส
เคี่ยวไปเรื่อยๆจนเหลือแค่น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากมะพร้าว โดยให้พินิจลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบเม็ดทราย นับได้ว่าเป็นอันใช้ได้ ยกลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย
วิธีใช้น้ำมันบัวบก
ใช้น้ำมันที่ได้เอามาทาเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ
นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมแชมพูตามเดิม เป็นอันเสร็จ
น้ำมันบัวบก คุณประโยชน์ช่วยบำรุงรักษาหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ ขจัดปัญหาผมตก ผมหงอกก่อนวัย
การตักเตือนรวมทั้งข้อแนะนำ
สรรพคุณของใบบัวบกการกินใบบัวบกคุณควรจะพินิจรากฐานของร่างกาย อย่ามองดูแต่คุณประโยชน์เพียงอย่างเดียว
บัวบกไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวะเย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องอืดเป็นประจำ
การรับประทานบัวบกในจำนวนที่มากเหลือเกิน จะก่อให้ธาตุในร่างกา
http://www.disthai.com/

7

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาเรียนรู้ที่เรียนรู้เกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในผู้ป่วยมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังกล่าวข้างต้นมีส่วนในการยัยยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้มากถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในคนเจ็บมะเร็งปอดบางราย แต่ว่ายังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่สนับสนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อวิเคราะห์เปรียบจากการรวบการค้นคว้าที่ศึกษาเล่าเรียนประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าผู้เจ็บป่วยสนองตอบต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดรักษาได้ดีขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่เมื่อตรวจสอบและลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับการทำให้มะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกจากนี้ จาการทวนงานศึกษาเรียนรู้พบว่ามีงานศึกษาวิจัย 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจสโมสรต่อการปรับแก้คุณภาพชีวิตของคนป่วยให้ และก็ในขณะเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงอาจจะบอกได้ว่า หลักฐานทางคุณลักษณะแล้วก็ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาเรียนรู้เป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแต่การทดสอบในคนป่วยบางกลุ่มเพียงแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นหัวข้อการค้นคว้าที่ควรจะจัดการทดลองต่อไปเพื่อให้ได้เห็นผลลัพ์ที่แจ้งชัดและมีประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลและรักษาคนป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต รวมทั้งการเจ็บป่วยในระบบทางเท้าปัสสาวะ
มีขั้นตอนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนเจ็บเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการเยี่ยวขัดข้อง ข้างหลังการทดสอบกว่า 12 อาทิตย์ คำตอบที่ได้เป็น ผู้ป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับเพื่อการวัดปัญหาในระบบฟุตบาทปัสวะของผู้ป่วยจากการตอบปัญหา แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงความเคลื่อนไหวคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ การทดลองดังที่กล่าวผ่านมาแล้วจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างแจ้งเพียงพอ จำเป็นที่จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่แน่ชัดสำหรับเพื่อการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลรักษาภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพอะไรก็ตามที่เกี่ยวพัน
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นโลหิตหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดลองด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้ป่วยเบาหวานจำพวก 2 เข้าร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะช่วยเหลือผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่พอเพียงสำหรับเพื่อการรับรองด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาเรียนรู้วิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงความสามารถของเห็ดหลินจือสำหรับในการลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อคุ้มครองป้องกันและก็การดูแลและรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจต่อไป รวมถึงให้ได้ความแน่ชัดชัดดเจนในด้านดังที่กล่าวถึงแล้วเยอะขึ้น อันเป็นผลดีต่อขั้นตอนการรักษาคุ้มครองโรคเส้นโลหิตหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องถัดไปในอนาคต
จำนวนที่เหมาะสมสำหรับการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งเด่นชัด เนื่องประสิทธิผลและก็ผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุนั้น ผู้บริโภค ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ขอความเห็นหมอหรือเภสัชกรก่อนการบริโรค เนื่องจากว่าถึงแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีแล้วก็ส่วนประต่างอาจส่งผลใกล้กันที่เป็นอันตรายต่อสถาพทางร่างกายได้เหมือนกัน

โดยธรรมดา จำนวนการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันเป็นต้นว่า
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นผู้ใช้ก็ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และหารือแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรระมัดระวังในด้านจำนวนแล้วก็รูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะบางทีอาจเป็นผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ในวันหลัง
โดยข้อพึงระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือได้แก่
ลูกค้าทั่วไป.......
-ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่พอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจส่งผลให้ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ยกตัวอย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์แพร่พันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะทำให้กำเนิดอาการแพ้
คนที่ต้องระวังสำหรับในการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมบุตร หากแม้ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้บริโภคนี้แต่ว่าผู้ที่มีท้องรวมทั้งคนที่กำลังให้นมลูกควรจะเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนรวมทั้งลูกน้อย
คนที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางรายที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะฉะนั้น เพื่อลดการเสี่ยง คนป่วยควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจทำให้ความดันเลือดต่ำลง ด้วยเหตุดังกล่าว คนเจ็บภาวการณ์ความดันเลือดต่ำจำเป็นจะต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุนี้คนไข้ภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์มีเลือดออกผิดปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก บางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ป่วยบางราย โดยยิ่งไปกว่านั้นในคนที่มีภาวะเลือกออกผิดปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ

8

ขิง
ข้อดีของสรรพคุณขิง
25 สรรพคุณดีๆของ’’ผลดีสำหรับเพื่อการรักษาโรค
1.ขิงสดช่วยลดความเจ็บปวดตามข้อ ลดอาการปวดเมื่อยกล้าม
2.ขิงมีคุณประโยชน์ช่วยสมานแผล ฆ่าเชื้อโรคในแผลได้
3.ขิงช่วยให้สบายท้อง ขับลม แก้ท้องผูก
4.ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียภายในร่างกาย ช่วยขับเสลด ทำให้หายใจสะดวก
5.ขิงช่วยแก้อาการเวียนหัว หน้ามืด อ้วก เมารถ เมาเรือ
6.ขิงช่วยสลายไขมัน รวมทั้งเป็นยาระบายอ่อนๆจึงแป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ขิงช่วยลดหุ่น ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลได้
7.ขิงช่วยทำนุบำรุงหัวใจ เหมาะกับคนป่วยโรคหัวใจ
8.ขิงช่วยแก้โรคลมพิษ แก้แพ้เกสรดอกไม้ รวมทั้งอาหารทะเลได้
9.คุณประโยชน์ของเนื้อขิงใหม่ๆทำมาทาแก้ผื่นคัน แก้แมลงกัดต่อยได้
10.ขิงช่วยบำรุงรักษาสายตา คุ้มครองป้องกันโรคตาแดง อาการน้ำในตามาก ตาฝ้าฟาง
11.ขิงเป็นสมุนไพรขจัดกลิ่น ช่วยลดกลิ่นตัว
12.ขิงมีคุณประโยชน์แก้ฟันเหลือง ฟันพุ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจะกว่าจะเข้ากัน เอามาอม กลัวปากเป็นประจำ แล้วลองสังเกตว่าอาการปวดจะค่อยๆน้อยลง
13.มีคุณประโยชน์ลดกลิ่นปากได้ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจนเข้ากัน เอามาอม กลั้วปากเป็นประจำ ช่วย จัดแจงกับแบคทีเรียในปาก ลดปัญหากลิ่นปากได้อย่างยอดเยี่ยม
14.ขิงช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ โดยให้ดื่มน้ำขิงบ่อยๆ แล้วทดลองสังเกตว่าลักษณะของการปวดจะค่อยๆต่ำลง
15.ขิงบรรเทาโรคประสาทลักษณะโรคประสาท การดื่มน้ำขิงจะช่วยลดความมัวมันของหัวใจ
16.ขิงช่วยการไหลเวียนของน้ำนมคุณแม่ให้ ควรจะเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสำหรับผู้หญิงให้นมบุตรเป็นอย่างดี
17.ขิงช่วยบรรเทาผู้ติดสิ่งเสพติดได้ โดยคุณประโยชน์ของขิงมีส่วนช่วยลดความอยากเสพสารเสพติด
18.คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิงช่วยต้านโรคมะเร็ง จากการวิจัยพบว่าสาระสำคัญในขิงช่วยต้านการเจริญเติบโตของเซลล์ของมะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม
19.ขิงช่วยควมคุมความดันโลหิตได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันสูง แล้วก็ ความดันต่อ ควรฝานขิงสดมาต้มกับน้า ดื่มเป็นประจำ จะช่วยควบคุมความดันให้ปกติ
20.สรรพคุณของขิงช่วยผ่อมคลาย ช่วยให้นอนหลับสบาย จึงเหมาะเป็นของกินสำหรับคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ
21.ขิงช่วยบำรุงผิวพรรณ โดยช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น กำจัดเซลลูไลท์
22.ใบเหลวดอกของขิงช่วยแก้อาการขัดฉี่ ป้องกันโรคนิ่วได้
23.ขิงช่วยรักษาอาการมือ เท้าเย็นได้ เพราะว่าขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยทำให้สมดุลในร่างกายได้
24.เหง้าขิงช่วยปกป้องการเกิดแผลในกระเพราะเหตุว่าของกินได้
25.ขิงช่วยแก้อึกได้โดยตำขิงสดให้แหลกคั้นเอาน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้ง น้ำอุ่น คนจนเข้ากันดื่มแก้สะอึกได้
การประยุกต์ใช้ทางคลินิก
1.บรรรเทาอาการเจียนรุนแรงใช้ขิงสดพอกที่จุดฝังเข็มไก่กวน(เหนือข้อมือใน 2 ชุ่น)ทิ้งเอาไว้ราวครึ่งชั่วโมงถึง  ชั่วโมงอาการจะ
2.บรรเทาอาการแผลในกระเพาะแล้วก็ลำไส้เล็กส่วนต้น ต้มขิงสดที่ตำอย่างถี่ถ้วนกับน้ำ 300 มิลลิลิตร นาน 30 นาที กินวันละ 3 เวลา ตรงเวลา 2 วัน ในคนป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ รวมทั้งลำไส้เล็กส่วนต้น พบว่าลักษณะของการปวดกระเพราะเหตุว่าน้อยลงหรือหายไป ความรู้สึกแสบท้องเวลาหิวดีขึ้น มากท้องผูก หรือขี้สีดำ (หมายความว่ามีเลือดออก)ปกติ ความอยากของกิน (พบว่าคนป่วยเหล่านั้นส่วนมากกลายเป็นซ้ำได้อีก ซึ้งบางทีอาจจะต้องรักษาตลอด หรือควบคุมสาเหตุอื่นๆร่วมด้วยจึงจะรักษาหายสนิทได้)
3.รักษาโรคบิด ใช้ขิงสด 75 กรัม น้ำตาลแดงตำเข้าด้วยกัน แบ่งกินเป็น 3 มื้อต่อตำหรับ
4.คุ้มครองป้องกันรักษาอาการเมารถ เมารือ
-ใช้ขิงสดเป็นแผ่นปิดที่จุดไน่กวน(เหนือข้อมือภายใน 2 ชุ่น(ใช้เหริยญ เงินขนาดพอเหมาะปิดทับแล้วก็ใช้ปลาสเตอร์หรือยางยืดรัดไว้
-ใช้ขิงสด 25 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาเฉพาะน้ำมันดื่ม (ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)
5.รักษาเยี่ยวรดที่พักผ่อนในคนป่วยที่มีภาวการณ์หยางพร่อง มีความเย็นภายในร่างกายเป็นเหตุ
ให้ใช้ขิง 30 กรัม(ตำ)ยาบริวารนพงฟู่จื่อ 6 กรัม ปู่กู่จื้อ 12 กรัม บดคลุกเคล้าให้เข้ากันขัดในแอ่งสะดือ ใช้ผ้าก๊อซสะอาดปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์ปิดให้แน่น
6.รักษาคอไส้อุดกันจากพยาธิตัวกลม
ใช้ ขิง [/b]สด 120 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้ง 120 กรัม กินครั้งเดียว หรือค่อยๆรับประทานหมดข้างในครึ่งชั่วโมง การทดลองในคนไข้ 64 คน พบว่าสามารถลดอุดกั้นของลำใส้ร้ยละ 96.8 ฤทธิ์สำหรับในการขับพยาธิร้อยละ 61.3
7.เป็นหวัดตัวร้อนไม่สบายเนื่องไข้เนื่อง จากกระทบความเย็น อาทิเช่น โดนฝน โดนลม ทำให้หนาว มีไข้ต่ำ ให้หั่นขิงฝอย 30 กรัม

ชงกับน้ำตาลทรายแดง หรือบางทีอาจใส่หัวหอมตี 3-4 (ช่วยกระจายลม)ดื่มขณะร้อนๆแล้วห่มผ้าให้เหงือออก
8.ฟื้นฟูร่างกายคราวหลังคลอดบุตร นิยมให้หญิงหลังคลอดลูก นิยมให้หญิงข้างหลังคลอดกินไก่ผัดขิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไก่ดำเพศผู้จะยิ่งมีหยางมากยิ่งกว่าไก่ตัวเมีย
ร่างกายของหญิงข้างหลังคลอดจะเสียพลังหยางรวมทั้งเลือด มีน้ำภายในร่างกายหลงเหลืออยู่มากมายการกินไก่ผัดขิงจะเสริมเลือดหยางช่วยทำให้การสรุปยดูดซับอาหาร มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคร่ำเจริญขึ้นทำให้ร่างกายกลับสู่สภาวะธรรมดาเร็วขึ้น
ข้อควรปฏิบัติตามในการทานขิง
-อาจทำให้เกิดภาวะแทรซ้อนสำหรับเพื่อการตั้งครรภ์ได้
มีบางการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนสำหรับเพื่อการมีครรภ์ และก็การแท้ง แม้กระนั้นสำหรับในการท้องรายอื่นๆนั้นๆไม่เจอการรับประทานขิงจะก่อให้เกิดอาการพวกนั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอาเจียนจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย โดยเหตุนั้นคุณควรจะไปขอคำแนะนำหมอก่อ่นจะที่ใช้ขิงในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตัวเอง
-นำมาซึ่งการก่อให้เกิดแผลร้อนในด้านในปากได้
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหารรับประทานเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะสามารถเยื่อบุข้างในโพรงปากมีการอักเสบกระทั่งเป็นอาการร้อนในได้ โดยเหตุนั้นไม่สมควรกินขุงมากจนเหลือเกิน
-ยั้งการแข็งตัวของเลือด
การศึกษาหนึ่งในหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณสำหรับในการต้านทานการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถานที่บันสุขภาพของออสเลียได้ออกการตักเตือนเตือนให้งดการกินขิงตอนที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดเนื่องจากจะก่อให้เกิดความเสี่ยงสำหรับการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ฉะนั้นถ้าหากว่าคุณมีอากเลือดออกเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติหรือหรือกำลังใข้ยาละลายลิ่มเลือด ควรจะหลีก เลียงการกินขิง
เมื่อรู้แบบงี้แล้ว หวังผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยบรรเทาอาการโรคต่างๆก็น่าจะต้องระวังตัวมากเพิ่มขึ้น
เพราะว่าครั้งคราวถ้าราใช้ ขิงสำหรับในการรักษาโรคหนึ่งแต่ว่าก็อาจช่วยกระตุ้นให้อีกโรคนั้นอาการไม่ดีขึ้นได้ ฉะนั้นควรจะรับประทานขิงอย่างละเอียด แต่ถ้าหากว่าไม่มั่นใจล่ะก็ ควรจะขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเสมอ

Tags : สมุนไพรขิง

9

น้ำมันเหลือง เป็นอย่างไร ?
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ทำจากพืชสมุนไพรจำพวกต่างๆกัน สรรพคุณที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อทุเลาอาการต่างๆคุณประโยชน์นี้ไม่เป็นรองยาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว
คุณประโยชน์ของการนวดน้ำมัน
น้ำมันเหลือง นวดจริงซึ่งก็คือการกระตุ้นเนื้อเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อสนับสนุนสุขภาพแล้วก็ฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมดทั้งปวง. น้ำมันนวดถูกดีไซน์มาเพื่อให้มือเลื่อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้นในระหว่างนวด แล้วก็ในขณะเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้มีความผ่อนคลายเยอะที่สุดสำหรับทั้งกายและใจ. อ่านถัดไปเพื่อหาข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับประโยช์จากการนวดน้ำมันและผ่อนคลายร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดมีชีวิตชีวา.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมันเหลือง, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่แตกต่างกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากจำนวนหลายชิ้นน้ำหอมรวมทั้งสีที่แตกต่างเพื่อให้บริการ. น้ำมันนวดบรรเทา, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถเจอได้ในตลาดท้องน้ำมันเหลืองเพื่อคุณสามารถเลือกที่เยี่ยมที่สุดสำหรับความจำเป็นและความจำนงของคุณ.
สรรพคุณของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีมากทีเดียว
บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
ทาแก้ผื่นผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ทาถูนวดอุ้งเท้า ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคริว ปวดสันหลังปวดบั้นท้าย ปวดหัวเข่า ปวดขา ฟกช้ำ ปวดกล้ามเนื้อ ดมกลิ่นแก้คลื่นไส้ ตาลาย หอบหืด แล้วก็ไซนัส
- ทุเลาอาการวิงเวียนหัว หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
- แก้เคล็ดลับปวดเมื่อย ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- ทุเลาอาการคัดจมูก เนื่องจากว่าหวัด
3.น้ำมันเหลือง ของ ช้อนทองคำมงคล มีสเตอรอยด์ไหม ?
น้ำมันเหลืองของช้อนทองคำมงคล ไม่มีสเตอรอยด์ ไม่มีสารเคมี ทำจากสมุนไพรไทย 100% จึงสามารถใช้ทาได้ทุกเพศทุกวัย สามารถใช้โดยจะนวดหรือไม่นวดก็ได้ ใช้แล้วไม่มีการสะสม ลูกค้าโดยมากจึงประทับใจ พอได้หาย และก็บอกต่อๆกัน

  • ใช้ยังไง ในแต่ละอาการปวด ?


เราชี้แนะกล้วยๆแค่ 2 ขั้นตอนหมายถึง"กด" + "ทา" โดยจะนวดไหมนวดก็ได้ ทาบริเวณที่มีลักษณะ
ปัจจุบันน้ำมันเหลืองได้รับความนิยมใช้อย่างล้นหลามมาก เพราะว่าคุณประโยชน์ไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันเลยทีเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาติจริงๆเพราะนอกจากจะรู้สึกไม่เป็นอันตรายแล้ว ใช้นานหรือบ่อยครั้งขนาดไหนก็ไม่เกิดการสะสม
คนใดกันแน่ที่ชอบใช้ น้ำมันเหลือง เป็นประจำห้ามพลาด ด้วยเหตุว่าวันนี้พวกเรานำน้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วๆไปนั้นมีการทำกันกลายสูตรมากมาย สุดแท้แต่ว่าคนใดถูกใจสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งหมดมักใช้แก้ปวด แก้วิงเวียน แก้ตะคิว รักษาหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้อาการท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรวิธีการทำกันเลย
อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร ดังเช่น ขวดบรรจุกาแฟ ขวดแก้ว
ขั้นตอนการทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนกระทั่งน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรทีละตัวทอดถึงแม้ว่าจะหมดฟองยกลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนผสม 3 จำพวก ในอัตราส่วนที่ระบุหมายถึง(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้ส่วนประกอบทั้งผองละลายเป็นของเหลว (หากไม่ใช่ไม้คนบางทีอาจใช้ขั้นตอนการเขย่าขวดให้ส่วนผสมละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
น้ำมันเหลืองผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ขยายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนเจริญขึ้น ทุเลาลักษณะของการเจ็บปวด รวมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เปิดเผยว่า ผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย จะทรมานจากอาการเจ็บปวดน้อยลง อ้วกน้อยครั้ง หรือเปล่าคลื่นไส้เลย รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น ความดันดีกว่าเดิม และก็เครียดจากลักษณะของการป่วยลดน้อยลง ภายหลังจากได้รับการบำบัดด้วยแนวทางนวด
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันเหลืองขึ้นอยู่กับการใช้แรงงาน รวมทั้งคุณประโยชน์ต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละจำพวก โดยส่วนใหญ่น้ำมันเบื้องต้นที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด เช่น น้ำมันที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากถั่วเหลือง และก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ รวมทั้งทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นเลือด คุ้มครองการเกิดโรคมะเร็ง นอกเหนือจากนั้นน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสถาพทางร่างกาย ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย
โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติ และคุณประโยชน์ที่นานับประการ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้

10

น้ำมันนวดสมุนไพร
ประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมัน
น้ำมันวด ถือเป็นหนึ่งในแนวทางบำบัดความเครียด ผ่อนคลายจิตใจ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทุเลาความเมื่อนล้า ยิ่งไปกว่านี้คุณคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิดที่ผสมอยู่ในน้ำมันนวดตัวของพวกเรานั้นนังสามารถทุเลาอาการต่างๆของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ที่ช่วยเรื่องระบบฟุตบาทหายใจ ทุเลาอาการหวัดคัดจมูกเมื่อเวลาสูดกลิ่น หรือเมื่อผสมเข้ากับน้ำมันก็จะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายผิว ที่ช่วยป้องกันแมลงรบกวน ฯลฯ
การนวดน้ำมันเป็นวิธีในการดูแลภาวะผิวและสุขภาพที่ขอชี้แนะเลย เป็นส่วนใหญ่จะการนวด ที่สกัดมาจากสมุนไพรแล้วก็พืชต่างๆโทนร้อนพอสมควร ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดยการนำสารสกัดกลิ่นรวมทั้งเนื้อน้ำมัน พวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกาย ด้วยกลิ่นหอมยวนใจแล้วก็รวมทั้งสัมผัสของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างของร่างกาย ลดความเครียด ทำให้เราบรรเทา รวมไปถึงช่วยเพิ่มความชื้นแล้วก็ผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้จ้ะพวกเราจะพาไปดูประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันกันว่า มีสาระด้านใดบ้าง
1.การนวดน้ำมันจะเข้าไปช่วยกระตุ้นลักษณะการทำงานของระบบประสาท ให้ทำงานได้ดิบได้ดีมากเพิ่มขึ้น ลดอาการเคร่งเคลียดให้เราผ่อนคลายจากการความเหน็ดเหนื่อยและความเมื่อยล้าสะสม
2.น้ำมั่นนวด กระตุ้นรูปแบบการทำงานของโลหิต ให้ดำเนินงานได้ดีมีคุณภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วก็สามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ ปกป้องโรคต่างๆรวมทั้งลดความดันเลือดได้ดีด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมและก็ฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ทำงานได้ดิบได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ทั้งยังในร่างกายและสภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนเปียกชื้น ดูมีน้ำมีนวลแล้วก็ชีวิตชีวามากเพิ่มขึ้น
5.ช่วยในเรื่องการนอนให้ดีขึ้นกว่าเดิม บรรเทาสมองและก็ร่างกายต่างๆมีผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีมากยิ่งกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี
ยิ่งไปกว่านี้การนวดน้ำมันยังมีประโยชน์อีกหลายชนิดต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งถือได้ว่าลู่ทางแก่คู่รักสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยมลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรนสำหรับคนที่เคยทรมาทรกรรมจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่หลายครั้ง แพทย์ก็ได้ชี้แนะให้ลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เนื่องจากจากผลการค้นคว้าของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า ผู้ที่มีอาการปวดศรีษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถบรรเทาอาการใกล้กันของโรคไมเกรน รวมทั้งนอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ


บรรเทาอาการกล้ามอักเสบจากการออกกำลังกาย


          ในช่วงเวลาที่ออกกำลังกายอย่างมาก ร่างกายจะได้รับผลกระทบเป็นลักษณะของการปวดเมื่อยล้า หรือกล้ามอักเสบเป็นของแถม ซึ่งการศึกษาของ Buck Institute for Research on Aging and McMaster University in Ontario, Canada ก็ได้เผยวิธีทุเลาอาการว่า ให้ทดลองไปเอนหลังรับบริการนวดตัวดูบ้าง ด้วยเหตุว่าการนวดจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เคร่งเคลียดจากการออกกำลังกายเจริญพอๆกับการรับประทานยาคลายกล้ามเนื้อยังไงยังงั้นเลยล่ะ
การนวด


ดูเด็กขึ้น


          ต่อไปนี้ไม่ต้องทุกข์ยากลำบากแอ๊บแบ๊วกระชากวัยอีกต่อไป เพราะเพียงแค่ไปสปาให้เขานวดๆบีบๆร่างกายอยู่บ่อยๆก็สามารถทำให้เรามองเด็กขึ้นได้แล้ว โดยผู้ที่มีความชำนาญด้านผิวหนังก็ได้อธิบายเพิ่มว่า การขัดหน้าหรือนวดหน้า รวมถึงนวดตัว เป็นการกระตุ้นให้เลือดภายในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งก็ทำให้สุขภาพผิวดียิ่งขึ้นด้วย ทั้งยังการนวดยังช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของต่อมท่อน้ำเหลือง ให้กำจัดพิษที่อยู่ใต้ผิวหนังให้หมดไป ทำให้สารอาหารและก็วิตามินต่างๆซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดิบได้ดีขึ้น ช่วยทำให้ผิวมองกระปรี้กระเปร่าเต่งตึงได้อีกครั้ง รวมไปถึงกำจัดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณผิวหน้าได้อีกด้วยนะ


คุ้มครองอาการ PMS


          ผู้หญิงทุกคนอาจจะรู้ดีว่าอาการ PMS ก่อนมีรอบเดือนนั้นสร้างความทรมาทรกรรมให้กับพวกเราได้มากมายขนาดไหน แต่วันนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจกับอาการกลุ่มนี้อีกต่อไป เนื่องจากผลการศึกษาวิจัยของ Touch Research Institute and University of Miami Medical School พบว่า การนวดตัวสามารถป้องกันอาการข้างๆทุกประเภทตอนที่เพศหญิงมีระดูได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการปวดหลัง เจ็บท้อง ตัวบวม น้ำหนักขึ้น หรืออาการรำคาญไม่พอใจ แต่แนวทางนวดบางครั้งอาจจะได้ผลดีกับผู้หญิงที่แก่ตั้งแต่ 19-45 ปี แค่นั้นนะคะ
นวดแผนไทย

  • ลดอาการข้างเคียงของโรคมะเร็ง ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ขยายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนก้าวหน้าขึ้น ทุเลาลักษณะของการเจ็บปวด รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ขยาย จะทรมานจากลักษณะการเจ็บปวดลดน้อยลง คลื่นไส้น้อยครั้ง ไหมอาเจียนเลย รู้สึกชื่นบานขึ้น ความดันดีมากยิ่งกว่าเดิม รวมทั้งเครียดจากอาการป่วยน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยแนวทางนวด
  • ทุเลาอาการปวดเรื้อรัง


          ผู้ที่มีความชำนาญทางกายภาพบำบัดรักษาได้เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองให้ฟังว่า คนที่มีลักษณะปวดเรื้อรัง เป็นต้นว่า ปวดตามข้อ โรคข้ออักเสบ และลักษณะของการปวดเมื่อยล้าเรื้อรังอื่นๆจะคลายอาการเจ็บปวดเหล่านี้ลงไปได้มาก หลังจากได้รับบริการนวดอย่างแม่นยำต่อเนื่องกันเพียงแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง เนื่องจากว่าการนวดได้อย่างตรงจุด จะช่วยบรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อในส่วนนั้นๆได้อย่างเร็ว ก็เลยสามารถบรรเทาลักษณะของการเจ็บปวดของกล้ามรอบๆนั้นได้อย่างทันใจนั่นเองจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้แรงงาน แล้วก็สรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละประเภท โดยส่วนใหญ่น้ำมันพื้นฐานที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด อาทิเช่น น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และทำลายของเสียที่ทำร้ายเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง นอกนั้นน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มสดชื่น โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณลักษณะ และก็คุณประโยชน์ที่นาๆประการ ขึ้นกับการเลือกใช้ให้เหมาะสมตามการใช้งาน

Tags : น้ำมันนวด

หน้า: [1]