รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Topics - uujuyjk01010205

หน้า: [1]
1

บัวบก
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญเติบโตในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบแล้วก็ลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของอินเดียแล้วก็จีนมาอย่างยาวนาน ใช้รักษาหลายโรค ตัวอย่างเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาเตรียมอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบบัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายอย่าง อาทิเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือตรีเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียว่ากล่าวโคไซด์ (Asiaticoside) กรดทวีปเอเชียว่ากล่าวก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) แล้วก็กรดมาดีติดอยู่สสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีคุณประโยชน์หลายสิ่งหลายอย่าง อย่างเช่น ทุเลาอาการอักเสบ แม้ใช้กินอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับความดันโลหิตในหลอดโลหิตดำ รวมทั้งประยุกต์ใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีสาเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆยกตัวอย่างเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาต์ โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด เป็นต้น นอกนั้น ยังมีความคิดกันว่าแม้ใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นสาระสำคัญสำหรับในการสมานรอยแผล ลดเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการมีท้อง แต่ว่าข้อรับรองหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากน้อยมีมากมายน้อยแค่ไหนที่จะช่วยยืนยันความเชื่อ สรรพคุณ และก็ความปลอดภัยของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรคพวกนี้
การรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยบำรุงและสร้างสมดุลสำหรับในการเจริญวัยของเนื้อเยื่อเกี่ยวข้อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นโลหิต ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยรวมทั้งเส้นเลือดขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยแก้ไขการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเล่าเรียนโดยการทบทวนการค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวเนื่อง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนเจ็บที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก และอาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้สารสกัดจากใบบัวบกอาจช่วยทุเลาอาการผู้เจ็บป่วยเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยบอกว่าบทสรุปข้างต้นต้องตีความหมายด้วยความระมัดระวังเพราะว่าข้อกำหนดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้วิจัย และยังจำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องแน่ใจและมีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นได้ แต่ยังมีหลักฐานช่วยเหลือไม่เพียงพอ
โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกบางทีอาจช่วยสำหรับในการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นโลหิตแดงแข็งที่ไม่ออกอาการกลุ่มหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกเป็นเวลา 6 เดือน รวมทั้งอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจค้นความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นโลหิต พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครอีกทั้ง 2 กรุ๊ปไม่มีความต่างกัน แม้กระนั้นในกลุ่มที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดต่ำลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอรวมทั้งขาลดลง รวมทั้งรูปแบบของพลัคทั้งความครึ้มรวมทั้งความยาวก็น้อยลงด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังไม่พบอาการที่ไม่พึงปรารถนา สามารถทนต่ออาการใกล้กันได้ แล้วก็มีการบันทึกผลของการตรวจเลือดเสมอๆ เนื่องด้วยหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังไม่เพียงพอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
คุ้มครองป้องกันลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุจากการโดยสารเครื่องบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาชี้แนะว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวแล้วก็เพิ่มการไหลเวียนเลือดในคนที่ขึ้นรถเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่แจ่มกระจ่างว่าการศึกษาชิ้นนี้จะหมายความว่าการลดการสะสมของลิ่มเลือด ด้วยเหตุว่าหลักฐานส่งเสริมคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่พอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในคนเจ็บโรคเบาหวาน การค้นคว้าวิจัยหนึ่งให้คนเจ็บโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยปริมาณ 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นหัวใจสำคัญ ขนาด 60 มก. 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกเป็นประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของคนเจ็บเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการวิจัยเกี่ยวกับสมรรถนะและก็ผลข้างเคียงของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งผู้เจ็บป่วยเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารทวีปเอเชียติเตียนโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม และอีกกลุ่มกินยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง รวมทั้งมีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนเจ็บที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากยิ่งกว่าและไม่พบผลกระทบ หรือเรียกได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีความสามารถสำหรับเพื่อการรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดผลข้างๆ แม้กระนั้นเนื่องจากว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการดูแลรักษาแผลเบาหวานยังไม่พอ จึงจึงควรศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก เป็นต้นว่า เอเชียว่ากล่าววัวไซด์ กรดเอเชียว่ากล่าวก มาเดแคสโซไซด์ และก็กรดมาดีติดอยู่สสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายรวมทั้งอาจมีประสิทธิภาพสำหรับในการรักษาแผลต่างๆทั้งแผลขนาดเล็ก แผลไฟไหม้ รอยแผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงรอยแผลแบบนูน ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้แนะนำว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน สม่ำเสมอนาน 6-8 อาทิตย์ อาจช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแผลยังไม่เพียงพอ จึงจะต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการมีครรภ์ ได้มีงานศึกษาวิจัยเสนอแนะให้ผู้ที่กำลังท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน เป็นประจำทุกวี่วันในช่วง 6 เดือนในที่สุดก่อนที่จะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกนั้น ยังมีการทดสอบโดยให้หญิงตั้งครรภ์ปริมาณ 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แต่ว่าเนื่องจากว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกกังวล การดูแลรักษาแบบหมอแผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการกลัดกลุ้มรวมทั้งความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนทดลองชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับความสามารถของใบบัวบกสำหรับในการลดความวิตกกังวล โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในจำนวน 12 กรัมหรือกินยาหลอก จากผลการทดลองทำให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต้านทานความรู้สึกหนักใจ ช่วยลดความเครียด แต่ว่ายังคงจำเป็นต้องเล่าเรียนเพิ่มเติมต่อไปถึงประสิทธิภาพของใบบัวบกสำหรับเพื่อการรักษาโรคตื่นตระหนก
โรคและอาการอื่นๆเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การต่อว่าดเชื้อทางเท้าเยี่ยว โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องร่วง ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจึงควรทำการศึกษาหาประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับในการรักษาถัดไป

ความปลอดภัยในการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการรับประทานใบบัวบกบางทีอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังมีครรภ์ หรือคนที่อยู่ในตอนให้นมบุตร เพราะยังไม่มีหลักฐานทางด้านการแพทย์เพียงพอที่จะเกื้อหนุนถึงเรื่องความปลอดภัยอีกทั้งต่อเด็ก มารดา หรือทารกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นต้นเหตุให้กำเนิดความทรุดโทรมต่อตับ ด้วยเหตุดังกล่าวผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรกินใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจทำให้อาการต่างๆห่วยลงได้ รวมทั้งไม่ควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มกลุ่มนี้ ดังเช่นว่า พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีป่ายปีน ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตว่ากล่าวน ฯลฯ
การรับประทานใบบัวบกในจำนวนมากอาจจะก่อให้รู้สึกง่วงงุนได้มากกว่าธรรมดา หรือถ้าหากกินร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกังวลใจน้อยลง อย่างเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และโซลพิเดม
ควรหยุดรับประทานใบบัวบกอย่างน้อย 2 อาทิตย์สำหรับผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ด้วยเหตุว่าอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับการผ่าตัดรวมทั้งอาจจะทำให้รู้สึกง่วงได้มากขึ้น
ควรจะขอคำแนะนำหมอก่อนรับประทานใบบัวบก ถ้าอยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เนื่องจากอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ประสงค์หากรับประทานใบบัวบกในระหว่างการรักษาของผู้ป่วยโรควิตกกังวล คนเจ็บโรคเบาหวาน คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาความกังวลใจน้อยลง และก็ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้กดประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ http://www.disthai.com/

2

บัวบก
บัวบก ชื่อสามัญ Gotu kola
บัวบก ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จัดอยู่ในวงศ์ผักชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE)
สมุนไพรบัวบก มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ เป็นต้น จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชีย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นฉุน มีรสขมหวาน
เมื่อกล่าวถึงบัวบก สมุนไพรจำพวกนี้ขึ้นมาทีไร คนจำนวนไม่น้อยอาจคิดไปว่ามันเพียงแค่ช่วยแก้อาการช้ำในเฉยๆ(ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แม้กระนั้นจริงๆแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีคุณประโยชน์มากมาย ด้วยเหตุว่าได้รับการเล่าขานเกี่ยวการรักษาโรคได้หลายอย่าง อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเสีย ท้องอืด แผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยบำรุงรักษาสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความอ่อนแรงของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายแบบ ดังเช่น บราโมซัยด์ บราไม่โนซัยด์ ไตรเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านการอักเสบ แล้วก็ยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม และกรดอะมิโน เป็นต้นว่า แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสครั้งดิน ฯลฯ
ใบบัวบกเหมาะสำหรับผู้ที่ขี้ร้อน มีภาวะแข็ง หรือมีความร้อนชื้น ด้วยเหตุว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
บัวบกคุณประโยชน์ซึ่งมาจากใบบัวบกประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากใบบัวบก
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากใบบัวบก
บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แม้กระนั้นมีระดับสารออกซาเลตที่เกิดอันตรายต่อร่างกายในจำนวนต่ำ
ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุแล้วก็วัย
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยสร้างเสริมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากใบบัวบก ช่วยบำรุงรักษาและก็รักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เนื่องจากบัวบกมีวิตามินเอสูง
ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการใช้ใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นเอาแต่น้ำเอามาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
ช่วยบำรุงรักษาประสาทและสมองเหมือนใบแปะก๊วย
ช่วยให้ความจำดีขึ้นรวมทั้งทำให้มีปฏิภาณความเฉลียวฉลาดเยอะขึ้น
ช่วยเพิ่มความจำในคนวัยชรา
เชื่อว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มไอคิว ความฉลาด แล้วก็ความสามารถสำหรับการเรียนรู้
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยชะลออาการของโรคโรคสมองเสื่อมในคนวัยแก่ สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงลืมระยะสั้นได้
ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
ช่วยเพิ่มความสามารถสำหรับในการตัดสินใจเฉพาะหน้า
ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ปวดหัวฝ่ายเดียว
ช่วยแก้อาการตาลายศีรษะ
ช่วยเครียดน้อยลง
ช่วยเสริมหลักการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ ก็เลยช่วยผ่อนคลายและทำให้หลับง่ายขึ้น
ช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดิบได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยกระตุ้นการผลิตเยื่อใหม่
ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
ช่วยบำรุงเลือดภายในร่างกาย
ช่วยบำรุงหัวใจ
ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ช่วยให้จิตใจชื่นบาน อารมณ์แจ่มใส
ช่วยทำให้หน้าตาผ่องใสเสมือนเป็นวัยรุ่น
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
ช่วยบำรุงเสียง
ช่วยรักษาลักษณะการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดโดยประมาณ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเพิ่มน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบกินเป็นประจำ
ช่วยแก้อยากดื่มน้ำคุณประโยชน์ใบบัวบก
ใบบัวบกมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
ใบบัวบกมีสารยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์ของมะเร็ง ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง
ช่วยรักษาโรคโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้เจ็บป่วยเบาหวานเจริญ
ช่วยรักษาโรคดีซ่านจากภาวการณ์ร้อนชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลก้อนกรวด 30 กรัม ต้มน้ำดื่ม
ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
ช่วยถนอมอาหารหืด
ช่วยรักษาโรคความดันเลือดสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วเอามาดื่ม หรือจะใช้บัวบกสดๆทั้งต้นประมาณ 30 กรัมนำมาค้นเอาน้ำ เพิ่มเติมน้ำตาลเล็กน้อยแล้วดื่มกินราวๆ 5-7 วัน
ช่วยรักษาโรคลมชัก
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในระยะเริ่มต้น ด้วยการใช้บัวบกและก็เปลือกของลูกหมาก 1 ผล นำมาต้มกับสุราดื่ม
ช่วยแก้คนเป็นบ้า
ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
ช่วยลดระดับความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นโลหิต และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสลด
ช่วยแก้อาการอ่อนแรง เหน็ดเหนื่อย
ช่วยแก้ไข้
ช่วยห้ามเลือดกำเดา ด้วยเหตุว่าทำให้เลือดเดิน แต่เลือดจะไม่ออกจากเส้นเลือดและก็ยังเป็นเหตุให้อำมหิตอีกด้วย
ช่วยแก้อาการช้ำใน เจ็บจากการกระทบชน
เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
ช่วยทำให้เจริญอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น
ช่วยแก้อาการท้องเสีย
สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์ปกป้องแล้วก็ยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดปนเมื่อขับถ่าย
ช่วยรักษากระเพาะเป็นแผล
ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
ใช้เป็นยาขับฉี่
แก้อาการเยี่ยวติดขัด ด้วยการใช้ใบบัวบกราว 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกรอบๆสะดือ เมื่อเยี่ยวคล่องแคล่วดีแล้วค่อยคัดแยกออก
ช่วยขับความร้อนชื้นทางเท้าฉี่ คุ้มครองการเกิดนิ่ว
ช่วยรักษาโรคนิ่วทางเดินเยี่ยวด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำแช่ข้าวครั้งที่ 2 แล้วนำมาดื่ม
ช่วยรักษาอาการมีหนองออกจากปัสสาวะ
ช่วยแก้อาการน้ำดีในร่างกายมากจนเกินไป
ช่วยรักษาโรคม้ามโต
ช่วยรักษาอาการติดโรคของเชื้อไวรัสตับอักเสบ
แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการกางใบสดโดยประมาณ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วเพิ่มขึ้น ช่วยรีบการสร้างเนื้อเยื่อ
ช่วยแก้อาการบวมช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาตีให้แหลกแล้วนำมาโปะบริเวณที่บวมช้ำ หรือจะใช้ใบบัวบกโดยประมาณ 40 กรัม ต้มกับสุราแดงราวๆ 250 cc. ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วเอามาดื่ม
ใช้บัวบกตำเอามาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกเอามาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกบริเวณที่เป็น
ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆดังเช่นว่า โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด ฝึก ฯลฯ
ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดหนอง
ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้อย่างดีเยี่ยมแล้วก็ใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
ใช้เป็นยาถอนพิษ ช่วยลดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟเผาน้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งยังต้นสดของบัวบกประมาณ 3 ต้นเอามาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟเผา
บัวบกมีการเอามาสร้างเป็นแคปซูลวางจำหน่าย มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการช่วยทำนุบำรุงสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
ปัจจุบันนี้มีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในแบบเป็นผงใช้โรยแผล แล้วก็ในรูปแบบเม็ดรับประทานเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟลุก น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ รวมทั้งยังช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดแผลอีกด้วย
ช่วยแก้อาการก้างปลาติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆกลืนน้ำลงคอ
ใบรวมทั้งเถาบัวบกใช้กินเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
น้ำคั้นจากใบบัวบกนำมาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ทาหัว มีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยให้เส้นผมดกดำ จัดการกับปัญหาผมหล่น ผมหงอกก่อนวัย
น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัดสารพัน
สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณลักษณะช่วยลดการระคายเคืองผิวรวมทั้งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย
สารสกัดจากใบบัวบกมีการประยุกต์ใช้เพื่อเป็นส่วนผสมสำหรับในการผลิตเครื่องสำอาง
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นสิ่งของปิดแผล
ลบรอยตีนกาตื้นๆด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วรอบๆหางตาหรือทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ราว 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรทาทุกวี่ทุกวันก่อนนอน
มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างขาวใส ผิวหน้าเต่งตึงได้

กระบวนการทำน้ำบัวบก
วิธีการทำน้ำบัวบกขั้นตอนการทำน้ำบัวบก ควรที่จะเลือกใช้ใบบัวบกที่แก่กว่า กินเป็นผักสด โดยใช้ทั้งยังรากนำมาล้างน้ำทำความสะอาด
ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนนำมาบด
คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บด แล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำที่สองเพื่อให้ได้ตัวยาสมุนไพรที่ยังเหลืออยู่ (ควรใช้น้ำสะอาด และห้ามใช้น้ำร้อนหรือนำน้ำที่คั้นได้ไปต้ม)
กรองน้ำบัวบกด้วยผ้าขาวบางห่างๆ(แบบผ้ามุ้ง ถี่มากจะกรองไม่ได้)
ข้างหลังกรองจะมีกากให้ทิ้งไป ให้รินเฉพาะน้ำส่วนใสๆมาดื่ม
น้ำบัวบกจำต้องคั้นใหม่ๆจากใบใหม่ๆและไม่ควรเก็บน้ำที่คั้นได้ไว้นานหรือควรจะแช่เย็นเก็บไว้
น้ำเชื่อมถ้าเกิดทำมาจากน้ำสุกใบเตย จะก่อให้น้ำบัวบกอร่อยมากขึ้น
คุณประโยชน์ของน้ำใบบัวบกช่วยแก้ร้อนใน ช้ำใน
ไข่เจียวบัวบก
ใบบัวบกวัตถุดิบที่ต้องเตรียมเช่น บัวบกสด 20 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำปลาบางส่วน / น้ำมันพืชสำหรับใช้ทอด
นำบัวบกมาล้างจนกระทั่งสะอาดแล้วหั่นตรอกเป็นชิ้นเล็กๆ
นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เพิ่มเครื่องปรุงต่างๆ
นำใบบัวบกที่ตรอกแล้วผสมลงไปในไข่ คนจะกว่าจะเข้ากัน
เอามาทอดในไฟอ่อนกระทั่งไข่สุก
คุณประโยชน์ช่วยทุเลาอาการปวดหัว รวมทั้งหน้ามืดหัว
ข่างปองบัวบก (บัวบกชุบแป้งทอด)
จัดแจงวัตถุดิบดังต่อไปนี้ บัวบกสด / ไข่ไก่ / แป้งทอดกรอบ / กระเทียมหั่นหยาบคาย / หอมแดงหั่นหยาบคาย / เกลือ / พริกไทยป่น
นำบัวบกสดที่ได้มาล้างชำระล้าง แล้วหั่นหยาบๆให้พอดีคำ
นำแป้งที่ใช้สำหรับในการทอดกรอบมาผสมกับไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง พริกไทย แล้วก็เกลือ ผสมเข้าด้วยกัน
นำบัวบกที่หั่นจัดเตรียมไว้ เอามาชุบกับแป้งที่ผสมไว้
หลักแล้วหลังจากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน
แล้วจึงน้ำบัวบกที่ชุบแป้งแล้ว นำมาทอดให้พอเหลืองกรอบแล้วชูลงให้สะเด็ดน้ำมัน
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย นำมาจิ้มรับประทานกับน้ำจิ้มไก่ได้เลย
คุกกี้บัวบก
ให้จัดแจงวัตถุดิบดังนี้ บัวบกหั่นละเอียด 2 ถ้วยตวง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แป้งสารพัดประโยชน์ 2 ถ้วยตวง / เนยสดรสเค็ม 2 ถ้วยตวง / น้ำตาล 1.1/2 ถ้วยตวง / ผงฟู 2 ช้อนชา / กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
นำใบบัวบกมาล้างทำความสะอาดแล้วหั่นอย่างรอบคอบ โดยตัดก้านและก็ใบออกจากกัน ก้านให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆส่วนใบเอามาเรียงซ้อนกันแล้วหั่นตามขวางและกลับมาหั่นอีกข้าง แล้วพักไว้
นำแป้งและผงฟูมาร่อนผ่านตะแกรง 2 รอบ แล้วพักไว้
นำเนยสดมาตีให้กับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟู ประมาณ 1 นาที
ใส่ไข่ไก่และก็กลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีให้เหมาะ
เบาๆใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปทีละเล็กทีละน้อย (ทีละ 1 ส่วน 3 ของแป้งทั้งสิ้น) แล้วตีแป้งให้กับส่วนผสมทั้งหมด
นำบัวบกที่หั่นละเอียดแล้วใส่ลงไปในแป้ง แล้วผสมเข้าด้วยกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากันอีกรอบ
นำไปอบในตู้อบ โดยวางใส่ถาดที่ทาเนยหรือกระดาษทนไฟ ซึ่งจะต้องตักแป้งให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ
ใช้เวลาอบประมาณ 6-8 นาที ด้วยอุณหภูมิประมาณ 250 องศา หรือมองว่าขอบเริ่มเหลืองก็เป็นอันใช้ได้แล้ว เสร็จแล้ว คุกกี้บัวบก
แนวทางการทำน้ำมันบัวบก
เตรียมส่วนผสมดังนี้ บัวบก 4 กิโล / น้ำมันที่ทำจากมะพร้าว 1 ลิตร / น้ำที่สะอาด 1 ลิตร
นำบัวบกมาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
เพิ่มน้ำลงไปในบัวบก และจากนั้นจึงนำไปปั่นจนกระทั่งละเอียด
เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำบัวบกที่ได้จากการปั่น
นำน้ำบัวบกที่กรองได้ไปต้มกับน้ำมันที่ทำจากมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนๆราว 80 องศาเซลเซียส
เคี่ยวไปเรื่อยๆจนเหลือแต่น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าว โดยให้พินิจลักษณะกากของน้ำมัน จะมีลักษณะแห้งแบบทราย นับว่าเป็นอันใช้ได้ ชูลงจากเตาแล้วกรองเอาน้ำมัน เป็นอันเสร็จ
การใช้น้ำมันบัวบก
ใช้น้ำมันที่ได้เอามาชโลมเส้นผม แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ
นวดเสร็จแล้วให้หมักทิ้งไว้ราวๆ 30 นาที
ครบเวลาแล้วให้สระผมด้วยน้ำอุ่นพร้อมแชมพูตามเดิม เป็นอันเสร็จ
น้ำมันบัวบก สรรพคุณช่วยบำรุงรักษาหนังศีรษะและก็เส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ แก้ไขปัญหาผมตก ผมหงอกก่อนวัย
คำเตือนรวมทั้งคำเสนอแนะ
คุณประโยชน์ของใบบัวบกการกินใบบัวบกคุณควรจะพิเคราะห์ฐานรากของร่างกาย อย่าดูแต่คุณประโยชน์เพียงอย่างเดียว
บัวบกไม่เหมาะสมกับคนที่มีสภาวะเย็นพร่อง หรือขี้หนาว ท้องเฟ้อบ่อยๆ
การรับประทานบัวบกในปริมาณที่มากเกินไป จะมีผลให้ธาตุในร่างกา
http://www.disthai.com/

3

สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ชื่อวงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acanthus ebracteatus Vahl
ชื่อพ้อง : Acanthus ilicfolius L. ; Acanthus ilicfolius L. var intergrifolia T.Anderson
ชื่อสามัญ : Sea holly
ชื่อพื้นบ้านอื่น : แก้มแพทย์, แก้มหมอเล (กระบี่) ; จะเกร็ง, นางเกร็ง, เหงือกปลาหมอ, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน (ทั่วไป) ; อีเกร็ง (ภาคกึ่งกลาง)
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงราว 30-100 ซม. ลักษณะลำต้นเป็นข้อ แข็ง รวมทั้งมีหนามอ่อนๆตามข้อๆละ 4 หนาม
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้ามกันเป็นคู่ๆสีเขียวเข้ม ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขอบของใบเว้าหรือเรียบ แล้วก็มีหนามแหลม ปลายใบแหลม มีก้านใบสั่นๆ
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกเป็นช่อตั้งชันที่ยอด ช่อดอกยาว กลีบรองกลีบดอกไม้ มี 4 กลีบ แยกจากกันสีเขียวอ่อน กลีบสีขาว สีขาวขริบฟ้า หรือสีฟ้าอมม่วง แยกเป็น 2 ทาง กลีบบนยาวพอๆกับกลีบรองกลีบดอก แต่ว่ากลีบล่างแผ่กว้างและโค้งลง ปลายกลีบหยักเว้าเป็น 3 หยักตื้นๆ
ผล เป็นฝักสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน มีเม็ดด้านใน 4 เม็ด
นิเวศวิทยา
เป็นไม้กลางแจ้ง มีอยู่ทั่วไปในป่าชายเลน ตามที่ลุ่มริมแม่น้ำคลอง ส่วนมากชอบขึ้นในที่น้ำกร่อย บางคราวก็พบในน้ำจืดบ้างเช่นเดียวกัน
การปลูกและก็แพร่พันธุ์
เติบโตได้ดิบได้ดีในดินดูเหมือนจะทุกชนิด ความชุ่มชื้นปานกลาง เพาะพันธุ์ด้วยการเพาะเม็ด
ผลดีทางยา
รสรวมทั้งสรรพคุณในแบบเรียนยา
ต้น รสเค็มกร่อย แก้อาการผื่นผื่นคัน
ใบ รสเค็มกร่อย รักษาโรคปวดบวมแล้วก็แผลอักเสบ แก้ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ท้องเฟ้อ หมอแผนไทยตามชนบทใช้ทั้ง 5 เป็นยาแก้ไข้หัว พิษฝี พิษรอยแดงเจริญ แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ปรุงกับฟ้าทลายโจรรมหัวริดสีดวงทวาร โขลกใบผสมกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาแก้อาการตาเจ็บหรือตาแดง
ผล รสเค็มกร่อย ใช้เป็นยาขับเลือดอย่างแรง แล้วก็แก้ฝีซาง ฝีตาน
ในประเทศประเทศอินเดีย ใช้ยอดแล้วก็ใบอ่อนตำผสมน้ำน้อยปิดแผลที่ถูกงูกัด อีกทั้งต้นใช้รักษาแก้โรคที่เกี่ยวกับหลอดลมและก็แก้ไอ และนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาธาตุพิการ
ในประเทศสิงคโปร์ ใช้เม็ดเป็นยาแก้ไอ โดยต้มเม็ดกับดอกมะเฟืองหรือดอกตะลิงปลิง แล้วเพิ่มเปลือกอบเชย แล้วก็น้ำตาลกรวด จิบแก้ไอ เมล็ดบดเป็นผุยผงใช้พอกแก้ฝี หรือนำไปคั่วแล้วป่นละลายน้ำดื่มแก้ฝี ฝักต้มกินเป็นยาขับเลือด แล้วก็แก้ฝี รากต้มเป็นยาดื่มแก้โรคงูสวัด
วิธีและจำนวนที่ใช้
รักษาโรคผิวหนัง แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย โดยใช้ต้นและใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด สับเป็นชิ้นนำไปต้มน้ำ แล้วก็ใช้น้ำอาบ รุ่งเช้า-เย็น เป็นเวลา 1 อาทิตย์
ข้อควรจะทราบ
เหงือกปลาหมอมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท เป็น
เหงือกปลาหมอ Acanthus ilifolius L. หรือ Acanthus ilifolius L. var intergrifolia T.Anderson ลักษณะจะมีดอกสีฟ้าอมม่วง มีประสีเหลืองตรงกลางกลีบ มีใบแต่งแต้มสีเขียวอีก 2 กลีบ รองรับดอกอยู่เสมอไป
เหงือกปลาหมอ Acanthus ebracteatus Vahl ลักษณะจะมีดอกสีขาวออกจะเล็ก มีใบประดับประดารองรับช่อดอก แม้กระนั้นหล่นหลุดไปก่อน
สรรพคุณของเหงือกปลาแพทย์
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดี เส้นเลือดไม่ตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคลุกผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าถ้าหากรับประทานติดต่อกัน 1 เดือน จะมีผลให้ปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ชนิด หูดี / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่รู้อ่อนแรง / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงเพราะ / 9 เดือน หนังเหนียว (ต้น, ราก)
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลาหมอ[/url]มีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุไม่ปกติ (ต้น)
ช่วยให้เลือดลมปกติ (ต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยให้เจริญอาหาร (ทั้งยังต้น)
ช่วยแก้โรคกระษัย อาการผ่ายผอมเหลืองหมดทั้งตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผงรับประทานแต่ละวัน (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนตลอดตัว เจ็บระบบทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนศีรษะ หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอและเปลือกมะรุมอย่างละเสมอกัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือนิดหน่อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำเดือดกระทั่งงวดแล้วยกลง เมื่อเสร็จให้อั้นลมหายใจกินขณะอุ่นๆจนหมด อาการก็จะดียิ่งขึ้น (อีกทั้งต้น)
ช่วยยับยั้งมะเร็ง ต้านทานโรคมะเร็ง (ต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมออีกทั้งต้นแล้วก็อาหารเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ในรูปทรงที่เสมอกัน เอามาต้มกับน้ำกระทั่งเดือดแล้วนำมาดื่มในขณะอุ่นๆทีละ 1 แก้ว ตอนเช้า ช่วงเวลากลางวัน เย็น อาการจะ (ทั้งต้น)
รักษาปอดอักเสบ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดหัว (ต้น)
รากช่วยแก้และก็บรรเทาอาการไอ หรือจะใช้เมล็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้เหมือนกัน (ราก, เมล็ด)
ช่วยแก้โรคหืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นมัวแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ทั้งต้นรวมถึงรากเอามาต้มอาบแก้อาการ (ทั้งต้น)
แก้อาการไอ เม็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด เอามาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เมล็ด)
ช่วยขับเสมหะ (ราก)
ถ้าหากเป็นลม ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างถี่ถ้วนเป็นผุยผงแล้วนำมาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้อีกทั้งต้นและพริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ต้น)
ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย เอามาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายโจร ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับฉี่ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดระดูขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ใบและต้นนำมาตำเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทานแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้ระดูมาไม่ปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งต้นนำมาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (ทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการใช้ใบเอามาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตพิการ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)

ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เมล็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนและพริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนรับประทานก็ได้ (เม็ด, ผล, ทั้งต้น)
ช่วยฟอกโลหิต ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยรักษาแผล ด้วยการใช้ต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (ต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น เอามาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
สำหรับคนป่วยเอดส์ที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง หากใช้ต้นมาต้มอาบและทำเป็นยารับประทานต่อเนื่องกันประมาณ 3 เดือนจะช่วยให้อาการของแผลพุพองบรรเทาลงอย่างแจ่มแจ้ง (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่าดง รักษากลากเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคเรื้อน คุดทะราด ด้วยการใช้ทั้งต้นเอามาตำมัวแต่น้ำดื่ม (ทั้งต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดและก็ใบสดล้างสะอาดราว 3-4 กำมือ นำมาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันต่อเนื่องกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ลมพิษ (ต้น)
รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง โรคฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกชนิดทั้งยังด้านในข้างนอก ด้วยการใช้ต้นและใบทั้งสดและแห้งราว 1 กำมือ นำมาบดให้ถี่ถ้วน แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือวิธีที่สองจะเอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วเอามาดื่มก่อนอาหารทีละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ราวๆ 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เม็ดเอามาคั่วให้ไหม้เกรียมแล้วป่นอย่างระมัดระวัง ชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เมล็ดใช้ปิดพอกฝี (เมล็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน คุณประโยชน์ช่วยถอนพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำอย่างรอบคอบ สามารถใช้พอกบริเวณแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกหมดทั้งตัว ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอ1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผุยผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (ต้น)
ต้น ถ้าเกิดนำมาใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาหมดทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะการเจ็บข้างหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศนำมาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนกิน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบปรับแก้ข้ออักเสบและแก้อาการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบเอามาทาให้ทั่วหัว จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ) http://www.disthai.com/

4

ตะไคร้บ้าน
ตะไคร้ สรรพคุณ
"ตะไคร้" (Lemongrass) เป็นสมุนไพรก้นครัวที่พวกเรารู้จักและรู้จักกันมานาน เนื่องจากในของกินไทยหลายอย่างมักใส่ตะไคร้ลงไปเป็นเยี่ยมในเครื่องปรุงด้วยเสมอ อาทิเช่น ต้มยำ ต้มข่าไก่ ยำ น้ำพริกต่างๆช่วยเพิ่มรสชาติแล้วก็คุณประโยชน์ให้กับอาหาร ส่งกลิ่นหอมเชิญชวนกิน จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในของกินเหล่านี้ นอกเหนือจากนี้ยังมีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะบุคคลจากน้ำมันหอมระเหย ทำให้ตะไคร้ถูกใช้ประโยชน์เป็นกลิ่นในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมาก ทั้งยังน้ำมันหอยระเหย น้ำมันทาตัว ยาจุดกันยุง สบู่ต่างๆ
ตะไคร้ จัดเป็นไม้ล้มลุกที่จัดอยู่ในวงศ์หญ้า มีหลายประเภท นอกเหนือจากนำไปปรุงอาหารแล้วและก็ทำเป็นยาสมุนไพรแล้ว ตะไคร้บางประเภทยังช่วยไล่ยุงมดแมลงได้อีกด้วย ก็เลยจัดเป็นพืชผักสวนครัวที่อยู่คู่กับคนประเทศไทยมาช้านาน หลายบ้านก็เลยนิยมนำมาปลูกไว้ในบ้าน จะใช้เมื่อไหร่ก็ตัดมาใช้ได้ในทันที
ตะไคร้จัดเป็นสมุนไพรที่ซ่อนคุณค่าไว้ล้นหลาม ด้วยเหตุว่าเป็นของกินแล้วก็ยารักษาโรค มีวิตามินและแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส และก็โฟเลต คุณภาพคับแก้วขนาดนี้ผู้ที่เกลียดชังตะไคร้ทดลองเปลี่ยนความคิดกันใหม่ หันมาถูกใจตะไคร้ให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะได้ประโยชน์มากมายแน่ๆ
ตะไคร้หอมไล่ยุงได้ใช่หรือ?
ในตะไคร้หอม มีน้ำมันหอยละเหยอยู่ซึ่งมีฤทธิ์ในการปกป้องแมลงได้ โดยครีมที่มีส่วนผสมจากน้ำมันหอมละเหยในตะไคร้สามารถป้องกันยุงลาย ยุงก้นปล่อง รวมทั้งยุงหงุดหงิดกัดได้ ยิ่งไปกว่านี้ยังฤทธิ์ในการกำจัดลูกน้ำยุงได้อีกด้วย
นอกจากยุงแล้ว สารสกัดจากตะไคร้หอมยังช่วยป้องกันแมลงประเภทอื่น เป็นต้นว่า ถ้าหากผสมสารสกัดตะไคร้กับสะเดาจะมีผลช่วยลดเพลี้ยอ่อนรวมทั้งหนอนเจาะฝักซึ่งเป็นศัตรูของถั่วฝักยาว ส่วนยาสระผมที่มีส่วนผสมจากตะไคร้หอม สามารถฆ่าเห็บหมัดในสัตว์เลี้ยงได้
ลักษณะ
ลำต้นรูปทรงกระบอก แข็ง สะอาด ตามบ้องมักมีไขปกลุกลม เหง้า มีข้อและบ้องสั้นมาก กาบใบสีขาวนวล หรือสีขาวผสมม่วง รสปร่า  มีกลิ่นหอมหวนเฉพาะ
คุณประโยชน์
– ต้น : ใช้เป็นยารักษาโรคหือหอบ แก้ปวดท้อง ขับฉี่ และก็แก้อหิวาต์ นอกนั้นยังใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น รักษาโรคได้ ได้แก่ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และก็ขับเหงื่อ
– ใบ : ช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข้
– ราก : ใช้เป็นยาปรับแก้ ปวดท้อง ท้องเสีย
– ต้น : ใช้เป็นยาขับลม ยาแก้เบื่อข้าว แก้โรคทางเดินฉี่ นิ่ว เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้ก้าวหน้า นอกนั้นยังคงใช้ดับกลิ่นคาวได้ด้วย
– น้ำมัน : มีฤทธิ์ต้นเชื้อรา รวมทั้งมีกลิ่นไล่สุนัขแล้วก็แมว
ตำรายาไทย : ต้น รสหอมปร่า ขับลม ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อแน่นจุกเสียด แก้อาการเกร็ง ขับเหงื่อ แก้โรคทางเท้าฉี่ แก้อาการขัดเบา แก้นิ่ว แก้ฉี่เป็นเลือด ทำให้เจริญอาหาร ลดความดันโลหิต เหง้า แก้ไม่อยากกินอาหาร บำรุงไฟธาตุ แก้กษัย ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้เยี่ยวขัด แก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว เป็นยารักษาโรคเกลื้อน แก้ไข้หวัด ขับประจำเดือน ขับระดูขาว ใช้ข้างนอกทาแก้ลักษณะของการปวดบวมตามข้อ
ตะไคร้หอม
ตะไคร้ คุณประโยชน์
ลักษณะ
ลำต้นเป็นข้อๆใบรูปขอบขนานปลายแหลม ใบยาวกว่าตะไคร้บ้าน รูปแบบของใบกว้าง 5-20 มิลลิเมตร ยาวราวๆ 50-100 ซม. แผ่นใบแคบ ยาว และนิ่มกว่าตะไคร้บ้าน มีสีเขียว ผิวเกลี้ยง แล้วก็มีกลิ่นหอมเบื่อ ก้านใบเป็นกาบซ้อนกันแน่นสีเขียวผสมม่วงแดง รากฝอยแตกออกจากโคน ต้นและใบมีกลิ่นแรงจนกระทั่งกินเป็นของกินมิได้ ทั้งยังต้น มีรสปร่า ร้อนขม

คุณประโยชน์
– ต้น : ใช้เป็นยาแก้ปากแตกระแหง แก้ริดสีดวงในปาก ขับลมในไส้ แก้แน่น ขับเลือดระดู มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเรียบบีบตัว ไม่เหมาะสมกับสตรีตั้งท้อง เนื่องจากแม้ทานเข้าไป อาจจะเป็นผลให้แท้งได้
– ใบ : ใช้เป็นยาคุม ชำระล้างไส้ ไม่ให้เกิดซาง
– ราก : แก้ลมจิตรวาด หัวใจ วุ่นวายใจ ฟุ้งซ่าน
– ต้น : แก้ลมพานไส้ แก้ธาตุ แก้เลือดลมไม่ปกติ
– น้ำมัน : ใช้ทาปกป้องยุง มีฤทธิ์ไล่แมลง แล้วก็ใช้รักษาโรคตัวเห็บหมา
ตำราเรียนยาไทย : ใช้ เหง้า เป็นยาบีบมดลูก ทำให้แท้งลูกได้ คนตั้งครรภ์ห้ามรับประทาน นอกจากนี้ยังคงใช้ขับประจำเดือน ขับปัสสาวะ ขับตกขาว ขับลมในลำไส้ แก้แน่น แก้แผลในปาก แก้ตานซางในลิ้นและปาก บำรุงไฟธาตุ แก้ไข้ แก้อาเจียน แก้ริดสีดวงตา แก้ธาตุ แก้เลือดลมไม่ปกติ
เหง้า ใบ รวมทั้งกาบ เอามากลั่นได้น้ำมันหอมระเหย ใช้เป็นเครื่องหอม เป็นต้นว่า สบู่ หรือพ่นทาผิวหนังกันยุง แมลง ต้น มีรสปร่า ร้อนขม แก้ริดสีดวงในปาก
ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้
– น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้บ้าน ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว เบิกบานใจ ทำให้แคล่วคล่องว่องไว ความเครียดน้อยลง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยสำหรับการย่อยของกิน ช่วยเจริญอาหาร บรรเทาอาการปวดโรคข้ออักเสบ ปวดกล้าม
-น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากใบตะไคร้ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี และก็ช่วยลดการบีบตัวของไส้ได้
ข้อพึงระวัง
ตะไคร้มีฤทธิ์ที่จะช่วยขับโลหิต ทำให้มดลูกบีบตัว ห้ามใช้กับหญิงท้องเพราะว่าอาจก่อให้แท้งได้

5

หอมแดง
ชื่อสมุนไพร  หอมแดง
ชื่ออื่นๆ/ชื่อแคว้น หอมไทย,หอมเล็ก,หอมหัว หอมแดง(ภาคกลาง), หอมปั่ว ,หมอแดง (ภาคเหนือ) , หัวหอมแดง (ภาคใต้) , ฝักบั่ว (ภาคอีสาน) , ปะเซ้ส่า (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ปะเซอก่อ (กะเหรี่ยง-ตาก) , ซัง , ตังซัง (จีน)
ชื่อสามัญ  Shallot
ชื่อวิทยาศาสตร์  Allium ascalonicum Linn.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Allium carneum Willd., Allium fissile Gray, Allium hierochuntinum Boiss., Porrum ascalonicum (L.) Rchb.
สกุล             Amaryllidaceae
ถิ่นเกิด หอมแดง เป็นพืชขนาดเล็กที่ปลูกไว้เพื่อบริโภคส่วนของหัวหรือบัลบ์ นิยมใช้ในการเตรียมอาหาร และเป็นสมุนไพร ทั้งนี้หอมแดง มีบ้านเกิดดั้งเดิมในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ คาดการณ์ว่าอยู่ในแถบประเทศทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน และอิหร่าน โดยเช้าใจกันว่าหอมแดงกลายพันธุ์ตามธรรมชาติมาจากหอมหัวใหญ่และมีการคัดพันธุ์เพื่อนำมาปลูกเป็นพืชอาหาร ในจีนแล้วก็ประเทศอินเดียรวมทั้งมีการกระจัดกระจายชนิดไปทั้งโลก ซึ่งได้มีการเขียนบันทึกไว้ ในตอนคริสตวรรษที่ 12 ปัจจุบันนี้การปลูกหอมแดงได้แพร่หลายไปทั่วทั้งโลก แต่ว่าก็ยังมีการบริโภคน้อยกว่าหอมหัวใหญ่อยู่  หอมแดง จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในประเทศไทยพบว่ามีการปลูกมากมายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทางภาคเหนือ แม้กระนั้นหอมแดงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีก็ได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเกษ
ลักษณะทั่วไป
ใบ ใบแทงออกจากลำต้นหรือหัว มีลักษณะเป็นหลอดกลม ด้านในกลวง มีสารสีนวลเป็นไขฉาบผิวใบ ใบมีลักษณะตั้งชันสูงประมาณ 15-50 เซนติเมตร แตกออกเป็นชั้นถี่ 5-8 ใบ ใบอ่อนสดของหอมแดงใช้สำหรับการบริโภค
ท่อนหัวหรือบัลบ์ หัวหรือบัลบ์เป็นส่วนของกาบใบที่เรียงซ้อนกันแน่นจากข้างในของหัวออกมา เป็นแหล่งสะสมของกิน แล้วก็น้ำ มีลักษณะเป็นกระเปาะ เรียกว่า Bulbs มีลำต้นด้านใน มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆสีขาว ซึ่งเป็นที่เกิดของหัวหอม หัวหอมจะแตกใหม่ออกมาจากหัวเดิม โดยเฉลี่ย 2 - 20 หัวต่อกอ เส้นผ่านศูนย์กลางของหัวประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตร
ต้น ต้นที่เห็นเหนือดินเป็นส่วนที่อยู่ต่อจากบัลบ์ จัดเป็นลำต้นเทียมที่เกิดจากกาบใบเรียงอัดกันแน่น ถัดมาก็เลยเป็นส่วนของใบ
ราก รากหอมแดงเป็นระบบรากฝอยเยอะมากๆ ผลิออกออกมาจากด้านล่างของต้น มีลักษณะเป็นกลุ่มรวมกันที่ก้นหัว และก็แพร่ลงดินลึกในระดับตื้นโดยประมาณ 10-15 เซนติเมตรรวมทั้งแผ่รอยต้นราว 5-10 เซนติเมตร
การขยายพันธุ์ หอมแดงสามารถเพาะพันธุ์ได้ 2 แนวทางเป็นการใช้ท่อนหัวประเภท (sets) และการใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds) การใช้หัวจำพวก (sets) เป็นวิธีของเกษตรกรที่นิยมปฏิบัติกันมานาน หัวหอมแดงที่จะปลูกจะต้องผ่านการพักตัวมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก็เลยจะปลูกได้  การใช้เมล็ดพันธุ์ (seeds)  เป็นแนวทางที่ลดต้นทุนสำหรับเพื่อการผลิตสำหรับการซื้อหัวจำพวกที่ราคาแพงแพง สำหรับวิธีการปลูกหอมแดงนั้นมีดังนี้
การเตรียมแปลงปลูก หอมแดงเป็นพืชที่มีระบบระเบียบรากสั้น มีขอบเขตรากลึกประมาณ 10-15 ซม. ดังนั้น ในระดับความลึกนี้ หอมแดงก็เลยต้องการหน้าดินร่วนซุย แล้วก็มีความชุ่มชื้นบ่อย มีการระบายน้ำ แล้วก็อากาศดี ไม่อยากดินแน่น โดยเฉพาะระยะที่มีการแตกหัวใหม่ การเตรียมดินให้ร่วนซุยจะช่วยทำให้หอมแดงเติบโตเจริญ ด้วยการไถกระพรวนดินคราวแรก ลึก 20 เซนติเมตร พร้อมกำจัดวัชพืช ตากแดดทิ้งไว้ 7-15 วัน หลังจากนั้น ไถพรวนดินให้ร่วนด้วยหน้าผานที่เล็กลง ลึก 20-30 เซนติเมตร และตากดินก่อนปลูก 3-7 วัน ก่อนไถลูกพรวนครั้งที่ให้หว่านปุ๋ยธรรมชาติ อัตรา 2-3 ตัน/ไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 20-30 โล/ไร่ ในฤดูฝนแปลงปลูกหอมแดงจะต้องชูร่องกว้างโดยประมาณ 1-1.2 เมตร ความยาวขึ้นกับพื้นที่สำหรับเพาะปลูกเพื่อน้ำฝนระบายออกได้ ระยะห่างระหว่างแปลงจะเว้นไว้ประมาณ 30-50 เซนติเมตร เพื่อเป็นทางเท้าในการให้น้ำหรือกำจัดวัชพืช
ก่อนปลูก 1-3 วัน ควรจะให้น้ำในแปลงให้เปียกก่อน ขั้นตอนการปลูก นำหัวพันธุ์ที่พักตัวดีแล้วหรือหัวชนิดที่เก็บไว้นาน 2-4 เดือนภายหลังจากเก็บเกี่ยว มาตัดรากแห้งออก แยกหัวออกมาจากกันให้เป็นหัวลำพังๆแล้วฝังหัวลงไปในดินให้ปลายของหัวอยู่เสมอผิวดิน ระยะปลูกที่ 15 x 15 เซนติเมตร ปิดฟางครึ้มประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อหอมแดงแตกหน่อได้ราว 15 วัน ก็เลยหว่านปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 21% อัตรา 10 โล/ไร่ แล้วให้น้ำรุ่งเช้าเย็นหรือวันละครั้ง สุดแท้แต่สภาพความชุ่มชื้นของผิวดิน  หอมแดงที่ปลูกจากหัวเก็บเกี่ยวเมื่ออายุราวๆ 60 วัน หอมแดงที่สมควรสำหรับเพื่อการเก็บเกี่ยวจะต้องแก่จัด มีใบแห้งตามธรรมชาติ โดยห้ามใช้สารกำจัดวัชพืชพ่นบังคับให้ใบแห้ง เนื่องจากหัวหอมอาจเน่าหายหรือแก่เก็บไว้บริโภคสั้น ก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยวราว 10-15 วัน ต้องงดให้น้ำ และให้น้ำอีคราวก่อนเก็บเกี่ยว 24 ชั่วโมง เพื่อให้หอมแดงถอนได้ง่าย การเก็บเกี่ยวจะใช้กรรมวิธีการมือถอนหรือใช้จอบหรือเสียมขุดร่วมด้วย ข้างหลังการเก็บเกี่ยว หอมแดงจะเก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน หลังจากเก็บเกี่ยวบนแปลง ถ้าเกิดเกิน 6 เดือน หัวหอมแดงจะฝ่อไม่สามารถที่จะกินและไม่สามารถนำไปเพาะปลูกได้
                ทั้งนี้หอมแดงสามารถผสมผ่านชนิดได้ กับหอมหัวใหญ่ ลูกผสมที่เกิดขึ้นมีลักษณะรูปร่างจัดเข้าอยู่ในกรุ๊ปของหอมหัวใหญ่ (A.cepa)  ส่วนชนิดหอมแดงที่นิยมนำมาปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 3  จำพวก ซึ่งลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก
พันธุ์ศรีสะเกษ เปลือกหัวนอกครึ้ม มีสีม่วงแดง หัวมีลักษณะกลมป้อม มีกลิ่นแรง ให้รสหวาน ใบเขียวเข้มมรกต มีนวลจับน้อย
จำพวกบางช้าง มีลักษณะคล้ายกับประเภทศรีสะเกษ แต่ว่าสีเปลือกจางกว่า หัวมีลักษณะกลมป้อม ใบสีเขียวเข้ม มีนวลจับบางส่วน เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงยิ่งกว่าทุกชนิด
ประเภทจังหวัดเชียงใหม่ มีเปลือกบาง สีส้มอ่อน หัวมีลักษณะกลมรี  กลิ่นไม่ฉุนเสมือนพันธุ์อื่น ให้รสหวาน หัวจะแบ่งเป็นกลีบแจ่มกระจ่าง ไม่มีเปลือกหุ้ม ใบสีเขียวมีนวลจับ
ส่วนประกอบทางเคมี   หัวหอมมีน้ำมันระเหยง่ายที่มีกำมะถัน diallyl disulphide เป็นองค์ประกอบร่วมกับสารอื่นๆอีกอาทิเช่น Ethanol, Acetonc, methyl Ethyl, Methyl Disulfide, Methyl, Methyl Trisulfide, Methyl I-propyl Trisulfide, I-propyl Trisulfide, Ketone, I-propanol, 2 – propanol, Methanol, I-butanol, Hydrogen Sulfidc, I-propanethiol, I-propyl Disulfide , Thioalkanal-S-oxide, di-n- propyl Disulfide, n- propyl-allyl Disulfide,  Dithiocarbonate และก็ Thiuram Sulfidc ,Linoleic , flavonoid Glycoside , pectin , alliin ส่วนสารที่กระตุ้นให้เกิดกลิ่นในหัวหอมมีอยู่ 3 ชนิดหมายถึงdipropyl trisulfide, methylpropyl disulfide , methylpropyl disulfide และ methylpropyl trisulfide  ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของหอมแดงนั้นมีดังนี้

ค่าทางโภชนาการของหอมแดงดิบต่อ 100 กรัม

  • หอมแดงพลังงาน 72 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 16.8 กรัม
  • น้ำตาล 7.87 กรัม
  • เส้นใย 3.2 กรัม
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • โปรตีน 2.5 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.06 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.02 มก.
  • วิตามินบี 3 0.2 มก.
  • วิตามินบี 5 0.29 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 6 0.345 มก.
  • วิตามินบี 9 34 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 8 มิลลิกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 37 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมกนีเซียม 21 มิลลิกรัม
  • ธาตุแมงกานีส 0.292 มก.
  • ธาตุฟอสฟอรัส 60 มก.
  • ธาตุโพแทสเซียม 334 มิลลิกรัม
  • ธาตุสังกะสี 0.4 มิลลิกรัม


คุณประโยชน์/คุณประโยชน์  สำหรับในการใช้ประโยชน์จากหอมแดงนั้นโดยมากกว่า 80% มักจะนิยมนำไปเข้าครัวอีกทั้งของคาว และของว่าง รวมถึงนำไปเป็นของเคียง ของของกินต่างๆตัวอย่างเช่น ข้าวตรอก สเต๊ ฯลฯ รวมถึง หัวหอม ใบรวมทั้งช่อดอกอ่อน กินเป็นผักสดและปรุงเป็นอาหาร หอมทั้งหัวรวมทั้งใบ ดอกเปรี้ยวรับประทานเป็นผักจิ้ม
ส่วนสำหรับการใช้หัวหอมในด้านคุณประโยชน์รักษาโรคนั้นมีดังนี้ ตามสรรพคุณโบราณของไทยกล่าวว่า ใบมีรสเค็มหวาน เป็นเมือก ใช้แก้หวัดและก็เลือดกำเดาออก หัวหอมรสเผ็ด แก้ไข้มีเสลด ใช้ในปริมาณน้อย บำรุงรักษาผมให้เจริญงอกงาม ทำให้ผิวหนังมีชีวิตชีวา แก้ไข้ ถูทาผิวหนังทำให้ร้อน ขับเสมหะ แก้โรคในปาก บำรุงธาตุ ใช้ภายนอก
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์คุ้มครองตับรวมทั้งไต       การศึกษาความสามารถสำหรับเพื่อการคุ้มครองความเสื่อมโทรมของตับแล้วก็ไตจากการติดเชื้อไข้จับสั่น โดยจัดเตรียมสารสกัดหอมแดงอย่างหยาบคายด้วยน้ำ หลังจากนั้นนำไปทดลองฤทธิ์ในหนูถีบจักร สายพันธุ์ ICR ที่ติดโรคมาลาเรีย Plasmodium berghei  ANKA จำนวน 6x106เซลล์ ต่อหนูทดลอง โดยให้หนูทดลองได้รับสารสกัดทางหลอดอาหารวันละครั้ง ตรงเวลา 4 วันติดต่อกัน และทำตรวจวัดค่าชี้ความทรุดโทรม ดังเช่น ระดับโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีตับ aspartate aminotransferase (AST), alanine aminotransferase (ALT) และตัวบ่งชี้ลักษณะการทำงานของไต อย่างเช่น blood urea nitrogen (BUN) แล้วก็ creatinine โดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูป ผลของการทดลองพบว่าความเข้มข้นสูงสุดของสารสกัดหอมแดงที่ไม่นำไปสู่ความเป็นพิษหมายถึง3,000 มก.ต่อโล และในขณะมีการติดโรคมาลาเรียนั้นจะเจอความเสื่อมโทรมของตับ และไตเกิดขึ้นในวันที่ 10 ภายหลังจากติดเชื้อโดยดูได้จากระดับของ AST, ALT, BUN และก็ creatinine ที่สูงที่สุด แต่สารสกัดหอมแดงที่ขนาด 3,000 มก.ต่อกิโลกรัม สามารถคุ้มครองปกป้องความเสียหายของตับรวมทั้งไต จากการตำหนิดเชื้อไข้จับสั่นได้โดยดูจากตัวบ่งชี้ที่หรูหราปกติ จากผลการค้นคว้าสามารถสรุปได้ว่าสารสกัดหอมแดงมีฤทธิ์คุ้มครองป้องกันความเสื่อมโทรมของตับและไตจากการติดเชื้อไข้มาลาเรียในตัวทดลองได้
ฤทธิ์ต้านทานอักเสบ       ทดสอบฤทธิ์ต้านทานการอักเสบของส่วนสกัดหัวหอมแดงในเอทานอลในหลอดทดลอง กระทำทดสอบความอยู่รอดของเซลล์ด้วยวิธี 3-4,5-dimethylthiazol-2-yl-2,5-dyphenyl tetra-zolium bromide (MTT) เรียนผลของส่วนสกัดต่อการแสดงออกของยีนที่เป็นตัวกลางการอักเสบได้แก่ inducible nitric oxide synthase (iNOS), cyclooxygenase (COX)-2, COX-1, tumor necrosis factor (TNF)-α, interleukin (IL)-1β และ IL-6 ในเซลล์เพาะเลี้ยงมาวัวรฟาจ (RAW 264.7) ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยสาร Lipopolysaccharide (LPS) โดยวัดจำนวนยีนที่แสดงออกด้วยวิธี reverse transcription polymerase chain reaction (RT-PCR) วิเคราะห์หาจำนวนฟีนอลรวม และฟลาโวนอยด์รวม ของส่วนสกัดโดยใช้ปฏิกิริยาการเกิดสีกับสาร Folin-Ciocalteu และก็สารอลูมินัมคลอไรด์ ตามลำดับ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยพบว่าที่ความเข้มข้น 62.5, 125 รวมทั้ง 250 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ส่วนสกัดหอมแดงในเอทานอลไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ และก็มีฤทธิ์ยั้งการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบได้แก่ iNOS, TNF-α, IL-1β และ IL-6 เพิ่มขึ้นตามความเข้มข้น ส่วนสกัดหอมแดงไม่เป็นผลต่อการแสดงออกของยีน COX-2 แต่ว่ายั้งการแสดงออกของยีน COX-1 อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีจำนวนสารฟีนอลรวมคิดเป็น 15.964±0.122 สมมูลกับกรดแกลลิก/กรัม รวมทั้งมีจำนวนสารฟลาโวนอยด์รวม 11.742 ±0.012 มิลลิกรัม สมมูลกับสารเคอร์ซิทิน/กรัม
การเรียนทางพิษวิทยา
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ การทดลองสารสกัดบิวทานอลจากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มล./แผ่น หรือความเข้มข้นอื่นๆกับ Bacillus subtilis M-45 (Rec-) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์ แล้วก็เมื่อแปลงมาใช้สารสกัดเอทานอล (95%) จากหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น กับ B. subtilis H-17 (Rec+) ในจานเพาะเชื้อ พบว่าไม่มีฤทธิ์เช่นกัน นอกนั้นการทดลองน้ำสกัดหรือน้ำต้มหอมสด ความเข้มข้น 0.5 มิลลิลิตร/แผ่น กับ B. subtilis M-45 (Rec-) แล้วก็การทดสอบ B. subtilis H-17 (Rec+) ด้วยน้ำสกัดหอมสด ก็พบว่าสารสกัดพวกนี้ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ แต่ถ้าหากใช้ส่วนสกัดจาก chromatography (undiluted) หรือการใช้ oleoresin จากหอม (undiluted) มาทดสอบกับ Salmonella typhimurium TA100 ในจานเพาะเชื้อ พบว่ามีฤทธิ์ แม้กระนั้นเมื่อนำมาทดลองกับ S. typhimurium TA98 กลับไม่มีฤทธิ์ ใช้สารสกัดเมทานอลทดลองกับ S. typhimurium TA98 พบว่าสารสกัดนี้มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์แรง และก็เมื่อเล่าเรียนกลไกการเมตา-โบไลท์สารก่อกลายพันธุ์ของหอมภายในร่างกาย พบว่ากลูตาธัยโอน กลูคิวโรนายด์ ไดธัยโอธรีธอล สามารถลดฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมได้ แม้กระนั้นไวตามินซีไม่เป็นผลต่อฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของหอมอะไร มีการทดสอบฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของเครื่องเทศที่ใช้จัดเตรียมน้ำพริกแกง ใน S. typhimurium พบว่าสารสกัดจากหอมมีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ถึง 100% ซึ่งมีเหตุมาจากสารสำคัญที่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ซึ่งมีอยู่แล้วตามธรรมชาติในหอม เมื่อกระทำการแยกและพินิจพิจารณาสารสำคัญนั้นพบว่า เป็นสารจำพวก ฟลาโวนอยด์ เคอร์สิติน (quercetin) ขึ้นรถสำคัญที่แยกบริสุทธิ์ได้ 1 ตัว พบว่าหมายถึงquercetin-4-0-glycoside สารนี้เป็นสารก่อกลายพันธุ์ฤทธิ์อ่อน ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ของมันจะสูงขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีภายในร่างกาย เมื่อสลายสารนี้ด้วยโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี b-glucuronidase ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่พบที่ลำไส้ใหญ่ พบว่าฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์จะรุนแรงมากขึ้น
พิษต่อเซลล์ ทดสอบสารสกัดเมทานอลจากรากหอมสด ความเข้มข้น 200 มคกรัม/มิลลิลิตร กับ macrophage cell line raw 264.7 พบว่าสารสกัดนี้ไม่มีพิษต่อเซลล์ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
คำแนะนำ/ข้อพึงระวัง

  • หนังสือเรียนยาไทยบอกว่า หัวหอม ไม่สมควรกินมากเกินความจำเป็น หรือรับประทานบ่อยๆ เพราะว่าอาจจะส่งผลให้ประสาทเสีย ให้ลืมได้ง่าย ทำให้มีกลิ่นตัว ฟันเสีย เลือดน้อย และตาฝ้ามัวไม่แจ่มใส
  • สำหรับในการเลือกหอมแดงมาใช้ประโยชน์ควรเลือกหอมแดงที่แก่เก็บเกี่ยวไม่เกิน 6 เดือน เนื่องจากว่าหากเกิน 6 เดือนไปแล้ว จะได้หัวหอมที่ฝ่อ ไม่อาจจะใช้ประโยชน์ได้หรืออาจมีสารออกฤทธิ์ที่ไม่มีคุณภาพ
  • น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากหอมแดง มีรสเผ็ดร้อน ทำให้เคืองตา  แสบจมูก  และอาจจะเป็นผลให้ผิวหนังปวดแสบปวดร้อน
  • น้ำหอมแดงมีสารกำมะถันซึ่งทำให้แสบตา แสบจมูก และก็ผิวหนังมีลักษณะอาการระคาย จึงไม่ควรใช้ทาใกล้บริเวณผิวหนังที่บอบบาง
เอกสารอ้างอิง

  • วรวุฒิ สมศักดิ์, สุกัญญา ชาชิโย, สมเดช ศรีชัยรัตนกูล, ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์. ฤทธิ์ของสารสกัดหอมแดงต่อความเสียหายของตับและไตจากการติดเชื้อมาลาเรีย Plasmodium berghei ในหนูทดลอง. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6, วันที่ 26 มิถุนายน 2558 ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จ.สงขลา.
  • จิรวัฒน์ เวชแพศน์.2526 การศึกษาระยะปลูกของหอมแดง.ปัญหาพิเศษปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.
  • ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.หอมเล็ก.คอลัมน์ สมุนไพรน่ารู้. นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่27.กรกฎาคม 2524 http://www.disthai.com/
  • หอม.ฐานข้อมูลพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • อาทิตย ศุขเกษม. การเปรียบเทียบผลผลิตของหอมแดงที่ปลูกด้วยหัวพันธุ์และเมล็ดพันธุ์.ปัญหาพิเศษปริญญาตรี.ภาควิชาพืชสวนคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน.13 หน้า
  • Lorenz, O.A. and D.N. Maynard. 1980. Knott’s hand book for vegetable growers. John wily and Sons, Inc. New York. 390 p.
  • หอมแดง สรรพคุณและการปลูกหอมแดง.พืชเกษตรดอทคอม เว็บเพื่อพืชเกษตรไทย
  • พะยอม ตันดีวัฒน์.2530. เครื่องเทศ.119 หน้า.
  • หอมแดง.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • รัตนา พรหมพิชัย. (2542). หอมบั่ว. ใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคเหนือ (เล่ม 14, หน้า 7530). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.
  • Werawattanachai N, Kaewamatawong R, Junlatat J, Sripanidkulchai B. Anti-Inflammatory potential of ethanolic bulb extract of Allium ascalonicum. Journal of Science & Technology, Ubon ratchathani University. 2015;17(2):63-68.
  • วิศิษย์ ว่องทิพยคงคา.2510. การเปรียบเทียบหาระยะปลูกที่เหมาะสม ของหอมต้นเพื่อเพิ่มผลผลิต ปัญหาพิเศษ ปริญญาตรี ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.



Tags : หอมแดง

6

ทับทิม
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
ทับทิมช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อ ทับทิม ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
ประโยชน์ของทับทิมน้ำตาล 13.67 กรัม
เส้นใย 4 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
โปรตีน 1.67 กรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ http://www.disthai.com/

7

ขิง
ข้อดีของสรรพคุณขิง
25 สรรพคุณดีๆของ’’ประโยชน์สำหรับการรักษาโรค
1.ขิงสดช่วยลดความเจ็บปวดตามข้อ ลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อ
2.ขิงมีสรรพคุณช่วยสมานแผล ฆ่าเชื้อโรคในแผลได้
3.ขิงช่วยให้สบายท้อง ขับลม แก้ท้องผูก
4.ขิงเป็นสมุนไพรที่ช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียภายในร่างกาย ช่วยขับเสลด ทำให้หายใจสบาย
5.ขิงช่วยแก้อาการตาลาย หน้ามืด อ้วก เมารถ เมาเรือ
6.ขิงช่วยสลายไขมัน และก็เป็นยาระบายอ่อนๆก็เลยแป็นสาเหตุที่ทำให้ขิงช่วยลดความอ้วน ลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลได้
7.ขิงช่วยบำรุงรักษาหัวใจ เหมาะกับผู้เจ็บป่วยโรคหัวใจ
8.ขิงช่วยแก้โรคผื่นคัน แก้แพ้เกสรดอกไม้ รวมทั้งอาหารทะเลได้
9.คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเนื้อขิงใหม่ๆทำมาทาแก้ผื่นคัน แก้แมลงกัดต่อยได้
10.ขิงช่วยบำรุงรักษาสายตา คุ้มครองปกป้องโรคตาแดง อาการน้ำในตามาก ตาฝ้าฟาง
11.ขิงเป็นสมุนไพรกำจัดกลิ่น ช่วยลดกลิ่นตัว
12.ขิงมีคุณประโยชน์แก้ฟันเหลือง ฟันพุ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจนเข้ากัน เอามาอม กลัวปากบ่อยๆ แล้วทดลองสังเกตว่าอาการปวดจะเบาๆน้อยลง
13.มีคุณประโยชน์ลดกลิ่นปากได้ โดยนำขิงสดมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำผสมกับเกลือ น้ำอุ่น คนจะกว่าจะเข้ากัน นำมาอม กลั้วปากเป็นประจำ ช่วย จัดการกับแบคทีเรียในปาก ลดปัญหากลิ่นปากได้อย่างยอดเยี่ยม
14.ขิงช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดไมเกรนได้ โดยให้ดื่มน้ำขิงบ่อยๆ แล้วทดลองสังเกตว่าอาการปวดจะเบาๆน้อยลง
15.ขิงทุเลาโรคประสาทลักษณะโรคประสาท การดื่มน้ำขิงจะช่วยลดความมัวมันของหัวใจ
16.ขิงช่วยการไหลเวียนของน้ำนมคุณแม่ให้ดีขึ้น ควรจะเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสำหรับผู้หญิงให้นมบุตรเป็นอย่างดี
17.ขิงช่วยบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดได้ โดยสรรพคุณของขิงมีส่วนช่วยลดความต้องการเสพสิ่งเสพติด
18.ประโยช์จากขิงช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยพบว่าสาระสำคัญในขิงช่วยต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี
19.ขิงช่วยควมคุมความดันเลือดได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันสูง แล้วก็ ความดันต่อ ควรจะฝานขิงสดมาต้มกับน้า ดื่มเป็นประจำ จะช่วยควบคุมความดันให้เป็นปกติ
20.สรรพคุณของขิงช่วยผ่อมคลาย ช่วยให้นอนสบาย จึงเหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ
21.ขิงช่วยบำรุงผิวพรรณ โดยช่วยให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น กำจัดเซลลูไลท์
22.ใบเละดอกของขิงช่วยแก้อาการขัดเยี่ยว ปกป้องโรคนิ่วได้
23.ขิงช่วยรักษาอาการมือ เท้าเย็นได้ เพราะเหตุว่าขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายได้
24.เหง้าขิงช่วยปกป้องการเกิดแผลในกระเพราะเหตุว่าของกินได้
25.ขิงช่วยแก้อึกได้โดยตำขิงสดให้แหลกคั้นเอาน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้ง น้ำอุ่น คนจนเข้ากันดื่มแก้สะอึกได้
การประยุกต์ใช้ทางสถานพยาบาล
1.บรรรเทาอาการเจียนรุนแรงใช้ขิงสดพอกที่จุดฝังเข็มไก่กวน(เหนือข้อมือใน 2 ชุ่น)ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึง  ชั่วโมงอาการจะดียิ่งขึ้น
2.บรรเทาอาการแผลในกระเพาะแล้วก็ลำไส้เล็กส่วนต้น ต้มขิงสดที่ตำอย่างละเอียดกับน้ำ 300 มิลลิลิตร นาน 30 นาที กินวันละ 3 เวลา ตรงเวลา 2 วัน ในคนเจ็บที่เป็นโรคกระเพาะ และก็ลำไส้เล็กส่วนต้น พบว่าลักษณะของการปวดกระด้วยเหตุว่าน้อยลงหรือหายไป ความรู้สึกแสบท้องเวลาหิว มากมายท้องผูก หรือถ่ายอุจจาระสีดำ (มีความหมายว่ามีเลือดออก)ธรรมดา ความอยากของกิน (พบว่าคนเจ็บพวกนั้นโดยมากกลับเป็นซ้ำได้อีก ซึ้งอาจจำต้องรักษาต่อเนื่อง หรือควบคุมต้นสายปลายเหตุอื่นๆร่วมด้วยก็เลยจะรักษาหายสนิทได้)
3.รักษาโรคบิด ใช้ขิงสด 75 กรัม น้ำตาลแดงตำเข้าด้วยกัน แบ่งกินเป็น 3 มื้อต่อตำหรับ
4.คุ้มครองปกป้องรักษาอาการเมารถ เมารือ
-ใช้ขิงสดเป็นแผ่นปิดที่จุดไน่กวน(เหนือข้อมือข้างใน 2 ชุ่น(ใช้เหริยญ สตางค์ขนาดพอเหมาะปิดทับแล้วใช้ปลาสเตอร์หรือยางยืดรัดไว้
-ใช้ขิงสด 25 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาเฉพาะน้ำมันดื่ม (ไม่ต้องดื่มน้ำตาม)
5.รักษาปัสสาวะรดที่นอนในคนไข้ที่มีภาวะหยางพร่อง มีความเย็นในร่างกายเป็นเหตุ
ให้ใช้ขิง 30 กรัม(ตำ)ยาลูกสมุนนพงไพรฟู่จื่อ 6 กรัม ปู่กู่จื้อ 12 กรัม บดคลุกจนเข้ากันถูในแอ่งสะดือ ใช้ผ้าผ้าก๊อซสะอาดปิดทับแล้วก็ใช้ปลาสเตอร์ปิดให้แน่น
6.รักษาคอไส้อุดกันจากพยาธิตัวกลม
ใช้ ขิง [/b]สด 120 กรัม ตำละเอียด คั้นเอาน้ำขิงผสมกับน้ำผึ้ง 120 กรัม รับประทานครั้งเดียว หรือค่อยๆกินหมดภายในครึ่งชั่วโมง การทดลองในคนเจ็บ 64 คน พบว่าสามารถลดอุดกั้นของลำใส้ร้ยละ 96.8 ฤทธิ์สำหรับการขับพยาธิปริมาณร้อยละ 61.3
7.เป็นหวัดตัวร้อนเป็นไข้เนื่องไข้เนื่อง จากกระทบความเย็น เป็นต้นว่า โดนฝน โดนลม ทำให้หนาว จับไข้ต่ำ ให้หั่นขิงฝอย 30 กรัม

ชงกับน้ำตาลทรายแดง หรือบางทีอาจใส่หัวหอมตี 3-4 (ช่วยกระจายลม)ดื่มขณะร้อนๆแล้วห่มผ้าให้เหงือออก
8.ฟื้นฟูร่างกายตอนหลังคลอดลูก นิยมให้หญิงข้างหลังคลอดบุตร นิยมให้หญิงหลังคลอดกินไก่ผัดขิง โดยยิ่งไปกว่านั้นไก่ดำเพศผู้จะยิ่งมีหยางมากยิ่งกว่าไก่ตัวเมีย
ร่างกายของหญิงหลังคลอดจะเสียอีกทั้งพลังหยางรวมทั้งเลือด มีน้ำภายในร่างกายหลงเหลืออยู่มากมายการกินไก่ผัดขิงจะเสริมเลือดหยางช่วยทำให้การสรุปยดูดซับอาหารดียิ่งขึ้น มีการขับระบายของเสียน้ำตกค้าง น้ำคาวปลาได้ดีขึ้นทำให้ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น
ข้อควรไตร่ตรองสำหรับเพื่อการทานขิง
-อาจจะก่อให้เกิดภาวะแทรซ้อนในการมีท้องได้
มีบางการศึกษาพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนสำหรับการตั้งท้อง และการแท้ง แต่ในการท้องรายอื่นๆนั้นๆไม่พบการกินขิงจะมีผลให้กำเนิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอ้วกจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้คุณควรจะไปขอความเห็นแพทย์ก่อ่นจะที่ใช้ขิงในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตัวเอง
-ก่อให้เกิดแผลร้อนในข้างในปากได้
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหารกินเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุภายในโพรงปากมีการอักเสบจนกระทั่งเป็นอาการร้อนในได้ ดังนั้นไม่สมควรรับประทานขุงมากจนถึงเกินความจำเป็น
-ยั้งการแข็งตัวของเลือด
การเรียนรู้หนึ่งในหนึ่งในประเทศออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีสรรพคุณสำหรับการต้านทานการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถานบันสุขภาพของออสเลียได้ออกคำเตือนเตือนให้งดเว้นการกินขิงตอนที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดเพราะว่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการช้ำเลือดหรืออาการเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ฉะนั้นถ้าหากว่าคุณมีอากเลือดออกเลือดออกไม่ปกติหรือหรือกำลังใข้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีก แกงเลียงการรับประทานขิง
เมื่อรู้อย่างงี้แล้ว หวังคนไม่ใช่น้อยที่กำลังคิดจะใช้ขิงช่วยทุเลาลักษณะของโรคต่างๆก็คงจะต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากบางโอกาสถ้าหากราใช้ ขิงสำหรับการรักษาโรคหนึ่งแม้กระนั้นก็อาจช่วยกระตุ้นให้อีกโรคนั้นอาการกำเริบได้ ด้วยเหตุนี้ควรรับประทานขิงอย่างรอบคอบ แต่ว่าถ้าหากยังไม่มั่นใจล่ะก็ ควรขอคำปรึกษาจากหมอก่อนเสมอ

Tags : สมุนไพรขิง

8
อื่น ๆ / น้ำมันนวดใช้สำหรับใครได้บ้าง?
« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2018, 09:43:31 AM »

น้ำมันนวดสมุนไพร
อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช้น้ำมันนวด
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ เราแค่ทาลงไปในส่วนที่พวกเราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้ามเนื้อ เท่านี้ค่ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าลดน้อยลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะสำหรับคนใดกันแน่บ้าง?

  • ผู้บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • คนที่ปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก
  • คนที่ปวดมือและก็คอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • คนที่ปวดหลังจาก Office syndrome
  • คนที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
  • ปวดเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
  • ปวดขาจากการเดิน Shopping
  • เจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ตีดอท กระทั่งปวดมือ
  • ปวดคอจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ
น้ำมันนวดสมุนไพร ที่เยี่ยมของคุณบรรเทาร่างกายแล้วก็ช่วยเหลือการนอนหลับที่ดียิ่งกว่าสำหรับวัน.
หลายท่านระทมทุกข์แสนสาหัสจากความไม่ดีเหมือนปกติของการนอนหลับต่างๆได้มองเห็นการแก้ไขในนิสัยการนอนของพวกเขาหลังการดูแลและรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและก็จิตวิญญาณ การบำบัด, น้ำมันนวดสมุนไพรโดยเหตุนี้คนจำนวนมากมีประสบการณ์การนอนลึกรวมทั้งพักเพิ่มมากขึ้น.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
น้ำมันนวดสมุนไพรมากขึ้นและก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีประสิทธิภาพลักษณะการทำงานของกล้ามทั้งปวง, เยื่อและข้อต่อก็เลยปรับปรุงแก้ไขการแสดงกีฬาและก็การอำนวยความสะดวกสำหรับเพื่อการเคลื่อนไหวร่างกายของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น. เว้นเสียแต่สิ่งเหล่านี้กำเนิดผลดีต่อร่างกาย, นวดยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บรวมทั้งเพิ่มความเร็วสำหรับเพื่อการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นแนวทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับเพื่อการทุเลาความเคร่งเครียดของกล้ามเนื้อรวมทั้งทะนุบำรุงร่างกายของคุณ พอดิบพอดี รวมทั้งมีความยืดหยุ่นเป็นเวลานาน.
กำจัดสารพิษ
ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันคือมันช่วยทำให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพกำจัดพิษจากสิ่งมีชีวิตด้วยเหตุผลดังกล่าวการสนับสนุนสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการนวดน้ำมันนวดสมุรไพรและส่วนมากสร้างความแข็งแกร่ง ระบบภูมิคุ้มกันแล้วก็ช่วยย่อยอาหาร.
ศิลป์ที่สวยสดงดงามของการนวดได้ทวีความร้ายแรงมากขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมากมาย. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆในการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งที่จำเป็นส่วนบุคคลของคุณแล้วก็น้ำมันนวดสมุนไพรผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการน้ำมันนวดสมุนไพรบรรเทารวมทั้งฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลทางจิตใจวิญญาณของคุณรวมทั้งร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่อาจจะหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถที่จะหายขาดได้เอง ถึงแม้อาการที่แสดงออกมาจะร้ายแรงลดน้อยลงก็ตาม และในที่สุดก็จะกลายเป็นโรคเรื้อรังแล้วก็ก่อกำเนิดความลำบากน้ำมันนวดสมุนไพรในการดำรงชีวิตเพิ่มมากขึ้น
1.น้ำมันนวดสมุนไพรจะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ดำเนินการได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ลดอาการตึงเครียดให้พวกเราผ่อนคลายจากการความเหน็ดเหนื่อยรวมทั้งความเมื่อยล้าสะสม
2.สงน้ำมันนวดสมุนไพร จะเข้าช่วยการกระตุ้นหลักการทำงานของโลหิต ให้ดำเนินงานเจริญมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งสามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างครบถ้วน คุ้มครองโรคต่างๆรวมถึงลดความดันโลหิตก้าวหน้าด้วย
3.น้ำมันนวดสมุนไพรเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมบำรุงรวมทั้งฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆในร่างกายให้ทำงานได้ดีและก็มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น
4.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ทั้งในร่างกายและภาวะผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น ดูผุดผ่องรวมทั้งชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
5.ช่วยในเรื่องการนอนหลับให้ดีมากยิ่งกว่าเดิม บรรเทาสมองและร่างกายต่างๆส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นน้ำมันนวดสมุนไพรยังมีประโยชน์อีกหลายสิ่งหลายอย่างต่อสภาพทางด้านร่างกาย ซึ่งนับได้ว่าเป็นทางเลือกแก่คนรักสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยม
ลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับคนที่เคยทรมาทรกรรมจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยมาก แพทย์ก็ได้ชี้แนะให้ลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เนื่องจากว่าจากผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า ผู้ที่มีลักษณะปวดหัวไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวติดต่อกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถทุเลาอาการใกล้กันของโรคไมเกรน แล้วก็นอนหลับได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดสมุนไพรขึ้นอยู่กับการใช้แรงงาน แล้วก็คุณประโยชน์ต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละจำพวก โดยส่วนใหญ่น้ำมันฐานรากที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด ได้แก่ น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงยิ่งกว่าน้ำมันถั่วเหลือง และก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ แล้วก็ทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นเลือด คุ้มครองปกป้องการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องต่อสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่น
โดยทั้งนี้น้ำมันนวดสมุนไพรแต่ละจำพวกจะมีคุณลักษณะ และก็คุณประโยชน์ที่ต่างๆนาๆ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้งาน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : น้ำมันนวดไพร

9

น้ำมันนวด
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการนวดน้ำมัน
น้ำมันนวดหมายความว่าการกระตุ้นเนื้อเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อเกื้อหนุนสุขภาพและฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมดทั้งปวง. น้ำมันนวดถูกวางแบบมาเพื่อมือเลื่อนได้ง่ายขึ้นในระหว่างนวด และก็ในเวลาเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้มีความผ่อนคลายเยอะที่สุดสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจ. อ่านต่อไปเพื่อหาข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการนวดน้ำมันแล้วก็บรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดมีชีวิตชีวา.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมัน, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่ต่างกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากจำนวนไม่ใช่น้อยน้ำหอมแล้วก็สีที่แตกต่างเพื่อให้บริการ. น้ำมันนวดบำบัดรักษา, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถเจอได้ในตลาดท้องน้ำมันนวดเพื่อให้คุณสามารถเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความปรารถนารวมทั้งความจำนงของคุณ.
สัมผัสของคนเราสามารถมีการรักษารวมทั้งพลังความสดชื่นสำหรับผิวและน้ำมันนวดออกจากผิวนุ่มและก็เรียบ. นอกจากความรู้สึกสบาย thei พวกเขาถ่ายทอด, น้ำมันนวดนอกจากนั้นยังมีทางที่น่าแปลกที่ช่วยบำรุงผิวของคุณและก็กำจัดจุดแห้งบนผิวของคุณ. อย่างไรก็ตาม, หลังการนวด, จะชี้แนะให้ใช้เวลาอาบน้ำที่ผ่อนคลายเพื่อล้างน้ำมันออกจากร่างกายของคุณ. น้ำ จะยังช่วยผิวรูขุมขนจะเปิดจึงสนับสนุนการดูดซึมของน้ำมันนวดไปสู่ผิวของคุณ. ลองมาดูกันประโยชน์ต่อสุขภาพที่สำคัญของการนวดน้ำมันผ่อนคลาย.
ลดการ ความเครียด
นวดเป็นแนวทางที่วิเศษมาก ลดความตึงเครียด และก็ความตึงเครียดที่มีการสะสมในร่างกายของคุณในระหว่างวันที่เมื่อยล้า.
น้ำมันนวดน้ำมันหอมระเหยที่มีน้ำมันหอมระเหยที่สงบประสาท, ช่วยทำให้คุณผ่อนคลายและก็กำจัดความนึกคิดแง่ลบที่สะกิดความเครียด.
สุภาพ, สัมผัสการดูแลการแสดงในงานน้ำมันนวด, ช่วยทำให้คุณ รักษา แล้วก็คืนจิตวิญญาณรวมทั้งความสมดุลทางอารมณ์ของคุณ.
เสริมการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น
หนึ่งในผลตอบแทนที่สำคัญที่สุดของน้ำมันนวด ซึ่งมันช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดรวมทั้งในเวลาเดียวกันจะช่วยลดระดับความดันเลือดซึ่งเป็น น.
เหตุ ajor สำหรับคนที่พบเจอปัญหาที่เกี่ยวกับ ความดันโลหิตสูง.
ปิดปรับแก้
นวดน้ำมันที่ดีที่สุดของคุณบรรเทาร่างกายและก็ส่งเสริมการนอนที่ดีกว่าสำหรับวัน.
หลายคนปวดร้าวทรมาณแสนสาหัสจากความไม่ปกติของการนอนหลับต่างๆได้มองเห็นการแก้ไขในนิสัยการนอนของพวกเขาข้างหลังการดูแลและรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจแล้วก็จิตวิญญาณ การบำบัด, ดังนั้นคนโดยส่วนใหญ่มีประสบการณ์การนอนลึกและก็พักผ่อนมากขึ้นเรื่อยๆ.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
น้ำมันนวด เพิ่มขึ้นแล้วก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีคุณภาพรูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อทั้งปวง, เนื้อเยื่อแล้วก็ข้อต่อก็เลยปรับแก้การแสดงกีฬาแล้วก็การดูแลความสะดวกสบายสำหรับการขยับเขยื้อนร่างกายของคุณง่ายดายมากยิ่งขึ้น. เว้นแต่สิ่งพวกนี้กำเนิดผลดีต่อสุขภาพ, นวดยังช่วยปกป้องการบาดเจ็บแล้วก็เพิ่มความเร็วสำหรับการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการบรรเทาความเคร่งเครียดของกล้ามเนื้อและทะนุบำรุงร่างกายของคุณ พอดิบพอดี และมีความยืดหยุ่นเป็นระยะเวลานาน.
กำจัดสารพิษ
ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันคือมันช่วยทำให้ร่างกายได้อย่างมีคุณภาพกำจัดพิษจากสิ่งมีชีวิตฉะนั้นการส่งเสริมร่างกายที่แข็งแรงขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการนวดน้ำมันนวดและก็ส่วนมากสร้างความแข็งแกร่ง ระบบภูมิคุ้มกันและก็ช่วยย่อยอาหารดีขึ้น.
ศิลปะที่งามของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆสำหรับเพื่อการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับความจำเป็นส่วนตัวของคุณรวมทั้งบรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดบรรเทาและฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อจะรักษาความสมดุลทางจิตวิญญาณของคุณและสุขภาพที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่สามารถหายไปได้เอง!
น้ำมันนวด โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถหายขาดได้เอง ถึงแม้อาการที่แสดงออกมาจะรุนแรงลดลงก็ตาม แล้วก็ในที่สุดก็จะเปลี่ยนเป็นโรคเรื้อรังรวมทั้งทำให้เกิดความลำบากตรากตรำในการดำเนินชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆปัญหาด้านข้อที่มีอยู่ก็จะขยายไปกระทั่งทำให้มีแค่เพียงการผ่าตัดเท่านั้นที่จะเป็นทางออกเดียวที่ช่วยได้
ในบางครั้งบางคราวที่เป็นรุนแรงมากจำเป็นที่จะต้องแปลงข้อต่อทั้งหมดด้วย
ความเจ็บปวดมีก็แค่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การผ่าตัดสามารถเลี่ยงได้
ฟื้นฟูข้อต่อของคุณให้เร็วทันใจที่สุดเท่าที่จะทำเป็นในขณะโรคยังมิได้แพร่กระจายเหลือเกินนัก
  หมอพื้นบ้านหรือการแพทย์แผนไทย ยอมรับในคุณประโยชน์อันแสนวิเศษของยาแผนโบราณตามตำรายาสมุนไพร ตำรับโบราณวัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุพนบริสุทธิ์มังคลาราม ซึ่งเป็นยาสมุนไพรแผนโบราณขนานเอกที่มีชื่อโด่งดังและได้รับความไว้วางใจสำหรับการรักษาโรคมานานมากแล้ว สมกับคำที่กล่าวไว้ว่า "นวดแผนโบราณ ยาแผนโบราณ ตำราเรียนยาสมุนไพร จะต้องวัดโพธิ์ ความคิดของคนไทยตลอดชาติของบรรพบุรุษไทย"

หน้า: [1]