รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Topics - billcudror1122

หน้า: [1] 2 3 ... 7
1
อื่น ๆ / ไพล ดอกอัญชัน คุณประโยชน์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2018, 01:29:49 PM »

ไพล ดอกอัญชัน คุณประโยชน์ชั้นเลิศ บำรุงสายตา แล้วก็ช่วยทำให้ผมดกดำ มาทำความรู้จักกับอัญชันกันให้เพิ่มมากขึ้น มองสิว่าไพลukluiluilfjคุyณปรuiluiะโยชน์ที่ได้รับมาจากluiดyuอกอัญชันมีอะไรบ้างนะ  ดอกอัญชัน ดอyulkกไม้สีม่yuวงที่ขึ้นชื่อว่kyukาเป็tyytjนสมุนไพรที่มีสาระเlป็นอย่างมาก ผู้คนจำนวนมากคงจะเคยรับรู้คุณประโยชน์ของเจ้าดอop'กอัญชันกันopมาบ้าง'opแล้ว ที่เห็นกันashแจ่มแจ้งก็คงจะเtyกาjtyรนำอัญชันมาถูขนคิ้วเด็กตัวเjtล็กๆๆแม้กระนั้kyukนyukทราบไหมว่าที่จริงแล้วดอกอัญชัoi;นมีประโยชน์อีyuกเยอะแยะหลายประเภทเลยล่ะจ้ะ อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า เจ้าดอกเล็กkyukyukๆสีม่วงนี้มีคุkyukณประโยชน์อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย รู้จักดอกอัญชัน  ก่อนที่จะเราจะไปทำความรู้จักกับสรรพคุณและก็คุณประโยชน์ซึ่งมาจากดอกอัญชัน พวกเรามาทำความรู้io;จัyuกับอัญชันกันให้เพิ่มมากขึ้นหน่อยดีกว่าio;จ้ะ เผื่อผู้ใo;erดiio;io;นี้สามfrylukuiliulioถช่วย;loiluii;uioเพิ่luiluilมประสิทธิภาพukลักษณะการทำงานของดวงตา เพิ่มความสามukyรถuilสำuilหรับเพื่อการมองเห็น แก้อาการตามัวuil ตามัว หรือภาวการio;iuoณ์การเสื่อมของดวงตาที่มาจากyukโรคเบาหวาน ไพลโรคต้uiอหิน โรคต้อกระจก และtyjก็มีหน้าioที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้kyuยงส่วนต่างๆได้yukดิบได้ดีเยอะขึ้นเรื่อยๆ แถoiมยังมีฤทธิ์ต้าuilนการออกสิเดชั่นของไขมัน ชะลอการเกิดโรคที่มีต้นเหตุมากจาก;ioคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (LDL) oi;อุดตัน|ตัน}io;ในไพลเส้นโลหิio;;ตio;และโร;คหลอดเลือดหัวiio;o;ใจแข็งoi;

2
อื่น ๆ / ขายตรีผลา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2018, 02:54:50 PM »

ขายตรีผลา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ใหญ่เขตร้อน  สูง 7-12 เมตร เปลือกต้นเป็นtjtjสีเทาหรือสี;jdhtrmtjน้ำตาลแดง ผิวเรียบ ทรงพุ่มแผ่ออกกระจัดกระจายแบบไม่มีรูปร่างแน่นอน ใบประกอบแบบขนปลายคี่ ใบย่อยออกตรงข้าม 6 – 8 คู่ ก้านใบtyjykยาว ใบจำหน่ายตรีผลา หนา เรียบลื่น สีเขียว ใบย่อยเป็นรูปไข่ค่อนข้างจะเรียjtวแหลม jtปลายใบแหลมt โtjykukykคนใบแหลtjม ขอบของใบหยักน้อย จำหน่ายตรีผลาดอกออกเป็นช่tjtอแบบช่ykuiljtliอแยกกิ่งjก้านสาขาตามปลาtjtjยtjยอด  เป็นดอกแบบบริบูรณ์เพศคล้ายช่อjดอกมะม่วง ดอกย่อยขtjtjนาดเล็กมากมาย สีขาวอมเขียวขายตรีผลา กลีบดtjtjอก 5 กลีบ ฐานรykuikuองดอtjกเป็นtjtjสีเหลือง ผลสดเป็นtjรูปไข่หรืtjtอรูปกระสวย ออกเป็นพวง มียางเป็นจุดๆuilktyjluuiบนผิว ผลอ่อนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนผลแก่เป็tyjyukนสีเขียวอมเหลือง สุกแtjล้วเป็นสีส้ม ขนtjาดกว้าtjง 4 – 5.tjtyyuej5 ซม. ยาว 5.5 – 7.5 ซม.  มีเมือกtjtjหุ้มห่อผลที่jyjytjukuปอกแล้ว เนื้อใjtjนเป็นสีขtjาวอมเขียว  มีเส้นใยหยาบๆtjล้ายtjtjหนามแทรกอยู่  รสเปรี้ยวอมtหวานมันรวมทั้งกรอบอร่อย ข้างในผลมีกะลาu,u,u,uที่มีเส้นtjtyjใยหยาบๆคล้ายหนามรอบtyjyjๆห่อหุ้มrthrthอยู่ ภายในกะลามีเม็ดระหว่u,u,ui,uาง 3-5 เม็ดขายตรีผลา รูปtjแบบของเมล็ดเป็นทรงกลมรีถิ่นกำเนิด ในทวีปเอเชียการขยายพันธุ์ ,u,uเพาะกล้าจากเมล็ด แล้วก็การตอนกิ่ง,u,

Tags : ขายตรีผลา

3

ขายส่งยาระบายถ้าเอ่ยถึงกระเจี๊ยบแดง คนไม่ใช่น้อยอาจจะนึกไปถึงน้ำกระเจี๊ยบสีแดงๆรสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น แล้วเคยสงสัยถึงสulรรพคุณยาระบายราคาถูกกระเจี๊ยบกันyulylulบ้างไหม|บ้างuilหรือไม่|บ้ergrtjyukางหรือyulkyล่า}ขาว่า กระเจี๊uyukylio;ยบ สระรuylพคุณดีต่อร่างกายขายส่งยาระบายเเคปซูลยังไงบ้าง ถ้ายังไม่รู้จักก็มารู้io;จักประkuylโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากio;กระเio;ยบแดi;งกันเลยกระio;เจี๊ยบ สมุนไพรไทยสีแดงแรงฤtloiทธิ์   กระเจี๊ยบแดuilงมีชื่อทilางวิทยาศาตร์ว่า Hibiluiscus sabdaiffaulu L. ชื่อภาษาอังกfkiฤษของกระเจี๊ยบแดงคือ Jashytjytmaica sorro;iหรือ Roselulle ส่วนใน;io;บ้านยาระบายราคาถูกพวกเราเรียกกันอีiu;io;ioกทั้งกระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบ กรio;io;ะเจี๊ยบเปรี้ยว ผัuilกเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง ส้มตะเลงเครง ส้มปู ฯลฯ    บ้านเกิดของกระเจี๊ยบแดงอยู่ใlkuiบแอฟริกาตะuiนตก หลังจากนั้นได้มีการนำกระเจี๊ยบluแดงมายาระบายราคาถูกปลูกเอาไว้ภาio;ยในประเทศiluiluแถบเส้นอีเควเตuluอร์ทั่วไluuiป ต้นกsjyukระเจี๊ยบจะชอบแดดแรงแลio;ulะก็จะเติบโตก้าวหน้าในดิdekที่มีความชื้นyuklพuilอเหมาะขายส่งยาระบายเเคปซูล เพราะฉะiolนั้นกระเจี๊ยบก็เลยปลูกไว้ในบ้านเราได้สบายๆกลายเป็นพืชสมุนไliioolioพรที่หาง่ายมากๆลักษณะทาtlสตร์|วิชาพฤกษศาสตkyuร์}ของกระเจี๊ยบแดงจะเป็นไม้พุ่ม ขายส่งยาระบายเเคปซูลความสูงของต้นราวๆ 1-2 เมตร กิ่งก้านของต้นมีสีม่วงแดง มีขนตามรนวกิ่งและก้านรำไร ใบกระเจี๊ยบเป็นใบคนเดียว รูปทรงไข่หรือรูปนิ้วมือ ขนาดใบกว้างกระมาณ 7-12 ซม. ยาว 8-15ยาระบายราคาถูก ซulม.นรว ขyukบใบจัก  ส่kyukวนดอกกระเจี๊ยบมีสีkuyuเหลือรนวง กึ่งกลางดอกมีสีม่วyukงอมแดง ขนyukาดความดอกกว้างราวๆ 4-5 เซนติเมตร ดอกกระเจี๊ยบจะออกโดดเดี่ยวหรืykอดอกคู่ตามซอกใบขายส่งยาระบายเเคปซูล ในดอกกระเจี๊ยบมีเกสรรสรตัวผู้เชื่ีใวนรอวมกันเป็นหลอด ผรรนวนวลเผ็มนผลแห้ง แตกได้ มีกลีบเลี้ยykงสีแดงชุ่มฉ่ำน้ำหุ้มห่อไว้ ลดระดับความดันโลหิต จากiluilการศึกษาทางluiสถานพยาบาลgylukในอาสาสมัครที่มีluoioความเสี่ยงภาวะคyoioi;uoikวามดัulนโลหิตสูง โดยให้อาสาสมัครดื่มutkชาัีาระเจี๊ยบแดง 1.25 กรัม ัีาชงเ้กับน้ำร้อน 240 luiท้มlมล.iului วันละ 3 ครั้ง uliอเนื่องกันเป็นเวลายาระบายราคาถูก 6 อาtglทิตย์ พบว่า ความดันเลือดiulของอาสาสมัuluครลดน้อยลง 7.2 มิลลิเมตรปรอท (ขณะหัวใจบีบตัว) และ 3.1 มuil.ปรอทtluiului (ขluuiณัาสะหัวใจพ้ะ่ะัคลายตัว)1ului2. คุ้มครlulองปกป้องไต  การเilัีาuรีหำะ่นในัาilu{คลินิก|สถานพยดก่ัาัสาบาลfrkuiที่ให้อาสาสมัครกินน้ำกระเจี๊ยuilบแด่ัะาัสง 24 กรัมต่อวัน พบuil สารiululuillkำ่ัีพฤกษเคมีในกrfระเจี๊ยulบแดงuilมีส่วนขายส่งยาระบายเเคปซูลช่วยขับครีเอตินิัีาululน กรดยูริก luilซิเตรต ทราเทรต แคลเซียม โพแทสเซีัีายม รวมทั้งฟอสเฟตขายส่งยาระบายเเคปซูล และก็ในข้อulลสัตว์ทดลองยังพบว่า ยาระบายราคาถูกกรดขuliuilfrองop'p'pสารพฤกษเคมีในดอกกระเจี๊ยบแดงขน'opาด ัีัาีาk750 มิลลิกรัมต่อกก. ยาระบายราคาถูกสามารถปuiluilulกป้องjyukluilและก็ขายส่งยาระบายเเคปซูลยับยั้งการพัฒนาของก้อนนิ่วได้ ทop''ผลของการuilยับยั้งนิ่วในคนยังัีาulจำulเป็นต้องศึกษากันต่อไปop'

Tags : ขายส่งยาระบาย,ยาระบายราคาถูก,ขายส่งยาระบายเเคปซูล

4

กล้วยน้ำว้า ถั่วลันเตา คุณประโยชน์มีคุณค่า บำรุงสุขภาพแบบเน้นๆคุณประโยช์uilจาkyukกที่รอioให้io;คุณ|ให้uilาiluน}กล้วยน้ำว้าสัมผัส;กับผuilลดีดีๆเพื่อสุขrthภาพ มาทำความรู้จักกับผักจำพวกuilนี้ให้;ioเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วคุณจะ;io;ตกหลุมรักเจ้าผักrthจำพวกนี้กรuloii;oะทั่งรีบหามากินกัuilนอuilย่yukางด่วนจี๋เลย ถั่วลันเykuตา ภาษาอังกesrhtyษเรียกว่า Peas, Garden Peas หรือ Green Peas มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pisum sativum uuililL. เป็นuiluilพืชใluiluiนตระlกูลถั่ว (Legumes) คาukyuดการณ์ว่ามีต้นกำเนิดมาจากแถบประเทuikyukซีเรียรวมทั้งประเทศตุรกีในปัจจุluiบันhs โดยมีrftluiการพบว่าเริ่มปลูกพืhrtชชนิดนี้มาตั้งแต่ kyu8,00lui0-9,500tyjtyj ปีกลายkluil ชื่อของถั่วyukyukลันเตานั้นuiluiyukkพ้องเสียงfgjมาจากuyilาษาจีนแต้จิ๋'วที่เรีyukยuiuillกถั่วชนิดนี้ว่ากล้วยน้ำว้า ห่อหลั่นตา ซึ่งมีคuilวามหมายว่า ถั่วจากฮอลแลนด์ถั่วลันเตา  ทั้งนี้ลักษณะโดยทั่วไปของถั่วลันเตาเป็น เป็yhtjtนyksjไม้เลื้อย ลำuilต้นเล็กเป็นเหลี่ยม ใบมีuilลักษณะเป็นyukyukใบประกอบแบบขนนกdtkjyukyukluyl oi;op';opมีใบย่อย 1-tdjuyuillui4 คู่ ใบย่อยมีลักษuilะเyuiloiป็นรู้กึ่uilวuiลม หรือเป็นรูluiปuรี โคนใบกลม luiluilluiลluilายใบแหลม มีสีเขีilยวอ่อนถึงสีเkyuuiluilขียวเข้ม ดอกเป็นดอกแบบบริบูรณ์เพศ ผสมตัวเองiuul ลักษliuณะเป็นแบบช่อกะlio;oiuจะ กลีบกึ่io;io;งกลางสีขาวหรือขาวปนสี;io;น้ำuilเงิน กลีบคู่ข้iluiางๆสีขาว หรือมีทาสีม่วงแดงtj กลีบคู่jtล่างมีสีเtyhjดียวกัน โดยส่วนที่นิยมนำมhtาใช้uilถือผล ซึ่งมีลักuiuilษณะเป็นฝักถั่ว ด้านในฝักdejkyukมีเมล็ดตั้งแiuo;-10uil เม็ดio;ามาulรถเอามากินได้{ทั้ง|อีกทั้ง|ทั้งยังyukฝักเมื่อyuยังเป็นtyjฝักอ่อน หรือไม่ก็rthrtgอาจจะนำเมล็ดแก่ออกมาจากฝักมารับประทานก็ได้ กล้วยน้ำว้าถั่วลันเตาเป็yukนิยมสูงด้วยเหตุว่ามีคุณค่าทางtyjอาหารhtrสูง โดtyยในเม็uilดถั่วลันเตา uy100 กรัม uมีคุณค่าทางของluiluilaกินดังนี้วyukกuiาวiกเหนือจาuilการที่จะเป็นของกินที่มีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ถั่วลันเตาเuiluองlก็ยังมีสาระกับสุข'opภาพอีกเยอะแยะ กล้วยน้ำว้าก็เลยทำให้ถั่uilวประเภทนี้เปลี่ยนเป็นuiluilอาหารliulที่มีดีpo'po'งครบถ้วนอีกทั้งในด้านรสที่หวlาoนกรอบ แล้วก็การบำรุuiluilงสุขภาพ ซึ่งประtyโยชน์ของถั่วลันเตามีดังนี้jtyจ้ะ1. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นสาop'รฟลาโวนอยด์kykyuku แคโรทีนอยด์ กรดฟีopโนลิก kyuรวมทั้งโพลีฟีนuykyukอล ช่วยyuป้องกันไม่yuให้เซลล์ถูกทำkjyuลาย ลดกาop;รyukอักop';เสบ อันเป็นต้นเหตุขอio;งโรuilคภัยต่างๆอาukyukทิ โjyytjyรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ รวมทั้งyukช่วยชะลyklulอการเกิดuilulio;ริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย อีกทั้งio;งยังมีวิตio;มินซี วิตuilามินอี และสังกะสีที่uilต่อร่างกาย

Tags : กล้วยน้ำว้า

5

ขายยากษัยเส้น ทำความรู้จักตำลึงประการแรกเรามารู้จะตำลึงกันก่อนดียิ่งกว่า ตำลึงมีชื่อเรียกว่า แคเต๊าะ(แม่ฮ่องสอน) ผักแคบ(ภาคเหนือ)  ผักตำนิน(อีสาน) มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย คลานตามjtyรั้ว เป็นเtykjuilถาเลื้อยที่มีมือจับ uo;opเพื่อเกาะerhtyjtrยึดหลักต้นไpo';ม้อื่นๆป็นio;ยากษัยเส้นราคาถูกใบผู้เดียวขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลสลับกันไปตามเถาtyjykluli ฐานใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ryio;kuilขอบใบขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลหยักแบบฟันเลื้อยตื้นio;ๆหยักเว้า 5 แฉก เส้นใบแยกจากโคนใบที่จุดเดียวกัน 5-7 เส้น ใบกว้jykuาง 3-4 ซมul. ก้านใบยาว 3-5 เซนติเมตร ดอกสีขาว เป็นดอกuilulลำพัง มี 2 เพศjty เพศผู้รวมทั้งเพศเมียจะอยู่คนละต้น แuม้สัluiงเกตดูจtyเห็นควาtjมต่p;oางกันขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลตำลึง3;op อันตรายจากตำลึง เลือกไ;op;ม่op'ดีระวังลูกท้อrtงเสีrthdetyjย ตำลึงตัวผู้ ตำลึulงตัวเมียไม่เหมือน;กันเช่นไรอันตtjtjจาก;ตำลึงยากษัยเส้นราคาถูกop;oคุณปluระโยชน์จาo;ioกytjตำลึงในส่วp;opนของยอดตำลึง จำนวน 100 กรัมjtyj'op จะประกอบไปio;โดยโปรตีน 3.3 กรัม วิตามินบี 1 0.17 กfแคลเซีulม 126 มก. ฟอสฟอรัส 30 มิtyลลิกรัtykuilม ธาตุเหล็uil 4.lutj6 มิลลิกรัม ไนอาซีน 1.2iul;io; มิลuiluliรัมuilมก. วิตามิulนซี 13 มิuilลลิyujkกรัyilมยากษัยเส้นราคาถูก ใยอาหาuio;kyร 2.2 กรัม แulลuilและก็เบต้าแคkiuluiloiรtทีนมากถึงio 699.8;8 ไมโครกรัมนอกจากergrtนี้ ใบของตำลึrehtreยังมีสรรพคุณขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลทางยาที่ช่วยสำหรับเyukพื่อการดับพิioษร้อน ถอนพิษไข้ แก้ตัio;วtjร้อน ขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลแก้ลักษณะขอhrtjyukงการปio;วดแสบปวดร้อนช่วยขับพิษในลำไส้ ช่i;วยป้อrthงกันท้องผูกtyj ยากษัยเส้นราคาถูกช่วยป้อliolงกัoiloiนการเป็นtjตะคริว ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโrtลหิต แล้วก็ช่วยtjบำรุงรักษานมแม่ ถ้าเป็นkuyเป็นแก่หน่อย จะช่iklioวยลดน้ำiolioตาลในเลือดจะเห็นไiolด้ว่าคุณประโยl;iolชน์ทางอtyjาหารมากมายขนาดนี้ ตำลึงก็เลยเหมาะแก่การนำมาทำอาหารสำหรับiolม่าม้าท้องยากษัยเส้นราคาถูก แม่lioให้นม รวมทั้งอาหารสำlioliหรับเด็กด้วย แม้กระนั้ioนอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าใบตำลึงอuาจก่อให้ลูกtyjน้อยuloท้องเสียได้ หากคุณแม่ไม่ระวังเพราะใบตำลึงที่มักนิยมนำมาทำเป็นของกินนั้นจะเป็นตำลึงเพศภรรยา ส่วนตำลึงเพศผู้เมื่อกินเข้l;opาไปlioจะมีผลให้อีกทั้งเด็กและคนแก่กำเนิดอาการขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลท้tjองร่วง สำuluilหรับคนแก่ท้องเสียยังไม่ค่อยน่าวิตกยากษัยเส้นราคาถูกเยอะแค่ไหtjน แต่สำหop'รับเด็กตัวเล็กๆtjแล้วล่ะก็อาจจะไม่ดีtjแน่ๆเนื่องuilจากใบตำลึงเพtykผู้มีฤทopธิ์iuทางยาที่สูงกว่านั่นเองจ้ulะ โดยเหตุนี้ยากษัยเส้นราคาถูก ก่อนที่แม่จะนำใuilบตำลึงหรือยอดuอ่อนตำลึงมาขายส่งยากษัยเส้นเเคปซูลปรุงอาหาluiรใlห้ลูกกินuilควรสังเกตให้ดีๆ

Tags : ขายส่งยากษัยเส้น

6

ขายกวาวเครือขาวรายการอาหารถั่วดำเป็นของหวานที่พวกเรารู้จักดีกันดี เพราะว่าถั่วดำทำอะไulรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยtkukiulโบราณๆอululย่างข้าวเหนียวเปียกถั่วดำ ถั่วop;oดำน้ำกะทิ หululrkuiรือผ่านทulวีปไปอีก';op'นิดเป็นบulราวนี่ถั่วดำ oi;เห็นได้ชัดว่าถั่o'/วtgfkiuเป็นธัญพืullชuluที่กินง่luายจริงๆขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูลแต่นอกจluากกวาวเครือขาวราคาถูกประโยชน์ในด้ulาulนความอร่อยที่rukyflio;นานัปการulนานาประกululรแล้ว ทราบไหมคะulว่lulาประโยชน์ของถั่วดำก็เด็ดสะระตี่กวาวเครือขาวราคาถูกไม่เบาo'เi;ชียวล่ะ โดยเฉo'พาะกวาวเครือขาวราคาถูกสรรพคุณสำหรับเพื่อการop'ต่อต้านโรคมะเร็งประโยช์จากถั่453วดำ มาi;io;ล้ำไป543ด้วยคุณประโยชน์ขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูลดีๆ1. ปรับสมดุลระบบทางเดิi;นอาหาร แล;opgก็น้ำตาลในเลื43อด  pจากที่เห็นว่าถั่วดำเป็นแหล่งโปรตีน 473ใยoi;อาหาร และธาตุต่าi;งๆที่ดีหi;ลายประเภท ถั่วดำก็เลยมีสรรพคุณช่24วยl;io;ปรับให้สมดุลให้ระบบทางเดินอo;าหารปฏิบัติงi;านเจริญ tkแล้วก็ylยังช่วยสร้างสมดุลflkuiระดับน้ำตาลyuloi;lio;ในเลือด ไulม่ให้เพิ่มหรือลดลงulอย่างเร็วด้วย2. เป็นของกิio;ullนต้านมะเร็งi;รังไข่ด้วยคุluณประโยชน์ของถั่วดำที่ช่วยทำนุบำรุงสุขภาพม้าม ขับความชื้นนร่างกาย บำรุงพลังส่วนกลาง ซึ่งจะช่วยให้ระบบแนวทางการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะระบบภูมิต้านทานดำเนินงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกวาวเครือขาวราคาถูก เป็นป้อมปราการปกป้องเy;;ซลล์ร้ายได้ทางหนึ่io;io;ง อีกด้วยสรรพคุณช่วยทำpo'p['ให้ฮอร์โมนภายในร่างกายrkl ถั่วดำขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูลจึงมีส่วนช่วยลดความเ453สี่ยงโรคมะเร็งรังไข่ อันเกิดขึ้นจากความผิดปกติขo;อง;tgloi;opฮอร์โมนภายo;ในร่างกายได้นั่นเ45345งop'  เว้นเสียแต่l;;ถั่วดำจะเป็io;นi;อาหารต่อต้io;านมะเร็งรังไข่แล้ว ยังมีp';oสรรพคุณช่วย'o'pต้านมะเop'ร็งประเภทอื่นๆได้อี453กด้วย ขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูลเพราะเหตุว่ากวาวเครือขาวราคาถูกในเปลือกถั่วi;'op'54345oดำเป็นแหล่ง;สop';ะสมylสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิio;i;ดหนึ่งul โดยมีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้43าและทำการวิจัยขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูลพบว่า สารฟลาโวนอยด์ที่พบในเปลือกถั่วดำมีอยู่ถึง 8 ประเภทด้วยกัน กวาวเครือขาวราคาถูกจึงช่วยคุ้มครองเซลล์ภายในร่างกายจากการกลายพันuilธุ์เป็43นเซลล์ร้ายo'ได้ ดังนี้ยังมีงานศึกษาวิจัยขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูลจาก Michigaluln St36ate Universiulty ที่ulให้หนูทดลองขายส่งกวาวเครือขาวเเคปซูล45บประทานถั่วดำแล้วพบว่า ตัวท52ด4ลองมีการเสี่ยงกวาวเครือขาวราคาถูกโรคมะเร็งลำไส้ลดลงราว 44-75% ขึ้นอulยู่กับ{ปริมาณ|จำนวนulถั่วดำที่กินเululข้าไป แล้3วก็ยังulพบว่า6ตัว2452ทดลองlที่รับปร63ะทานถั่วดำอย่างสม่ำเสมอมีจำนวนไขมันในร่างกายลดน้อยลงด้วยul

Tags : ขายส่งกวาวเครือขาว,กวาวเครือขาวราคาถูก

7

ขายส่งว่านชักมดลูก มะกอก เป็นไม้ยืนต้น พืชแคว้นที่มีถิ่นเกิดในเขตทวีปเอเชียo' ตัวอย่างpo'เช่น ประเทศอินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทยว่านชักมดลูกราคาถูก มะop'กอกเป็นพืชที่ได้ผลได้ตลอดทั้งปี uopl;i;สำหรับมะกอกในประเท'opศไทย สามารถพบได้ทุกภูมิภาคขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูล มัก'opพบในป่าบญจพรรณpและป่าเต็ง สามารถแพร่พันธุ์โดยการเพาะเม็ดต้นมะกอก มีชื่อสามัญ ว่oo'o'อย่างเ'opช่น}op' กูก poกอกo'กุก ก\]อกเขา ไพแซop' กอกหมองดู กราไพ้ย op'พ้ย ตะผร่าเหมาะop'สม กอกป่า มะกอกไทย มะกอกghmhj,jk,.ป่า สือก้วยโหยวop' โค่ยพล่าละ แผละค้อก เพี๊ยะค๊อก ลำปูน'opop'ลui. ตุ๊ด'opกุ๊ก ไฮ่บิ้ง 'oฯลฯชop'ของมะกอกสำ'poหรับมะกอกในปkyuyuili'op.o.ระเทศไทย พบว่ามีมะกอก' 4 ชนิดขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูล เป็uilน มะopกอกป่uliuา มะกอกiluliฝรั่ง มะกop'อกulน้ำ รวop'มทั้ง uilมะlo;opกอopกโอลีฟ o'ซึ่งมะกอกฝรั่ง เป็นo'มะkuilygอกop/ulu.ที่มีผลรสoหวาน นิยมเอามfmjารับประทาน[|กิน}สดเป็นผลไม้ ส่วนมะกอกน้ำนิยมนำมาluilดองแล้วก็ขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูลแช่อิ่ม;u;io;; และก็ มะกอกโอลีop'ฟจะเอามาสh,guillio;io;opกัดเอาว่านชักมดลูกราคาถูกน้ำ/o/มันมะกอกรูปแบบของต้นมะกอกต้นมะกอop'ก พืชตระulกop'ลูมะม่วง สามารถขยายพันธ์ได้โดยuilการเพาะเม็ดขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูล มีถิ่นเกิดในเขตประเทpoแถบ{เอเชีย|ทวีulป?Pเอเชียรวมถึงเมืองไทย พบได้บ่อยขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าเต็ง และ ป่าดงดิo'บแล้งทุกภาคของประop'เทศไทยopมืองไทยp'oด้วย เป็นไม้iluน รูปแบบของต้นมะกop/op/อก มีดังนี้ลำต้นop'มะกอก ลำopต้นตั้งชัน ลักษณะกลopม ความสูงราวๆว่านชักมดลูกราคาถูก 25 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้าน เปลือกของลำต้นเป็นสีเทา ลักษณpo'oะเปoi;oลือp';/op;jlกหนา เรียบ มีปุ่มเงื่อนบางส่วน มีรูอากาศตามลำต้นใบมop//กอก เป็นใบประกอบ ลักษณะแบบข/opน มีชั้นเดียว เรียงสลับตามกิ่ง เนื้อo'ใบดก เป็นเงา ท้องใบเรียบ ปลop/ายop'ใบแหลม โคนใบมน ขอo//บของใบว่านชักมดลูกราคาถูกไม่เท่'op'ากัน ใบอ่อนสีน้ำตาลแดงดอกมะrfjnyuกอopก ออกเui,ป็นช่อ ลักษณะเป็นรูปถ้yu,lวย ดอกมะกอกออกที่ปp'ลายกิ่ง และ ซอกใบ ดuykอกi,uย่อยเป็นสีครีม กลีu,uiบดอกไม้เป็นรูป,iรี ปลายiu,uiกลีบดอกไม้แหลม ดkyuอกมะกอกจะออกในตอนopเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ผo'ลมะกอกขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูล ลักษณะขอui,งผลเป็นรูปไข่ ผลสดมีเนื้อชุ่มyukฉ่ำน้ำ เป็นสีเขียว ผลแก่เop'ป็นสีเหลืkyukองอมสีเขียว หรือ สีเหลืองอ่อนว่านชักมดลูกราคาถูก รop'สเปรี้ยวจัด มีเมล็,ui,ดผู้เดียวขนาดใหญ่รวมทั้งแข็งมากมาย ว่านชักมดลูกราคาถูกภายในผล ผิวเมล็ดลักykษณะเป็นเศษไม้รวมทั้งขรุขระคุo'ณประโยชน์ทางโภชนาการของมะกอoiop';กสำหรับมะกอก มีรสเป'รี้ยว สามารถขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูลเอามากินop'แต่งรสชาติอาหาร'yk และว่านชักมดลูกราคาถูก เอามo'าขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูลสกัดทำน้ำมันที่สกัดจากมะกอกop';

Tags : ว่านชักมดลูกราคาถูก,ขายส่งว่านชักมดลูกเเคปซูล

8

สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ชื่อสกุล : ACANTHACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acanthus ebracteatus Vahl
ชื่อพ้อง : Acanthus ilicfolius L. ; Acanthus ilicfolius L. var intergrifolia T.Anderson
ชื่อสามัญ : Sea holly
ชื่อพื้นเมืองอื่น : แก้มแพทย์, แก้มแพทย์เล (กระบี่) ; จะเกร็ง, นางเกร็ง, เหงือกปลาหมอ, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน (ทั่วๆไป) ; อีเกร็ง (ภาคกลาง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงราว 30-100 ซม. ลักษณะลำต้นเป็นข้อ แข็ง แล้วก็มีหนามอ่อนๆตามข้อๆละ 4 หนาม
ใบ เป็นใบลำพัง ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆสีเขียวเข้ม ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขอบใบเว้าหรือเรียบ และมีหนามแหลม ปลายใบแหลม มีก้านใบสั่นๆ
ดอกเหงือกปลาหมอ ออกเป็นช่อตั้งชันที่ยอด ช่อดอกยาว กลีบรองกลีบ มี 4 กลีบ แยกจากกันสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาว สีขาวขริบฟ้า หรือสีฟ้าอมม่วง แยกเป็น 2 ทาง กลีบบนยาวพอๆกับกลีบรองกลีบดอกไม้ แม้กระนั้นกลีบล่างแผ่กว้างและก็โค้งลง ปลายกลีบหยักเว้าเป็น 3 หยักตื้นๆ
ผล เป็นฝักสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน มีเม็ดด้านใน 4 เมล็ด
นิเวศวิทยา
เป็นไม้ที่โล่งแจ้ง มีอยู่ทั่วๆไปในป่าชายเลน จากที่ลุ่มริมแม่น้ำลำคลอง ส่วนใหญ่ชอบขึ้นในที่น้ำกร่อย แต่บางทีก็พบในน้ำจืดบ้างเช่นกัน
การปลูกแล้วก็ขยายพันธุ์
เจริญวัยก้าวหน้าในดินเกือบทุกชนิด ความชื้นปานกลาง เพาะพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
คุณประโยชน์ทางยา
รสและก็สรรพคุณในตำราเรียนยา
อีกทั้งต้น รสเค็มกร่อย แก้อาการผดผื่นคัน
ใบ รสเค็มกร่อย รักษาโรคปวดบวมรวมทั้งแผลอักเสบ แก้ท้องเฟ้อ ท้องอืด หมอแผนไทยตามบ้านนอกใช้ทั้ง 5 เป็นยาแก้ไข้หัว พิษฝี พิษรอยแดงได้ดิบได้ดี แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ปรุงกับฟ้าทลายขโมยรมหัวริดสีดวงทวาร ตำใบผสมกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาแก้อาการตาเจ็บหรือตาแดง
ผล รสเค็มกร่อย ใช้เป็นยาขับเลือดอย่างแรง และก็แก้ฝีซาง ฝีตาน
ในประเทศประเทศอินเดีย ใช้ยอดรวมทั้งใบอ่อนโขลกผสมน้ำน้อยปิดแผลที่ถูกงูกัด อีกทั้งต้นใช้รักษาแก้โรคที่เกี่ยวกับหลอดลมรวมทั้งแก้ไอ และก็เอามาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาธาตุพิการ
ในประเทศสิงคโปร์ ใช้เม็ดเป็นยาแก้ไอ โดยต้มเมล็ดกับดอกมะเฟืองหรือดอกตะลิงปลิง แล้วเติมเปลือกอบเชย และน้ำตาลกรวด จิบแก้ไอ เมล็ดบดเป็นผุยผงใช้พอกแก้ฝี หรือนำไปคั่วแล้วป่นละลายน้ำดื่มแก้ฝี ฝักต้มกินเป็นยาขับโลหิต แล้วก็แก้ฝี รากต้มเป็นยาดื่มแก้โรคงูสวัด
วิธีรวมทั้งปริมาณที่ใช้
รักษาโรคผิวหนัง แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย โดยใช้ทั้งยังต้นแล้วก็ใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด สับเป็นชิ้นนำไปต้มน้ำ แล้วใช้น้ำอาบ ยามเช้า-เย็น เป็นเวลา 1 อาทิตย์
ข้อควรรู้
เหงือกปลาหมอมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท เป็น
เหงือกปลาหมอ Acanthus ilifolius L. หรือ Acanthus ilifolius L. var intergrifolia T.Anderson ลักษณะจะมีดอกสีฟ้าอมม่วง มีประสีเหลืองตรงกลางกลีบ มีใบเสริมแต่งสีเขียวอีก 2 กลีบ รองรับดอกอยู่เสมอไป
เหงือกปลาหมอ Acanthus ebracteatus Vahl ลักษณะจะมีดอกสีขาวออกจะเล็ก มีใบเสริมแต่งรองรับช่อดอก แต่ว่าตกหลุดไปก่อน
คุณประโยชน์ของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดี เส้นโลหิตไม่ตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคละเคล้าผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าแม้กินติดต่อกัน 1 เดือน จะก่อให้ปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ประเภท หูไว / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่ทราบอิดโรย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง / 9 เดือน หนังเหนียว (อีกทั้งต้น, ราก)
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุแตกต่างจากปกติ (อีกทั้งต้น)
ช่วยให้เลือดลมปกติ (ทั้งต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยให้เจริญอาหาร (ทั้งต้น)
ช่วยแก้โรคกษัย อาการผอมโซเหลืองหมดทั้งตัว ด้วยการใช้ทั้งต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผงกินแต่ละวัน (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนหมดทั้งตัว เจ็บระบบหมดทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนหัว หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอและเปลือกมะรุมอย่างละเสมอกัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำเดือดจนกระทั่งงวดแล้วยกลง เมื่อเสร็จให้อั้นลมหายใจกินขณะอุ่นๆจนถึงหมด อาการก็จะ (อีกทั้งต้น)
ช่วยยั้งโรคมะเร็ง ต่อต้านโรคมะเร็ง (ทั้งต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งต้นแล้วก็ข้าวเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ในสัดส่วนที่เสมอกัน นำมาต้มกับน้ำจนเดือดแล้วนำมาดื่มในขณะอุ่นๆครั้งละ 1 แก้ว ตอนเช้า ช่วงเวลากลางวัน เย็น อาการจะดีขึ้น (ต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (ต้น)
รากช่วยแก้แล้วก็บรรเทาอาการไอ หรือจะใช้เมล็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้เช่นกัน (ราก, เม็ด)
ช่วยแก้หืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งยังต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นเอาแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ทั้งยังต้นและรากนำมาต้มอาบแก้อาการ (อีกทั้งต้น)
แก้อาการไอ เมล็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสลด (ราก)
ถ้าหากเป็นลมเป็นแล้ง ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างละเอียดเป็นผงแล้วนำมาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้ต้นรวมทั้งพริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ทั้งยังต้น)
ช่วยขับพยาธิ (เม็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย เอามาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับฉี่ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดระดูขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการกางใบรวมทั้งต้นนำมาตำเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้เมนส์มาไม่เป็นปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งยังต้นนำมาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (อีกทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการกางใบนำมาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตทุพพลภาพ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)

ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เม็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนและพริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนกินก็ได้ (เม็ด, ผล, ทั้งยังต้น)
ช่วยฟอกเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยสมานแผล ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (ต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น นำมาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เม็ด)
สำหรับผู้ป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่องที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง หากใช้ต้นมาต้มอาบและทำเป็นยากินติดต่อกันราวๆ 3 เดือนจะช่วยให้อาการของแผลพุพองบรรเทาลงอย่างแจ่มแจ้ง (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่า รักษาขี้กลากโรคเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคโรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเอามาตำมัวแต่น้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดรวมทั้งใบสดล้างสะอาดราว 3-4 กำมือ เอามาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันต่อเนื่องกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ผื่นคัน (ต้น)
รากสดนำมาต้มมัวแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง ฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกประเภททั้งยังข้างในข้างนอก ด้วยการใช้ต้นรวมทั้งใบทั้งสดแล้วก็แห้งประมาณ 1 กำมือ นำมาบดให้ถี่ถ้วน แล้วเอามาพอกรอบๆที่เป็นฝี หรือแนวทางที่สองจะเอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วนำมาดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ราวๆ 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เม็ดนำมาคั่วให้เกรียมแล้วป่นอย่างถี่ถ้วน ชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เมล็ดใช้ปิดพอกฝี (เม็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน คุณประโยชน์ช่วยถอนพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำอย่างถี่ถ้วน สามารถใช้พอกรอบๆแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกทั้งตัว ด้วยการใช้ทั้งต้นของ[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลาหมอ[/url]1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (อีกทั้งต้น)
ต้น ถ้านำมาใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาตลอดตัวได้ (ต้น)
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศเอามาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบปรับแต่งข้ออักเสบและแก้อาการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบเอามาทาให้ทั่วศีรษะ จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ) http://www.disthai.com/

9

เหงือกปลาหมอ
เหงือกปลาหมอ ชื่อสามัญ Sea holly, Thistleplike plant
เหงือกปลาหมอ ชื่อวิทยาศาสตร์ Acanthus ebracteatus Vahl (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Acanthus ilicifolius Lour., Acanthus ilicifolius var. ebracteatus (Vahl) Benoist, Dilivaria ebracteata (Vahl) Pers.) จัดอยู่ในวงศ์เหงือกปลาหมอ(ACANTHACEAE)
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า แก้มหมอ (สตูล), แก้มแพทย์เล (กระบี่), อีเกร็ง (ภาคกลาง), นางเกร็ง จะเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน ฯลฯ
เหงือกปลาแพทย์มีอยู่ร่วมกัน 2 สายพันธุ์หมายถึงประเภทที่เป็นดอกสีม่วง (Acanthus ilicifolius L.) ที่มักพบทางภาคใต้ แล้วก็จำพวกที่เป็นดอกสีขาว (Acanthus ebracteatus Vahl) ที่พบบ่อยทางภาคกลางแล้วก็ภาคทิศตะวันออก รวมทั้งเป็นพรรณไม้ที่ลือชื่อของจังหวัดสมุทรปราการ
เหงือกปลาหมอ สมุนไพรใกล้ตัวหรือบางครั้งก็อาจจะเรียกว่าเป็นสมุนไพรชายน้ำหรือชายเลนก็ได้ สามารถนำสรรพคุณทางยามาใช้เพื่อการรักษาโรคได้หลายอย่าง ที่โดดเด่นมากมายก็คือการนำมารักษาโรคผิวหนังได้แทบทุกชนิด แก้น้ำเหลืองเสีย แล้วก็การนำมาใช้รักษาริดสีดวงทวาร เป็นต้น โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรก็ได้แก่ ส่วนลำต้นทั้งสดรวมทั้งแห้ง ใบอีกทั้งสดและก็แห้ง ราก เมล็ด และก็ทั้งยังต้น (ส่วนทั้งยัง 5 ประกอบไปด้วย ต้น ราก ใบ ผล เมล็ด)
รูปแบบของเหงือกปลาหมอ
ต้นเหงือกปลาหมอ เป็นไม้พุ่มขนาดกึ่งกลาง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเมล็ดและการใช้กิ่งปักชำ เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นที่โล่งแจ้ง เจริญเติบโตเจริญในที่ร่มและในที่ที่มีความชื้นสูง ถูกใจขึ้นตามชายน้ำหรือบริเวณริมฝั่งคลองบริเวณปากแม่น้ำ เป็นต้นว่า รอบๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งทิศตะวันออกเหนือปากคลองมหาวงก์ และก็ที่สถานศึกษานายเรือ เป็นต้น
ต้นเหงือกปลาหมอ
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะของใบมีหนามคมอยู่ขอบขอบของใบและก็ปลายใบ ขอบใบเว้าเป็นระยะๆผิวใบเรียบวาวลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีชำเลืองสีขาวเป็นแนวก้างปลา เนื้อใบแข็งแล้วก็เหนียว ใบกว้างโดยประมาณ 4-7 เซนติเมตร และยาวราว 10-20 ซม. ใบจะออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น
ใบเหงือกปลาหมอ
ดอกเหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวโดยประมาณ 4-6 นิ้ว ดอกมีพันธุ์ดอกสีม่วง (หรือสีฟ้า) รวมทั้งจำพวกดอกสีขาว ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน รอบๆกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่
ดอกเหงือกปลาหมอ
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ผลเหงือกปลาหมอ ลักษณะของผลเป็นฝักสีน้ำตาล ลักษณะของฝักเป็นทรงกระบอก รูปไข่ หรือกลมรี ยาวราวๆ 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ข้างในฝักมีเมล็ด 4 เม็ด
คุณประโยชน์ของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพแข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดี เส้นโลหิตไม่อุดตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคละเคล้าผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าถ้าเกิดกินต่อเนื่องกัน 1 เดือน จะมีผลให้สติปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ชนิด หูไว / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่ทราบอ่อนล้า / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงไพเราะ / 9 เดือน หนังเหนียว (ทั้งต้น, ราก)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณช่วยบำรุงรักษาประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุไม่ดีเหมือนปกติ (ทั้งต้น)
ช่วยทำให้เลือดลมปกติ (ทั้งยังต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยให้เจริญอาหาร (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้โรคกระษัย อาการซูบซีดเหลืองทั้งตัว ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผงกินทุกวี่ทุกวัน (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนตลอดตัว เจ็บระบบตลอดตัว ตัวแห้ง เวียนหัว หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอและก็เปลือกมะรุมอย่างละเท่ากัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือนิดหน่อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำเดือดกระทั่งงวดแล้วชูลง เมื่อเสร็จให้อั้นลมหายใจรับประทานขณะอุ่นๆจนถึงหมด อาการก็จะดีขึ้น (ต้น)ช่วยยั้งมะเร็ง ต้านโรคมะเร็ง (ทั้งยังต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งต้นและอาหารเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ในรูปร่างที่เสมอกัน เอามาต้มกับน้ำจนเดือดแล้วนำมาดื่มในขณะอุ่นๆทีละ 1 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น อาการจะดีขึ้น (ทั้งต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยแก้อาการปวดหัว (ต้น)
รากช่วยแก้และก็ทุเลาอาการไอ หรือจะใช้เม็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้ด้วยเหมือนกัน (ราก, เมล็ด)
ช่วยแก้โรคหืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นเอามาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้อาการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมออีกทั้งต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นมัวแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ทั้งต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ทั้งยังต้นและก็รากนำมาต้มอาบแก้อาการ (ทั้งยังต้น)
แก้อาการไอ เม็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด เอามาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสลด (ราก)
ถ้าเป็นลมเป็นแล้ง ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างระมัดระวังเป็นผงแล้วนำมาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้อีกทั้งต้นแล้วก็พริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ต้น)

ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย เอามาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับเยี่ยว ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดตกขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ใบรวมทั้งต้นเอามาตำเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งยังต้นนำมาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (อีกทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการกางใบเอามาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตพิการ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
ผลช่วยขับโลหิต หรือจะใช้เม็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนและพริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนกินก็ได้ (เมล็ด, ผล, ทั้งต้น)
ช่วยฟอกเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยรักษาแผล ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (อีกทั้งต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น นำมาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เม็ด)
สำหรับผู้ป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่องที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง ถ้าเกิดใช้ต้นมาต้มอาบรวมทั้งทำเป็นยารับประทานติดต่อกันโดยประมาณ 3 เดือนจะช่วยทำให้ลักษณะของแผลพุพองบรรเทาลงอย่างแจ่มแจ้ง (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่า รักษากลากโรคเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคโรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ด้วยการใช้อีกทั้งต้นนำมาตำเอาแต่น้ำกิน (ทั้งต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดและก็ใบสดล้างสะอาดราวๆ 3-4 กำมือ เอามาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันต่อเนื่องกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ผื่นคัน (ต้น)
รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง โรคฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกประเภทภายในภายนอก ด้วยการใช้ต้นรวมทั้งใบอีกทั้งสดและแห้งโดยประมาณ 1 กำมือ เอามาบดอย่างรอบคอบ แล้วเอามาพอกรอบๆที่เป็นฝี หรือวิธีลำดับที่สองจะนำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งเอาไว้ 10 นาที แล้วนำมาดื่มก่อนที่จะกินอาหารครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ราวๆ 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เมล็ดเอามาคั่วให้เกรียมแล้วป่นอย่างละเอียด ชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เม็ด)
เมล็ดใช้ปิดพอกฝี (เม็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยถอนพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดเอามาตำให้รอบคอบ สามารถใช้พอกบริเวณแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกหมดทั้งตัว ด้วยการใช้ทั้งต้นของเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (อีกทั้งต้น)
ต้น ถ้าเกิดนำมาใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาหมดทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศเอามาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบแก้ไขข้ออักเสบและก็แก้ลักษณะของการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรักษารากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบเอามาทาให้ทั่วศีรษะ จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ)
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากเหงือกปลาหมอ
ในปัจจุบันสมุนไพรเหงือกปลาหมอมีการนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นยาแคปซูลสมุนไพร (เหงือกปลาหมอแคปซูล) หรือเป็นยาชงสมุนไพร (เหงือกปลาแพทย์ผงสำเร็จรูป) หรือในรูปแบบของยาเม็ด
นอกเหนือจากการใช้เป็นยาสมุนไพรที่ใช้สำหรับในการอบตัวหรืออบด้วยไอน้ำ สมุนไพรเหงือกปลาหมอยังคงใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนสีผม จวบจนกระทั่งแชมพูของสุนัข เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง
: เว็บไซต์สำนักงานแผนการรักษาพันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากความคิด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ ม.อบ., หนังสือพิมพ์บ้านเมือง (ช่ำชอง หิมะคุณ), หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 4, ฐานข้อมูลพืชพันธุ์ไม้ องค์การส่วนวิชาพฤกษศาสตร์, สำนักงานกองทุนช่วยเหลือการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.), หนังสือยอดสมุนไพรยาอายุวัฒนะ (คุณครูยุยงวดี จอมรักษา), หนังสือกายบริหารแกว่งไกวแขน (โชคชัย ปัญจสมบัติพัสถาน) http://www.disthai.com/

10

ทับทิม
ทับทิม คือผลไม้ที่นิยมกินอย่างล้นหลาม โดยใช้ประโยชน์จากส่วนที่ได้ผลสดเยอะที่สุดรวมทั้งยังนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น น้ำทับทิม สารสกัดจากทับทิม ผลิตภัณฑ์ด้านความงดงาม อีกทั้งยังคงใช้ทำเป็นยารักษาโรคตามสูตรยาโบราณในหลายประเทศ
ทัมทิมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแล้วก็สารพฤกษเคมีหลากหลายประเภทที่มีสาระต่อสภาพทางร่างกาย จึงมั่นใจว่าอาจมีคุณประโยชน์สำหรับในการป้องกันโรคหรือทุเลาอาการ ดังเช่น โรคปอดอุดกันเรื้อรังหรือทุเลาอาการหายใจติดขัดจากโรคนี้ โรคหัวใจรวมทั้งหลอดเลือด คอเลสเตอรอลสูง โรคในระบบทางเดินอาหาร โรคความดันโลหิตสูง โรคในช่องปากและก็โรคเหงือก โรคริดสีดวงทวาร โรคผิวหนัง และอื่นๆ
ในปัจจุบันยังมีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่เรียนการใช้ทับทิมในแบบแตกต่างกับการดูแลและรักษาโรคที่ออกจะจำกัด ทำให้ยังไม่อาจจะเจาะจงประสิทธิภาพของทับทิมต่อการดูแลและรักษาโรคได้กระจ่าง ซึ่งตัวอย่างการศึกษาเรื่องทับทิมกับโรคต่างๆมีดังนี้
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง ทับทิมคือผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัว อาทิเช่น สารเอลลาจิแทนนิน (Ellagitannin) สารแทนนิน (Tannin) สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สารโพลิฟีนอล (Polyphenol) ที่เชื่อว่าช่วยยับยั้งปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระของไขมันไม่ดี ลดการสร้างโฟมเซลล์ รวมทั้งลดการแข็งตัวของเส้นเลือด จึงอาจช่วยลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดโรคเส้นเลือดแดงแข็ง
จากการศึกษาฤทธิ์การต้านสารอนุมูลอิสระของทับทิมในคนที่มีน้ำหนักเกินปริมาณ 22 คน จากการกินอาหารเสริมที่มีสารสกัดทับทิม วันละ 1,000 มก. (มีกรดแกลลิค 610 มิลลิกรัม) แล้วก็ประเมินผลจากค่า TBARS ในเลือด (Thiobarbituric Acid Reactive Substances: TBARS) ซึ่งเป็นค่าการวัดฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เพื่อเปรียบเทียบกับผลก่อนที่จะมีการทดสอบ พบว่าค่าดังกล่าวข้างต้นลดน้อยลง ก็เลยคาดว่าการกินทับทิมอาจช่วยลดการเสี่ยงของโรคหัวใจรวมทั้งเส้นเลือด
ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยอีกชิ้นให้คนป่วยโรคเส้นเลือดแดงแข็งปริมาณ 15 คน กินอาหารเสริมจากทับทิมเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไปและ 3 ปีขึ้นไป เปรียบเทียบกับกลุ่มที่มิได้กินอาหารเสริม ผลปรากฏว่า กรุ๊ปที่กินอาหาร 3 ปีขึ้นไป หรูหราไขมันที่ต่ำลงโดยประมาณ 16% เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปอื่น จึงแสดงให้เห็นว่าการรับประทานสารสกัดจากทัมทิมมากยิ่งกว่า 3 ปี อาจมีส่วนช่วยสำหรับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดแดงแข็ง ดังนี้ ยังคงต้องมีการเรียนเพิ่มเติมในระยะยาวกับกลุ่มการทดลองขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ยังไม่อาจจะสรุปผลของทับทิมแล้วก็การดูแลและรักษาโรคเส้นโลหิตแดงแข็งได้อย่างเห็นได้ชัด
โรคเหงือกอักเสบ ทับทิมเป็นผลไม้อีกประเภทที่มีคุณลักษณะช่วยต้านทานเชื้อแบคทีเรีย จึงถูกประยุกต์ใช้เป็นตัวเลือกในการรักษาโรคเหงือก เพราะว่าการดูแลและรักษาหลักบางวิธีที่ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับเพื่อการบรรเทาอาการจากโรคมากเท่าที่ควรแล้วก็ลดการเสี่ยงด้านสุขภาพจากการรักษาโรคนี้โดยใช้สารเคมี
จากการทดลองทางคลินิกกับผู้ป่วยโรคเหงือกอักเสบเรื้อรัง ปริมาณ 40 คน เพื่อมองสมรรถนะของเจลสารสกัดจากทับทิมเป็นระยะเวลา 21 วัน โดยในแต่ละกลุ่มจะใช้วิธีรักษาที่แตกต่าง ผลพบว่า กรุ๊ปที่ใช้เจลสารสกัดจากทับทิมควบคู่กับการดูแลและรักษาโรคเหงือกอักเสบโดยวิธีการขูดหินน้ำลาย เกลารากฟัน (Mechanical Debridement) มีอาการดีขึ้นข้างใน 7 วันแรก เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่เหลือสำหรับในการทดลอง ซึ่งเจลสารสกัดจากทับทิมก็เลยบางทีอาจนำไปปรับใช้เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลโพรงปากสำหรับคนเจ็บโรคเหงือกอักเสบควบคู่กับการดูแลและรักษาด้วยแนวทางรักษาที่เป็นมาตรฐานในอนาคต
สอดคล้องกับการทดลองอีกชิ้นที่ศึกษาเล่าเรียนความสามารถของน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิมเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอกแบบอย่างเจลสำหรับในการรักษาผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบปริมาณ 32 คน พบว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิม วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีสุขภาพโพรงปากดีขึ้นแล้วก็ปัญหาโรคเหงือกอักเสบต่ำลงมากกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอก การศึกษาเรียนรู้ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากทับทิมบางทีอาจใช้ประโยชน์เป็นส่วนผสมในสินค้าเพื่อการบำรุงโพรงปาก ดังเช่นว่า ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยป้องกันรวมทั้งทุเลาลักษณะโรคเหงือกอักเสบ
คุ้มครองการเกิดคราบจุลชีพ สารสกัดจากทับทิมมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการลดรอยเปื้อนจุลชีพตามผิวฟัน และก็อาจทำให้เกิดโรคทางโพรงปากอีกหลายอย่าง ซึ่งจากการทดลองให้อาสาสมัครที่มีสุขอนามัยในโพรงปากดี จำนวน 30 คน หยุดใช้น้ำยาบ้วนปากที่เคยใช้ปกติ แต่สลับมาใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิม น้ำยาบ้วนปากคลอเฮกสิดีน (Chlorhexidine) รวมทั้งยาหลอกในแต่ละกรุ๊ป โดยใช้บ้วนปาก วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน ผลพบว่าอาสาสมัครที่ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิมมีอัตราการเกิดคราบเปื้อนจุลอินทรีย์ลดน้อยลงอย่างเป็นจริงเป็นจังมากกว่ายาหลอก แต่มีประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างจากน้ำยาบ้วนปากคลอเฮกสิดีน ก็เลยเพียงพอจะบอกได้ว่าสารสกัดจากทับทิมบางทีอาจลดช่องทางสำหรับการกำเนิดคราบจุลอินทรีย์ข้างในช่องปาก
เวลาเดียวกัน การศึกษาเล่าเรียนอีกชิ้นก็ชี้ว่าสารสกัดทับทิมคงจะมีส่วนช่วยสำหรับการลดการเกิดคราบเปื้อนจุลินทรีย์ ซึ่งสำหรับการทดลองได้เก็บคราบจุลชีวันจากช่องปากของอาสาสมัครที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและกำลังจัดฟัน อายุ 9-25 ปี ปริมาณ 60 คน หลังงดเว้นแปรงฟันเป็นระยะเวลา 1 วัน เพื่อเปรียบผลก่อนรวมทั้งหลังการใช้น้ำยาบ้วนปากชนิดแตกต่างในแต่ละกรุ๊ป อย่างเช่น น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดทับทิม น้ำยาบ้วนปากคลอเฮกสิดีน แล้วก็ยาหลอก ปรากฏพบว่า น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดทับทิมมีคุณภาพในการลดคราบจุลินทรีย์ลงมากที่สุดโดยประมาณ 84% รองลงมาเป็นน้ำยาบ้วนปากคลอเฮกสิดีน 79% และยาหลอกที่ลดลงเพียง 11% จึงอาจพูดได้ว่าสารสกัดจากทับทิมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียแล้วก็เป็นตัวเลือกสำหรับในการใช้ขจัดคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน ดังนี้ จากข้อมูลข้างต้นยังคงต้องมีการตำหนิดตามผลในระยะยาวจากการใช้สารสกัดทับทิมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากว่าระยะเวลาในการทดลองค่อนข้างสั้น
สภาวะคอเลสเตอรอลสูง ทับทิมมีคุณประโยชน์ที่พูดกันว่าสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี จากการศึกษาเล่าเรียนผลการดื่มน้ำทับทิมเข้มข้น 40 กรัม ในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 รวมทั้งมีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงปริมาณ 22 คน เป็นระยะเวลา 8 อาทิตย์โดยระหว่างการทดลองจะมีการเก็บข้อมูลอาหารที่ทานอาหารภายใน 24 ชั่วโมง ทุกๆ10 วัน (รวมถึงอาหารที่มีสารฟลาโวนอยด์) หลังจบอาทิตย์ที่ 8 พบว่าคนเจ็บหรูหราไขมันรวม ไขมันประเภทไม่ดี อัตราส่วนของไขมันไม่ดีกับไขมันดี และก็อัตราส่วนของไขมันรวมกับไขมันดีที่มีสะสมอยู่ในเลือดลดน้อยลง แม้กระนั้นไม่เจอการเปลี่ยนแปลงของระดับไตรกลีเซอไรด์รวมทั้งระดับความเข้มข้นของไขมันดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าน้ำทับทิมอาจมีส่วนช่วยลดการเสี่ยงของโรคหัวใจโดยลดระดับไขมันในผู้ป่วยโรคเบาหวานลง แม้กระนั้นยังบอกมิได้แจ่มชัด เนื่องมาจากของกินจำพวกอื่นที่รับประทานอาจมีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการลดไขมันในเลือดได้เช่นกัน แล้วก็กรุ๊ปการทดลองมีขนาดเล็ก ควรต้องขยายผลการเล่าเรียนในกรุ๊ปที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มเติมอีก นอกเหนือจากนี้ การรักษาสภาวะคอเลสเตอรอลสูงควรมีการควบคุมของกินและก็การบริหารร่างกายไปพร้อม ซึ่งบางทีอาจเป็นประโยชน์ต่อการลดระดับไขมันในเลือดมากยิ่งขึ้น
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทับทิมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารโพลีฟีนอลที่พบบ่อยในทับทิม จากรายงานผลที่เจอในห้องแลปบอกว่าสารกลุ่มนี้มีส่วนสำคัญสำหรับในการทุเลาอาการของโรคปอดอุดกันเรื้อรังรวมทั้งอาจชะลอไม่ให้โรคปรับปรุงอย่างรวดเร็ว จึงมีการเรียนรู้ความสามารถของสารโพลีฟีนอลในคนเพิ่มอีก โดยให้คนเจ็บโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง จำนวน 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่กินน้ำทับทิม 400 มล. (มีสารโพลิฟีนอล 2.66 กรัม) เปรียบเทียบกับอีกกรุ๊ปที่กินยาหลอกติดต่อกันแต่ละวันเป็นระยะ 5 อาทิตย์ ผลปรากฏว่า ไม่เจอสารโพลิฟีนอลอีกทั้งในเลือดและก็ปัสสาวะของผู้ป่วย ทั้งยังไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง 2 กลุ่ม จึงคาดว่าทับทิมไม่น่ามีส่วนช่วยในการรักษาหรือบรรเทาโรคปอดอุดกันเรื้อรัง
โดยธรรมดาสารอาหารที่ไปสู่ร่างกายจะถูกเผาผลาญผ่านกระบวนเมตาบอลิซึมและก็ตรวจเจอได้ในเลือดหรือเยี่ยว แต่ว่าผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยกลับไม่พบสารโพลีฟีนอลจากการรับประทาน ซึ่งบางทีอาจเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพสารกลุ่มนี้โดยจุลชีพในระบบที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร ควรต้องทำความเข้าใจวิธีการดูดซับสารอาหารที่แตกต่างก่อนจะอ้างถึงถึงประโยชน์ด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจากการรับประทาน เพราะสารอาหารที่เจอในอาหารที่รับประทานอาจไม่ได้ถูกเอาไปใช้ประโยชน์ภายในร่างกายมนุษย์เราทั้งหมดทั้งปวง
โรคและก็อาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น โรคเส้นเลือดหัวใจ การหย่อนความสามารถทางเพศ เจ็บกล้ามข้างหลังการออกกำลังกาย กลุ่มอาการอ้วนลงพุง โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแดด การต่อว่าดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ท้องเสีย โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง แล้วก็อื่นๆยังจะต้องศึกษาวิจัยวิจัยเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับสมรรถนะแล้วก็ความปลอดภัยของทับทิมสำหรับการรักษาโรค

ข้อมูลทางโภชนศาสตร์ของผลทับทิม 100 กรัม (คร่าวๆ)
น้ำ 77.93 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี่
โปรตีน 1.67 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 18.70 กรัม
เส้นใย 4.0 กรัม
น้ำตาล 13.67 กรัม
แคลเซียม 10 มิลลิกรัม
เหล็ก 0.30 มิลลิกรัม
แมงกานีส 12 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มก.
โพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม
โซเดียม 3 มก.
สังกะสี 0.35 มิลลิกรัม
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม
วิตามินบี 1 0.067 มก.
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 0.075 มก.
โฟเลต 38 ไมโครกรัม
วิตามินอี 0.60 มก.
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม
ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานทับทิมหรือผลิตภัณฑ์จากทับทิม
โดยธรรมดาการรับประทานน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัย แต่ในบางรายที่มีอาการแพ้ผลสดของทับทิมบางทีอาจเป็นผลข้างเคียงจากการกินน้ำทับทิมได้
รากทับทิมมีสารที่เป็นพิษต่อสุขภาพ การรับประทานรากและลำต้นของทับทิมในปริมาณมากอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมออกจะปลอดภัยสำหรับในการกินหรือนำมาใช้กับผิวหนัง แต่อาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแพ้เล็กน้อยในบางราย เช่น อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจติดขัด
การกินน้ำทับทิมค่อนข้างจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งท้องหรืออยู่ในตอนให้นมลูก แม้กระนั้นยังไม่มีรายงานยืนยันความปลอดภัยสำหรับในการกินหรือใช้ทับทิมในรูปแบบอื่น เช่น สารสกัดจากทับทิม จะต้องขอความเห็นหมอก่อนการกินทุกครั้ง
น้ำทับทิมอาจจะทำให้ความดันโลหิตลดลดลงนิดหน่อย ซึ่งอาจก่อให้คนไข้ที่มีภาวการณ์ความดันต่ำอาการกำเริบ
คนที่มีอาการแพ้จากพิษพืชอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้จากการรับประทานทับทิม
คนป่วยที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดกินทับทิมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ด้วยเหตุว่าทับทิมทำให้ความดันเลือดต่ำลง จึงอาจกระทบต่อความดันเลือดในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังข้างหลังการผ่าตัด
การกินทับทิมพร้อมกันกับยาบางประเภทอาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ดังเช่นว่า ยาที่เกี่ยวข้องกับหลักการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome ชนิด P450 2D6 หรือจำพวก P450 3A4 ยาลดระดับความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยาโรสุวาสแตตำหนิน คนที่กินยาเป็นประจำหรือมีโรคประจำตัวควรขอความเห็นหมอก่อนจะมีการกินเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

11

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาปรุงอาหารเพราะส่งกลิ่นหอม นอกเหนือจากนี้ ขิงยังใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งหน้าทั้งหลายเช่นกัน ด้านประโยชน์ต่อสุขภาพ มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างนาน อาทิเช่น โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีแก๊สในกระเพาะ ของกินไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก ไม่อยากกินอาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอ้วกแล้วก็ลดการอักเสบ โดยนักวิจัยส่วนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารแล้วก็ลำไส้ แล้วก็สารนี้อาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอ้วกด้วย แต่ว่าข้อสมมติฐานดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่ชัดเจนนัก และก็คุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิงต่อร่างกายที่พวกเราเชื่อกันนั้น เดี๋ยวนี้ด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลอธิบายไว้ดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาที่อาจสำเร็จ
อาการอ้วกอ้วกที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาต้านทานไวรัสเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง สรรพคุณทุเลาอาการคลื่นไส้อ้วกของขิงอาจมีประโยชน์ต่อคนไข้โรคนี้ที่มักได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเรียนคนเจ็บจำนวน 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านรีโทรเชื้อไวรัส เป็นเวลาทั้งหมดทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนอ้วกที่เกิดขึ้นมาจากการดูแลรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการอ้วกคลื่นไส้ภายหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการอ้วกและอ้วกจากการผ่าตัดได้ด้วยเหมือนกัน โดยการเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์โดยมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันหลังได้รับการผ่าตัด
งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งทดลองแบ่งผู้ป่วยจำนวน 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม และก็อีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแม้กระนั้นแบ่งให้ 2 ครั้งที่แล้วผ่าตัด ซึ่งคำตอบพบว่าคนไข้ในกลุ่มข้างหลังมีลักษณะอ้วกอาเจียนน้อยครั้งและมีความร้ายแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อกินบ่อยๆและบ่อยโดยแบ่งจำนวนการใช้
ยิ่งไปกว่านี้ การทดลองทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยป้องกันอาการอาเจียนในผู้เจ็บป่วยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งหมด แต่ว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมกับยาลดอ้วกคลื่นไส้นั้นบางทีอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก รวมถึงการใช้ขิงกับผู้ป่วยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอ้วกอ้วกน้อยอยู่และก็อาจไม่ได้เรื่องเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การกินขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง ดังเช่นว่า อ้วก อ้วก หรือเวียนหัว ผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณลักษณะนี้เป็นการทดสอบในหญิงที่แก่ท้องต่ำลงยิ่งกว่า 20 สัปดาห์ ปริมาณ 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องทุกวี่ทุกวันนานอย่างต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้จะแปลงการรับประทานอาหารและก็ตาม ภายหลังจากรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเสมอกันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน คำตอบได้ชี้ให้เห็นว่าขิงอาจสามารถประยุกต์ใช้คุณประโยชน์ในฐานะการดูแลและรักษาหนทางต่ออาการแพ้ท้องได้
นับว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการอ้วกอ้วกในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องได้ อย่างไรก็แล้วแต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้อาจมองเห็นการดูแลและรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน นอกจากนั้น การเรียนเกี่ยวกับคุณลักษณะช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดแล้วก็เจอคำตอบที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดลองที่ชี้ว่าขิงบางทีอาจไม่ได้มีส่วนช่วยสำหรับในการลดอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกัน
อาการวิงเวียนศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการคลื่นไส้นี้อาจบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากการค้นคว้าที่ทดสอบด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะบ้านหมุน และก็ตากระเหม็นตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิกินผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการตาลายหัวได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก แต่ว่าไม่ได้ช่วยลดช่วงเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการศึกษาบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากโรคข้อเสื่อม จากการทดสอบหนึ่งที่ให้คนไข้กินสารสกัดจากขิงประเภทหนึ่ง (Zintona EC) ในปริมาณ 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อเข่าภายหลังการรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกการค้นคว้าที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าได้ผลลัพธ์สำหรับการช่วยลดอาการเจ็บขณะยืน ลักษณะของการเจ็บข้างหลังเดิน แล้วก็อาการข้อติด
นอกเหนือจากนี้ มีการเรียนรู้เปรียบประสิทธิภาพระหว่างขิงและก็ยาแก้ปวด โดยให้คนไข้โรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกแล้วก็ข้อหัวเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มิลลิกรัมทุกๆวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลทุเลาลักษณะของการปวดได้เสมอกันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง และยังมีงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและก็ส้มบางทีอาจช่วยทุเลาอาการปวดรวมทั้งเหน็ดเหนื่อยที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของผู้เจ็บป่วยที่มีอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดประจำเดือน นอกจากลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดระดู ได้แก่ การทดสอบในนิสิตมหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้กินผงเหง้าขิงทีละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีเมนส์ต่อเนื่องไปจนถึง 3 วันแรกของการมีเมนส์ รวมทั้งหมดเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดประจำเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการศึกษาเทียบประสิทธิภาพของขิงและยาลดอาการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มรับประทานแคปซูลขิงหรือยาแต่ละประเภทในจำนวน 250 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีระดู คำตอบปรากฏไปในทำนองเดียวกันกับการค้นคว้าวิจัยแรกเป็นขิงมีประสิทธิภาพบรรเทาความรุนแรงของอาการปวดระดูไม่ต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่บางทีอาจไม่เป็นผล
อาการเมารถและเมาเรือ นับเป็นคุณประโยชน์ของขิงที่มีการเอ๋ยถึงกันมาก ทว่าขิงอาจจะช่วยลดอาการหน้ามืดได้ แต่ในการหน้ามืดอ้วกที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาเรียนรู้ส่วนใหญ่กล่าวว่าขิงบางทีอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง อาทิเช่น การแบ่งกลุ่มให้ผู้เรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกรุ๊ปที่กินยาหลอก ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานขิงนั้นมีอาการคลื่นไส้และวิงเวียนน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับนิดหน่อยเท่านั้น หรือในอีกงานศึกษาวิจัยที่ชี้ว่าการกินผงขิงในปริมาณ 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มก. ต่างไม่มีส่วนช่วยในการคุ้มครองอาการเมารถหรือลักษณะการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่ประการใด
การดูแลรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการเจาะจงสมรรถนะ
อาการอาเจียนอาเจียนจากกระบวนการทำเคมีบำบัดรักษา อีกหนึ่งคุณประโยชน์คือลดอาการอาเจียนรวมทั้งคลื่นไส้ ซึ่งมีการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ แม้กระนั้นหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัดนั้นยังเป็นที่แย้งกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การเรียนรู้หนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้คนไข้รับประทานแคปซูลขิงที่ประกอบด้วยขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบรรเทานานตลอดเป็นเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความร้ายแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นภายหลังการดูแลและรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่ไม่ได้รับประทานแคปซูลขิง แม้กระนั้นได้ผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่กินแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับสำเร็จน้อยกว่า มีความหมายว่าการกินขิงในปริมาณมากจึงบางทีอาจมิได้ทำให้อาการอาเจียนดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานที่ถกเถียงข้อช่วยเหลือดังที่กล่าวถึงแล้วซึ่งเป็นงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่เผยว่าการรับประทานขิงไม่ได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อาเจียน ดังนี้ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีปัจจัยมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดลองนั้นไม่เหมือนกัน รวมทั้งช่วงเวลาที่เริ่มรักษาด้วย ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลหรือเปล่าอาจจะควรมีการพิสูจน์เพิ่มเติมถัดไป
เบาหวาน คุณสมบัติของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานในปัจจุบันยังส่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน การค้นคว้าหนึ่งพบว่าการรับประทานขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนเจ็บเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางจำพวกจากโรคเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยอื่นๆที่เสนอแนะว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง กลับไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานค้นคว้าวิจัยพูดว่าขิงส่งผลกับอินซูลิน แต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลง ซึ่งผลวิจัยที่แตกต่างกันนั้นอาจมาจากปริมาณขิงหรือช่วงเวลาที่คนไข้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการศึกษาค้นคว้าศึกษาเล่าเรียนคุณภาพของขิงในคนไข้ที่มีลักษณะของกินไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการอดอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารรวมทั้งเกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ทว่าการกินขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวโยงกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ แม้กระนั้น ผู้ร่วมการทดสอบนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจระบุได้อย่างเห็นได้ชัดว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่นอนแค่ไหน
อาการแฮงค์ เชื่อกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยทุเลาอาการเมาค้างซึ่งได้ผลสำเร็จข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคุณประโยชน์ข้อนี้มีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยแต่ก่อนที่เสนอแนะว่าการผสมขิงกับเปลือกด้านในของส้มเขียวหวาน และก็น้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในวันหลัง รวมถึงอาการคลื่นไส้ อ้วกและท้องเดิน อย่างไรก็ดี การเรียนรู้ดังที่กล่าวมาข้างต้นยังถือว่าไม่ชัดแจ้งอยู่มากมายและไม่อาจยืนยันได้ว่ามีต้นเหตุมาจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณสมบัติของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้คนป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลลัพธ์ระบุว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีจนกระทั่งสามารถนำมาใช้รักษาคนไข้ภาวการณ์นี้ได้หรือเปล่าอาจจำต้องรอคอยการเล่าเรียนในอนาคตที่แน่ชัดกันต่อไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังออกกำลังกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดรวมทั้งลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะของการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงไม่กระจ่างรวมทั้งเป็นที่โต้วาทีกันอยู่ด้วยเหมือนกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 11 วัน พบว่าทั้งยังขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามเนื้อได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
ทว่าอีกงานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งกลับเจอผลลัพธ์ตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเนื้อเหมือนกัน รับประทานขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงแล้วก็ 48 ชั่วโมงภายหลังการบริหารร่างกาย พบว่าไม่ได้ทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้าม การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายน้อยลง แม้กระนั้นผู้ศึกษาวิจัยพบว่าการกินขิงบางทีอาจช่วยให้ลักษณะการเจ็บกล้ามเบาๆดีขึ้นในทุกวัน แม้อาจมองไม่เห็นผลได้ทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการเรียนรู้กับผู้เจ็บป่วย 100 คน ที่เคยมีอาการปวดหัวไมเกรนเฉียบพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง

12
อื่น ๆ / น้ำมันนวดใช้สำหรับใครได้บ้าง?
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2018, 07:57:27 AM »

น้ำมันนวดสมุนไพร
อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช้น้ำมันนวด
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ พวกเราเพียงแค่ทาลงไปในส่วนที่พวกเราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้ามเนื้อ เท่านี้จ้ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้อาการปวดเมื่อยลดน้อยลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะกับผู้ใดบ้าง?

  • ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก
  • คนที่ปวดมือและคอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • คนที่ปวดหลังจาก Office syndrome
  • คนที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
  • ผู้ที่ปวดเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
  • คนที่ปวดขาจากการเดิน Shopping
  • บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ตีดอท กระทั่งปวดมือ
  • ปวดคอจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันนวดสมุนไพร[/b][/url] ที่เยี่ยมของคุณบรรเทาร่างกายและก็สนับสนุนการนอนที่ดีมากยิ่งกว่าสำหรับวัน.
คนไม่ใช่น้อยเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากความผิดปกติของการนอนต่างๆได้มองเห็นการปรับแต่งในนิสัยการนอนของพวกเขาข้างหลังการดูแลและรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและจิตวิญญาณ การบำบัด, น้ำมันนวดสมุนไพรด้วยเหตุผลดังกล่าวคนโดยส่วนใหญ่มีประสบการณ์การนอนลึกและพักมากขึ้นเรื่อยๆ.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
น้ำมันนวดสมุนไพรมากขึ้นและก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีคุณภาพแนวทางการทำงานของกล้ามทั้งปวง, เยื่อและก็ข้อต่อก็เลยปรับแต่งการแสดงกีฬารวมทั้งการดูแลเกี่ยวกับความสะดวกสบายสำหรับเพื่อการเคลื่อนร่างกายของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น. เว้นแต่สิ่งเหล่านี้กำเนิดประโยชน์ต่อสุขภาพ, นวดยังช่วยคุ้มครองป้องกันการเจ็บรวมทั้งเพิ่มความเร็วสำหรับการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นแนวทางที่เยี่ยมสำหรับเพื่อการบรรเทาความเคร่งเครียดของกล้ามเนื้อและรักษาร่างกายของคุณ พอดี แล้วก็มีความยืดหยุ่นเป็นระยะเวลานาน.
กำจัดพิษ
ข้อเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันคือมันช่วยให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพกำจัดสารพิษจากสิ่งมีชีวิตด้วยเหตุนี้การช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
บริการนวดน้ำมันนวดสมุรไพรแล้วก็โดยมากสร้างความแข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันแล้วก็ช่วยสำหรับในการย่อยอาหาร.
ศิลปะที่สวยของการนวดได้ทวีความร้ายแรงมากเพิ่มขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อบริการด้านต่างๆสำหรับการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งที่มีความต้องการส่วนบุคคลของคุณและก็น้ำมันนวดสมุนไพรผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการน้ำมันนวดสมุนไพรผ่อนคลายแล้วก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลด้านจิตวิญญาณของคุณรวมทั้งร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่สามารถหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถหายขาดได้เอง แม้ว่าอาการที่แสดงออกมาจะรุนแรงน้อยลงก็ตาม รวมทั้งท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นโรคเรื้อรังและก็ก่อกำเนิดความลำบากน้ำมันนวดสมุนไพรในการดำเนินชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
1.น้ำมันนวดสมุนไพรจะเข้าไปช่วยกระตุ้นรูปแบบการทำงานของระบบประสาท ให้ปฏิบัติงานได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ลดอาการเคร่งเคลียดให้พวกเราบรรเทาจากการความอ่อนล้าแล้วก็ความเหน็ดเหนื่อยสะสม
2.สงน้ำมันนวดสมุนไพร จะเข้าช่วยการกระตุ้นหลักการทำงานของโลหิต ให้ปฏิบัติงานได้ดีมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถหล่อเลี้ยงออกสิเจนรวมทั้งสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างครบถ้วน คุ้มครองโรคต่างๆแล้วก็ลดระดับความดันเลือดได้ดิบได้ดีด้วย
3.น้ำมันนวดสมุนไพรเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมบำรุงแล้วก็ฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ดำเนินงานก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ภายในร่างกายและภาวะผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนเปียกชื้น ดูผุดผ่องและก็ชีวิตชีวามากขึ้น
5.ช่วยในหัวข้อการนอนให้ดีมากยิ่งกว่าเดิม ผ่อนคลายสมองและก็ร่างกายต่างๆส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างดีเยี่ยม
นอกเหนือจากนั้นน้ำมันนวดสมุนไพรยังมีประโยชน์อีกหลายแบบต่อร่างกาย ซึ่งนับได้ว่าเป็นทางเลือกแก่คู่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับคนที่เคยทรมานจากลักษณะของการปวดหัวไมเกรนอยู่หลายครั้ง หมอก็ได้แนะนำให้ลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เพราะเหตุว่าจากผลวิจัยของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า ผู้ที่มีลักษณะปวดศีรษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 สัปดาห์ จะสามารถบรรเทาอาการข้างๆของโรคไมเกรน และก็นอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยจ้ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดสมุนไพรขึ้นอยู่กับการใช้แรงงาน แล้วก็สรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละชนิด โดยส่วนมากน้ำมันเบื้องต้นที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ดังเช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติภารกิจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ แล้วก็ทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต คุ้มครองการเกิดมะเร็ง ยิ่งกว่านั้นน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ต้องต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มสดชื่น
โดยทั้งนี้น้ำมันนวดสมุนไพรแต่ละจำพวกจะมีคุณสมบัติ รวมทั้งคุณค่าที่นานับประการ ขึ้นกับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้งาน

13

น้ำมันนวด
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนวดน้ำมัน
น้ำมันนวดหมายถึงการกระตุ้นเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อส่งเสริมสุขภาพและก็ฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมดทั้งปวง. น้ำมันนวดถูกออกแบบมาเพื่อให้มือเลื่อนได้ง่ายขึ้นในระหว่างนวด แล้วก็ในขณะเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้ความรู้สึกผ่อนคลายสูงที่สุดสำหรับทั้งกายและใจ. อ่านต่อไปเพื่อหารายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนวดน้ำมันและก็บรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดแจ่มใส.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมัน, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่ไม่เหมือนกันให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากจำนวนมากน้ำหอมแล้วก็สีที่แตกต่างกันเพื่อบริการ. น้ำมันนวดบำบัดรักษา, น้ำมันร้อน, น้ำมันนวดกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
จะสามารถพบได้ในตลาดน้ำมันนวดเพื่อคุณสามารถเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความปรารถนารวมทั้งความจำนงของคุณ.
สัมผัสของผู้คนสามารถมีการรักษาและก็พลังความมีชีวิตชีวาสำหรับผิวและก็น้ำมันนวดออกมาจากผิวนุ่มและก็เรียบ. นอกจากความรู้สึกสบาย thei พวกเขาถ่ายทอด, น้ำมันนวดยิ่งไปกว่านี้ยังมีทางที่น่าประหลาดที่ช่วยบำรุงผิวของคุณและก็กำจัดจุดแห้งบนผิวของคุณ. อย่างไรก็แล้วแต่, หลังการนวด, จะชี้แนะให้ใช้เวลาอาบน้ำที่ผ่อนคลายเพื่อล้างน้ำมันออกจากร่างกายของคุณ. น้ำ จะยังช่วยผิวรูขุมขนจะเปิดก็เลยส่งเสริมการดูดซึมของน้ำมันนวดไปสู่ผิวของคุณ. ลองดูกันประโยชน์ต่อร่างกายที่สำคัญของการนวดน้ำมันผ่อนคลาย.
ลดการ ความเครียด
นวดเป็นแนวทางที่วิเศษมาก ลดความตึงเครียด รวมทั้งความเคร่งเครียดที่มีการสะสมภายในร่างกายของคุณในระหว่างวันที่อ่อนแรง.
น้ำมันนวดน้ำมันหอมระเหยที่มีน้ำมันหอมระเหยที่สงบประสาท, ช่วยทำให้คุณบรรเทารวมทั้งกำจัดความนึกคิดเชิงลบที่สะกิดความเครียด.
อ่อนโยน, สัมผัสการดูแลการแสดงในงานน้ำมันนวด, ช่วยให้คุณ รักษา และก็คืนจิตวิญญาณและก็ความสมดุลทางอารมณ์ของคุณ.
เสริมการไหลเวียนของเลือด
หนึ่งในผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของน้ำมันนวด ซึ่งมันช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและก็ในเวลาเดียวกันจะช่วยลดความดันเลือดซึ่งเป็น น.
สาเหตุ ajor สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ ความดันเลือดสูง.
ปิดแก้ไข
นวดน้ำมันที่เยี่ยมของคุณบรรเทาร่างกายรวมทั้งสนับสนุนการนอนที่ดีกว่าสำหรับวัน.
หลายๆคนเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากความเปลี่ยนไปจากปกติของการนอนต่างๆได้สังเกตเห็นการปรับปรุงในนิสัยการนอนของพวกเขาข้างหลังการดูแลและรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและจิตวิญญาณ การบำบัด, โดยเหตุนี้คนจำนวนมากมีประสบการณ์การนอนลึกและพักผ่อนมากยิ่งขึ้น.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
น้ำมันนวด เพิ่มขึ้นแล้วก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีประสิทธิภาพแนวทางการทำงานของกล้ามทั้งสิ้น, เนื้อเยื่อและข้อต่อก็เลยปรับปรุงการแสดงกีฬารวมทั้งการดูแลเกี่ยวกับด้านความสะดวกสำหรับเพื่อการเคลื่อนร่างกายของคุณง่ายดายมากยิ่งขึ้น. เว้นเสียแต่สิ่งเหล่านี้กำเนิดคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ, นวดยังช่วยคุ้มครองปกป้องการบาดเจ็บและก็เพิ่มความเร็วในการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นแนวทางที่เยี่ยมสำหรับการบรรเทาความเครียดของกล้ามและก็ทะนุบำรุงร่างกายของคุณ พอดิบพอดี แล้วก็มีความยืดหยุ่นเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน.
กำจัดพิษ
สิ่งที่ได้เปรียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันคือมันช่วยทำให้ร่างกายได้อย่างมีคุณภาพกำจัดพิษจากสิ่งมีชีวิตโดยเหตุนั้นการผลักดันและสนับสนุนสุขภาพที่ดีขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการนวดน้ำมันนวดแล้วก็จำนวนมากสร้างความแข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันแล้วก็ช่วยในการย่อยอาหารดียิ่งขึ้น.
ศิลป์ที่สวยสดงดงามของการนวดได้ทวีความรุนแรงเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วยการนวดน้ำมันบางมากมาย. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆสำหรับการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ยอดเยี่ยมสำหรับความอยากได้ส่วนตัวของคุณและก็บรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดผ่อนคลายและฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลด้านจิตวิญญาณของคุณแล้วก็สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่อาจจะหายไปได้เอง!
น้ำมันนวด โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่อาจจะหายขาดได้เอง ถึงแม้อาการที่แสดงออกมาจะรุนแรงลดลงก็ตาม และท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นโรคเรื้อรังและส่งผลให้เกิดความลำบากตรากตรำสำหรับเพื่อการดำรงชีวิตมากเพิ่มขึ้น
เมื่อปลดปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยปัญหาด้านข้อที่มีอยู่ก็จะขยายไปกระทั่งทำให้มีเพียงแต่การผ่าตัดเพียงแค่นั้นที่จะเป็นทางออกเดียวที่ช่วยได้
บ้างครั้งที่เป็นร้ายแรงมากมายจำต้องเปลี่ยนแปลงข้อต่อทั้งผองด้วย
ความเจ็บมีเพียงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
การผ่าตัดสามารถหลบหลีกได้
ฟื้นฟูข้อต่อของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำเป็นในเวลาที่โรคยังไม่ได้ลุกลามเกินความจำเป็นนัก
  หมอพื้นเมืองหรือการแพทย์แผนไทย สารภาพในคุณประโยชน์อันแสนวิเศษของยาแผนโบราณตามตำรายาสมุนไพร ตำรับเก่าแก่วัดโพธิ์หรือวัดพระเชตุๆพนสะอาดมังคลาราม ซึ่งเป็นยาสมุนไพรแผนโบราณขนานเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความไว้ใจสำหรับการรักษาโรคมาเนิ่นนานแล้ว สมกับคำที่กล่าวไว้ว่า "นวดแผนโบราณ ยาแผนโบราณ ตำราเรียนยาสมุนไพร จะต้องวัดโพธิ์ ภูมิปัญญาของคนประเทศไทยตลอดชาติของบรรพบุรุษไทย"

14

คนท้องนวดขาได้ไหม ? ตอบข้อสงสัยสำหรับคุณแม่
          คนท้องใช้น้ำมันนวดขาได้ไหม เชื่อว่าปริศนานี้คงเป็นคำถามยอดฮิตที่คุณแม่มือใหม่คนจำนวนไม่น้อยต้องการทราบกันแน่ๆ เพราะว่าคนท้องจำนวนมากชอบมีปัญหาเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว โดยเฉพาะรอบๆต้นขา วันนี้เราจะพาคุณแม่ไปไขข้อสงสัยประเด็นนี้กันค่ะ
          น้ำมันนวดสำหรับแม่ที่กำลังตั้งท้อง ในระยะท้องแรกๆบางครั้งก็อาจจะไม่มีปัญหาเรื่องเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวสักมากแค่ไหน แต่พอเพียงอายุครรภ์เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆๆและก็ด้วยฮอร์โมนภายในร่างกายที่มีการเปลี่ยน ประกอบกับสรีระม่าม้าเริ่มเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงน้ำหนักที่มากขึ้นเรื่อยๆด้วย ก็เลยทำให้ท่านแม่จำนวนมากร้อยทั้งยังร้อยมักจะมีปัญหาปวดเมื่อยตามมา ซึ่งหัวข้อนี้แม่ไม่ต้องกังวลเพราะว่าถือเป็นเรื่องปกติของคนท้องจ้ะ โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 และก็ 3 แม่จะมีอาการปวดไปหมดทั้งตัวอย่างยิ่งจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นปวดหลัง ปวดเอว แล้วก็ปวดต้นขา เนื่องจากจำต้องแบกรับน้ำหนักที่มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งอาการปวดเมื่อยล้ากลุ่มนี้คุณแม่จะสามารถดีขึ้นได้ด้วยการนวดให้คลายปวด แต่ถึงอย่างงั้นม่าม้าหลายคนอาจไม่พ้นมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจว่า คนท้องนวดได้ไหม คนท้องนวดขาได้ไหม ? รวมทั้งเพื่อช่วยทำให้แม่คลายความวิตกกังวล วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปพบคำตอบกันค่ะ
          สำหรับคุณแม่มีครรภ์ที่มีลักษณะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกายต่างๆปกติแล้วสามารถนวดได้จ้ะ แต่ว่าควรเป็นการนวดที่ไม่รุนแรงเกินความจำเป็น นวดเพียงพอคลายเส้นรวมทั้งคลายปวดก็เพียงพอ อย่างรอบๆแขนและขาแม่สามารถนวดได้เป็นประจำเนื่องจากเป็นจุดที่ไม่สมาคมกับการแท้งลูก ทั้งนี้ควรจะหลบหลีกการนวดบริเวณท้อง ด้วยเหตุว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการกระทบกระเทือนทำให้มีผลกับการท้องหรือแท้งบุตรได้ค่ะ
          นอกเหนือจากนั้นสำหรับแม่ที่อยากนวด ปัจจุบันนี้ยังมีสถานที่นวดคนท้องอย่าง ร้านค้าสปา ร้านค้านวด แพทย์แผนไทย และหมอแผนไทยประยุกต์ ที่รับนวดสำหรับคนท้องโดยเฉพาะด้วยนะคะ ซึ่งคุณแม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ตั้งแต่นวดตัว นวดคอ บ่า ไหล่ นวดแขนขา และนวดเท้าได้ แม้กระนั้นทั้งนี้แม่ก็ควรจะเลือกร้านหรือสถานที่ที่ตามมาตรฐาน มีผู้เชี่ยวชาญสำหรับเพื่อการนวดสำหรับคนท้องโดยยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากการนวดคนท้องนั้นจะไม่เสมือนการนวดคนธรรมดาทั่วไป ฉะนั้นก็เลยต้องให้ได้รับการฝึกอบรมหรือทำความเข้าใจวิธีนวดคนท้องอย่างแม่นยำเป็นคนนวดแค่นั้นค่ะ
          ต่อนี้ไปคุณแม่ก็อาจหายไม่สบายใจและก็เชื่อมั่นเวลาจะนวดเพื่อคลายปวดเมื่อยกันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ซึ่งการนวดนั้นนอกจากจะช่วยทำให้ลักษณะของการปวดลดน้อยลงแล้ว ยังจะช่วยทำให้คุณแม่สามารถใช้น้ำมันนวดบรรเทา หายเครียด รวมทั้งร่าเริงแจ่มใสขึ้นอีกด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ก็อย่างที่บอกไปช่วงต้น ถ้าเกิดจะนวดก็ควรจะนวดเพียงแค่เบาๆแค่นั้น หรือจะไปใช้บริการยังสถานที่นวดคนท้องโดยยิ่งไปกว่านั้นก็ได้จ้ะ จะได้แน่ใจว่าจะไม่กระเทือนกับลูกน้อยในท้องนั่นเอง
ปวดหลังทางด้านขวา อย่าชะล่าใจว่าเป็นแค่เกิดจากลักษณะของการปวดเมื่อย เนื่องจากบางทีนี่อาจเป็นสัญญาณของลักษณะของการเจ็บเจ็บไข้ที่คาดไม่ถึง
          น้ำมันนวดสามารถช่วยอาการปวดข้างหลัง เป็นอาการที่ทุกคนจำต้องเคยเผชิญ ซึ่งเพียงพอปวดหลังขึ้นมาทีไรพวกเราก็อยากจะเอนกายพัก หรือไม่ก็ไปนวดผ่อนคลายอาการปวดเมื่อยล้า ถึงแม้ว่าจริงแล้วอาการปวดหลังอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากลักษณะของการปวดเมื่อยล้ากล้ามเพียงเท่านั้น แต่ว่ายังอาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆได้อีกมากมาย เช่นที่พวกเราจะพาทุกคนไปศึกษาสิ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดข้างหลังด้านขวา ว่ามีต้นเหตุมาจากอะไรและก็อันตรายไหม เพื่อจะได้รู้เท่าทันอาการเจ็บป่วยไข้ของร่างกาย
ปวดหลังขวาบน
          อาการปวดหลังข้างขวาด้านบน เป็นลักษณะของการปวดข้างหลังที่อยู่รอบๆตั้งแต่บริเวณด้านหลังไหล่ไปจนกระทั่งใต้สะบัก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุร่วมกัน โดยมูลเหตุที่มักนำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการปวดข้างหลังด้านบนขวา มีดังนี้
ปวดหลังข้างขวา


การนั่งดำเนินการเป็นเวลานานๆหรือชูของหนักผิดท่า


          น้ำมันนวด สามารถช่วย อาการการชูของหนักหรือการนั่งดำเนินการในท่าทีที่ผิดจะต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆๆก็เป็นต้นเหตุที่ส่งผลให้เกิดลักษณะของการปวดกล้ามบริเวณข้างหลังส่วนบนทางด้านขวาได้  โดยบริเวณหลังส่วนบน นอกเหนือจากกล้ามเนื้อหลังแล้ว ก็ยังเชื่อมต่อกับกล้ามไหล่แล้วก็กล้ามเนื้อคอ โดยเหตุนั้นแม้มีอาการปวดหลังขวาบนจากการใช้งานหนักก็ชอบมีลักษณะปวดคอและไหล่ในด้านเดียวกันร่วมด้วย ทราบอย่างนี้แล้วหากคนใดกันแน่ที่ยังนั่งดำเนินงานในท่าเดิมนานๆก็ลุกขึ้นยืนมายืดเส้นยืดสายบ้างนะคะ และน่าจะนั่งให้ถูกท่าด้วย โดยท่านั่งดำเนินงานที่ถูกต้องก็คือควรให้หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตาจ้ะ


ความเปลี่ยนไปจากปกติของกระดูกแล้วก็ข้อ


          กระดูกรอบๆข้างหลังส่วนบนนั้นประกอบไปด้วยกระดูกไหปลาร้า กระดูกไหล่ กระดูกสันหลัง รวมทั้งกระดูกต้นแขน ซึ่งถ้าหากกำเนิดความแปลกกับกระดูกกลุ่มนี้ก็อาจจะเป็นผลให้รอบๆหลังขวาบนกำเนิดอาการปวดได้ โดยปัจจัยที่ทำให้กระดูกไม่ปกติก็ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุ หรือข้อต่อของกระดูกที่หลังส่วนบนขวาเกิดการอักเสบ นอกเหนือจากนี้ภาวการณ์กระดูกพรุนก็สามารถนำไปสู่ลักษณะของการปวดที่กระดูกรอบๆขวาที่อยู่ข้างบนได้  เวลาที่คนเจ็บโรคมะเร็งบางประเภทในระยะแพร่ อย่างมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ และมะเร็งไต ก็จะมีอาการปวดกระดูกรอบๆข้างหลังส่วนบนเช่นเดียวกัน


ความเปลี่ยนไปจากปกติของอวัยวะภายใน


          น้ำมันนวดสามารถช่วยรักษาอาการ อาการปวดหลังส่วนบนขวาไม่ได้มีสาเหตุมาจากกล้ามรวมทั้งกระดูกรอบๆข้างหลังส่วนบนแค่นั้น แต่ว่ายังอาจเกิดจากลักษณะการเจ็บเจ็บป่วยของอวัยวะต่างๆภายในร่างกายได้ เช่น โรคตับ นิ่วในไตและในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น โรคในถุงน้ำดี หรือแม้กระทั้งอาการติดเชื้อโรคในไต หรืออาจจะเกิดจากอาการไส้ติ่งอักเสบที่ทำให้ปวดลุกลามขึ้นบริเวณข้างหลังด้านขวาก็ได้ ส่วนคุณสุภาพสตรี ถ้าหากมีลักษณะปวดที่หลังส่วนบนขวา นั่นอาจเป็นสัญญาณของซีสต์ในรังไข่ การตำหนิดเชื้อของท่อรังไข่ หรือการท้องนอกมดลูกที่บริเวณท่อรังไข่ได้อีกด้วยจ้ะ


โรคที่เกี่ยวกับปอด


          ปอดเป็นอวัยวะที่อยู่ส่วนบนของร่างกายซึ่งตรงกับข้างหลังส่วนบนพอดิบพอดี เพราะฉะนั้นเมื่อปอดมีความผิดปกติก็สามารถก่อกำเนิดอาการปวดข้างหลังส่วนบนได้ โดยอาการที่จะทำให้เกิดลักษณะของการปวดข้างหลังข้างบนขวาก็อย่างเช่น โรคปอดบวม โรคมะเร็ง อาการติดโรคของเยื่อห่อหุ้มปอดหรือช่องอก นอกเหนือจากนี้อาการน้ำท่วมปอด หรือแม้กระทั้งหัวใจล้มเหลว ก็เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้มีการเกิดลักษณะของการปวดข้างหลังด้านขวาที่อยู่ทางด้านบนได้ เพราะฉะนั้นแม้มีลักษณะอาการปวดที่ข้างหลังด้านบนขวาแบบเรื้อรังและก็ร้ายแรง ควรจะรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดจ้ะ

Tags : น้ำมันนวดสมุนไพร

15

มะนาว
ชื่อสมุนไพร มะนาว
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ส้มมะนาว (ภาคกลาง),ส้มนาว (ภาคใต้) ,สีมานีปีห์ (มลายู) ,หมากฟ้า (ไทยใหญ่) , โกรยชะม้า (เขมร) , มะเน้าเลย์ , มะนอเกละ , ปะนอเกล (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) , ปะโหน่ละโมบลยาน (กะเหรี่ยง จังหวัดกาญจนบุรี)
ชื่อสามัญ  Common lime, Lime , Sour lime
ชื่อวิทยาศาสตร์  Citrus aurantifolia (Christm. et Panz.) Swing.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Limonia aurantifolia Christm. & Panzer.
วงศ์  Rutaceae
บ้านเกิดเมืองนอน เช้าใจกันว่ามะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ด้วยเหตุว่าผู้ที่อยู่ในภูมิภาคนี้ รู้จักการใช้คุณประโยชน์จากมะนาวกันเป็นอย่างดีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ซึ่งหนึ่งในซึ่งก็คือเมืองไทย แต่ว่ามีการศึกษาและทำการค้นพบอีกชิ้นหนึ่งที่เชื่อว่ามะนาวมีแหล่งเกิดในอินเดียภาคเหนือ แล้วก็เขตเชื่อมต่อกับเมียนมาร์ รวมทั้งทางภาคเหนือของมาเลเซีย (แม้กระนั้นน่าแปลกที่ไม่พบมะนาวในป่าของไทย) เดี๋ยวนี้มีการปลูกมะนาวทั่วไปในเขตร้อน แล้วก็เขตอบอุ่นครึ่งร้อนทั้งโลกด้วยเหตุว่ามะนาวสามารถขึ้นได้ในที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ และทนต่อดินเนื้อละเอียดได้ดีมากว่าส้ม
ลักษณะทั่วไป มะนาวเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดเล็กมีลักษณะเป็นพุ่มมีความสูงเฉลี่ย 2-5 เมตร ลำต้นมีลักษณะโค้งงอไม่ค่อยแข็งแรง เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลปนเทา กิ่งอ่อนของมะนาวมีสีเขียวอ่อน เมื่อแก่ สีจะเข้มขึ้นกระทั่งเป็นสีน้ำตาลส่วนกิ่งที่แก่มากจะเป็นสีเทา การออกของกิ่งก้านไม่ค่อยเป็นระเบียบ บนลำต้นและกิ่งไม้จะมีหนาม หนามมีลักษณะแหลมมีหนามสั้นและก็หนามยาวมีสีเขียวเข้มแล้วก็สีเขียวอมเหลือง ส่วนบริเวณปลายหนามีสีน้ำตาล เมื่อแก่ขึ้นหนามจะแห้งตามไป
                ใบของมะนาวมีลักษณะเป็นใบโดดเดี่ยว เป็นมีแผ่นใบอันเดียว ใบมีขนาดเล็กกว้างประมาณ 3-6 ซม. ยาวโดยประมาณ 6-12 ซม.รูปร่างเป็นแบบรีหรือทรงไข่ ฐานใบมีลักษณะกลม ปลายใบมีรูปแหลม ป้าน ขอบของใบเป็นคลื่น หรือเป็นหยักละเอียด ก้านใบสั้นรวมทั้งมีปีกใบแคบหรือบางทีอาจไม่มีปีกใบก็ได้ ดังนี้ขึ้นกับจำพวกมะนาว ใบอ่อนมีสีเขียวจางเกือบเป็นสีขาว ใบแก่มีสีเขียวเข้ม ผิวใบด้านบนละเอียดเป็นเงาส่วนผิวใบด้านล่างค่อนข้างจะหยาบคายและก็มีสีจางกว่า เมื่อกระทำขยี้ใบจะมีกลิ่นฉุน
                ดอกมะนาวอาจกำเนิดเป็นดอกผู้เดียวหรือช่อก็ได้ มีทั้งๆที่เป็นดอกสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ ดอกจะออกบริเวณซอกใบและก็ปลายกิ่ง ดอกมะนาวมีขนาดเล็ก ดอกที่ตูมจะมีขนาดความยาว 1-2 ซม. กลีบเลี้ยงมีสีเขียวเป็นรูปถ้วยมี 4-6 หยัก ส่วนกลีบดอกไม้มีสีขาว และก็ด้านท้องกลีบดอกไม้อาจมีสีม่วงอมแดงเจืออยู่ด้วย กลีบดอกไม้มีลักษณะเป็นรูปถ้วย มีปริมาณ 4-5 อัน ปริมาณกลีบในและกลีบนอกมีจำนวนเท่าๆกัน แต่ละกลีบมีขนาด 0.8-1.2 ซม. ดอกมะนาวมีเกสรตัวผู้มากมายถึง 20-40 อัน เชื่อมชิดกันเป็นกรุ๊ป กลุ่มละ 4-8 อัน เกสรตัวเมียมีรังไข่รูปร่างเป็นทรงกระบอก ใน 1 ดอก จะมีรังไข่ราวๆ 9-12 อัน
                ผลมะนาวมีรูปร่างนานับประการตามประเภทของชนิด มีอีกทั้งรูปร่างยาวรี รูปไข่ และก็รูปร่างกลม ที่ก้นผลมีลักษณะเป็นจุกหรือปุ่มเล็กๆผลโดยทั่วไปมีขนาดความยาว 3-12 เซนติเมตร เปลือกมักษณะตะปุ่มตะป่ำ และมีต่อมน้ำมันเปลือกผิว ผิวเปลือกเมื่อแหลม บรรจุอยู่เป็นจำนวนมาก เนื้อมะนาวมีสีเหลืองอ่อน มีรสเปรี้ยวและก็มีกลิ่นหอมเมล็ด ขนาดเล็กคล้ายรูปไข่ ด้านปลายหัวจะแหลม ภายในเม็ดมีเยื่อสีขาว
การขยายพันธุ์  มะนาวเป็นพืชซึ่งสามารถปลูกเจริญในดินดูเหมือนจะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว ดินปนทราย แต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาว ให้เติบโตดี มี ผลดก แล้วก็คุณภาพดี ก็น่าจะปลูกเอาไว้ในพื้นที่ที่เป็นดินที่ร่วนซุย มีการระบาย น้ำดี มีอินทรียวัตถุผสม อยู่มากมาย รวมทั้งควรเลือกพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ
ส่วนการขยายพันธุ์มะนาวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ดังเช่นว่า การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง แล้วก็การติดตา แต่ว่าแนวทางที่เป็นที่นิยมสำหรับการขยายพันธุ์มะนาวมากที่สุดคือ การตอนกิ่ง โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้

  • เลือกกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไปและไม่เป็นโรคหรือมีแมลงกัดรับประทาน ยาวราว 30-50 เซนติเมตร แล้วก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 0.5 ซม.ขึ้นไป
  • ตัดหนามและใบในรอบๆที่จะควั่นกิ่งออกประมาณ 5 เซนติเมตร
  • ควั่นกิ่งออกเป็น 2 รอยให้ลึกถึงแก่นไม้ห่างกัน 1-2 ซม.
  • ขูดเนื้อเยื่อรุ่งโรจน์ออกให้หมด
  • หุ้มด้วยขุยมะพร้าวที่มีความชื้นหรือใช้ตุ้มตอนสำเร็จ ผูกเปาะหัวด้านหลังให้แน่น แล้วทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 30-45 วัน เมื่อรากออกมาแล้วก็ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดเพื่อนำไปแช่น้ำจนถึงอิ่มตัว
  • นำไปชำต่อในถุงดำขนาด 5x8 นิ้ว ที่ผสมดิน 1 ส่วน แกลบ 1 ส่วน และเมื่อกิ่งที่ชำเดินรากได้ดิบได้ดีในถุงสีดำรวมทั้งแข็งแรงแล้วจากนั้นจึงค่อยนำไปปลูกถัดไป
การเตรียมพื้นที่ปลูก

  • พื้นที่ลุ่ม จัดแจงพื้นที่โดยทำคันนาให้มีความกว้างประมาณ 6-8 เมตร ความสูงให้พิจารณาจากจำนวนน้ำที่เคยท่วมสูงโดยให้อยู่สูงกว่า แนวระดับน้ำหลาก 50 ซม. แทงร่องหรือซอกซอยร่องทำแต้มน้ำเพื่อ ระบายน้ำเข้าออก ขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตร ลึก 1 เมตร พื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตร ใช้ระยะปลูก 5X5 เมตร
  • พื้นที่ดอน ควรจะไถกระพรวนเพื่อกำจัดวัชพืช รวมทั้งทำให้ดินร่วนซุย ใช้ระยะปลูก 4 x 4 – 6 x 6 เมตร ทั้งนี้ขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
กรรมวิธีการปลูก
ควรปลูกเอาไว้ภายในช่วงต้นฤดูฝน ควรขุดหลุมปลูก ให้มีขนาดกว้างรวมทั้งลึกราวๆ 50 ซม. ผสมดิน ปุ๋ยคอก และก็ปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกัน ในหลุมให้ สูงโดยประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม ยกถุงกล้า ต้นไม้วางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่า ระดับดินปากหลุมบางส่วน ใช้มีดที่คม กรีดถุง จากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุง 2 ด้าน (ช้ายรวมทั้งขวา) ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังไม่ให้ดินแตก กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินรอบๆโคนต้นให้แน่น ปักไม้หลักแล้วก็ผูกเชือกยึด เพื่อปกป้องลมพัดโยก หาวัสดุคลุมดินรอบๆโคนต้น เช่น ฟางข้าว ต้นหญ้าแห้ง รดน้ำให้โชก ทำร่มเงา เพื่อช่วยอำพรางแสงแดด
การปฏิบัติดูแล การให้น้ำ ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอน ที่ปลูกใหม่ๆควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) ภายหลังปลูกราว 15 วัน มะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้ว ให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง แล้วก็ควรหา สิ่งของมาหุ้มดินบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น                ควรจะเริ่มงดให้น้ำ ตั้งแต่ตอนมี.ค. เป็นต้นไป จนกระทั่งช่วงออกดอก เพื่อมะนาวสะสม ของกินให้มากถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ ปกติมะนาวจะออกดอก เมษายน-พฤษภาคม หลังจากมะนาวออกดอก และก็กำลังติดผลอ่อน เป็นตอนๆที่มะนาวอยากน้ำมาก เพื่อใช้สำหรับในการเจริญวัย ของผล

     ส่วนชนิดมะนาวที่มีการปลูกกันมากมายในไทย เช่น

  • มะนาวไข่ ผลกลม หัวท้ายยาวคล้ายมะนาวหนัง เมื่อโตเต็มที่ผลมีลักษณะกลมมน เปลือกบางผลโต กว่ามะนาวหนัง
  • มะนาวแป้น ผลใหญ่ ค่อนข้างจะกลมแป้น เปลือกบาง มีน้ำมาก นิยมใช้บริโภคมากกว่าประเภทอื่นๆเชิงการค้าจะปลูกมะนาวพันธุ์แป้นดกพิเศษ สามารถบังคับให้ออกฤดูแล้งได้ง่าย
  • มะนาวหนัง ผลอ่อนกลมยาวหัวด้านหลังแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีเปลือกหนา ทำให้เก็บรักษาผลประโยชน์นาน


ส่วนประกอบทางเคมี น้ำจากผลมีกรด citric acid, malic acid, ascorbic acid,  ผิวมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยที่มาจากการกลั่นผิวผล ร้อยละ 0.3-0.4 มีสารต่างๆอาทิเช่น  d-limonene (42-64%), alpha-berpineol (6.81%), bergamotene ผสมกับ terpinen-4-ol (3%),  alpha-pinene          citric acid       
(1.69%), geraniol (0.31%), linalool,  terpineol, camphene, bergapten (furanocoumarin)    ใบมะนาวเมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการ    camphene
ต้มกลั่น (hydrodistillation) ได้น้ำมันหอมระเหยปริมาณร้อยละ 0.27  ส่วนประกอบทางเคมีของน้ำมันประกอบด้วยสารต่างๆยกตัวอย่างเช่น  6-methyl-5-hepten-2-one (3.19), limonene (44.82), neral (4.95), geranial (7.66) , geranyl acetate (8.98), caryophyllene oxide (2.31) ส่วนข้อมูลทางโภชนาการของมะนาวมีดังนี้

  • พลังงาน 30 กิโลแคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 10.5 กรัม
  • น้ำตาล 1.7 กรัม
  • เส้นใย 2.8 กรัม terpineol
  • ไขมัน 0.2 กรัม
  • โปรตีน 0.7 กรัม
  • วิตามินบี 1 0.03 มก.
  • วิตามินบี 2 0.02 มก.
  • วิตามินบี 3 0.2 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 5 0.217 มก.
  • วิตามินบี 6 0.046 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 9 8 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 29.1 มก.
  • แคลเซียม 33 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.6 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 6 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 102 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 2 มิลลิกรัม ที่มา : Wikipedia
คุณประโยชน์/สรรพคุณ
น้ำมะนาวมีคุณค่าสำหรับการเป็นสารให้ความเปรี้ยว ผิวมะนาวมีกลิ่นหอมหวนจากน้ำมันหอมระเหย มะนาวเป็นเครื่องปรุงรสของกินไทยที่ขาดเสียมิได้ เป็นส่วนประกอบรสเปรี้ยวหลักของน้ำพริก ส้มตำ ยำทุกชนิด ลาบรวมทั้งอาหารไทยอีกอีกเยอะมาก ต่างประเทศใช้มะนาวทั้งในอาหารคาวหวาน ดังเช่น ในพายมะนาวของรัฐฟลอริด้า อเมริกา
น้ำมะนาวนอกเหนือจากใช้แต่งรสเปรี้ยวในอาหารหลาย จำพวกแล้ว ยังนำมาใช้เป็นเครื่องดื่ม ผสมเกลือ แล้วก็น้ำตาล เป็นน้ำมะนาว ซึ่งมีชื่อเสียงกันดีในประเทศไทย และต่างประเทศทั้งโลก นอกเหนือจากนั้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์บางจำพวกยังนิยมฝานมะนาวเป็นชิ้นบางๆแทงไว้กับขอบแก้ว เพื่อใช้แต่งรส
โดยภายในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึงปริมาณร้อยละ 7 น้ำมะนาวจึงมีคุณประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม การบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาสำหรับล้างจาน
นอกนั้นยังมีการใช้ประโยชน์จากมะนาวด้านอื่นๆอีกอาทิเช่น หุงข้าวให้ขาวและก็อร่อยขึ้น ด้วยการใช้น้ำมะนาวราวๆ 2-3 ช้อนนำไปซาวข้าว  ทอดไข่ให้ฟูและก็นุ่ม มะนาว 4-5 หยดจะช่วยได้  มะนาวช่วยลดเหม็นคาวจากปลาเมื่อประกอบอาหารแล้วก็ทำให้ปลาอาจรูปไม่เละ เมื่อใช้มีดผ่าปลี มีดจะมีสีม่วงหมู่ ล้างออกทุกข์ยากลำบาก นำมาท้องนาวที่ผ่าแล้วมาเช็ดตามใบมีด จะช่วยให้มีดสะอาดเหมือนเดิม  การเชื่อมกล้วยหักมุกให้น่ากิน เมื่อน้ำตาลเดือดเป็นยางมะตูมแล้ว ให้บีบมะนาวครึ่งซีกลงไป จะช่วยให้กล้วยใส น่ารับประทานมากขึ้นเรื่อยๆ  มะนาว 2-3 ลูกใส่ในถังข้าวสารช่วยคุ้มครองป้องกันมอดได้  ส่วนการเปลี่ยนแปลงรูปมะนาว มะนาวดัดแปลงได้ ดังเช่น น้ำมะนาวประกอบอาหาร มะนาวแช่อิ่มตากแห้ง น้ำมะนาวเข้มข้น มะนาว ผง เครื่องดื่มผสมน้ำมะนาว แยมมะนาว เยลลีมะนาว แยมเปลือกของมะนาว แยมนะท้องนาวดอง มะนาวดองเค็ม มะนาวหวาน กิมจ้อมะนาว เปลือกของมะนาวสามรส เปลือกของมะนาวเส้นปรุงรส เปลือกของมะนาวเชื่อม เปลือกของมะนาวแช่อิ่ม มาร์มาเลดมะนาว เป็นต้น
ส่วนคุณประโยชน์ทางยานั้นระบุว่า แบบเรียนยาไทยผิวมะนาวจัดอยู่ใน “เปลือกส้ม 8 ประการ” ประกอบด้วย ผิวส้มเขียวหวาน ผิวส้มจีน ผิวส้มซ่า ผิวส้มโอ ผิวส้มจังหวัดตรังกานู ผิวมะงั่ว ผิวมะกรูด และก็ผิวมะนาว (หรือผิวส้มโอมือ) มีคุณประโยชน์แก้ลมกองละเอียด กองหยาบคาย แก้เสลดโลหะ ใช้ปรุงยาหอม แก้ทางลม
           นอกเหนือจากนั้นบัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้เริ่มแรก ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้ผิวมะนาว ในยารักษาอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” มีส่วนประกอบของผิวมะนาว อยู่ใน ”เปลือกส้ม 8 ประการ” ร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์ในการแก้ลมตาลาย แก้อาการหน้ามืด ลายตา ใจสั่น คลื่นเหียนอาเจียน คลื่นไส้ แก้ลมจุกแน่นในท้อง
                ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันเจาะจงถึงสรรพคุณของมะนาวว่า สารดี-ลิโมนิน (d-limonin) เป็นสารที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความขมในน้ำมะนาว น้ำมันผิวมะนาว (lime oil) พบได้ทั่วไปบริเวณผิวเปลือกของมะนาวมีสารดี-ลิโมนิน เป็นองค์ประกอบหลักเกินกว่าปริมาณร้อยละ 90 พบว่าน้ำมันผิวมะนาว มีคุณลักษณะปกป้องรวมทั้งรักษามะเร็งหลายอย่าง
คนตะวันตกทั่วไปมักกินน้ำส้ม หรือน้ำจากผลพืชตระกูลส้ม ดังเช่น ส้มโอ หรือมะนาว ประกอบกับอาหารเช้า น้ำผลไม้กลุ่มนี้มีวิตามินซี และมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) มีสารเฮสเพอริดิน (hesperidin) รูทิน (rutin) และก็ท้องนาริงจิน (naringin) และก็ลิโมนิน เป็นฟลาโวนอยด์หลักของพืชเครือญาติส้ม จากนี้จะเรียกสารกลุ่มนี้ว่าฟลาโวนอยด์ส้ม (citrus bioflavonoid)
สารกลุ่มฟลาโวนอย์ส้มนี้มีรายงานทางการแพทย์ตะวันตกว่าใช้เพื่อการรักษามาลาเรีย โรครูมาติเตียนสม์เรื้อรังรวมทั้งโรคเกาต์ ใช้เพื่อการคุ้มครองปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน คุ้มครองปกป้องการตกเลือดหลังคลอด แล้วก็ช่วยทุเลาอาการระคายคอจากการตำหนิดเชื้อรวมถึงโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งโรคที่มีต้นเหตุมากจากการได้รับวิตามินซีในของกินไม่เพียงพอ ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีลักษณะของโรคเกิดขึ้นด้านใน 8-12 อาทิตย์ ผู้ป่วยมักมีลักษณะคล้ายเจ็บป่วย เหน็ดเหนื่อย ง่วงซึม โลหิตจาง ปวดกล้าม เจ็บกระดูก มีแผลฟกช้ำดำเขียวหรือบวมง่าย มีจุดเลือดออกแดงๆตามผิวหนัง กำเนิดโรคทางปริฟัน เป็นแผลแล้วหายยาก อารมณ์แปรปรวน หรือมีสภาวะหม่นหมอง สำหรับประโยชน์ที่ได้รับมาจากน้ำมะนาวต่อโรคนี้ มีการวิจัยเมื่อก่อนที่ให้ผู้ป่วยโรคนี้กินส้มกับมะนาวเหลือง พบว่าคนเจ็บสามารถฟื้นได้อย่างสมบูรณ์และก็รวดเร็วทันใจ เมื่อเทียบกับผู้ป่วยอีกกลุ่มที่รับประทานอาหารจำพวกอื่น นอกเหนือจากนั้นในน้ำมะนาวยังมีกรด citric ซึ่งมีรสเปรี้ยว จะเป็นตัวกระตุ้นให้มีการขับน้ำลายออกมาทำให้ชุ่มคอ ก็เลยช่วยทุเลาลักษณะการเจ็บคอได้
แบบอย่าง/ขนาดการใช้
อาการไอ  ระคายคอจากเสลดใช้น้ำจากผลที่โตเต็มที่  เพิ่มเติมเกลือนิดหน่อย  จิบบ่อยๆหรือ จะทำน้ำมะนาวเพิ่มเติมเกลือและก็น้ำตาลนิดหน่อย           อาการท้องอืดท้องอืด แน่นจุกเสียด   ใช้เปลือกผลสด 1/2-1 ผล ฝานเป็นชิ้นเล็กๆบางๆชงด้วยน้ำเดือด ปิดฝาทิ้งเอาไว้ 5-10 นาที ดื่มแต่ว่าน้ำขณะมีอาการ หรือหลังรับประทานอาหาร 3 เวลาใช้มะนาว 1 ผล บีบเอาน้ำมะนาวมาชงกับน้ำร้อนดื่มหรือใช้มะนาวฝานบางๆจิ้มเกลือกินจะช่วยขับเสลดได้รุ่งเช้าหลังตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว บีบมะนาว 1/4 ผล (หรือใส่เกลือนิดหน่อย) จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูก และช่วยกำจัดสารพิษออกมาจากร่างกายน้ำมะนาวผสมผงกำมะถันใช้ทาก่อนนอน แก้อาการขี้กลาก โรคเกลื้อน หิดใช้น้ำมะนาวทาที่ตุ่มคัน ทิ้งไว้ให้แห้ง ล้างน้ำสบู่แล้วขัดถูให้แห้ง แล้วใช้แป้งทาตุ่มคัน แก้น้ำกัดเท้าในด้านความสวยงาม ผลัดเซลล์ผิว ลดรอยด่างดำ ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนจนเข้ากัน ทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้สักประเดี๋ยว ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วซึมซับให้แห้ง ทำอาทิตย์ละครั้ง ผิวหน้าจะมองสดใส หรือใช้น้ำมะนาวผสมน้ำแช่อาบใช้สำหรับการแก้ไข้ทับประจำเดือน ด้วยการเอาใบมะนาวราวๆ 100 ใบมาต้มรับประทานช่วยแก้ลิ้นเป็นฝ้า ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำมะนาวขัดถูที่ลิ้นวันละ 2-3 ครั้ง
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา การศึกษาสัตว์ทดสอบในหนู พบว่าเมื่อให้สารเฮสเพอริดินซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์หลักจากเปลือกในพืชเครือญาติส้มกับหนูไขมันสูง มีผลเพิ่มไขมันที่ดี (เอชดีแอล-คอเลสเตอรอล) ลดไขมันไม่ดี (แอลดีแอล-คอเลสเตอรอล) ลดปริมาณไขมันรวมรวมทั้งไตรกลีเซอไรด์ ในหนูดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วก็ส่งผลลดระดับความดันเลือดแล้วก็ขับปัสสาวะในหนูความดันสูง การทดลองในห้องปฏิบัติในแคนทุ่งนาดาการพบว่า ฤทธิ์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วของฟลาโวนอยด์ส้มมีสาเหตุมาจากผลการกระตุ้นการทำงานของยีนรีเซปเตอร์ไขมันไม่ดี (แอลดีแอล) ในตับในตำแหน่งที่ควบคุมโดยสเตอรอล (sterol regulatory element, SRE)
ในสหรัฐฯ งานค้นคว้าในสัตว์ทดลองพบว่า ฟลาโวนอยด์ส้มสองกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มเฮสเพอริดิน แล้วก็กลุ่มโพลีเมททอกซิเลตฟลาโวน (PMFs) มีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในพลาสม่าของสัตว์ทดสอบ ซึ่งสนับสนุนผลงานวิจัยในหนูถีบจักรของแคนาดา
ประเทศจีน งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่า ทุ่งนาริงจิน และเฮสเพอริดินซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ส้มมีฤทธิ์กระตุ้นแนวทางการทำงานของยีนอะดีโพเนกทิน (adiponectin) ซึ่งเป็นยีนสำคัญในเมตาบอลิซึมของกลูโคสและก็ไขมันที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลัคตันของเส้นเลือดและก็ขั้นตอนการอักเสบ ผลการศึกษาเรียนรู้พูดว่าฟลาโวนอยด์ส้มอีกทั้ง 2 ชนิดแสดงผลต้านการเกิดพลัคโดยกระตุ้น perovisome proliferator-activated receptor (PPAR) และก็ยีนอะดีโพเนกทินในเซลล์ไขมันอะดีโพไซต์
นอกเหนือจากนี้ สารทั้งสองยังมีฤทธิ์เอสโทรเจนอย่างอ่อน ส่งผลต่อการสร้างไนตริกออกไซด์ในเซลล์ฝาผนังเส้นโลหิตผ่านการกระตุ้นรีเซปเตอร์ของเอสโทรเจน ก็เลยมีฤทธิ์คุ้มครองป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ ส่งผลให้เกื้อหนุนการกินมะนาว และก็ฟลาโวนอยด์ส้มเพื่อลดจำนวนคอเลสเตอรอลในเลือด ปกป้องโรคเส้นเลือดหัวใจ โดยเฉพาะในหญิงวัยทอง
งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยหนึ่งพบว่า น้ำมะนาวเข้มข้น (concentrated lime juice, CLJ) มีฤทธิ์กระตุ้นเซลล์โมโนนิวเคลียร์ในระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งโปรตีนในน้ำมะนาวเข้มข้นมีฤทธิ์ต่อต้านการแบ่งตัวของเซลล์ของโรคมะเร็ง การศึกษาในห้องแลปในมลรัฐเท็กซัสรวมทั้งแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ส้มมีฤทธิ์ต้านทานออกซิเดชั่นพอสมควร แม้กระนั้นน้อยกว่าฟลาโวนอยด์ในพืชเครือญาติขิง มีบทความทางการแพทย์กล่าวว่า ฟลาโวนอยด์ส้มยั้งการเจริญของเซลล์ของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ปอด ช่องปาก กระเพาะอาหาร แล้วก็โรคมะเร็งเต้านมจากการทดลองในห้องทดลองรวมทั้งในสัตว์ทดลองหลายแบบ แต่ว่ายังไม่พบผลการศึกษาเรียนรู้ทางสถานพยาบาล
ส่วนฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะนาวที่เกี่ยวกับแก้เจ็บคอมีดังนี้  ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีการศึกษาวิจัยผลของอีกทั้งน้ำมันหอมระเหยและก็สารสกัด พบว่า น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Bacillus cereus รวมทั้ง E. coli สารสกัด 80% เอทานอลจากเปลือกผิว มีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus และก็ Bacillus cereus สารสกัดจากเมล็ดมีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Bacillus subtilis, E. coli. Pseudomanas cichorii และ Salmonella typhimurium สารสกัดเอทานอลจากส่วนกิ่ง (branches) ความเข้มข้น 20 มิลลิกรัม/มล. ไม่มีฤทธิ์ยั้งเชื้อ Staphylococcus aureus, Bacillus subtilis และ Streptococcus faecalis
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ  เมื่อให้น้ำสกัดจากใบมะนาวทางปาก หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนูเม้าส์ ด้วยขนาด 10 กรัม/กก.น้ำหนักตัว (เท่ากันกับ 1,852 เท่าของขนาดที่ใช้ในคน) ไม่เจอความไม่ดีเหมือนปกติอะไรก็ตามเมื่อป้อนสารสกัดรากมะนาวด้วยน้ำครั้งเดียวทางปาก ในขนาด 5 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ให้หนูแรทไม่พบว่าเป็นพิษทั้งแบบกระทันหันแล้วก็กึ่งเรื้อรัง แม้กระนั้นพบว่าในหนูที่ได้รับสารสกัด 1.2 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว/วัน  มีเอ็นไซม์ในตับเพิ่มขึ้นแม้กระนั้นยังอยู่ในตอนธรรมดา และไม่เจอความแปลกของอวัยวะภายใน  ส่วนสารสกัดจากเปลือกผิวมะนาวส่งผลยับยั้งฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์  รวมทั้งการทดลองฤทธิ์ระคายเคืองโดยกรรมวิธี Patch test พบว่าสารสกัดจากมะนาวให้ผล positive
คำแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง

  • การทาน้ำมันมะนาวลงบนผิวหนังโดยตรงบางทีอาจไม่ปลอดภัยในมีผิวหนังแพ้ง่าย ที่สามารถส่งผลให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวค่อนข้างขาว หลังจากการใช้น้ำมันมะนาวทาลงผิวหนังจำเป็นจะต้องทาโลชั่นที่เอาไว้สำหรับกันแสงแดดและก็สวมเสื้อผ้ามิดชิดเพื่อคุ้มครองปกป้องก่อนออกไปพบเจอกับแดด
  • รสเปรี้ยวของมะนาวอาจจะทำให้เกิดท้องเดินหรือท้องเสียได้ถ้าเกิดรับประทานมากเกินความจำเป็น
  • ภายหลังจากดื่มน้ำมะนาวแล้วไม่สมควรแปรงฟันในทันทีเนื่องจากว่าอาจจะเป็นผลให้สารเคลือบฟันตามธรรมชาติหลุดได้
  • แม้ดื่มหรือรับประทานมะนาวบ่อยๆรวมทั้งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานต่อเนื่องกันอาจก่อให้ฟันผุร่อนได้
  • คนที่มีภาวะโลหิตจางไม่สมควรกินมะนาว เนื่องจากรสเปรี้ยวจะไปกัดฟอกโลหิตก่อให้เกิดอันตรายได้
  • ยาบางจำพวกที่จะถูกเปลี่ยนแปลงด้านในตับ โดยมะนาวอาจส่งให้ช่วงเวลาสำหรับในการเปลี่ยนรูปของยากลุ่มนี้น้อยลง การดื่มน้ำมะนาวขณะกินยาบางชนิดที่เปลี่ยนรูปในตับก็เลยอาจทำให้ส่งผลข้างเคียงมากขึ้น อย่างเช่น ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ไอทราโคนาโซล (Itraconazole) เฟกโซเฟนาดีน (Fexofenadine) ตรีอาโซแลม (Triazolam) เพราะฉะนั้น ก่อนรับประทานมะนาวควรขอความเห็นแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ด้วย
เอกสารอ้างอิง

  • วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม. 2536. พจนานุกรมสมุนไพรไทย. กรุงเทพ ฯ : พิมพ์ครั้งที่ 2, สำนักพิมพ์สุริยบรรณ.
  • รวี เสรฐภักดี.2553.คู่มือประกอบการฝึกอบรมโครงการปลูกมะนาวและการผลิตมะนาวนอกฤดู:การสร้างสวนไม้ผลยุคใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.นครปฐม
  • Sethpakdee, R. 1992. Citrus aurantifolia (Christm. & Panzer) Swingle . In: L.P.A. Oyen and Nguyen Xuan Dung (Editors): Plant Resourses of South-East Asia No 2. Edible fruits and nuts. Prosea Foundation, Bogor, Indonesia. pp. 126-128.
  • รศ.สุธาทิพ ภมรประวัติ.มะนาว ลดคลอเรสเตอรอลป้องกันโรคหลอดเลือด.นิตยสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่354.คอลัมน์บทความพิเศษ.ตุลาคม.2551.
  • มะนาว.ฐานข้อมูลเครื่องยาคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีธิราภา แสนเสนา นพดล กิตติวราฤทธิ์ มาลิน จุลศิริ รุ่งระวี เติมศิริฤกษ์กุล. ฤทธิ์ต้านเชื้อและฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์ของสารสกัดจากผิวผลพืชตระกูลส้ม. โครงการพิเศษ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2536.
  • มะนาว.สมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.disthai.com/
  • อรรถศิษฐ์  วงศ์มณีโรจน์.2553.คู่มือประกอบการฝึกอบรมโครงการปลูกมะนาวและการผลิตมะนาวนอกฤดู ดินและปุ๋ยสำหรับการปลูกมะนาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน.นครปฐม.ไม้ผลเศรษฐกิจ.ฉบับที่102(251)/2552.วารสารเมืองไม้ผล.เทคนิคการปลูกมะนาวพันธุ์แป้นเกษตรดกพิเศษให้ออกในช่วงฤดูแล้ง.88-93 น.
  • Prabuseenivasan, S. et al. 2006. Invitro antibacterial activity of some plant essential oils. BMC Complement Altern Med 30(6):39
  • ประโยชน์ของมะนาวต่อการรักษาโรคได้ผลชัวร์หรือไม่.พบแพทย์ดอทคอม
  • อาจินต์ ปัญจพรรค์.

หน้า: [1] 2 3 ... 7