รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - xcv05s0df1

หน้า: [1]
1

รากสามสิบ
รากสามสิบ ชื่อสามัญ Shatavari8
รากสามสิบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Asparagus racemosus Willd. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Protasparagus racemosus (Willd.) Oberm.) จัดอยู่ในวงศ์หน่อไม้ฝรั่ง (ASPARAGACEAE) และก็อยู่ในตระกูลย่อย ASPARAGOIDEAE4
สมุนไพรรากสามสิบ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า สามร้อยราก (กาญจนบุรี), ผักหนาม (จังหวัดนครราชสีมา), ผักชีช้าง (จังหวัดหนองคาย), จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ), เตอสีเบาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), พอควายเมะ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), ชีช้าง, ผักชีช้าง, จั่นดิน, ม้าสามต๋อน, สามสิบ, ว่านรากสามสิบ, ว่านสามสิบ, ว่านสามร้อยราก, สามร้อยสามี, สาวร้อยผัว, ศตาวรี ฯลฯ
รูปแบบของรากสามสิบ
ต้นรากสามสิบ จัดเป็นไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพันต้นไม้อื่นด้วยหนาม (หนามเปลี่ยนแปลงมาจากใบเกล็ดบริเวณข้อ) สามารถเลื้อยปีนต้นไม้อื่นขึ้นไปได้สูงประมาณ 1.5-4 เมตร แตกแขนงเป็นเถาห่างๆลำต้นเป็นสีเขียวหรือสีขาวแกมเหลือง เถามีขนาดเล็กเรียว กลม เรียบ ลื่น และวาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2-5 มิลลิเมตร เถาอ่อนเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีหนามแหลม หนามมีลักษณะโค้งกลับ ยาวประมาณ 1-4 มิลลิเมตร บริเวณข้อมีกิ่งแตกกิ่งแบบรอบข้อ และก็กิ่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวลักษณะแบนเป็นรูปขอบขนาน ปลายแหลม กว้างโดยประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร และยาวโดยประมาณ 0.5-2.5 มิลลิเมตร ปฏิบัติหน้าที่แทนใบ มีเหง้าและก็รากอยู่ใต้ดิน ออกเป็นกระจุกเหมือนกระสวย ลักษณะของรากออกเป็นพวงคล้ายรากกระชาย ลักษณะอวบน้ำ เป็นเส้นกลมยาว มีขนาดโตกว่าเถามาก มีเขตการกระจายชนิดในประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา ชวา จีน มาเลเซีย และประเทศออสเตรเลีย พบขึ้นตามป่าในเขตร้อนชื้น ป่าเขตร้อนแล้ง ป่าผลัดใบ ป่าโปร่งหรือตามเขาหินปูน
ต้นรากสามสิบ
สามร้อยราก
ใบรากสามสิบ ใบเป็นใบผู้เดียว แข็ง ออกรอบข้อเป็นฝอยๆเล็กคล้ายหางกระรอก หรือออกเรียงสลับเป็นกระจุก 3-4 ใบ ใบเป็นสีเขียวดก ลักษณะของใบเป็นรูปเข็มขนาดเล็ก ปลายใบแหลม เป็นรูปเคียว โคนใบแหลม มีขนาดกว้างโดยประมาณ 0.5-1 มม. รวมทั้งยาวราวๆ 10-36 มิลลิเมตร แผ่นมักโค้ง สันเป็นสามเหลี่ยม มี 3 สัน มีหนามที่ซอกกระจุกใบ ก้านใบยาวโดยประมาณ 13-20 ซม.
ใบรากสามสิบ
ดอกรากสามสิบ มีดอกเป็นช่อกระจะ ยาวประมาณ 2-4 ซม. โดยจะออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบแล้วก็ข้อเถา ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ดอกเป็นสีขาวรวมทั้งมีกลิ่นหอม มีประมาณ 12-17 ดอก ก้านดอกย่อยยาวโดยประมาณ 2 มม. มีกลีบรวม 6 กลีบ แยกเป็น 2 วง วงนอก 3 กลีบ แล้วก็วงในอีก 3 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ปลายกลีบมน ขอบเรียบ กลีบกว้างประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร แล้วก็ยาวประมาณ 2.5-3.5 มิลลิเมตร กลีบมีลักษณะบางและก็ย่น โคนกลีบเชื่อมชิดกันเป็นหลอดรูปดอกเข็มยาวโดยประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ส่วนปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรผู้เชื่อมแล้วก็อยู่ตรงข้ามกับกลีบรวม เป็นเส้นเล็ก 6 อัน ก้านชูอับเรณูเป็นสีขาว อับเรณูเป็นสีน้ำตาลเข้ม รังไข่เป็นรูปไข่กลับ อยู่เหนือวงกลีบ ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร มี 2 ช่อง ในแต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด หรือมากกว่า ส่วนก้านเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 2 แฉกขนาดเล็ก โดยจะออกดอกในตอนโดยประมาณเมษายนถึงเดือนมิถุนายน1,2,4,5
ดอกรากสามสิบ
ผลรากสามสิบ รูปแบบของผลเป็นรูปทรงออกจะกลม หรือเป็นพู 3 พู ผิวผลเรียบวาว มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 4-6 มม. ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะกลายเป็นสีแดงหรือสีม่วงแดง ด้านในผลมีเมล็ดประมาณ 2-6 เม็ด เม็ดเป็นสีดำ เปลือกหุ้มมีลักษณะแข็งแต่เปราะ ผลิดอกออกผลในช่วงราวๆเมษายนถึงก.ค.1,8
ผลรากสามสิบ
เม็ดรากสามสิบ

สรรพคุณของรากสามสิบ
รากสามสิบมีรสขื่นเย็น มีคุณประโยชน์เป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยาชูกำลัง (ราก)
ตำราเรียนยาไทยจะใช้รากเป็นยาแก้กษัย (ราก)
ในประเทศประเทศอินเดียจะใช้รากเป็นยากระตุ้นประสาท (ราก)
รากใช้ผสมกับเหง้าขิงป่าและก็ต้นจันทน์แดง ผสมกับสุราโรงใช้เป็นยาแก้วิงเวียน (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาลดระดับความดันเลือดแล้วก็ลดไขมันในเลือด (ราก)
รากสามสิบมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไปกระตุ้นลักษณะการทำงานของตับอ่อนให้เพิ่มการหลั่งสาร insulin (ราก)
ทั้งยังต้นหรือรากเอามาต้มกับน้ำกินเป็นยารักษาโรคคอพอก (ราก, ทั้งยังต้น)
ผลมีรสเย็น ใช้ปรุงเป็นยาแก้พิษไข้เซื่องซึม แก้พิษไข้กลับไข้ซ้ำ มักใช้ร่วมกับผลราชดัด เพื่อเป็นยาดับพิษไข้จากบิดเรื้อรัง (ผล)
รากมีรสเฝื่อนเย็น ใช้กินเป็นยาแก้พิษร้อนในอยากดื่มน้ำ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ไอ (ราก)
ช่วยขับเสลด4 แก้การตำหนิดเชื้อที่หลอดลม (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำเป็นยาช่วยขับลม และก็ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร (ราก)
ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ แก้อาการของกินไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะ โรคกระเพาะ (ราก)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการท้องเดิน แก้บิด (ราก)
ใบมีสรรพคุณเป็นยาระบาย (ใบ)
หนังสือเรียนยาสมุนไพรพื้นบ้านของจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากเอามาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ริดสีดวงทวาร (ราก)
รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ขัดค่อย ขับปัสสาวะ ช่วยหล่อลื่นรวมทั้งกระตุ้น (ราก)
ช่วยรักษาอาการระดูแตกต่างจากปกติของสตรี (ราก)
ทั้งยังต้นหรือรากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้แท้งลูก (ราก, ทั้งต้น)
ในอินเดียจะใช้รากสามสิบเป็นยากระตุ้นความสามารถทางเพศทั้งชายรวมทั้งหญิง คนทางภาคเหนือบ้านเราจะใช้รากสามสิบทำเป็นยาดอง ใช้กินเป็นยาบำรุงสำหรับเพศชาย รับประทานแล้วครึกครื้นเหมือนม้า 3 ตัว จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “ม้าสามต๋อน” ส่วนแพทย์ยาโบราณจะใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งเป็นต้นเหตุของชื่อ “สาวร้อยผัว” หรือ “สามร้อยผัว” กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้ อายุมากแค่ไหนก็ยังดูสาวเสมอ แต่ว่าไม่ใช่รับประทานแล้วจะสามารถมีผัวได้เป็นร้อยคน ในตำราอายุรเวทจะใช้สมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรหลักในการบำรุงสตรี ทำให้กลับมาเป็นสาว ช่วยไขปัญหาต่างๆของสตรี ไม่ว่าจะเป็นสภาวะรอบเดือนแตกต่างจากปกติ ภาวการณ์หมดรอบเดือน ปวดประจำเดือน ตกขาว มีลูกยาก ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ช่วยบำรุงรักษาท้อง บำรุงนม คุ้มครองการแท้ง ฯลฯ สำหรับวิธีการใช้ก็ให้นำรากมาต้มรับประทาน หรือนำรากมาตากแห้งแล้วบดเป็นผุยผงปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง นอกเหนือจากนี้ยังคงใช้กระตุ้นนมในวัวนมได้อีกด้วย (ราก)
ใช้เป็นยาบำรุงตับรวมทั้งปอดให้กำเนิดกำลังเป็นปกติ แก้ตับรวมทั้งปอดทุพพลภาพ (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้พิษจากแมลงป่องกัดต่อย (ราก)
รากใช้ฝนทาแก้อาการปวดฝี ทำให้เย็น ช่วยถอนพิษฝี พิษปวดแสบปวดร้อน (ราก)
ช่วยบรรเทาอาการระคาย (ราก)
รากใช้กินเป็นยาแก้ลักษณะของการปวดเมื่อย ครั่นตัว (ราก)
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อและคอ (ราก)
ใบมีสรรพคุณช่วยขับนม ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ใบ)
รากใช้เป็นยาบำรุงเด็กแรกเกิดในท้อง บำรุงน้ำนม บำรุงร่างกายข้างหลังการคลอดลูกของสตรี (ราก)
ใน “พระคู่มือคุณประโยชน์ (แลมหาพิกัด)” ได้เอ่ยถึงสรรพคุณของรากสามสิบไว้ว่า “ผักหวานตัวผู้มีรสหวาน แก้กำเดา แก้ดวงตาโรค รากสามสิบ 2 มีคุณยิ่งกว่าผักหวาน” กำเดาหรือไข้กำเดา มีอยู่ 2 จำพวก อย่างแรก คือ ตัวร้อน ไม่อยากอาหาร ปวดหัว และอีกอย่างหนึ่งหมายถึงมีลักษณะร้ายแรงมากยิ่งกว่า มีเม็ดผุดขึ้นตามร่างกาย มีอาการคัน ไอ มีเสมหะ และก็มีเลือดออกทางปากรวมทั้งจมูก (ราก)
ส่วนในหนังสือ “พระคัมภีร์เวชศาสตร์สงเคราะห์” ได้กล่าวถึงตำรับยารักษาคนธาตุหย่อนยาน อันมีตัวยารากสามสิบรวมอยู่ด้วยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆอีกหลายอย่าง โดยบอกว่ามีคุณประโยชน์ (ที่ค่อนจะเข้าใจยาก) ว่าช่วยจำเริญชีวิตให้กำเนิดกำลัง ให้บำรุงธาตุไฟ ให้เจริญอินทรีย์แต่ละอย่าง มีกำลังเดินทางมากต่างกัน รับประทานเข้าไปแล้วหาโทษมิได้ ใช้ได้อีกทั้งเด็ก คนแก่ คนมีกำลัง คนผอมบาง คนไม่มีกำลัง คนธาตุหย่อน ให้ประกอบยานี้กันเถอะ อนึ่ง กินแล้วให้มีขึ้นลูก ให้อกตอแค่นดวงจันทร์งอีกทั้ง 4 มีกำลัง ถึงกระหักก็ดี หมอก็เชื่อถือรักษาด้วยการใช้ยานี้เถอะ (ราก)
อีกตำรับหนึ่งเป็นยาแก้โรคผอมแห้งแรงน้อย แก้อาการหอบหืด แก้ปิดตะ และแก้โรคลมต่างๆจะมีสมุนไพรอยู่ร่วมกัน 20 อย่างแล้วก็รากสามสิบ (ราก)
ใน “พระหนังสือวรโยคสาร” ตำรับยา “วะระทุ่งนาทิคณะ” เป็นตำรับยาที่ประกอบไปด้วยรากไม้ 17 อย่าง รวมทั้งรากสามสิบ ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้แก้อันตะวิทราโรค หรือโรคที่มีลักษณะเสียดแทงในลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาแก้มันทาคินี แก้เสมหะ แก้ปะทุลุมโรคหายแล และก็ยังมีตำรับยาอีกอย่างก็คือ ตำรับยาแก้เสลด ที่มีสมุนไพรรวมอยู่ด้วย 16 อย่าง และรากสามสิบ (ราก)
ตำรับยาบำรุงท้อง แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ ประกอบไปด้วยสมุนไพร 13 จำพวก อย่างเช่น รากสามสิบ แก่นสน กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะลูด อบเชย เปลือกสมุลแว้ง เทียนทั้ง 5 บัวน้ำ 5 โกฐอีกทั้ง 5 จันทน์ทั้ง 4 แล้วก็เทพทาโร (ใช้อย่างละเท่ากัน) นำทั้งหมดมาใส่ด้านในหม้อเคลือบหรือหม้อดิน เพิ่มน้ำลงไปให้ท่วมยาสูงราว 6-7 เซนติเมตร แช่ทิ้งเอาไว้ราว 15 นาที แล้วนำขึ้นตั้งด้วยไฟอ่อนๆต้มต้มประมาณ 30 นาที น้ำยาเดือดและก็มีกลิ่นหอมก็เลยยกลงจากเตา ใช้ดื่มก่อนกินอาหารเช้าและก็เย็น วันละ 2 เวลา เป็นยาบำรุงครรภ์อย่างดี (ราก)
นอกเหนือจากนี้ยังมีสรรพคุณของรากสามสิบตามเว็บไซต์ต่างๆนอกจากที่กล่าวมา สมุนไพรจำพวกนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยสร้างสมดุลให้แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิง แก้วัยทองคำ เพิ่มขนาดหน้าอกและสะโพก ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดอักเสบ ดับกลิ่นในช่องคลอด ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับรูปทรง ลดไขมันส่วนเกิน บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ลดสิว ลดฝ้า ทำให้ผิวขาวใส ช่วยชะลอความแก่เฒ่า ลดกลิ่นตัว กลิ่นปาก ช่วยสร้างเสริมแล้วก็ปรับปรุงความจำและก็สติปัญญา (ไม่มีอ้างอิง)
ขนาดและก็วิธีการใช้ : การใช้รากตาม ให้ใช้รากราว 90-100 กรัม เอามาต้มกับน้ำดื่มวันละครั้งในตอนเช้า
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของรากสามสิบ
สารสำคัญที่พบ ได้แก่ asparagamine, cetanoate, daucostirol, sarsasapogenin, shatavarin, racemosol, rutin
สมุนไพรรากสามสิบมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต่อต้านเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้ลักษณะของการปวด คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ ปกป้องกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดขึ้นจากความดันโลหิตสูง ขับนม มีฤทธิ์ราวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งโรคเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิต้านทาน ต้านทานอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยั้งพิษต่อตับ
สารสำคัญที่เจอในรากคือสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่เอาอย่างฮอร์โมนเพศ ก็เลยน่าจะมีหน้าที่สำหรับในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในตอนวัยหมดระดูของสตรี รวมไปถึงการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิตรวมถึงโรคกระดูกพรุน
จากการเล่าเรียน
ในหนูแรทโดยใช้สารสกัดจากรากด้วยเอทานอล แบ่งเป็น 2 ตอนหมายถึงตอนฉับพลันรวมทั้งตอนยาวตลอด โดยการเรียนในช่วงทันควันป้อนสารสกัดเอทานอลจากรากสามสิบในขนาด 1.25 กรัมต่อกิโล ให้กับหนูแรทที่ไม่เป็นโรคเบาหวาน หนูแรทที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และก็จำพวกที่ 2 พบว่าไม่มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ว่าช่วยให้ทนต่อการเพิ่มขึ้นของกลูโคส ในนาทีที่ 30 ดียิ่งขึ้น ส่วนการศึกษาช่วงยาวสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง นาน 28 วัน ให้กับหนูที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แล้วก็เพิ่มระดับของอินซูลิน 30%เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มระดับอินซูลินในตับอ่อน และก็เพิ่มไกลโคเจนที่ตับ เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปโรคเบาหวานควบคุม ก็เลยสรุปได้ว่าฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากรากสามสิบน่าจะเป็นผลมาจากการยับยั้งการสรุปยและก็การดูดซึมสารคาร์โบไฮเดรต และก็เพิ่มการหลั่งอินซูลิน ซึ่งน่าจะมีสาระในการใช้ประโยชน์รักษาคนไข้โรคเบาหวานได้9
จากการทดลองทางคลินิกเป็นการใช้รักษาโรคกระเพาะในคนจริงๆโดยการรับประทานผงแห้งของราก พบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาแผลที่กระเพาะและก็ลำไส้เล็ก จากการที่กรดเกิน
เมื่อปี คริสต์ศักราช1997 ที่ประเทศอินได้ทำตรวจสอบและลองใช้รากสามสิบกับผู้ป่วยความดันเลือดสูงจำพวก mild hypertension โดยทดลองเปรียบเทียบกับยาลดระดับความดัน (Propranolol) ใช้ระยะเวลาทำการทดสอบนาน 3 เดือน ผลการทดสอบพบว่า ผู้ป่วยมีความดันเลือดน้อยลง < 90 mm.Hg. และลดไขมันได้ผลลัพธ์ที่ดี

  • K. Mitra รวมทั้งแผนก (ค.ศ.1996) ที่ประเทศอินเดียได้ทำทดลองใช้สารสกัดจากรากสามสิบกับตัวทดลองที่ถูกกระตุ้นด้วย Streptozotocin ผลการทดลองพบว่า สารสกัดดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถกระตุ้นตับอ่อนของหนูให้เพิ่มการหลักhttp://www.disthai.com/

2

ทับทิม
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม สุดยอดราชินีแห่งผลไม้ มีคุณประโยชน์อีกทั้งต้น
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม สุดยอดราชินีที่ผลไม้ มีสาระทั้งยังต้น
อัปเดตปัจจุบันเมื่อวันที่ พฤษภาคม 3, 2018 โดยประมาณเวลาการอ่าน: 2 นาที
แชร์เนื้อหานี้
ทับทิมสำเร็จไม่ที่นิยมกินกันมาก และก็ลือชื่อในเรื่องของคุณประโยชน์ที่มากมาย จนได้รับสมญาว่า ราชินีแห่งผลไม้ พูดกันว่าทับทิมนั้นคือผลไม้ที่ถูกประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์มาแล้วนับพันปี ในตอนนี้ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาปลูก แล้วก็กินกันทั้งโลก สามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย ดูได้จากร้านค้าขายน้ำทับทิม หรือผลทับทิมสด ที่เกือบจะมีอยู่ตามท้องถนนหรือทุกตลาดในประเทศไทย
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากทับทิมมีเยอะมาก ทั้งในเรื่องของสารอาหาร รวมทั้งการคุ้มครองป้องกันโรค
วิตามินซีสูงมาก
ทับทิมนับว่าเป็นผลไม่ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียงแค่ 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงจำนวนร้อยละ 40 ของปริมาณที่เราอยากในหนึ่งวัน (สำหรับคนแก่) ด้วยจำนวนวิตามินซีที่สูงในระดับนี้ก็เลยมีสรรพคุณสำหรับการลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคหวัด หรือแพ้อากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ
การกินทับทิมสด หรือน้ำทับทิมนั้น จะช่วยทำให้ผิวพรรณของพวกเรามองผ่องใส เนื่องมาจากทับทิมสำเร็จถึงที่เหมาะมีสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสำหรับการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเรา และด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงจึงช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างขาวสวยใส นอกจากนั้นพวกเรายังสามารถใช้น้ำทับทิมโดยประมาณ 1 ช้อนชา ทาบริเวณบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยสำหรับการบำรุงผิวหน้าให้ดูเต่งตึงเยอะขึ้นได้อีกด้วย ประโยชน์ในข้อนี้ของทับทิมสามารถยืนยันได้จากการที่ในปัจจุบัน มีเครื่องแต่งหน้าหรือครีมหลากหลายประเภทได้นำทับทิมไปเป็นองค์ประกอบ
เส้นเลือดแล้วก็หัวใจดีขึ้น
ในทางการแพทย์มีการศึกษาค้นคว้าแล้วพบว่าทับทิม มีสรรพคุณช่วยสำหรับเพื่อการทำให้การไหลเวียนของโลหิต ลดภาวการณ์ขาดเลือดในคนป่วยโรคหัวใจ นอกเหนือจากนั้นยังพบว่าคนที่มีความดันโลหิตสูง เมื่อกินน้ำทับทิมวันละ 50cc จะช่วยลดระดับความดันเลือดได้ปริมาณร้อยละ 5 ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของไขมันในเส้นโลหิตได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดโรคมะเร็ง
เพราะเหตุว่าเป็นผลไม้ที่มีค่าการต้านอนุมูลอิสระที่สูง ก็เลยช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการเกิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี มีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยพบว่า การรับประทานทับทิมช่วยลดจังหวะการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ของโรคมะเร็งถึง 13ช นิด รวมทั้งยังสามารถช่วยทำลายเซลล์มะเร็งในหลอดของกิน แล้วก็ลำไส้ได้อีกด้วย
คุณประโยชน์อื่นๆของทับทิม
เว้นเสียแต่สรรพคุณหลักที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ทับทิมยังมีคุณประโยชน์อื่นอีกเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงท้อง ช่วยปรับให้สมดุลในวัยหมดประจำเดือน ลดการเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคความจำไม่ดีในคนสูงอายุ ปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสุขภาพกระดูกลดการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคกระดูกพรุน คุ้มครองการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ ลดการตกขาว พูดได้ว่ามีคุณประโยชน์เยอะแยะจริง
 นอกเหนือจากส่วนที่เรานิยมกินกันอย่างเมล็ดแล้ว องค์ประกอบอื่นของทับทิมก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน ทั้งเป็นยาและก็สมุนไพร
ใบ: สามารถทำน้ำยาบ้วนปากหรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำจากใบสามารถช่วยทุเลาอาการผมร่วงได้อย่างดี
เปลือก: ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเราใช้รักษา แผลหิด กากโรคเกลื้อน มีสรรพคุณเกี่ยวกับการดูแลและรักษาโรคในทางเดินอาหาร อาทิเช่นรักษาอาการท้องเสียได้
เปลือกของลำต้น และก็ราก: สามารถนำมาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยนำมาผสมกับกานพลู แล้วก็อาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำประมาณสามถ้วย มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการถ่ายพยาธิ
ดอก: มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการรักษาแผล รวมทั้งทุเลาอาการอักเสบของหูชั้นใน
ทับทิมนับว่าเป็นผลไม้ที่มีสาระในทุกส่วนของต้น ไม่ใช่ก็แค่เมล็ด หรือน้ำทับทิม ก็เลยไม่สนเท่ห์ใจเลยที่ทับทิมจะได้รับฉายานามว่า "ราชชินีแห่งผลไม้"
โรคและก็อาการอื่นๆอย่างเช่น โรคเส้นโลหิตหัวใจ การหย่อนสมรรถนะทางเพศ เจ็บกล้ามเนื้อหลังการบริหารร่างกาย กรุ๊ปอาการอ้วนลงพุง โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแสงอาทิตย์ การติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ท้องเสีย โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง และก็อื่นๆยังจำเป็นต้องทำการวิจัยศึกษาค้นคว้าเพิ่มอีกเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับความสามารถแล้วก็ความปลอดภัยของทับทิมในการรักษาโรค
ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานทับทิมหรือสินค้าจากทับทิม
โดยทั่วไปการกินน้ำทับทิมค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่ในบางรายที่มีอาการแพ้ผลสดของทับทิมบางทีอาจเป็นผลข้างๆจากการกินน้ำทับทิมได้
รากทับทิมมีสารที่เป็นพิษต่อสถาพทางร่างกาย การกินรากและก็ลำต้นของทับทิมในปริมาณมากอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมค่อนข้างปลอดภัยในการกินหรือนำมาใช้กับผิวหนัง แต่ว่าอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยในบางราย อย่างเช่น อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจลำบาก
การรับประทานน้ำทับทิมค่อนข้างมีความปลอดภัยสำหรับหญิงมีท้องหรืออยู่ในช่วงให้นมลูก แต่ยังไม่มีรายงานรับรองความปลอดภัยในการกินหรือใช้ทับทิมในแบบอื่น อาทิเช่น สารสกัดจากทับทิม จำเป็นต้องหารือแพทย์ก่อนจะมีการกินทุกคราว
น้ำทับทิมอาจจะทำให้ความดันเลือดลดต่ำลงนิดหน่อย ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวะความดันต่ำอาการกำเริบ

คนที่มีลักษณะแพ้จากพิษพืชอาจมีการเสี่ยงที่จะกำเนิดอาการแพ้จากการรับประทานทับทิม
คนไข้ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดควรจะหยุดรับประทานทับทิมขั้นต่ำ 2 อาทิตย์ เพราะเหตุว่าทับทิมนำมาซึ่งการทำให้ความดันเลือดต่ำลง ก็เลยบางทีอาจกระทบต่อความดันโลหิตในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังข้างหลังการผ่าตัด
การกินทับทิมควบคู่กับยาบางชนิดอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา อาทิเช่น ยาที่เกี่ยวเนื่องกับแนวทางการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome ประเภท P450 2D6 หรือชนิด P450 3A4 ยาลดระดับความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาโรสุวาสแตว่ากล่าวน ผู้ที่รับประทานยาเสมอๆหรือมีโรคประจำตัวควรขอความเห็นแพทย์ก่อนจะมีการกินเพื่อให้เกิดความปลอดภัย http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรทับทิม

3

ทับทิม
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
ทับทิมช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อ ทับทิม ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
ประโยชน์ของทับทิมน้ำตาล 13.67 กรัม
เส้นใย 4 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
โปรตีน 1.67 กรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ http://www.disthai.com/

หน้า: [1]