รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: kkjofkgkuy ที่ สิงหาคม 23, 2018, 06:09:04 AM
-
(https://www.img.in.th/images/95d9d55a77aaef8d4932ebe158d5fbff.jpg) (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)
สมุนไพรพญายอ (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)
ชื่อสมุนไพร พญายอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau
ชื่อวงศ์ ACANTHACEAE
ชื่อพ้อง Clinacanthus burmanni Nees
ชื่ออังกฤษ ไม่มี
ชื่อท้องถิ่นผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด พญาปล้องคำ พญาข้อดำ พญายอ โพะโซ่จาง เสมหะพังพอนตัวเมีย
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มรอคอยเลื้อย ลำต้นและก็กิ่งก้านหมดจดวาว สูงได้ถึง 3 เมตร ใบลำพังออกเรียงตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือขอบขนานแกมใบหอก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 7-9 เซ็นติเมตร โคนใบมน ปลายใบแหลม ก้านใบยาว 0.5 เซ็นต์ ดอกเป็นช่อ ออกเป็นกระจุกที่ปลายยอด กลีบดอกไม้สีส้มแดงเชื่อมชิดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 2 ปาก ยาว 3-4 ซม. ไม่ติดฝัก
ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ
-ส่วนใบ รักษาอาการเพราะแมลงกัดต่อยแล้วก็โรคเริม
สารสำคัญที่ออกฤทธิ์
สารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ลดการอักเสบ สารกลุ่ม monoglycosyl diglycerides เช่น 1,2-O-dilinolenoyl-3-O-b-d-glucopyranosyl-sn-glycerol รวมทั้งสารกรุ๊ป glycoglycerolipids จากใบ มีฤทธิ์ยั้งเชื้อไวรัสเริม
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ลดการอักเสบ
เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยเอ็นบิวทานอลให้หนูแรท หรือฉีดสารสกัดด้วยน้ำจากใบเข้าท้องของหนูแรท จะลดการอักเสบของข้อเท้าหนูแรทที่ทำให้บวมด้วยสารคาราจีแนน (carrageenan) ได้ ตำรับยาที่มีพญายอปริมาณร้อยละ 5 ใน cold cream รวมทั้งสารสกัดด้วยเอทานอลจากใบ เมื่อเอามาทาเฉพาะที่ให้หนูแรท จะสามารถลดการอักเสบเรื้อรังได้ แต่เมื่อใช้สารสกัดด้วยนเอ็นบิวทานอลทาที่ผิวหนังจะไม่ได้เรื่อง
ฤทธิ์ลดอาการปวด
เมื่อให้หนูเม้าส์กินสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบ จะลดความเจ็บปวดของหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้ปวดด้วยกรดอะซีตำหนิค ขึ้นรถสกัดความแรง 90 มก./กก. จะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับเฟนนิวบิวทาโซนขนาด 100 มิลลิกรัม/กิโล (5) ส่วนสารสกัดด้วยคลอโรฟอร์ม (2) สารสกัดด้วยน้ำ และก็สารสกัดด้วยเอทานอล 50% จากใบ (3) ไม่มีผลลดความเจ็บปวด
(https://www.img.in.th/images/95d9d55a77aaef8d4932ebe158d5fbff.jpg) (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)
ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส
เชื้อไวรัสเริม
พญายอ (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)สารสกัดด้วยเฮกเซน บิวทานอล แล้วก็เอทิลอะสิเตทจากใบ มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัสเชื้อเริม HSV-1 และเมื่อนำไปทำเป็นตำรับเจลโดยใช้สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่ความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 4 และใช้ carbopol 940 เป็นสารก่อเจล พบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสก้าวหน้าและไม่เป็นพิษต่อเซลล์ ในระหว่างที่เมื่อใช้สารก่อเจล poloxamer 407 จะมีพิษต่อเซลล์
จากรายงานการรักษาคนเจ็บโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์จำพวกเป็นซ้ำด้วยยาจากสารสกัดพญายอ (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2) เปรียบเทียบกับยา acyclovir และยาหลอก โดยให้คนไข้ทายาวันละ 4 ครั้ง ตรงเวลา 6 วัน พบว่าไม่ได้ต่างอะไรในระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลผู้เจ็บป่วยที่ใช้ยาจากสารสกัดใบพญายอรวมทั้งยา acyclovir โดยแผลจะเป็นสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายสนิทภายใน 7 วัน ซึ่งผิดแผกแตกต่างกับยาหลอกอย่างเป็นจริงเป็นจัง ยาที่สกัดจากใบพญายอไม่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ระคาย ในขณะ acyclovir ทำให้แสบ นอกจากนี้มีการใช้ยาที่ทำจากพญายอ (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)ในคนป่วยโรคเริม งูสวัด รวมทั้งแผลอักเสบในปาก พบว่าสามารถรักษาแผลแล้วก็ลดการอักเสบเจริญ
เชื้อไวรัส Varicella zoster
สารสกัดจากใบพญายอ (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)ออกฤทธิ์ทำลายไวรัส Varicella zoster ที่เป็นสาเหตุโรคงูสวัดและอีสุกอีใสได้โดยตรงก่อนที่จะเชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์
จากรายงานการดูแลรักษาคนเจ็บโรคงูสวัดด้วยยาจากสารสกัดใบพญายอเปรียบเทียบกับยาหลอก โดยให้ป้ายยาวันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน จวบจนกระทั่งแผลจะหาย พบว่าคนไข้ที่รักษาด้วยสารสกัดจากใบพญายอ แล้วมีแผลตกสะเก็ดข้างใน 3 วัน และก็หายด้านใน 7-10 วัน จะมีหลายชิ้นกว่ากลุ่มหวานใจษาด้วยยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับความเจ็บปวดลดน้อยลงเร็วกว่ากรุ๊ปยาหลอก และไม่เจอผลข้างเคียงใดๆ
อาการข้างเคียง
ความเป็นพิษทั่วๆไปและก็ต่อระบบขยายพันธุ์
การทดสอบความเป็นพิษ
เมื่อป้อนสารสกัดด้วยเอ็นบิวทานอลจากใบให้หนูเม้าส์ พบว่าเป็นพิษน้อย แต่มีพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าท้อง ส่วนสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1.3 กรัม/กก. (หรือเทียบเท่าใบแห้ง 5.44 กรัม/กิโลกรัม) เมื่อป้อนเข้าทางปากหรือฉีดเข้าท้องหนูเม้าส์ ไม่นำไปสู่อาการพิษอะไรก็ตาม
การเรียนพิษ
พญายอ (http://www.disthai.com/16913677/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2)ครึ่งเรื้อรัง พบว่าเมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารสกัดเอ็นบิวทานอลจากใบขนาด 270 มิลลิกรัม/กิโลกรัม รวมทั้ง 540 มิลลิกรัม/กิโล ทุกวี่วัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่เป็นผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าน้ำหนักต่อมธัยมัเศร้าใจลง ตอนที่น้ำหนักตับมากขึ้น ไม่พบความผิดปกติต่ออวัยวะอื่น และไม่เจออาการไม่ปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ หนูแรทที่กินสารสกัดด้วยเอทานอลขนาด 1 กรัม/โล ทุกเมื่อเชื่อวันนาน 90 วัน พบว่าการกินอาหารของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดรวมทั้งกลุ่มควบคุมไม่ต่างกัน แม้กระนั้นน้ำหนักของหนูเพศผู้ที่ได้สารสกัดขนาด 1.0 กรัม/กิโล ต่ำยิ่งกว่าพญายอ (http://www.disthai.com/)กลุ่มควบคุม เกร็ดเลือดของหนูแรททั้งคู่เพศสูงขึ้นมากยิ่งกว่า แล้วก็ครีอาตินินต่ำยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุม แม้กระนั้นไม่พบความผิดปกติด้านจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายใน และพยาธิภาวะด้านนอกhttp://www.disthai.com/ (http://www.disthai.com/)