รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ มิถุนายน 04, 2018, 03:40:26 AM

หัวข้อ: สมุนไพรหญ้าหนวดเเมว มีสรรพคุณดีอย่างไร-เเละสามารถรักษาโรคได้อย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: กาลครั้งหนึ่ง2560 ที่ มิถุนายน 04, 2018, 03:40:26 AM
(https://www.img.in.th/images/776d067c8bd7fa5b1c7f12474f4eead9.jpg)
ต้นหญ้าหนวดแมว
ชื่อสมุนไพร  หญ้าหนวดแมว
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  พยับก้อนเมฆ (กรุงเทพฯ) บางรักป่า (จังหวัดประจวบคีรีขันธ์), อีตู่ป่าดง (เพชรบุรี) ต้นหญ้าหนวดเสือ
ชื่อสามัญ Kidney tea plant, Cat’s whiskers, Java tea, Hoorah grass
ชื่อวิทยาศาสตร์ Orthosiphon aristatus (Blume) Miq.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Orthosiphon grandiflorus Bold. ,Orthosiphon stamineus Benth.
วงศ์ Lamiaceae หรือ Lamiaceae
ถิ่นกำเนิด  หญ้าหนวดแมว (http://www.disthai.com/16895865/%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7)จัดเป็นพืชป่าในเขตร้อนชื้นมีถิ่นกำเนิดแถวเอเชียใต้แถบอินเดีย , บังคลาเทศ , ศรีลังการวมทั้งทางตอนใต้ของจีนแล้วมีการกระจัดกระจายพันธุ์ไปสู่ในประเทศเขตร้อนที่ใกล้เคียง (ในเอเซียอาคเนย์) ดังเช่น ประเทศพม่า ไทย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฯลฯ ในประเทศไทย มีการนำต้นหญ้าหนวดแมวมาเป็นสมุนไพรรักษาโรคนิ่วและขับปัสสาวะมานานแล้ว ตราบจนกระทั่งในตอนนี้มีการทำการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับหญ้าหนวดแมวว่าสามารถเยียวยารักษาโรคและก็ภาวะต่างๆได้มากมายหลายโรคก็เลยทำให้ความชื่นชอบสำหรับการใช้หญ้าหนวดแมวมากขึ้นเรื่อยๆ
ลักษณะทั่วไป   หญ้าหนวดแมวมีลักษณะ ต้น เป็นไม้พุ่มล้มลุก ขนาดเล็ก เนื้ออ่อน สูง 30-60 เซนติเมตร มีอายุหลายปี ลำต้นและกิ่งค่อนข้างจะเป็นสี่เหลี่ยมเห็นได้ชัดเจน มีสีม่วงแดง และก็มีขนน้อย แตกกิ่งก้านสาขามาก โคนต้นอ่อนโค้ง ปลายตั้งชัน ตามยอดอ่อนมีขนกระจัดกระจาย ใบเป็นคนเดียว ออกตรงกันข้าม สีเขียวเข้ม รูปไข่ หรือรูปสี่เหลี่ยมผ่านหลามตัด ตามเส้นใบมักมีขน กว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 5-10 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ขอบของใบจะเป็นฟันเลื่อยห่างๆเว้นเสียแต่ขอบที่โคนใบจะเรียบ มีขนตามเส้นใบทั้งยังข้างบนรวมทั้งด้านล่าง เนื้อใบบาง ก้านใบยาว 2-4.5 ซม. มีขน ดอก มีสีขาว หรือขาวอมม่วงอ่อน ออกเป็นช่อกระจะตั้ง ที่ปลายยอด เป็นรูปฉัตร ยาว 7-29 เซนติเมตร มีดอกย่อยประมาณ 6 ดอก ขนาดดอก 1.5 ซม. ดอกจะบานจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ริ้วประดับประดารูปไข่ ยาว 1-2 มม. ไม่มีก้าน กลีบเลี้ยงเชื่อมชิดกันเป็นรูประฆัง งอเล็กน้อย ยาว 2.5-4.5 มิลลิเมตร เมื่อได้ผลสำเร็จยาว 6.5-10 มม. ข้างนอกมีต่อมน้ำมันหรือเป็นปุ่มๆกลีบดอกโคนเชื่อมชิดกันเป็นหลอดตรงเล็ก ยาว 10-20 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นปากสองปาก ปากบนใหญ่กว่า ปากบนมีหยักตื้นๆ4 หยัก โค้งไปทางข้างหลัง ปากล่างตรง โค้งเป็นรูปช้อน เกสรเพศผู้มี 4 อัน เรียงเป็น 2 คู่ คู่ด้านล่างยาวกว่าคู่บนเล็กน้อย ก้านเกสรยาว สะอาด ไม่ชิดกัน ยื่นยาวออกมานอกกลีบเห็นได้ชัดเสมือนหนวดแมว อับเรณูเป็น 2 พู ข้างบนบรรจบกัน ก้านเกสรเพศเมียเรียวเล็ก ยาว 5-6 เซนติเมตร ปลายก้านเป็นรูปกระบอง ปลายสุดมี 2 พู ผลได้ผลแห้งไม่แตก รูปขอบขนานกว้าง แบน แข็ง สีน้ำตาลเข้ม ขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ผลจะเจริญรุ่งเรืองเป็น 4 ผลย่อยจากดอกหนึ่งดอก ตามผิวมีรอยย่น มีดอกแล้วก็ติดผลราวเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ชอบขึ้นที่เปียกชื้น มีแดดรำไรในป่าขอบลำน้ำ หรือน้ำตก
การขยายพันธุ์ หญ้าหนวดแมว เป็นไม้ล้มลุกที่เติบโตก้าวหน้าในดินชื้น คล้ายกับกระเพราและโหระพา ก็เลยทนต่อภาวะแห้งได้น้อย ด้วยเหตุนี้ การปลูกหญ้านวดแมวควรต้องเลือกสถานที่ปลูกที่ค่อนข้างจะชื้นเสมอหรือมีระบบให้น้ำอย่างทั่วถึง แม้กระนั้นในช่วงฤดูฝนสามารถเติบโตได้ทุกพื้นที่
                ทั้งยังหญ้าหนวดแมวเป็นพืชถูกใจดินร่วน และมีสารอินทรีย์สูง ด้วยเหตุดังกล่าว ดินหรือแปลงปลูกควรเติมสารอินทรีย์ อาทิเช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยคอก ก่อนกระพรวนผสมเข้าด้วยกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากันแล้วก็กำจัดวัชพืชออกให้หมด
ส่วนการปลูกหญ้าหนวดแมว ปลูกได้ด้วย 2 วิธี เป็น



ต้นหญ้านวดแมว เป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูง ถ้าขาดน้ำนาน ลำต้นจะเฉา รวมทั้งตายได้เร็วทันใจ ดังนั้น กล้าต้นหญ้าหนวดแมวหรือต้นที่ปลูกเอาไว้ภายในแปลงแล้ว ควรจะมีการให้น้ำอย่างต่ำ 2 วัน/ครั้ง
การเก็บเกี่ยว ต้นหญ้าหนวดแมว แก่เก็บเกี่ยวราวๆ 120-140 วัน ข้างหลังปลูก บางทีอาจเก็บเกี่ยวด้วยการถอนต้นหรือทยอยเด็ดเก็บกิ่งมาใช้ประโยชน์ก็ได้
องค์ประกอบทางเคมี
หญ้าหนวดแมวมีส่วนประกอบทางด้านพฤกษเคมีที่โดดเด่นเป็น สารกลุ่ม phenolic compoundsยกตัวอย่างเช่น rosmarinic acid, 3’-hydroxy-5, 6,    7, 4’-tetramethoxyflavone, sinensetin รวมทั้งeupatorin และก็ pentacyclic triterpenoid ที่สำคัญคือ betulinic acid2 นอกเหนือจากนี้ยังพบ glucoside orthosiphonin, myoinositol, essential oil, saponin, alkaloid, phytosterol, tannin พบสารกรุ๊ปฟลาโวน ยกตัวอย่างเช่น sinensetin, 3’-hydroxy-5,6,7,4’-tetramethoxy flavones Potassium Salf ในใบ แล้วก็Hederagenin, Beta-Sitosterol, Ursolic acid ในต้นอีกด้วย
ซึ่งสารในหญ้าหนวดแมวเหล่านี้มีรายงานฤทธิ์ทางสรีรวิทยาแล้วก็เภสัชวิทยาเยอะมาก อย่างเช่น การขับฉี่ ลดระดับกรดยูริค (hypouricemic activity) ปกป้องรักษา ตับ ไต และกระเพาะอาหาร ลดความดันเลือด ต้านทานสารอนุมูลอิสระหรือปฏิกิริยาออกซิเดชัน ต้านทานการอักเสบ โรคเบาหวาน แล้วก็จุลชีวัน ลดไขมัน (antihyper-lipidemic activity) ลดความต้องการทานอาหาร (anorexic  activity)  และก็ปรับสมดุลภูมิต้านทานของร่างกาย (immunomodulation)
 
 (http://www.disthai.com/images/editor/Untitled-7.jpg)
 โครงสร้างทางเคมีของสารพฤกษเคมีในหญ้าหนวดแมว (a)    rosmarinic acid, (b)  3’-hydroxy-5,6,7,4’-tetramethoxyflavone, (c) eupatorin, (d) sinensetin, (e) betulinic acid
                 (http://www.disthai.com/images/editor/Untitled-7.1_.jpg)
     Tannin ที่มา: Wikipedia                      Myo-inositol   ที่มา: Google
คุณประโยชน์  ต้นหญ้าหนวดแมวเป็นสมุนไพรที่คนไทยได้ประยุกต์ใช้รักษาโรคมานานแล้ว โดยมีสรรพคุณตามตำราไทยหมายถึงใบมีรสจืด ใช้เป็นยาชงแทนใบชา กินขับเยี่ยว ขับนิ่ว แก้โรคไต และก็กระเพาะปัสสาวะอักเสบ แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว รวมทั้งไขข้ออักเสบ แก้คลื่นเหียนอาเจียน แก้ถุงน้ำดีอักเสบ ทุเลาอาการไอ แก้โรคหนองใน ราก ขับฉี่ ขับนิ่ว ต้น แก้โรคไต ขับเยี่ยว รักษาโรคกษัย รักษาโรคปวดตามสันหลัง และก็บั้นท้าย รักษาโรคนิ่ว แก้โรคหนองใน รักษาโรคเยื่อจมูกอักเสบ ล้างสารพิษในไต
ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น มีผลการค้นคว้าวิจัยบอกว่า ต้นหญ้าหนวดแมวมีสรรพคุณ

แบบ/ขนาดวิธีใช้ ตามตำรายาไทยกำหนดได้ว่า



การเล่าเรียนทางพิษวิทยา การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยาของต้นหญ้าหนวดแมวส่วนมากจะมีด้านฤทธิ์การขับปัสสาวะและก็ฤทธิ์สำหรับการรักษานิ่ว อาทิเช่น

(https://www.img.in.th/images/929b3448ba6c12a8deb344ad552169b2.md.jpg)
นอกจากนั้นยังมีการวิจัยในต่างแดนของฤทธิ์สำหรับเพื่อการบำบัดและรักษาลักษณะโรคต่างๆดังต่อไปนี้



เมื่อกระทำการสกัดแยกสาร sinensetin ออกมาทดลองฤทธิ์การหยุดยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี a-glucosidase และa-amylase ก็พบว่าความสามารถของสารบริสุทธิ์sinensetin สำหรับในการยั้งเอนไซม์ a-glucosidase สูงขึ้นยิ่งกว่าสารสกัดหญ้าหนวดแมว (ethanolic extract) ถึง 7 เท่า ด้วยค่า IC50 เท่ากับ 0.66 รวมทั้ง 4.63 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร เป็นลำดับ เวลาที่สมรรถนะของsinensetin สำหรับการยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี a-amylase สูงยิ่งกว่าสารสกัดหญ้าหนวดแมวถึง 32.5 เท่า ด้วยค่า IC50 เท่ากับ 1.13 รวมทั้ง 36.7 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตรตามลำดับ จึงคาดการณ์ว่าสาร sinensetin อาจเป็นสารสำคัญในการออกฤทธิ์ของหญ้าหนวดแมวสำหรับในการต้านโรคเบาหวานจำพวกที่ไม่ขึ้นกับอินซูลิน (non-insulin-dependent diabetes) ได้



การเรียนรู้ทางพิษวิทยา เมื่อฉีดสารสกัดด้วยน้ำร้อนจากใบและก็ลำต้นเข้าท้องหนูแรทเพศผู้และเพศเมีย หนูเม้าส์เพศผู้แล้วก็เพศเมีย พบความเป็นพิษปานกลาง   เมื่อป้อนสารสกัดเดียวดันนี้ให้กับหนูแรททั้งคู่เพศทุกๆวันต่อเนื่องกัน 30 วัน ไม่เจอการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว ค่าการตรวจทางวิชาชีวเคมีในเลือด และพยาธิสภาพของอวัยวะสำคัญเมื่อดูด้วยตาเปล่า  รวมทั้งเมื่อศึกษาเล่าเรียนความเป็นพิษในระยะยาวนาน 6 เดือน โดยการป้อนหนูแรทด้วยยาชงด้วยน้ำร้อน ซึ่งมีความแรงเทียบเท่ากับ 11.25, 112.5 รวมทั้ง 225 เท่าของขนาดที่ใช้ในผู้ป่วยโรคนิ่วในท่อไต ไม่พบความไม่เหมือนของการเติบโต  การกินของกิน ลักษณะด้านนอกหรือความประพฤติที่แตกต่างจากปกติ และก็ค่าการตรวจทางวิชาชีวเคมีในเลือดเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ยกเว้นจำนวนเกร็ดเลือดจะมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ยาในขนาด 18 กรัม/กก./วัน พบว่าระดับโซเดียมในเลือดในกลุ่มทดลองทุกกลุ่ม โปแตสเซียมในหนูเพศเมีย และคอเลสเตอรอลในหนูเพศผู้ จะหรูหราต่ำลงยิ่งกว่ากลุ่มควบคุม   นอกนั้น เมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารสกัดจากต้นหญ้าหนวดแมว ติดต่อกันนาน 6 เดือน เทียบกลุ่มควบคุม พบว่า หนูทุกกลุ่มมีการเจริญวัยแล้วก็กินอาหารได้ใกล้เคียงกัน ไม่เจอความผิดแปลกในระบบโลหิตวิทยาและก็ความเปลี่ยนไปจากปกติของอวัยวะภายใน ส่วนการตรวจผลทางชีวเคมีพบว่าหนูที่ได้รับสารสกัดทุกขนาดมีระดับโซเดียมต่ำกว่ากลุ่มควบคุม แต่ระดับโปแตสเซียมมีลัษณะทิศทางสูงมากขึ้น ในหนูเพศผู้ที่ได้รับสารสกัด 0.96 กรัม/กก./วัน จะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยของตับและก็ม้ามมากยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุม แต่การตรวจทางจุลพยาธิสภาพไม่พบความแปลกที่เซลล์ตับแล้วก็อวัยวะอื่นๆยกเว้นการโป่งพองของกรวยไตในหนูขาวที่ได้รับสารสกัด 4.8 กรัม/กิโล/วัน ที่มีปริมาณเพิ่มมากยิ่งกว่ากรุ๊ปควบคุม  กล่าวโดยย่อสารสกัดหญ้าหนวดแมวเป็นพิษน้อย  แต่ต้องคอยติดตามวัดระดับโซเดียมและโปแตสเซียมถ้าเกิดใช้ติดต่อกันนาน
ข้อเสนอแนะ/ข้อควรไตร่ตรอง