รับซ่อมแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์

ลงประกาศฟรี => อื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: แสงจันทร์5555 ที่ เมษายน 20, 2018, 02:18:34 AM

หัวข้อ: โรคอีสุกอีใส (Chickenpox , Varicella) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: แสงจันทร์5555 ที่ เมษายน 20, 2018, 02:18:34 AM
(https://www.img.in.th/images/adb990580c59cf833eed16163f780fc6.jpg)
โรคอีสุกอีใส (Chickenpox , Varicella)
โรคอีสุกอีใส เป็นอย่างไร อีสุกอีใส (Chickenpox/Varicella) เป็นโรคติดต่อทางผิวหนังที่ทำให้ร่างกายเกิดผื่นคัน มีตุ่มนูนขนาดเล็ก หรือตุ่มน้ำใสๆทั่วร่างกาย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และก็ยังแพร่กระจายได้อย่างเร็ว เป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็ก โดยปกติจะพบอัตราการป่วยได้สูงสุดในกลุ่มวัย 5-9 ปีรองลงมาเป็น 0-4 ปี, 10-14 ปี, 15-24 ปี และก็ 25-34 ปี ตามลำดับ ส่วนในผู้ที่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปบางทีอาจเจอได้บ้าง
                 มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี พ.ศ. 2552  มีคนไข้เป็นโรคอีสุกอีใสจำนวน 89,246 รายทั้งประเทศและเสียชีวิต 4 ราย รวมทั้งในรอบ 5 ปีให้หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตปีละ 1-3 ราย เมื่อไตร่ตรองตามกลุ่มอายุพบว่ากลุ่มอายุ 5-9 ปี มีอัตราเจ็บป่วยสูงสุดเท่ากับ 578.95 ต่อราษฎร 100,000 คน รองลงมาคือกลุ่มอายุต่ำลงมากยิ่งกว่า 5 ปี, 10-14 ปีและก็กลุ่มอายุมากยิ่งกว่า 15 ปี โดยมีอัตราป่วยเท่ากับ 487.13, 338.45 และก็ 58.81 ตามลำดับจากข้อมูล 10 ปีย้อนไปพบว่าจำนวนคนเจ็บโรคอีสุกอีใสมีลัษณะทิศทางสูงมากขึ้น แล้วก็ในปี พุทธศักราช 2557-2559 มีอัตราการป่วย 129.57 ต่อแสนสามัญชน 79.82 ต่อแสนพลเมือง แล้วก็ 66.57 ต่อแสนพลเมือง เป็นลำดับ
ต้นเหตุของโรคอีสุกอีใส เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้ออีสุกอีใส ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่า เชื้อไวรัสวาริเซลลา (varicella virus) (VZV) หรือ  human herpes virus type 3 เป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด ที่แพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางการสัมผัสกับแผลของคนเจ็บที่เป็นโรคโดยตรง หรือทางทะเลลาย ไอ จาม หรือการหายใจเอาเชื้อที่ปะปนในอากาศเข้าไป โดยเชื้อนี้จะก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใสในผู้ที่พึ่งจะติดเชื้อเป็นครั้งแรกและก็โรคนี้เมื่อเป็นแล้ว มักมีภูมิคุ้มกันทั้งชีวิต และก็คนเจ็บส่วนใหญ่จะไม่เป็นซ้ำอีก แต่เชื้อบางทีอาจหลบซ่อนอยู่ในปมประสาท และก็มีโอกาสเป็นงูสวัดได้ในคราวหลัง
อาการโรคอีสุกอีใส เด็กจะเป็นไข้ต่ำๆหมดแรงและไม่อยากอาหารบางส่วน ในผู้ใหญ่มักมีไข้สูง และก็ปวดเมื่อยตามตัวเหมือนไข้หวัดใหญ่นำมาก่อน คนเจ็บจะมีผื่นขึ้น ซึ่งจะขึ้นพร้อมเพียงกันกับวันที่เริ่มเป็นไข้ หรือ ๑ วันหลังจากมีไข้ เริ่มแรกจะขึ้นเป็นผื่นแดงราบก่อน ถัดมาจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆอยู่ด้านใน และก็มีลักษณะอาการคัน ต่อมาจะแปลงเป็นหนอง จากนั้น ๒-๔ วัน ก็จะเป็นสะเก็ด ผื่นและตุ่มจะขึ้นตามไรผมก่อน แล้วลุกลามไปตามหน้า ลำตัว แล้วก็แผ่นหลัง จะทยอยขึ้นสุดกำลัง ด้านใน ๔ วัน บางรายมีตุ่มขึ้นในโพรงปาก ทำให้ปากยุ่ย ลิ้นยุ่ย เจ็บคอ บางรายบางทีอาจไม่มีไข้ มีเพียงผื่นและก็ตุ่มขึ้น ทำให้หลงผิดว่าเป็นเริมได้ ด้วยเหตุว่าผื่นตุ่มของโรคนี้จะค่อยๆออกทีละระลอก (ชุด) ขึ้นไม่พร้อมทั่วร่างกาย ด้วยเหตุนั้นจะพบว่าบางที่ขึ้นเป็นผื่นแดงราบ บางที่เป็นตุ่มใส บางที่เป็นตุ่มกลัดหนอง รวมทั้งบางที่เริ่มตกสะเก็ด ด้วยลักษณะนี้ ชาวบ้านก็เลยเรียกว่า อีสุกอีใส (มีทั้งตุ่มสุกตุ่มใส) แม้กระนั้นผู้ป่วยบางรายบางทีอาจเป็นเวลายาวนานกว่านั้นเป็น 2-3 สัปดาห์ โดยไม่เป็นแผลเป็น (นอกเหนือจากที่จะมีการติดโรคแบคทีเรียแทรก กระทั่งแปลงเป็นตุ่มหนองและแปลงเป็นรอยแผล)
                เพราะว่าโรคอีสุกอีใสยังอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกขึ้นได้อีกเช่น การตำหนิดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง หรือติดโรคแบคทีเรียในกระแสเลือด ปอดอักเสบ แล้วก็ภาวะแทรกซ้อนทางสมอง
คนเจ็บที่มีการเสี่ยงที่จะมีอาการร้ายแรง อาทิเช่น หญิงท้อง ทารกแรกเกิด ผู้มีภูมิต้านทานต่ำ อาทิเช่น ผู้เจ็บป่วยเอดส์ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว คนป่วยเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก ผู้ปลูกถ่ายอวัยวะ รวมทั้งคนรับประทานยากด ภูมิต้านทานต่างๆ
หญิงท้องที่เป็นโรคนี้ในช่วง 20 สัปดาห์แรกของการตั้งท้องบางทีอาจท่าให้เด็กในท้องทุพพลภาพแต่ว่า กำเนิดได้แต่ว่าพบนานๆครั้ง(น้อยกว่าร้อยละ 2) แม้เป็นช่วงๆที่ครรภ์แม่อาจมีอาการรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อน อย่างเช่น ปอดอักเสบ ร่วมด้วย และก็ถ้าเกิดแม่เป็นโรคในตอนใกล้คลอด (5 วันก่อนคลอดจนถึง 2 คราวหลังคลอด) ทารกแรกเกิดอาจรับเชื้ออีสุกอีใสและมีลักษณะอาการรุนแรงถึงกับตายได้
เมื่อคนเจ็บหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อไวรัสจะไปหลบอยู่ที่ปมประสาท และท่าให้เกิดโรค งูสวัดได้เมื่อภูมิต้านทานของร่างกายลดลง
แนวทางการรักษาโรคอีสุกอีใส แพทย์จะวินิจฉัยโรคอีสุกอีใส (http://www.disthai.com/16817245/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AA-)จากการดูรูปแบบของผื่น ตุ่มน้ำ หรือตุ่มพองบนผิวหนังเป็นหลัก ร่วมกับการตรวจร่างกายทั่วๆไปและก็อาการที่เกิดสังกัดคนป่วย ได้แก่ เป็นไข้ขึ้น ไม่อยากกินอาหาร ปวดศีรษะ แต่ว่าในบางกรณีที่บอกมิได้แน่ชัดว่าเป็นโรคอีสุกอีใสหรือเปล่ารวมทั้งในคนไข้ที่เกิดผลกระทบเข้าแทรก หรือในกรณีจำเป็นจำเป็นต้องวินิจฉัยให้แจ้งชัด หมอจะทำการทดลองน้ำเหลืองเพื่อหาระดับสารภูมิต้านทานต่อไวรัสอีสุกอีใส หรือตรวจค้นเชื้อจากตุ่มน้ำ เพราะเหตุว่าโรคอีสุกอีใส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสการดูแลรักษาก็เลยเป็นการรักษาแบบจุนเจือตามอาการ
                ซึ่งโรคนี้สามารถหายเองได้การรักษาด้วยการใช้ยาต้านเชื้อไวรัสบางทีอาจท่าให้ระยะการเป็นโรคสั้นลง แม้คนไข้ได้รับ ด้านใน 24 ชั่วโมงหลังผื่นขึ้น ผู้ป่วยไม่จ่าเป็นจะต้องได้รับยาต้านทานไวรัสทุกราย แพทย์จะตรึกตรองให้ในรายที่มีความเสี่ยง จะเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงเพียงแค่นั้น อาทิเช่น



ปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่โรคอีสุกอีใส เนื่องมาจากโรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่มีการติดต่อจากเชื้อไวรัสโดยการสัมผัสตุ่มหรือแผลของผู้เจ็บป่วย รวมถึงติดต่อผ่านทางสารคัดเลือกหลั่งของผู้ป่วย ทั้งยังการสัมผัสหรือการหายใจเอาเชื้อโรคเข้าไป ด้วยเหตุนั้นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสเป็นการคลุกคลีกับคนไข้ การสัมผัสผู้เจ็บป่วยหรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วยโดยไม่ได้มีการป้องกันตนเองที่ดี รวมทั้งการมิได้รับวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคอีสุกอีใสกระทั่งครบ ก็เป็นอีกต้นสายปลายเหตุหนึ่งที่มีความเสี่ยงที่จะส่งผลให้เกิดโรคอีสุกอีใสได้ด้วยเหมือนกัน
การติดต่อของโรคอีสุกอีใส โรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดต่อได้อย่างรวดเร็วมาก โรคอีสุกอีใสมีระยะฟักตัวประมาณ 10 - 224 ชั่วโมง และก็ผู้เจ็บป่วยจะเริ่มแพร่เชื้อได้ในตอนโดยประมาณ 5 วันก่อนขึ้นผื่น ไปจนกระทั่งเมื่อตุ่มน้ำแห้งแตกเป็นสะเก็ดหมดแล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าวระยะแพร่ระบาดในโรคอีสุกอีใสก็เลยนานได้ถึง 7 - 10 วันหรือเป็นเวลายาวนานกว่านี้ในผู้ใหญ่ จึงเป็นสาเหตุให้เป็นโรคติดต่อที่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว
                ซึ่งเชื้อไวรัสประเภทนี้จะมีอยู่ในตุ่มน้ำของคนที่เป็นอีสุกอีใส ในน้ำลายรวมทั้งเสมหะของคนที่เป็นอีสุกอีใสสำหรับเพื่อการติดต่อสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสถูกข้าวของเครื่องใช้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้วยน้ำ ผ้า เช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าที่มีไว้สำหรับห่ม ที่พักผ่อน ที่เลอะ ถูกตุ่มน้ำของผู้ที่เป็นอีสุกอีใส หรือสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำ หรือฝอยละอองจากฟุตบาทหายใจของผู้เจ็บป่วยเข้าไป
ด้วยเหตุนี้อีสุกอีใสก็เลยเป็นโรคที่ระบาดแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือตามชุมชนที่อยู่อาศัยทั่วไป สามารถเจอได้ตลอดทั้งปี แต่ว่าจะมีอุบัติการณ์เกิดสูงสุดในช่วงม.ค.ถึงม.ย.
(https://www.img.in.th/images/3624142aac06e37767cbd6809c86f9bb.jpg)
การกระทำตนเมื่อป่วยด้วยโรคอีสุกอีใส

การปกป้องคุ้มครองตัวเองจากโรคอีสุกอีใส

สมุนไพรที่ช่วยรักษา/ทุเลา ลักษณะโรคอีสุกอีใส

เอกสารอ้างอิง




Tags : โรคอีสุกอีใส
หัวข้อ: Re: โรคอีสุกอีใส (Chickenpox , Varicella) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มน้อยคอยรัก007 ที่ เมษายน 30, 2018, 07:03:39 AM
โรคอีสุกอีใส วิธีรักษา สมุนไพรรักษา